ICHI media ICHI media with a theme of "Inspire Your Business with Digital" aims to share DX content in Thailand

AI กำลังเปลี่ยนการสมัครงานเรซูเม่ที่สร้างด้วย ChatGPT กำลังล้นตลาด จน HR เจอใบสมัครเหมือนกันเป็นพันฉบับต่อวันปรากฏการณ์น...
14/07/2025

AI กำลังเปลี่ยนการสมัครงาน
เรซูเม่ที่สร้างด้วย ChatGPT กำลังล้นตลาด จน HR เจอใบสมัครเหมือนกันเป็นพันฉบับต่อวัน

ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Hiring Slop” – เมื่อการหางานกลายเป็นเกมของอัลกอริทึม ไม่ใช่ความสามารถของคนอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

โลกของการสมัครงานกำลังเปลี่ยนไป เมื่อ AI กำลังเข้ามาทำให้เรซูเม่ที่เคยเป็นพระเอกของการหางาน เริ่มกลายเป็นเพียงเอกสารที่ไร้ค่าในสายตานายจ้างหลายคน
วันนี้ ใครๆ ก็สามารถใช้ AI อย่าง ChatGPT ช่วยเขียนเรซูเม่ที่ดูดี เข้ากับคำอธิบายตำแหน่งงานได้ภายในไม่กี่วินาที จนกลายเป็นการระบาดของใบสมัครอัตโนมัติที่ทำให้ฝ่าย HR รับมือแทบไม่ไหว
ข้อมูลล่าสุดจาก The New York Times ระบุว่า LinkedIn ต้องประมวลผลใบสมัครมากถึง 11,000 ฉบับต่อนาที เพิ่มขึ้นถึง 45% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากเรซูเม่ที่ถูกสร้างด้วย AI ซึ่งใส่คีย์เวิร์ดเป๊ะตามประกาศงานโดยแทบไม่ต้องใช้แรงมนุษย์
ไม่เพียงแค่นั้น ผู้สมัครบางคนยังยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการใช้ AI เอเจนต์ที่สามารถหางานและสมัครให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ HR เจอกับใบสมัครที่หน้าตาคล้ายกันไปหมด และยากที่จะรู้ว่าใครสนใจจริง กับใครที่แค่กดสมัครส่งๆ
จนผู้คนเริ่มออกมาพูดกันว่าตอนนี้การจ้างงานกำลังเข้าสู่ภาวะ “Hiring Slop” หรือภาวะของความวุ่นวายในการจ้างงานยุคใหม่ ที่เกิดจากการระเบิดของใบสมัครงานที่สร้างโดย AI ซึ่งกำลังเปลี่ยนสนามการหางานให้กลายเป็นเกมของเทคโนโลยี ไม่ใช่ความสามารถของคนอีกต่อไป
Hiring Slop จึงไม่ใช่แค่การสมัครงานที่ล้นเกิน แต่คือภาวะที่ คุณค่าของเรซูเม่ลดลง การสื่อสารระหว่างคนกับคนหายไป และการหางานกลายเป็นเรื่องของอัลกอริทึมที่แข่งกันตอบโจทย์ระบบ มากกว่าการโชว์ศักยภาพของตัวบุคคล
ตัวอย่างหนึ่งคือ Katie Tanner ที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งเปิดรับตำแหน่ง Remote Working เพียง 1 ตำแหน่ง แต่กลับได้รับใบสมัครกว่า 1,200 ฉบับ ภายในเวลาไม่นาน จนต้องลบโพสต์ทิ้งและยังเคลียร์ไม่หมดแม้ผ่านไปสามเดือน
เรื่องนี้สะท้อนชัดว่า เรซูเม่ยุคใหม่ที่ถูกสร้างด้วยระบบอัตโนมัติจำนวนมาก ไม่ได้บอกถึงความตั้งใจหรือคุณสมบัติที่แท้จริงของผู้สมัครอีกต่อไปแล้ว
อ่านบทความเต็มที่ลิงก์ใต้คอมเมนต์👇

