13/08/2025
📌วิตามินรับประทานอย่างไรให้ปลอดภัย
(วิตามิน)ส่วนต่างๆ มากมายแต่ละประเภทมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่การรับประทานวิตามินนั้นมีประโยชน์จริงหรือนำไปสู่ผลลัพธ์ในบทความนี้
แล้วอะไรล่ะ?
องค์ประกอบ (วิตามิน)คือสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับจากที่ร่างกายสามารถติดตามได้ตามปกติและที่ร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้เอง เช่น ส่วนดี ๆ องค์ประกอบเค เป็นต้น โปรดพิจารณา 5 หมู่ครบชุดรับประทานอาหารในร่างกายโดยไม่ต้องมีภาวะขาดวิตามินและไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริมแต่สำหรับการวินิจฉัยที่มีภาวะผู้นำบางอย่างอาจทำให้ขาดวิตามินได้แกนหลักของการรับประทานวิตามินเสริมสมุนไพรควรรับประทานเพียงแค่พอดีไม่มากจนเกินไป
ส่วนสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ได้แก่
องค์ประกอบที่ละลายในความรู้สึกขององค์ประกอบ B และ C สามารถคงอยู่ได้ในที่สุดส่วนที่เหลือจากการใช้งานโซลูชันขับออกทางไตมากับปัสสาวะ
องค์ประกอบที่ละลายในไขมันรวมถึงส่วนประกอบ A, D, E และ K อาศัยไขมันในรูปทรงที่จำเป็นในลำไส้สามารถนำไปใช้กับร่างกายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากได้รับการเก็บข้อมูลจะประกอบร่างกายเป็นหลักได้
รู้จักกับวิตามินแต่ละประเภท
1. วิตามิน เอ
ให้คุณฟังถึงการคงสภาพของชิ้นส่วนผิวที่พบกับตับในส่วนของน้ำมันตับปลาผลิตภัณฑ์จากนมและผักผลไม้สีเหลืองสีเหลืองชื่อแครอท เครื่องประดับ ฟักทองสำหรับผู้ใหญ่ต้องการปริมาณวิตามิน A วันละ 700-900 ไมโครกรัม โดยในอาหาร 100 กรัม ตับสัตว์พบปริมาณวิตามิน A มากที่สุดคือ 6,500 ไมโครกรัม แครอทมีวิตามิน A 835 ไมโครกรัมส่วนรอกโคลีมีวิตามิน A 800 ไมโครกรัมสูงสุดมีวิตามิน A 709 ไมโครกรัม ฟักทองมีวิตามิน A 400 กรัมไมโคร
อย่างไรก็ตาม อาการของวิตามินได้รับ A เนื่องจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในบางครั้งจะเก็บสะสมปริมาณส่วนเกินนั้นคือโปรตีนและจุดเริ่มต้นที่สามารถเพิ่มได้ในปริมาณที่วิตามิน A ต้องได้รับอนุญาตคือ 3,000 ไมโครกรัมต่อวัน
2. วิตามิน บี
แบ่งได้อย่างชัดเจนเช่น B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9, และ B12 โดยจะเรียกรวมกันว่าวิตามิน B Complex อาหารจานนำสารอาหารประเภทไขมัน โปรตีนและโปรตีนที่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของพลังงานได้ทันทีพบในโปรตีนถั่ว ปลาธัญพืช ข้าวกล้องข้าวซ้อมมือต่อไป
วิตามิน B1 (ไทอามีน) ช่วยในเรื่องของร่างกายและกล้ามเนื้อหากขาดจะทำให้เกิดโรคเหน็บชา
วิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) ช่วยบำรุงผิวหนังผม เล็บเจลช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง หากขาดจะทำให้เกิดโรคปาก...
