
07/10/2025
สายอสังหาฯ ก็ควรสร้าง Trust นะคะ สำคัญและจำเป็นมากๆ 😘
Framework วิธีสร้าง Trust แบบ 5 ขั้นตอน
1. ความจริง (Truth)
เริ่มต้นด้วย “ความจริงใจ”
• บอกตรงไปตรงมา ไม่ขายเกินจริง
• ถ้าสินค้ามีข้อจำกัด ก็บอกไปตามนั้น
• ลูกค้าจะสัมผัสได้ว่าแบรนด์นี้ พูดจริง ทำจริง
📌 ตัวอย่าง: Patagonia กล้าบอกลูกค้า “อย่าซื้อถ้าคุณไม่จำเป็น” เพราะอยากลดขยะสิ่งแวดล้อม ผลคือคนกลับเชื่อใจและรักแบรนด์มากขึ้น (ไว้จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม)
2. ความสม่ำเสมอ (Consistency)
Trust ไม่ได้เกิดจากครั้งเดียว แต่เกิดจาก “ความต่อเนื่อง”
• โพสต์แล้วหายไป = ลูกค้าไม่มั่นใจ
• บริการดีบ้าง แย่บ้าง = ลูกค้าไม่กล้ากลับมา
• การทำซ้ำด้วยมาตรฐานเดียวกัน คือกุญแจของ Trust
📌 ตัวอย่าง: Starbucks ที่ไหนในโลก รสชาติกาแฟใกล้เคียงกันเสมอ ลูกค้าจึงกล้าเลือกโดยไม่ต้องลังเล (ใช่ค่ะ…หมดเงินไปกับกาแฟแบรนด์นี้หลายหมื่นแล้ว🤣🤣🤣)
3. การพิสูจน์ (Proof)
คำพูดไม่พอ ต้องมีหลักฐาน
• รีวิวจริง
• Case Study ลูกค้า
• การกล้ารับประกันคืนเงิน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าเชื่อว่าคุณมั่นใจในสิ่งที่ขาย
📌 ตัวอย่าง: Amazon สร้าง Trust ด้วยระบบรีวิวและคืนสินค้าได้จริง → ลูกค้าซื้อซ้ำเพราะมั่นใจว่าจะไม่ถูกโกง (ครูแป๋วก็เป็นลูกค้าแบรนด์นี้ด้วยเช่นกัน)
4. การเชื่อมโยง (Connection)
Trust ไม่ใช่แค่ข้อมูล แต่คือ “ความสัมพันธ์”
• ฟังลูกค้าก่อนขาย
• ทำให้เขารู้สึกว่า “คุณเข้าใจฉัน”
• ใช้เรื่องราวเล่า (Storytelling) เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์
📌 ตัวอย่าง: Dove เลือกใช้ “Real Beauty” Campaign นำผู้หญิงธรรมดามาเล่าเรื่องจริง → คนเชื่อและอินเพราะมันสะท้อนตัวตนจริง (แบรนด์นี้อยู่บ้านครูแป๋วด้วยนะ)
5. ความต่อยอด (Loyalty Building)
เมื่อมี Trust แล้ว ต้องไม่หยุดแค่การขาย แต่สร้างความผูกพัน
• ติดตามลูกค้าหลังการขาย
• มีระบบ Member, Community หรือ VIP
• ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขามีคุณค่ามากกว่าแค่ “ตัวเลขยอดขาย”
📌 ตัวอย่าง: Apple Ecosystem ที่เชื่อม iPhone, Mac, iPad, Apple Watch → เมื่อเชื่อใจแล้ว ลูกค้าจะอยู่กับแบรนด์ยาวๆ (โปรดเรียกครูแป๋วว่า…สาวก 5555+)
Trust ไม่ได้สร้างด้วยโพสต์หนึ่งครั้ง หรือโปรโมชั่นแรงๆ แต่คือการเดินเกมอย่างมีระบบ 5 ขั้นตอนนี้
Truth → Consistency → Proof → Connection → Loyalty
ถ้าคุณทำครบ ลูกค้าจะ ไม่ใช่แค่ซื้อ แต่จะอยู่กับคุณตลอดไป
#เรื่องเล่ามุ่งสู่เฟส2