11/12/2025
“สามีป่วยซึมเศร้าจนไม่สามารถไปทำงานได้
แม่เส้นเลือดในสมองตีบ หัวใจหยุดเต้น แม้กลับมาได้แต่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่รับรู้
พ่อก็เกิดอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซค์ล้มจนขาหัก ต้องเข้าผ่าตัดดามเหล็ก”
ไหนจะลูกวัยกำลังโตสามคน แมวๆ15ตัว หมาอีก3ตัว ความรับผิดชอบที่ต้องดูแลทั้งที่ไทยและญี่ปุ่นดูหนักอึ้งไปหมด
ช่วงที่สามีป่วยซึมเศร้าจนทำงานไม่ได้ หมายความว่ารายได้จากฝั่งเขากลายเป็นศูนย์ทันที แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่ไทยเพิ่มเข้ามาอีก ตอนนั้นทั้งเหนื่อยและกดดันมาก คิดวนอยู่ว่าจะทำยังไง ต้องหางานเพิ่มไหม ถึงขั้นคิดว่าจะไปทำงานกลางคืนด้วยซ้ำ หลายครั้งก็ร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องน้ำ จนบางทีรู้สึกว่าตัวเองอาจต้องไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน
งานที่ทำอยู่ตอนนั้นก็เป็นงานที่รายได้ไม่แน่นอน ร้าน japanbb ขายและประมูลของญี่ปุ่นส่งกลับไทย ฟาร์มแมว โรงแรมแมว และคอนโดให้เช่าที่ไทย 4 ห้อง มันไม่ใช่งานประจำ รายได้ขึ้นลงตลอด ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวว่าถ้าเราล้มไปอีกคน ทุกอย่างจะพังทันที เลยเริ่มมองหาบางอย่างที่มั่นคง และตัดสินใจลงทุนทำบ้านเช่าบ้านพักรายวันที่ญี่ปุ่น ให้มีรายได้ที่ยังเดินได้แม้วันที่เราไม่อยู่ เพื่อให้ครอบครัวมีหลักยึดมากขึ้น
จากที่เคยกังวลเรื่องสามีป่วย ก็เริ่มเปลี่ยนวิธีคิด พยายามทำความเข้าใจโรค และเข้าใจเขาให้มากขึ้น สามีทำงานหนักมาตลอดหลายปี ทำงานจันทร์ถึงเสาร์ ออกจากบ้านตีสี่กลับถึงบ้านตอนค่ำ ชีวิตมีแต่งานจนแทบไม่ได้พัก บางทีการได้หยุดพักอาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ตั้งใจว่าจะดูแลเขาให้ดี ให้เขาพักจนกว่าร่างกายและใจจะพร้อม แล้วค่อยกลับไปทำงานแบบไม่หนักเท่าเดิม
ช่วงแรกที่แม่ป่วยหนักจนไม่รับรู้อะไรเป็นช่วงที่ทรมานใจที่สุด แค่เห็นภาพหรือคลิปของแม่ก็ร้องไห้ ไปที่ที่เคยพาแม่ไปก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ มันเศร้ามากที่รู้ว่าแม่จะมาเยี่ยมเราที่ญี่ปุ่นไม่ได้อีกแล้ว และยิ่งปวดใจทุกครั้งที่คิดว่าคงไม่ได้ยินแม่เรียก “บี” อีกต่อไป
แต่ก็มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกจมกับความเศร้า
เมื่อซาร่าแมวตัวแรกของบ้านจากไป อยู่ดีๆก็หลับแล้วไม่ตื่นมาอีกเลย ตอนเห็นร่างเล็กๆที่ไร้วิญญาณนั้น ได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าร่างกายก็เป็นเพียง “กล่องหนึ่งใบ”
พอวิญญาณไม่อยู่ ก็เหลือแค่ภาชนะที่ว่างเปล่า คนเราเองก็ไม่ต่างกัน ร่างกายค่อยๆเสื่อมลง และวันหนึ่งก็จะกลายเป็นเพียงภาชนะที่ว่างเปล่าเหมือนกัน เป็นธรรมดาของโลกที่ทุกชีวิตต้องเจอ
ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนสนิทของลูกชายที่แวะมาเล่นที่บ้านบ่อยๆเกิดอุบัติเหตุและจากไปกะทันหัน เด็กวัย 12 ปีที่เราเห็นหน้ากันอยู่ประจำ หายไปจากโลกนี้ในพริบตา
มันเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทำใจ เราเคยหวังว่าจะได้เห็นอนาคตของเค้าเติบโตไปพร้อมกับลูกของเรา การจากลาครั้งนั้นยิ่งตอกย้ำว่า เวลาชีวิตจะหมดลงเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ใช้เวลาที่เรายังหายใจอยู่ให้ดีที่สุด ทำดีกับคนรอบตัวรวมถึงหมาแมว เพื่อไม่ให้มีอะไรค้างคาในวันที่ต้องลาจากกันจริง ๆ
ล่าสุดพ่อประสบอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซค์ล้มจนกระดูกหน้าแข้งหัก ต้องผ่าตัดใส่เหล็กดาม พ่อทุกข์ใจมากเพราะไม่ได้ไปเยี่ยมแม่เช้าเย็นเหมือนที่ทำมาตลอด ต้องนอนนิ่งบนเตียงอยู่แทบทั้งเดือน ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วย้ายไปอยู่ศูนย์ดูแล ต้องฝึกทำกายภาพบำบัดจนกว่าจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง
ฟังดูเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แต่ในอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกว่า "ดีแล้ว"ที่อุบัติเหตุไม่รุนแรงถึงชีวิต หัวไม่กระแทก อวัยวะสำคัญไม่เป็นอะไร ขาหักยังต่อติดแค่ต้องใช้เวลา แต่ถ้าโดนบริเวณอื่นอาจหนักกว่านี้มาก และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คงทำให้พ่อยอมเลิกขี่มอเตอร์ไซค์สักที พ่ออายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว บอกให้เลิกตั้งนานก็ยังขี่เรื่อยๆจนมาสะดุดครั้งนี้ ถึงจะเจ็บแต่ก็หวังว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พ่อระมัดระวังตัวเองมากขึ้น เพราะอยากให้พ่ออยู่กับเราไปนานๆ
ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์ ไม่ว่าจะมั่งมีหรือยากจน ใครก็หนีความเจ็บปวดไม่พ้น
แต่เมื่อเราเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน และลองมองจากมุมใหม่ๆ ความทุกข์ที่เคยหนักก็จะค่อยๆเบาบางลง
ทุกวันนี้มีความสุขกับชีวิตในแบบของตัวเอง อยู่กับลูกๆกับหมาแมว ใช้ชีวิตไปตามครรลอง มีปัญหาเข้ามาก็แก้ไปทีละเรื่อง แล้วมันก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง จนได้เข้าใจว่า ชีวิตที่มีความสุข ไม่ได้หมายความว่าต้องไร้ความทุกข์ แต่ขึ้นอยู่กับว่าใจเราจะปล่อยวางความทุกข์เหล่านั้นได้หรือไม่ต่างหาก