TN4N LIVE

25/04/2025

ราชวงศ์แห่งภูฏานและไทยมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยหลายครั้ง ทั้งการเสด็จฯ เยือนอย่างเป็นทางการ และเป็นการส่วนพระองค์

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสานพระราชปณิธาน ในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับราชอาณาจักรภูฏาน โดยทรงมีพระราชสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก นอกจากนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ของภูฏาน ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทยอีกหลายครั้ง ซึ่งเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์ ที่ใกล้ชิดของไทยและภูฏาน

ในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ นี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับคำทูลเชิญด้วยความปีติยินดียิ่ง การเสด็จพระราชดำเนินเยือนในครั้งนี้จะเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมือ อันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางพระราชไมตรีระหว่างสองพระราชวงศ์แล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพ และความเข้าใจอันดีระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชน ให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปในทุกระดับ นับเป็นความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของทั้งสองราชอาณาจักร

#เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏาน
#การเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชสมัย
#เสด็จพระราชดำเนินเยือนภูฏาน #ไทยภูฏาน

12/10/2024

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 141 ตอนพิเศษ 281 ง
เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พ้นจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2567

ประกาศ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2567

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี

#ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
#กิตติ์รัฐพันธุ์เพ็ชร์
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

05/10/2024

#ตุลาแล้วไปไหนดี ? ...
ไปชมบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย
ณ พื้นที่ 6 อำเภอ
📍อำเภอเมืองหนองคาย
ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2567
📍อำเภอโพนพิสัย
ระหว่างวันที่ 16-25 ตุลาคม 2567
📍อำเภอรัตนวาปี
ระหว่างวันที่11-17 ตุลาคม 2567
📍อำเภอท่าบ่อ
วันที่ 16 ตุลาคม 2567
📍อำเภอศรีเชียงใหม่
ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2567
📍อำเภอสังคม
ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2567
🐉วันที่17 ตุลาคม 2567 ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคตลอดแนวริมโขงอำเภอโพนพิสัยและอำเภอรัตนวาปี
🎉เทศกาลงานบุญสุดอลังการ
🎉ตระการตาไปกับการแสดงแสง สี เสียง การแสดงศิลปะ วัฒนธรรม ลุ่มน้ำโขง และกิจกรรม อื่นๆอีกมากมาย
#ประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลกจังหวัดหนองคายประจำปี2567

24/09/2024

องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดงานใหญ่!!

