17/10/2025
วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ปสก.ทำโรบอทเทรด ให้ทุกคนที่สนใจ ลองไปตัดสินใจกันครับว่าถ้าอยากทำโรบอท จะเริ่มจากโปรแกรมไหนดี
ก่อนอื่นเลย โรบอทเทรดในที่นี้ นิยามคือ การที่สร้างระบบเทรดขึ้นมา แล้วให้ระบบส่งคำสั่งอัตโนมัติ
ซึ่งจริงๆ มีหลายโปรแกรมมากที่ทำได้ เช่น amibriker VBA MT4 MT5 python และอื่นๆ
แต่จะมีปัญหาสุดคลาสสิคที่ผม และคนอื่นๆน่าจะเจอกัน คือ ข้อมูล นั่นเอง หลายๆครั้งเวลาที่ทำระบบเทรด การขาดข้อมูลไปก็จะทำได้ยาก เหมือนการมีห้องทำอาหาร อุปกรณ์ไรมีหมดเลย แต่ไม่มีวัตถุดิบ มันก็สร้างอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าโปรแกรมไหนไม่มีข้อมูลให้ต้องจ่ายตังเพิ่มถึงจะได้ข้อมูลมา
ผมขอเหมารวมเลยแล้วกัน คนส่วนใหญ่ที่มักสร้างโรบอท มักจะเป็นสายเทคนิคอล เนี่ยแหละครับ ข้อมูลที่ใช้ก็มักจะเป็นพวก open high low close volume ส่วนใครที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกขึ้น เช่น bid offer หรือพวกงบการเงิน อาจจะต้อเสียเงินเพิ่ม หรือต้องดิ้นรนหาข้อมูลเอง โดยการต่อ API อีกที
🌟ดังนั้นจะเริ่มใช้โปรแกรมอะไร ก็ให้ดูด้วยว่าเป้าหมายเราจะเอาไปทำอะไร 🌟
🌱มาเริ่มกันที่ MT5
เกริ่นก่อนว่าตอนแรก ผมได้ฝึกการเขียน MT4 ก่อน เนื่องจากภาษามันตายแล้ว และมีคนสอนเยอะ เพราะมีมานาน ตอนนั้นไปดูจากยูทูปเอา แล้วเห็นว่ามีคนสอน mt4 เยอะกว่า mt5 ก็เลยเรียนจากนี่ก่อน
แต่พอเวลาผ่านไป เริ่มมาใช้ MT5 ปุ้ป โอ้โห้ เปลี่ยนโลก มันทำอะไรได้มากกว่า MT4 เยอะมาก แถมภาษาการเขียนบางส่วนได้ต่างไปด้วย ถ้าให้เลือกระหว่าง MT4 MT5 ผมเชียร์ MT5 ครับ
🌱ข้อดีที่ผมชอบ
-เขียนระบบเทรดปุ้ปสามารถนำมา BACK TEST ได้ทันทีเลย และทำ optimization ได้ด้วย ต่างจาก MT4 จะทำไม่ได้
-พอ optimal เสร็จ ก็เอามาติดตั้งใช้งานจริงได้ทันทีอีก ซึ่งจะมีการเก็บ stat ข้อมูลที่ละเอียดกว่า MT4
-ผมแอบไปสอบถามมา พวก quant หลายคนก็ยังใช้ และวาง bot ใน MT5 อยู่ ซึ่งจะมีคนเขียนระบบเทรด และอินดิเคเตอร์มากมายที่เราสามารถเอามาใช้งานได้
-มีฟังก์ชั่นเรียกอินดิเคเตอร์ และที่นิยมใช้มาให้แล้ว ไม่ต้องสร้างเอง
🌱ข้อเสีย
-ข้อมูลขึ้นอยู่กับโบรคที่ต่อ ซึ่งมักไม่มีข้อมูลงบการเงินให้
-ทำโมเดลสถิติระดับสูงยาก สู้ไปใช้ python ตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า
-เวลาตอน back test กับตอนทดสอบจริง เวลาเข้าออเดอร์จะแลปกันนิดหน่อย ถ้าใครสายกินสเปด ทำได้ยาก
🌱เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการสร้างระบบที่ซับซ้อนมากนัก และครบจบในที่เดียว เช่น ระบบที่ใช้ rsi sto เป็นแกนหลักในการสร้างระบบเทรด หรือเอาไปวาง grid งี้ก็พอแล้ว
✨ส่วน python
เริ่มมาจากว่าผมอยากจะจำลองการการระบบเทรด โดยดึงงบการเงินเข้ามาใช้ด้วย แต่สุดท้ายปัดตกไป เพราะมันเริ่มต้องใช้เงินซื้อข้อมูล
✨ข้อดี
-สามารถเชื่อมต่อ API ส่งคำสั่ง ดึงข้อมูลต่างๆได้ดี
-มีคนสอน python เยอะเหมือนกัน แต่ถ้าสร้างระบบเทรดจะน้อยลงมาอีก
-เอาข้อมูลบางอย่าง ไปทำโมเดลคณิตได้ เอามาใช้ในการเทรด machine learning ต่างๆ
-เอามาสร้างระบบเทรดที่ซับซ้อนได้ เช่นการทำ arbitrage
-สามารถเอาข้อมูลมากกว่า ohlcv มาคำนวณได้
-เชื่อมไปเทรดอื่นๆได้เยอะ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ forex คริปโต
✨ข้อเสีย
-ควรมีพื้นฐานเขียนโค้ดมาระดับหนึ่ง ถ้ามาแบบไม่รู้อะไรเลย จะเรียนรู้ช้ากว่า
-ต้องเข้าใจพื้นฐานที่ชัดเจนว่าแต่ละอย่างคำนวณยังไง เพราะเราต้องสร้างเอง
-เวลารันบอทจะใช้พื้นที่เยอะกว่า มีหลายขั้นตอน หลายโปรแกรม เวลาว่างบน VPS จะทำงานหนักกว่า MT5 เพียวๆ
-ไม่มีระบบ optimization ให้ แต่เราสามารถทำ monte carlo simulation ได้555
-สามารถเก็บข้อมูลที่ละเอียดกว่าได้เช่น bid offer เพราะปกติ bid offer ข้อมูลต่อ 1 วินาที มีหลายตัว และมันจะเป็นภาระ
✨เหมาะกับใคร
คนที่มีพื้นฐานเขียนโค้ดบ้างแล้ว ไม่ก็คนที่ต้องการเรียนรู้แล้วเอาไปต่อยอดสูงๆได้ เรียนครั้งเดียวใช้ได้ตลอด