Bidminor

25/08/2023

โปรดักส์ และบริการ เป็นสิ่งที่ถูก ทดแทนได้ง่าย
แต่การสร้าง ความน่าเชื่อถือในแบรนด์
และดึงดูดคนเก่งมาร่วมงาน เป็นสิ่งที่ทดแทนได้ยาก
สินค้าที่เหมือน ๆ กัน สามารถถูกทดแทนได้ง่าย แล้วเขาทำได้ยังไงที่ทำให้ธุรกิจรอดและประสบความสำเร็จ
วันนี้จะพาไปพบกับสินค้าที่เรียกได้ว่าถูก ทดแทนได้ง่ายมาก และเวลาทำอะไร คู่แข่งก็จะรู้และสามารถทำตามได้ทันที สินค้าที่ว่านั้นคือ เงินหรือทรัพย์สินในธุรกิจฟินเทค
ในช่วงนี้แวดวงธุรกิจฟินเทคน่าจับตามองอย่างมาก ทั้งเรื่องของ Virtual Bank (ธนาคารพาณิชย์แบบไร้สาขา) และ Open Banking (การใช้ข้อมูลทางการเงินร่วมกันระหว่างสถาบันการเงินผ่าน API) ซึ่งในความจริงแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในซีกโลกตะวันตก และมีการแข่งขันกันสูงมาก
ทำให้เกิดสิ่งใหม่ได้เร็ว ได้รับความสนใจได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันก็จะมีสิ่งที่ถูกดิสรัปท์ (Disrupt) ทดแทนได้ง่ายมากๆเช่นกัน เพราะลูกค้าพร้อมจะย้ายไปในฝั่งที่ให้ผลประโยชน์ได้มากกว่า
กรณีศึกษาที่น่าสนใจ แกะสูตรลับความสำเร็จจากแนวคิดคุณอัศวิน พละพงศ์พานิช Co-Founder และ CEO DeeMoney ซึ่งผ่านการถูกดิสรัปท์ชันมาถึง 4 ครั้งด้วยกันในการดำเนินธุรกิจฟินเทคมาตลอด 21 ปี ซึ่งปัจจุบัน DeeMoney ได้ดำเนินการในหลายอย่างจนค้นพบจุดสำเร็จในแบบเฉพาะนั้นคือ
ทำโฆษณาพูดไปที่ ประสบการณ์ใหม่ ลูกค้าจะให้ความสนใจมากกว่า
DeeMoney ได้สร้างสรรค์ชิ้นงานผ่านหนังโฆษณาที่เป็นมิติใหม่ให้กับแวดวงฟินเทคของไทย ในชื่อหนังโฆษณา “โอนดี(OWNDEE) ตอน โอนไวระห่ำโลก ซึ่งมีเนื้อหาพูดถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ และการได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ทันทีหากมาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน DeeMoney ซึ่งทำให้เกิดความน่าสนใจในการสร้างการรับรู้แบบเห็นภาพ
โปรดักส์ถูกทดแทนไม่เป็นไร ให้เน้นสร้างไปที่ ทำแบรนด์ให้แกร่งและสะสมคนเก่งให้มากที่สุด การเปลี่ยนแปลงเข้ามายังไง รูปแบบไหน ก็ไม่ใช่ปัญหา
เมื่อโปรดักส์ถูกทดแทนได้ง่าย คุณอัศวินยึดหลัก 2 ข้อในการรับมือ โดยใช้หลักสำคัญ “Brand” และ “Talent” เกณฑ์สองข้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผมเชื่อ 100% สำหรับคำพูดของ บัฟเฟตต์ที่ว่าคนและแบรนด์ เป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าของบริษัท ในโลกธุรกิจยุคใหม่เราอาจเห็นบริษัท A ที่ขายประกัน เปลี่ยนมาขายอย่างอื่นแทน และถ้าบริษัท A มีแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อถือ และมีทีมที่ทำงานได้ ตัวธุรกิจก็สามารถไปต่อได้
