Story Free - อ่านฟรีทุกวัน

Story Free - อ่านฟรีทุกวัน ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Story Free - อ่านฟรีทุกวัน, ครีเอเตอร์ดิจิทัล, Aranyaprathet.

ที่นี่คือมุมพักผ่อนสำหรับคนรักการอ่าน 🪶
พบกับ นิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่าชวนติดตาม ที่จะพาคุณหนีจากความวุ่นวาย
ทุกเรื่องอ่านฟรี ! อัปเดตต่อเนื่อง มีทั้งโรแมนติก ดราม่า ระทึกขวัญ และแฟนตาซี
กดติดตามไว้ คุณจะไม่พลาดโลกของเรื่องเล่าใหม่ ๆ ✨📖"

: เสียงกระซิบจากทางรถไฟสายมรณะ :ค่ำคืนหนึ่งในจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของไทย มีทางรถไฟเส้นหนึ่งทอดยาวผ่านป่าทึบ เส้นทางน...
02/09/2025

: เสียงกระซิบจากทางรถไฟสายมรณะ :

ค่ำคืนหนึ่งในจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของไทย มีทางรถไฟเส้นหนึ่งทอดยาวผ่านป่าทึบ เส้นทางนี้ถูกขนานนามว่า “ทางรถไฟสายมรณะ” … ไม่ใช่เพียงเพราะตำนานสมัยสงครามโลกที่ทหารเชลยถูกบังคับให้สร้าง หากแต่เป็นเพราะในความมืดนั้น ยังมีบางสิ่งที่ไม่ควรมีใครได้ยิน ได้เห็น หรือแม้แต่เดินเข้าไปใกล้

เรื่องเล่านี้เริ่มจากนักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่ง 4 คน — “ต้น”, “ฟ้า”, “นัท” และ “มีน” พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ชอบเดินทางไปถ่ายรูปสถานที่รกร้างเพื่อนำมาเล่าในเพจสยองขวัญที่พวกเขาทำเล่น ๆ

คืนนั้น พวกเขาได้ข่าวลือจากชาวบ้านว่า

> “ถ้าใครเดินผ่านทางรถไฟเส้นนั้นในยามดึก… จะได้ยินเสียงกระซิบจากความมืด เสียงที่ไม่ใช่ของคนเป็น”

ข่าวลือนั้นยิ่งทำให้ทั้งสี่ตื่นเต้น อยากไปพิสูจน์ และแน่นอนว่าความอยากรู้นี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสยอง

เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน ทั้งสี่เดินเข้าสู่เส้นทางรกร้าง รอบตัวเต็มไปด้วยป่าทึบ เสียงจักจั่นและลมพัดทำให้บรรยากาศยิ่งกดดัน

ไฟฉายส่องไปตามรางเหล็กที่ขึ้นสนิมจนแดงเป็นทางยาว
“เฮ้… ไม่มีอะไรหรอกมั้ง” นัทพยายามหัวเราะ แต่เสียงนั้นกลับสั่นแผ่วเหมือนฝืนใจ

ทันใดนั้น มีเสียง “ก๊องแก๊ง…ก๊องแก๊ง” ดังมาจากรางเหล็กข้างหน้า ทั้งที่ไม่มีรถไฟแล่นผ่านมานานหลายปี
ทุกคนหยุดชะงัก หันมองหน้ากัน ฟ้าเริ่มบ่นเบา ๆ
“เรากลับกันเถอะ ฉันไม่ชอบ…มันเหมือนมีใครเดินตาม”

แต่มีนกลับยิ้ม “ไม่เอาน่า นี่แหละจังหวะของเรา” เธอหยิบกล้องขึ้นมาเตรียมถ่าย

สายลมเย็นวูบหนึ่งพัดมา พร้อมกับเสียง… เสียงกระซิบเบา ๆ เหมือนคนพูดชิดหู

> “…อย่ามา… อย่ามา…”

ต้นรีบหันซ้ายหันขวา “พวกนายได้ยินไหม?”
แต่ทุกคนเงียบ ก่อนฟ้าจะพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง “ฉัน…ฉันก็ได้ยิน”

เสียงนั้นไม่หยุด มันลากยาวเหมือนดังมาจากใต้ดิน

> “…ช่วย…ฉัน…ด้วย…”