อบจ.บึงกาฬ แถลงข่าว เตรียมจัดงาน “13 ปี เปิดประตูสู่นครนาคา ออกพรรษาบึงกาฬ” ประจำปี 2567 อย่างยิ่งใหญ่
ค่ำวันที่ 24 กันยายน 2567 ณ ถนนข้าวเม่าริมแม่น้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม ภายใต้ชื่องาน “13 ปี เปิดประตูสู่นครนาคา ออกพรรษาบึงกาฬ” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2567 โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานแถลงข่าว นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายวินัย โตเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัด นายสมหวัง อารีย์เอื้อ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายกริชชัย ศิลปะรายะ ท้องถิ่นจังหวัด นายพุทธาสิทธิ์ จันทร์เต็ม ประชาสัมพันธ์จังหวัด พ.ต.อ.นาคิน พลโยธา ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัด นายบุญเพ็ง ลามคำ ประธานหอการค้าจังหวัด นายธนาพงศ์ แสนสุภา รองนายก ทม.บึงกาฬ นายบุญมา พันดวง บุญมาทีวี ดร.นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชนและประชาชนร่วมแถลงข่าว
การแถลงข่าววันนี้เป็นการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้การจัดงาน "13 ปี เปิดประตูสู่นครนาคา ออกพรรษาบึงกาฬ" และเชิญชวน ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งการจัดงานออกพรรษาจังหวัดบึงกาฬในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2567 ณ บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง อำเภอเมืองกาฬ จังหวัดบึงหวัดบึงกาฬ
ด้านวัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายด้านการท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(พ.ศ. 2561-2580) ด้านที่ 2 การสร้างความสามารถในการแข่งขัน และยุทธศาสตร์ การพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้อันเกิดจากธุรกิจการท่องเที่ยว ให้แก่ ประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน ภายในจังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวในเขตจังหวัดบึงกาฬ ให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รู้จักอย่างกว้างขวาง เพื่อเป็นโอกาสให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมสืบสานประเพณีศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ของจังหวัดบึงกาฬให้คงอยู่สืบไป
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดเต้นบาสโลบการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น ของเยาวชนจากสถาบันการศึกษาจังหวัดบึงกาฬ การประกวดธิดานาคาบึงกาฬ การประกวดพานบายศรี การออกร้านค้าสินค้าโอทอป การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อาทิ มนต์แคน แก่นคูณ เพชร สหรัตน การแสดงของคณะหมอลำที่มีชื่อเสียง มีคณะระเบียบวาทะศิลป์ เอ อนุชา เด้าฟ้าปี้น และคณะเสียงวิหกนพพงศกร กิจกรรมการไหลเรือไฟโบราณ และไหลประที่ปพุทธบูชา
นายจุมพฏ วรรณฉัตรศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่มีการเก็บเงินทั้งสิ้นฟรีหมดทุกอย่าง หมอลำหรืองานดนตรีต่างๆฟรีหมด กิจกรรมในปีนี้ค่อนข้างเยอะ แต่บอกเลยว่ากันจัดงานครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวบึงกาฬที่จะมีประเพณีออกพรรษา อยากทำให้ชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬในฐานะเป็นมหานครนาคา เป็นที่รู้จักขจรขยายไปทั่วประเทศไทย เมื่อปีที่แล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวอยู่ที่แปนแสนคน เชื่อว่าปีนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวถึงหลักล้านคนขึ้น เป็นการสร้างชื่อเสียงให้มากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้และเศรษฐกิจมากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาจังหวัดบึงกาฬที่จะมีแลนด์มาร์คในบริเวณจัดงานต่อไปในอนาคต จึงขอฝากพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และปีต่อๆไปงานวันออกพรรษาก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง
นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่านไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ส่วนราชการ ซึ่งผู้ว่าได้ให้ความสำคัญในการจัดงานออกพรรษาปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 ริเริ่มจัดงานปี 2565 ในขณะที่เราเป็นผู้บริหารอบจ.เรามีโอกาสได้บริหาร โอกาสเรื่องการท่องเที่ยว ปากท้อง การกระจายรายได้ของชาวบึงกาฬ การแสดงออกความพร้อมความสามัคคีของชาวบึงกาฬ ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นทางสื่อมวลชน และก็สมาชิกสภาจังหวัด นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ก็มาร่วมด้วยงานด้วย งานที่จะมีขึ้นนี้จะบ่งบอกได้ว่าชาวบึงกาฬรอคอย นักท่องเที่ยวลงหมายไว้เป็นปฏิทินท่องเที่ยว ทราบมาว่าโรงแรมเต็มหมด จากสถานการณ์น้ำท่วมด้วยแล้วเราเสียโอกาสตรงที่พอดูข่าวอาจจะเป็นข่าวที่มันเกินความเป็นจริงไปบ้างทำให้นักท่องเที่ยวที่เขามีปฏิทินท่องเที่ยวว่าจะมาเที่ยวบึงกาฬน้ำตกถ้ำพระมีสไลเดอร์ทางธรรมชาติซึ่งที่อื่นไม่มีต่างก็ยกเลิกปฏิทินท่องเที่ยวไปตรงนั้นซึ่งเราเองชาวบึงกาฬสถานการณ์น้ำท่วมไม่ได้รุนแรงขนาดต้องยกเลิก ห้วงเวลาได้คลี่คลายไปเยอะแล้วอีก 20 กว่าวัน น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายลงแล้วทุกคนอยากมาเที่ยวบึงกาฬ อันนี้คือเจตนาของอบจ.บึงกาฬ เราส่งเสริมตรงนี้ไม่ว่าจะสถานการณ์ที่ทำให้ทุกคนต่างตกใจว่าบึงกาฬน้ำท่วมเรอเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเราอยู่นะที่นี่ว่าไม่ได้หนักหนาว่าต้องยกเลิกท่องเที่ยวไป วันนี้มีงานออกพรรษามาถือว่าเป็นการชดเชย ทุกคนก็ที่จะมาชมงานครั้งนี้
จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมงานกัน อันเป็นความภาคภูมิใจของชาวบึงกาฬที่จะมีประเพณีออกพรรษา ดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้และเศรษฐกิจ ควบคู่กับการพัฒนาจังหวัดบึงกาฬที่จะมีแลนด์มาร์คในบริเวณจัดงานต่อไปในอนาคต โดยมี ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาดังกล่าว

