
27/05/2025
#มหาวิทยาลัยโตเกียวยินดีรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการการศึกษาทั่วโลก โดยประกาศกร้าวและบังคับให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีชื่อเสียงในสหรัฐฯ ให้หยุดรับนักศึกษาต่างชาติ (ทุกชาติ) ในปีการศึกษาถัดไปและบังคับให้นักศึกษารวมถึงนักวิจัยต่างชาติที่กำลังศึกษาและทำวิจัยอยู่ในปัจจุบันให้โอนย้ายไปศึกษาต่อที่อื่นทันที ไม่เช่นนั้นจะทำการยกเลิกวีซ่านักศึกษาและนักวิจัยต่างชาติทั้งหมด
สาเหตุเกิดจากที่ทรัมป์ไม่พอใจที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดได้ปฏิเสธที่จะส่งมอบรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่มีอยู่ประมาณ 6,800 คน รวมถึงบันทึกวินัยและข้อมูลการประท้วงของนักศึกษาให้กับรัฐบาลทรัมป์ อีกทั้งทรัมป์ยังกล่าวหาว่ามหาวิทยาลัยฯได้สนับสนุนจีน และให้อิสระทางการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา และอ้างว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยินยอมให้มีเรื่องการต่อต้านชาวยิวและล้มเหลวในการจัดการการประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ Noem กล่าวหามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่า "สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อนักศึกษาชาวยิว"
และเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมาทรัมป์ขู่ว่าหากไม่ทำตาม รัฐบาลทรัมป์จะตัดเงินทุน 3 พันล้านดอลลาร์ที่เคยสนับสนุนมหาวิทยาลัย และกระจายเงินทุนดังกล่าวให้กับโรงเรียนอาชีวศึกษาทั่วประเทศแทน
คำสั่งห้ามดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลก รวมทั้งนักศึกษาชาวญี่ปุ่นด้วย ที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์การหยุดเรียนจากการเรียน นโยบายนี้ได้รับการวิจารณ์จากโลกว่าเป็นตัวอย่างของการมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในระบบการศึกษาของอเมริกา
อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไม่ได้ทำตามข้อบังคับของประธานาธิบดีทรัมป์ และกล่าวว่าทุกคนมีอิสระทางความคิดและเสรีภาพในการแสดงออก โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวหาฮาร์วาร์ดว่า "ละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางซ้ำแล้วซ้ำเล่า" แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับการละเมิด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดโต้แย้งว่าคำร้องขอของรัฐบาลละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพทางวิชาการ และขัดต่อขั้นตอนทางกฎหมาย
จากเหตุการณ์นี้ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในรัฐแคลิฟอร์เนียตัดสินว่าการกระทำของรัฐบาลเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและได้สั่งระงับการห้ามดังกล่าวชั่วคราวในระหว่างรอการพิจารณาคดีอีกครั้งในสัปดาห์นี้
#มหาวิทยาลัยโตเกียว (Tokyo Univeristy)
ตามรายงานของสื่อญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียวจึงได้กำหนดนโยบายใหม่ที่จะรับนักศึกษาต่างชาติที่ไม่สามารถเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ชั่วคราว นอกจากจะสามารถเรียนหลักสูตรบางหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยโตเกียวได้แล้ว หากนักศึกษาและนักวิจัยจะกลับมาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดหรือโอนไปยังมหาวิทยาลัยอื่นในอนาคต มหาวิทยาลัยโตเกียวจะออกเอกสารการรับรองเพื่อรับรองหน่วยกิตให้ได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยโตเกียวได้เปิดตัวโครงการในปี 2022 เพื่อรองรับนักวิจัยและนักศึกษาที่ไม่สามารถเรียนต่อได้เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการชั่วคราว โดยเสนอห้องปฏิบัติการวิจัยและที่พักฟรี มีนักศึกษาและนักวิจัยมากกว่า 30 รายที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2024 นอกเหนือจากการสนับสนุนทางการเงินแล้ว ยังมีการจัดชั้นเรียนภาษาญี่ปุ่นและบริการให้คำปรึกษาอีกด้วย
#การตอบสนองจากมหาวิทยาลัยอื่นๆในเอเชีย
นอกจากมหาวิทยาลัยโตเกียวแล้ว มหาวิทยาลัยในเอเชียอีกหลายแห่งยังเข้าร่วมต้อนรับนักศึกษาและนักวิจัยที่ต้องการโอนย้ายมหาวิทยาลัย อาทิ ประเทศฮ่องกง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า และประเทศจีน โดย มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงประกาศรับนักศึกษาฮาร์วาร์ดแบบไม่มีเงื่อนไข โดยจัดให้มีการให้โอนหน่วยกิตสมทบ ทุนการศึกษา และการสนับสนุนด้านที่พัก มหาวิทยาลัยซิตี้ฮ่องกง มหาวิทยาลัยจีนฮ่องกง ฯลฯ ยังได้เปิดช่องทางการสมัครพิเศษด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เคยสั่งระงับการห้ามนี้ แต่รัฐบาลทรัมป์กลับแย้มว่าอาจขยายข้อจำกัดไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆอีก ซึ่งจะเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับชุมชนนักศึกษาต่างชาติ ในสหรัฐอเมริกา
#การพิจารณาทางเศรษฐกิจและกลยุทธ์
นักศึกษาต่างชาติมีส่วนสนับสนุนรายได้ประมาณ 591 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดทุกปี คิดเป็น 27% ของนักศึกษาทั้งหมด โดยนักศึกษาจีนคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด
การสูญเสียทางวิชาการและความสามารถนักศึกษาต่างชาติจำนวน 6,800 คนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผชิญความเสี่ยงในการโอนย้ายหรือไล่ออก และห้องปฏิบัติการและโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาอาจต้องหยุดชะงักลง
#มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด #โดนัลด์ทรัมป์