สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี กรมประชาสัมพันธ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี กรมประชาสัมพันธ์ รายงานข่าวสารของรัฐบาลในทุกมิติ คลังสาระความรู้คู่เมืองปทุม

“อรรถพล” แถลงนโยบายพลังงาน เร่งเครื่อง “Quick Big Win” เต็มกำลัง วางกรอบเป้าหมายชัด ลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้ประชาชน สร้างค...
08/10/2025

“อรรถพล” แถลงนโยบายพลังงาน เร่งเครื่อง “Quick Big Win” เต็มกำลัง วางกรอบเป้าหมายชัด ลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้ประชาชน สร้างความมั่นคงพลังงานผ่านการเร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ผลักดันเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับรากหญ้ายันภาคอุตสาหกรรม ติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ลดหย่อนภาษี เดินหน้าให้ไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

(วันที่ 8 ตุลาคม 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง เปิดกระทรวงพลังงานแถลงนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ทั้งด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการลงทุน การผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงาน ได้ผลักดันโครงการ “Quick Big Win” ด้านพลังงาน

การสร้างรายได้ ลดรายจ่ายด้านพลังงานภาคประชาชน นำโดยโครงการโซลาร์ภาคประชาชน เร่งขับเคลื่อน “โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร” กว่า 1,200 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 แสนไร่ทั่วประเทศ คาดว่าจะเกิดเม็ดเงินผ่านการลงทุนกว่า 12,500 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 87.5 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.6 ล้านตันต่อปี “โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน” เป้าหมายกำลังการผลิต 1,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 30,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 1,600 ตำแหน่ง และยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.8 ล้านตันต่อปี โดยจะสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนเป้าหมาย “การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์” คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 90,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน ได้กว่า 20,250 ล้านบาท ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.8 แสนตันต่อปี นอกจากนั้น ยังมีการเร่งอนุมัติ “การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ กฟผ.” (เขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์) ซึ่งมีต้นทุนต่ำ กำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ เกิดการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 0.8 ล้านตันต่อปี

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงานรองรับภาคอุตสาหกรรม ได้เร่งดำเนินการ “โครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดตรง” หรือ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเสนอ กบง. ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568
เกิดเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 65,000 ล้านบาท ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต นอกจากนั้น ยังมี “การพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออก (EEC)” คาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้ากว่า 800 เมกะวัตต์ รองรับธุรกิจ Data Center 16 ราย รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมผ่านการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์ผ่านกลไกกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

การสร้างความยั่งยืนระยะยาวรองรับ Net Zero 2050 ผ่านโครงการต่างๆ ข้างต้น รวมทั้งการเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือ แผน PDP ที่จะมีการทบทวนรายละเอียดให้การผลิตไฟฟ้าตอบโจทย์กับเป้าหมาย Net Zero 2050 ผ่านการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้น นอกจากนั้น ยังมีการเริ่มโครงการพัฒนาการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ภายในปี 2577 และระหว่างปี 2577 ถึงปี 2607 (30 ปี) จะสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ ได้ 6.4 ล้านตันต่อปี

“ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านที่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวและส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้วางกรอบการทำงาน “Quick Big Win” ไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด เป้าหมายความสำเร็จจึงต้องมีความชัดเจน โดยในด้านการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ ซึ่งกระทรวงพลังงานก็เพิ่งได้มีการตรึงค่าก๊าซหุงต้มและลดราคาน้ำมันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในอนาคตก็จะมีเป้าหมายในการลดค่าไฟ ซึ่งต้องหารือกับหลายหน่วยงาน ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แผนงานที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งโครงการโซลาร์รูปแบบต่างๆ จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ กฟผ. ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในราคาต้นทุนที่ถูกลง การส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิตในพื้นที่เศรษฐกิจ EEC รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จากทุกโครงการที่นำเสนอข้างต้น สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดมูลค่าการลงทุนสูงถึง 700,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 10 ล้านตันต่อปี” นายอรรถพล กล่าว

นายกฯ อนุทิน แถลงผลปฏิบัติ “ยุทธการล้างบางเครือข่ายยาเสพติดข้ามภาค” กวาดล้างครั้งใหญ่ ของกลางยาบ้า 15.78 ล้านเม็ด ไอซ์ 2...
08/10/2025

นายกฯ อนุทิน แถลงผลปฏิบัติ “ยุทธการล้างบางเครือข่ายยาเสพติดข้ามภาค” กวาดล้างครั้งใหญ่ ของกลางยาบ้า 15.78 ล้านเม็ด ไอซ์ 235 กิโลกรัม พร้อมประกาศเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ย้ำรัฐบาลเป็นศัตรูกับผู้ค้ายาในทุกรูปแบบ พร้อมเร่งแก้กฎหมายเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้

วันนี้ (8 ตุลาคม 2568) 11.10 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงผลปฏิบัติ “ยุทธการล้างบางเครือข่ายยาเสพติดข้ามภาค” โดยมีพลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตลอดจนคณะผู้บังคับบัญชา เข้าร่วมการแถลงข่าวด้วย

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการแถลงข่าวในวันนี้ว่า การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และฝ่ายปกครองเป็นหลัก โดยในบางกรณีมีการประสานงานร่วมกับหน่วยทหาร เพื่อดำเนินการอย่างบูรณาการ โดยจะเห็นได้ว่ามีการแถลงผลการจับกุมยาเสพติดเป็นประจำ ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมถึงสองครั้ง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นศัตรูกับทั้งผู้ค้า ผู้ครอบครอง และผู้ขนส่ง ในทุกรูปแบบ มีบทลงโทษที่รุนแรงเท่าเทียมกัน หากผู้ใดคิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องเผชิญโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การดำเนินงานของรัฐบาลครอบคลุมทั้งการปราบปราม การป้องกัน และการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดทั้งหมดจนถึงในระดับชุมชนและหมู่บ้านอย่างเข้มข้น นอกจากนี้จะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อปรับหลักเกณฑ์การครอบครองจากห้าเม็ดให้เป็นหนึ่งเม็ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามให้มากที่สุด อีกทั้ง รัฐบาลได้มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ หากมีผู้ให้ความช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ค้ายาเสพติด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการพิจารณาพฤติกรรมและหลักฐานแยกแยะระหว่างผู้ค้าและผู้เสพ หากพบการครอบครองหรือมีพฤติกรรมการขายซ้ำ ๆ จะถือว่าเป็นพฤติกรรมของผู้ค้าและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ปริมาณในแต่ละครั้งอาจดูน้อยแต่เมื่อนับรวมกันแล้วเข้าข่ายการค้า ก็จะถูกดำเนินการในฐานะผู้กระทำผิดเช่นเดียวกัน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวต่อว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยได้ให้ความรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมแก่ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนสามารถตรวจสอบและเฝ้าระวังตนเองได้อย่างเป็นระบบ หากหมู่บ้านหรือชุมชนใดปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นแหล่งค้า แหล่งพักยา จะมีมาตรการทางกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดและบทลงโทษทวีคูณ

“รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและไม่ผ่อนปรน เพื่อรักษาความปลอดภัยของชุมชนและความสงบเรียบร้อยของประเทศ” นายกรัฐมนตรี ย้ำ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทดสอบของกลางสารเสพติดและตรวจรถของกลางที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติดด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ในห้วงวันที่ 4-6 ตุลาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เร่งเครื่องปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ สามารถทลายเครือข่ายยาเสพติดสำคัญได้ถึง 4 คดี ผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 15.78 ล้านเม็ด ไอซ์ 235 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดได้หลายรายการซึ่งอยู่ระหว่างขยายผล

"สติธร" ยก “คนละครึ่งพลัส” เป็นนโยบายคุ้มสองต่อ หมุนเศรษฐกิจ–ดึงประชาชน เข้าระบบภาษีวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ดร.สติธร ธนานิธ...
08/10/2025

"สติธร" ยก “คนละครึ่งพลัส” เป็นนโยบายคุ้มสองต่อ หมุนเศรษฐกิจ–ดึงประชาชน เข้าระบบภาษี

วันที่ 8 ตุลาคม 2568
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นต่อโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคมนี้ว่า ถือเป็นการต่อยอดนโยบายที่ประชาชนคุ้นเคยอยู่แล้ว และเป็นแนวทางที่ช่วยทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในเวลาเดียวกัน

ดร.สติธร ระบุว่า จุดเด่นของ “คนละครึ่งพลัส” อยู่ที่การอุดหนุนเงินตามสถานะภาษีของผู้ได้รับ ซึ่งช่วยให้เงินหมุนเวียนลงสู่ร้านค้ารายย่อยได้รวดเร็วและทั่วถึง ขณะเดียวกันยังสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ถือเป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่เกิดประโยชน์สองต่อ ทั้งในระยะสั้นคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และในระยะยาวคือการเชื่อมโยงนโยบายเข้ากับระบบภาษีที่ช่วยเสริมสร้างวินัยทางการคลังของประเทศ

พร้อมกันนี้ ดร.สติธร ให้คำแนะนำว่า สิ่งที่ต้องระวังคือปัญหาทางเทคนิคและการใช้งานระบบ เนื่องจากเป็นโครงการที่ประชาชนจำนวนมากเคยเข้าร่วมมาก่อน ระบบการลงทะเบียนจึงต้องมีความเสถียร และต้องป้องกันพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ผิดเงื่อนไข เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นและผลลัพธ์ในเชิงบวกของโครงการในภาพรวม

ปภ. เร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยกรณีอพยพชายแดนไทย-กัมพูชา รอบ 3-4 วันที่ 8-9 ต.ค.▶️ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://path...
08/10/2025

ปภ. เร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยกรณีอพยพชายแดนไทย-กัมพูชา รอบ 3-4 วันที่ 8-9 ต.ค.

▶️ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://pathumthani.prd.go.th/th/content/category/detail/id/38/iid/429996

นายกฯ สั่งการรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปภ. เตรียมสำรวจจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท▶️ อ่านข้อมูลเ...
08/10/2025

นายกฯ สั่งการรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปภ. เตรียมสำรวจจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท

▶️ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://pathumthani.prd.go.th/th/content/category/detail/id/38/iid/429983

#นายกสั่งการรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย #ปภเตรียมสำรวจจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ9000บาท #กระทรวงมหาดไทย #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #กระทรวงสาธารณสุข #กระทรวงแรงงาน #สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

ครม. เห็นชอบ คนละครึ่งพลัส วงเงิน 4.4 หมื่นล้าน ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง 20-26 ต.ค. ใช้สิทธิ์ 29 ต.ค.-31 ธ.ค. 68▶️ อ่าน...
08/10/2025

ครม. เห็นชอบ คนละครึ่งพลัส วงเงิน 4.4 หมื่นล้าน ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง 20-26 ต.ค. ใช้สิทธิ์ 29 ต.ค.-31 ธ.ค. 68

▶️ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://pathumthani.prd.go.th/th/content/category/detail/id/38/iid/429965

#ครมเห็นชอบคนละครึ่งพลัสวงเงิน4หมื่น4พันล้าน #ลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง20ถึง26ตุลาคม #ใช้สิทธิ์คนละครึ่ง29ตุลาคมถึง31ธันวาคม #กระทรวงการคลัง #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

ตีฆ้องร้องข่าว 📣 รองนายกฯ และ รมว.คลัง และคณะ แถลงข่าวโครงการคนละครึ่งพลัส ย้ำ  “คนละครึ่งพลัส” ต่อสู้กับภัยเศรษฐกิจติดห...
07/10/2025

ตีฆ้องร้องข่าว

📣 รองนายกฯ และ รมว.คลัง และคณะ แถลงข่าวโครงการคนละครึ่งพลัส ย้ำ “คนละครึ่งพลัส” ต่อสู้กับภัยเศรษฐกิจติดหล่มได้

ตีฆ้องร้องข่าว (8 ต.ค.68) | รองนายกฯ และ รมว.คลัง และคณะ แถลงข่าวโครงการคนละครึ่งพลัส ย้ำ “คนละครึ่งพลัส” ต่อสู้ก....

ตีฆ้องร้องข่าว 📣 รมต.นร. ภราดร ระบุ รัฐบาลโยกงบกลางมาใช้ดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน
07/10/2025

ตีฆ้องร้องข่าว

📣 รมต.นร. ภราดร ระบุ รัฐบาลโยกงบกลางมาใช้ดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน

ตีฆ้องร้องข่าว (8 ต.ค.68) | รมต.นร. ภราดร ระบุ รัฐบาลโยกงบกลางมาใช้ดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิ...

ตีฆ้องร้องข่าว 📣 นายกฯ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ จ.นครพนม พร้อมเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก 2568
07/10/2025

ตีฆ้องร้องข่าว

📣 นายกฯ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ จ.นครพนม พร้อมเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก 2568

ตีฆ้องร้องข่าว (8 ต.ค.68) | นายกฯ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ จ.นครพนม พร้อมเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก 2568

“อนุทิน” เปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก จ.นครพนม ยกระดับสู่เทศกาลระดับนานาชาตินายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ...
07/10/2025

“อนุทิน” เปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก จ.นครพนม ยกระดับสู่เทศกาลระดับนานาชาติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมไหลเรือไฟโลก จังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 พร้อมงาน ยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก

นายอนุทินกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานอีกครั้ง โดยประเพณีไหลเรือไฟถือเป็นมรดกวัฒนธรรมเก่าแก่ของจังหวัดนครพนม ที่สะท้อนความศรัทธา ความสามัคคี และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย พร้อมชื่นชมทุกฝ่ายที่ร่วมกันสืบสานประเพณีให้คงอยู่

นายกรัฐมนตรีระบุว่า การจัดงานปีนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและศักยภาพของคนไทยในการใช้วัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างความสุขแก่ประชาชน พร้อมอวยพรให้ประชาชนมีความสุข ความสงบ และความสามัคคี

ภายหลังพิธีเปิด นายกรัฐมนตรีรับชมการแสดงโดรนแปรอักษร ซึ่งหนึ่งในนั้นปรากฏพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงและสมเด็จพระราชินี โดยนายอนุทินได้ยกมือไหว้เหนือศีรษะ ก่อนเดินทักทายและถ่ายภาพกับประชาชนที่มาร่วมงาน

ต่อมา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า งานไหลเรือไฟถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของนครพนมและภาคอีสาน เป็นการเริ่มต้นเทศกาลสิ้นปี และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวร่วมสัมผัสบรรยากาศงานประเพณี

#อนุทิน #อนุทินชาญวีรกูล #ไหลเรือไฟโลก #นครพนม

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม มอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลแก่ส่วนราชการและประชาชน เน้นขั...
07/10/2025

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม มอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลแก่ส่วนราชการและประชาชน เน้นขับเคลื่อนประเทศด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

วันที่ 7 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลแก่ผู้บริหารส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ โดยมี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วย นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ร่วมด้วย โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนเข้าร่วมรับฟังนโยบาย ณ โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนครพนม (สันตยานันท์) อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายสำคัญโดยเน้นย้ำให้จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ต้นแบบในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการส่งเสริม “มหกรรมไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด พร้อมสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และได้พบปัญหาค่าใช้จ่ายในการฟอกไตของประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดัน “นโยบายฟอกไตฟรีทั่วประเทศ” โดยมีที่มาจากการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศรีสงคราม นอกจากนี้ได้เน้นย้ำถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภค ที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการในระยะต่อไป โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้วันละ 200 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในตลาดชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้ออกมาตรการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและลูกหนี้รายย่อย โดยให้พักชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท รวมถึงเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการรายย่อยด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรายละเกิน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ และเกิดการจ้างงานในพื้นที่

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง มีทั้งความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระธาตุพนม ความศรัทธาในองค์พญาศรีสัตตนาคราช และวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขงที่งดงาม ซึ่งเมื่อรัฐบาลร่วมมือกับท้องถิ่นในการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น มหกรรมไหลเรือไฟ ก็จะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดนครพนมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ที่อยู่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี เลขที่ 1 ชั้น 1 ต. บางปรอก อ. เมือง จ. ปทุมธานี
จ. ปทุมธานี
12000

เบอร์โทรศัพท์

+6625812121

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี กรมประชาสัมพันธ์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์