เมนู B3 (ไนอะซิน) ในส่วนของเลือด กำจัดสารก่อการแพ้ระบบย่อยอาหารซอฟท์แวร์และผิวหนังโดยตรง
วิตามิน B5 (กรดแพนโทธินิค) ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นต้านความเครียด
วิตามิน B6 (ไพรริดอกซิน) ระบบภูมิคุ้มกันสร้างความเสียหายและช่วยในการต่อต้านการเจ็บป่วย
วิตามิน B7 (ไบโอติน) ช่วยรักษาสุขภาพของผิวหนังเส้นผมและไขกระดูก
ส่วน B9 (โฟเลท) ความต้องการของเซลล์ในขณะที่พัฒนาและสมองต้นแบบในการสร้างสารที่ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ความจำเป็นที่ต้องมีการร้องขอ
ส่วนวิตามินบี 12 (ไซยาโนโคบาลามิน) ช่วยให้โปรตีนเซนเซอร์สร้างเม็ดเลือดแดงช่วยในการมองเห็นและสมอง
3. วิตามิน ซี
ช่วยตรวจสอบคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบของผิวเพิ่มเติมแคลเซียมและธาตุเหล็กที่มีคุณสมบัติคงความสมบูรณ์ของรสชาติหรือส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ C พบกับผลไม้รสเปรี้ยวทุกชนิดส่วนประกอบพบได้ในผักใบเขียวความรุนแรงมะเขือเทศ ถ้าขาดวิตามิน C อาจจะทำให้เกิดความเสียหายไดไรฟันตามฝอยโหราจาบวม แผลหายช้า น้ำท่วมใต้ผิวหนังหวัดง่าย
ปริมาณวิตามิน C จะต้องได้รับในแต่ละวันของผู้ใหญ่เป็นหลักเท่ากับ 90 ส่วนและข้อมูลทั่วไปเท่ากับ 75 ส่วนบางส่วนวิตามิน C จุดต่างๆ ของ… ในวิตามิน C 30–180 มก. วันที่จะกินวิตามิน C ต่อได้ 70%–90% แต่หากการบริโภคในระยะเวลา 1,000 มก. ขึ้นไปในปริมาณที่ต่อเนื่องได้เหลืออีก 50% วิตามิน C แรกนั้นระบบขับร่างกายออกระบบการปกครองเป็นนิ่วขึ้นได้
4. วิตามิน ดี
สาระสำคัญของการเสริมสร้างกระดูกส่วนประกอบของแคลเซียมที่ลำไส้เล็กสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายไม่ให้ตัวใดตัวหนึ่งมีปริมาณมากจนมากเกินไปจนร่างกายได้รับวิตามิน D จาก 2 แหล่งที่มาจากการสร้างวิตามิน D ที่ผิวเผินๆ รังสี UVB โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิจารณ์ 80-90 และอีกถามต่อ 10-20 เริ่มจากอาหารซึ่งต่อเนื่องในเห็ดผักสูงปลาไข่แดง ปลาที่มีไขมัน (แซลมอนทูน่าแคคอเรล) เป็นต้น
หมายเหตุ วิตามิน D ส่วนกระดูกหักง่ายฟันผุ กล้ามเนื้ออ่อนแรงปริมาณวิตามิน D ที่แนะนำให้รับประทานทุกวันจะขึ้นกับช่วงอายุโดยผู้ที่อายุ 19 ถึง 70 ปีเท่ากับ 600 IU* (15 ไมโครกรัม) ต่อวันมากกว่า 70 ปีควรได้รับ 800 IU (20 ไมโครกรัม) ทุกวันในปริมาณสูงสุดจะได้รับรายวันทั่วไปคือ 4,000 IU (100 ไมโครกรัม) การรับประทานวิตามิน D ยาที่จะวินิจฉัยหรือเภสัชกรเพื่อตรวจร่างกายก่อนว่าควรรับประทานหรือไม่เพื่อความปลอดภัย
*หมายเหตุ: IU ย่อมาจากคำว่า International Unit ภาษาไทยเรียกว่า “หน่วยสากล”
5. วิตามิน อี
ที่สำคัญต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งอนุมูลอิสระเกิดจากความเครียดของร่างกายที่เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นรวมถึงไปถึงระดับของภาวะจากภาวะบางอย่าง เช่น เหตุที่หักล้างความเป็นมาของสาเหตุอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้ ส่วนอนุมูลอิสระเกิดขึ้นที่ผิวหนังก็ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น: เกิดขึ้นที่ประสิทธิภาพของเส้นผมตามมา ออสารต้านอนุมูลอิสระเข้ามาช่วยเปรียบเสมือนฟองน้ำไว้โปรตีนที่อนุมูลอิสระไว้ชะลอความเสื่อมของร่างกาย E พบน้ำมันพืช ธัญพืชอะโวคาโด ซอฟต์คราฟต์ถั่วลันเตาแดงและผักใบเขียว
แต่วิตามิน E มีข้อควรระวังในการดูแลรักษาแพทย์ในกรณีส่วนใหญ่วิตามิน E ในส่วนของเลือดในส่วนของการรับประทานวิตามิน E ความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่งที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ฟาริน แอสไพริน ส่วนยาที่ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายเมื่อรับประทานวิตามิน E ต่อเนื่องอีกส่วนหนึ่งเพิ่มความเข้มข้นของการให้ความชุ่มชื้นตามปกติควรอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์หรือเภสัชกร
