เคาะข่าวออนไลน์

เคาะข่าวออนไลน์ ข่าวเพื่อประชาชน ทั่วโลก

สยามลวดเหล็กฯ และ ที เอส เอ็น ไวร์ ผนึกกำลัง ร่วมส่งต่อของใช้ เพาะกล้าไม้ และปล่อยพันธุ์ปูทะเล ฟื้นฟูชายฝั่งระยองบริษัท ...
04/07/2025

สยามลวดเหล็กฯ และ ที เอส เอ็น ไวร์ ผนึกกำลัง ร่วมส่งต่อของใช้ เพาะกล้าไม้ และปล่อยพันธุ์ปูทะเล ฟื้นฟูชายฝั่งระยอง
บริษัท สยามลวดเหล็กอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท ที เอส เอ็น ไวร์ จำกัด ร่วมจัดกิจกรรม “โครงการส่งต่อของเหลือใช้ เพาะกล้าไม้คืนผืนป่า” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและร่วมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชายฝั่งอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้านการบริโภคอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ระบบนิเวศ และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การรวบรวมของเหลือใช้ที่ยังอยู่ในสภาพดีจากพนักงาน เช่น เสื้อผ้า หนังสือ ตุ๊กตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิสวนแก้วผ่านโครงการ “3ช 3ใช้ – คุณไม่ใช้ เราขอ” และกิจกรรมการเพาะกล้าไม้ป่าชายเลน พร้อมปล่อยพันธุ์ปูทะเลคืนสู่ธรรมชาติ โดยร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน ณ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญด้านทรัพยากรทางทะเลของจังหวัดระยอง
บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน สยามลวดเหล็กฯ และ ที เอส เอ็น ไวร์ จึงมุ่งมั่นส่งเสริมกิจกรรมที่มีคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างโลกที่น่าอยู่และเติบโตเคียงคู่ธรรมชาติอย่างสมดุลในระยะยาว

บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกกำลัง SCGC ศึกษาโมเดลธุรกิจใหม่ ปฏิวัติวงการคลังสินค้าห้องเย็นด้วย CHILLOX โซลูชันประหยัดพลังงานบริ...
02/07/2025

บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกกำลัง SCGC ศึกษาโมเดลธุรกิจใหม่
ปฏิวัติวงการคลังสินค้าห้องเย็นด้วย CHILLOX โซลูชันประหยัดพลังงาน

บริษัทบี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM และบริษัทเท็กซ์พลอร์ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจ SCGC ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ มุ่งต่อยอดและขยายตลาด CHILLOX (ชิลล็อกซ์) โซลูชันประหยัดพลังงานสำหรับคลังสินค้าห้องเย็น ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทำความเย็น รวมถึงการนำโซลูชัน CHILLOX ไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการการรักษาอุณหภูมิให้คงที่และมุ่งเน้นเรื่องการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชันธุรกิจอุตสาหกรรมบริษัทบี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บี.กริม เพาเวอร์ ได้ร่วมมือกับ เท็กซ์พลอร์ ในกลุ่มธุรกิจ SCGC มาอย่างยาวนาน โดยประสบความสำเร็จในหลายโครงการที่ผ่านมา สำหรับในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างสององค์กร ซึ่งเชื่อมั่นว่า ศักยภาพในด้านเทคโนโลยีและโซลูชัน CHILLOX ของเท็กซ์พลอร์ เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการพลังงานของ บี.กริม เพาเวอร์ แล้ว จะสามารถผลักดันโซลูชันใหม่ ๆ สู่ตลาดได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ”

ด้าน ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการและนวัตกรรม เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) เผยว่า “SCGC มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี พร้อมทั้งนวัตกรรมและโซลูชันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรมคลังสินค้าห้องเย็น โดยนำโซลูชันของ CHILLOX มาลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่อาศัยพลังงานในการรักษาความเย็น เช่น ระบบขนส่งสำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิของสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศร้อนในภูมิภาคต่าง ๆ เป็นต้น โดยโซลูชันดังกล่าว จะช่วยลดค่าพลังงานให้กับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยผลักดันอุตสาหกรรมสู่ยุคเศรษฐกิจสีเขียว และสังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม”

ตลาดวันสุข@ PTT Auto One เนินสำลีวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 14.00 น.เข้าสู่ช่วงปลายฤดูของผลไม้ระยอง ...
01/07/2025

ตลาดวันสุข@ PTT Auto One เนินสำลี
วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 14.00 น.
เข้าสู่ช่วงปลายฤดูของผลไม้ระยอง คัดคุณภาพมาให้เลือกซื้อได้ตามชอบ
พร้อมทั้งมีอาหารคาวและหวาน มาให้ช๊อปด้วยนะ
พิเศษ !!!
เมื่อซื้อสินค้าครบ 200 บาท หรือ น้ำขวดพลาสติกจำนวน 50 ใบ มาร่วม Recycle ภายในงาน
ลุ้นรับของรางวัล (ของมีจำนวนจำกัด)
แล้วพบกันนะ...

