KHON ISAN วิถีการใช้ชีวิตทั่วๆไปทุกๆสถานการณ์และประสบการณ์ต่างๆที่เจอ ( IsanBanBan )

06/07/2025

Further clarifications regarding tensions along the Thai-Cambodian border

“เทพมนตรี” โชว์หลักฐานยันปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย ตามแผนที่ของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1901 รับรองโดยสนธ...
06/07/2025

“เทพมนตรี” โชว์หลักฐานยันปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย ตามแผนที่ของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1901 รับรองโดยสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสปี 1904 ปรากฏในหนังสือ “ปราสาทพระวิหาร” ที่กัมพูชาจัดพิมพ์ร่วมกับยูเนสโก และวงวิชาการศิลปเขมรชอบนำไปอ้างอิง

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063617

#ปราสาทตาเมือนธม
#ชายแดนไทยกัมพูชา

05/07/2025

เกาะหลีเป๊ะ ประเทศไทย Lipe Island Thailand
อัญมณีแห่งอันดามัน น้ำทะเลสวยใส หาดทรายขาวสะอาดละเอียดนิ่มนวลเหมือนแป้ง เป็นเกาะสุดท้ายทางฝั่งอันดามันของไทย มีชายหาดชื่อดังระดับโลก ชื่อชายหาดพัทยา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และยังมีชายหาดอีก 3 แห่ง ชื่อ หาดซันไรท์ หาดซันเซ็ท และหาดคาร์มา

ช่วงที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ คือ เดือนพ.ย. - เม.ย.ของทุกปี นอกจากเที่ยวชายหาดบนเกาะแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ เกาะตะรุเตา เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะอาดัง เกาะราวี จุดดำน้ำร่องน้ำจาบัง

เกาะหลีเป๊ะ นับเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ไม่แพ้ ภูกระดึง เกาะเสม็ด หรือเชียงคาน หากมีโอกาสต้องลองแวะมาเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต

05/07/2025

KEY MESSAGES: สรุปข้อมูลเอกสารกัมพูชา ร้อง UN และท่าทีชี้แจงฝ่ายไทย
ฐานข้อมูลองค์การสหประชาชาติ (UN) เผยแพร่หนังสือที่ผู้แทนกัมพูชาประจำ UN ยื่นต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ขอให้นำกรณีการปะทะกันทางทหารและข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา บรรจุเป็นวาระในหัวข้อ “การป้องกันการขัดกันด้วยอาวุธ” (Prevention of Armed Conflict) พร้อมกับแนบสำเนาคำร้องที่ยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) แสดงเจตจำนงว่าต้องการจะฟ้องคดีในศาล ลงวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เนื้อหาในเอกสาร กัมพูชาอ้างว่า เหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นฝ่ายทหารไทยที่เริ่มยิงก่อน หลังจากนั้นยังมีการขู่ใช้กำลัง อีกทั้งยังมีกระแสชาตินิยมหัวรุนแรงในไทย อันอาจนำไปสู่ความเกลียดชังและความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ ซึ่งกัมพูชามองว่าเรื่องนี้สมควรได้รับการพิจารณาในระดับสากล
ขณะที่ฝ่ายไทยได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อ UN ในวันที่ 19 มิถุนายน ยืนยันว่า การกระทำของทหารไทยเป็นการป้องกันตนเองภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็น และสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว พร้อมทั้งย้ำว่า ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก และจะไม่ให้ความยินยอมในการที่กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนเข้าสู่ศาลโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ชี้ว่าความพยายามของกัมพูชาในการฟ้องคดีดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต และไม่สอดคล้องกับหลักการแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี
และนี่คือสรุปข้อมูลคำร้องของกัมพูชาและการชี้แจงของไทย
1. เหตุปะทะในพื้นที่พิพาทช่องบก (มุมเบย) เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2025
กัมพูชา
▪️ทหารไทยเปิดฉากยิงใส่ทหารกัมพูชา ที่ประจำการอยู่ในเขตอธิปไตยกัมพูชา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย
▪️การยิงของไทยเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา
ไทย
▪️ ฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนของไทย
▪️ ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนโดยปราศจากการยั่วยุ ทหารไทยถูกบังคับให้ใช้มาตรการป้องกันอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ
2. ความเคลื่อนไหวทางทหารและความเสี่ยงขัดแย้งครั้งใหญ่
กัมพูชา
▪️มีการระดมกำลังทหารจำนวนมากทั้งสองฝ่าย
▪️เสี่ยงเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่แบบปี 2008 และ 2011
ไทย
▪️ยืนยันว่าการที่กัมพูชาส่งกำลังทหารไปยังพื้นที่พิพาทที่ช่องบก และการขุดคูเลตเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อกำหนดที่ 5 ของ MOU43
▪️การกระทำของทหารกัมพูชาถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน
3. การกล่าวหาและปฏิเสธข้อกล่าวหา
กัมพูชา
▪️ความพยายามเจรจาทวิภาคีที่ดำเนินการมาตลอดล้มเหลว เนื่องจากการขาดเจตจำนงทางการเมืองอย่างชัดเจนจากฝ่ายไทย การยืนกรานใช้แผนที่ที่วาดฝ่ายเดียว และการกระทำที่รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
▪️ท่าทีคุกคามล่าสุดจากแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ที่ระบุว่าพร้อมใช้กำลังเพื่อยุติข้อพิพาท เป็นตัวอย่างหนึ่งของพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตร
▪️การเพิ่มขึ้นของกระแสชาตินิยมสุดโต่ง ซึ่งถูกกระตุ้นเป็นส่วนใหญ่โดยถ้อยคำที่ขาดความรับผิดชอบจากกองทัพไทยและบุคคลทางการเมืองบางกลุ่ม เป็นพัฒนาการที่น่าวิตกอย่างยิ่ง
ไทย
▪️ไทยมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ไขความขัดแย้งกับกัมพูชาผ่านการเจรจาทวิภาคีอย่างสันติที่ดำเนินการด้วยความสุจริตใจ ด้วยเจตนารมณ์ของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียน และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ
▪️ไทยได้ยื่นข้อเสนอหลายประการเพื่อลดความตึงเครียด โดยเฉพาะผ่านการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC), คณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการปักปันเขตแดนทางบก (JBC) เพื่อจัดการกับประเด็นด้านความมั่นคงและเขตแดน
▪️การประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–15 มิถุนายน 2025 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการใช้กลไกทวิภาคีตามกรอบของ MOU43 ซึ่งยังคงเป็นช่องทางหลักในการจัดการกับข้อพิพาทด้านเขตแดน
4. การแก้ไขข้อพิพาท
กัมพูชา
▪️ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ให้ตัดสินกรณีพื้นที่พิพาททั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สามเหลี่ยมมรกต (มุมเบย), ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย
▪️เห็นว่าเป็นหนทางเดียวในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ด้วยความยุติธรรมและเป็นกลาง
ไทย
▪️การตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาในการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ชัดเจนว่าทำไปโดยไม่สุจริต และทำลายกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่ของคณะกรรมาธิการว่าด้วยการกำหนดเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ซึ่งเพิ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 14–15 มิถุนายน 2025
▪️มองว่าการยื่นเรื่องต่อ ICJ ขัดต่อข้อกำหนดที่ 5 ของ MOU43 ซึ่งกำหนดว่าข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากการตีความหรือการใช้ MOU43 จะต้องยุติลงโดยสันติผ่านการปรึกษาหารือและการเจรจา
▪️ไทยไม่ยอมรับอำนาจบังคับของ ICJ ตามมาตรา 36(2) ตั้งแต่ปี 1960 และจะไม่ยินยอมให้มีการดำเนินคดีฝ่ายเดียว
อ้างอิง :
https://documents.un.org/doc/undoc/gen/n25/162/76/pdf/n2516276.pdf
https://documents.un.org/doc/undoc/gen/n25/162/54/pdf/n2516254.pdf

03/07/2025
ไม่ใช่แค่  #ปราสาทตาเมืองธม ที่เปลี่ยนไปอยู่ฝั่งกัมพูชา แต่มีหลายสถานที่ของไทยตลอดแนวชายแดนไปอยู่ฝั่งกัมพูชา จากที่ดูน่า...
03/07/2025

ไม่ใช่แค่ #ปราสาทตาเมืองธม ที่เปลี่ยนไปอยู่ฝั่งกัมพูชา แต่มีหลายสถานที่ของไทยตลอดแนวชายแดนไปอยู่ฝั่งกัมพูชา จากที่ดูน่าจะเกิดจากเส้นแบ่งเขตแดนขยับเข้ามาฝั่งไทย รัฐบาลไทยต้องรีบทักท้วงไปยังgoogle Maps ให้แก้ไข (ต้องปกป้องเขตแดนและสถานที่หลายแห่งของไทยไว้)ถึงจะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้ชาวโลกไม่สับสนว่าจริงๆแล้วอยู่ฝั่งไทยหรือกัมพูชา และ เพื่อป้องกันสิ่งที่จะตามมาในอนาคต ป้องกันดีกว่าแก้ไข
#ไทย
#กัมพูชา
#ชายแดนไทยกัมพูชา
#ปราสาท
#รัฐบาลไทย