06/09/2024

ศูนย์รวมข่าวภาค๔
ขอแสดงความเสียใจ และอาลัยยิ่ง
ประวัติ
พล.ท.อำนวย จุลโนนยาง อดีตผบ.มทบ.24.....................
เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พันเอก อำนวย จุลโนนยาง รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๔ จังหวัดอุดรธานี
พลตรี อำนวย จุลโนนยาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๔ เป็นบุตรของคุณพ่อนวน จุลโนนยาง และ คุณแม่ใหม จุลโนนยาง เกิดที่บ้านบึงโน ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ในวัยเด็กได้มาอาศัย เติบโตและเข้ารับการศึกษาที่จังหวัดอุดรธานี และอาศัยในจังหวัดอุดรธานีจนถึงปัจจุบัน
ประวัติครอบครัว
ได้สมรสกับคุณ มลิวัลย์ เสนีย์นันท์ เมื่อปี ๒๕๒๗ มีบุตรธิดา จำนวน ๓ คน คือ นายเอกภาพ จุลโนนยาง (เอก) นางสางอรวรรณ จุลโนนยาง (อุ๋มอิ๋ม) และนางสาวอัญชลี จุลโนนยาง (อ้อม)
ประวัติการศึกษา
ชั้นประถมศึกษา โรงเรียนค่ายประจักษ์ศิลปาคม ชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล รุ่นที่ หนึ่งสี่หนึ่งเจ็ด (1417) โรงเรียนนายสิบทหารบก รุ่นที่ ๘ โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ ๑๙ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ ๓๐ เหล่าทหารราบ หลักสูตรหลักประจำ โรงเรียนเสนาธิการทหาร ชุดที่ ๗๐ ปี ๒๕๓๔ ปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี
ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี
ตำแหน่งที่สำคัญ
บรรจุรับราชการครั้งแรก ในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ ๔ กรมทหารราบที่ ๘ จังหวัดเลย ( เมื่อ ๑ ก.พ.๒๖) นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุงจังหวัดทหารบกเลย (เมื่อ ๒ ต.ค.๓๕) หัวหน้ากองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ( เมื่อ ๒๙ ก.ค.๔๖) เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ ๒๕ (เมื่อ ๒๖ พ.ค.๕๒) รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย (เมื่อ ๑๗ เม.ย.๕๗ ) และ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘
พลโท อำนวย จุลโนนยาง ท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารงาน บริหารหารหน่วย อย่างเป็นระบบและรูปธรรม ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหน่วย พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ดูแลสวัสดิการข้าราชการขั้นผู้น้อย และการช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง จนเป็นที่ศรัทธาชื่นชม ของประชาชนขาวจังหวัดเลย ท่านเป็นนายทหารนักพัฒนา มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และกำลังพลชั้นผู้น้อย เป็นผู้มีมิตรสัมพันธ์ เป็นผู้ประสานงาน และนักบูรณาการในการปฏิบัติงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติ สมกับที่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับรางวัลคนดีศรีอุดร ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๗
ผลงานที่สำคัญ
-เป็นผู้ประสานงานเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาและกำกับดูแล ในการประสานงานและอำนวยการสร้างอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ ให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี ทั้ง ๔ เขตจำนวน ๖ อาคาร และอาคารกายภาพบำบัด โรงพยาบาลสมเด็จพยุพระราชสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ โดย คุณชนะ สิงสัจจกุล และคณะ ชาวไทยซิกข์ จากกรุงเทพมหานคร รวมมูลค่ากว่า ๓๐ ล้านบาท
- เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ของจังหวัดเลยในปี ๒๕๕๘ จนเกิดผลสัมฤทธิ์
- ร่วมแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดเลย อย่างเป็นรูปธรรม
- การแก้ปัญหาความขัดแย้งเหมืองแร่ทองคำ ระหว่า บริษัททุ่งคำจำกัด กับกลุ่มรักบ้านเกิด อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย จนคลี่คายด้วยดี
- การแก้ปัญหาผู้ค้าเร่รายย่อยสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดเลย จนสามารถเข้าสู่ระบบของทางภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๘ เป็นต้นมา