ทั้งสี่เริ่มใจคอไม่ดี แต่ความอยากรู้อยากเห็นยังรั้งพวกเขาเอาไว้

พวกเขาเดินต่อไปจนถึงสะพานไม้เก่า ๆ ที่ทอดผ่านเหวเล็ก ๆ
ไฟฉายของต้นส่องไปข้างหน้า และนั่นเอง…เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏ

ชายในชุดทหารเก่าคร่ำคร่า ยืนอยู่กลางราง
ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล ดวงตาขาวโพลนจ้องกลับมา ก่อนจะอ้าปากส่งเสียง กระซิบ แผ่วเบา… แต่ทุกคนกลับได้ยินชัดเจนในใจ

> “พวกเจ้า…จะไม่มีวันกลับออกไป…”

เสียงนั้นดังก้องเหมือนมีหลายร้อยคนพูดพร้อมกัน

ทันใดนั้น ฟ้ากรีดร้อง เธอบอกว่า “มีมือจับข้อเท้าฉัน!!” แต่เพื่อนอีกสามมองไม่เห็น
ต้นพยายามดึงเธอออก แต่กลับรู้สึกถึงแรงต้านจริง ๆ เหมือนมีใครอยู่ใต้ราง

นัทหันกล้องมาถ่าย แต่สิ่งที่เขาเห็นในจอมอนิเตอร์…คือผู้คนนับสิบในชุดนักโทษ สภาพเน่าเปื่อย ยืนเบียดเสียดอยู่เต็มรางรถไฟ ทุกคนส่งเสียงกระซิบพร้อมกันจนดังเป็นเสียงโหยหวน

เขาตกใจจนกล้องหลุดมือ ร่วงกระแทกพื้น

ทั้งสี่พยายามวิ่งกลับ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะวิ่งเท่าไร รางรถไฟก็เหมือนทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด
เสียงกระซิบแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเย็นเยียบ

> “ไม่มีใคร…ออกไปได้….”

ในความมืดนั้น มีนล้มลงกับพื้น ต้นหันไปดึงเพื่อนขึ้น แต่เขากลับเห็นว่าใบหน้ามีนเปลี่ยนไปครึ่งหนึ่ง — ผิวหนังแหว่งหาย เหลือเพียงกะโหลกและดวงตาที่กลวงโบ๋

เธอกระซิบกับเขา…

> “อย่าทิ้งฉัน…อยู่ด้วยกันที่นี่…”

คืนวันนั้น…มีเพียงต้นที่รอดออกมา เขาถูกพบในสภาพบาดเจ็บหนัก นอนหมดสติอยู่ริมป่า เมื่อฟื้นขึ้นมา เขาเล่าเพียงสั้น ๆ ว่า
“เพื่อนผม…เขายังอยู่ในนั้น”

ตำรวจและทีมกู้ภัยเข้าไปค้น แต่ไม่พบทั้งฟ้า นัท และมีน
สิ่งเดียวที่พบคือ กล้องถ่ายภาพที่แตกครึ่งหนึ่ง เมื่อเปิดดูคลิปที่เหลืออยู่ มีแต่ภาพรางรถไฟมืด ๆ …และเสียงกระซิบเป็นพัน ๆ เสียงสลับกันดังขึ้นพร้อมกัน

> “…มาอยู่ด้วยกัน…มาอยู่ด้วยกัน…”

จนถึงทุกวันนี้ ทางรถไฟเส้นนั้นยังคงรกร้าง และไม่มีใครกล้าเดินผ่านในยามค่ำคืน
เพราะทุกคนรู้ดีว่า…เสียงกระซิบจากความมืด จะตามคุณไปไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน

 # เรื่องเสียงเคาะจากห้องว่างฝนตกพรำๆ ในคืนเดือนมืด...หอพักเก่าแห่งหนึ่งยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางความมืดมิด แสงไฟส้มๆ ริบหรี่...
29/08/2025

# เรื่องเสียงเคาะจากห้องว่าง

ฝนตกพรำๆ ในคืนเดือนมืด...หอพักเก่าแห่งหนึ่งยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางความมืดมิด แสงไฟส้มๆ ริบหรี่จากหลอดฟลูออเรสเซนต์เก่าๆ ส่องทอดยาวไปตามทางเดินที่เงียบเหงา

