จปร..จำไปเรื่อย

จปร..จำไปเรื่อย #จปร..จำไปเรื่อย
#คำคม.ชีวิต.
..keep going
บันทึกเรื่องราวความน่ารักของ
ชาลีและกามิน

"ล้อมวงเล่า"ทุกเรื่องราวในชีวิต แชร์ประสบการณ์ และแบ่งปันความสุข ความทรงจำร่วมกัน เพื่อรอยยิ้มความสุขแก่กัน

"มีโอกาสได้เจอกันถือเป็นบุญวาสนามีโอกาสคบหาถือเป็นชะตาลิขิตมีโอกาสช่วยเหลือเกื้อกูลกันถือเป็นกัลยาณมิตรอายุมากแล้วยังคบก...
10/01/2025

"มีโอกาสได้เจอกันถือเป็นบุญวาสนา
มีโอกาสคบหาถือเป็นชะตาลิขิต
มีโอกาสช่วยเหลือเกื้อกูลกันถือเป็นกัลยาณมิตร
อายุมากแล้วยังคบกันใกล้ชิดถือเป็นมิตรแท้"

ธรรมะสวัสดี:จำไปเรื่อย(จ.ป.ร.)

สวัสดิรักษา หรือสวัสดิรักษาคำกลอน เป็นกลอนสุภาษิตที่ สุนทรภู่ ใช้ถวายการสอน สมเด็จเจ้าฟ้าอาภรณ์ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลท...
19/12/2024

สวัสดิรักษา หรือสวัสดิรักษาคำกลอน เป็นกลอนสุภาษิตที่ สุนทรภู่ ใช้ถวายการสอน สมเด็จเจ้าฟ้าอาภรณ์ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 2 ผู้เป็นศิษย์ศึกษาอักขรสมัยในสำนักสุนทรภู่ สันนิษฐานว่า แต่งเมื่อปลายรัชกาลที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2365-2367... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_134762

"เทศกาลชูชอก"วันที่ 16-18 กันยายน พ.ศ.2567ชูซ็อก (เกาหลี: 추석) เดิมรู้จักกันในชื่อของ ฮันกาวี (เกาหลี: 한가위)เป็นชื่อของวัน...
31/08/2024