SPRC ร่วมสนับสนุนเยาวชนสืบสานวรรณกรรมไทยในงาน“วันสุนทรภู่ กวีโลก” ครั้งที่ 54 จังหวัดระยองระยอง, 26 มิถุนายน 2568 – บริษ...
30/06/2025

SPRC ร่วมสนับสนุนเยาวชนสืบสานวรรณกรรมไทยในงาน
“วันสุนทรภู่ กวีโลก” ครั้งที่ 54 จังหวัดระยอง

ระยอง, 26 มิถุนายน 2568 – บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ร่วมส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมไทยผ่านการสนับสนุนงาน “วันสุนทรภู่ กวีโลก” ครั้งที่ 54 ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2568 ณ อนุสาวรีย์สุนทรภู่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

SPRC ได้มอบงบประมาณสนับสนุนจำนวน 30,000 บาท เพื่อจัดอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 300 คน รวมถึงคณะครูและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกว่า 75 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมการประกวดและแข่งขันทางวิชาการเกี่ยวกับประวัติและผลงานของสุนทรภู่ รวมถึงการประกวดแต่งกลอน ซึ่งเป็นเวทีเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ และความรักในวรรณกรรมไทย

การมีส่วนร่วมในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SPRC ในการส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่ต่อไป

"Thailand Smart Money 2025" บุกระยอง! ขนทัพสถาบันการเงิน-การลงทุน จัดโปรแรง เอาใจคนอยากออม-อยากลงทุน Thailand Smart Mone...
28/06/2025

"Thailand Smart Money 2025" บุกระยอง! ขนทัพสถาบันการเงิน-การลงทุน จัดโปรแรง เอาใจคนอยากออม-อยากลงทุน

Thailand Smart Money 2025 เดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่อง สู่จังหวัดระยอง เมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 27–29 มิถุนายน 2568 ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง โดยภายในงานขนทัพสถาบันการเงินและการลงทุนชั้นนำ มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษเพื่อชาวระยอง ภายใต้แนวคิด "ลงทุนให้ใช่ ใช้ชีวิตให้ชัวร์ ในงานนี้"

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น.นายอนุสรณ์ แสงกล้า นายอำเภอเมืองระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ให้เกียรติเดินทางมาร่วมเปิดงาน Thailand Smart Money 2025 ที่ ชั้น 1 เซ็นทรัล ระยอง
นายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานเครือ หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ย ในฐานะประธานจัดงาน เปิดเผยว่า เทศกาลการเงินและการลงทุน Thailand Smart Money 2025 เดินสายต่อเนื่องจากจังหวัดจันทบุรี มาถึงจังหวัดระยอง ศูนย์กลางการผลิตและอุตสาหกรรมของประเทศ รวมถึงเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ใน EEC ซึ่งเป็นกำลังหลักในการชับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPPP) ปี 2566 อยู่ที่ 1,050,952 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวสูงสุดปี 2567 อยู่ที่ 1,003,497 บาทต่อปี ซึ่งสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย (ข้อมูลจาก สศช.)
"จังหวัดระยองถือเป็นอีกหนึ่งเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคตะวันออก มีทั้งประชากรในพื้นที่และ
ประชากรแฝงจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงางานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงิน การลงทุน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลตอบแทนค้มค่าการส่งเสริมความรู้เหล่านี้จึงเป็นภารกิจสำคัญ เพื่อวางรากฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับพื้นพื้นที่อุตสกรรมชั้นนำของประเทศ" นายรัฐกร กล่าว
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ มีสถาบันการเงินชั้นนำ ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน
ระกันชีวิต และประกันภัย มาร่วมออกบูธและให้คำปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร พร้อ
พิเศษเฉพาะในงาน ได้แก่ เงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ จากธนาคารออมสินที่มีเฉพาะในงานเท่านั้น, สลากออม
ทรัพย์ ลุ้นรางวัลสูงสุด 70 ล้านบาท, ซื้อประกันในงาน รับเลย Samsung Galaxy, iPhone, iPad, Apple
Watch และทองคำแท่ง, สินเชื่อบ้านเริ่ม 1.89% ต่อปี, Refinance เริ่ม 1.45% ต่อปี, สินเชื่อธุจวงเงินกู้สูงสุด
100 ล้านบาท, ทรัพย์ NPA ลดแรง ลดสูงสุด 70%, บัตรเครดิต-เดบิต และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย (เงื่อนไขตามกำหนด)
ไฮไลต์สำคัญอีกหนึ่งกิจกรรม คือ เสวนาพิเศษ "สลาก กอช." ทางเลือกใหม่ของการออม จากองทุน
การออมแห่งชาติ ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลา 15.00-15.35 น. โดยจะให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์สลาก กอซ. เงื่อนไขการเข้าร่วม และการใช้เป็นเครื่องมือในการออมระยะยาว
ชาวระยองและจังหวัดใกล้เคียงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ฟรี พร้อมรับกระเป้าใส่แก้วน้ำรักษ์
โลก และของที่ระลึกอื่น ๆ อีกมากมาย พบกับกิจกรรมส่งเสริมความรู้ทางการเงินตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่
27-29 มิถุนายน 2568 ณ ชั้น 1 เซ็นทรัล ระยอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https:/www.facebook.com/smartmoneyevent
Smart Money 2025
#หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ย #ออมสิน #ธกส. #กสิกรไทย #กรุงไทย #เทศกาลการเงินและการลงทุน

“จากต้นกล้าสู่รากแก้วแห่งการอนุรักษ์”Dow ปลุกพลังเยาวชนผ่านค่าย ‘Child-Len’ เรียน รักษ์ ป่าชายเลน27 มิถุนายน 2568  ณ ป่า...
27/06/2025

“จากต้นกล้าสู่รากแก้วแห่งการอนุรักษ์”
Dow ปลุกพลังเยาวชนผ่านค่าย ‘Child-Len’ เรียน รักษ์ ป่าชายเลน

27 มิถุนายน 2568 ณ ป่าชายเลนปากน้ำประแส จังหวัดระยอง ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดของจังหวัดที่เคยถูกบุกรุกจากนากุ้งในอดีต บัดนี้กลับเขียวขจีและกลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติแสนพิเศษ สำหรับเด็กมัธยมต้นกว่า 80 คน จาก 4 จังหวัดภาคตะวันออก ในค่ายเยาวชน เรียน รักษ์ ป่าชายเลน “Child-Len Mangrove Education Camp” ปีที่ 2 ภายใต้โครงการภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance) ผ่านการปลูกฝังความเข้าใจและความสำคัญของระบบนิเวศป่าชายเลน ที่กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ได้ร่วมกับพันธมิตรปลูกฝังแนวคิดและมุ่งสร้างพลังเยาวชนให้เป็นต้นกล้าแห่งการเปลี่ยนแปลง

นางภรณี กองอมรภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่องค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เปิดเผยว่า Dow ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะเยาวชนควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ค่ายเยาวชนนี้จึงสะท้อนพันธกิจของบริษัทในการต้านโลกร้อน เปลี่ยนขยะเป็นผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมวงจรรีไซเคิล ซึ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะบทบาทการดูแลและฟื้นฟูป่าชายเลน แหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญของประเทศช่วยลดโลกร้อนกว่าป่าบกได้ถึง 5 เท่า และดักกรองขยะจากบกไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน

ทั้งนี้ ค่ายได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2568 โดย Dow ร่วมกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) มูลนิธิโลกสีเขียว และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยกิจกรรมตลอด 3 วัน ไม่ได้จำกัดอยู่ในห้องเรียน แต่กระจายตัวอยู่ทั้งบนชายหาดและกลางป่าโกงกาง อาทิ กิจกรรม “จับคู่ ปู ปลา นก” เพื่อเรียนรู้ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับถิ่นที่อยู่ ล่องเรือศึกษาเส้นทางธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวประมง ปลูกต้นโกงกางและเก็บขยะชายฝั่งเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ เยี่ยมชมศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและอาชีพสีเขียวจากวิสาหกิจชุมชนบ้านทะเลน้อยระยองฮิ และร่วมเวิร์กช็อปการสื่อสารสิ่งแวดล้อม เพื่อฝึกคิด วางแผน และสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ โดยปิดท้ายด้วยกิจกรรมระดมความคิด “Child-len ชายเลน ใช่เล่น ผ่านเลนส์พวกเรา” ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ในรูปแบบที่สะท้อนความเข้าใจของตนเอง พร้อมมอบประกาศนียบัตรเป็นแรงใจในการเป็นกระบอกเสียงของธรรมชาติในอนาคต
“Dow เชื่อมั่นในพลังของเยาวชนที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เราจึงออกแบบกิจกรรมนี้ให้พวกเขาได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ลงมือปฏิบัติ และมองเห็นบทบาทของตนเอง ค่ายนี้จะจุดประกายให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าของธรรมชาติด้วยสายตาตนเอง สัมผัสด้วยมือ สื่อสารด้วยใจ แล้วเปลี่ยนเป็นพลังแห่งการอนุรักษ์ จากต้นกล้าแห่งความรู้และแรงบันดาลใจในค่ายนี้ Dow เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้าใจธรรมชาติ เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม และพร้อมจะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ดีขึ้นในแบบที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” นางภรณี กล่าว

นายกันตภณ สุขสงค์ นายอำเภอแกลง กล่าวว่า “ระยองเป็นจังหวัดที่ธรรมชาติหล่อเลี้ยงผู้คนมายาวนาน เราต้องส่งต่อความรู้ ความหวงแหน ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจ และลงมือปกป้องผืนป่าเหล่านี้ไว้ ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง แต่ตัวเด็ก ๆ เองก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน พวกเขาจะเริ่มตั้งคำถามถึงวิถีชีวิต การใช้ทรัพยากร และมองเห็นถึงความสำคัญของป่าชายเลน ในการเป็นแนวกันชนทางธรรมชาติ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นรากฐานของวิถีชีวิตชุมชนชายฝั่ง การที่เยาวชนได้มาเรียนรู้ เข้าใจ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ จะช่วยต่อยอดให้เกิดการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องจากคนในพื้นที่จริง ๆ ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น เราต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้ป่าชายเลนยังคงอยู่ และเติบโตเป็นมรดกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป”

Dow มีบทบาทสำคัญในการดูแลป่าชายเลนปากน้ำประแสมานานกว่า 16 ปี โดยปลูกป่าไปแล้วประมาณ 30,000 ต้น ส่งเสริมการคัดแยกและเก็บขยะบริเวณชายหาดและในป่าชายเลนปีละกว่า 8 ตัน พัฒนาอาชีพและวิสาหกิจชุมชน จัดประกวดภาพถ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และพัฒนาโครงการปลูกป่าเพื่อคาร์บอนเครดิต ซึ่งเปิดโอกาสให้คนในชุมชนร่วมปลูก ดูแล และได้รับประโยชน์ร่วมกัน ภายใต้กรอบโครงการภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance) ที่ริเริ่มโดย Dow และได้รับการยกระดับเป็นเครือข่ายระดับชาติภายใต้การนำของ ทช. โดยมีองค์กรเข้าร่วมกว่า 90 แห่ง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Dow ในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ถึงแม้โฮมสเตย์เล็ก ๆ ที่เด็ก ๆ พักอาจไม่สะดวกสบายเท่าโรงแรม แต่กลับอบอวลด้วยความอบอุ่นจากชาวบ้าน อาหารพื้นถิ่น และภาพทะเลในยามเช้าที่กลายเป็นบทเรียนชีวิตล้ำค่า ค่าย Child-Len ไม่ได้เพียงพาเด็ก ๆ มาดูธรรมชาติ แต่ได้พาพวกเขามา “เข้าใจ” ธรรมชาติ และกลับออกไปพร้อมแรงบันดาลใจที่พร้อมจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่แห่งการอนุรักษ์ในวันข้างหน้า บทเรียนจากค่ายนี้ อาจไม่ใช่เรื่องวิชาการตามตำรา แต่เป็นเมล็ดพันธุ์ความรู้สึกบางอย่างที่ค่อย ๆ ฝังลงในหัวใจของเยาวชน และในไม่ช้ามันจะงอกเงยขึ้นมาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่โลกใบนี้

อีสท์ วอเตอร์ ชำระคืนหุ้นกู้ 1,200 ล้านบาทเรียบร้อยตามกำหนด ทั้งยังแจ้งผลการจัดอันดับเครดิตโดยสถาบันในและต่างประเทศในระด...
26/06/2025

อีสท์ วอเตอร์ ชำระคืนหุ้นกู้ 1,200 ล้านบาทเรียบร้อยตามกำหนด ทั้งยังแจ้งผลการจัดอันดับเครดิตโดยสถาบันในและต่างประเทศในระดับแข็งแกร่ง สะท้อนธุรกิจที่ดีน่าลงทุน
บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด มหาชน หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ชำระคืนหุ้นกู้จำนวน 1,200 ล้านบาท ได้อย่างครบถ้วนตามกำหนด ขณะที่การจัดอันดับเครดิต จาก “Japan Credit Rating (JCR)” และ “TRIS Rating” ในระดับ A- แนวโน้ม Stable ยังคงสะท้อนระดับธุรกิจในกลุ่มน่าลงทุนระดับดี (Investment Grade)
นายบดินทร์ อุดล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการชำระคืนหุ้นกู้ 1,200 ล้านบาทที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ตามที่ได้วางแผนไว้ สะท้อนความสามารถในการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ ส่วนผลการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ระยะยาวที่ระดับ “A– แนวโน้มคงที่ (Stable)” ซึ่งเป็นการประเมินจากผู้จัดอันดับเครดิตทั้งของไทยและระดับสากล สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่อยู่ในระดับดี ความสามารถในการชำระหนี้ที่น่าเชื่อถือ การดำเนินธุรกิจที่มีเสถียรภาพ และการมีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ดังนั้นเชื่อมั่นว่าในปี 2568 นี้บริษัทจะมี EBITDA ที่เติบโตขึ้นจากปีก่อนได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยศักยภาพของระบบท่อส่งน้ำที่สร้างใหม่ รวมกับโครงข่ายท่อส่งน้ำเดิม มีความยาว 553 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดของ EEC ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการน้ำในแนวเส้นท่อ ด้วยแหล่งน้ำหลัก 8 แห่ง แหล่งน้ำสำรอง 3 แห่ง และแหล่งน้ำฉุกเฉิน 2 แห่ง สถานีสูบน้ำ 18 แห่ง และสถานียกระดับน้ำอีก 6 แห่ง ทำให้มั่นใจได้ว่า อีสท์ วอเตอร์ มีศักยภาพและความพร้อมในการบริหารห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ให้กับลูกค้าทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคอุปโภคบริโภคได้อย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

BST ผนึก ทสจ.ระยอง ออกบูธ "ทอดไม่ทิ้ง" หนุนเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมยั่งยืนบริษัท กรุงเทพ ซิ...
25/06/2025

BST ผนึก ทสจ.ระยอง ออกบูธ "ทอดไม่ทิ้ง" หนุนเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมยั่งยืน

บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด (BST) นำโดยคุณบุษบา บุญมั่น ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร และทีม CSR ร่วมออกบูธนำเสนอโครงการ "ทอดไม่ทิ้ง" (การจัดการน้ำมันใช้แล้วในครัวเรือน) ภายใต้โครงการส่งเสริมการดำรงชีวิตแนวใหม่ตามแนวทางขับเคลื่อนโมเดลเศรฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง (ทสจ.ระยอง) และหน่วยงานเอกชน ให้กับเครือข่ายเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อม จำนวน 4 โรงเรียน ณ อาคารรองรับนักท่องเที่ยว อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

ภายในงาน BST ได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของการทิ้งน้ำมันทอดใช้แล้วอย่างไม่เหมาะสม และประโยชน์ของการนำน้ำมันดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่ผ่านโครงการ "ทอดไม่ทิ้ง" โดยมีตัวแทนจาก BST ร่วมให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามจากน้องๆ เยาวชนอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากเครือข่ายเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยน้องๆ ได้แสดงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตนเอง การออกบูธนำเสนอโครงการ "ทอดไม่ทิ้ง" ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BST ในการส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และการสร้างเครือข่ายเยาวชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศต่อไปในอนาคต

BST "มุ่งมั่นความปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมอยู่คู่ชุมชน"
#ทอดไม่ทิ้ง

🌈มาเป็นครอบครัวเดียวกัน กับ BST
Website: https://www.bst.co.th/
Facebook : https://web.facebook.com/BangkokSynthetics
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/bangkok-synthetics-co-ltd-/

PTTLNG ลงนามความร่วมมือกับโรงพยาบาลวังจันทร์ ขับเคลื่อนโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ -สนับสนุนการใช้พลังง...
24/06/2025

PTTLNG ลงนามความร่วมมือกับโรงพยาบาลวังจันทร์ ขับเคลื่อนโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ -สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับโรงพยาบาลวังจันทร์ จังหวัดระยอง ในโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารโรงพยาบาล เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
พิธีลงนามจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลวังจันทร์ โดยมีนายวิศานต์ แก้วประสม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด และนายแพทย์ภัทรนนท์ บุณยอุดมศาสตร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังจันทร์ เป็นผู้แทนร่วมลงนาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน
ภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ PTTLNG จะให้การสนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ขนาดกำลังผลิต 40 กิโลวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 23.7 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าของโรงพยาบาลในระยะยาว

นายวิศานต์ แก้วประสม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด กล่าวว่า “PTTLNG มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมในพื้นที่ที่เราดำเนินธุรกิจ การสนับสนุนโรงพยาบาลวังจันทร์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดพร้อมสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนโดยรอบ”
ทางด้านนายแพทย์ภัทรนนท์ บุณยอุดมศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้รับการสนับสนุนจากบริษัท PTTLNG ในครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโรงพยาบาลวังจันทร์ โดยเฉพาะในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบพลังงานไฟฟ้า และการลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถจัดสรรทรัพยากรไปพัฒนาศักยภาพด้านการรักษาพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น”

โครงการดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 และจะสามารถเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้งานจริงได้ภายในต้นปี 2569

1 ปี ที่โฮมโปร ชวนเปลี่ยนบ้านให้รักษ์โลก ด้วยนวัตกรรม “เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก” ร่วมกับ SCGCย้ำความสำเร็จของการขับเคลื่อ...
23/06/2025

1 ปี ที่โฮมโปร ชวนเปลี่ยนบ้านให้รักษ์โลก
ด้วยนวัตกรรม “เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก” ร่วมกับ SCGC
ย้ำความสำเร็จของการขับเคลื่อนแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

โฮมโปร ผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการเรื่องบ้าน และเป็นรายแรกในไทยที่ขับเคลื่อนการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร พร้อมด้วย เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์และโซลูชันครบวงจรเพื่อความยั่งยืน ร่วมกันเดินหน้าขยายความสำเร็จ “โครงการเครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลกจากพลาสติกรีไซเคิล” ซึ่งดำเนินมาต่อเนื่องตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค มีลูกค้านำสินค้าเก่ามาร่วมโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” (Trade-in) กว่า 200,000 ชิ้น

สะท้อนถึงความตื่นตัวในการเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับอนาคตของโลก โครงการฯ ดังกล่าว มุ่งสร้างสินค้าและบริการที่ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ด้วยการจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าอย่างถูกวิธี เพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างปลอดภัยและผลิตเป็นสินค้ารักษ์โลกตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยต้นปี 2568 นี้ เปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลกจากแบรนด์ชั้นนำต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2573 เพิ่มสัดส่วนขายสินค้ารักษ์โลกเป็น 20% จากยอดขายสินค้าทั้งหมด เพื่อมุ่งยกระดับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามแนวคิด Make Every Change A Better Life
นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เผยถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน ของโฮมโปร และ ‘เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC’ พันธมิตรผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์และโซลูชันครบวงจร ผ่านความร่วมมือพัฒนา Circular Products หรือผลิตภัณฑ์หมุนเวียน โดยเฉพาะ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก’ ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 ด้วยการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าจากบ้านลูกค้า ในโครงการ ‘แลกเก่าเพื่อโลกใหม่’ ไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในระบบปิด (Closed-Loop) เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality PCR Resin) ภายใต้แบรนด์ SCGC GREEN POLYMER และนำมาผลิตเป็นสินค้ารักษ์โลกจากวัสดุหมุนเวียนหลากหลายประเภทที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เช่น ตู้เย็นรักษ์โลก Haier พัดลมรักษ์โลก Venz เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก Stiebel Eltron

ในปี 2568 โฮมโปร และ SCGC ได้เดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลกกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วงต้นปีนี้ ได้มีการพัฒนาตู้เย็นและเครื่องซักผ้ารักษ์โลก Samsung เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก Mazuma รวมถึงเครื่องซักผ้ารักษ์โลก Toshiba ความร่วมมือกับ SCGC ถือเป็นการช่วยสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนตามแนวคิด Make Every Change A Better Life และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้โฮมโปรกลายเป็นค้าปลีกรายแรกในไทย ที่ขับเคลื่อนการรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าและขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร (First Retailer Making Waste Electrical and Electronic Equipment (WEEE) to Closed Loop Circular Appliances)

“ความสำเร็จเหล่านี้ ได้กระตุ้นให้เรามุ่งมั่นจะเดินหน้าเพิ่มสินค้ารักษ์โลกจากวัสดุหมุนเวียนร่วมกับแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ต่อเนื่องในอนาคต โดยโฮมโปรตั้งเป้าหมายจำหน่ายสินค้ารักษ์โลกจากวัสดุหมุนเวียน (Circular Products) ขยายเป็นสัดส่วน 20% จากยอดขายสินค้าทั้งหมด ภายในปี 2573” นายวีรพันธ์ กล่าว

ด้าน นายชาตรี เอี่ยมโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพาณิชย์ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) กล่าวว่า “SCGC ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนมาโดยตลอด ตามแนวทาง ‘Low Waste, Low Carbon’ โดยนำพลาสติกในเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าจากความร่วมมือกับโฮมโปร เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ได้มาตรฐานระดับสากล GRS (Global Recycled Standard) เพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality PCR Resin) ที่นำไปผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่จากวัสดุหมุนเวียน (Circular Products) ซึ่งเทคโนโลยีของ SCGC สามารถออกแบบให้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงมีคุณสมบัติเฉพาะทาง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน โดยยังคงคุณภาพ มีความปลอดภัย มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน และรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จึงเหมาะกับการนำไปประกอบในชิ้นส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภท ความร่วมมือนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดปริมาณขยะ สร้างคุณค่าใหม่ให้พลาสติกใช้แล้ว พร้อมยังตอบโจทย์ธุรกิจและเจ้าของแบรนด์สินค้า รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน”

“ตลาดวันสุข” ครั้งแรก ณ ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ระยอง  เวทีสร้างโอกาส สร้างรอยยิ้ม และเชื่อมโยงใจสู่สังคมบริษัท พีทีที โกลบ...
23/06/2025

“ตลาดวันสุข” ครั้งแรก ณ ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ระยอง เวทีสร้างโอกาส สร้างรอยยิ้ม และเชื่อมโยงใจสู่สังคม

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมกับ ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จังหวัดระยอง ร่วมกันจัดกิจกรรม “ตลาดวันสุข” ขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 28 – 29 มิถุนายน 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 14.00 น. ณ บริเวณทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้ชุมชนโดยรอบ รวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดระยอง ได้นำผลิตภัณฑ์และสินค้าชุมชนที่มีความโดดเด่นมาจำหน่ายแก่ประชาชนที่เข้ามาท่องเที่ยวทัณฑสถานฯ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งตรงกับเสาร์-อาทิตย์สุดท้ายของเดือน

นอกจากจะเป็นการสร้างช่องทางรายได้ให้กับชุมชนแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสสัมผัสสังคมภายนอก เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับคืนสู่สังคมต่อไปอีกด้วย

กิจกรรมพิเศษในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 มีดังนี้

09.29 น. ขบวนพาเหรดเปิดตลาด
11.00 น. การแสดงความสามารถจากน้องๆ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กจังหวัดระยอง
13.00 น. กิจกรรมเวิร์กชอปจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง (เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)

“สมาคมเพื่อนชุมชน” ปูทางอนาคตระบบสาธารณสุขระยองมอบทุนต่อเนื่อง สร้างพยาบาล-บุคลากรสาธารณสุข รุ่นใหม่     ในยุคที่ความเหล...
21/06/2025

“สมาคมเพื่อนชุมชน” ปูทางอนาคตระบบสาธารณสุขระยอง
มอบทุนต่อเนื่อง สร้างพยาบาล-บุคลากรสาธารณสุข รุ่นใหม่

ในยุคที่ความเหลื่อมล้ำทางโอกาสการศึกษาและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขยังคงเป็นประเด็นใหญ่ในหลายพื้นที่ “สมาคมเพื่อนชุมชน” ได้ก้าวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญของจังหวัดระยอง ด้วยการมอบทุนการศึกษาเพิ่มเติมรวม 12 ทุน ให้กับเยาวชนที่มีความฝันอยากเป็นบุคลากรด้านสาธารณสุข ภายใต้โครงการ “สนับสนุนทุนการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต” และโครงการ “สนับสนุนทุนการศึกษาด้านสาธารณสุข ในความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง มหาวิทยาลัยบูรพา สมาคมเพื่อนชุมชน และมูลนิธิตากสินระยอง” พร้อมดึง 14 นักเรียนทุนผู้สำเร็จการศึกษาในปีนี้ กลับมารับใช้ชุมชนบ้านเกิดของตนเอง ในโรงพยาบาลรัฐทั่วจังหวัดระยอง ถือเป็นการต่อยอดแรงบันดาลใจของเยาวชน ให้กลายเป็นกำลังสำคัญของระบบสุขภาพไทยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 สมาคมเพื่อนชุมชน ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือ (MoU) โครงการ “สนับสนุนทุนการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต” กับเทศบาลนครมาบตาพุด สถาบันพระบรมราชชนก วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี และมอบทุนพยาบาลศาสตรบัณฑิต จำนวน 4 ทุน ทุนละ 280,000 บาท ตลอดหลักสูตรรวมเป็นเงิน 1,120,000 บาท ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขนครมาบตาพุด (ตึก M) ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาในโครงการนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสุขภาพของคนในพื้นที่เทศบาลนครมาบตาพุด ต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 สมาคมเพื่อนชุมชน ยังได้จัดโครงการ “สนับสนุนทุนการศึกษาด้านสาธารณสุข ในความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง มหาวิทยาลัยบูรพา สมาคมเพื่อนชุมชน และมูลนิธิตากสินระยอง” (เฟส 2 รุ่นที่ 2) รวม 8 ทุน ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ 5 ทุน และคณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิชากายภาพบำบัด 3 ทุน ทุนละ 280,000 บาท ตลอดหลักสูตรรวมเป็นเงิน 2,240,000 บาท ณ อาคารปูทะเลย์มหาวิชชาลัย ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง เพื่อสานฝัน ปั้นน้อง เตรียมพร้อมบุคลากรโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง นับตั้งแต่ปี 2564 มีนักเรียนได้รับทุนแล้วกว่า 81 ทุน รวมเป็นมูลค่ากว่า 21,880,000 บาท

นายทศพร บุณยพิพัฒน์ นายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า “ระยอง” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการขยายตัวของชุมชนและภาคอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ความต้องการบุคลากรทางการแพทย์จึงสูงขึ้นตาม ขณะที่โรงพยาบาลในสังกัด อบจ. ระยอง รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่เทศบาลนครมาบตาพุด หรือแม้กระทั่งระบบบริการสาธารณสุขทั่วทั้งจังหวัด ยังขาดแคลนและมีความต้องการบุคลากรด้านสาธารณสุขอีกจำนวนมาก การวางรากฐานตั้งแต่ระดับมัธยมปลายจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งโครงการนี้ได้กลายเป็น “สะพานโอกาส” ที่เชื่อมเด็กที่มีฝันกับระบบสุขภาพในปัจจุบันที่ต้องการพลังของคนรุ่นใหม่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่บ้านเกิดอย่างมีประสิทธิภาพ

“เรามองเห็นว่า การศึกษาโดยเฉพาะในสายวิชาชีพด้านสาธารณสุข เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนชีวิตคน และเปลี่ยนแปลงชุมชนได้ในระยะยาว เด็กที่ได้ทุนไม่เพียงเรียนรู้ทักษะเฉพาะทาง แต่ยังได้เรียนรู้การกลับมาเป็นกำลังสำคัญของบ้านเกิด นี่คือสิ่งที่เราภูมิใจอย่างยิ่งในความร่วมมือนี้” นายทศพร กล่าวถึงเจตนารมณ์ของโครงการฯ

ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา สมาคมเพื่อนชุมชนยังเคยมอบทุนด้านการพยาบาล ในความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองรวมแล้วกว่า 440 ทุน โดยผู้รับทุนส่วนใหญ่กลับมาทำงานในโรงพยาบาลรัฐ 9 แห่ง รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ครอบคลุม 8 อำเภอ ของจังหวัดระยอง ให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขได้กว่า 300,000 คน นับเป็นตัวอย่างของความสำเร็จที่จับต้องได้ในการพัฒนาสุขภาพของชุมชนด้วยพลังของการศึกษา สำหรับผู้ที่สนใจทุนการศึกษาในปีถัด ๆ ไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก สมาคมเพื่อนชุมชน

“สมาคมฯ ยังมุ่งสานต่อตามเจตนารมณ์ของโครงการที่ว่า เราต้องการให้คนในชุมชนมีสุขภาพดี ผ่านระบบบริการที่ครอบคลุม รวดเร็ว และมีคุณภาพ โครงการนี้จึงไม่ใช่แค่การมอบทุน แต่เป็นการลงทุนในคน เพื่อให้พวกเขากลับมาเติมเต็มระบบสุขภาพในบ้านเกิด เป็นการสร้างความยั่งยืนทั้งในระดับปัจเจกและระดับชุมชน ภายใต้แนวคิด บ้านเราน่าอยู่...สังคมยั่งยืน” นายทศพร กล่าวทิ้งทาย

สมาคมเพื่อนชุมชน หรือ CPA (Community Partnership Association) ต้นแบบความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของ 5 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จ. ระยอง ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดย 5 บริษัทผู้ก่อตั้ง ได้แก่ กลุ่ม ปตท. กลุ่มเอสซีจี โรงไฟฟ้า บีแอลซีพี กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กลุ่มจีพีเอสซี ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมากว่า 15 ปี โดยเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างระยองให้เป็นเมืองเชิงนิเวศ ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ควบคู่ไปกับการประกอบธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ อุตสาหกรรม ชุมชน อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
#สมาคมเพื่อนชุมชน #พยาบาล #บุคลากรสาธารณสุข #สาธารณสุขไทย

ที่อยู่

2/255 ถ. โขดหิน-เขาไผ่ ต. เนินพระ อ. เมือง
อ. เมือง
21150

เบอร์โทรศัพท์

+66800565240

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เคาะข่าวออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เคาะข่าวออนไลน์:

แชร์