กรณีศึกษาของเรื่องนี้ที่ใกล้ตัวมากในมุมของผม คือ Microsoft หรือ Google ที่หลายครั้ง ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เลย แต่เป็นองค์กรและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีบุคลากรที่พร้อม การซื้อกิจการของบริษัทที่เล็กกว่าเพราะมองเห็นศักยภาพของผลิตภัณฑ์ และโอกาสทางธุรกิจ มาพัฒนาต่อจนประสบความสำเร็จ ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ปัญหา
ทำธุรกิจ คือ ทำทุกอย่างเพื่อปรับตัวตลอด ไม่ใช่หยุดนิ่งอยู่กับที่
ความสำเร็จในธุรกิจยุคนี้ ไม่ใช่แค่โปรดักส์ อีกต่อไป แต่แบรนด์ต้องสร้างบริบทโดยรอบ ที่จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่งเพื่อให้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้ดีขึ้น และการปรับตัวในยุคนี้ไม่เหมือนกับยุคก่อนๆ ที่ต้องใช้เวลานานหลายสิบปีถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัด แต่โลกปัจจุบันเร็วมาก บางเรื่องใช้เวลาแค่ข้ามคืนก็มี
ความต้องการที่ดีที่สุด อยู่ในเสียงของลูกค้า ไม่ใช่ฟังเสียงของตัวเองและทำตามแต่ใจตัวเอง ตลอด 21 ปีในเส้นทางเดินธุรกิจที่ผ่านมาแล้ว 4 ดิสรัปท์ชัน สิ่งสำคัญหลักที่ทำให้ เราผ่านและเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่องคือ ฟังเสียงลูกค้า ฟังความต้องการ และมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้บนความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จำเป็นในช่วงเวลาขณะนั้น
อยู่บนเป้าหมายเดียว แต่โฟกัสสิ่งใหม่ ๆ หลายอย่างได้ เอาแบบที่ เน้นไปที่การต่อยอด เป็นหลัก ความต้องการหนึ่ง หรือความจำเป็นหนึ่งในช่วงเวลานั้น ๆ อาจจะไม่สำคัญและจำเป็นอยู่ตลอดไป ฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะพัฒนาโปรดักส์หรือบริการใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการในช่วงเวลานั้นสำคัญและจำเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้ที่ทุกคนคุยกันผ่าน Message ทาง Group Line เราจะย้อนกลับไปส่งแฟ็กซ์คุยงานคนเดียวก็คงจะไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน เป็นต้น
#โอนเงินไปต่างประเทศ #โอนดีดีดีDeeMoney #โอนดี #เรทดีไวดีง่ายดี

24/08/2023

ถ้าพูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นต้องมี “Elon Musk” นักธุรกิจและมหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่ใคร ๆ ก็ยกให้เป็นเจ้าพ่อแห่งนวัตกรรมผู้พลิกโฉมโลกของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ไม่ว่าจะยานยนต์ไฟฟ้า, การสำรวจอวกาศ และเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งกว่าจะก้าวสู่วันที่สำเร็จอย่างทุกวันนี้ Elon Musk ได้ผ่านอะไรมามาก และนี่คือ 10 บทเรียนชีวิตจากเขา!
1. ยอมรับความล้มเหลวว่ามันคืออีกก้าวสู่ความสำเร็จ
“ความล้มเหลวเป็นหนึ่งในตัวเลือก หากคุณยังไม่เคยล้มเหลว นั่นแสดงว่าคุณยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไม่เพียงพอ” - Elon Musk
หนึ่งในบทเรียนสำคัญที่เราสามารถเรียนรู้ได้จาก Elon Musk คือ การยอมรับว่าความล้มเหลวเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางสู่ความสำเร็จ เขารู้ดีว่าความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องก้าวข้ามและต้องพร้อมรับความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยการเปลี่ยนความล้มเหลวเป็นโอกาสในเรียนรู้ ไม่ว่าใครจะมองว่าความคิดของเขาไร้สาระ บ้าบิ่น ไม่มีทางสำเร็จมากแค่ไหน แต่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าในหลาย ๆ ครั้ง จะล้มเหลวไม่เป็นท่าก็ตาม ซึ่งนี่เองที่ทำให้เขาสามารถทำสิ่งใหม่ ๆ ได้สำเร็จ จนกลายเป็นผู้พลิกโฉมวงการอุตสาหกรรมระดับโลกในปัจจุบัน
2.คิดการใหญ่และตั้งเป้าหมายให้ใหญ่เข้าไว้
“ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้ที่คนธรรมดาจะเลือกเป็นคนพิเศษ” - Elon Musk
Elon Musk เป็นที่รู้จักจากเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเขาที่เรียกว่าท้าทายความเชื่อแบบเดิม ๆ ทั้ง Tesla หรือ SpaceX เขาถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่ช่วยกระตุ้นและผลักดันให้เราคิดการใหญ่ ฝันให้เกินเอื้อมแบบไร้ขอบเขต รวมไปถึงการพยายามเพื่อทำให้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้นเป็นจริง ช่วยปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงในตัวเอง เนื่องจากเขาทำให้เห็นแล้วว่า ฝันที่ใคร ๆ มองว่าเกินเอื้อม ไม่มีทางเกิดขึ้นจริงได้ แต่วันนี้เขาสามารถทำให้มันเป็นจริงได้แล้ว
3. ส่งเสริมแนวคิดแบบ Growth Mindset
“หากมีบางสิ่งที่สำคัญเพียงพอ แม้ว่าจะมีอุปสรรคต่อคุณ คุณก็ยังควรทำมัน” - Elon Musk
การไล่ตามวิสัยทัศน์อย่างไม่ลดละของ Elon Musk เกิดจากความเชื่อที่ไม่เปลี่ยนแปลงในพลังแห่งความมุ่งมั่นและการทำงานหนักของเขา เขาไม่เคยหยุดพัฒนา ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคแค่ไหนก็ตาม กลับกันแต่เขามักสนับสนุนแนวคิดแบบ Growth Mindset กล่าวคือ เขาเชื่อว่าความสามารถและความฉลาดของคนเรา สามารถพัฒนาได้จากการทุ่มเทและความพยายาม เราสามารถเอาชนะความเชื่อที่จำกัดตัวเอง และปลดล็อกความสำเร็จได้เสมอ
4. พร้อมรับความเสี่ยงที่สามารถคำนวณได้
“จาก PayPal ฉันคิดว่า อะไรบ้างที่น่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของมนุษยชาติมากที่สุด แทนที่จะมาจากมุมมองที่ว่า ‘วิธีที่ดีที่สุดในการทำเงินคืออะไร’” - Elon Musk
แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลกำไรทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ Elon Musk เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับความเสี่ยงที่สามารถคำนวณได้และการดำเนินการที่ส่งผลดีต่อสังคม เช่น เขาคิดว่าสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติมากที่สุดก็คือ อินเทอร์เน็ต, พลังงาน, การสำรวจอวกาศ, การเขียนพันธุกรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่ ฯลฯ ซึ่งเรื่องที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ อินเทอร์เน็ต และพลังงาน เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาประเมินแล้วสามารถรับความเสี่ยงได้ ในขณะที่เรื่องอื่น ๆ อาจจะดูเกินกำลังของเขาไป อีกทั้งเขายังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่มีความต้องการที่จะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ โดยการคำนวณความเสี่ยงที่สอดคล้องกับค่านิยม และความสนใจของตัวเอง เขาเชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายได้หากคำนวณความเสี่ยงมาอย่างดีแล้ว
5. อดทนเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“เมื่อคุณพบสิ่งใดที่มีความสำคัญมากพอสำหรับคุณ คุณต้องทำมัน แม้ว่าโอกาสจะไม่เข้าข้างคุณก็ตาม” - Elon Musk