"เทศกาลชูชอก"
วันที่ 16-18 กันยายน พ.ศ.2567
ชูซ็อก (เกาหลี: 추석) เดิมรู้จักกันในชื่อของ ฮันกาวี (เกาหลี: 한가위)
เป็นชื่อของวันสำคัญในช่วงเทศกาลเพาะปลูกของชาวเกาหลี
โดยตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง
ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นวันขอบคุณพระเจ้า
เป็นวันหยุดเพื่อการเฉลิมฉลอง 3 วัน
ผู้คนในครอบครัวจะเดินทางมาพบกัน
เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวของแต่ละปี
และมีทำการทำพิธีไหว้พระจันทร์เพื่อขอบคุณ
และขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ปีถัดไป
สำหรับบางครอบครัวนั้น
ยังถือเป็นการไหว้บรรพบุรุษในวันเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน
อาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลดังกล่าว
คือ ต็อก หรือเค้กข้าว ซึ่งเป็นขนมประจำชาติเกาหลีที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั่นใส่ไส้จำพวกถั่วและน้ำตาล
ตามความเชื่อของผู้คนในอดีต ชูซ็อกมีต้นกำเนิดมาจาก กาแบ ซึ่งมีในช่วงเริ่มต้นรัชสมัยที่สามแห่งอาณาจักรซิลลา (57 ปีก่อนคริสต์ศักราช - ค.ศ. 935) ซึ่งเป็นการประกวดทอผ้าประจำเดือนของทั้งสองคณะ มาสู่วันกาแบ คณะที่สามารถทอผ้าได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะและจะได้รับการปฏิบัติฉลองจากคณะที่แพ้ อย่างไรก็ตาม นี่ยังได้รับการกล่าวว่าชูซ็อกเป็นเครื่องหมายที่บอกว่าอาณาจักรซิลลามีชัยเหนืออาณาจักรบัลแฮ ซึ่งเชื่อว่าการแข่งขันทอผ้า, การแข่งยิงธนู และการสาธิตศิลปะการต่อสู้ต่างได้รับการจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล[3]
เทศกาลชูซอกหรือวันขอบคุณพระเจ้าของชาวเกาหลี เป็นวันสำคัญที่ชาวเกาหลีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ครอบครัวที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นห่างกันใกล้ หรือไกล ก็จะพากันกลับมารวมตัวกัน และนำอาหาร ผลไม้ ของไหว้ต่างๆ มาไหว้ขอบคุณบรรพบุรุษ
เทศกาลชูซอก หรือเรียกอีกในชื่อภาษาเกาหลีคือ ฮันกาวี เป็นหนึ่งในสามวันหยุดสำคัญของประเทศเกาหลี ฮัน หมายถึง ใหญ่ กาวี หมายถึง ช่วงกลางเดือนสิงหาคม และกลางฤดูใบไม้ร่วง หรือตามปฏิทินจันทรคติ ดวงจันทร์ปรากฏเต็มดวง ถือเป็นวันพิเศษ และมีความหมาย มีพิธีเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่เกิดขึ้นในยามที่พระจันทร์เต็มดวงนั่นเอง
ประเพณีประจำชาติของเทศกาลชูซอก
ในช่วงเช้าของวันเทศกาลชูซอก สมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกันที่บ้านของพวกเขา เพื่อเป็นเกียรติแก่บรรพบุรุษของเขา จะมีการนำข้าวที่เก็บเกี่ยวมา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเค้กข้าวเกาหลี จัดเตรียมเพื่อนำมาไหว้ขอบคุณบรรพบุรุษ หลังจากสมาชิกในครอบครัวนั่งลงกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน และเพลิดเพลินกับการทานอาหารอร่อยๆ อีกหนึ่งประเพณีดั่งเดิมของเทศกาลชูซอก คือการเยี่ยมเยี่ยนหลุมฝั่งศพของบรรพบุรุษ ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน ในระหว่างการทำพิธี สมาชิกในครอบครัวจะช่วยกันกำจัดวัชพืชที่ปลูกไว้รอบๆ หลุมฝังศพ
เกมพื้นบ้านแบบดั้งเดิม
เทศกาลชูชอกถือเป็นงานเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ มีการแสดงสร้างความบันเทิง และเล่นเกมพื้นบ้านแบบดั้งเดิมต่างๆ เช่น Samulnori (วงดนตรีดั้งเดิม), Talchum (รำหน้ากาก), Ganggangsullae (รำวงเกาหลี) และ Ssireum (มวยปล้ำ) ซึ่งเทศกาล Ganggangsullae (รำวงเกาหลี) เป็นการเต้นรำที่เหล่าสาวๆ จะแต่งกายด้วยชุดฮันบก จับมือกันเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ร่วมร้องเพลงเต้นรำกัน ในคืนวันเพ็ญวันแรกในช่วงเทศกาลชูซอก
อาหารประจำเทศกาลชูซอก
มีการจัดอาหารที่หลากหลายชนิดเพื่อใช้เฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลชูซอก อาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับเทศกาลนี้ได้แก่ Songpyeon หรือเค้กข้าวเกาหลี เป็นขนมที่ทำด้วยแป้งข้าวจ้าว ปั่นเป็นก้อนเล็กๆ ด้านในสอดไส้ด้วยเมล็ดงา, ถั่วแดง, เกาลัด เป็นต้น แล้วนำไปนึ่งให้สุกเพียงเท่านี้ก็จะกลายเป็นเค้กข้าวเกาหลีแล้วละค่ะ นอกจากเจ้าเค้กข้าวเกาหลีแล้วก็ยังมี เหล้า, Jeon หรือพวกอาหารทอดต่างๆ ของเกาหลี
เครดิตข้อมูลจาก: วิกิพีเดีย,we vacation center
เผยแพร่โดย Facebook:Punnapod Pophan
ติดตามเป็นเพือนกันได้ต่อที่:
tiktok:rพะลิ้ม #พาเพลิน,Vincenzo Cassanova
youtube:ออกยา(ญา)Vincenzo โต๊ะ8