ท่านมีตั้งใจ และความมุ่งมั่น ที่จะนำหน่วย ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก
บัดนี้...ท่านพร้อมแล้ว ที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาวอุดรธานี ซึ่งเป็นเสมือนบ้านเกิด เมืองนอน ที่ท่านรัก และหวงแหน........................................
Cr.....จ.สิทธิพล mc24

04/09/2024

ตำรวจภูธรภาค4 แถลงยึดยาบ้า16 กระสอบ ของกลางกว่า 7ล้านเม็ด
(วันที่ 4 ก.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยพล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พล.ต.ต.วิญญู อำนวยสมบัติ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ของกลางยาบ้า 7ล้านเม็ด
สืบเนื่องจากตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนตรวจยึดยาบ้า 16 กระสอบกว่า 7 ล้านเม็ดมูลค่ากว่า 200 ล้านถูกลำเลียงข้ามน้ำโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะขับรถกระบะบรรทุกยาบ้าผ่านมาตามถนนภายในสวนยางพารา สวนทางกับ จนท.ที่ออกลาดตระเวนติดตามหารถหายช่วยชาวบ้าน จึงจอดทิ้งในสวนยางเผ่นหนีไปกับความมืด จนท.กำลังปิดล้อมออกตามจับกุม
เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 1 ก.ย.นายคมกฤต นวภักดีบุญทอง นายอำเภอบุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ไดรับแจ้งจาก นายทวี สาลือชา ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองคังคา หมู่ที่ 4 ตำบลหนองเดิ่น ว่ารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ คาวาซากิ รุ่น เคอา สีน้ำเงิน ของนางสำรวย หนองเทา บ้านเลขที่ 129 หมู่ที่ 4 ได้ถูกลักขโมยไป จึงได้สั่งการให้ นายภาคิน ไชยะราช ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน พร้อมพวกช่วยออกติดตามหา มีนายกิตติศักดิ์ ลืออำนาจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) นายมนูญ แดนนาสาร ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) นายอรุณ พระสงค์ราช ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)ออกลาดตระเวนตามหารถจักยานยนต์ที่สูญหาย และได้แจ้งประสานเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ของสถานีตำรวจภูธรบ่งคล้า โดยมี ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ กดสุริย์ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน ร้อยเวร 20 ต.ต.โสภณ อะโคตรมี และ ส.ต.อ.พรมริน ศรีมุงคุณ ร่วมออกตรวจลาดตระเวนเพื่อค้นหารถจักรยานยนต์ที่สูญหาย
กระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.ได้พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับสวนทางมา พอมาใกล้จะสวนทางกันรถยนต์คันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าไปในซอย แล้วจอดรถทิ้งโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์แบบมีพิรุธ ทุกคนก็รู้ว่าไม่ใช่รถคนในพื้นที่ จึงขับรถตามไปดูจะสอบถาม เห็นดังนั้นคนขับได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีไปกับความมืด เป็นรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ 4ประตู สีเขียว ทะเบียน 1ขฮ 7300 กรุงเทพมหานคร ตรวจดูข้างในรถมีกระสอบถุงพลาสติดสีดำคลุมทับข้างนอกวางอยู่ในเบาะด้านหลังและที่กระบะท้ายรถที่มีผ้าคลุมก็พบกระสอบชนิดเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง นับรวมกันได้ทั้งหมด16 กระสอบแกะออกมาดูพบเป็นกระสอบบรรจุยาบ้าคาดว่าจะมีทั้งหมด ประมาณ 7 ล้านเม็ด มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท จนท.สันนิษฐานว่า ยาบ้าลอตใหญ่ดังกล่าวคงจะถูกลำเลียงไปส่งยังภาคกลางหรือภาคใต้ของประเทศไทย แต่คนขับมาตื่นรถ จนท.ที่ออกตรวจพบโดยบังเอิญดังกล่าว จึงทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเป็นยาเสพติดประเภท เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จริงหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดมาว่า ตรวจพบกล้องวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง พบกลุ่มผู้ต้องหามาด้วยกัน 2 คน โดยจอดรถในลานจอด คนขับเปิดประตูรถลงมาซื้อของ สวมใส่กางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อแขนสั้นลายขาว-ดำ พอรู้ชื่อที่อยู่แล้วโดยถูกจับกุมแล้ว1รายที่สถานีขนส่งอุดรธานีแห่งที่ 1 ส่วนอีก1ราย ฝ่ายสืบสวนติดตามมาดำเนินคดีต่อไป.