 #ดวงเมือง  #ดวงประเทศไทยดวงเมือง หรือดวงประเทศไทย การสร้างดวงเมืองของประเทศไทย (ดวงกรุงเทพมหานคร)  เป็นเรื่องที่เกี่ยวข...
02/07/2025

#ดวงเมือง #ดวงประเทศไทย
ดวงเมือง หรือดวงประเทศไทย

การสร้างดวงเมืองของประเทศไทย (ดวงกรุงเทพมหานคร) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ไทยโดยตรง ซึ่งนักพยากรณ์ทั้งหลายจะใช้เพื่อการพยากรณ์หรืออธิบายเหตุการณ์สำคัญๆ ในระดับชาติ

: การก่อตั้งเมืองฯ กรุงเทพฯ ปรากฎในปูมโหร(ซึ่งมีรายละเอียดเล่าอยู่ในเว็บนี้แล้วผมจะไม่เล่าซ้ำอีก) ถือกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06:54 น. ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จ.ศ. 1144 สามารถอธิบายได้ตามหลักโหราศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นการวางฤกษ์สร้างเมืองใหม่ของกรุงรัตนโกสินทร์ หรือที่เรารู้จักในปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร โดยดวงเมืองนี้มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้ครับ

1. โครงสร้างพื้นฐานของดวงเมือง : ลัคนา (Ascendant) อยู่ในราศีเมษ โดยราศีเมษเป็นราศีที่มีลักษณะของการเริ่มต้นใหม่ เป็นพลังงานของความกล้าหาญ ความกระตือรือร้น ความเป็นผู้นำ และการต่อสู้ ดังนั้น การสร้างกรุงเทพฯ จึงถือเป็นการก่อตั้งราชธานีใหม่หลังจากการสิ้นสุดของกรุงศรีอยุธยา ดวงเมืองในราศีเมษจึงบ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะสร้างเมืองที่แข็งแกร่ง เป็นที่มั่นคงสำหรับชาวสยาม วันอาทิตย์: การเลือกวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นวันของดาวอาทิตย์ สัญลักษณ์ของอำนาจ ความรุ่งเรือง และการปกครอง เป็นการเสริมสร้างให้ดวงเมืองมีพลังอำนาจ โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารประเทศและการปกครองแบบกษัตริย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล: วันที่ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 เป็นช่วงที่ถือว่าเป็นฤกษ์แห่งการเริ่มต้นอันแข็งแกร่ง และ "ปีขาล" หรือปีเสือแสดงถึงความดุดัน และความเป็นนักสู้ ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ในช่วงเริ่มต้น

2. ดาวที่สำคัญในดวงเมือง : ดาวอาทิตย์ (๑) ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งในราศีเมษ ดาวอาทิตย์เป็นตัวแทนของอำนาจและความเป็นผู้นำ การที่ดาวอาทิตย์เด่นชัดในดวงเมืองนี้สะท้อนถึงอำนาจและความแข็งแกร่งของสถาบันกษัตริย์ในการปกครองประเทศ อีกทั้งยังบ่งบอกถึงเกียรติภูมิ ความเคารพนับถือจากนานาชาติ และบทบาทสำคัญในภูมิภาค ดาวจันทร์ (๒) อยู่ในตำแหน่งที่มีพลังที่สื่อถึงประชาชนและการปกครอง จันทร์ในดวงเมืองนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำและประชาชน มีลักษณะการปกครองที่เอื้ออาทรและความเข้าใจในชุมชน ดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งที่ส่งเสริมในด้านศีลธรรม คุณธรรม และการเป็นศูนย์กลางของศาสนา โดยประเทศไทยเป็นที่ตั้งของพระพุทธศาสนาที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ส่งเสริมให้ประชาชนมีความศรัทธาและยึดมั่นในศีลธรรมอันดีงาม ดาวอังคาร (๓) ดาวอังคารในดวงเมืองอยู่ในตำแหน่งที่มีพลังความกล้า แข็งแกร่ง และความสามารถในการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน เป็นสัญลักษณ์ของพลังการทหาร และการปกป้องประเทศจากศัตรู ดาวราหู (๘) ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน เช่น สถานการณ์การเมือง ความผันผวน และความไม่แน่นอน ซึ่งจะเป็นลักษณะที่ประเทศไทยมีมาโดยตลอดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพการเมือง และการที่ต้องเผชิญกับปัญหาภายใน

3. การตีความเชิงสัญลักษณ์ : พลังแห่งการเป็นผู้นำ เนื่องจากดาวอาทิตย์และราศีเมษมีอิทธิพลต่อดวงเมืองไทยมาก ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำในภูมิภาค การมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำ และความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤติ รวมถึงการต้านทานอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาท้าทาย ความเข้มแข็งทางการทหาร: ดาวอังคารในดวงเมืองช่วยส่งเสริมให้ประเทศมีความเข้มแข็งในการรักษาความปลอดภัย การป้องกันประเทศ ความกล้าหาญในการเผชิญกับศัตรู และการปกป้องทรัพยากรของชาติ ความเป็นศูนย์กลางทางศาสนา: อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีแสดงถึงการเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธและหลักศีลธรรม ประชาชนมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างความสามัคคี