05/06/2024

มารยาทสากลที่ควรประพฤติ

1. อย่าโทรหาใครเกินสองครั้งติดกัน ถ้าเขาไม่รับสาย ให้คิดว่าเขาติดธุระสำคัญอยู่

2. ยืมเงินหรือของใครมาต้องคืน ยิ่งคืนก่อนเขาทวงได้ยิ่งดี แสดงให้เห็นว่าคุณมีความซื่อสัตย์และเป็นเครดิตให้ตัวเอง

3. ถ้ามีใครเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารเย็น อย่าสั่งเมนูที่แพง ๆ

4. อย่าถามคำถามที่น่าอึดอัด เช่น 'อ้าว ยังไม่แต่งงานอีกเหรอ', 'ทำไมยังไม่มีลูก', 'ทำไมไม่ซื้อบ้าน, ทำไมไม่ซื้อรถ' เพราะไม่ใช่เรื่องของคุณ!

5. เปิดประตูเผื่อให้คนที่เดินตามหลังมาด้วย ไม่ต้องสนว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นมารยาทที่ดีมากในการปฏิบัติต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ

6. ถ้าขึ้นแท็กซี่ไปกับใคร แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนออกค่ารถ ครั้งต่อไปคุณควรจะเป็นคนจ่าย

7. เคารพความเห็นต่าง เพราะคุณอาจเห็นเป็นเลข 6 แต่อีกคนอาจเห็นเป็นเลข 9 เพราะความคิดเห็นที่สอง อาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้

8. เวลาใครพูด อย่าขัดจังหวะ ปล่อยให้เขาได้พรั่งพรูออกมา หน้าที่ของคุณคือเลือกฟังในสิ่งที่ควรฟัง

9. ถ้าแหย่ใครเล่น แล้วเขาไม่ชอบ ก็เลิกเล่นซะ แล้วอย่าทำอีก

10. เวลามีใครช่วย อย่าลืมพูด "ขอบคุณ"

11. ชื่นชมใครต่อหน้าธารกำนัลได้ แต่ถ้าจะวิจารณ์ใคร ให้ไปพูดตัวต่อตัว

12. อย่าพูดถึงน้ำหนักตัวของใคร แค่บอกว่า เขาดูดี ถ้าเขาอยากคุยเรื่องลดน้ำหนัก เขาจะพูดเอง

13. ถ้าใครโชว์รูปในโทรศัพท์ให้คุณดู อย่าปัดหน้าจอ เพราะคุณย่อมไม่รู้ว่ามีรูปอะไรในนั้นอีกบ้าง

14. ถ้าเพื่อนร่วมงานบอกว่า วันนี้หมอนัด อย่าถามว่าเป็นอะไรต้องไปตรวจ? แค่บอกว่า ขอให้สบายดีนะ อย่ากดดันให้เขาต้องบอกว่าเจ็บป่วยเป็นอะไร ถ้าเขาอยากให้คุณรู้ เขาจะบอกเองโดยไม่ต้องถาม...