04/09/2024

เปิดรายชื่อ ครม.แพทองธาร 1 หลังราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี
#ครมแพทองธาร1 #คณะรัฐมนตรี

27/08/2024

ผู้ว่าบึงกาฬ พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง

วันที่ 26 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกอบจ.บึงกาฬ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง จำนวน 4 จุด คือ
จุดที่ 1 บริเวณลานพญานาคริมแม่น้ำโขง ต.ปากคาด อ.ปากคาด
จุดที่ 2 จุดวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง สถานี kh100 บ้านพันลำ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองกาฬ
จุดที่ 3 บริเวณเขื่อนป้องกันการสูญเสียแผ่นดิน ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ
จุดที่ 4 ประตูระบายน้ำห้วยกำแพง ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ ระดับน้ำแม่น้ำโขงวัดได้ 12.11 ม. ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.89 ม. (ตลิ่งสูง 14.00 ม.) จากจุดวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง สถานี kh100 บ้านพันลำ ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที

18/08/2024

นายกฯ สัญญา ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเป็นโอกาสของคนไทยทุกคน
วันนี้ (18 สิงหาคม 2567) เวลา 11.00น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงแก่สื่อมวลชนภายหลังรับสนองพระบรมราชโองการ โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน ที่ได้ให้ความไว้วางใจให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
นายกฯ ให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด พร้อมขอบคุณ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทุ่มเทแรงกายทำเพื่อประเทศชาติตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ตนพร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ
สัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ ทุกความหลากหลาย ไม่แบ่งแยก มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาสเป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนมีความฝัน มีความคิดที่สร้างสรรค์และการที่กำหนดอนาคตของตัวเอง
#ไทยคู่ฟ้า #สื่อสารรัฐบาลไทย
-------------------
👍Website : www.thaigov.go.th
👍Facebook/ X : ไทยคู่ฟ้า
👍YouTube : ไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
👍LINE/TikTok : ไทยคู่ฟ้า ()
👍Instagram : ไทยคู่ฟ้า ()

18/08/2024

พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
แต่งตั้งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
วันที่ 18 สิงหาคม 2567

18/08/2024

📣 เริ่มแล้วจ้า !!!!

🛺✨“สามล้อเรืองแสง...เลาะแลง แยงเมืองหนองคาย”

📍🕡มีบริการทุกวัน เวลา 18.00-21.00 น.
ค่าบริการเที่ยวละ 300 บาท/คัน

☎️ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม :
- สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.หนองคาย โทร. 091-0606781
- สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.หนองคาย โทร. 089-4184393
- ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว จ.หนองคาย โทร. 042-421326

10/08/2024

การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้สินชุมชน

1. การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ: กองทุนหมู่บ้านให้สมาชิกกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าแหล่งเงินกู้นอกระบบ ช่วยลดภาระดอกเบี้ยและโอกาสการเป็นหนี้นอกระบบของชาวบ้าน

2. การปรับโครงสร้างหนี้: หลายกองทุนมีโครงการช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้สมาชิกที่มีปัญหาการชำระหนี้ เช่น การขยายระยะเวลาชำระหนี้ หรือลดอัตราดอกเบี้ย

3. การส่งเสริมการออม: กองทุนหมู่บ้านส่งเสริมให้สมาชิกมีการออมเงิน ช่วยสร้างวินัยทางการเงินและลดโอกาสการเป็นหนี้ในอนาคต

4. การให้ความรู้ทางการเงิน: มีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการบริหารการเงินแก่สมาชิก เพื่อให้สามารถจัดการรายรับรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. การสนับสนุนการประกอบอาชีพ: กองทุนให้เงินกู้เพื่อการลงทุนประกอบอาชีพ ช่วยเพิ่มรายได้และลดโอกาสการเป็นหนี้

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และยังมีความท้าทายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

#กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง #แก้ไขปัญหาหนี้สินชุมชน ่น #กรมประชาสัมพันธ์ #ข่าวภาค4

10/08/2024

10/08/2024

ขอนแก่น กองทุนหมู่บ้านมั่นคงชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567
เวลา 09:00 น.
ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ (ชั้น2)
ศูนย์ประชุมอเนคประสงค์กาญจนาภิเษค
มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ติดตามได้ที่ :
PRD1 ขอนแก่น
NBT11 ทีวีอีสาน
สถานีวิทยุกระจายเสียง
แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น

06/08/2024

กรมทางหลวง เร่งก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ คืบหน้ากว่า 94% เพื่อส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ของปี 68
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ตามนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร้รอยต่อ ในการตอบสนองต่อความต้องการด้านการขนส่งสินค้าและการสัญจรของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและสปป.ลาว นั้น ซึ่งปัจจุบันงานถนนส่วนใหญ่ทั้งฝั่งไทยและถนน และด่านพรมแดนในฝั่ง สปป.ลาว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการงานสะพานก่อสร้างข้ามแม่น้ำโขง โดยโครงการมีผลการดำเนินงานภาพรวมคืบหน้ากว่า 94.05% (ข้อมูลเดือน ก.ค. 67)
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปอีกว่า โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ มีระยะทางของสะพานและถนนโครงข่ายรวม 16.340 กิโลเมตร แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 5 ตอน ฝั่งไทย 3 ตอน และฝั่ง สปป.ลาว 2 ตอน ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และ เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว โดยแนวเส้นทางในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นโครงการแยกจากทางหลวงหมายเลข 222 ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อสายสำคัญ ระหว่างจังหวัดสกลนคร และ จังหวัดบึงกาฬ โดยสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก (East-West Economic Corridor - EWEC) ไปยังท่าเรือน้ำลึก ที่เมืองวุงอ่าง และเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ในส่วนแนวเส้นทางฝั่ง สปป.ลาว จะเชื่อมต่อกับถนนหมายเลข 13 ต่อไปยังถนนหมายเลข 8 ซึ่งเป็นเส้นทางจาก สปป.ลาว ไป เมืองวินห์ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม และเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนทางตอนใต้ ผ่านทางหลวงอาเซียนหมายเลข 1 (AH1) ประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการการแล้วเสร็จจะช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้พัฒนาไว้แล้วของแต่ละประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดการเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือที่สำคัญในภูมิภาค สามารถลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองประเทศในเวทีโลก โดยคาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ของปี 68

31/07/2024

ระวัง ⚠ มิจฉาชีพ
แอบอ้าง logo โรงพัก
หลอกโอนเงิน
⬇
⬇
⬇

🔊เนื่องจาก สภ.ภูพิงค์ฯ ได้รับแจ้งจากประชาชนหลายรายว่าได้มีมิจฉาชีพแอบอ้างใช้โลโก้ ของ สภ.ภูพิงค์ฯ สร้างไลน์ปลอมขึ้นมาแล้วนำไปหลอกลวงประชาชนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางกฏหมายและให้โอนเงินเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวให้กับมิจฉาชีพ
🚨🚨🚨ทาง สภ.ภูพิงค์ฯ ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาดทาง สภ.ภูพิงค์ฯไม่มีการส่งข้อความหรือให้ประชาชนแอดไลน์หรือกดลิ้งค์ วีดิโอคอล โอนเงิน รหัสส่วนตัว OTP และเอกสาร ใดๆ ทั้งสิ้น หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อ สภ.ภูพิงค์ฯ โดยตรง
โทร 053-211750 ครับ
#ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน

30/07/2024

มรดกเรา มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ล่าสุดของประเทศไทย 🎉

🏛️ UNESCO ได้ประกาศรับรองให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 5 ของไทย อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ในชื่อ “มรดกโลกทางภูมิทัศน์วัฒนธรรม ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี” ถือเป็นมรดกโลกลำดับที่ 8 ของไทย โดยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 5 ของไทย และเป็นลำดับที่ 2 ของอุดรธานี ถัดจากมรดกโลกบ้านเชียง

🪔 อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูพาน บ้านติ้ว ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นอุทยานทางธรณีวิทยาที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศที่มีโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นหินทราย ถูกการกัดกร่อนทางธรรมชาติทำให้เกิดเป็นเพิงโขดหินน้อยใหญ่รูปร่างต่าง ๆ ทั้งยังปรากฎร่องรอยอารยธรรมของมนุษย์และหลักฐานเกี่ยวกับผู้คนในอดีต ที่เวียนเปลี่ยนกันมาใช้พื้นที่แห่งนี้มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ราว ๆ 3000 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน

🍃 บริเวณอุทยานฯ มีสถานที่โดดเด่นน่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ "หอนางอุสา" โขดหินโดดเด่นเป็นสง่าขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายเห็ดบนลานหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีการปักใบเสมาหินขนาดใหญ่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ถ้ำและเพิงหินที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณอุทยานฯ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่พำนักของมนุษย์ในยุคหิน และได้มีการเขียนรูปต่าง ๆ ไว้ พบมากบริเวณ "ลานหินโนนสาวเอ้" ที่มีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติเป็นเพิงหินต่าง ๆ มีภาพเขียนสีโบราณตามจุดต่าง ๆ ทำให้มนุษย์รุ่นหลังได้จินตนาการผูกเรื่องขึ้นเป็นตำนานพื้นบ้าน เรื่อง “นางอุสา-ท้าวบารส” ที่เชื่อมโยงไปยังเพิงหินบริเวณใกล้เคียง เช่น กู่นางอุสา คอกม้าท้าวบารส วัดลูกเขย วัดพ่อตา ถ้ำพระ นอกจากนี้ ยังพบหินทรายจำหลักพระพุทธรูปศิลปะทวารวดีที่เพิงหินวัดพ่อตาและเพิงหินวัดลูกเขย และชิ้นส่วนของหลักเสมา (สีมา) ที่เป็นวัฒนธรรมอันโดดเด่นแห่งยุคทวาราวดี ที่ยังคงอยู่และปรากฏสู่สายตาถึงยุคปัจจุบัน ถือเป็นคุณค่าแห่งมรดกทางวัฒนธรรมจนถูกประกาศเป็นมรดกโลกในปี 2567

📌ภายในอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ภายในอาคารจัดทำเป็นนิทรรศการถาวร แสดงถึงพัฒนาการด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเชื่อ และศาสนาของผู้คนในพื้นที่ภูพระบาทและบริเวณใกล้เคียง แบ่งเป็น 6 หัวข้อ 1. ธรรมชาติบนภูพระบาท ให้ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ พืชพันธุ์และสัตว์ป่า โดยเฉพาะพืชพันธุ์ใหม่ของโลกที่ค้นพบบนภูพระบาทแห่งเดียวเท่านั้น คือ ต้นครามอุดร และต้นมุกอุดร 2. ธรณีวิทยาแห่งเทือกเขาภูพาน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับธรณีสัญฐานของทิวเขาภูพระบาท 3. ภูพระบาทภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ให้ข้อมูลการนับถือศาสนาพุทธที่ปรากฏบนภูพระบาท เช่น การดัดแปลงเพิ่งหินธรรมชาติเป็นพุทธสถานและพระพุทธรูปศิลปกรรมผสมระหว่างศิลปะทวารวดีและศิลปะขอมโบราณ 4. ห้อง Mixed Reality Room แสดงข้อมูลด้านโบราณคดีผ่านสื่้อผสมเทคโนโลยีความจริงเสมือน เป็นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ 5. ห้องพระเกจิอาจารย์สำคัญของภาคอีสาน ให้ข้อมูลประวัติหลักธรรมคำสอนของพระเกจิรูปสำคัญของภาคอีสาน 6. ห้องชาติพันธุ์ไทพวน ให้ข้อมูลด้านชาติพันธุ์ไทพวน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักของอำเภอบ้านผือ ที่ตั้งภูพระบาท ซึ่งอพยพย้ายถิ่นจากฟากฝั่งของลาวมายังฝั่งสยามในประวัติศาสตร์ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์และลงหลักปักฐานอยู่อาศัยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

📞นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท โทร. 0 4225 1350-2 เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00–16.30 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก อุทยานประวัติศาตร์ภูพระบาท และ tourismthailand.org

**มีการงดเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชม ตั้งแต่ วันนี้-12 สิงหาคม 2567**

28/07/2024

ถ่ายทอดสดการเสด็จออกมหาสมาคมทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ....