ศิริหนองคายขนส่ง

ศิริหนองคายขนส่ง รับส่งสินค้า กรุงเทพฯ-หนองคาย

22/01/2025

ตรุษจีนหยุด 2 วัน
28-29 มกราคม

06/01/2025

วันที่ 18 มกราคม หยุด 1 วัน

16/09/2024

ประกาศจาก บริษัท ศิริหนองคายขนส่ง จำกัด

เรียน คุณลูกค้าทุกท่าน

เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดหนองคาย ระดับแม่น้ำโขงยังคงล้นทะลักตลิ่ง มีน้ำท่วมขังภายในตัวเมือง จึงอาจทำให้การขนส่งล่าช้าบ้างในบางจุด ถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ทางเราจะรีบกระจายสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างเร็วที่สุด หากมีสินค้าที่ต้องการจัดส่งสามารถติดต่อสอบถามพื้นที่ที่สามารถจัดส่งได้ทุกช่องทางค่ะ
บริษัท ศิริหนองคายขนส่ง จำกัด ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ รวมทั้งส่งแรงกำลังใจให้พี่น้องชาวหนองคาย รวมทั้งพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติให้ผ่านพ้นได้อย่างปลอดภัย

ขอบคุณค่ะ
บริษัท ศิริหนองคายขนส่ง จำกัด

02/08/2024

วันที่ 12 สิงหาคม 2567
หยุด 1 วัน

25/07/2024
03/04/2024

หยุดสงกรานต์วันที่ 12-16 เมษายน
เปิดวันที่ 17 เมษายน

14/12/2023

หยุดปีใหม่
วันที่ 29 ธ.ค.- 2 ม.ค. 2567
เปิดวันที่ 3 ม.ค. 2567

29/03/2023

สงกรานต์ หยุดวันที่
12-16 เมษายน
เปิด 17 เมษายน

06/10/2022

13 ตุลาคม 2565
หยุด 1 วัน

15/11/2019

ในขณะที่หลายๆ แบรนด์ พยายามทำขวด PET สีๆ เพื่อความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ บางยี่ห้อใส่สีมันตั้งแต่ น้ำ ขวด ฉลาก ซึ่งส่งผลให้การรีไซเคิลยากขึ้นมาก
โดยปกติ ขวด PET จะถูกนำไปรีไซเคิลสองทางคือ ทำเป็นเส้นใยโพลิเอสเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือ นำไปรีไซเคิลเป็นขวดใหม่อีกครั้ง(ใช้ที่ต่างประเทศ) ซึ่งการนำไปใช้ทั้งสองแบบ มันควรจะไม่มีสีผสมอยู่เลย
เส้นใยโพลิเอสเตอร์ถ้ามีสีอยู่ก่อนก็ย้อมสีใหม่ได้ยาก
ขวดรีไซเคิลถ้ามีสีอยู่ก่อน สีก็จะหม่นๆ ไม่น่าใช้
ดังนั้นพลาสติกที่ไม่ใส่สีอะไรเลยจะนำไปใช้ต่อง่ายที่สุด (และราคาดีที่สุดด้วย)
พอมีขวด PET สีขึ้นมาในตลาด จึงต้องหาทางใปใหม่ให้พวกมัน ซึ่งตอนนี้ทางไปที่ว่าคือ สายรัดของ ซึ่งปกติจะใช้พลาสติก PP
แต่อย่างว่า สายรัดของไม่ได้ใช้กันเยอะขนาดนั้น ไม่พอที่จะรองรับปริมาณขวดที่บริโภคกันหลักหมื่นหลักแสนขวดต่อวัน ทำให้ราคา PET สี ต่ำมากๆ ต่ำจนแทบไม่มีใครรับซื้อให้เสียพื้นที่ร้าน
ต้องขอชื่นชม บ.โคคาโคล่า ที่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนสีที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1961 ในครั้งนี้ เพื่อให้การรีไซเคิลง่ายขึ้นมาก
ยุคนี้การดีไซน์ด้วยหลักการตลาดอย่างเดียวอาจจะไม่พอแล้ว ต้องคำนึงถึงหลักการหมุนเวียนทรัพยากรด้วย
แต่เอาจริงๆ นะ ลุงว่าน่ากินขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะว่าไหม

ปีใหม่นี้  ขอให้ทุกๆท่านมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ในทุกๆสิ่งนะครับ
01/01/2019

ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกๆท่านมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ในทุกๆสิ่งนะครับ

24/10/2018

“ทำไมสุนัขถึงมีชีวิตสั้นกว่ามนุษย์

นี่เป็นคำตอบที่น่าเซอร์ไพรซ์จากเด็ก 6 ขวบ

การเป็นสัตวแพทย์ทำให้ผมได้มีโอกาสตรวจสุนัขพันธุ์ Irish wolfhound ชื่อ Belker ซึ่งมีเจ้าของคือรอน,ลิซ่าและเด็กน้อย เชน เชนนั้นผูกพันBelkerมากๆและพวกเขากำลังคาดหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์

ผมตรวจพบว่าBelkerกำลังจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ผมบอกกับทางครอบครัวนั้นว่าเราไม่มีทางรักษาเขาได้แล้ว และผมได้เสนอการทำการุณยฆาตให้Belkerที่บ้าน

หลังจากที่เราได้คุยกัน รอนและลิซ่าได้บอกกับผมว่ามันน่าจะดีกับเด็กหกชวบอย่างเชนที่ได้สังเกตการจากไปของBelker พวกเขาคิดว่าเชนควรจะได้เรียนรู้บางอย่างจากการจากไปครั้งนี้

วันต่อมาผมรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก เมื่อเห็นBelkerถูกรายล้อมด้วยครอบครับของเขา เชนดูสงบ เขาลูบBelkerเป็นครั้งสุดท้าย ผมสงสัยว่าเขารู้รึเปล่าว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น และไม่กี่นาทีหลังจากนั้น Belkerก็จากไปอย่างสงบ

เด็กน้อยดูเหมือนจะยอมรับการจากไปของBelkerอย่างง่ายดายและปราศจากความสับสน พวกเรานั่งด้วยกันหลังจากที่Belkerจากไป และข้องใจกับความจริงที่หน้าเศร้าที่ว่าทำไมสุนัขถึงชีวิตสั้นกว่ามนุษย์ เชนที่ก่อนหน้านี้นั่งเงียบจึงตอบขึ้นมาว่า ‘ผมรู้ว่าทำไม’

พวกเราทุกคนหันไปมองที่เชน สิ่งที่เขาพูดออกมาต่อจากนั้นทำให้ผมต้องอึ้ง ผมไม่เคยเจอคำอธิบายที่ปลอบโยนได้ขนาดนี้มาก่อน และนั้นทำให้ผมต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตเสียใหม่

‘มนุษย์เกิดมาเพื่อเรียนรู้การมีชีวิตที่ดีอย่างเช่นการรักผู้อื่นหรือการทำความดีใช่มั้ยครับ ถ้าอย่างนั้น สุนัขก็รู้หมดแล้ว พวกมันเลยไม่ต้องมีชีวิตอยู่นานแบบมนุษย์อย่างเรา’

ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ
รักอย่างเผื่อแผ่
ใส่ใจอย่างลึกซึ้ง
พูดจาอย่างอ่อนโยน

จงจำไว้ หากสุนัขเป็นครูสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเขาคือ

- ถ้าคนที่คุณรักกลับมาถึงบ้าน จงวิ่งไปต้อนรับเขา
- อย่าปล่อยโอกาสที่จะได้ออกไปนั่งรถเล่นทิ้งไป
- สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และลมที่มาปะทะกับใบหน้า
- งีบบ้าง
- ยืดตัวก่อนที่จะลุกขึ้น
- ออกไปวิ่งเล่นทุกวัน
- มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ต่างๆและปล่อยให้ผู้คนได้รู้จักสัมผัสตัวตนของคุณ
- หลักเลี่ยงการกัด เห่าเบาๆก็พอ
- ในวันที่อากาศอบอุ่น อย่ามัวแต่นอนบนพื้นหญ้า
- ในวันที่อากาศร้อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วไปนอนเล่นใต้ร่มไม้
- เวลามีความสุข ลองเต้นรำและขยับร่างกายไปทั้งตัว
- มีความสุขง่ายๆจากการเดินไปเรื่อยๆ
- ซื่อสัตย์
- อย่าพยายามเป็นในสิ่งที่คุณไม่ใช่
- ถ้าอยากได้กระดูกที่ฝังไว้ จงขุดจนกว่าจะเจอมัน
- ถ้ามีใครซักคนกำลังอยู่ในวันร้ายๆ จงเงียบ นั่งข้างๆ เอาจมูกไปซุกเขาอย่างอ่อนโยน
นั่นเป็นความลับของความสุขที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเจ้าหมา”