15. ปฏิบัติกับแม่บ้านด้วยความสุภาพเหมือนที่ทำกับ CEO เพราะไม่มีใครรู้สึกดี ถ้าเห็นคุณหยาบคายหรือดูถูกคนอื่น มีแต่จะชื่นชมถ้าเขาเห็นคุณปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความเคารพ

16. ถ้าใครกำลังคุยด้วย อย่าเอาแต่ก้มหน้ามองโทรศัพท์ เพราะเสียมารยาทมาก

17. อย่าไปแนะนำอะไรใคร ถ้าเขาไม่ได้ถาม

18. ถ้าไม่เจอใครมานานหลายปี มาเจอกันอีกที อย่าถามเรื่องอายุและเงินเดือน

19. อย่ายุ่งเรื่องคนอื่น ถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา

20. ถอดแว่นกันแดดออกเวลาพูดคุยกับใครกลางแจ้ง เป็นการให้เกียรติกัน และการสบตาก็มีค่าพอ ๆ กับคำพูด

21. อย่าพูดถึงความรวยของใครต่อหน้าคนที่ขาดแคลน และอย่าพูดถึงลูก ๆ ของคุณต่อหน้าคนที่มีลูกไม่ได้

05/06/2024

นายหญิงกามินปกป้องท่านแม่ทัพชาลีเรื่องงู?

 .I.P.เจ้าเก่งมาก/ไก่ทอดชาตะ๑๙พ.ค.๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๐น.มรณะ๒๒พ.ค.๒๕๖๗เวลา๐๓.๐๐ น. #เป็นลูกเจี๊ยบไก่น้อยตัวแรกที่นายหญิงกามิน...
23/05/2024

.I.P.เจ้าเก่งมาก/ไก่ทอด
ชาตะ๑๙พ.ค.๒๕๖๗
เวลา ๑๗.๐๐น.
มรณะ๒๒พ.ค.๒๕๖๗
เวลา๐๓.๐๐ น.

#เป็นลูกเจี๊ยบไก่น้อยตัวแรกที่นายหญิงกามิน
ตั้งใจเลี้ยง
#เพราะเป็นไข่ที่แม่ไก่ไม่ได้ฟักไข่
นายหญิงกามินจึงนำมาฟักเองจนออกจากไข่

ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่เป็นไก่ที่โชคดีมาก
#ได้ไปงานอีเว้นที่โฮมโปรฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
#ได้ไปร่วมงานแต่งคุณพีทและคุณแก้มบุ๋ม
#ได้ไปเที่ยวทะเล,นั่งเรือยอร์ช กับครอบครัว
จนวาระสุดท้ายเดินทางกลับดาวลูกไก่ในตอนตีสามซึ่งตรงกับ
#วันวิสาขบูชา
เป็นวันพระใหญ่ของเราชาวพุทธ
ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการลาจาก
ด้วยความรัก ความเอ็นดู ความเมตตา
แม้จะไม่กี่วันที่ได้มีวาสนาเจอกัน
เจ้าเก่งมาก/ไก่ทอด ทำให้เอฟซีแฟนคลับพลอยชุ่มชื่น💓หัวใจไปกับนายหญิงกามิน
และนายหญิงกามินเองแม้ท่านแม่ทัพชาลี ได้เคยบอกไว้ว่าลูกไก่ที่แม่ไก่ไม่ยอมฟักมักจะไม่แข็งแรงและไม่รอด แต่นายหญิงยังมีความเชื่อลึกว่าจะรอดและแข็งแรงเหมือนชีวิตของนายหญิงกามินในวัยเยาว์เช่นกัน

ดังนี้มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ว่า

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผ้าที่เศร้าหมองมีมลทินจับ ช่างย้อม นำเอาผ้าผืนนั้นใส่ลงในนํ้าย้อมใดๆ คือ สีเขียว สีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ผ้านั้นพึงเป็นของมีสีที่เขาย้อมไม่ดี มีสีมัวหมอง เพราะผ้าเป็นของไม่บริสุทธิ์ ฉันใด เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันหวังได้ ฉันนั้น "

