สร้างสรรค์ปัญญา Creative Intelligence Co.,Ltd.

สร้างสรรค์ปัญญา Creative Intelligence Co.,Ltd. สร้างสรรค์ปัญญา Open Data สร้างคุณค่าสู่สังคม

 #สมุทรสงครามเมืองน้ำที่ต้องเข้าใจน้ำเวทีหารือแนวทางจัดการน้ำท่วมในเขตเมืองสมุทรสงครามทีมนักวิจัยโครงการยกระดับและขยายผล...
07/11/2025

#สมุทรสงครามเมืองน้ำที่ต้องเข้าใจน้ำ
เวทีหารือแนวทางจัดการน้ำท่วมในเขตเมืองสมุทรสงคราม
ทีมนักวิจัยโครงการยกระดับและขยายผลการเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่แบบมีส่วนร่วมเพื่อลดเสี่ยง ลดภัย สร้างรายได้ พื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองฯภายใต้ แผนงานเป้าหมาย น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในเขตเมือง และหารือแนวทางจัดการน้ำท่วม โดยมุ่งทดลองใช้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นเครื่องมือสำคัญในการมองและวางระบบบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่
การดำเนินงานในครั้งนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนและร่วมเรียนรู้เพื่อพัฒนาแนวทางการอยู่ร่วมกับน้ำอย่างสมดุลในอนาคต

#โครงการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำแม่กลอง
#สวทช. #เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม
#บริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ #วช. #สกสว. #จุฬา #สร้างสรรค์ปัญญา

เมื่อเทศบาลเมืองสมุทรสงครามจับมือคณะทำงาน ABE เปลี่ยนเมืองแม่กลองให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ของทุกคนคณะทำงาน ABE สมุทรสงคราม ...
07/11/2025

เมื่อเทศบาลเมืองสมุทรสงครามจับมือคณะทำงาน ABE เปลี่ยนเมืองแม่กลองให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ของทุกคน

คณะทำงาน ABE สมุทรสงคราม ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับเทศบาลเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์เด็กในพื้นที่จริง จากปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาและความเหลื่อมล้ำทางโอกาสทางรายได้ของครอบครัวเปราะบาง

เริ่มต้นจากข้อมูลจริง ใช้ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่มาวางแผนดูแลเด็กเป็นรายคน และสร้างกลไกเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนให้ทำงานร่วมกันได้จริง

วันนี้เทศบาลเมืองสมุทรสงครามไม่ได้เป็นเพียงหน่วยงานสนับสนุน แต่เป็นเจ้าของพื้นที่ ที่ขับเคลื่อนร่วมกันกับกลไก ABE โดยเห็นการศึกษาเป็นวาระของเมือง และเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ตั้งแต่การวางแผนงบประมาณ การติดตามเด็กหลุดจากระบบ ไปจนถึงการสร้างโอกาสเรียนรู้นอกห้องเรียน และมีประเด็นสำคัญร่วมกัน คือ

1) ค้นหาเด็กและเยาวชนที่หลุดระบบการศึกษา
2) การพัฒนาเด็กปฐมวัย
3) การตรวจวัดสายตาเด็ก

ภายใต้การสนับสนุนจาก กสศ. ผ่านกลไก ABE และความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม การทำงานร่วมกันนี้ได้สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้สมุทรสงคราม เมืองที่เชื่อว่า การศึกษา คือ ชีวิต และทุกพื้นที่คือห้องเรียน

วันนี้ กลไก ABE จังหวัดสมุทรสงครามกำลังพิสูจน์ว่า เมื่อท้องถิ่นลุกขึ้นมาขับเคลื่อนเอง เมืองเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างระบบนิเวศที่เห็นคุณค่าของการเรียนรู้สำหรับเด็กทุกคน

ุทรสงคราม #กสศ. #เมืองแห่งการเรียนรู้
#การศึกษาท้องถิ่นเปลี่ยนอนาคตได้
#สร้างสรรค์ปัญญา #ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

 #สมุทรสงคราม เมืองเล็กที่ลุกขึ้น “เปลี่ยนอนาคตเด็ก” ด้วยพลังของทุกภาคส่วน จากความเหลื่อมล้ำ สู่ระบบการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้...
07/11/2025

#สมุทรสงคราม เมืองเล็กที่ลุกขึ้น “เปลี่ยนอนาคตเด็ก” ด้วยพลังของทุกภาคส่วน จากความเหลื่อมล้ำ สู่ระบบการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จังหวัดสมุทรสงครามกำลังเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้านการศึกษา ผ่านโครงการการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ(ABE สมุทรสงคราม) ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
ในจังหวัดเล็กที่เผชิญทั้งเศรษฐกิจเปราะบาง ประชากรสูงวัย และเด็กหลุดจากระบบการศึกษามากกว่าที่คิด
โครงการนี้ได้จุดประกายให้ทุกภาคส่วนลุกขึ้นมาร่วมกัน ออกแบบอนาคตใหม่ ให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่
3 ปีของการขับเคลื่อน...สร้างรากฐานใหม่ให้สมุทรสงคราม
#การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อ
1.สร้างกลไกความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และประชาสังคม
2.ใช้ข้อมูลจริงในการชี้เป้าและวางแผนการศึกษา
3.ทำให้เรื่องการศึกษาเป็นวาระของจังหวัด
4.ผลักดันกองทุนการศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ในการประชุมครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวว่า จังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง พร้อมทำหน้าที่ตัวกลางเชื่อมโยง ระหว่างหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย Thailand Zero Dropout ให้เกิดผลในระดับพื้นที่
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดเดียวที่ทุกคนเชื่อร่วมกันว่าการศึกษาคือชีวิต และทุกพื้นที่คือห้องเรียน

ุทรสงคราม
#สมุทรสงครามเมืองแห่งการเรียนรู้ #กสศ #ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา #สร้างสรรค์ปัญญา #ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

06/11/2025
05/11/2025
"เรียนรู้จากพื้นที่จริง สู่งานวิจัยที่เปลี่ยนชุมชนได้จริง"วันนี้ บริษัท สร้างสรรค์ปัญญา จำกัด และ ร้านไอน้ำ คาเฟ่ แอนด์ ...
01/11/2025

"เรียนรู้จากพื้นที่จริง สู่งานวิจัยที่เปลี่ยนชุมชนได้จริง"

วันนี้ บริษัท สร้างสรรค์ปัญญา จำกัด และ ร้านไอน้ำ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ มีโอกาสได้ต้อนรับอาจารย์และนักศึกษาระดับปริญญาเอกจากคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ศิริวงศ์ ที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิด “งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น” (Community-Based Research) แนวทางการวิจัยที่เชื่อว่า “ชุมชนคือเจ้าของความรู้ และการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากคนในพื้นที่เอง”
บรรยากาศการแลกเปลี่ยนเต็มไปด้วยความอบอุ่นและแรงบันดาลใจ นักศึกษามีโอกาสได้ฟังประสบการณ์ตรงจาก ทีมพี่เลี้ยงนักวิจัยเพื่อท้องถิ่น จังหวัดสมุทรสงคราม
ภายใต้ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ที่ได้ทำงานเคียงข้างชาวบ้านมายาวนานผ่านการเรียนรู้จากพื้นที่จริง เพื่อร่วมกัน “แก้ปัญหา เพื่อชุมชน โดยชุมชน และเป็นของชุมชน” อย่างแท้จริง

เพราะงานวิจัยไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องแอร์ แต่สามารถเติบโตได้จากหัวใจของคนในพื้นที่

#งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น
#สร้างสรรค์ปัญญา #ไอน้ำคาเฟ่แอนด์บาร์ #ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

ขอน้อมส่งพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยประกาศสำนักพระราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เ...
24/10/2025

ขอน้อมส่งพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ประกาศสำนักพระราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต

ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์
24 ตุลาคม 2568

พัฒนา “ครู” เพื่อสร้าง “อนาคตเด็ก” อย่างยั่งยืนจังหวัดสมุทรสงคราม เดินหน้าพัฒนาคุณภาพการศึกษาตั้งแต่ “รากฐานของชีวิต” ผ่...
24/10/2025

พัฒนา “ครู” เพื่อสร้าง “อนาคตเด็ก” อย่างยั่งยืน

จังหวัดสมุทรสงคราม เดินหน้าพัฒนาคุณภาพการศึกษาตั้งแต่ “รากฐานของชีวิต” ผ่านกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” ภายใต้ โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ (Area-Based Education: ABE) โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
การอบรมครั้งนี้มุ่งเน้น Reskill และ Upskill ครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อเสริมทักษะการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง HighScope และ Executive Function (EF)ให้ครูสามารถเข้าใจพัฒนาการเด็กปฐมวัย และออกแบบกิจกรรม “เล่นเพื่อเรียนรู้” ได้อย่างเหมาะสม
โดยมีครู ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และผู้บริหารจากองค์กรปกครองส่วนื้องถิ่นใน จังหวัดสมุทรสงคราม เข้าร่วม เพื่อขยายผลการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีคุณภาพทั้งด้านสมอง อารมณ์ และสังคม
🎯 ทำไมต้องจัดกิจกรรมนี้?
เพราะปัญหา “เด็กติดจอ” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันกำลังทำลายสมองส่วนหน้า (สมองคิด วิเคราะห์ และควบคุมอารมณ์) จนเด็กพัฒนาการช้า เข้าสังคมไม่ได้ และควบคุมอารมณ์ไม่เป็น
การเล่น คือ “ยาวิเศษของสมอง” ที่ช่วยให้เด็กโตอย่างสมบูรณ์
กิจกรรมในครั้งนี้คุณครูได้ลงมือออกแบบกิจกรรมจริง เรียนรู้การสอนที่เชื่อมโยงกับชีวิตของเด็ก และได้แนวทางกลับไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของตนไม่ใช่เพียงแค่สอนให้เด็กพูดได้แต่เข้าใจชีวิตของเด็กได้ เมื่อครูเข้าใจสมองของเด็ก พ่อแม่เข้าใจความสำคัญของการเล่น
เราก็กำลังสร้างอนาคตของชาติ ให้แข็งแรงตั้งแต่ราก

ุทรสงคราม #กสศ #โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ #พัฒนาเด็กปฐมวัย #สร้างสรรค์ปัญญา #ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

 #การเรียนรู้ร่วมกันจากรังเล็กๆของชันโรงกิจกรรมในวันนี้ไม่ใช่เพียงการมาทัศนศึกษาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่คือ “พื้นที่แ...
21/10/2025

#การเรียนรู้ร่วมกันจากรังเล็กๆของชันโรง

กิจกรรมในวันนี้ไม่ใช่เพียงการมาทัศนศึกษาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่คือ “พื้นที่แห่งการเรียนรู้ร่วมกัน” ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาถักทอความรู้และประสบการณ์อย่างตั้งใจ ทั้งน้อง ๆ จากโรงเรียนอนุบาลวัดเกาะใหญ่ (เลี้ยงล้อมอนุกูล) ที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ “ชันโรง” เป็นครั้งแรก, กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนศาลแม่อากาศ (โรจน์มณี) สมุทรสงคราม ที่มีประสบการณ์เลี้ยงชันโรงอยู่แล้วและพกพาคำถามจากการลงมือทำจริง, คณะครูจากทั้ง 2 โรงเรียนที่มองหาแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการเรียนรู้นอกห้องเรียน, ครูพี่เลี้ยงชุมชน ไปจนถึงแกนนำชุมชนบ้านคาผู้เป็นเจ้าขององค์ความรู้ท้องถิ่น ทั้งหมดนี้คือภาพของ “วงจรการเรียนรู้ที่ทรงพลัง” ที่ซึ่งผู้รู้ได้แบ่งปัน และผู้ไม่รู้ได้ตั้งคำถาม เพื่อร่วมกันสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การเดินทางในวันนี้จึงเป็นมากกว่าการมาทัศนศึกษา แต่คือการ “เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว” ที่หยั่งรากจากอดีต เมื่อชุมชนเคยต้องต่อสู้กับความแห้งแล้ง จนค้นพบคุณค่าของสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ อย่างชันโรง ซึ่งกลายมาเป็นหัวใจของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน กิจกรรมการเรียนรู้ ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านห้วยน้ำขาว 789 ต.บ้านคา จ.ราชบุรี จึงไม่ได้เป็นเพียงเวิร์กชอปเรื่องการเลี้ยงชันโรง แต่คือ “พื้นที่พบกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชน” ที่ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มกัน เด็ก ๆ ได้นำความรู้ในตำรามาเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริง ส่วนชุมชนก็ได้เห็นพลังของการเรียนรู้รุ่นใหม่ที่ตั้งใจจริง
คุณครูจิมมี่และคุณครูแป้งสะท้อนว่า การได้พาเด็ก ๆ มาสัมผัสด้วยตนเอง ทำให้ “ภาพในหัวของพวกเขาชัดเจนขึ้น” โดยเฉพาะกับเด็กที่ไม่เคยมีโอกาสทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเช่นนี้มาก่อน นี่คือประสบการณ์ที่เปิดโลกและสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งไม่มีในห้องเรียนสี่เหลี่ยม
ภายใต้เรื่องราวของ “ชันโรงบ้านคา” จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า เมื่อเริ่มต้นจากการแก้ปัญหาน้ำ สู่การสร้างความเข้มแข็งของคน และต่อยอดเป็นเศรษฐกิจชุมชนที่เกื้อกูลกับสิ่งแวดล้อม “ชันโรงบ้านคา” ได้กลายมาเป็นตัวอย่างของการพัฒนาระบบที่หล่อเลี้ยงทั้งทรัพยากร คน และความรู้ ให้หมุนเวียนอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ส่งต่อทั้งความอุดมสมบูรณ์และภูมิปัญญา จากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่สิ้นสุด

ุทรสงคราม #การเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น #ศูนย์การเรียนไอน้ำLearning #กสศ. #สร้างสรรค์ปัญญา #ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

 #โรงเรียนครอบครัว เมื่อบ้านกลายเป็นห้องเรียนแรกของชีวิตในยุคที่โลกเปลี่ยนเร็วกว่าใจคน การเลี้ยงลูกกลายเป็นเรื่องที่ซับซ...
18/10/2025

#โรงเรียนครอบครัว เมื่อบ้านกลายเป็นห้องเรียนแรกของชีวิต

ในยุคที่โลกเปลี่ยนเร็วกว่าใจคน การเลี้ยงลูกกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่เคย พ่อแม่จำนวนมากรู้สึก “เหนื่อย” ทั้งจากการทำงาน จากเทคโนโลยีที่ไหลบ่า และจากคำถามง่ายๆ ที่ไม่มีคำตอบตายตัวว่า “เลี้ยงลูกยังไงให้เข้าใจ ไม่ใช่แค่ให้เชื่อฟัง” และนี่เอง คือที่มาของแนวคิด “โรงเรียนครอบครัว” พื้นที่เรียนรู้ใหม่ ที่ไม่ได้สอนให้เด็กเปลี่ยนแปลง แต่สอนให้ “พ่อแม่เรียนรู้ที่จะเข้าใจลูก”
#บ้านคือห้องเรียน_ครอบครัวคือครูคนแรก
“โรงเรียนครอบครัว” เริ่มต้นจากโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีแนวคิดคือการเชื่อมโยงบ้าน โรงเรียน ชุมชน เข้าด้วยกัน โดยให้พ่อแม่ ครู และชุมชนเป็น “ทีมเดียวกัน” ที่ร่วมสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กเติบโตอย่างมั่นคงทั้งกายและใจ

