
20/06/2025
*** #สาระน่ารู้ #เห็ดโคน หรือ #เห็ดปลวก #สร้างรายได้ ช่วง #วสันตฤดู ชาวบ้านขยันเข้าป่าหาเห็ด และ #เพาะเห็ดโคนขาย
"เห็ดโคน" หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า "เห็ดปลวก" เป็นเห็ดที่ขึ้นอยู่ในป่า แถวจอมปลวก ซึ่งหาและหารับประทานกันได้ยาก จึงมีราคาขายค่อนข้างที่จะสูงพอสมควร สมัยก่อนยังไม่มีวิธีเพาะปลูกเห็ดโคนกันได้ ชาวบ้านจึงต้องออกไปหาเก็บเห็ดกันในป่าธรรมชาติ มารับประทานกันเท่านั้น กอปรกับเห็ดโคน เป็นเห็ดที่ขึ้นเฉพาะในบางจังหวัดเท่านั้น เช่นที่ จังหวัดราชบุรี, เพชรบุรี จังหวัดกาญจนบุรี, อุทัยธานี, และกำแพงเพชร โดยเห็ดโคน หรือเห็ดปลวกออกมาก ในจังหวัดกาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, และกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่มีสภาพแวดล้อม และมีอุณหภูมิที่ร้อนชื้น สภาพอากาศที่เหมาะสม เพราะอยู่ใกล้ป่าเขาลำเนาไพร คือ เทือกเขาถนนธงชัย และเทือกเขาตะนาวศรี ทอดตัวยาวลงไปทางใต้ สุดเขตแดนสยาม ทางด้านทิศตะวันตก ระหว่างประเทศไทย กับ ประเทศเมียนมาร์ (พม่า)
เห็ดโคน หรือเห็ดปวกนั้น ถ้าหากไม่ได้รับการเพาะเลี้ยง จะออกดอกเองโดยธรรมชาติ เพียงในช่วง วสันตฤดู หรือฤดูฝน ราวเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม และเห็ดโคนจะมีช่วงของฤดูในการออกดอก เพียงปีละครั้ง และในระยะเวลาที่สั้น ๆ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เห็ดโคนนั้นหายาก และมีราคาซื้อขายกันค่อนข้างที่จะสูง ก็เพราะว่า เห็ดโคนเป็นเห็ดที่มีวงจรชีวิตสั้น ใช้เวลาออกดอกอยู่ได้เพียง ๓-๕ วัน ก็จะเหี่ยวเฉาไป ฉะนั้นแล้ว เห็ดโคน หรือเห็ดปลวก หลังเมื่อถูกเก็บมา จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ เสื่อมสภาพลงไปตามธรรมชาติ และค่อนข้างที่จะเร็วมาก จากในสภาพที่เป็นเห็ดโคนสด ที่เพิ่งเก็บมา จะสดอยู่ได้เพียง ๕-๖ ช.ม. ภายในระยะเวลา ๒-๓ ช.ม. เห็ดโคนก็จะเริ่มเหี่ยวเฉาและเน่าเสียไปในที่สุด
เห็ดโคน หรือเห็ดโคนป่า และหรือเห็ดปลวก จะสามารถงอกงามขึ้นมาได้นั้น ต้องมีพื้นที่ ๆ มีความเหมาะสม และมีพื้นที่ในการเจริญเติบโตที่จำกัด เนื่องจากต้องเป็นพื้นที่ ๆ มีอุณหภูมิ ความร้อนชื้นสัมพะทธ์ที่เหมาะสม หรือในที่ดิน ที่อยู่ใกล้จอมปลวก หรือรังปลวก ในบริเวณนั้น พื้นดินจึงมีอุณหภูมิความชื้นที่เหมาะสม ความชื้นในดินต้องมีเพียงพอ เห็ดโคนจึงจะเกิดขึ้น ประเทศไทยเรา มีเห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ขึ้นเพียงไม่กี่จังหวัด ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ฉะนั้นแล้วในพื้นที่ ๆ มีเห็ดโคนออกดอกเจริญงอกงาม หากใครเข้าไปในป่าพบเห็ดโคน ก็มักที่จะปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้ผู้ใดได้ล่วงรู้ (foresee) เพราะเกรงว่าผู้อื่นหากรู้แหล่ง ก็จะตามเข้าไปแย่งเก็บกันมาบริโภค หรือเก็บมาจำหน่ายขายกันในท้องตลาด
เห็ดโคนหรือเห็ดปลวก จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมาก และมีราคาที่ค่อนข้างที่จะสูงพอสมควร เพราะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคโดยทั่วไป เห็ดโคนป่าจึงมีราคาที่ค่อนข้างแพง และเห็ดที่มีราคาแพง ที่สุดในโลก คือ "เห็ดทรัฟเฟิล" (Truffle) สีขาว ที่หายากกว่าสีดำ และมีราคาที่สูงถึงกิโลกรัมละ 168 ดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับเงินสกุลไทย ๖,๑๗๕.๖๘ บาท
ลักษณะโดยทั่วไป ของเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก รูปร่างลักษณ์ภายนอก (appearance) ที่สังเกตุเห็นดูได้ คือ คลายกับมีหมวกคลอบ ตอสีขาว คือ ดอกของเห็ดโคนส่วนบน จะมีรูปทรงบาน ลักษณะแบบกระทะคว่ำ หรือ คล้ายร่มที่กางออก มียอดที่เรียวแหลม (slender) เฉลี่ยโดยทั่วไปแล้วเห็ดโคนป่า จะมีขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ตั้งแต่ ๒-๓๐เซนติเมตร ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของดิน และขนาดของดอกเห็ดโคน ส่วนสีของหมวกเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก ดอกมักจะมีสีน้ำตาล, น้ำตาลปนดำ, และหรือสีน้ำตาลปนแดง ในส่วนของบริเวณปลายยอดหมวกของเห็ดโคนป่า ก้านดอกหรือลำต้นมีสีขาวนวล
ดอกของเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก จะมีลักษณะหลายรูปแบบ มีทั้งแบบหมวกดอกยอดปลายแหลม และหมวกปลายยอดดอกมนโค้ง แต่ลักษณะส่วนใหญ่ของเห็ดโคน ในประเทศไทย มักจะพบแบบปลายหมวก หรือปลายดอกที่แหลม รูปทรงจั่วคล้ายร่มที่กางออกเล็กน้อย ที่เหมาะสำหรับการแทงยอดดอก ให้โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นผิวดิน ส่วนพื้นผิวของดอกเห็ดอาจเรียบ หรือมีรอยย่นคล้ายหนังไก่ ส่วนเนื้อเยื่อของดอกภายในมีสีขาว ครีบในดอกใต้หมวก มีลักษณะเป็นแผ่นเยื้อบาง ๆ สีขาว ทำหน้าที่สร้างสปอร์ หรือเชื้อของเห็ดในรุ่นต่อไป และเมื่อดอกของเห็ดโคนบานเต็มที่แล้ว หมวกเห็ดด้านบน ก็มักที่จะมีรอยแตกยาว เข้าไปถึงแกนกลางของดอกเห็ดโคน
วิธีเพาะเชื้อสปอร์ ปลูกเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก นั้น ถึงเห็ดโคนจะไม่สามารถเพาะก้อนเชื้อให้เห็ดโคนขึ้นได้ (ในสมัยก่อน) แต่นักวิจัย นักวิชาการทางการเกษตร ก็มีเทคนิคในการเลียนแบบธรรมชาติ โดยการเพาะเชื้อของเห็ดโคนป่า หรือนำเอาสปอร์ของเห็ดโคนป่า ที่แก่เต็มวัย และหรือนำเชื้อสปอร์มา จากจอมปลวก ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะเพาะเชื้อเห็ดโคน ไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร และหรืออาจที่จะได้ผลดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิความร้อนชื้นสัมพัทธ์ ที่เหมาะสมกับเห็ดโคน ในการที่จะเจริญงอกงามขึ้นมาได้