เมย์ นักศึกษาปีสองที่เพิ่งย้ายมาอยู่ห้อง 204 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กำลังนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบกลางภาค เสียงฝนที่กระทบหน้าต่างเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงนาฬิกาเก่าบนผนัง

**ติ๊ก...ทัก...ติ๊ก...ทัก...**

กลางดึก...เมื่อเข็มชี้ 2:47 นาที

*ตึก...*

เสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากห้องถัดไป เมย์มองขึ้นจากตำราเรียน หูตั้งฟัง

*ตึก...ตึก...*

เสียงเคาะเป็นจังหวะ เหมือนใครบางคนกำลังเคาะประตู แต่ไม่ใช่...เสียงนี้ดังมาจากฝาผนัง

เมย์รู้ดีว่าห้อง 203 ที่อยู่ติดกับเธอ...ว่างเปล่ามาหลายเดือนแล้ว เจ้าของหอบอกว่ากำลังปรับปรุง

*ตึก...ตึก...ตึก...*

เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีคนกำลังร้อนรน กำลังเร่งด่วน กำลังขอร้อง

"อาจจะเป็นหนูหรือนกพิราบติดอยู่ในผนัง..." เมย์พึมพำพยายามสร้างเหตุผลให้ตัวเอง

แต่เสียงเคาะเริ่มเปลี่ยนไป...กลายเป็นการขูดขีด เหมือนเล็บที่ยาวและแหลมกำลังข่วนผนัง

*แครง...แครง...แครง...*

เหงื่อเย็นๆ เริ่มซึมออกมาจากหน้าผากเมย์ หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกที เธอลุกขึ้นเดินไปหาผนัง แล้วแปลกใจเมื่อพบว่า...ผนังเย็นเหน็บ เย็นผิดปกติ เหมือนกำลังเป็นฤดูหนาวท่ามกลางอากาศอบอ้าวของเดือนเมษายน

*แครง...แครง...ตึก...ตึกๆๆ...*

เสียงเปลี่ยนกลับมาเป็นการเคาะอีกครั้ง แต่เร็วขึ้น เร่งด่วนขึ้น เหมือนใครบางคนกำลังตื่นตระหนก

เมย์สั่นเทา แต่ก็อดใจไม่ไหว เธอแนบหูเข้าไปใกล้ผนัง หวังจะฟังให้ชัด

และในความเงียบงันของยามดึก...เธอได้ยินมัน

*"...เปิดให้ด้วย...หนาว...เหลือเกิน..."*

เสียงกระซิบของผู้หญิงแห้งแผ่วพร่า เหมือนเสียงลมที่พัดผ่านใบไม้แห้ง เหมือนเสียงใครสักคนที่กำลังส่าย...ส่ายเสียงสุดท้ายของชีวิต

*"...เย็น...มาก...ช่วยด้วย..."*

เสียงใกล้ขึ้น เหมือนปากที่กำลังแนบแน่นกับผนังอีกด้านหนึ่ง

เมย์แทบเป็นลม เธอผลักตัวออกจากผนัง วิ่งออกจากห้องพรวดเดียว ไม่สนใจว่าเป็นดึกดื่น

เธอวิ่งตรงไปที่ห้องพักของเจ้าของหอ กดกริ่งรัวๆ จนคุณป้าเปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ

"มีอะไรหรือเมย์ ดึกขนาดนี้"

"ค่ะคุณป้า มีเสียงแปลกๆ จากห้อง 203 มีคนอยู่ในนั้นหรือเปล่าคะ" เมย์พูดแทบไม่ออก

ใบหน้าของคุณป้าเปลี่ยนไป สีหน้าเคร่งขรึม แววตาเริ่มหลบๆ เลี่ยงๆ

"เมย์...อย่าไปใส่ใจเลยนะ ห้องนั้นไม่มีใครอยู่มานานแล้ว"

"แต่คุณป้า เมย์ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดจริงๆ เค้าบอกว่าหนาว..."

คุณป้าหยุดพูด แล้วมองเมย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความกลัว และความผิด

"ห้องนั้น..." คุณป้าพูดช้าๆ เสียงสั่น "...ไม่มีใครอยู่มานานแล้วจริง...ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้น...ถูกพบเป็นศพข้างใน"

อากาศเหมือนถูกดูดหายไป เมย์รู้สึกเหมือนโลกหมุน

"เธอเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง..." คุณป้าต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าเศร้า "ช่วงที่ไฟฟ้าดับหลายวัน เครื่องปรับอากาศใช้ไม่ได้ เธอป่วยมาก่อน ร่างกายอ่อนแอ..."

เมย์กลืนน้ำลายลำบาก

"เธอขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ออกมาหาหมอ ไม่ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่ง..."

คุณป้าหยุดพูด เหมือนเรื่องเล่าถึงจุดที่พูดต่อไม่ไหว

"ตอนที่เราพบเธอ..." คุณป้าพูดต่อด้วยเสียงหวาดๆ "เธอนอนแนบผนังฝั่งห้องของเมย์พอดี เล็บมือเต็มไปด้วยรอยเลือดแห้ง บนผนังเต็มไปด้วยรอยข่วน รอยเคาะ..."

เมย์รู้สึกมีน้ำแข็งไหลตามสันหลัง

"หมอบอกว่า...เธอตายด้วยความหนาวเหน็บ และความโดดเดี่ยว เธอใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต...เคาะผนัง ขอความช่วยเหลือ"

เมย์ไม่อยากจะเชื่อ

"แต่ที่แปลกคือ..." คุณป้าเอ่ยต่อ "นั่นเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว...ในเดือนเมษายน พอดีช่วงที่อากาศร้อน แต่ในห้องของเธอ...อุณหภูมิต่ำผิดปกติ เหมือนกับว่ามีอะไรดูดความอบอุ่นออกไปหมด"

ขนลุกเมย์จนตัวสั่น

"และทุกปี...ในช่วงเวลานี้...เดือนเมษา คืนที่อากาศร้อนที่สุด...เสียงนั่นก็จะกลับมา"

เมย์มองหน้าคุณป้าด้วยความตกใจ

"เธอยังคงรู้สึกหนาว...และยังคงขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ข้างๆ อยู่เรื่อยไป..."

เมื่อเมย์กลับไปยังห้อง...เธอได้ยินเสียงครั้งสุดท้าย

*"ขอบใจ...ที่ฟัง...ฉัน..."*

เสียงนั้นแผ่วลง แผ่วลง จนหายไปในที่สุด

แต่ความเย็นเฉียบบนผนัง...ยังคงอยู่

และเมย์รู้ว่า...ทุกคืนเมษา เธอจะได้ยินเสียงนั้นอีก

เสียงของคนที่เสียชีวิตด้วยความหนาวเหน็บ...ในคืนที่โลกเต็มไปด้วยความอบอุ่น

เริ่มต้นเปิดหน้าเพจแรก ขอนำเสนอเรื่องสั้นแนวลี้ลับแฝงไว้ซึ่งคุณธรรม # เสียงเรียกจากเตียงว่าง # # บทที่ 1: เสียงในยามดึกเ...
26/08/2025

เริ่มต้นเปิดหน้าเพจแรก ขอนำเสนอเรื่องสั้นแนวลี้ลับแฝงไว้ซึ่งคุณธรรม

# เสียงเรียกจากเตียงว่าง

# # บทที่ 1: เสียงในยามดึก

เสียง "ติ๊ง ๆ ๆ" จากปุ่มกดเรียกพยาบาลดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของวอร์ดผู้ป่วยในตอนตีสอง รัตน์ พยาบาลเวรดึก หันไปมองบอร์ดไฟเหนือโต๊ะเวรที่ติดสัญญาณเตียงหมายเลข 7 กะพริบอยู่ช้า ๆ

เธอถอนหายใจเล็กน้อย คิดว่าคนไข้คงต้องการลุกเข้าห้องน้ำหรือขอยาแก้ปวด แต่เมื่อหยิบแฟ้มขึ้นมาตรวจรายชื่อ…ใจเธอกลับเต้นแรงขึ้น "แปลก…เตียงนี้ว่างตั้งแต่เช้าแล้วนี่"

ตั้งแต่บ่ายที่ผ่านมา เตียงหมายเลข 7 ไม่มีคนไข้พักรักษา เพราะชายสูงวัยที่นอนอยู่ที่นั่นเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเมื่อสองวันก่อน ญาติพาไปรับศพตั้งแต่เมื่อวาน และเตียงก็ถอดปลั๊กสัญญาณเรียกออกตั้งแต่ตอนนั้น