การเดินทางของ Elon Musk เต็มไปด้วยความท้าทายและความล้มเหลวมากมาย แต่เขามักแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความยืดหยุ่น ปรับตัวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยเขาบอกว่า ความสำเร็จมักมาพร้อมกับอุปสรรคเสมอ ซึ่งเราสามารถเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายที่ยากที่สุดได้โดยการ “อดทน” แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหนก็ตาม และที่สำคัญคือ ยึดมั่นในเป้าหมายของตัวเองด้วย
6. ไม่หยุดเรียนรู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
“ให้มองหาคำวิจารณ์อยู่เสมอ เพราะคำวิจารณ์ที่ดีมีค่าเท่าทองคำ” - Elon Musk
Elon Musk สนับสนุนการเรียนรู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะเขาเชื่อว่าการมองหาคำติชมและคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตส่วนบุคคลและอาชีพการงาน เมื่อเราไม่หยุดเรียนรู้ พัฒนา และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เราสามารถก้าวนำหน้าคู่แข่ง และสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้จากความพยายามของเราเอง
7. ล้อมรอบตัวคุณด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยม ด้วยการ “สร้างทีมที่แข็งแกร่ง”
“บริษัทที่ยิ่งใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม” - Elon Musk
Elon Musk ให้ความสำคัญกับการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง และล้อมรอบตัวเองด้วยบุคคลที่มีความสามารถ เขาเชื่อว่าการทำงานร่วมกันและการผนึกกำลังมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงเน้นพัฒนาและบ่มเพาะทีมงานที่มีความคิดเหมือนกัน มีวิสัยทัศน์และค่านิยมเดียวกัน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนความพยายามให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
8. รักษาสมดุลระหว่างความหลงใหลและความเป็นจริง
“ไม่ว่าการมองโลกในแง่ดี หรือการมองโลกในแง่ร้าย ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้น เนื่องจากพระเจ้าเป็นพยานให้ฉัน ฉันจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้มันสำเร็จ” – Elon Musk
แม้ว่า Elon Musk จะมีชื่อเสียงในด้านความคิดที่มีวิสัยทัศน์ แต่เขาก็เข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างความหลงใหลกับความสมจริง เขาสนับสนุนให้ทุกคนรักษาความคิดในการมองโลกในแง่ดี และในขณะเดียวกันก็ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง รวมถึงความท้าทายในอนาคตด้วย เนื่องจากการสร้างสมดุลของทั้งสองอย่างนี้จะสามารถช่วยให้ทุกคนเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
9. ยอมรับนวัตกรรมที่ยั่งยืน
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตคือ การสร้างมันขึ้นมา” Abraham Lincoln
Elon Musk คือผู้ที่สนับสนุนนวัตกรรมที่ยั่งยืนมาโดยตลอด และเขาเชื่อในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า เขามักนำนวัตกรรมมาดำเนินมาตรการที่มุ่งลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของโลก รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างแข็งขัน อย่างรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เป้าหมายของมันไม่ใช่เพื่อครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่คือการเร่งการเติบโตของพลังงานอย่างยั่งยืน
10. สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อโลก
“ถ้าคุณตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า และคิดว่าอนาคตจะต้องดีขึ้น แสดงว่ามันเป็นวันที่สดใส ไม่งั้นมันจะไม่เป็นเช่นนั้น” – Elon Musk
Elon Musk สนับสนุนให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยการมองโลกในแง่ดี และพยายามสร้างผลกระทบเชิงบวก เพราะเขาเชื่อว่าการกระทำร่วมกันของเราทุกคนมีพลังในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า ด้วยการน้อมรับกรอบความคิดที่เน้นสร้างความแตกต่าง สร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และสร้างประโยชน์ให้สังคม เหมือนกับเขาที่พยายามสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คิดว่ามันจะช่วยให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้น
ทั้งหมดนี้คือบทเรียนชีวิต 10 ข้อจาก Elon Musk นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ทุกคนสามารถนำบทเรียนชีวิตของเขามารวมเข้ากับการเดินทางของคุณ และปรับใช้เพื่อปูทางไปสู่ความสำเร็จในทุกแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะชีวิตส่วนตัวหรือในอาชีพก็ตาม จงกล้าที่จะฝันให้ใหญ่ ยอมรับความล้มเหลว ไม่หยุดเรียนรู้ ล้อมรอบตัวคุณด้วยบุคคลที่ยอดเยี่ยม และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก คุณอาจเป็นหนึ่งในคนสำเร็จที่ไม่ธรรมดาที่อนาคตรออยู่ก็ได้
ที่มา : https://shorturl.asia/DpGFj
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS #อายุน้อยร้อยล้าน #อีลอนมัสก์ #บทเรียนชีวิต #เส้นทาง #ความสำเร็จ #มหาเศรษฐี #นักธุรกิจ #ระดับโลก