ผ้าที่บริสุทธิ์สะอาด ช่างย้อมพึงนำเอาผ้าผืนนั้นใส่ลงในนํ้าย้อมใดๆ คือสีเขียว สีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ผ้านั้นพึงเป็นของมีสี ที่เขาย้อมดี มีสีสด ข้อนั้นเพราะผ้าเป็นของบริสุทธิ์ ฉันใด เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้ ฉันนั้น"
จิตของมนุษย์นี่แปลกทีเดียว สามารถฝึกให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ได้ และพัฒนาให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ จิตดวงนี้จะเศร้าหมองหรือผ่องใสก็ขึ้นอยู่กับตัวของเรา ถ้าหากเกิดมาไม่เคยสั่งสมบุญกุศล ไม่เคยนั่งสมาธิกลั่นใจให้ใส แถมยังทำบาปอกุศลเป็นอาจิณ ใจก็เศร้าหมองไม่ผ่องใส
เมื่อใจหมองก็ต้องไปสู่ทุคติตามพุทธพจน์ที่หลวงพ่อได้ยกขึ้นมากล่าวข้างต้นนั่นแหละ แต่ถ้าผ่องใสก็ไปสู่สุคติ นี่เป็นกฎแห่งการกระทำที่เราต้องทำความเข้าใจให้ดี ชีวิตเราจะได้ไม่ผิดพลาด เป็นกฎสากลไม่เลือกปฏิบัติกับเฉพาะชาติใดชาติหนึ่ง
แต่มีผลบังคับสรรพสัตว์ทั้งหมดในภพสาม คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เข้าใจ คือ เมื่อเวลาคนใกล้ตาย โดยทั่วไปจะมีอารมณ์ ๓ อย่างเกิดขึ้น ปรากฎเป็นอารมณ์ของปฏิสนธิจิต ที่จะชักนำให้ไปบังเกิดในภพภูมิต่างๆ คือ อารมณ์ประการแรก เรียกว่า

กรรมารมณ์ เป็นอารมณ์ของกรรมที่ตนเคยกระทำเอาไว้ ซึ่งจะมาปรากฏให้เห็นในขณะกำลังใกล้จะตาย เช่น ถ้าตนเคยฆ่าคน ภาพที่ตัวเองเคยฆ่าคนก็จะมาปรากฏ เคยทะเลาะเบาะแว้งด่าว่าพ่อแม่ หรือเป็นคนติดเหล้าดื่มสุราเมรัยเป็นประจำ เคยทำอทินนาทานลักขโมยจี้ปล้นคนอื่น เคยประพฤติผิดในกามนอกใจสามีภรรยา

ภาพเหล่านี้ก็จะมาปรากฏให้เห็นชัดเจน อย่างที่ตัวได้ทำไว้ไม่ผิดเพี้ยน แล้วจิตก็ยึดเอาภาพเหล่านั้นเป็นอารมณ์ กรรมารมณ์นั้นมีผลต่อสภาพใจที่จะไปเกิดในภพภูมิต่างๆ ถ้าไปทุคติภูมิ ก็เช่นไปบังเกิดในนรก เกิดเป็นเปรต อสุรกาย หรือเข้าสู่ครรภ์ของสัตว์เดรัจฉาน

หากตนเคยทำกุศลกรรมไว้ ในขณะก่อนสิ้นลมก็จะปรากฏเป็นมโนภาพที่ดีๆ ให้เห็นอย่างชัดเจนเหมือนกัน เช่น ตนเคยบริจาคทาน เคยทำบุญเลี้ยงพระ ถวายสังฆทานเป็นประจำ เคยสร้างศาลา ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เคยรักษาศีล ก็จะเห็นเป็นภาพของตัวเองกำลังกระทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอย่างแจ่มชัด

เมื่อเห็นแล้วก็ทำให้ใจชุ่มชื่นเบิกบานผ่องใส ครั้นแตกกายทำลายขันธ์ลงไป อารมณ์อันดีงามนั้น ก็จะน้อมนำไปในสุคติ กรรมารมณ์เหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเฉพาะคนใกล้ตายเท่านั้น แต่ถ้ากรรมารมณ์นี้ไม่ปรากฏให้คนใกล้ตายเห็น ก็จะปรากฏอารมณ์อีกอย่างหนึ่ง คือ