Credit: Jose Ditties Magee Dell
แปล:

11/10/2018

วินเซนต์ แวน โก๊ะห์ ตลอดชีวิตขายภาพเขียนได้เพียงภาพเดียว หากใครคนนั้นมิได้ซื้อภาพเพราะความสงสารจิตรกรยากไร้ ก็คงเป็นลูกค้าที่ตาถึงเพียงคนเดียวในยุคนั้น ปัจจุบันงานของ แวน โก๊ะห์ ได้รับการยอมรับว่า “สุดยอด!”

ภาพจิตรกรรมของโมเนต์ถูกคนในวงการศิลปะและคนทั่วไปในยุคของเขาปฏิเสธและดูถูก เขายังคงทำงานสไตล์อิมเพรสชันนิสต์ กลายเป็นสายทางที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จ แต่ยังเปลี่ยนแปลงสายธารศิลปะโลกด้วย

วอลต์ ดีสนีย์ ผู้สร้างสรรค์งานการ์ตูนที่ชาวโลกยกย่อง ถูกไล่ออกจากงานหนังสืิอพิมพ์ ด้วยเหตุผลว่า “หมอนี่ขาดจินตนาการและไม่มีความคิดดี ๆ เลย”

สตีเวน สปีลเบิร์ก ถูกปฏิเสธเข้าเรียนวิชาภาพยนตร์ที่ The University of Southern California School of Theater, Film and Television สองครั้ง หลายสิบปีให้หลัง สร้างหนังไปสิบกว่าเรื่อง เขาได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ดาราดังในต้นศตวรรษที่ 20 เฟรด เอสแตร์ ถูกผู้กำกับตำหนิตอนเทสต์หน้ากล้องว่า “หมอนี่แสดงไม่เป็น ร้องเพลงไม่เอาอ่าว หัวก็เหม่ง...”

เขากลายเป็นดาราหนังดังที่ร้องเพลงได้และเต้นรำได้เก่งระดับแถวหน้าของโลก

ดาราผิวดำ ซิดนีย์ พอย์ติเอร์ ถูกผู้กำกับบอกหลังทดสอบหน้ากล้องครั้งแรกว่า “ทำไมคุณไม่หยุดเสียเวลาคนอื่น และออกไปเป็นคนล้างจานหรืออะไรซักอย่าง”

ซิดนีย์ไม่ได้ล้างจานไปตลอดชีวิต เขาเลือกเป็นนักแสดง ทำงานได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงยอดเยี่ยม สถาบันภาพยนตร์อเมริกันยกย่องเขาเป็นหนึ่งใน 25 นักแสดงยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ทั้งยังได้รับรางวัลสดุดีต่าง ๆ มากมาย

ครูสอนละครของ ลูซิล บอล บอกเธอว่า “ลองหางานอื่นที่ไม่ใช่นักแสดงเถอะนะจ๊ะ”

เธอกลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20

โมเดลลิง เอเจนซี แห่งหนึ่งบอกหญิงสาวคนหนึ่งที่อยากเป็นนักแสดงภาพยนตร์ว่า เธอไม่ควรคิดเอาดีในวงการมายา ควรคิดเป็นเลขานุการจะเหมาะกว่า แม้เธอจากโลกไปนานแล้ว แต่น้อยคนนักจะไม่รู้จักนักแสดงชื่อ มาริลิน มอนโร

ผู้บริหารบริษัทภาพยนตร์แห่งหนึ่งสบประมาทนักแสดงคนหนึ่งว่า เขาไม่มีคุณสมบัติเป็นดาราหนัง ต่อมาใครคนนั้นกลายเป็นดาราภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า แฮริสัน ฟอร์ด

เจ้าแม่วงการโทรทัศน์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุด โอปราห์ วินฟรีย์ เคยถูกไล่ออกจากงานนักข่าวโทรทัศน์เพราะ “เธอไม่เหมาะกับทีวี”

อย่าท้อเพราะถูกปฏิเสธ

แต่จงปฏิเสธที่จะท้อ
………………..