10/08/2023

2 วันสุดท้าย ! ร่วม Pitching Idea ใหม่ เพื่อพิชิตเงินรางวัลกว่า 7 แสนบาท กับ OIC INSURTECH AWARD 2023
🙋‍♂️ โอกาสครั้งสำคัญที่คุณจะร่วมเสนอไอเดีย เพื่อพลิกโฉมโลกประกันภัยไทย ให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่สิ้นสุด!!! กับการแข่งขันสุดยอดนวัตกรรมประกันภัยระดับประเทศ ภายใต้หัวข้อ “ASCENDING TO THE INSURTECH UNIVERSE” ทะยานสู่จักรวาลโลกแห่งประกันภัย มาระเบิดความคิดสร้างสรรค์ สู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ กับโจทย์การแข่งขันสุดท้าทาย
อย่ารอช้า!! ที่จะมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่ง สุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย เพื่อทะยานสู่จักรวาลโลกแห่งประกันภัยไปด้วยกัน
🏆 ชิงเงินรางวัล มูลค่ารวมกว่า 700,000 บาท พร้อมรับโล่รางวัล และกิจกรรมอื่น ๆ อีกเพียบ !
ยังไม่พอ!! ยังมีคอร์สออนไลน์เรียนฟรี เพื่อเพิ่มพูนความรู้หลากหลายด้าน
ใครที่สนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ
📝 สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 11 สิงหาคม 2566
🏆 60 ทีมแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
รับไปเลย e-Voucher จาก Starbucks มูลค่าใบละ 200 บาท/คน
.
📌 สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน และเข้าคอร์สเรียนออนไลน์ได้ที่ www.oicinsurtechaward.com
📌 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ email : [email protected]
#ทะยานสู่จักรวาลโลกแห่งประกันภัย

#คปภ #สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

06/08/2023

AIAพลิกแซงFWDนำเบี้ยรายใหม่ครึ่งปีแรก2566..ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ ขอย้ำเรื่องจำนวนบริษัทประกันชีวิตที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจในไทย มี22บริษัทครับ ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมประกันชีวิตไทยทั้งหมด..บริษัทประกันชีวิต 22แห่งก็จริง แต่แข่งขันในตลาดเพียง21บริษัทเท่านั้น เพราะอีกหนึ่งคือ บริษัทไทยรีประกันชีวิต เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจประกันภัยต่อด้านประกันชีวิต..ในตารางเบี้ยของสมาคมฯที่พวกเราแว้บเข้าไปเว็บก็เลยมีแค่21บริษัทครับ..***เอาล่ะ!...มาพูดถึงส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยรับประกันใหม่ ครึ่งปีแรกปี2566หรือตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายนกันต่อครับ..