กรรมนิมิตตารมณ์ ได้แก่ภาพของตัวเองและอุปกรณ์ของการกระทำในอดีตมาปรากฏให้เห็น เพราะตามธรรมดาในการประกอบกรรมทุกชนิด ส่วนมากจะมีอุปกรณ์เครื่องมือ เช่น จะทำปาณาติบาตฆ่าสัตว์ฆ่าคน ก็ต้องมีดาบ มีด ปืน เป็นต้น เป็นเครื่องมือ

หรือจะทำบุญทำทาน ก็ต้องมีไทยธรรมเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จะมาปรากฏเป็นกรรมนิมิตในขณะที่จิตใกล้จะดับ ซึ่งจะมองเห็นเป็นภาพชัดเจนแจ่มใส สุดแต่ว่าใครจะเคยทำชั่วหรือทำความดีด้วยสิ่งใด ภาพนิมิตเหล่านั้นก็จะมาปรากฏให้เห็นให้ระลึกได้ชัดเจน เมื่อจิตยึดหน่วงไว้เป็นอารมณ์

ภาพเหล่านั้นก็จะมีผลต่อความหมองกับความใสของใจ ถ้าคนนั้นเคยทำบุญใดไว้ ภาพของการทำบุญและอุปกรณ์ในการทำความดีก็เกิดขึ้น ปรากฏขึ้นมาให้เห็นชัดเจน เช่น เห็นผ้าไตรจีวร เห็นเครื่องสักการบูชาดอกไม้ธูปเทียนที่เคยทำสักการบูชา

เห็นขบวนแห่ริ้วขบวนในการทำกิจกรรมบุญต่างๆ เห็นโบสถ์วิหารที่ตนเคยสร้างเอาไว้ ถ้าไม่ได้ทำบุญกับพระพุทธศาสนา แต่ไปทำนอกเขตบุญ เช่น สร้างโรงพยาบาลก็เห็นโรงพยาบาล หรือการบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ที่ตัวเองมีใจเป็นกุศลได้เคยทำไว้ จิตก็จะยึดเหนี่ยวเอาภาพกรรมนิมิตตารมณ์ที่ปรากฏชัดนั้นเป็นอารมณ์

พอดับชีพลงก็ตรงไปอุบัติในสุคติภูมิ หากกรรมนิมิตตารมณ์นี้ไม่ปรากฏ อารมณ์อีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏ คือ คตินิมิตตารมณ์ ได้แก่นิมิตต่างๆ ที่บ่งบอกถึงคติที่ตนจะต้องไปเกิด ปรากฏให้เห็นชัดเจนทางมโนทวาร บางทีก็เป็นภาพที่ตนไม่เคยเห็นไม่เคยไปมาก่อน แต่บางทีก็เป็นภาพที่ตนเคยเห็นครั้งที่เป็นมนุษย์ เช่น ภาพสัตว์หรือมนุษย์เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้เราสามารถรู้ได้เห็นได้ก่อนตาย แต่ต้องอาศัยธรรมจักขุ และญาณทัสสนะของธรรมกาย ไปตรวจดูบุพกรรม และคติที่ไปว่าสถานที่เราจะไปบังเกิดใหม่นั้นอยู่ที่ไหน ส่วนใหญ่เราไม่อาจรู้ได้ว่า ชีวิตหลังความตาย ตายแล้วจะไปที่ไหน ยกเว้นคนที่เห็นคตินิมิตตารมณ์ เช่น ถ้าต้องเกิดในมหานรก ก่อนขาดใจตาย ก็เห็นเป็นเปลวไฟร้อนระอุ เห็นนายนิรยบาล รูปร่างน่ากลัวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถือเครื่องทัณฑ์ทรมาน เช่น มีด ค้อนเหล็ก หรือถือหอกเหล็กโตเท่าลำตาล

หรือเข้ามาฉุดกระชากลากตัวไป บางทีก็เห็นอีกาปากเหล็กโฉบมาจิกตัว คนใกล้ตายเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ย่อมสะดุ้งกลัวตัวสั่นทีเดียว ถ้าส่งเสียงได้ในขณะนั้น ก็จะร้องโวยวายให้คนรอบข้างช่วย แต่ก็ไม่มีใครเห็นภาพนั้นจึงไม่รู้จะช่วยอย่างไร นับว่าเป็นคนเจ็บใกล้ตายที่น่าสมเพทเวทนายิ่งนัก คตินิมิตอย่างนี้ชี้ว่า บุคคลนั้นต้องไปตกนรกแน่นอน

ความตายจึงไม่มีนิมิตหมายไม่เลือกวันเวลาเพศอายุฐานะ..เป็นอนิจจังทุกขังและอนัตตา

เก็บภาพความทรงจำดีดให้กันตลอดที่ยังมีลมหายใจอยู่..สร้างสิ่งดีดีให้กัน

บุญจากที่นายท่านอ่านเผยแผ่ธรรมะออนไลน์นี้ขออุทิศให้เจ้าเก่งมาก/ไก่ทอด
สู่สัมปรายภพและให้เกิดเป็นมนุษย์ได้เกิดมาสร้างบารมีตราบเข้าสู่พระนิพพาน

๊ะ8

เครดิตภาพจากTTช่องPANDA CM

ถึงวัย ก็คิดได้เอง @ เคยอยากเป็นคนรวย แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีเงินใช้ตามสมควร ไม่มีหนี้สิน ก็พอแล้ว@ เคยอยากมีตำแหน่งสูงๆ แต่เ...
19/05/2024

ถึงวัย ก็คิดได้เอง
@ เคยอยากเป็นคนรวย แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีเงินใช้ตามสมควร ไม่มีหนี้สิน ก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีตำแหน่งสูงๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีอะไรให้ทำไม่เบื่อ ก็พอแล้ว
@ เคยอยากกินหรูๆอร่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้กินแค่พออิ่ม ก็พอแล้ว
@ เคยอยากเอาชนะใครๆ แต่เดี๋ยวนี้แค่ทำอะไรให้สำเร็จตามที่ตั้งใจก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีสิ่งที่อวดคนอื่น แต่เดี๋ยวนี้ แค่ผ่านไปแต่ละวันอย่างสงบก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีบ้านใหญ่ๆสวยๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีที่พักเล็กๆสงบๆ ก็พอแล้ว
@ เคยอยากไปท่องเที่ยวที่ไกลๆหรูๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่ได้ออกไปพักผ่อนแถวนอกเมืองบ้างก็พอแล้ว
@ เคยอยากให้คนชื่นชม นับหน้าถือตา แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีคนจำได้ ก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีฝันสวยหรู ดูดีมีอนาคต แต่เดี๋ยวนี้ แค่ได้ตื่นทุกเช้าพร้อมลมหายใจที่ปกติก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีลูกน้องไว้ใช้งาน แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีอวัยวะครบและใช้งานได้ตามสมควรก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีรถยนต์หรูๆ สมรรถนะสูงๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกปลอดภัยก็พอแล้ว
@ เคยอยากมีที่ดินแปลงใหญ่ๆ แต่เดี๋ยวนี้ แค่มีสวนเล็กๆ ไว้ปลูกต้นไม้ที่ริมระเบียงบ้านก็พอแล้ว

*เมื่อชีวิตคนเรา ได้เดินทางมาถึงจุดๆหนึ่ง ก็ไม่รู้จะอยากและกดดันตัวเองให้มี ให้เป็นตามความอยากไปเพื่ออะไร

*ขอบคุณ ที่วันนี้ยังตื่นขึ้นมา แล้วยังมีลมหายใจก็พอแล้ว

🥰❤️❤️🥰

กลายเป็นภาพโด่งดังเมื่อเด็กชาวอินเดียวาดภาพนี้ขึ้นมาหลังจากเขาได้ยินว่าแม่ไม่ได้ทำอะไร นอกจากเป็นแม่บ้านแต่นี่คือภาพ 'แม...
16/05/2024

กลายเป็นภาพโด่งดัง
เมื่อเด็กชาวอินเดียวาดภาพนี้ขึ้นมา
หลังจากเขาได้ยินว่า
แม่ไม่ได้ทำอะไร นอกจากเป็นแม่บ้าน

แต่นี่คือภาพ 'แม่' ที่เขาเห็น
แม่... ที่ทำอะไรไม่หยุดเลยตลอดทั้งวัน

ในชีวิตจริง
นอกจาก 'แม่' แล้ว
เรายังมีคนในครอบครัว
ที่อยู่ในบทบาทแบบนี้เยอะมาก

คนที่คนในครอบครัวมองว่า
ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ไม่มีความสามารถอะไร
เป็นแค่คนที่อยู่ไปวันๆ

ทั้งที่ในความเป็นจริง
คนแบบนี้แหละที่
'ทำทุกอย่างให้ทุกคน
จนแทบไม่เคยได้ทำอะไรให้ตัวเอง'

เพราะมีคนแบบนี้แหละ
ทุกคนในบ้านถึงออกไปทำอะไรที่ตัวเองอยากทำได้อย่างไม่ต้องกังวล

บางคนเฝ้าพ่อแม่ป่วยแทนพี่แทนน้อง
บางคนเลี้ยงหลานให้พี่ให้น้อง

วิ่งรอกทำการงานซ้ำๆน่าเบื่อ
ที่คนในบ้านไม่อยากทำ

ดูแลคนแก่ คนป่วย เด็ก สัตว์เลี้ยง
ดูแลอาหารการกิน
ดูแลความสะอาดเรียบร้อยของบ้าน
ดูแลความปลอดภัยของบ้าน

จ่ายค่าน้ำไฟ ซ่อมแซมข้าวของผุพัง
วิ่งรอกซื้อของเดิมๆซ้ำๆ
เป็นการงานซ้ำซากที่ไม่เคยจบ

น่าเบื่อแต่ต้องทำ
เพราะไม่มีใครทำ

แต่ความน่าเศร้าคือ
แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังเห็นเขาว่า
"วันๆไม่ทำอะไร"

ขอบคุณภาพวาดอันงดงามจากเด็กน้อย
ที่มองเห็นคุณค่าในสิ่งที่ใครๆไม่เห็น

คนที่อยู่ข้างหลัง ข้างล่าง ข้างๆ
นอกเฟรมความสำเร็จของใครๆ
ไม่เคยมีแสงไฟส่อง
ไม่เคยมีใครเห็น

ไม่เห็นแต่ไม่ใช่ไม่มี

ไปข้างหน้าได้
แต่อย่าลืมว่า
ต้นไม้ยืนได้เพราะมีราก

ในการที่ใครหลายคน
ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
เพราะมีบางคน'แบกภาระทั้งหมด'ไว้ข้างหลัง
จนล้นบ่า

ไม่ต้องมาสำนึกรู้คุณ
แค่อย่ากดข่มความเป็นมนุษย์
ของคนที่เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นก็พอ

#แด่คนเบื้องหลังทุกคนบนโลกใบนี้

หมายเหตุ : ภาพวาดชื่อ "My Mother and Mother in the Neighborhood"
โดย Anujath Sidhu Vinayal อายุ 14 ปี จากประเทศอินเดีย
ขอบคุณเจ้าของภาพครับ

cr. วิระติ ทะพิงค์แก

15/05/2024

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66946514541

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ จปร..จำไปเรื่อยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง จปร..จำไปเรื่อย:

แชร์