Phoenix News ฟินิกซ์นิวส์
PHOENIX NEWS

กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “GIFFARINE GLUTA PINK & GLOW BODY LOTION” ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จ...
06/07/2025

กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “GIFFARINE GLUTA PINK & GLOW BODY LOTION” ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย
บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด แนะนำไอเท็มเด็ด “GIFFARINE GLUTA PINK & GLOW BODY LOTION” (กิฟฟารีน กลูตา พิงก์ แอนด์ โกลว์ บอดี้ โลชั่น) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย นวัตกรรมเพื่อผิวเพอร์เฟค ที่ทาปุ๊บ โกลว์ปั๊บ อัพผิวโกลว์ใส ไบรท์ทันที 1 STEP สำหรับโลชั่นบำรุงผิวกายที่อัดแน่นด้วย 5 Skin-Perfecting Boosters ทั้ง Glutathione ที่ช่วยปรับผิวแลดูสว่างกระจ่างใส ,Powerful Vitamin C + B3 ช่วยปรับผิวดูสุขภาพดีมีออร่า,Licorice Extract ช่วยอัพผิวโกลว์ใส Tranexamic Acid ช่วยลดผิวหมองคล้ำ และ Shea Butter ล็อกผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ซึ่งเป็นการผสมผสานสารบำรุง 5 ชนิด เพื่อบูสท์ผิวให้โกลว์ใส ไบรท์อย่างมีออร่า ให้เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมมอบเสน่ห์ผิวหอมละมุน กลิ่น Cherry Yogurt ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง 5 ชนิด ได้แก่ Alcohol, Paraben, Formaldehyde, Methylisothiazolinone และ Mineral Oil เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวกายให้แลดูกระจ่างใส ผู้ที่มีผิวกายหมองคล้ำขาดความสดใส ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวกายนุ่มชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน ขนาด 180 มล. ราคา 320 บาท
พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่สำนักงานธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ, Line@giffarinethailand, กิฟฟารีน 1101, www.giffarine.com, Shopee และ Lazada
# # # # # #
เกี่ยวกับ “กิฟฟารีน”
“ทุกครั้งที่คุณใช้กิฟฟารีน นั่นคือความรับผิดชอบของเรา...ทุกครั้งที่คุณเชื่อมั่นในกิฟฟารีน นั่นคือ ความภูมิใจของเรา” กิฟฟารีนก่อกำเนิดจากความมุ่งมั่นของคณะแพทย์ และเภสัชกรที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการรับรองที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ด้วยปณิธานยึดมั่นในความจริงใจ และความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอันเต็มเปี่ยม “กิฟฟารีน” มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากการวางแผนการตลาดที่มีวิสัยทัศน์ แผนการขายที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีน พร้อมทั้งการสนับสนุนด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่พร้อมจะตอบสนอง และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภคในระยะยาว ปัจจุบัน “กิฟฟารีน” มีโรงงานที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก ด้วยเงินลงทุนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด รวมไปถึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต ตลอดจนคัดเลือกคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีที่สุด

EXCLUSIVE ONE-DAY EXPERIENCE AT CENTRAL EMBASSY นิยามบทใหม่แห่งการใช้ชีวิตเหนือระดับในหนึ่งวันที่รสนิยมอันลึกซึ้งได้เฉิด...
06/07/2025