จำได้ว่า ตัวเลขตอน3เดือนของปี2566 FWD Thailand นำในส่วนของเบี้ยจากธุรกิจใหม่ครับ...พอมาถึง6เดือนแรก AIA นำแล้วครับ...การเคลื่อนไปของธุรกิจประกันชีวิต ปกติจะค่อยๆลงตัวตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป...ดังนั้นใครนำใครตาม มักจะเกิดขึ้นตอนกลางปี และจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงปลายปี..มักเป็นแบบนี้จริงๆ...เว้นแต่เกิดสถานการณ์แปลกประหลาดในบางบริษัท เช่นกรณีตัวแทนฝ่ายขายที่สร้างเบี้ยเป็นหลัก ถอนตัวออกไป หรือ มีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหาร มีการปรับเปลี่ยนตัวสินค้าที่ขายในช่วงกลางปี....อย่างนี้ก็อาจจะสลับตำแหน่งกันบ้าง......***เรามาดูส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ของแต่ละบริษัทกันครับ
1.AIA เบี้ย15,067.47ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 17.36%
2.FWD เบี้ย14,936.87ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด17.21%
3.เมืองไทยประกันชีวิตMTL เบี้ย12,302.68ล้านบาท ส่วนแบ่ง14.18%
4.ไทยประกันชีวิตTLI เบี้ย8,925.76ล้านบาท ส่วนแบ่ง10.29%
5.กรุงไทยแอกซ่าKTALเบี้ย5,993.35ล้านบาท ส่วนแบ่ง6.91
6.พรูเด็นเชียลPLTเบี้ย5,826.08ล้านบาท ส่วนแบ่ง6.71%
7.ทิพยประกันชีวิตDLAเบี้ย3,726.09ล้านบาท ส่วนแบ่ง4.29%
8.อลิอันซ์อยุธยาAZAYเบี้ย3,677.59ล้านบาท ส่วนแบ่ง4.24%
9.กรุงเทพประกันชีวิตBLAเบี้ย3,546.30ล้านบาท ส่วนแบ่ง4.09%
10.เจนเนอราลีประกันชีวิตGTเบี้ย2,950.33ล้านบาท ส่วนแบ่ง3.40%
11.โตเกียวมารีนTMLTHเบี้ย2,169.76ล้านบาท ส่วนแบ่ง2.50%
12.อาคเนย์SELICเบี้ย2,096.32ล้านบาท ส่วนแบ่ง2.42%
13.ชับบ์ไลฟ์CHUBBเบี้ย1,602.02ล้านบาท ส่วนแบ่ง1.85%
14.ไทยสมุทรOLICเบี้ย1,118.96ล้านบาท ส่วนแบ่ง1.29%
15.แรบบิทประกันชีวิตRBLเบี้ย1,015ล้านบาท ส่วนแบ่ง1.17%
16.ซัมซุงประกันชีวิตSLIเบี้ย725.13ล้านบาท ส่วนแบ่ง0.84%
17.ทีไลฟ์TLIFEเบี้ย501.89ล้านบาท ส่วนแบ่ง0.58%
18.ฟิลลิปประกันชีวิตPLAเบี้ย245.05ล้านบาท ส่วนแบ่ง0.28%
19.สหประกันชีวิตSAHAเบี้ย218.07ล้านบาท ส่วนแบ่ง0.25%
20.KWIเบี้ย134.36ล้านบาท ส่วนแบ่ง0.15%
21.บางกอกสหประกันชีวิตBUILifeเบี้ย0.11ล้านบาท ส่วนแบ่ง0%..นี่คือส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยที่เกิดจากธุรกิจใหม่ครับ....
#สมาคมประกันชีวิตไทย