จากหนังสือ ท้องฟ้าไม่ปิดทุกวัน

โดย วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

17/03/2018

ลองทบทวนคำพูดของคู่สนทนาบ้าง

เขาเป็นเจ้าของโรงงานที่มีคนงานสามสี่ร้อยคน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญเติบโตของธุรกิจ หรือด้านการบริหารจัดการ ล้วนมีระบบระเบียบที่ดีจนได้รับการยอมรับของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ถึงกระนั้นก็ตาม มีอยู่เพียงเรื่องเดียวที่เขาเอาไม่อยู่จริงๆ นั่นก็คือลูกชายของเขา ทุกครั้งที่พ่อลูกคู่นี้ได้เจอหน้าคุยกัน พูดกันได้ไม่กี่ประโยค ก็มีอันวงแตกทุกครั้งไป

วันนี้ก็เช่นกัน ลูกชายกลับบ้านดึกไปหน่อย วิวาทะก็เกิดทันทีระหว่างพ่อลูก เถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด ไม่มีใครยอมใคร และทันใดนั้นลูกชายก็หยุดเถียงเอาดื้อๆ แล้วถามพ่อว่า "พ่อ ทะเลาะกันแบบนี้ไม่มีวันจบแน่ พ่อช่วยบอกผมหน่อย เมื่อกี้นี้ ประโยคท้ายๆของผมพูดว่าอะไรบ้าง"

".........." พ่อตกใจ ไปไม่ถูก นี่มันจะมาไม้ไหน อยู่ดีๆก็เหยียบเบรคกระทันหัน วันนี้มาแปลก

"แกพูดว่า......พ่อเป็นคนเก่งเกินไป ยังไงก็ไม่เห็นลูกอยู่ในสายตา"

"ไม่ใช่ครับ พ่อลองทบทวนใหม่ ผมไม่ได้พูดอย่างงั้น"

"ไอ้เวร แกพูดอะไรไป แกก็ลองพูดใหม่อีกรอบสิวะ ทำไมต้องให้พ่อทวนคำพูด"

ลูกชายหัวเราะ "เห็นเปล่า ตั้งแต่ต้นจนจบ ผมพูดอะไรไปบ้าง พ่อแทบไม่ได้ฟังผมเลย พ่อเอาแต่คิดเองเออเอง คิดแต่จะตำหนิผมท่าเดียว ผมไม่ได้พูดอย่างที่พ่อพูดสักหน่อย เราพ่อลูกจะหาทางปรับความเข้าใจกันไม่ใช่เหรอ ถ้างั้น เวลาผมพูดอะไรไป พ่อลองทวนสิ่งที่ผมพูดไปแล้ว แล้วถ้าพ่อพูดอะไร ผมก็จะใส่ใจทวนสิ่งที่พ่อพูดเช่นกัน"

"พ่อแกมีเวลาเยอะแยะขนาดนั้นเลยเหรอวะ แกนี่ท่าทางต้องการทำให้พ่ออารมณ์เสียท่าเดียว"

"พ่อครับ เรามาลองดูสักตั้ง ไม่งั้นเราจะทะเลาะกันไม่มีวันจบสิ้นสักที พ่อลองหวนคิดดูว่าเมื่อครู่ผมพูดอะไรทิ้งท้ายไว้"

คนเป็นพ่อนึกทบทวนอยู่สักครู่ใหญ่ๆ ก่อนจะสารภาพว่า "พ่อนึกไม่ออกจริงๆ แกลองพูดซ้ำอีกครั้งสิวะ"

"ได้เลยครับ ผมพูดทิ้งท้ายไว้ว่า พ่อเป็นคนเก่งในสายตาลูกเสมอ ลูกเคารพนับถือพ่อ มันเป็นสาเหตุที่ลูกไม่อยากทำงานในโรงงานของพ่อ เพราะเกรงว่าลูกจะไม่มีทางเก่งและทำได้ดีเหมือนพ่อ มันเป็นความกดดันที่อัดอยู่ในใจลูกมาตลอด"

คนเป็นพ่อนั่งพินิจคำพูดของลูกอย่างสงบ ที่ลูกพูดก็มีเหตุมีผลของลูก แต่ทำไมเวลาฟังเสร็จ ความหมายมันจึงเปลี่ยนไปหมด

คืนนั้น พ่อลูกนั่งหันหน้าคุยกันร่วมๆสองชั่วโมง โดยไม่ต้องมีการทะเลาะกัน

ตื่นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แม้เวลานอนจะน้อยไปหน่อย แต่เขากลับรู้สึกสดชื่นแจ่มใส ไปถึงที่ทำงานแต่เช้า

ในห้องประชุม หัวข้อการประชุมวันนี้คือการหาบทสรุปในการซื้อเครื่องจักรมาเพิ่มเติมชุดใหม่ เขาให้ผู้จัดการฝ่ายช่างเสนอความคิดเห็นก่อน ซึ่งทุกคนก็รู้ว่านี่เป็นแค่มารยาทในการประชุม เพราะสุดท้าย ความคิดเห็นของเจ้านายจะอยู่เหนือคำแนะนำหรือเหตุผลทุกอย่าง นายช่างใหญ่จึงเสนอข้อคิดเห็นทั่วๆไปพอเป็นพิธี เพราะคิดว่าคำพูดตนคงไม่มีความหมายใดๆ ทั้งหมดกินเวลาไม่ถึงห้านาที

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พอเขาพูดจบ เจ้าของบริษัทก็จะบรรเลงต่อม้วนเดียวจบ ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลดีสักแค่ไหนก็ตาม แต่เจ้านายก็จะถือเอาสิ่งที่เขาตัดสินใจมาแล้วเป็นบทสรุปเสมอ

แต่วันนี้ เหตุการณ์ไม่เหมือนเดิม

"นายช่างครับ ผมขอทวนข้อแนะนำหลักๆของคุณอีกสักรอบ ลองฟังดูว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า คุณบอกว่าเครื่องจักรที่เราจะสั่งจากนอกรอบนี้ ถ้าเราสั่งจากญี่ปุ่น ราคาก็จะถูกหน่อย คุณภาพดีใช้ได้ แต่พอมีปัญหาแล้วต้องการเรียกเขามาซ่อม ปัญหาก็จะเกิดเพราะเรื่องภาษาเป็นอุปสรรค จะต้องหาล่ามมาแปล แต่ล่ามก็ไม่สามารถแปลศัพท์เทคนิคต่างๆให้ละเอียดตามที่ต้องการ ปัญหาจึงแก้ไขยาก เราก็ไม่ใช่ไม่เคยเจอปัญหานี้ในโรงงานเรา เสียทั้งงาน เสียทั้งเวลา ลองคำนวณให้ดี คิดว่าซื้อเครื่องจักรจากอเมริกาน่าจะคุ้มค่ากว่าเยอะ"

นายช่างใหญ่แปลกใจอย่างมาก รวมทั้งทุกๆคนที่อยู่ในที่ประชุมต่างเกิดความตื่นตัวกับการเปลี่ยนไปของเจ้านาย เมื่อพูดแล้วมีคนฟัง มีคนนำไปพิจารณา ทุกคนจึงแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ บรรยากาศของการประชุมในวันนี้จึงฉีกแนวจากรูปแบบเดิมๆที่เคยปฏิบัติกันมาจนชิน แน่นอนที่สุด ผลสรุปที่ได้ในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

************

หากคู่สนทนาคิดแต่จะหักล้างฝ่ายตรงข้าม
จะไม่มีทางหาทางออกที่ดีได้
มันแค่เป็นการต้องการเอาชนะคู่สนทนา
ไม่ให้เขาได้มีโอกาสปริปากพูดอะไรอีก

หากคิดจะหาทางแก้ไขสิ่งใดก็ตาม
ต้องหัดปล่อยวางตัวเองก่อน หยุดตัวเองไว้ก่อน เปิดใจให้กว้าง
แล้วรู้จักฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง
มันคือบทเรียนขั้นพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ไว้ก่อน
รู้จักนำเอาความคิดเห็นของคู่สนทนามาตรึกตรองให้ถ่องแท้
คุณจะพบว่าหนทางที่จะแก้ปัญหาอาจไม่ยากอย่างที่คิดเสมอไป

ลองทบทวนคำพูดของคู่สนทนาบ้าง
นั่นคือวิถีของคนฉลาด

"ขจรศักดิ์"
แปลและเรียบเรียง
Facebook:ห้องสมุดฟลิ้นท์

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้ทุกๆท่าน ร่ำรวย เฮงเฮง นะครับ
15/02/2018

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้ทุกๆท่าน ร่ำรวย เฮงเฮง นะครับ