จับตามองนวัตกรรมถุงพลาสติก ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีถุงพลาสติกมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก แต่ก...
11/07/2025

จับตามองนวัตกรรมถุงพลาสติก ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

ถุงพลาสติกมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก แต่ก็มีโทษเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกิดจากสารสังเคราะห์เคมีใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย หลัก 300 ปีขึ้นไป โทษของการย่อยสลายช้า หากไปฝังกลบส่งผลให้บริเวณนั้นทำการเกษตรไม่ได้ หากเผาก็จะเกิดมลพิษทางอากาศ ผู้สูดดมเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เป็นต้น

OpenAI เตรียมเปิดตัวเบราว์เซอร์ใหม่ ท้าชน Google Chrome หลังเคยสนใจซื้อ Chrome จาก Google.อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇
11/07/2025

OpenAI เตรียมเปิดตัวเบราว์เซอร์ใหม่ ท้าชน Google Chrome หลังเคยสนใจซื้อ Chrome จาก Google.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

มีรายงานว่า OpenAI ใกล้ที่จะเปิดตัวเบราว์เซอร์ใหม่ที่อาจเข้ามาเขย่าบัลลังก์ของ Google Chrome หลังจากก่อนหน้านี้ไม่ก....

AI กลายเป็นหัวใจของโลกเทคโนโลยี ทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ ๆ มากมายจนตามไม่ทัน เว็บไซต์ CNET จึงรวบรวม 53 คำศัพท์เกี่ยวกับ AI ...
09/07/2025

AI กลายเป็นหัวใจของโลกเทคโนโลยี ทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ ๆ มากมายจนตามไม่ทัน เว็บไซต์ CNET จึงรวบรวม 53 คำศัพท์เกี่ยวกับ AI เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าใจโลกปัญญาประดิษฐ์ได้ง่ายขึ้น และไม่ตกเทรนด์ในยุคที่ทุกอย่างหมุนรอบ AI.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

ตามโลก AI ไม่ทัน? เปิดคัมภีร์ 53 ศัพท์เทคฯ ที่จะทำให้คุณเข้าใจ AI มากยิ่งขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI คือคำที่ทรงพลังที่สุดในโลกเทคโนโลยีชั่วโมงนี้ ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหน ตั้งแต่ ChatGPT ที่ตอบได้ทุกอย่าง ไปจนถึงการที่ Google ปรับหน้าผลการค้นหาให้มีบทสรุปจาก AI อยู่บนสุด ปัญญาประดิษฐ์กำลังแทรกซึมโลกอินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์
เมื่อโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบ AI คำศัพท์และแนวคิดใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมากมายจนตามแทบไม่ทัน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยากอัปเดตความรู้หรือเพื่อคุยกับเพื่อนให้สนุกขึ้น ทางเว็บไซต์ CNET ได้รวบรวม 53 คำศัพท์เทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับ AI มาไว้ที่นี่แล้ว รับรองว่ารู้แล้วไม่ตกเทรนด์แน่นอน!

อ่านต่อที่ใต้คอมเมนต์

เชื่อมโยงการวางแผนและบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย ERP และ APS ✅💯ในยุคที่โรงงานอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการ...
08/07/2025

เชื่อมโยงการวางแผนและบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย ERP และ APS ✅💯

ในยุคที่โรงงานอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การวางแผนการผลิตแบบแม่นยำและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ "กลยุทธ์" สำคัญขององค์กรชั้นนำ

พบกับงานสัมมนา
“เชื่อมโยงการวางแผนและบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย ERP และ APS”

📌วันที่ 31 กรกฎาคม 2568
🕥เวลา 9:30 - 15:25
🏢ห้อง A511/1 สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI)

👉 ลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/pe819Dd2Bv8A29uD8 👈

ภายในงาน ท่านจะได้เรียนรู้มุมมองทั้งภาพรวมและเจาะลึกทางเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญจาก Dentsu Soken Thailand และ Toyo Business Engineering พร้อมการสาธิตแบบ Live Demo การทำงานร่วมกันระหว่างระบบ ERP กับ APS (Advanced Planning and Scheduling) เพื่อสร้าง Workflow การผลิตแบบ End-to-End ที่ชัดเจน ยืดหยุ่น และพร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงของตลาด

พิเศษ! สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนา
รับสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรม “POV – Proof of Value (Pre-assessment)”
ประเมินศักยภาพและค้นหาโอกาสในการพัฒนาระบบวางแผนการผลิตให้กับโรงงาน/องค์กรของคุณ ฟรี!
*จำนวนจำกัดสำหรับบริษัทที่ผ่านการคัดเลือก และจองคิวภายในสิงหาคมนี้เท่านั้น

Highlight พิเศษ!
🔸 ทดลองทำ POC ฟรี 1 วัน ภายในเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น
🔸 ลุ้นรับของรางวัลในงาน และเคสจริงจากโรงงานที่ใช้งาน APS Scheduling ร่วมกับ ERP

สัมมนานี้เหมาะสำหรับ
ผู้บริหาร, วิศวกรการผลิต, ฝ่ายวางแผนการผลิต, และทีม IT ที่ต้องการยกระดับการผลิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ในอุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ

งานสัมมนาวันที่/เวลา: 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 09:30 - 15:30 น. สถานที่: สถาบันไทย-เยอรมัน (Thai-German Institute - TGI), ตึก A ห้องเลขที่ A511/1 Google Maps: https://map...

Amazon มีหุ่นยนต์ทำงานในโกดังครบ 1 ล้านตัวทั่วโลก กลายเป็นบริษัทที่ใช้หุ่นยนต์เคลื่อนที่มากที่สุดในโลก พร้อมเปิดตัวระบบ ...
08/07/2025

Amazon มีหุ่นยนต์ทำงานในโกดังครบ 1 ล้านตัวทั่วโลก กลายเป็นบริษัทที่ใช้หุ่นยนต์เคลื่อนที่มากที่สุดในโลก พร้อมเปิดตัวระบบ AI ‘DeepFleet’ ที่ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานเร็วขึ้น 10% แม้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลว่า AI และหุ่นยนต์อาจมาแทนแรงงานมนุษย์ โดยเฉพาะงานในโรงงาน ขณะที่ Amazon ยืนยันยังต้องการแรงงานคนในสายเทคนิคและการดูแลระบบ แม้ยอมรับว่าบางตำแหน่งอาจหายไปในอนาคต.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่👇👇👇👇👇

Amazon ประกาศว่า ตอนนี้บริษัทมีหุ่นยนต์ทำงานในโกดังทั่วโลกครบ 1 ล้านตัวแล้ว โดยทำหน้าที่ช่วยเคลื่อนย้ายสินค้าในศูนย์กระจายสินค้ากว่า 300 แห่ง
ทำให้ Amazon กลายเป็นบริษัทที่มี ‘หุ่นยนต์เคลื่อนที่’ เยอะและใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ Amazon ยังเปิดตัว ‘DeepFleet’ ระบบ AI ที่ช่วยหุ่นยนต์ทำงานได้ฉลาดขึ้น ช่วยลดเวลาการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ลง 10% ทำให้สามารถจัดการ และส่งของเร็วขึ้น รวมทั้งประหยัดต้นทุนมากขึ้น
Amazon เริ่มใช้หุ่นยนต์ตั้งแต่ปี 2012 เพื่อเคลื่อนย้ายชั้นวางสินค้าเป็นหลัก ต่อมาก็พัฒนาให้ยกของที่มีน้ำหนักหลายพันปอนด์ได้ หรือบางตัวก็เดินไปมาในโกดังได้เองแบบอัตโนมัติ
ซึ่งในอนาคต Amazon อาจพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนคน ทำงานในโกดังเหมือนที่โรงงานของ Tesla มีแล้วในตอนนี้
แน่นอนว่าข่าวนี้ทำให้แรงงานหลายคนกังวลว่า หุ่นยนต์พวกนี้จะมาแทนที่มนุษย์แรงงานหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่ทำงานในโรงงาน หลังผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า งานแบบนี้เสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI มากที่สุด
‘Scott Dresser’ รองประธานฝ่าย Robotics ของ Amazon อธิบายว่า หุ่นยนต์พวกนี้ช่วยในงานหนักๆ และงานที่ทำซ้ำๆ แทนคน ส่วนแรงงานคนก็มีโอกาสเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
แม้กระทั่งโกดังใหม่ของ Amazon ที่เปิดในรัฐหลุยเซียนา เพิ่งเพิ่มคนในสายซ่อมบำรุงและวิศวกรรมขึ้นถึง 30% เพราะฉะนั้น แรงงานมนุษย์ยังมีบทบาทอยู่
แต่ ‘Andy Jassy’ ซีอีโอ Amazon ก็ยอมรับว่าการใช้ AI จะทำให้บางตำแหน่งงานหายไป แม้ว่า Amazon จะยังรับคนเพิ่มในสาย AI และ Robotics ก็ตาม แต่จำนวนคนงานรวมๆ อาจลดลงในปีถัดๆ ไป เหมือนในปี 2022-2023 Amazon ก็ปลดพนักงานไปกว่า 27,000 คนแล้ว
ด้านผู้บริหารสายเทคอย่าง ‘Tobi Lutke’ จาก Shopify ก็ออกมาเตือนเรื่องผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงานเหมือนกัน โดยปีที่แล้ว มีบริษัทเทคโนโลยีหลายร้อยแห่ง ปลดคนงานรวมกันเกือบ 150,000 คน แถมรายงานล่าสุดยังบอกอีกว่า เกือบครึ่งของนายจ้างในสหรัฐฯ วางแผนลดคนงานเพราะ AI
#ธุรกิจคิดใหม่
#หุ่นยนต์ #โรงงาน #งานผลิต

Botnoi Voice เครื่องมือ Text-to-Speech ที่พัฒนาโดย Botnoi Group ของไทย สามารถใช้งานบน Canva ได้แล้ว จุดเด่นคืออ่านภาษาไท...
07/07/2025

Botnoi Voice เครื่องมือ Text-to-Speech ที่พัฒนาโดย Botnoi Group ของไทย สามารถใช้งานบน Canva ได้แล้ว จุดเด่นคืออ่านภาษาไทยได้ชัดเป็นธรรมชาติ รองรับ 8 ภาษา และมีเสียงให้เลือกกว่า 100 แบบ ครอบคลุมหลายช่วงวัย.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

ยังจำ Botnoi กันได้ไหม ? แชทบอทรุ่นบุกเบิกของไทยที่หลายๆ คนเคยใช้กันใน Line ล่าสุด Botnoi Voice เครื่องมือแปลงคำสั่งข้อความเป็นเสียงสังเคราะห์ที่บริษัท Botnoi Group พัฒนาขึ้นมา สามารถใช้งานบน Canva แพลตฟอร์มดีไซน์ระดับโลกได้แล้ว
Botnoi Voice คือ คือเครื่องมือที่ใช้ในการแปลงคำสั่งข้อความออกมาเป็นเสียงสังเคราะห์ AI (Text To Speech) ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทสัญชาติไทยอย่าง Botnoi Group หนึ่งในบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
ความพิเศษของ AI ตัวนี้คือ สามารถออกเสียงภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำและมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด สามารถแปลงเสียงได้ถึง 8 ภาษา อาทิ ไทย, อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น เวียดนาม, ลาว, เมียนมาร์, และอินโดนีเซีย เป็นต้น และผู้ใช้งานสามารถเลือกเจนเสียงได้มากกว่า 100+ สไตล์และมีเสียงให้เลือกใช้งานหลากหลายช่วงวัย
อ่านต่อได้ที่: https://techsauce.co/news/botnoi-voice-thai-ai-now-available-on-canva

Avoid These 6 Sales DX Traps (หลุมพรางของการเปลี่ยนผ่านสู่ Sales DX)① CRM Isn’t the Goal. It’s Just the Start.          ...
05/07/2025

Avoid These 6 Sales DX Traps (หลุมพรางของการเปลี่ยนผ่านสู่ Sales DX)

① CRM Isn’t the Goal. It’s Just the Start.



👇👇👇

Meets นำเสนอโซลูชันการบริหารจัดการกิจกรรมบนมือถือ เพื่อเร่งการเติบโตของทีมพร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาทั่วไป ท....

ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าเว็บไซต์ Generative AI อย่าง ChatGPT, Gemini กว่า 697 ล้านบัญชี โดยผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 13–15 เท่า แล...
04/07/2025

ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าเว็บไซต์ Generative AI อย่าง ChatGPT, Gemini กว่า 697 ล้านบัญชี โดยผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 13–15 เท่า และกว่า 80% เข้าใช้งาน ChatGPT เป็นหลัก.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

ตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการค้นข้อมูลออนไลน์ก็คือช่วงปีที่ผ่านมามี Unique Visitor มากกว่า 697 บัญชี เข้าไปค้นข้อมูลในเว็บไซต์ Generative AI อาทิ ChatGPT, Gemini ฯลฯ โดยมีผู้ใช้งานเว็บไซต์ที่เป็น Generative AI เพิ่มขึ้นประมาณ 13-15 เท่า ในจำนวนนี้เป็นคนที่เข้าเว็บไซต์ ChatGPT ถึง 80%

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ทําให้ชาว SEO ไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป เพราะว่าการค้นข้อมูลใน ChatGPT กําลังทวีความสําคัญมากขึ้น
ส่วนในประเทศไทย ChatGPT มี Unique Visitor อยู่ที่ประมาณ 6 ล้าน ในขณะที่ Google อยู่ที่ประมาณ 120 ล้าน

แม้ว่าตัวเลขตอนนี้จะอยู่ที่ประมา ณ 5% เมื่อเทียบกับ Google แต่ทุกฝ่ายคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 10% ในไม่ช้า ซึ่งทำให้ทาง Google เองต้องมีการพัฒนา Generative AI ซึ่งเป็นที่มาของฟังก์ชัน AI Overviews ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นกับคํานี้บ้างแล้ว

หลักๆ แล้ว AI Overviews จะแสดงผลลัพธ์ไว้ด้านบนสุดของผลลัพธ์ ผลที่ตามมาก็คือ User แทบจะไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ เพราะสามารถเห็นคำตอบได้โดยสามารถอ่านจาก AI Overview ได้เลย

AI Overviews จึงเป็นเครื่องมืออันใหม่ที่สามารถสร้างเอนเกจเมนต์ให้กับ User มากกว่าการค้นหาทั่วไป

โดยปกติแล้วการที่จะทำให้แบรนด์หรือสินค้าเราติดที่หน้าค้นหาของ Search Engine ทั่วไปอย่าง Google, Bing นั้น จะต้องโฟกัสไปที่การทำ SEO

คำถามที่ตามมาก็คือแล้วถ้าอยากจะติด AI Overviews จะต้องทำอย่างไร?

มารุต ปิยะพันธ์ SEO Manager, Amplifi เฉลยคำตอบนี้ว่า การตลาดยยุค AI แบรนด์จำเป็นต้องสำรวจสุขภาพด้าน SEO (Search Engine Optimization) และ AEO (Answer Engine Optimization) ของเว็บไซต์ตัวเอง เพราะ AEO คือการทำให้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของแบรนด์ไปปรากฏบนผลการค้นหาของ AI เช่น ChatGPT, Gemini และ AI Overviews รูปแบบสรุปคำตอบด้านบนสุดของผลลัพธ์การค้นหา โดยเป็นการดึงข้อมูลมาจากหลายเว็บไซต์มาประมวลจัดเรียงใหม่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านในเว็บเหมือนเดิม

3 สิ่งควรทำถ้าอยากติด AEO
1. ต้องทำ SEO ให้ดี เพราะการที่เราจะติด AI Overviews ต้องพึ่งพาคอนเทนต์คุณภาพ
2. AI Overviews ชอบโครงสร้างคอนเทนต์ที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าทำคอนเทนต์ในลักษณะเขียนเป็นพารากราฟ บางที AI จะมองไม่เห็น อาจจะต้องเสริมด้วย Bullet Point ให้เข้าใจง่าย
3. คุณภาพคอนเทนต์ เพราะในอนาคตจะมีคอนเทนต์ AI มากขึ้น สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ AI เลือกมาอาจจะเป็นแค่คอนเทนต์เดียวเท่านั้น เพราะ AI ก็ต้องเลือกคำตอบให้ดีที่สุดอยู่ดี

แม้ AI ช่วยให้งานมีคุณภาพดีขึ้น แต่กลับทำให้คนหมดไฟและเบื่องานเมื่อไม่ได้ใช้ AI เพราะรู้สึกว่างานน่าเบื่อและขาดความท้าทา...
03/07/2025

แม้ AI ช่วยให้งานมีคุณภาพดีขึ้น แต่กลับทำให้คนหมดไฟและเบื่องานเมื่อไม่ได้ใช้ AI เพราะรู้สึกว่างานน่าเบื่อและขาดความท้าทาย ทางออกคือใช้ AI อย่างพอดี ควบคู่กับการรักษาความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

อีกด้านหนึ่งของ AI ทำคนหมดไฟ-ไม่ผูกพันงาน เพราะทำให้หมดทุกอย่าง แรงจูงใจจึงดิ่ง
งานวิจัยจาก Harvard Business Review พบว่าแม้ AI จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่กลับทำให้คนรู้สึกหมดไฟ และเบื่องานมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อต้องทำงานแบบไม่มี AI ช่วย
ในการทดลอง ผู้ร่วมทดสอบต้องลองเขียนโพสต์ Facebook หรืออีเมล ทั้งแบบมี และไม่มี AI ช่วย ซึ่งผลลัพธ์ชัดเจนว่า งานที่ใช้ AI มีคุณภาพดีกว่า เนื้อหาคมชัด เป็นระบบ และน่าอ่านกว่า
แต่เมื่อผู้เข้าร่วมที่เคยใช้งาน AI ต้องเปลี่ยนไปทำงานด้วยตัวเอง พวกเขากลับมีแรงจูงใจลดลงเฉลี่ย 11% และรู้สึกเบื่อมากขึ้น 20% ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ AI ตั้งแต่แรก กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจแบบเดียวกัน
สาเหตุหลักที่เป็นแบบนี้ คือ AI เข้ามาช่วยจัดการกับส่วนที่คิดยากที่สุดในงาน ซึ่งจะทำให้งานง่ายขึ้น แต่ก็ลดความรู้สึกท้าทาย และความผูกพันกับเนื้องานลง ผู้เข้าร่วมรู้สึกควบคุมงานได้น้อยลง ซึ่งส่งผลต่อแรงจูงใจโดยตรง แต่เมื่อกลับมาทำงานแบบเดิมด้วยตัวเอง งานจึงรู้สึกน่าเบื่อ และไม่น่าดึงดูดเหมือนเดิม
Harvard Business Review มองว่านี่คือโจทย์ใหญ่สำหรับองค์กร เพราะถึง AI จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์งานออกมาดีขึ้น แต่การพึ่งพา AI มากเกินไป อาจบั่นทอนความผูกพัน ความคิดสร้างสรรค์ และความพึงพอใจในการทำงานในระยะยาว
ซึ่งทางออกไม่ใช่การเลิกใช้ AI แต่คือใช้ AI ให้เป็น และให้พอดี อย่างเช่นให้ AI ช่วยร่างเนื้อหาเบื้องต้น แล้วให้พนักงานปรับแต่ง หรือใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป และควรสลับงานที่ใช้ AI กับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ล้วน ๆ เพื่อให้คนยังรู้สึกเป็นเจ้าของผลงาน รวมทั้งจัดอบรมให้พนักงานใช้ AI อย่างมีสติ ไม่ใช่ใช้แบบพึ่งพา
วิจัยสรุปว่า AI อาจช่วยให้คนทำงานได้มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรักษาความรู้สึกของการทำงานที่มีความหมายไว้ให้ได้ อนาคตของการทำงานไม่ใช่แค่ว่า AI จะทำอะไรได้บ้าง แต่เป็นเรื่องของการร่วมมือกันระหว่างคนกับ AI ต่างหาก
#ธุรกิจคิดใหม่
#ทำงาน #หมดไป

เมื่อ AI เข้ามาช่วยขจัดปัญหาการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์การกลั่นแกล้ง หรือบูลลี่ (Bullying) มีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้...
02/07/2025

เมื่อ AI เข้ามาช่วยขจัดปัญหาการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

การกลั่นแกล้ง หรือบูลลี่ (Bullying) มีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย 1. ทางกาย เช่น ชกต่อย ตบตี ฯลฯ 2. ทางสังคม ได้แก่ การแบน กีดกันไม่ให้เข้ากลุ่ม ฯลฯ 3. ทางวาจา ก็เช่น การเยาะเย้ย นินทา ว่าร้ายใส่กัน ฯลฯ และ 4. ทางออนไลน์ หรือไซเบอร์บูลลี่ (Cyber Bullying) ก็คือทั้ง 3 ประเภทที่ยกมา เพียงแต่ย้ายเข้าสู่ออนไลน์ เมื่อถามว่า การตบตีกระทำผ่านออนไลน์ได้ด้วยหรือ? ตอบว่า ได้! เพราะการกลั่นแกล้งทางออนไลน์นั้นทำให้เจ็บปวดทางจิตใจ และหลายครั้งก่อให้เกิดการฆ่าตัวตาย

ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้พัฒนา วัสดุมีชีวิต (Living Material) ที่สามารถ "หายใจ" ได้ โดยใช...
02/07/2025

ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้พัฒนา วัสดุมีชีวิต (Living Material) ที่สามารถ "หายใจ" ได้ โดยใช้การผสาน ไซยาโนแบคทีเรีย ซึ่งสามารถสังเคราะห์แสง ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) จากอากาศ เข้ากับ ไฮโดรเจล ที่สามารถพิมพ์ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี 3 มิติได้ วัสดุใหม่นี้สามารถเปลี่ยนอาคารให้กลายเป็นเหมือน "เครื่องฟอกอากาศยักษ์" ช่วยลดมลภาวะ และอาจพลิกโฉมวงการก่อสร้างในอนาคต นวัตกรรมนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👇👇👇👇👇

ปฏิวัติวงการก่อสร้าง! นักวิทย์สวิสเปิดตัว 'วัสดุมีชีวิต' ที่หายใจได้ เปลี่ยนตึกให้เป็นเครื่องฟอกอากาศยักษ์ของเมือง
จะเป็นอย่างไรถ้าอาคารที่เราอาศัยอยู่ไม่เพียงแต่ให้ที่พักพิง แต่ยังสามารถ "หายใจ" เพื่อช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2​) ออกจากบรรยากาศได้ด้วยตัวเอง? นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส ซูริก (ETH Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้พัฒนา "วัสดุมีชีวิต" (Living Material) ที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างไปตลอดกาล
นวัตกรรมสุดล้ำนี้ถูกเปิดเผยในวารสาร Nature Communications โดยหัวใจของมันคือการผสานสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง ไซยาโนแบคทีเรีย (Cyanobacteria) หรือที่รู้จักกันในชื่อสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน เข้ากับ ไฮโดรเจล (Hydrogel) ที่สามารถพิมพ์ขึ้นรูป 3 มิติได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือวัสดุที่ไม่เพียงแต่มีชีวิต แต่ยังมีความสามารถในการสังเคราะห์แสงอีกด้วย

อ่านต่อได้ที่ใต้คอมเมนต์

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+6621687838

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ICHI mediaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ICHI media:

แชร์