03/08/2023

AIA MID YEAR SALE รับโค้ดส่วนลดสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. – 30 ก.ย. 66

29/07/2023

วิธีนำหน้าคน 99% ใน 12 เดือน ที่ไม่มีใครพูดถึง
ไม่ว่าจะมองซ้ายมองขวาตอนนี้สิ่งที่เห็นคือ การแข่งขันในสังคมกำลังดุเดือดขึ้น ไม่ว่าจะกับตลาดแรงงานหรือตลาดธุรกิจ บางทีคุณอาจกำลังแข่งขันอยู่กับเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บางทีธุรกิจของคุณอาจกำลังเปิดร้านแข่งอยู่กับธุรกิจเจ้าถิ่นที่คุมพื้นที่นั้นมาก่อน
แต่ถึงแม้การแข่งขันจะดุเดือดแค่ไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาชนะได้ หากคุณมีวิธีคิดที่ชาญฉลาด
Michael Lim นักเขียนและผู้ประกอบการบอกว่า เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิด คุณก็สามารถกลายเป็นคน 1% ที่มีคุณค่าสูงได้
1. ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการก้าวไปข้างหน้า
การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ไม่ใช่การตั้งความคาดหวังต่ำ เพราะเมื่อคุณมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ จะเป็นเชื้อเพลิงที่จะจุดประกายไฟในตัวคุณให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและไม่กลัวใคร
เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และทะเยอทะยาน ให้ใช้เวลา 2 นาทีในการย่อย จะได้จัดลำดับความสำคัญและลงมือง่ายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ชอบมองอะไรเป็นภาพรวม เมื่อทุกอย่างมันเละเทะและจับจุดไม่ได้ พวกเขาจะปล่อยวางและไม่ทำมันอีกต่อไป
2. รายล้อมไปด้วยคนคุณภาพ ที่จะพาคุณเดินหน้าไม่ใช่ถอยหลัง
ผู้คนรอบข้างมีผลต่อการพัฒนาของตัวคุณเอง ซึ่งคนที่ควรอยู่ใกล้มากที่สุด 3 ประเภทคือ
O เพื่อนที่คุณสามารถเติบโตด้วย
O ที่ปรึกษาที่คุณสามารถเรียนรู้ได้
O พนักงานที่คุณสามารถสอนเขาได้
นักกีฬามืออาชีพทุกคนมีโค้ชที่ทำให้พวกเขาเติบโต คู่แข่งที่ท้าทายพวกเขา และรุ่นน้องที่เขาสามารถฝึกได้
คน 99% มักจะไปไหนมาไหนกับคนที่ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ แต่คน 1% มักเลือกเฉพาะกลุ่มคนที่มีคุณค่าสูงและคนที่ท้าทายให้พวกเขาเติบโตต่อไป
3. สังเกต สะท้อน และสร้างความเฉลียวฉลาด
คนส่วนใหญ่มักชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จ และอิจฉาในสิ่งที่พวกเขาทำได้ แต่เราทำไม่ได้ แทนที่จะอิจฉาความสำเร็จของใครบางคน จงตั้งคำถามกับมัน ลองถามตัวเองดูว่า
O ทำไมพวกเขาถึงโดดเด่น?
O พวกเขาใช้วิธีไหนที่ทำให้ประสบความสำเร็จ?
O พวกเขาทำให้สินค้าหรือบริการขายดีได้ยังไง?
O อะไรคือเคล็ดลับของพวกเขา?
เมื่อคุณสามารถแยกแยะความสำเร็จได้ คุณจะสามารถเข้าถึงหลักการแรกที่ทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้น จากนั้นคุณสามารถสร้างความสำเร็จนั้นขึ้นมาใหม่ด้วยตัวคุณเอง
“อย่าขโมย อย่าคัดลอก แต่เลียนแบบ” สังเกตกลยุทธ์ของคนที่สำเร็จและนำมาปรับใช้
4. คิดเหมือนนักวิทยาศาสตร์
กระหายในชัยชนะและความสำเร็จ
อย่ากลัวที่จะทดลองอะไรในสิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้แค่ไหน ให้ลองลงมือทำก่อน แม้จะผิดพลาดก็ไม่เป็นไร ทำซ้ำในสิ่งที่เป็นไปด้วยดี หยุดสิ่งที่ไม่ได้ผล ซึ่ง Michael Lim ได้นำวิธีนี้ไปใช้กับการสร้างแบรนด์ของเขา
เขาอยากจะสร้างชื่อตัวเองในออนไลน์ วิธีการเขาคือโพสต์บทความ 5 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และสังเกตว่าเนื้อหาใดล้มเหลวและเนื้อหาใดกลายเป็นไวรัล และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีปรับปรุง จนกระทั่งมันสามารถบรรลุผลที่เขาต้องการได้
คน 99% ไม่ชอบสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่คน 1% กำลังทำการทดลองและทดสอบหลายอย่าง พวกเขาไม่เคยหยุดนิ่ง
5. เข้าใจความล้มเหลวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และเรียนรู้วิธีสร้างความยืดหยุ่น
หากคุณต้องการบรรลุในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ คุณต้องทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งหมายถึงการเผชิญกับความพ่ายแพ้ ความล้มเหลว เพราะความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตนั้นเจ็บปวด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนอาจรุนแรง แต่ คน 99% เลือกความเจ็บปวดของการอยู่เหมือนเดิม
คน 1% เลือกความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาให้กลายเป็นความสำเร็จแทน
เส้นทางความสำเร็จจะเกิดขึ้นหากคุณกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง เพราะหากคุณเดินไปทางเดียวกับคนอื่น ๆ สุดท้ายแล้วคุณจะไม่มีวันโดดเด่นและได้ผลลัพธ์แบบที่ต้องแย่งชิง แต่หากคุณวิ่งนำไปมากกว่าเขาเพียงแค่ก้าวเดียวและไม่มีใครตามทัน ความสำเร็จที่รออยู่ตรงเส้นชัยก็จะเป็นของตัวคุณเอง
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
(Reference in comment)

———
“ก้าวต่อไปของคนทำธุรกิจ”
The Next Chapter of Business
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