28/10/2017

#คำพูดประโยคเดียวที่สร้างแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่

หมอคิดว่า การที่คนคนหนึ่งจะไปถึงความใฝ่ฝันและเป้าหมายนั้น สำคัญต้องมีแรงผลักดันและกำลังใจ ที่จะทำให้มีความพยายาม เพราะเมื่อพบอุปสรรคอาจจะมีเหนื่อยเป็นของธรรมดา แต่ไม่ท้อถอยหรือถอดใจไปเมื่อพบกับปัญหา โดย "ที่มา" ของแรงผลักดันและกำลังใจสำหรับแต่ละคน ก็อาจจะแตกต่างกันไป

หมอได้มีโอกาสดูรายการ "กาลครั้งนั้นของฉันกับในหลวงรัชกาลที่ ๙" ทางช่อง ๗ มีเรื่องราวของคุณลุงศรีวิชัย ทรงสุวรรณ หรือคุณลุงเอก ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการมาแบ่งปันให้ฟังกัน

คุณลุงเอก ปัจจุบันอายุ ๗๓ ปี ชีวิตของคุณลุงครั้งหนึ่งได้ทำในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากให้เกิดขึ้น โดยแรงบันดาลใจนั้นเกิดจากรับสั่งของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในวันหนึ่งเมื่อเวลาประมาณ ๔๕ ปีก่อน


ขณะนั้นคุณลุงอายุ ๒๗ ปี เรียนจบชั้นป.๔ ไม่ได้เรียนต่อเพราะที่บ้านยากจน หลังจากนั้นคุณลุงก็ทำงานรับจ้างแบกหามทั่วไป ต่อมาได้สมัครเป็นพนักงานขับรถของศูนย์อนามัยแม่และเด็กเขต๗ จังหวัดราชบุรี และทำงานมาเรื่อยๆ

คุณลุงเล่าว่าตอนนั้นตัวเองก็ไม่ต่างจากคนไทยส่วนใหญ่ที่ปรารถนาว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จ โดยครั้งหนึ่งที่คุณลุงเกือบจะได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ ๙ คือตอนที่พระองค์เสด็จไปเปิดศูนย์อนามัยแม่และเด็ก(ที่คุณลุงทำงานอยู่) ตอนนั้นคุณลุงอยากจะไปเข้าเฝ้าแต่หัวหน้างานบอกให้ไปเฝ้าเวรที่โรงรถ จึงไม่ได้ไปรับเสด็จ คุณลุงรู้สึกเสียดายมาก

จนอีก ๒ ปีถัดมา พระองค์เสด็จมาทอดผ้าพระกฐินต้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัด คุณลุงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าเพื่อถวายพวงมาลัยข้อพระกรอย่างใกล้ชิด

ในวันนั้นพระองค์ทรงมีรับสั่งกับคุณลุงว่า "ขอบใจนะ" หลังจากนั้นพระองค์ทรงถามชื่อ เมื่อคุณลุงบอกชื่อถวาย "แล้วนามสกุลล่ะ" พระองค์ทรงถามต่อ เมื่อตอบนามสกุล พระองค์ทรงถามต่อว่า "ทำงานที่ไหน" คุณลุงทูลตอบว่า "ศูนย์อนามัยแม่และเด็กพะยะค่ะ" พระองค์ตรัสต่อว่า "ไม่ต้องพูดราชาศัพท์ พูดธรรมดาก็ได้ ศูนย์อนามัยแม่และเด็กที่ฉันมาเปิดเมื่อ ๒ ปีก่อน ใช่หรือไม่" ลุงทูลตอบไปว่า "ใช่ครับ"

"ทำงานหน้าที่อะไร" พระองค์ทรงถามต่อ "พนักงานขับรถครับ" คุณลุงทูลตอบไป พระองค์ก็ทรงถามว่า "เรียนจบอะไรมา"

เมื่อคุณลุงตอบว่า จบชั้นประถมปีที่ ๔ พระองค์ทรงถามต่อว่า "แล้วอายุเท่าไหร่" เมื่อลุงตอบไปว่า อายุ ๒๗ ปี พระองค์จึงรับสั่งว่า "ไปเรียนต่อ เพื่อชีวิตจะได้ก้าวหน้าขึ้น"