EXCLUSIVE ONE-DAY EXPERIENCE AT CENTRAL EMBASSY นิยามบทใหม่แห่งการใช้ชีวิตเหนือระดับ
ในหนึ่งวันที่รสนิยมอันลึกซึ้งได้เฉิดฉาย และทุกสัมผัสคือสุนทรียะแห่งการใช้ชีวิตเหนือระดับ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ลักชัวรีระดับไฮพรีเมียมใจกลางกรุงเทพฯ ได้รังสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าคำว่า “วันพิเศษ” ผ่านกิจกรรม EXCLUSIVE ONE-DAY EXPERIENCE AT CENTRAL EMBASSY ที่ถ่ายทอดตัวตนและรสนิยมอย่างมีสไตล์ในแบบฉบับ “ACE” เชิญสมาชิก CENFINITY และลูกค้า VIP จาก Thailand Privilege มาร่วมสัมผัสโมเมนต์ที่เปี่ยมด้วยรายละเอียด และการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกมิติ
ภายในหนึ่งวันที่ถูกรังสรรค์อย่างมีชั้นเชิงผู้เข้าร่วมได้ดื่มด่ำประสบการณ์จากแบรนด์ระดับโลกที่ถูก ร้อยเรียงอย่างมีศิลปะ ตั้งแต่ NARA THAI CUISINE ที่นำเสนอเสน่ห์อาหารไทยตำรับชาววังอย่างละเมียดละไม, DII WELLNESS MED SPA ที่มอบความสมดุลแบบองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ ไปจนกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ OPEN HOUSE พื้นที่แห่งไอเดียที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ดีไซน์ไอเท็มในแบบของตัวเอง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลด้วยแรงบันดาลใจ โดยกิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 และ 20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา
กิจกรรมเริ่มต้นแห่งความประทับใจในบรรยากาศที่เน้นความเป็นส่วนตัว สำหรับลูกค้า VIP จาก Thailand Privilege ที่ได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วย การรับประทานอาหารเมนูต้นตำรับที่ได้คัดสรรมาให้พิเศษจาก NARA THAI CUISINE เพลิดเพลินไปกับเวิร์กช็อป DIY สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Bag Strap & Customized Key Chain ณ OPEN HOUSE ชั้น 6 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ออกแบบไอเท็มที่สะท้อนตัวตนแบบไม่ซ้ำใคร และได้ไปผ่อนคลายไปกับ Massage Therapy ที่ Dii Wellness Med Spa ชั้น 4 ร้านสปาระดับพรีเมียมที่ผสมผสานเทคโนโลยีการแพทย์ด้านความงามเข้ากับศาสตร์แห่งการผ่อนคลายแบบองค์รวม
กิจกรรมครั้งนี้คือบทพิสูจน์ว่า "การช้อปปิ้ง" ที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไม่ใช่แค่การเลือกซื้อสินค้า แต่คือการเลือก "ประสบการณ์" ที่ถักทอรสนิยม ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างกลมกลืนและเปี่ยมความหมาย
นอกจากกิจกรรมสุดพิเศษแล้ว เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังมอบสิทธิประโยชน์เฉพาะผู้เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ Central Embassy Voucher มูลค่า 10,000 บาท สำหรับผู้มียอดใช้จ่ายครบตามเงื่อนไข และร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมรับบัตรชมภาพยนตร์ The Embassy Diplomat Screens มูลค่า 4,000 บาท สำหรับ 2 ที่นั่ง เพื่อเติมเต็มวันแห่งความประทับใจในแบบที่เหนือระดับและน่าจดจำ
พร้อมเปิดประตูสู่โลกแห่งเอกสิทธิ์กับ CENFINITY สำหรับผู้ที่สะสมยอดซื้อผ่าน The 1 จากร้านค้าที่ร่วมรายการในเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัล และโรบินสัน ครบตามกำหนด คุณจะได้รับเชิญเป็นสมาชิก CENFINITY ภายในเดือนถัดไป เพื่อร่วมสัมผัสสิทธิประโยชน์มากมายตลอดปี 2568 อาทิ Exclusive Invitation เข้าร่วมงาน อีเวนต์พิเศษ, CENFINITY DAY พบกับสิทธิพิเศษทุกวันที่ 16 ของเดือน ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, INFINITE EARN & BURN รับ 1 คะแนน The 1 ทุก 150 บาท และสามารถแลกคะแนน The 1 เป็น Central Embassy Voucher สำหรับใช้ที่แบรนด์ระดับโลก, Exclusive Parking ที่จอดรถพิเศษ ฟรีตลอดวัน, Exclusive Lounge Access ห้องรับรองพิเศษ พร้อม Wi-Fi, อาหารว่างและเครื่องดื่ม รวมถึงบริการ Personal Assistance ผู้ช่วยส่วนตัวที่จะให้คำแนะนำ คัดเลือก จัดหาสินค้าและบริการ ตลอดจนข้อมูลสิทธิพิเศษของลูกค้าสมาชิกตามที่ต้องการ
เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ทุกประสบการณ์ให้เป็นมากกว่าวันพิเศษ พร้อมนิยาม
“วันธรรมดา” ของคุณให้กลายเป็น EXCLUSIVE ONE-DAY EXPERIENCE AT CENTRAL EMBASSY ช่วงเวลาที่สะท้อนรสนิยมและตัวตนของคุณได้อย่างแท้จริง
อัปเดตข่าวสารและกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้ที่ www.facebook.com/centralembassy
หรือ www.centralembassy.com