4. ผลกระทบ คำทำนายในอนาคต และความผันผวนทางการเมือง : ดาวราหูที่มีบทบาทสำคัญในดวงเมือง ส่งผลให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อยครั้ง มีโอกาสที่จะเกิดการสลับผู้นำ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการปกครอง หรือการปรับปรุงระบบต่าง ๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญในอนาคต ความเข้มแข็งในภาคเศรษฐกิจและความยั่งยืน: แม้ว่าประเทศไทยจะมีความผันผวนในเรื่องการเมือง แต่การที่มีดาวพฤหัสบดีและดาวจันทร์เป็นส่วนสำคัญในดวงเมือง บ่งบอกถึงการมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่คำนึงถึงความสมดุลของสังคม การเป็นที่ยอมรับในระดับสากล: อิทธิพลของดาวอาทิตย์แสดงถึงความมีเกียรติยศในสายตาของนานาชาติ ซึ่งหมายถึงประเทศไทยจะยังคงได้รับการยอมรับ และเป็นที่เคารพในเวทีระดับสากล

บทสรุปของดวงเมืองประเทศไทย : หรือดวงเมืองของกรุงเทพฯ ที่กำหนดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นดวงเมืองที่แข็งแกร่งและมั่นคง มีลักษณะเด่นในด้านความกล้าหาญ ความเป็นผู้นำ และความเป็นศูนย์รวมแห่งศาสนาและศีลธรรม แม้ว่าจะมีความผันผวนในด้านการเมือง แต่ประเทศนี้มีศักยภาพที่จะฝ่าฟันปัญหาไปได้ นอกจากนี้ ดวงเมืองนี้ยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โหราศาสตร์ของดวงเมืองนี้ยังคงแนะนำให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างรอบคอบและระมัดระวังต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รักษาความสามัคคีและศรัทธาในความถูกต้องตามหลักศีลธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยดำรงอยู่อย่างยั่งยืน


คำถามที่มีคนถามเข้ามาบ่อย : ในปี พ.ศ.2567-2568 ดวงดาวต่างๆ จะมีผลกระทบกับดวงเมืองประเทศไทยเรา อย่างไรบ้าง?

ผมขอตอบดังนี้ครับ : ในช่วงปี พ.ศ. 2567-2568 โหราศาสตร์ไทยมองว่าการเคลื่อนย้ายของดวงดาวต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อดวงเมืองกรุงเทพฯ หรือดวงเมืองประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

1. ผลกระทบจากดาวเสาร์ : ดาวเสาร์ย้ายเข้าสู่ราศีกุมภ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อลัคนาดวงเมือง เนื่องจากดาวเสาร์เป็นดาวแห่งข้อจำกัด การทดสอบ และการเปลี่ยนแปลง ดาวเสาร์ในราศีกุมภ์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านการปกครอง อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือโครงสร้างอำนาจ รวมถึงเกิดสถานการณ์ที่ต้องใช้การปรับตัวและอดทนต่อข้อจำกัดต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจและสังคม อาจเจอความท้าทาย เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือความตึงเครียดทางการเงิน การเคลื่อนย้ายของดาวเสาร์นี้อาจทำให้เกิดความพยายามในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ หรือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน

2. ผลกระทบจากดาวพฤหัสบดี : ดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งตรงกับตำแหน่งลัคนาของดวงเมือง ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวแห่งโชคลาภและปัญญา การเคลื่อนย้ายนี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมในเรื่องการศึกษา การพัฒนาความรู้ และโอกาสในการเติบโต การลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการเมือง อาจมีโอกาสในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบหรือกฎหมายที่ล้ำสมัยและส่งเสริมการพัฒนา ทั้งยังมีแนวโน้มที่อาจมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการค้าและการเจรจาทางการทูต

3. ผลกระทบจากดาวราหู : ดาวราหูย้ายเข้าสู่ราศีมีน ซึ่งจะทับดาวมฤตยูของดวงเมือง ดาวราหูในราศีมีนมักส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่คาดคิดและไม่แน่นอน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในหลายด้าน ทั้งเรื่องของสุขภาพจิต สังคม หรือสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความหวาดระแวงและการแบ่งแยก ด้านเศรษฐกิจและการเงิน อาจมีความผันผวน การลงทุนต่าง ๆ ต้องระมัดระวัง และมีแนวโน้มที่จะเจอกับการหลอกลวงหรือปัญหาที่เกี่ยวกับการจัดการความมั่นคงทางการเงิน โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง

4. ผลกระทบจากดาวมฤตยู : ดาวมฤตยูโคจรในราศีพฤษภ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจ การเงิน และทรัพย์สินที่มีอยู่ ดาวมฤตยูในตำแหน่งนี้อาจเป็นสัญญาณของการพัฒนาทางเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ เช่น เทคโนโลยีทางการเงิน การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี หรือธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางทรัพยากรและการเกษตร ที่เกี่ยวกับการผลิตอาหารหรือทรัพยากรที่สำคัญของประเทศก็อาจได้รับผลกระทบ เช่น การหันมาปลูกพืชที่สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือการนำเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพิ่มมากขึ้น

5. ดาวศุกร์และดาวอังคาร : ดาวศุกร์: เป็นดาวที่เกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม และความมั่งคั่ง จะช่วยส่งเสริมให้ภาคบันเทิงและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักขึ้น ซึ่งอาจเกิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดาวอังคาร: ดาวแห่งความกระตือรือร้นและการต่อสู้ ส่งผลให้เกิดความกระตือรือร้นในการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การเมือง และการเรียกร้องสิทธิทางสังคมต่าง ๆ


สรุปและคำแนะนำ :
ปี พ.ศ. 2567-2568 สำหรับดวงเมืองประเทศไทย ถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องมีการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ ในการจัดการทรัพยากรและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมืองจะยังมีการเปลี่ยนแปลงและต้องใช้ความอดทน โดยจะมีโอกาสในการพัฒนาทางเทคโนโลยี การเงิน และการปรับตัวเชิงนวัตกรรม ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปได้

: ในฐานะที่พวกเราฯ ประชาชนอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงเมืองประเทศไทย การปรับตัวและพัฒนาตนเองเพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของประเทศในช่วงปี พ.ศ. 2567-2568 เป็นสิ่งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงในดวงดาวส่งผลให้เป็นช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ดังนั้นการพัฒนาตนเองจึงควรมีลักษณะที่เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความมั่นคงทางจิตใจ และการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของสังคม

1. การเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจ : ฝึกฝนการทำสมาธิและการบริหารอารมณ์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจและเพิ่มความสามารถในการจัดการกับความเครียด การเปลี่ยนแปลงของดาวเสาร์และราหูอาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน การทำสมาธิและการฝึกหายใจสามารถช่วยให้มีจิตใจที่สงบเงียบ และไม่หวั่นไหวต่อปัญหา ฝึกการมองโลกในแง่บวกและการปรับตัว ในสถานการณ์ที่อาจมีความผันผวน การมองหาโอกาสจากวิกฤติเป็นทักษะที่สำคัญ เช่น การมองว่าในสถานการณ์ที่ท้าทาย เราจะเรียนรู้และเติบโตได้อย่างไรบ้าง

2. พัฒนาทักษะและความรู้ใหม่ๆ เพื่อเสริมโอกาสในอนาคต : การเรียนรู้ทักษะทางเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจและนวัตกรรม การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เช่น การตลาดดิจิทัล ทักษะด้านการจัดการข้อมูล (Data Management) การใช้ AI และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสทางอาชีพในสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ทักษะด้านการเงินและการลงทุน ดาวมฤตยูและดาวเสาร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเงิน ทำให้เราต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน การลงทุนอย่างรู้เท่าทัน เช่น ความรู้ด้านการวางแผนการเงิน การวิเคราะห์ตลาดการเงิน หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมและเสี่ยงต่ำ จะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน

3. ส่งเสริมความเข้มแข็งในความสัมพันธ์และการสร้างเครือข่ายสังคม : การสร้างเครือข่ายสังคมและการทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การร่วมมือและช่วยเหลือกันในชุมชนหรือในที่ทำงานจะช่วยให้เกิดการพัฒนาและการสร้างโอกาสใหม่ ๆ การมีเครือข่ายสังคมที่เข้มแข็งยังช่วยให้มีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและช่วยสนับสนุนกันในยามที่เผชิญกับความท้าทาย การพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้เราเข้าใจและสนับสนุนกัน การทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ในสังคม

4. การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต : การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและการท้าทายทางสังคม การรักษาจริยธรรมในหน้าที่การงานและชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญ การแสดงออกด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณธรรมจะช่วยเสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนรอบข้าง การมีจิตสาธารณะและการแบ่งปัน การช่วยเหลือชุมชนหรือการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมเป็นสิ่งที่สร้างพลังบวกและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น การมีจิตสาธารณะยังช่วยสร้างสังคมที่สนับสนุนกันในยามที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

5. เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง : การปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การปรับตัวและความยืดหยุ่นเป็นทักษะสำคัญในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในสายงานหรือการเตรียมตัวสำหรับอาชีพที่มีความต้องการสูงในยุคนี้จะช่วยให้คุณก้าวผ่านสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนได้ดีขึ้น การเตรียมแผนสำรองในด้านการเงินและอาชีพ เป็นการป้องกันตัวเองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การมีเงินออมฉุกเฉิน และการเรียนรู้เกี่ยวกับแผนสำรองทางอาชีพช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับความท้าทาย

: สรุปการพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับดวงเมืองและการเปลี่ยนแปลงในปี พ.ศ. 2567-2568 เน้นไปที่การพัฒนาความรู้ ทักษะการใช้ชีวิต การปรับตัวต่อความท้าทาย และการเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง ทั้งยังช่วยสร้างความเจริญให้กับชีวิตและสังคมโดยรวมครับ


บทความโดย อ.อรุณวิชญ์ วงศ์จตุพัฒน์ พ.ศ.๒๕๖๗

 #ดวงเมือง  #ดวงประเทศไทยดวงเมือง ดวงประเทศไทย  #ดวงกรุงเทพเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เป็นวันที่ถือว่าเป็นวันเกิดของ...
02/07/2025

#ดวงเมือง #ดวงประเทศไทย
ดวงเมือง ดวงประเทศไทย #ดวงกรุงเทพ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เป็นวันที่ถือว่าเป็นวันเกิดของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งการทำพิธีวางฤกษ์อย่างใหญ่โตตามพิธีสร้างเมืองสำหรับท้าวพระยามหากษัตริย์ วันนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งทรงเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยมหาสมณะชีพราหมณ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของชนชาติไทยได้เข้ามาร่วมทำพิธีกันเป็นเวลา 4 วัน 4 คืน

ตามประเพณีของการสร้างเมืองนั้น มีคำบอกกล่าวกันมาว่าที่หลุมฝังเสาหลักเมืองนั้นจะต้องฆ่าคนที่มีชื่อตามโฉลก คือ อิน, จัน, มั่น, คง เพื่อทำหน้าที่รักษาเมืองให้มีความรุ่งเรืองมั่นคง แต่ในหลุมฝังเสาหลักเมืองวันนั้นไม่มีคนที่มีชีวิตถูกนำไปสังเวยไว้ในหลุมตามที่เล่าลือกัน เป็นแต่มี งูเล็ก 4 ตัว ไปนอนฝังตัวอยู่ก้นหลุมโดยไม่มีใครเห็น จนกระทั่งหย่อนเสาลงไปในหลุม และถึงเวลากลบเสาแล้วจึงปรากฏว่างูเล็กทั้ง 4 ตัวนั้นเลื้อยอยู่ที่ก้นหลุม และโดยไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ เพราะพิธีการต่างๆ ได้กระทำเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ก็จำเป็นต้องกลบดินลงไปจนไม่คำนึงถึงงูทั้ง 4 ตัวนั้นอีกต่อไป

แต่ทั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ขุนโหรและผู้รู้ทั้งสมณะชีพราหมณ์ทั้งหมดก็ได้เห็นได้รู้กันว่า นั่นเป็นเรื่องอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อบอกกล่าวว่าจะต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น แต่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ไม่มีใครรู้ แม้แต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็ไม่อาจจะทำนายได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น?

แต่เรื่องราวในวันนั้นได้ถูกบันทึกไว้ในเอกสารที่มีชื่อว่า จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี มีข้อความว่า

"ณ วันอาทิตย์ เดือนเจ็ด(๗) ขึ้น ๑ ค่ำ ปีระกาเอกศก เวลาบ่าย 3 โมง 6 บาท อสุนีบาติพาดสายตกติดหน้าบันมุขเด็จเบื้องทิศอุดร ไหม้ตลอดทรงบนปราสาท ปลายหักฟาดลงพระปรัสซ้ายเป็นสองซ้ำลงซุ้มพระทวารแต่เฉพาะไหม้

พระโองการตรัสว่า เราได้ยกพระไตรปิฎก เทวาให้โอกาสแก่เรา ต่อเสียเมืองจึงเสียปราสาท ด้วยชะตาเมืองคอดกิ่วใน 7 ปี 7 เดือน เสร็จสิ้นพระเคราะห์เมือง จะถาวรลำดับกษัตริย์ถึง 150 ปี"

คนไทยทุกคนหรือส่วนมาก จะเคยได้ยินคำว่าดวงเมืองหรือดวงชะตาเมืองกันมาแต่อาจจะไม่เคยสนใจความสำคัญของดวงเมืองที่พูดกันนั้นว่า มันมีความสำคัญเพียงไร บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องความเพ้อฝันหรืองมงายไปก็ได้