กิจกรรมแรกๆ ของโรงเรียนครอบครัวไม่ได้ใช้ตำรา แต่ใช้ “ชีวิตจริง” เช่น
“ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่เชื่อฟัง” “จะพูดยังไงให้ลูกยอมฟัง โดยไม่ต้องตะคอก” พ่อแม่จะได้ลองใช้คำพูดใหม่ๆ ฟังลูกให้มากขึ้น ชมลูกเมื่อทำได้ดี และค่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในบ้านด้วยสายตาของตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นจากวงสนทนา สำหรับกิจกรรมโรงเรียนครอบครัวเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงการอบรม แต่คือ “การเรียนรู้ร่วมกัน” พ่อแม่เริ่มเข้าใจว่า เด็กไม่ได้มีปัญหา แต่สังคมต่างหากที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน และบ้านควรเป็น “ที่พักใจ” ให้ลูกได้แสดงตัวตนอย่างปลอดภัย

บางครอบครัวพบว่า ลูกที่ดูเรียบร้อยที่โรงเรียนกลับ “ดื้อ ซน หรือร้องไห้บ่อย” ที่บ้าน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลย เพราะบ้านคือที่ที่เด็กกล้าเป็นตัวเอง และนี่คือสัญญาณดีที่บอกว่า “ลูกไว้ใจเรา”
#เมื่อครอบครัว_ชุมชนและท้องถิ่นรวมพลัง
สิ่งที่ทำให้ “โรงเรียนครอบครัว” เติบโตได้จริง คือการร่วมมือของทุกฝ่าย
เทศบาลและ อบต. เข้ามาเป็นเจ้าภาพหลัก อสม. ช่วยกระจายข่าวและเข้าถึงครัวเรือน โรงเรียนเปิดพื้นที่ให้ครูและพ่อแม่แลกเปลี่ยนประสบการณ์
และที่สำคัญ ครอบครัวต้นแบบในแต่ละชุมชนจะกลายเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้ครอบครัวอื่นๆ เริ่มต้นเรียนรู้ไปด้วยกัน

ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีเวทีใหญ่ของจังหวัดสมุทรสงคราม
ที่พ่อแม่และครอบครัวต้นแบบจะขึ้นเวทีเล่าเรื่องราวของพวกเขา
เพื่อให้เห็นว่า “การเรียนรู้ของพ่อแม่ คือรากฐานของการศึกษาทั้งระบบ”
#พลังเล็กๆที่กำลังเปลี่ยนอนาคตของการศึกษาไทย
“โรงเรียนครอบครัว” คือการคืน “หัวใจของการศึกษา” ให้กลับไปอยู่ในบ้าน
ให้พ่อแม่ ครู และชุมชน ร่วมสร้างโลกใบเล็กที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับเด็กทุกคน เพราะการศึกษาที่แท้จริง ไม่ได้เริ่มต้นที่โรงเรียน แต่เริ่มที่บ้าน ที่มีความรัก ความเข้าใจ และเวลาที่ให้กันอย่างมีคุณภาพ

💜 ร่วมสร้าง “โรงเรียนครอบครัว” เปลี่ยนบ้านให้เป็นห้องเรียน เปลี่ยนพ่อแม่ให้เป็นครู และเปลี่ยนทุกวันธรรมดา ให้เป็นวันที่ลูกอยากกลับบ้านเร็วที่สุด

ุทรสงคราม #กลไกการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ #กสศ
#สร้างโอกาส #สร้างการเรียนรู้ #สร้างสรรค์ปัญญา
#ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม

บทเรียนจากพื้นที่... สู่แนวทางร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง……………………“การศึกษาไม่ได้หมายถึงเพียงโรงเรียนหรือ...
14/10/2025

บทเรียนจากพื้นที่...
สู่แนวทางร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง
……………………
“การศึกษาไม่ได้หมายถึงเพียงโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น หากแต่คือกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ครอบครัว ชุมชน หรือสังคม หากเราเชื่อว่าการเรียนรู้เริ่มต้นจากชีวิตประจำวันและฐานทุนที่เรามี การทำงานกับคนตัวเล็ก ๆ ที่กำลังเผชิญความทุกข์ยากในพื้นที่ คือหนทางสำคัญในการสร้างพลังการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อสะท้อนสถานการณ์ของสังคมไทยอย่างแท้จริง” นายชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ หัวหน้าทีมหนุนวิชาการภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก กล่าว
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีของการดำเนินงาน หน่วยจัดการเรียนรู้และทีมหนุนเสริมทางวิชาการในพื้นที่ภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก ได้ร่วมกันสะสมประสบการณ์ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับคนทุกช่วงวัย ผ่านโครงการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จากจุดเริ่มต้นที่มุ่งสร้างอาชีพและพัฒนาทักษะพื้นฐานชีวิตให้กับผู้ร่วมเรียนรู้ สู่การเชื่อมโยง “สายพานอาชีพ” และขยาย “นิเวศการเรียนรู้” ก่อให้เกิด “พื้นที่กลางแห่งการเรียนรู้ สำหรับคนทุกช่วงวัย” ได้ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อทบทวนเส้นทางที่ผ่านมา พบบทเรียนร่วมที่สำคัญในบริบทที่หลากหลายของการทำงานในภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ที่สามารถใช้เป็นฐานทุนในการออกแบบแนวทางการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อให้ตอบโจทย์บริบทชีวิตผู้คนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในอนาคตได้ โดยพบประเด็นที่สำคัญดังนี้
🛑ประเด็น “การจัดการเชิงพื้นที่” เป็นมิติของการขับเคลื่อนการเรียนรู้โดยความมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ เช่น หน่วยจัดการเรียนรู้ที่เป็นองค์กรชุมชน และมีการจัดการร่วมโดย “ผู้นำตามธรรมชาติ” ที่อยากเห็นชุมชนของตนดีขึ้น และพัฒนาสู่ “Change Agent” ผู้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงให้เกิดระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างแท้จริง พื้นที่เหล่านี้กลายเป็น “พื้นที่กลางของการเรียนรู้” ที่เปิดให้คนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ได้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันแบบครบวงจร ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่ช่วยหนุนเสริมกันอย่างเกื้อกูล ขณะเดียวกันยังพบอุปสรรคหลายด้าน เช่น ระบบหน่วยงานต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อต่อการทำงานในระดับชุมชน รวมถึงค่านิยมและโครงสร้างครอบครัวที่เปลี่ยนไป และสิ่งสำคัญของการพัฒนาในอนาคตจึงควรมุ่งสร้าง “หลักสูตรท้องถิ่น” ที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ส่งเสริมให้ครอบครัวเป็นฐานการเรียนรู้ และจัดระบบสนับสนุนจากภายนอก เพื่อให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จริงในทุกพื้นที่ของประเทศ
🛑 ประเด็น “เด็กพิเศษกับครอบครัว” เป็นการทำงานเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การทำงานกับเด็กพิเศษเผยให้เห็นว่า ช่องว่างและความต้องการในระบบการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เด็กพิเศษหลายคนเข้าสู่ระบบการศึกษา แต่ไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม ขาดการประเมินและการสนับสนุนเชิงลึก เนื่องจากครอบครัวไม่พร้อมด้วยฐานะทางการเงิน อีกทั้งระบบสวัสดิการเข้าถึงยาก ดังนั้น แนวทางพัฒนาควรมีระบบคัดกรองตั้งแต่ช่วงวัยแรกเกิด 1-3 ปี และมีคลินิกพัฒนาการเด็กในพื้นที่ระดับชุมชน หรือตำบล เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิได้ง่าย