หลังจากกลับบ้านไป คุณลุงรู้สึกปิติยินดีจนนอนไม่หลับ คิดไม่ออกว่าจะเรียนต่ออย่างไร เพราะตัวเองต้องทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็น จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนหนังสือ หรือจะไปเรียนที่ไหนก็ไม่ทราบ จนมีคนมาแนะนำให้ไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่ที่วัดแห่งหนึ่ง ต้องเรียนตั้งแต่หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม ตอนนั้นคุณลุงก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่ก็คิดว่าต้องทำให้สำเร็จเพราะรับปากกับพระองค์ท่านแล้ว

หลังจากนั้นอีก ๑ ปี คุณลุงได้เข้าเฝ้าอีกครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคุณลุงเตรียมตัวอย่างดี ถวายรายงาน ชื่อ นามสกุล ตำแหน่งหน้าที่การงานและที่ทำงาน

หลังกราบทูลไปแล้ว คุณลุงเล่าว่า "พระองค์ไม่ได้รับสั่งอะไร แต่จ้องหน้าลุงอยู่สักพัก" จนกระทั่งพระองค์ตรัสว่า "ได้ไปเรียนหรือยัง"

เมื่อคุณลุงได้ตอบไปว่า ได้เข้าเรียนศึกษาผู้ใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ พระองค์ท่านตรัสว่า "อายุเยอะแล้ว ต้องใช้ความพยายามและอดทน แล้วจะเรียนสำเร็จ"

เพราะรับสั่งของพระองค์ แม้ว่าตอนนั้นคุณลุงจะสอบตกบ้าง แต่ก็มีความพยายามจนจบชั้น ม.๓

ขณะนั้นกรมอนามัยได้ให้ทุนลูกจ้างประจำสอบชิงทุนเรียนฟรี คุณลุงสอบได้ ได้ไปเรียนที่วิทยาลัยสาธารณสุขภาคกลางจังหวัดชลบุรี พอเรียนจบก็ได้เปลี่ยนสถานะจากพนักงานขับรถมาเป็นข้าราชการในตำแหน่งพนักงานอนามัย ทำงานในตำแหน่งอยู่ ๑๐ กว่าปี คุณลุงได้ตัดสินใจไปสอบชิงทุนอีกครั้งเพื่อเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

วันที่คุณลุงเก็บหน่วยกิจครบ เรียนจบปริญญาตรีในอายุเกือบ ๕๐ ปี คนแรกที่คุณลุงคิดถึงก็คือพระองค์ท่าน

"ใจก็คิดว่าทำให้พ่อสำเร็จแล้ว พ่อทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ ขอบพระคุณพ่อมาก"

จากวันที่พระองค์มีรับสั่งกับคุณลุงครั้งแรกจนมาถึงวันที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นเวลากว่า ๒๐ ปี

"พระองค์ทรงเป็นเหมือนพ่อที่คอยเฝ้าดูเราตั้งแต่วันแรก ให้กำลังใจ จนถึงวันที่เราเรียนจนจบ"

คุณลุงรับราชการในศูนย์อนามัยแม่และเด็กต่อมาเรื่อยๆ และได้มีโอกาสเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาของวิทยาลัยพยาบาล ซึ่งคุณลุงบอกว่าไม่คิดไม่ฝันว่าจากคนขับรถธรรมดาจะสามารถทำได้

"ถ้ามีโอกาสกราบทูลพระองค์ท่านตอนนี้ ก็อยากจะบอกพระองค์ว่า พระองค์เป็นผู้มีพระคุณของผม วันนี้ผมเกษียณแล้ว แต่ ๑๐ ปีที่ผ่านมาผมมีเงินบำนาญเลี้ยงชีพ แม้ว่าเงินจะน้อย แต่ผมก็อยู่ได้ เพราะใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างมีความสุขตามที่พ่อได้สอนไว้"


เรื่องราวที่หมอเล่ามาจากรายการ "กาลครั้งนั้นของฉันกับในหลวงรัชกาลที่ ๙" ไปดูกันได้ในลิงก์นี้นะคะ (เรื่องของคุณลุงเอกจะอยู่ในช่วงประมาณนาทีที่ ๒๐ เป็นต้นไป) https://www.youtube.com/watch?v=ORffc3zQsDw

#หมอมินบานเย็น

17/08/2017

ที่อยู่

70/8 หมู่1 ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก ซอย29 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ
กรุงเทพมหานคร
10170

เบอร์โทรศัพท์

02-083-0739

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศิริหนองคายขนส่งผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์