การเพาะเชื้อเห็ดโคน จากสปอร์ของเห็ดโคนที่แก่จัด โดยการนำดอกเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก ที่มีดอกแก่จัด หานำมาประมาณ ๑ กิโลกรัม แล้วนำมาแช่ในน้ำจากธรรมชาติ ประมาณ ๕ ลิตร จากนั้นให้คนหรือเขย่า เพื่อให้สปอร์หรือเชื้อของเห็ดโคน หลุดออกมาจากใต้หมวกดอกผสมกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้ในการคนเขย่าล้างเห็ดโคนป่า นำไปรดราดยังบริเวณจอมปลวก หรือดินที่อยู่ใต้ร่มไม้ ให้มีแสงแดดพอรำไร แล้วคอยหมั่นรดน้ำ ให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ และรอให้ถึงในช่วงที่เห็ดเริ่มที่จะเจริญงอกงาม แทงยอดชูดอกเห็ดขึ้นมาเหนือพื้นดิน แล้วหมั่นค่อยดูแลฉีดพ้นฝอยละอองน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ จนเห็ดโตพอได้ขนาดเก็บมาบริโภค หากใช้น้ำฝน หรือน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่มีอุณหภูมิต่ำก็จะยิ่งดี หากใช้น้ำประปา อาจมีสารคอรีนฆ่าเชื้อปนเปือนในน้ำสูง เชื้อเห็ดโคนจะตายได้
ส่วนในการเพาะเชื้อ สปอร์เห็ดโคน ที่จอมปลวก หรือรังปลวก มีดังนี้ คือ
(๑.) เตรียมวัสดุเพาะเชื้อเห็ดโคน ได้แก่ ดินเหนียว หรือดินที่ได้มาจากรังปลวก ผสมกับขี้เลื่อยที่ หมักนานไว้ราว ๑-๓ เดือน ผสมในอัตราส่วน ๓ : ๑
(๒.) นำรังปลวก ที่มีเส้นใยคล้ายรากฝอยสีขาว เป็นก้อนนำมาบดให้ละเอียดพอประมาณ แล้วคลุกผสมกับขี้เลื่อย วัสดุเพาะเชื้อ นำบรรจุใส่ถุงพลาสติกเปิด แล้วเก็บในที่ร่มหรือโรงเรือน หรืออาจทำเป็นกอง ในหลุมดินภายใต้หลังคาโรงเรือน ร่มไม้ที่มีแสงแดดรำไร และให้หมั่นรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
(๓.) การเพาะเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก นั้น ควรเพาะเชื้อเห็ดในช่วงฤดูฝน เพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ที่ใกล้เคียงกับในช่วงที่เห็ดโคนออกดอก และสิ่งที่สำคัญ คือ ในช่วงระยะเวลานั้น รังปลวกจะเริ่มเกิดเส้นใยของเชื้อเห็ดแล้ว โดยทั้งนี้เกษตรกร ผู้เพาะเชื้อปลูกเห็ดโคน อาจใช้วิธีเพาะเชื้อเลี้ยงเห็ดโคน ที่จอมปลวก หรือรังของปลวก เพื่อให้เกิดดอกเห็ดโคน แต่เป็นวิธีที่ค่อนข้างที่จะยุ่งยาก ที่ต้องคอยหมั่นไปดูแล และมีโอกาสที่จะเกิดดอกเห็ดได้น้อย ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพของอุณหภูมิความร้อนชื้นสัมพัทธ์ ที่เหมาะสม ในการเจริญเติบโตของเห็ดโคน
เช่นสภาพอากาศ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ยามเวลากลางวัน มีอากาศที่ร้อนอบอ้าว และมีฝนตกโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ในช่วงฤดูฝน ทำให้ในหลายพื้นของเมืองเก่ากาญจนบุรี มีอุณหภูมิร้อนชื้นสัมพัทธ์ ที่เหมาะสม มีเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก ทยอยงอกออกดอกงอกงาม รอให้ชาวบ้านได้เข้าไปเก็บกันมารับประทาน และจำหน่ายขายกัน เพื่อเป็นรายได้เสริม และในหลายจังหวัดก็พบเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก แทงดอกขึ้นมาเหนือพื้นดินในป่า กันเป็นจำนวนมาก ต่อเนื่องกันไปหลายวัน เห็ดโคนจะมีมากสุดที่ จ.กาณจนบุรี ทำให้ชาวบ้านต่างพากันนำตะกร้าเข้าป่า เพื่อไปเก็บเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก และเห็ดชนิดต่าง ๆ นำมาประกอบอาหารรับประทาน และหาบนำมาจัดจำหน่าย ขายกันในตลาดยามเช้ากัน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี
ราคาของเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก ในช่วงวสันตฤดู หรือหน้าฝนของทุกปี เห็ดโคนสด ดอกตูม ราคาจัดอยู่ที่ กิโลกรัมละราว ๓๐๐ บาท ส่วนดอกที่เริ่มบานแล้ว จะอยู่ที่กิโลกรัมละราว ๒๕๐ บาท ซึ่งเป็นราคาที่ซื้อขายกันที่หน้าป่าเมืองกาญจน์ ก็จะถูก แต่ถ้าหากตามไปซื้อถึงบ้าน ราคาก็จะขยับสูงขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ก็อยู่ที่ขนาดและคุณภาพความสดของเห็ดโคน และเห็ดในแต่ละชนิด ส่วนเห็ดโคนป่าแท้ ชนิดดองน้ำเกลือ สนนราคาเกรด A 500g (๕๐๐ กรัม) อยู่ที่ กระปุกละ ๑,๑๐๐ บาท ถึง ๑,๒๐๐ บาท (กิโลกรัม ๕ ขีดเท่ากับ ๕๐๐ กรัม)
สำหรับเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก นั้น ถือได้ว่าเป็นราชาของเห็ดเห็ดป่าของไทยทั้งปวง เพราะมีรสชาติที่หวานเนื้อแนนกรอบอร่อย เหมาะสำหรับนำไปปรุง หรือประกอบอาหาร ได้หลากหลายเมนู ทั้งต้มจืด, แกงส้ม, ต้มยำ, ยำ, ผัด, แกง, อบ หรือทอดก็ได้ ซึ่งเห็ดโคนป่านั้น เป็นเห็ดที่มีรสชาติที่ดี เนื้อเห็ดโคนมีรสที่หวานเนื้อแน่น และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบในการบริโภคเห็ด ที่ออกดอกให้เก็บมารับประทาน เพียงแค่ปีละครั้ง ราคาของเห็ดโคน จึงมีราคาค่อนข้างที่จะแพง หากชาวบ้านคนไหนในพื้นที่ เข้าป่าไปหาเห็ดโคนมาได้มามาก จนรับประทานกันในครอบครัวไม่หมด ก็จะนำเห็ดโคนมามาลวกกับน้ำร้อน จากนั้นก็จะนำไปแช่แข็งใส่ใส่ไว้ในช่องฟิตของตูเย็น เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในการบริโภครับประทาน เป็นอีกกรรมวิธีหนึ่งที่ใช้ในการถนอมอาหาร แบบบ้าน ๆ เพื่อให้มีเห็ดโคนไว้ รับประทาน ภายในครัวเรือนกันได้ตลอดทั้งปี และถ้าเวลาจะนำมารับประทาน ก็นำเห็ดแช่แข็ง มาละลายน้ำ เพื่อคลายความเย็นลง แล้วจึงนำไปประกอบเมนูอาหาร รับประทานกันได้ตามความพึงพอใจ
เห็ดโคน นั้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า "Termitomyces fuliginosus Heim" โโยเห็ดโคนเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในวงศ์ Termitophilae ซึ่งเป็นเห็ดป่า ที่มีการเจริญเติบโตได้ดี ในสภาพป่าไม้ธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีอุณหภูมิความร้อนชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม เห็ดโคน มีรูปร่างลักษระ คล้ายเห็ดป่าโดยทั่วไป คือ มีก้านดอกเห็ดสีขาว และหมวกเห็ด หรือดอกเห็ดสีน้ำตาลดำ เท่า หรือน้ำตาลอมแดง โคนก้านของดอกอวบหนา และมีกลิ่นเฉพาะตัว เห็ดโคนป่า มักเกิดมีขึ้นในเขตป่าที่มีอุณหภูมิที่มีความร้อนชื้น มักขึ้นตามจอมปลวก และมีชื่อเรียกขานนามเห็ดโคน อีกชื่อหนึ่ง ว่า "เห็ดปลวก" เพราะมีการอพยพ ย้ายถิ่นฐานของปลวก หรือที่เรามักเรียกกัน ว่า "แมลงเม่า" ที่ชอบบินเข้าหาแสงไฟ ในยามราตรี แมลงเม่า หรือปลวกที่โตเต็มวัย จะมีปีกบินออกจากรังปลวกเดิม เพื่อไปหาสถานที่สร้างรังปลวกใหม่ และออกไข่ การที่ฝนตกชุก ดินจนมีความชุ่มชื้นสูง แต่น้ำไม่ขัง จึงเหมาะสมที่ปลวกชอบสร้างรัง และเห็ดโคนก็ชอบขึ้น เมื่อปลวกในรังปลวกมีปริมาณของปลวกที่ลดลง ตุ่มดอกเห็ดโคนเล็ก ๆ จึงได้มีโอกาส สามารถที่จะแทงยอดดอกขึ้นมาเหนือพื้นดิน และเจริญเติบโตเป็นดอกเห็ดโคนป่าได้ เห็ดโคนจึงมีอีกชื่อหนึ่ง ว่า เห็ดปลวก ชาวบ้านคนในท้องถิ่นนั้น เข้าไปล่าสัตว์ หาของป่าเพื่อนำมายังชีพ รับประทาน จึงได้เก็บนำมาบริโภค และหรือเพื่อจำหน่าย ขายหารายได้แบ่งปันให้ผู้อื่นได้รับประทานกันไป จนเป็นที่รู้จักกันในนามของ เห็ดโคน หรือเห็ดจากจอมปลวก
เห็ดโคนป่า เราสามารถนำมาประกอบ ทำอาหารได้หลากหลายรูปแบบเมนูอาหาร เพราะเห็ดโคนป่ามีเนื้อแน่น และมีรสชาติที่หวาน กว่าเห็ดชนิดใดในป่าไม้ของเมืองไทย และมีกลิ่นหอมที่เฉพาะตัว ชวนให้น่ารับประทาน เห็ดโคน หรือเห็ดปลวก จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของเห็ดป่า ของเมืองไทยทั้งปวง และจัดว่าเป็นเห็ดที่หารับประทานได้ยาก เพราะเกิดมีขึ้นเฉพาะในป่าเขาลำเนาไพร ที่อยู่ห่างไกลความเจริญของคนในเมือง จึงหารับประทานได้ยาก และจะมีเห็ดโคนป่าสด แต่เฉพาะในช่วงฤดูฝนเพียงเท่านั้น ของในแต่ละปีจึงมีเห็ดโคนให้ได้รับประทานกัน เพียงปีละครั้งเท่านั้น นอกจากจะนำเห็ดโคนป่า ไปต้มกับน้ำเกลือรับประทานแล้ว ยังนำมาประกอบอาหาร ที่ได้หลากหลายเมนู นอกจากนี้เห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก ยังมีสรรพคุณในการช่วยให้เจริญอาหาร, บำรุงกำลังร่างกาย, และยังป้องกันโรคในระบบทางเดินอาหาร ในลำไส้, แก้บิด, แก้คลื่นไส้, อาเจียน, แก้ไอ และละลายเสมหะ พร้อมยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย
ผลการทดลอง วิจัยเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวกในห้องแล็บ (lab) ของเมืองไทย ทางคณะแพทย์ เภสัชศาสตร์ พบว่าน้ำที่ได้จากการสกัด ของเห็ดโคนป่า สามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิดได้ เช่น เชื้อไทฟอยด์ (Typhoid) อย่างได้ผลดี เห็ดโคนป่า จึงเป็นที่นิยมรับประทานกัน ในหมู่ของผู้ที่ชื่นชอบดูแล สุขภาพของตนเอง ซึ่งเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวกสด จะมีวางจำหน่ายขายกัน เฉพาะในช่วงวสันตฤดู หรือฤดูฝน เพียงเท่านั้น ราวเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม จึงจะมีเห็ดโคนสดจากป่าไม้ในเมืองไทย มาให้ได้รับประทานกัน เพียงปีละครั้ง เห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก จะพบมากในแถบ จังหวัดกาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, และกำแพงเพชร และต่อมาเมื่อพื้นที่ของป่าไม้ในเมืองไทย เริ่มค่อย ๆ ที่จะลดลง เพราะการบุกลุก แผ้วถางป่า เห็ดโคนจึงได้หายากขึ้น และมีราคาที่สูงขึ้น
จึงได้มีความคิดริเริ่ม (initiative) ในการเพาะเลี้ยงเห็ดโคน หรือเห็ดปลวกขึ้นมา จนมีสูตรผสม คือ การนำน้ำเชื้อสปอร์ของเห็ดโคนป่า หรือเห็ดปลวก บรรจุจำนวนครึ่งขวด (หรือมากกว่านั้นก็ได้) นำมาผสมกับน้ำ จำนวน ๑๐ ลิตร ซึ่งน้ำที่นำมา ใช้ในการผสม เพราะเชื้อสปอร์ของเห็ดโคน ให้นำน้ำที่ได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น น้ำฝน, หรือน้ำจากแม่น้ำ, ห้วย, หนอง, คลอง, บึง หรือในสระ อ่างกักเก็บน้ำฝนตามธรรมชาติ ไม่ควรใช้น้ำประปา เพราะอาจจะมีสาร คลอรีน (chlorine) ที่ใช้ฆ่าเชื้อปนเปื่อน เจือปนมากับน้ำด้วย จะทำให้เชื้อสปอร์ของเห็ดตาย ไม่เจริญงอกงาม
ตามที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้น วิธีนี้ จะเป็นการทำให้เชื้อของเห็ดโคน ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง ที่จะทำให้เกิดเป็นเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก เข้าไปอยู่อาศัย และเจริญเติบโต ในรากของต้นไม้ และบริเวณของซากใบไม้ ที่ทับถมกัน หรือที่ได้เราผสมดินและขี้เลื่อย หมักไว้นานถึง ๓ เดือน หรือเกินกว่านั้นได้ก็จะยิ่งดี เมื่อเวลาที่สภาพแวดล้อม อุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ ที่มีความสมดุลหรือเหมาะสม เห็ดโคน หรือเห็ดปลวก และเห็ดชนิดต่าง ๆ ก็จะงอกออกดอกมา ซึ่งถ้าผู้เพาะเชื้อสปอร์ปลูกเห็ด ทำการรดน้ำเชื้อสปร์อของเห็ด ตั้งแต่ต้นฤดูฝน เห็ดก็อาจจะออกดอกในช่วงกลาง จนถึงปลายฤดูฝน แต่ถ้าเห็ดไม่ออกดอกในปีที่ท่านเพาะเชื้อปลูก สปอร์เชื้อเห็ด ก็อาจจะค่อย ๆ เจริญเติบโต ออกดอกเห็ดได้ในปี ต่อ ๆ ไป จึงมีสุภาษิต คำพังเพย ที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น" ขอให้ท่านผู้ที่ติดตามอ่าน สกู๊ป (Scoop) บทความนี้ จากครูแอ๊ด จนจบ ขอได้ความรู้ และมีความสุขกัน ทุกท่าน ทั่วไทย สาธุ ครับผม.
: แนะนำเรื่อง โดย มห่าบุญธรรม พรมเเพร
: เรียนเรียง โดย อ.ประพนธ์ บุนนาค (ฐานันดร ๔ นกน้อยในไร่ส้ม) ศิษย์พระตถาคต วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร (เชิงสะพานพุทธฯ) ฝั่งธนบุรี กทม.
: กราฟฟิกภาพ-โดย Siam Bunnag (ข่าวเฉพาะกิจ)
: ปชส. โดย Bunnag News ผลิตสื่อสาระเพื่อการศึกษา และการกุศล เผยแผ่พระพุทธศานา ช่วยเหลือสังคมชาวบ้าน ทำมาหากิน ในอาชีพสุจริต ท่องเที่ยวทั่วไทย เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติไทย
: ร่วมบริจาค เพื่อเป็นทุนในการผลิต สื่อสาระข่าวสารเพื่อการศึกษา และการกุศล พัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ปชส.ช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อนร่วมชาติ ทำมาหากินบนพืนดินไทย ซ่อมแซมเครื่องมือ ซื้อหาอุปกรณ์ ที่คาดแคลน : คลิก กดที่ลิงก์ ด้านล่างนี้ สาธุ ครับผม.
>>>https://web.facebook.com/photo/?fbid=690349569772878&set=a.690351106439391
: รับชมภาพ สื่อสาระข่าวสาร เรื่องราวดีดี (พิเศษ) มากมาย แชร์ความรู้กันได้ ผลิตขึ้นเพื่อคนไทย : คลิก กดที่ลิงก์ ด้านล่างนี้ ครับ
>>>https://web.facebook.com/siam.bunnag.999999999/photos_albums
: รับชมคลิปภาพวิดีโอ ปชส. สื่อสาระข่าวสาร : คลิกกดที่ลิงก์ ด้านล่าง นี้ ขอให้มีความสุข ทุกท่าน ทั่วไทย สาธุ ขอรับ ครับผม.
>>>https://web.facebook.com/siam.bunnag.999999999/videos