6. วิตามิน K
ส่วนช่วยแข็งตัวของเลือดช่วยบำรุงกระดูกและฟันเพื่อให้สังเคราะห์โปรตีนจากแหล่งกระดูกแหล่งอาหารที่มีวิตามิน K ส่วนผักใบเขียว เช่น ปวยเล้งบรอกโคลีผักโขม … เพิ่มเติมในน้ำมันพืชเช่นน้ำมันถั่วเหลืองคาโนลาปริมาณวิตามิน K แนะนำให้ได้รับทุกวันในผู้เริ่ม 19 อีกครั้งในร่างกายของคุณ เท่ากับ 120 ไมโครกรัม และเท่ากับ 90 ไมโครกรัมเท่านั้นร่างกายจะไม่ขาดวิตามิน K เพราะว่าแบคทีเรียในลำไส้สร้างได้
เนื่องจากการตั้งค่าปริมาณสูงสุดต่ำจะต้องได้รับในแต่ละวันเนื่องจากวิตามิน K อาจเป็นสาเหตุและรายงานผลข้างเคียงที่บางครั้งได้รับวิตามิน K จากอาหารอย่างไรก็ตามผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยาวิตามิน K การวินิจฉัยก่อนอาจได้รับผลกระทบซึ่งอาจเป็นผลจากการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่
การรับประทานวิตามินเสริม
ส่วนที่สามารถรับประทานได้ตั้งแต่เด็กทารกในวัยแรกเกิด 1 เดือนขึ้นไปเพื่อเพิ่มผู้สูงอายุและวิตามินทุกชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ควรรับประทานอาหารตามปกติตาม เช่น ภาวะขาดวิตามินหรือได้รับวิตามินอาหารจากในปริมาณมาก
ดังนั้นวัยรุ่นเป็นส่วนสำคัญในการรับประทานวิตามินเสริม ซึ่งวิตามินผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะใส่ปริมาณให้ช่วงอายุ เช่น เด็กเล็กอาจได้รับวิตามินที่มีปริมาณเด็กโตหรือผู้ใหญ่เพราะร่างกายต้องการปริมาณวิตามินบางชนิดแต่ในบางครั้งที่มีความเข้มข้นของความเข้มข้นของวิตามินได้ทราบคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน
เรื่องวิตามิน
ประเภทไหนช่วยบำรุงเส้นผม?
วิตามิน B7 หรือไบโอตินช่วยบำรุงเรื่องผมเปราะและง่ายต่อเส้นใยสร้างส่วนประกอบให้กับรากผมได้ แต่ก่อนจะใช้ทุกครั้งควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนเสมอ
วัยควรรับประทานวิตามินประเภทไหน?
ถ้าทำงานแล้วเริ่มต้นข่าวได้น้อยลงอาจเกิดภาวะขาดวิตามินได้เนื่องจากวิตามินส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปรับประทานกันจะเป็นวิตามิน B Complex ซึ่งจะช่วยนำสารอาหารต่าง ๆ มาแปลงเป็นพลังงานให้ร่างกายได้ หากคุณรู้สึกได้ถึงส่วนนึงของการรับประทานน้ำผสมน้ำตาลเกลือแร่และวิตามิน B รวมเป็นอีกตัวเลือกที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย แต่แนะนำให้นอนหลับร่วมด้วยจะช่วยฟื้นฟูในการเริ่มต้นวิตามินอาจช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่วิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น CE อาจพิจารณาหรือทราบอะไรที่สามารถนำไปสู่ความเสื่อมของร่างกายได้
ผู้สูงอายุควรรับประทานวิตามินประเภทไหน?
กรรมการที่ดูแลสุขภาพในการดูแลสุขภาพหรือเภสัชกรรับประทานเป็นประจำในผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัวร่วมด้วยการพิจารณาความเหมาะสมในการรับประทานวิตามินออร์แกนิกก่อนซึ่งจะเป็นวิตามิน D ช่วยบำรุงของศูนย์กลางสมดุลแคลเซียมและฟอสเฟตและวินิจฉัยของกระดูก หรือหากขาดวิตามินชนิดใดสามารถตรวจดูได้จากการตรวจเลือดโดยแพทย์จะประเมินจากผลตรวจค่าในเลือดว่าควรรับประทานวิตามินเสริมหรือไม่
เทคนิคเลือกวิตามินให้ปลอดภัย
1. ฉลากต้องระบุชื่อยี่ห้อส่วนประกอบและปริมาณที่ยาวนาน
2. ได้รับการรับรองการจดทะเบียนจากอย.
3. มีที่อยู่ของผู้ผลิตที่กำหนดเองจำหน่ายที่ชัดเจน
4. มีวันผลิตเรื่องที่ลึกลับในเรื่องนั้น
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์