รัตน์เดินไปตามโถงวอร์ด เสียงรองเท้าพยาบาลกระทบพื้นไวนิลดังก้องในความเงียบ เสียงเครื่องวัดชีพจรของผู้ป่วยเตียงอื่นดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ พอเดินใกล้เตียงหมายเลข 7 เธอรู้สึกได้ว่าบริเวณนี้เย็นกว่าปกติ เหมือนเครื่องปรับอากาศพัดลมแรงเฉพาะจุด ทั้งที่อุณหภูมิทั้งวอร์ดถูกตั้งไว้เท่ากัน

เตียงหมายเลข 7 อยู่ในมุมที่ไฟฟลูออเรสเซนต์กระพริบเบา ๆ เงาร่างของเธอสั่นไหวตามจังหวะแสง เธอมองไปที่ปุ่มเรียกข้างเตียง…มันเสียบปลั๊กแล้ว และไฟสีแดงยังค้างอยู่ ทั้งที่เมื่อเช้าเธอเป็นคนถอดปลั๊กกับมือ

รัตน์ค่อย ๆ เอื้อมมือไปปิดปุ่มเรียก แต่ก่อนที่ปลายนิ้วจะสัมผัส เสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นจากหมอน "ช่วย…หน่อย…"

เธอชะงักทันที เหงื่อเย็นไหลซึมหลังคอ เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่ใกล้พอเหมือนกระซิบอยู่ข้างหู และมันไม่ใช่เสียงของคนไข้ในวอร์ดที่เธอจำได้

เธอหันไปมองบนเตียง…ไม่มีใครอยู่ มีเพียงผ้าห่มพับเรียบ แต่ตรงกลางเตียงกลับบุ๋มลงเล็กน้อยราวกับมีใครนอนอยู่ น้ำหนักกดบนที่นอนนั้นทำให้โครงเตียงเอี๊ยดเบา ๆ

รัตน์ถอยหลังช้า ๆ แต่สายตายังจับจ้องที่เตียง จังหวะนั้นไฟฟลูออเรสเซนต์ก็ดับวูบ เหลือเพียงแสงสลัวจากโถงทางเดินที่ส่องลอดเข้ามา ในความมืด เธอเห็นเงาร่างซีดขาวนอนตะแคงหันมาทางเธอ ตาเบิกกว้างแต่ไร้ประกาย เส้นเลือดที่ลำคอปูดโปนราวกับกำลังหายใจไม่ออก

เสียงกดปุ่มเรียกดังอีกครั้ง "ติ๊ง ๆ ๆ" แต่ครั้งนี้ดังจากด้านหลังเธอ…จากบอร์ดไฟที่โต๊ะเวร รัตน์วิ่งกลับไปทันที หัวใจเต้นแรงจนหูอื้อ เมื่อเธอมองบอร์ดไฟ สัญญาณเตียงหมายเลข 7 ดับลงแล้ว

เธอตัดสินใจกลับไปตรวจอีกครั้ง…แต่เตียงหมายเลข 7 ว่างเปล่าเหมือนเดิม ปลั๊กปุ่มเรียกถูกถอดออกแล้ว วางพาดไว้ข้างหมอนราวกับไม่เคยถูกเสียบ

คืนนั้นรัตน์ทำงานที่โต๊ะเวรตลอด ไม่กล้าเดินเข้าไปในมุมที่มีเตียงหมายเลข 7 อีกเลย แต่จนถึงตอนเช้า เธอก็ยังไม่แน่ใจว่า…เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเพราะความง่วง หรือเป็นเพราะชายสูงวัยเจ้าของเตียงยังไม่อยากจากไป

✨ ยินดีต้อนรับสู่ "โลกนิยายฟรี" ✨ที่นี่คือมุมพักผ่อนสำหรับคนรักการอ่าน 📚💕เรามีทั้ง นิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่าหลากรสไม่ว...
26/08/2025

✨ ยินดีต้อนรับสู่ "โลกนิยายฟรี" ✨
ที่นี่คือมุมพักผ่อนสำหรับคนรักการอ่าน 📚💕
เรามีทั้ง นิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่าหลากรส
ไม่ว่าจะเป็นโรแมนติก ดราม่า ระทึกขวัญ หรือแฟนตาซี 🌌

💡 ทุกเรื่อง อ่านฟรี!
💡 อัปเดตเนื้อหาใหม่ทุกสัปดาห์
💡 พร้อมเรื่องพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด

👉 ฝากกด ถูกใจ ❤️ ติดตาม 🔔 และแชร์ต่อ
เพื่อไม่พลาดการผจญภัยในโลกแห่งตัวอักษรไปกับเรา!

#โลกนิยายฟรี #อ่านฟรีทุกวัน #เรื่องสั้น #นิยาย

26/08/2025

> "ที่นี่คือมุมพักผ่อนสำหรับคนรักการอ่าน 🪶
พบกับ นิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่าชวนติดตาม ที่จะพาคุณหนีจากความวุ่นวาย
ทุกเรื่องอ่านฟรี! อัปเดตต่อเนื่อง มีทั้งโรแมนติก ดราม่า ระทึกขวัญ และแฟนตาซี
กดติดตามไว้ แล้วคุณจะไม่พลาดโลกของเรื่องเล่าใหม่ๆ ที่รอให้คุณค้นพบทุกวัน ✨📖"

Send a message to learn more

07/04/2022
30/04/2021

Coming Soon

ชาวจีนเชื่อว่าด้ายแดงนี่แหละคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก การขอพรเรื่องความรักกับเทพหยุคโหลวที่วัดหวังต้าเซียนะ ด้วยการผู...
15/03/2021

ชาวจีนเชื่อว่าด้ายแดงนี่แหละคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก
การขอพรเรื่องความรักกับเทพหยุคโหลวที่วัดหวังต้าเซียนะ
ด้วยการผูกด้ายแดง ซึ่งทำได้ทั้งคนโสด และ คนมีคู่แล้วะ คนโสดก็เป็นการขอพรให้เจอเนื้อคู่
ส่วนคนมีคู่ ก็จะช่วยทำให้มีความรักที่มั่นคงและยืนยาว เทพเจ้าหยุคโหลว
หรือที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งจันทรา หรือผู้เฒ่าแห่งดวงจันทร์ (The Old Man from The Moon)
เทพเจ้าแห่งความรัก และการแต่งงาน ตามตำนานเล่าว่าหลังจากที่ภรรยาผู้เฒ่าเสียชีวิต ก็ได้ขึ้นไปอยู่บนสรวงสรรค์ ผู้เฒ่าก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาเพื่อขอให้ทวยเทพประทานพรให้เขาได้ขึ้นไปอยู่กับคนรัก จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์ คอยทำหน้าที่จดรายชื่อคู่รัก #กําไลข้อมือ
#ด้ายแดง #สร้อยข้อมือ #กำไล #พร้อมส่ง

ปี่เซียะ เป็นวัตถุมงคลยอดนิยม ที่มีการนำมาบูชา เพื่อให้ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย เรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา และกักเ...
14/03/2021

ปี่เซียะ เป็นวัตถุมงคลยอดนิยม ที่มีการนำมาบูชา เพื่อให้ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย เรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา และกักเก็บทรัพย์นั้นไม่ให้รั่วไหลออกไปไหนได้ ชาวจีนโบราณเชื่อกันว่า ปี่เซียะเป็นสัตว์ประหลาดที่รวมลักษณะของสัตว์มงคลทั้ง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน ได้แก่ มังกร พญาราชสีห์หรือสิงโต อินทรี กวาง และแมว

ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 (เทพแห่งโชคลาภ) ของพญามังกรสวรรค์ มีชื่อเรียกด้วยกันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น “เทียนลก (กวางสวรร...
14/03/2021

ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 (เทพแห่งโชคลาภ) ของพญามังกรสวรรค์ มีชื่อเรียกด้วยกันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น “เทียนลก (กวางสวรรค์)” เป็นชื่อเดิม ส่วนจีนกวางตุ้งจะเรียกว่า “เผ่เย้า” และคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่า “ผีซิว”

ที่อยู่

Aranyaprathet

เบอร์โทรศัพท์

+66893936192

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Story Free - อ่านฟรีทุกวันผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Story Free - อ่านฟรีทุกวัน:

แชร์