แต่สำหรับผู้ปกครองประเทศของไทย เฉพาะพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ตั้งแต่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นต้นมา จนกระทั่งถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ดวงชะตาเมื่อที่ว่านี้มาเป็นประโยชน์ในการบริหารและการปกครองประเทศไม่มากก็น้อย ทุกพระองค์ทรงใช้มาทั้งนั้น

ดวงชะตาเมืองที่ผูกขึ้นตามวันเวลาในวันนั้น ได้เป็นเครื่องมือชี้ทางให้พระองค์ดำเนินการปกครองบ้านเมืองมาตลอด

เฉพาะในรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกพร้อมด้วยสมณะชีพราหมณ์จำนวนมากร่วมชุมนุมวางฤกษ์ดวงเมืองและฝังเสาหลักเมืองนั้น พระองค์ได้ประสบการณ์สองประการก็คือในขณะที่พราหมณ์ปุโรหิต และสมณะชีพราหมณ์นั่งล้อมกันทั้งปะรำบริเวณที่จะฝังเสาหลักเมืองและขุดหลุมเอาผ้าปูก้นหลุมพร้อมด้วยสรรพเวทย์มหายันต์รองไว้อย่างเรียบร้อยเห็นกันอยู่ทุกตัวคน

เมื่อเอาเสาหลักเมืองที่ทำด้วยไม้กัลปพฤกษ์ลงไปนั้น ก็ปรากฏว่างูเล็ก 4 ตัวลงไปนอนอยู่ และต้องฝังทั้งเป็นลงไป ทั้งพระองค์และผู้รู้ในสมัยนั้นเกิดความเป็นห่วงกังวลว่า อะไรจะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองต่อไปอีก หลังจากที่สงครามเก้าทัพของพม่าที่มาประชิดบ้านเมืองอยู่ ไม่ได้ถือว่าการลงไปนอนตายในหลุมหลักเมืองของงูทั้งสี่ตัวนั้น เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถือว่ามันเป็นอาถรรพณ์ที่บอกกล่าวว่าจะต้องมีเหตุการณ์ร้ายแก่บ้านเมืองแน่นอน!

หลังจากเรียกประชุมชีบานาสงฆ์และผู้รู้ขบคิดกัน ก็ไม่มีใครสามารถจะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่กี่วันก็เกิดฟ้าผ่าลงที่ยอดปราสาทพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยขึ้นมา ทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงทำนายออกมาได้ว่าบ้านเมืองในระยะนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรง

แต่อีก 150 ปีข้างหน้ากรุงเทพฯตามดวงชะตาเมืองมันก็จะเปลี่ยนจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นอย่างอื่น ซึ่งพระองค์ทรงรับสั่งว่า "จะถาวรลำดับกษัตริย์ไปอีก 150 ปี" ซึ่งต่อมาเมื่อถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ก็มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย

ซึ่งเป็นความแม่นยำและถูกต้องอย่างไม่น่าเชื่อของคนไทยโบราณ ซึ่งเมื่อเทียบกับคนทุกวันนี้ก็คือคนที่ไม่มีการศึกษา ไม่ได้เป็นประเทศหรือพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ อย่างที่เรายึดถือกันอยู่ในทุกวันนี้ว่าคนพวกนี้เท่านั้นที่จะเป็นคนมีความรู้และมีการศึกษาตามคติของคนไทยยุคปัจจุบัน

เช่นเดียวกับในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยจะต้องตัดสินใจถือโอกาสนี้หาทางแก้ไขปัญหาเอกราชและอธิปไตยอันเนื่องมาจากสัญญาถูกบังคับให้ต้องยอมรับตั้งแต่สมัย ร.ศ.112 โดยการสร้างอำนาจต่อรองขึ้นกับสัมพันธมิตร ไทยจะต้องส่งทหารเข้าไปร่วมรบกับสัมพันธมิตร เพราะยังไงก็ทรงเชื่อว่าสัมพันธมิตรจะประสบชัยชนะไทยก็ต้องมีส่วนร่วมในชัยชนะนั้นด้วย

เมื่อสงครามสงบ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงรีบเสนอแก้ไขกฎหมายทาสระหว่างไทยกับประเทศตะวันตกที่ทำให้ประเทศไทยตกเป็นทาสของประเทศตะวันตกทันที

หลายต่อหลายวันที่ทรงตัดสินพระทัยและจะประกาศวันส่งทหารไทยไปฝรั่งเศส นักโหราศาสตร์ชั้นนำตั้งแต่พระยาโหราธิบดีลงมาจนถึงคุณพระคุณหลวงหลายท่านถูกกับตัวไว้ในวังไม่ให้ออกมาข้างนอก เพราะเกรงว่าข่าวที่ไทยจะส่งทหารไปช่วยสัมพันธมิตรจะทำให้เสียการได้

ก็ดวงเมืองนี้แหละที่พระองค์ทรงให้กรมโหรสมัยนั้นหาฤกษ์ยามและพิจารณาตัดสินใจว่าจะต้องอ้าขาผวาปีกถึงขนาดนั้นหรือไม่ จากดวงชะตาเมืองดวงนี้?

เฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 4 ดวงเมืองได้มีโอกาสใช้มากที่สุดเกือบทุกด้าน เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินน้ำลมไฟที่จะมีผลดีและผลร้ายที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนและบ้านเมือง เฉพาะการโคจรของดวงดาวต่างๆ ตามฤดูกาลที่จะมีผลต่อพืชพันธุ์ธัญญาหารในบ้านเมือง

ดวงชะตาเมืองที่ได้มีการฝังหลักเมืองในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เต็มไปด้วยบรรยากาศของอิทธิและอาถรรพณ์หลายประการ เฉพาะอย่างยิ่งที่คนโบราณเชื่อกันก็คือ ทั้ง 4 มุมเมืองนั้น ถูกฝังอาถรรพณ์สรรพเวทย์มหายันต์ไว้ทั้งสี่ทิศเพื่อป้องกันศัตรูและเสนียดจัญไร อันตราย และคนชั่วที่จะเข้ามาก่อกวนให้เกิดเป็นภัยต่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ประการใด

ในสมัยก่อนนั้น คนโบราณทุกคนจะต้องมีคาถาอาคมและของขลังติดตัวกันทุกคน เฉพาะผู้เชี่ยวชาญในเวทมนตร์คาถาที่จะเสกเป่าหรือทำพิธีอะไรแสวงหาประโยชน์นั้น เชื่อกันว่ามีจริงๆ แต่คนเหล่านี้ถ้าเข้ามาในบริเวณกรุงเทพฯ แล้ว ไม่ว่าจะมุมไหนใน 4 มุมนั้น เวทมนตร์คาถาที่ว่าขลังและมีอิทธิฤทธิ์ จะสูญสิ้นไปทันที

ดวงชะตาเมืองไทยได้บอกให้คนที่สนใจเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพณ์มาตลอดเวลา 200 กว่าปีที่ผ่านมา ทั้งคำสาปแช่งและอาถรรพณ์นานาประการ ยังคงมีความสำคัญอยู่ และยังน่าจะเชื่อกันได้ต่อไปว่าอาถรรพณ์และความศักดิ์สิทธิ์ที่โบราณได้ปลุกเสกไว้ทั้งสี่มุมเมืองนั้น น่าจะยังมีความสำคัญอยู่แน่

เฉพาะอย่างยิ่ง คนชั่วที่มีชีวิตอยู่ด้วยความทุจริตคิดมิชอบต่อบ้านเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้แต่การคอรัปชั่นกินบ้านกินเมืองกันอย่างอึกทึกครึกโครมทุกวันนี้ ก็ไม่น่าจะสวัสดีมีชัยกันไปได้อย่างวัฒนาถาวรไปนานนัก เพราะเมื่อนำดวงดาวที่มีอยู่ในดวงชะตาเดิมเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 และดาวจรที่โคจรอย่างน่าดูอยู่ทุกวันนี้มาดูกัน


อ.ยอดธง ทับทิวไม้
เนชั่นสุดสัปดาห์

02/07/2025

เกิดแล้วต้องตายด้วยกันทุกคน
เพียงแต่ช้าหรือเร็วต่างกันเพียงเท่านั้น
#ธรรมะ
#หลวงตามหาบัว
#ธรรมะสอนใจ

12/06/2025

พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก (Buddha)EP8
#พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก
#พระพุทธเจ้า

#ประวัติของพระพุทธเจ้า
#ละคร
#อินเดีย

09/06/2025

พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก (Buddha) EP7
#พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก
#พระพุทธเจ้า

#ประวัติของพระพุทธเจ้า
#ละคร
#อินเดีย

ที่อยู่

21 หมู่ 10 บ้านศรีสุวรรณ ต. เพ็ญ อ. เพ็ญ
Amphoe Phen
41150

เวลาทำการ

จันทร์ 07:00 - 21:00
อังคาร 07:00 - 21:00
พุธ 07:00 - 21:00
พฤหัสบดี 07:00 - 21:00
ศุกร์ 07:00 - 21:00
เสาร์ 07:00 - 21:00
อาทิตย์ 07:00 - 21:00

เบอร์โทรศัพท์

+66618619146

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ KHON ISANผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท