เว็บไซต์คืออะไร?

Art of, Bangkok (2025)

04/09/2025

เปิดพื้นที่แห่งจินตนาการ ! ‘vivo V60 x POP MART’ ก้าวสู่โลกมหัศจรรย์ ไปกับเด็กสาวสุดแสบ Zsiga !
จะเป็นยังไงถ้าเรามีสมาร์ตโฟนที่ถ่ายทอดมุมมองสุดอาร์ตของเราออกมาได้อย่างเต็มที่ ? วันนี้เลยอยากชวนไปเปิดประตูสู่โลก Wonderworld ผ่านการคอลแลบฯ สุดพิเศษของ ‘vivo V60 x POP MART’
โดยพาคาแรคเตอร์ที่ทุกคนรักอย่างเด็กสาวสุดแสบ ‘Zsiga’ มาเจอกันแบบจัดเต็ม ! ทั้งเคส, สายคล้อง, กระเป๋า และไฮไลต์สุดๆ คือ Zsiga Exclusive Theme & Frames ที่มีเฉพาะใน vivo V60 นี้เลยด้วย !
🟣 Zsiga คาแรคเตอร์ตัวแทนวัยรุ่น ที่ทั้งขบถและใสซื่อ
Zsiga เป็นคาร์แรคเตอร์ที่ออกแบบโดยคุณ Dan ดีไซเนอร์จาก POP MART’s Pop Design Center มีผมทรงหนามที่คอยปกป้องความเจ็บปวดของโลกภายนอก พร้อมเจ้าลูกหมาเพื่อนซี้อยู่บนเท้าขวา
เหตุผลที่ Zsiga เป็นคาแรคเตอร์ยอดนิยม (โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น 😆) เพราะเป็นตัวแทนของเด็กสาวที่รักในอิสระ ชอบความท้าทายในอะไรใหม่ๆ มองเห็นความงามในทุกสิ่ง แถมยังตั้งคำถามกับความไม่ยุติธรรม !
🟣 vivo V60 x POP MART เมื่อเทคโนโลยีมาเจอศิลปะ
การคอลแลบฯ ในครั้งนี้ที่หยิบเอาความสามารถของ vivo V60 ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายทอดสไตล์ความเป็น Pop Culture ของโลกคาแรกเตอร์ Zsiga ออกมาได้อย่างมีสีสัน
ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ของ vivo V60 ได้เข้ามาพลิกมุมมองของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน ที่ให้ทั้งความสนุก มีสไตล์ สะท้อนตัวตนและจินตนาการของเราได้อย่างอิสระ
🟣 Zsiga กับโลกมหัศจรรย์ พิเศษเฉพาะใน vivo V60
การคอลแลบฯ ครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ ‘Step into Wonderworld’ มีคาแรคเตอร์น้อง Zsiga ในชุดสีน้ำเงินที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ! มาพร้อมกล้องส่องทางไกลคู่ใจ ที่เปรียบเหมือนกล้องซูม ZEISS Super Telephoto 50MP ใน vivo V60 ซึ่งเพิ่งมีเป็นครั้งแรกใน V Series อีกด้วย
โดยตัว Exclusive Collaboration Gift Box นั้นเรียกได้ว่าจัดเต็ม ทั้งกล่องสุ่ม Zsiga คอลเลคชัน Take it Slow และอุปกรณ์อีกเพียบ ! แต่ที่เจ๋งมากๆ คือตัวกล่องสามารถแปลงเป็นฐานไว้ถ่ายรูปได้เลยด้วย
แถมในเครื่องยังมี Zsiga Exclusive Theme & Frames ที่หลังจากได้ลองเล่นแล้ว ตอนนี้หลงรักน้อง Zsiga และ vivo V60 แบบสุดๆ เลยขอหยิบภาพความสนุกมาฝากกัน ใครสนใจลองตามมาดูไปพร้อมๆ กันได้เลย !

03/09/2025

นางเงือกสงขลา มาจากไหน?
🧜‍♀️ Pakk Taii Design Week 2025 คือเทศกาลงานออกแบบของภาคใต้ที่จัดขึ้นที่จังหวัดสงขลาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยมี 14 จังหวัดในภาคใต้เข้าร่วมนำเสนออัตลักษณ์ของท้องถิ่น
แน่นอนว่า ‘สงขลา’ ในฐานะเจ้าภาพก็ย่อมต้องมีหมุดหมายให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมชม โดยการนำเสนอหัวข้อเกี่ยวกับแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดอย่าง ‘นางเงือกแห่งหาดสิมิหลา’ นั่นเอง
🧜‍♀️ เคยสงสัยกันไหมว่านางเงือกมาจากไหน บางทีอาจเคยมีคนเห็นนางเงือกที่นี่? อาจเป็นตำนานโบราณ? หรืออาจมาจากสุนทรภู่?
คำตอบก็คือ ‘ไม่เกี่ยวข้อง’ เลย เพราะแท้จริงแล้วนางเงือกสีทองคนสวยเป็นผลมาจากแนวคิดการสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยผู้ว่าราชการในสมัยนั้นได้เลือกผลงานรูปหล่อจากศิลปินมาตั้งไว้ที่หาด แต่กลับเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องมาเยือน มาสัมผัส เพื่อเติมเต็มพิธีกรรมแห่งการมาเยือนสงขลา กว่า 59 ปีที่ผ่านมา
จุดนี้คงทำให้ใครหลายๆ คนถึงกับไปต่อไม่ถูก จนต้องวกกลับมาตั้งคำถามว่า แล้วแลนด์มาร์คที่หลายคนรู้สึกผูกพันแห่งนี้ จะสามารถพาเรื่องราวของเมืองและความทรงจำของผู้คนไปได้ในทิศทางไหน?
🧜‍♀️ Mermaid Song.exe นิทรรศการที่ชวนมาฟัง 'เสียงของเงือก' เพื่อค้นหาว่าแท้จริงแล้วนางเงือกทองนี้คืออะไรในมุมมองของชาวสงขลากันแน่
นิทรรศการพาคุณไปสํารวจไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลในหลายมิติ ทั้งแนวคิด เพศ ความทรงจำ ความรู้สึกของผู้คนจากทุกเจเนอเรชัน ทุกความคิดเห็นของชาวเมือง ถึงนางเงือกแห่งหาดสิมิหลา
ที่ชั้นสองยังมีประติมากรรมนางเงือกขนาดใหญ่ นางเงือกผู้นี้ฟักตัวอยู่ในห้องใต้หลังคา ศิลปิน NAISU สร้างสรรค์เธอขึ้นมาจากขยะทั้งหมด ทั้งเศษอลูมิเนียมและพลาสติก นางเงือกเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กึ่งกลางระหว่างบกกับน้ำ เป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานของสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ สัตว์และมนุษย์ รวมไปถึงอดีตและอนาคต
ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาคารก็มีเหล่าสินค้าที่อัพไซเคิลมาจากขยะต่างๆ และชวนให้มาทำเวิร์คชอปทำพวงกุญแจกันด้วย
มาร่วมเข้าใจความผูกพันของ ‘ผู้คน’ กับ ‘ภาพจำสำคัญของเมือง’ ที่นิทรรศการนี้กัน
📍 Pakk Taii Design Week: Mermaid Song.exe
- ภิญโญลิฟวิ่ง ย่านเมืองเก่าสงขลา
- 28 ส.ค. - 7 ก.ย. 2025

03/09/2025

🌅 Pakk Taii Design Week 2025 ปักษ์ใต้ดีไซน์วีค 🌊 เทศกาลงานออกแบบที่มีเสน่ห์แบบคาดไม่ถึง
ภาคใต้ไม่ได้มีแค่การท่องเที่ยวเกาะ แต่มีเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลายสุดๆ ! โดยตอนนี้มี 'เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้' ที่จัดขึ้นในจังหวัดสงขลาเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งปีนี้มาในธีม 'South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน'
🌊 Pakk Taii Design Week 2025 หรือ เป็นงานที่เกิดจากความร่วมมือของชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัดกับนักสร้างสรรค์ คัดของดีมีเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดมานำเสนอ บอกเล่าผ่านนิทรรศการ การแสดง ดนตรี เสวนา เวิร์กช็อป ทัวร์เมือง และตลาดนัดสร้างสรรค์
เมื่อได้ไปเดินเที่ยวชมมาแล้ว ก็พบว่าเต็มอิ่มอย่างเกินคาด แม้จะเป็นงานดีไซน์ที่ดูทันสมัย แต่บรรยากาศในสงขลาและผลงานทั้งหลายก็ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่ยังมีความดั้งเดิม บรรยากาศสงบเหมาะกับการมาเติมพลังและแรงบันดาลใจใหม่ๆ
เต็มอิ่มในหลายมิติ ตั้งแต่อาหารใต้จัดเต็ม ศิลปะและงานฝีมือ แฟชั่น ดนตรี และผลงานออกแบบ แต่ละหมุดหมายตั้งอยู่แบบเดินกันถึงได้ โดยมีพื้นหลังเป็นสถาปัตยกรรมห้องแถวแบบดั้งเดิมของสงขลาที่มีกลิ่นอายของตึกแถวแบบจีน การตกแต่งแบบมลายู และสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล แค่ได้เดินเล่นในเมืองก็สนุกแล้ว !
🌊 เทศกาลนำเสนอ 4 คอนเซ็ปต์หลัก
1. South Destress Main Pavilion: ซุ้มงานหลักที่เล่าถึงศักยภาพของภาคใต้ที่จะมอบ ‘ความสงบ’ เปลี่ยนภาคใต้ให้กลายเป็นหมุดหมายของ De-Stress Economy,
2. 14 City Potential Space: โปรเจ็กต์ส่งต่อของดีทั้ง 14 จังหวัดของภาคใต้
3. South Market: ตลาดสร้างสรรค์ที่รวบรวมของดีจากภาคใต้
4.South Collaboration: โปรเจ็กต์พิเศษของเหล่าพันธมิตรเทศกาลร่วมกับนักสร้างสรรค์ในท้องถิ่น
เป็นงานที่อยากชวนทุกคนไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่า “ภาคใต้ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่ยังเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่ชิลล์เกินคาด”
โพสต์หน้าจะพาชมงานแบบเจาะลึก ตามมากันได้เลย
📍Pakk Taii Design Week
- ย่านเมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- 28 ส.ค. - 7 ก.ย. 2025

02/09/2025

Presence in Hormuz โดมหลากสีสันที่หวังชุบชีวิตชุมชน โดย ZAV Architects
โดมเหล่านี้ไม่ได้เป็นฉากในภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่เป็นผลงานที่สร้างจริงบนเกาะฮอร์มุซ ที่ทั้งสวยงาม และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย
เกาะฮอร์มุซ ตั้งอยู่ในช่องแคบฮอร์มุซ ประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ควบคุมการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง เกาะนี้มีทิวทัศน์ที่สดใสสวยงามแปลกตา ที่หลายคนอาจคุ้นชื่อจาก Rainbow valley หรือหุบเขาสายรุ้งนั่นเอง แต่ชุมชนท้องถิ่นกลับเผชิญกับความยากจน ทำให้บางส่วนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมผิดกฎหมาย
โครงการ Presence in Hormuz จึงเกิดขึ้น เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีสถาบันเอกชนร่วมกับ ZAV Architects ภายในโครงการนี้มี Majara Residence ซึ่งเป็นที่พักอาศัยที่รองรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ด้วยคุณค่าในหลายด้าน จึงเป็นอีกโครงการที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมระดับโลกมามากมาย
🔴 งานออกแบบโดมและการพัฒนาฝีมือช่างท้องถิ่น
งานออกแบบนี้ใช้เทคนิค superadobe ของ Nader Khalili ซึ่งเป็นวิธีสร้างโดมขนาดเล็กจากดินอัดและทราย โดยมีโครงการฝึกอบรมแรงงานท้องถิ่นในเฟสแรกก่อนให้สามารถสร้างโดมนี้ได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างอาชีพไปพร้อมๆ กัน โดมพวกนี้ถูกจัดวางผังให้มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามความต้องการในอนาคตได้ เหมาะกับการอยู่อาศัยและกิจกรรมต่างๆ
🟡 สีสันและวัสดุ
วัสดุที่ใช้ในโครงการมาจากสิ่งที่มีอยู่ในพื้นที่ เช่น ดิน ทราย กรวด และ หินจากเกาะฮอร์มุซ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและยังสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศด้วย ส่วนสีสันทั้งเหลือง เขียว แดง และน้ำเงินของโดมนั้นก็สะท้อนถึงความหลากหลายของทิวทัศน์บนเกาะ เป็นเสมือนพรมผืนใหญ่ที่ทำมาจากดินและทราย สร้างเอกลักษณ์และความกลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆ ด้วย ดูๆ ไปแล้วก็ราวกับโดมเหล่านี้พองตัวขึ้นมาจากพื้นดินเลยทีเดียว
🔵 งานออกแบบภายใน
สีสันจากโดมภายนอกไหลเข้ามาด้านในอาคาร รวมไปถึงที่เฟอร์นิเจอร์ด้วย มีการออกแบบด้วยคู่สีที่ตัดกันอย่างสวยงาม เมื่อมองไปแต่ละมุมของห้อง ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้เห็นผลงานศิลปะสวยๆ ในทุกมุมมอง โดมแต่ละหลังสามารถปรับการใช้งานได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัยและชุมชน

01/09/2025

🔔 รวมนิทรรศการศิลปะ + สถานที่เดือน 'กันยายน 2025' 🔔
เดือนนี้มีงานใหม่ๆ มาจัดแสดงเยอะมาก ใครกำลังหาที่ไป แชร์โพสต์นี้เก็บไว้ได้เลย

―
เติมความคิดสร้างสรรค์แบบย่อยง่ายจาก Art of ได้ที่
- Twitter: https://twitter.com/artofth
- TikTok: https://tiktok.com/
- Youtube: http://youtube.com/

01/09/2025

ถอดสัญญะในโฆษณา ‘Cute Press’ การค้นพบตัวตนใหม่ จากอิสระในการเลือก ‘สีรองพื้น’ ที่หลากหลาย
เรื่องของรองพื้นถือเป็นหนึ่งในเรื่องละเอียดอ่อนที่ทำให้หลายคนต้องปวดหัว ด้วยค่านิยมปัจจุบันที่รองพื้นต้อง ‘ตรงกับสีผิวจริง’ ทำให้การเลือกสีรองพื้นจึงไม่ต่างกับการทำข้อสอบ ที่คำตอบที่ถูกต้องมีเพียงแค่เฉดเดียว
แต่โฆษณาใหม่จาก Cute Press ชวนเราตั้งคำถามว่า “ทำไมเราต้องจำกัดตัวเองอยู่แค่เฉดเดียว ?” และพลิกมุมมองใหม่ในการเลือกใช้สีรองพื้น ที่ไม่ได้ต่างจากการแต้มสีสันลงบนผิว ดังนั้นการได้ทดลองใช้สีที่แตกต่างจากเดิม ได้สนุกไปกับอะไรใหม่ๆ บ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิด
นั่นจึงกลายเป็นคอนเซ็ปต์ตามชื่อหนังโฆษณาว่า ‘Reborn’ คือการได้ค้นพบตัวตนใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ จากการที่เรามีอิสระที่จะเลือกสีรองพื้นที่หลากหลาย ได้สนุกไปกับทั้งการแต่งหน้าและการใช้ชีวิตที่เหมือนการ ‘เกิดใหม่’ นั่นเอง
ถ้าใครได้ดูหนังโฆษณาเรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่าแม้องค์ประกอบไม่ได้ซับซ้อน ไม่ได้ใช้คำพูดมากมาย แต่เต็มไปด้วยสัญญะ ที่ทุกๆ อย่างล้วนถูกคิดมาเพื่อสื่อสารถึงเรื่องราวอย่างทรงพลังและเฉียบคม
ในโพสต์นี้จึงชวนมาถอดสัญญะและองค์ประกอบต่างๆ ในหนังโฆษณาเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กัน เชื่อว่าจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ในเรื่อง ‘สีรองพื้น’ ให้เราได้อย่างแน่นอน !

30/08/2025

ในโลกของศิลปะ 'ดอกไม้' มักถูกใช้เป็นตัวแทนของความหมายที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ความงดงามทางสายตา แต่ท้อนปรัชญาอันซับซ้อนที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ศาสนา ประวัติศาสตร์ และความเป็นมนุษย์อีกด้วย !

30/08/2025

Drew Struzan ศิลปินตำนาน นักวาดโปสเตอร์แห่งฮอลลีวูด
เมื่อมองย้อนกลับไป 50 กว่าปีที่แล้ว ในยุคก่อนที่จะนิยมสร้างผลงานด้วยเครื่องมือดิจิทัล การวาดมือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ รวมถึงในผลงานเชิงพาณิชย์ ทั้งโฆษณา และโปสเตอร์ภาพยนตร์ ซึ่งต้องยอมรับว่าผลงานเหล่านี้มีเสน่ห์จริงๆ
หลายคนจะต้องเคยเห็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ในตำนานจากเรื่อง Star Wars, Back to the Future, Indiana Jones หรือ Harry Potter และอาจเข้าใจว่าภาพเหล่านี้เป็นภาพถ่ายและนำมาตัดต่อ แต่ความจริงแล้วล้วนเป็นงานวาดมือโดย Drew Struzan นักวาดที่อาจเรียกได้ว่าเป็นตำนานของโปสเตอร์หนังเลยทีเดียว
Drew Struzan เกิดในปี 1947 เป็นศิลปินอเมริกันที่โด่งดังจากการวาดโปสเตอร์ภาพยนตร์ฮอลลีวูด เขาเริ่มจากการเป็นนักวาดปกอัลบั้มเพลง และเป็นนักวาดในสังกัดสตูดิโอแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเขาแค่มีความสุขที่งานได้ตีพิมพ์ และได้เงินมาจุนเจือครอบครัว จนเมื่อผ่านไปสักระยะ เขาก็ได้มีโอกาสวาดโปสเตอร์หนังในที่สุด และโปสเตอร์ของ Star Wars ในปี 1978 ก็ถือเป็นภาพยนตร์สเกลใหญ่เรื่องแรกที่เขาได้มีส่วนวาด จนทำให้เขากลายเป็นนักวาดมือหนึ่งของวงการฮอลลีวูดในช่วงปี 1980s–2000s เลยทีเดียว
🖌ความสมจริงผสมความแฟนตาซี
โปสเตอร์ที่ Drew Struzan วาดมีเสน่ห์ตรงที่ดูทั้งสมจริงและแฟนตาซีไปพร้อมๆกัน ด้วยเทคนิคแอร์บรัช ควบคู่กับการวาดเส้นและการลงสีด้วยมือ ทำให้ผลงานมีทั้งความละเอียดอ่อนและดูทรงพลัง Drew มักจะหาว่าหนังเรื่องนั้นๆ มีฉากและตัวละครแบบไหน มีพาเลทสีอะไร จากนั้นก็วาดออกมาโดยพยายามไม่บอกรายละเอียดมากเกินไป ให้มันเปิดกว้างสำหรับจินตนาการของผู้ชม
อีกหนึ่งลักษณะสำคัญคือ องค์ประกอบสำคัญทั้งหมดของเรื่องจะรวมไว้ในภาพเดียว และมีสีสันที่ดึงดูดความสนใจ คล้ายกับโปสเตอร์ ‘สไตล์ Circus’ ที่นิยมในโปสเตอร์การแสดงละครสัตว์ช่วงปี 1970s โดยเป็นสไตล์ที่เน้นดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาเสพประสบการณ์ของจริง และสไตล์นี้ก็ส่งผลมาถึงโปสเตอร์หนังทั่วๆ ไปในปัจจุบันด้วย
🖌โปสเตอร์วาดมือในความทรงจำ
หลังจาก Drew Struzan เป็นนักวาดมา 40 ปีเขาก็ได้เกษียณ โดยเขาวาดโปสเตอร์หนังไปทั้งหมด 150 กว่าเรื่อง (และหลายเรื่องก็มีหลายเวอร์ชัน) และจากสัมภาษณ์ในปี 2010 กับ CG Channel เขาก็ยอมรับว่าด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยี มันก็ทำให้ค่ายหนังเริ่มไม่วาดโปสเตอร์หนังด้วยมือกันแล้ว ซึ่งสำหรับเขาก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะเขามองว่าไม่ใช่แค่กับโปสเตอร์หนังที่เสน่ห์ของการทำงานด้วยมือหายไป แต่มันแสดงออกมาในการสร้างงานภาพยนตร์ด้วย เขายังบอกอีกว่า โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง ‘Hell Boy (2004)’ เป็นเรื่องท้ายๆ ที่เขาได้วาด แต่สุดท้ายเวอร์ชั่นวาดมือก็ไม่ได้ถูกใช้โปรโมตจริง ถึงแม้ผู้กำกับ Guillermo จะชอบเวอร์ชั่นนี้มากก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานออกมาอยู่บ้าง เช่น โปสเตอร์เรื่อง Pan’s Labyrinth และ โปสเตอร์พิเศษเพื่อโปรโมต Star Wars: The Force Awakens (2015) โดยปัจจุบันเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ภรรยาของ Drew Struzan กล่าวเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ ทำให้ ไม่สามารถวาดหรือเซ็นผลงานได้อีกต่อไป และหมายความว่าไม่มีผลงานใหม่ที่เป็นภาพวาดจากเขาอีกแล้ว แต่เนื่องจากภาพวาดของเขาเป็นภาพวาดด้วยมือและมีชิ้นเดียวเท่านั้น แต่ละชิ้นจึงมีมูลค่าสูงและตอบแทนเขามากพอสมควร
Drew กล่าวกับ Slashfilm ในปี 2021 ว่า “ผมไม่เคยเห็นศิลปินตำนานคนไหนเลิกวาดเพียงเพราะแก่แล้ว ศิลปินรู้ดีว่าตัวเองคือใคร กำลังทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร ศิลปินสูงวัยไม่ได้จากไปไหนหรอก พวกเขาแค่จำไม่ได้แล้วว่าเก็บพู่กันไว้ตรงไหน”
ถึงแม้เราอาจไม่ได้เห็นผลงานใหม่ๆ ของ Drew Struzan อีกแล้ว แต่เขาก็ได้ฝากจิตวิญญาณของการเล่าเรื่องและจินตนาการไว้ในผลงานที่จะติดอยู่ในความทรงจำคนทั่วโลกตลอดไป