18/03/2023

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็มีโอกาสเป็น “หัวหน้าได้” 👑
อย่าให้การขาด Soft Skills มาขัดขวางการเติบโตในอาชีพและสูญเสียโอกาสที่จะได้ตำแหน่งและเงินเดือนดีๆ ไป
👉สมัครเรียน : https://page.futureskill.co/softskill1
คว้าทุกโอกาสได้อย่างมั่นใจด้วยทักษะ Soft Skills ที่คัดมาให้คุณพร้อมลุยทุกตำแหน่งงานที่เข้ามา🎯
หมดยุคที่ใช้อายุเป็นตัวตัดสินในการทำงานแล้ว...
เหตุผลที่ก่อนหน้านี้มักจะตัดสินการเลื่อนตำแหน่ง จากอายุก็เนื่องจากบริษัทคัดเลือกจาก “ประสบการณ์” เป็นหลัก
แต่ใช่ว่าประสบการณ์งาน จะตัดสินได้ทุกอย่าง เพราะถ้ามีประสบการณ์แต่ทำงานไม่ได้ บริหารทีมไม่เป็น เข้าสังคมไม่เก่งก็ไปไม่รอด
แต่ถ้าหากคุณมีทักษะพิเศษที่สามารถช่วยให้การทำงานของคุณดียิ่งขึ้น มีภาวะผู้นำที่ดี บริหารคนได้ อ่านคนออก วางตัวเป็น มีความคิดเป็นระบบ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีชุดความคิดเป็นบวกอยู่เสมอ
เชื่อเถอะ❗ คุณสมบัติเสริมเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณถูกพิจรณาปรับเลื่อนตำแหน่งได้ไม่ยาก❗
มาดูกันเลยว่า 10 คอร์ส Soft Skills ที่คัดมาให้แล้วมีอะไรบ้าง
ที่สำคัญเราเรียงลำดับการเรียนไว้ให้คุณแล้ว เริ่มต้นพัฒนาตัวเองตาม Step ต่อไปนี้ได้เลย
💎Learning how to learn-ฝึกฝนการเรียนรู้เร็วพร้อมเทคนิคจำแม่น
💎Problem Solving Skill-การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ หาได้ทุกทางออกของปัญหา
💎Systematic Thinking-วางชุดระบบความคิดให้เป็นแบบแผนเห็นภาพชัดเจนในทุกมุมมอง
💎Leadership-บริหารคน ไม่ใช่แต่เป็นหัวหน้าแต่สอนให้บริหารอย่างไรถึงจะได้ใจคน
💎Analysis Thinking-แก้ไขปัญหาที่ไม่เคยเจอได้ภายในพริบตา
💎Complex Problem Solving-เพิ่มความสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้
💎Strategic Thinking - บริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายแบบมีกลยุทธ์
💎Motivation Building-สร้างแรงจูงใจ ปลุกไฟในการทำงาน ได้ด้วยตนเอง
💎Conflict Killing- เทคนิคการสื่อสารภายในเพื่อลดความขัดแย้ง
💎How To Become a Highly Productive People - จัดระเบียบชีวิตการทำงานให้เหนื่อยน้อยลง ประสบความสำเร็จมากขึ้น
#แถมฟรี อีก 3 คอร์สพัฒนาตนเอง❗
✅Money Management
✅BASIC Gmail 101
✅The Key to Business Success in the Future
👨‍💻สอนโดย อาจารย์ผู้สอนที่มากประสบการณ์ถึง 9 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน
Personal development
Soft skills Learning
Business Development
Learning Development
และระดับ CEO ที่จะมาถ่ายทอดเทคนิคการบริหารคน อ่านใจคน สร้างบารมีให้มีแต่คนเคารพ
การันตีด้วย Certificte ถึง 10 ใบ✨ ครบทุกคอร์ส ได้รับเมื่อเรียนจบ
ทั้งหมดนี้คือทักษะที่จะช่วยต่อยอดให้การทำงานของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าคุณจะทำงานในสายอาชีพไหนก็ตาม
#จะไปเรียนที่อื่นทำไมในเมื่อคอร์สนี้มีครบขนาดนี้
จบทุกทักษะ ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดดดด❗
✅ไม่เข้าใจตรงไหนสอบถามได้ตลอดทุกเรื่องเลย
✅เป็นการเรียนออนไลน์ แบ่งเวลาเรียนได้ตามสะดวก ไม่มีข้อจำกัด
✅เรียนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดชีพ ลืมตรงไหนก็กลับมาเรียนใหม่ได้ตลอด
✅ฟรีเอกสารประกอบการเรียน
สามารถเรียนทั้งหมดนี้ได้ใน ราคาพิเศษเพียงแค่ 3,390 บาทเท่านั้น
👉คลิกลิ้งค์รับสิทธิพิเศษ https://page.futureskill.co/softskill1
เรียนได้ 13 คอร์ส เฉลี่ยเหมือนจ่ายเพียงคอร์สละ 260.- จากปกติคอร์สละ 3,500.-
✅แบ่งชำระ0%ได้นานสูงสุด 4 เดือน l ออกใบกำกับภาษีได้
**ด่วนราคาโปรโมชั่นนี้มีจำนวนจำกัด**

17/03/2023

14/03/2023

05/10/2022