ในด้านการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษโรงเรียนควรมี “ครูผู้ช่วยเฉพาะทาง” ที่สามารถออกแบบหลักสูตรยืดหยุ่นให้เหมาะกับศักยภาพของเด็กแต่ละคนได้ ขณะเดียวกันต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ และชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ และอีกหนึ่งแนวทางสำคัญ คือการพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ปกครอง ให้มีความรู้และทักษะในการดูแลบุตรหลานอย่างเหมาะสม เปลี่ยนบทบาทของครอบครัวจาก “ผู้รับบริการ” เป็น “ผู้ร่วมพัฒนา” พร้อมสร้าง “บ้านพักพิงหรือศูนย์เรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษ” ให้เป็น Learning Center ที่ครบวงจร เป็นพื้นที่ที่เด็กพิเศษสามารถเรียนรู้ ดูแลกันและกันได้ และเมื่อจบการศึกษาก็สามารถกลับมาเป็น “พี่เลี้ยงรุ่นใหม่” เพื่อส่งต่อการเรียนรู้ในชุมชนของตน
🛑ประเด็น “ชุมชนกึ่งเมือง–กึ่งชนบท” จัดการเรียนรู้ท่ามกลางความหลากหลาย พื้นที่กึ่งเมือง–กึ่งชนบท คือพื้นที่ที่สะท้อนความหลากหลายทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างชัดเจน กลุ่มเป้าหมายมีความแตกต่างสูงและทับซ้อนอย่างรุนแรง ทั้งแรงงานนอกระบบ คนจนเมือง ผู้ย้ายถิ่น และกลุ่มชายขอบ การจัดการเรียนรู้ในบริบทนี้จึงต้องเริ่มจาก “การเข้าใจพื้นที่อย่างลึกซึ้ง” ก่อนลงมือทำ สิ่งที่สำคัญคือการออกแบบให้ “ครอบครัว” เข้ามามีส่วนร่วมในระบบการเรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ วิเคราะห์ “ต้นทุนชีวิตประจำวัน” ของผู้เรียนร่วมเรียนรายบุคคลหรือกลุ่ม เพื่อสร้างกิจกรรมที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของชีวิต

การทำงานกับกลุ่มนี้ต้อง “จำแนกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน” เพื่อให้การเรียนรู้ตรงจุดมากขึ้น และสร้าง “พื้นที่กลาง” ที่เชื่อมโยงสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนยังเข้าไม่ถึง พร้อมออกแบบกิจกรรมที่สร้างแรงจูงใจ เพื่อให้เขามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และเกิดพลังดูแลกันเองในชุมชนได้ในระยะยาว
🛑ประเด็น “การศึกษา” ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในระบบ นอกระบบ หรือการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ครูในบทบาทใหม่ของผู้จุดประกาย ระบบการศึกษาไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้เรียนจำนวนไม่น้อยขาดความต่อเนื่องในการเรียนรู้ ไม่มีเป้าหมายชีวิต ต้องเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสุขภาพจิต ซึ่งล้วนส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ไม่ตอบโจทย์ชีวิตจริง เป้าหมายของการศึกษาใหม่ จึงไม่ใช่เพียง “สอนหนังสือ” แต่คือ “สอนให้ใช้ชีวิตได้” ครูและสถานศึกษาต้องปรับบทบาทจาก “ผู้สอน” เป็น “ผู้อำนวยความรู้” (Learning Facilitator) เพื่อให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต และเชื่อมโยงกับบริบทจริง เช่น การเรียนรู้เกษตรต้องเข้าใจเศรษฐกิจโลกและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน

แต่หากต้องการ “เปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” (System Change) จำเป็นต้อง ขยับจาก Education สู่ “Learning” จากการสอนในโรงเรียน ไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันของทุกภาคส่วน เพราะทุกวันนี้ การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทั้งในห้องเรียน ออนไลน์ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน “วุฒิการศึกษา” อาจเป็นเพียงเครื่องหมายของศักดิ์ศรี แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ “การเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง”
ทางด้าน ‘ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บงกชรัตน์ ล้ำเลิศ’ ผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. ได้แลกเปลี่ยนว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานคือการวิเคราะห์ปัญหาให้ตรงจุดและชัดเจน เพราะเมื่อเข้าใจปัญหา แนวทางแก้ไขก็จะชัดเจนมากขึ้น ทำให้เราขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างถูกทิศทาง การทำงานกับกลุ่มเป้าหมายควรดูเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม เพราะการทำแบบรวมอาจไม่ตรงจุด แต่อย่างไรก็ตาม “ครอบครัวคือรากฐานสำคัญ” เมื่อได้ทำสิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน เห็นคุณค่าของกันและกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้น และจะส่งผลต่อสภาพจิตใจและการเรียนรู้ สามารถที่จะคิด พัฒนา และต่อยอดได้”
ขณะที่ ‘ดร.สมคิด แก้วทิพย์’ ผู้จัดการโครงการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน กสศ. กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเรียนรู้ที่แท้จริงต้องเริ่มจากชีวิตจริงของผู้คน การทำความเข้าใจรากฐานของปัญหาว่า ทำไมเด็กหรือคนด้อยโอกาสถึงเรียนไม่จบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงระบบสังคม มีผลต่อการเติบโตของแต่ละคน”

“ดังนั้น หัวใจของความเปลี่ยนแปลงคือ ‘การใช้ชุมชนเป็นฐาน’ และรวมพลังการเรียนรู้ผ่าน “พื้นที่กลาง” ที่ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นพื้นที่ทางใจ ที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างปลอดภัยและเท่าเทียมกัน มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเป็นสาธารณะ และเปิดให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาครัฐ เอกชน และชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน เพราะการเรียนรู้ที่แท้จริงจะเริ่มจากชีวิตจริงของผู้คน และเมื่อครอบครัว ชุมชน และระบบการศึกษามาเชื่อมโยงกันได้ การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่เพียงเพื่อให้คน “เรียนรู้” แต่เพื่อให้ “เติบโต” ไปพร้อมกับสังคมที่ก้าวทันโลก”
ส่วนหนึ่งจาก “เวทีสังเคราะห์และสรุปบทเรียนการทำงานระดับภูมิภาค (ภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก)” ภายใต้โครงการหนุนเสริมทางวิชาการ ติดตาม สังเคราะห์และถอดบทเรียนทุนส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2567-2568 เมื่อวันที่ 4-5 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แบงคอก โดยงานดังกล่าวเป็นการเปิดพื้นที่เพื่อการแลกเปลี่ยนบทเรียน สังเคราะห์ความรู้และเรียนรู้ร่วมกัน นำโดยนายโชคชัย ลิ้มประดิษฐ์ อนุกรรมการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาเยาวชนและแรงงานนอกระบบ กสศ. คณะผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. พร้อมด้วยหน่วยจัดการเรียนรู้ 12 แห่ง ทีมหนุนเสริมทางวิชาการภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ทีมหนุนเสริมวิชาการโครงการฯ


#กสศ. #กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
#สร้างโอกาส #สร้างงาน #สร้างชุมชน #ชุมชนเป็นฐาน
#ทุนส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน
#แรงงานนอกระบบ #เยาวชนนอกระบบการศึกษา
#ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ #ผู้ด้อยโอกาส

#การเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น

ที่อยู่

106/1 หมู่ 7 ต. ปลายโพงพาง อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
จ. สมุทรสงคราม
75110

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 17:00
อังคาร 08:30 - 17:00
พุธ 08:30 - 17:00
พฤหัสบดี 08:30 - 17:00
ศุกร์ 08:30 - 17:00
เสาร์ 09:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สร้างสรรค์ปัญญา Creative Intelligence Co.,Ltd.ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์