29/08/2025

ใครเป็นแฟน Snoopy และแก๊ง PEANUTS ต้องร้องกรี๊ด ! ชวนมามุง How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art Exclusive Display at Metro Art
ปีนี้เป็นงานใหญ่ครบรอบ 75 ปีของการ์ตูนในตำนานที่อยู่ในใจคนทั่วโลก Snoopy และแก๊ง PEANUTS และแน่นอนกรุงเทพของเราก็ไม่พลาดที่จะร่วมฉลองไปกับเขาด้วย
ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก จับมือกับ Metro Art @ MRT พหลโยธิน จัดนิทรรศการพิเศษ ฉลองวันเกิดครบ 75 ปีของ Snoopy และ PEANUTS ให้แฟนๆ ได้ไปสนุกกัน
งานครั้งนี้ยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะก่อนจะถึงงานใหญ่ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก มีการจัด Exclusive Display ที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ Metro Art แถมจุดถ่ายรูปเพียบ
บอกเลยว่างานนี้เหมือนเป็นน้ำจิ้มให้ทุกคนได้อินกับโลกของ Snoopy และเพื่อนๆ แบบใกล้ชิดสุดๆ เราแวะไปมาแล้ววันนี้เอาบรรยากาศมาฝาก
🎂 Artista Room 1 - From Dream to Bangkok
ห้องนี้เหมือนพา Snoopy และเพื่อนโดดขึ้นเครื่องมาลงกรุงเทพกันเลยทีเดียว! ความน่ารักคือมีฉากจำลองที่ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าพระยาและแลนด์มาร์กดังๆ ของบ้านเราหลายแห่ง บรรยากาศผสมผสานระหว่างกลิ่นอายความคลาสสิกของ PEANUTS กับความคึกคักแบบไทยๆ
ห้องนี้มีบ่อบอลหลากสี ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ลงไปสนุกได้เหมือนกัน (บอกเลยว่าความสุขมันอยู่ตรงนี้แหละ !)
🎂 Artista Room 2 - Happy Birthday, Snoopy
ห้องนี้คือบรรยากาศวันเกิดของ Snoopy แบบเต็มๆ ตกแต่งให้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ PEANUTS มีตู้ไปรษณีย์จริง ให้คุณเขียนคำอวยพรแล้วส่งตรงถึง Snoopy ได้เลย
🎂 ของที่ระลึก & สิทธิพิเศษ
หากใครมาที่งานนี้ก่อน จะได้รับของที่ระลึกสุดพิเศษจำนวนจำกัด ช่วงเปิดนิทรรศการเท่านั้นนะ
ที่สำคัญคือ ผู้เข้าชมยังจะได้สิทธิ์ซื้อบัตรเข้างานใหญ่ที่ River City Bangkok ก่อนใคร แฟนๆ ของเจ้าหมาหูยาวอย่าพลาด
เพราะสุดท้าย… Snoopy ไม่ได้พาเรากลับไปแค่ความทรงจำวัยเด็ก แต่ยังชวนเราไปฉลองมิตรภาพ 75 ปี ที่ยังชัดในความทรงจำ ไปเขียนการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับ Snoopy กัน !
📌“How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art” Exclusive Display
- Metro Art, MRT พหลโยธิน, กรุงเทพ
- 15 ส.ค. - 15 ต.ค. 2025
- ไม่มีค่าใช้จ่าย

28/08/2025

ดูแวบแรกคือ ‘ศิลปะจีน’ แต่เมื่อมองต่อไปดี ๆ กลับกลายเป็นภาพเรื่องราวใน ‘ศาสนาคริสต์’
♱ เริ่มต้นจากมิชชันนารี
การติดต่อค้าขายผ่านเส้นทางสายไหมมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี การเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในจีนมีมาหลายระลอก ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ถัง เมื่อศตวรรษที่ 7 และในสมัยราชวงศ์หมิง ศตวรรษที่ 16
ในปี ค.ศ. 1583 Matteo Ricci มิชชันนารีชาวอิตาลีเดินทางมาเผยแผ่ศาสนา เขาและยังได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศิลปะตะวันตกติดตัวมาด้วย
เขามอบภาพพระเยซูและพระแม่มารีแก่ เฉิง ต้าเยว่ พ่อค้าหมึกชื่อดังในยุคนั้น ก่อนจะถูกบันทึกลงในหนังสือ Ink Garden of the Cheng Family ค.ศ. 1605 ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานแรกๆ ของการเผยแผ่ภาพคริสต์ในสังคมจีน
ต่อมาในศตวรรษที่ 20 มหาวิทยาลัยคาทอลิกฝูเจิน ที่ปักกิ่ง กลายเป็นศูนย์กลางการสร้างศิลปะคริสต์แบบจีน ศิลปินรุ่นบุกเบิกอย่าง เฉิน หยวนตู (Luke Chen) ใช้พู่กันหมึกจีนวาดฉากพระคัมภีร์อย่างอ่อนช้อยเป็นเอกลักษณ์ และมีลูกศิษย์หลายคนที่สืบทอดแนวทางนี้ เกิดเป็นภาพเขียนหลายสไตล์
♱ เรื่องแปลก… ที่ถูกทำไม่ให้ประหลาด
พื้นฐานของคริสต์ศาสนาแตกต่างจากความเชื่อดั้งเดิมของวัฒนธรรมของชาวจีนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ปรัชญาขงจื๊อ เต๋า และพุทธ การปรับตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็น มิชชันนารีเลือกใช้วิธี ‘ผสมผสาน’ มากกว่าการ ‘แทนที่’
ยกตัวอย่างเช่น ‘พระแม่มารี’ พระมารดาของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของความโอบอ้อมอารี ความสง่างาม และความบริสุทธิ์ คุณลักษณะเหล่านี้ใกล้เคียงกับ ‘เจ้าแม่กวนอิม’ เทพีแห่งความเมตตาในพุทธศาสนา
ลองสังเกตดูดี ๆ ภาพวาดพระแม่มารีในศิลปะจีนมักมีความอิ่มเอิบ อบอุ่น และอ่อนโยนดังมารดา สวมชุดจีนโบราณ ห่มผ้าแบบฮั่น และยืนในท่าที่ผู้ชมชาวจีนคุ้นเคย ทว่าจุดที่ทำให้แปลกตาคือวงรัศมีและการอุ้มทารก ซึ่งสื่อถึงพระแม่มารีและพระบุตรนั่นเอง
♱ ความเป็นจีนที่คุ้นเคย
ภาพวาดมักถ่ายทอดเรื่องราวที่มาจากคัมภีร์ไบเบิล ศิลปินนำเรื่องราวมาตีความแบบจีน เช่น การแทนภาพสวรรค์ด้วยเมฆมงคล เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่าคริสต์ศาสนาไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม แต่สามารถอยู่ร่วมกับวัฒนธรรมเดิมได้
ภาพ The Last Supper เวอร์ชันจีน โดย Wang Suda ถ่ายทอดมื้ออาหารสุดท้ายภายในสถาปัตยกรรมจีน มีโต๊ะ เก้าอี้ และโคมไฟแบบจีนโบราณ ดูกลมกลืนโดยไม่เคอะเขิน แต่เมื่อผู้ชมเห็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในห้องก็พอจะเดาได้ทันทีว่าคือพระเยซูและอัครสาวก
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าคริสต์ศาสนาไม่ได้เข้ามาอย่างตรงไปตรงมา แต่ค่อย ๆ แทรกซึมผ่านภาพลักษณ์และความหมายที่ชาวจีนสามารถเชื่อมโยงได้ จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่
♱ ศิลปะตะวันออก ที่บอกเล่าเรื่องราวศาสนาจากตะวันตก

27/08/2025

‘สีสยอง’ ในโลกของภาพยนตร์ ที่บางครั้งอาจไม่ใช่แค่สีดำ
ในโลกของภาพยนตร์แนวจิตวิทยาระทึกขวัญ (Psychological Thriller/Horror) สิ่งที่สามารถนำมาใช้เพื่อให้คนดูรู้สึกร่วม ไม่ได้มีแค่แค่บทหนังสุดหักมุม การแสดงที่ถึงเครื่อง หรือการใช้เสียงเพลงหลอนๆ สั่นประสาทเท่านั้น แต่ “การใช้สี” ก็เป็นอีกหนึ่งอาวุธเงียบที่ทรงพลังไม่แพ้กันเลย
การออกแบบโทนสีในหนังเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อเป็นสัญญะ เน้นถึงพล็อตให้สื่อความหมายแบบชัดเจน รวมถึงใช้เพื่อเจาะลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของผู้ชม และหลอกหลอนเราด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้
อย่าคิดว่ามีแค่ ‘สีดำ’ หรือสีโทนเข้มเท่านั้นที่ทำให้เรารู้สึกหลอนได้ เมื่อหนังถูกดีไซน์มาอย่างดีแล้ว สีสว่างผิดธรรมชาติหรือแม้แต่สีพาสเทลก็ทำให้คนดูขนลุกขนพองได้ไม่แพ้กันเลย
มาดูกันดีกว่าว่าหนังเรื่องไหนบ้างที่เลือกใช้โทนสีแปลกแต่หลอนแบบเน้นๆ จนเรารู้สึกสยองแบบไม่รู้ตัว!
#ศาสตร์สี

25/08/2025

Falling Hours โดย BIAD กับช่วงเวลาที่กาลเวลาไหลผ่าน
ชุมชนศิลปะ Aranya ตั้งอยู่ในเมือง ฉินหวงเต่า ประเทศจีน เป็นเมืองริมทะเลที่เป็นศูนย์รวมงานศิลปะและเทศกาลต่างๆ เสมอมา และยังเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมอย่าง Aranya Art Center ที่ออกแบบโดย Neri & Hu อีกด้วย
และ Art of จะพาย้อนไปดู Falling Hours (2022) โดย BIAD (Beijing Institute of Architectural Design) ที่เป็นอีกผลงานที่สะท้อนความสวยงามของพื้นที่และหัวใจความเป็นชุมชนศิลปะได้อย่างดี
⏳ธรรมชาติและกาลเวลา
ผลงานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินเล่นบนหาดทรายที่ Aranya ในยามค่ำคืน พระจันทร์และทะเลทำให้เห็นว่าช่วงเวลาที่มีค่านั้นผ่านมาและผ่านไป ทีมออกแบบเชื่อว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารักคือของขวัญอันล้ำค่าที่สุด จึงเกิดขึ้นมาเป็น งานศิลปะจัดวาง (Installation Art) ที่เป็นเหมือนนาฬิกาทรายขนาดใหญ่ สื่อถึงการที่แม้ไม่มีอะไรที่จีรัง แต่ความทรงจำก็ยังอยู่กับเราเสมอ โดยผลงานนี้เป็นเหมือนการผสมผสาน 'ธรรมชาติ' และ 'กาลเวลา' เข้าไว้ด้วยกัน สองอย่างที่เปลี่ยนแปลงเหมือนกัน
⏳เบื้องหลังการสร้างและวัสดุ
ผลงานนี้ออกแบบโดยทีมสถาปนิกจาก BIAD ซึ่งเคยมีผลงานระดับโลกอย่าง Qatar World Cup Stadium มาแล้ว และร่วมกับทีมแกะสลักน้ำแข็งจาก Harbin Ice World อีกด้วย โดยโครงสร้างรูปนาฬิกาทรายนี้มีส่วนประกอบหลักคือโครงเหล็ก สายเคเบิล และเยื่อหุ้ม PTFE mesh laminate ที่แข็งแรงและแสงผ่านได้ดี ส่วนด้านบนใช้ ETFE ทำให้ดูมีความโปร่งแสงเช่นกัน
⏳ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและผลงาน
นาฬิกาทรายนี้ไม่ได้มีไว้เพียงให้มองเท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้ผู้คนมีส่วนร่วม โดยทุกคนจะได้รับ 'กรวยเวลา (Time Funnel)' เพื่อตักทรายจากชายหาดแล้วเทลงสู่นาฬิกาทราย และในคืนเคาท์ดาวน์ เมื่อเสียงระฆังปีใหม่ดังขึ้น ทุกคนก็พร้อมใจกันเปิดให้ทรายไหลลง พร้อมเขียนคำอธิษฐาน ถึงจะเป็นค่ำคืนที่อากาศหนาว แต่ก็อบอุ่นจากความหวังและความฝันที่ถูกรวมเข้าไว้ในที่เดียวกัน
⏳กลับคืนสู่ธรรมชาติ
เมื่อเวลาผ่านไป น้ำแข็งละลายกลับสู่ทะเล ทรายกลับคืนสู่หาด เหลือเพียงโครงบางๆ ที่บันทึกความทรงจำเอาไว้ แม้สถาปัตยกรรมอาจจะไม่ได้อยู่ถาวร แต่ก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจให้คิดถึงช่วงเวลาที่มีค่าในชีวิตที่จะผ่านมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

Art of

04/09/2025

03/09/2025

03/09/2025

02/09/2025

01/09/2025

01/09/2025

30/08/2025

30/08/2025

29/08/2025

28/08/2025

27/08/2025

25/08/2025

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ทางลัด

แชร์

ประเภท

Art is all around.