Thailand Privilege Card ร่วมบริจาคโลหิตแก่สภากาชาดไทย สนับสนุนพันธกิจ เลือดเชื่อมชีวิต ให้ทุกชีวิตได้ไปต่อเพราะทุกการให้...
06/07/2025

Thailand Privilege Card ร่วมบริจาคโลหิตแก่สภากาชาดไทย สนับสนุนพันธกิจ เลือดเชื่อมชีวิต ให้ทุกชีวิตได้ไปต่อ
เพราะทุกการให้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิก “ไทยแลนด์ พริวิเลจ” ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อโอกาสและต่อชีวิตให้เพื่อนมนุษย์ โดย นายมนาเทศ อันนวัฒน์ เพรสซิเดนท์ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน เข้าร่วมบริจาคโลหิต ณ สภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อโลหิตที่ได้รับบริจาคได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยและสำรองไว้ใช้ในยามขาดแคลนทั่วประเทศ ตอกย้ำพันธกิจเพื่อสังคมของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการตอบแทนสังคม โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมให้การต้อนรับ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

Farizon รถตู้ไฟฟ้าเครือ Geely เตรียมลุยไทย!คิง เจน เปิดเกมรุกหวังคว้าสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการคิง เจน เดิ...
19/06/2025

Farizon รถตู้ไฟฟ้าเครือ Geely เตรียมลุยไทย!
คิง เจน เปิดเกมรุกหวังคว้าสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
คิง เจน เดินหน้าขยายไลน์ธุรกิจ เตรียมคว้าสิทธิ์ตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่าย "Farizon" รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้าจากเครือ Geely Holding Group อย่างเป็นทางการในประเทศไทย หวังเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียว พร้อมดัน Farizon เจาะตลาด EV เชิงพาณิชย์ ด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และความปลอดภัย
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานที่ปรึกษา บริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน) (KGEN) เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจหลักด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร การให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ทำให้มองเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวกระโดด ล่าสุดเข้าร่วมงาน “2025 International Automotive and Supply Chain Expo” ที่ศูนย์จัดงานและนิทรรศการชั้นนำระดับโลก AsiaWorld-Expo ในฮ่องกง โดยได้ยื่นข้อเสนอและเจรจาร่วมกับ Farizon New Energy Commercial Vehicle ในเครือ Geely Holding Group มอบหมายให้ คิง เจน เป็นตัวแทนผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Farizon ในประเทศไทย
Farizon แบรนด์ยานยนต์พลังงานใหม่ภายใต้เครือ Geely Holding Group มุ่งมั่นยกระดับการขนส่งอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ “Methanol + Electric” เน้นการผสานพลังงานสะอาดกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และสายการผลิตที่ครอบคลุมครบทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบรรทุกขนาดเล็ก รถมินิ LCV (Light Commercial Vehicle) ไปจนถึงรถโดยสาร ในปี 2024 ที่ผ่านมา Farizon สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายสะสมทะลุ 300,000 คันทั่วโลก ครองอันดับหนึ่งในส่วนแบ่งตลาดตลอดทั้งปี พร้อมขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาใต้
รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า Farizon ครองใจตลาดโลก ด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะและความปลอดภัยระดับสูง โดยเฉพาะรุ่น Farizon SuperVan (SV) ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโดยสาร การบรรทุกสินค้า หรือปรับแต่งเพื่อภารกิจเฉพาะ มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ประสิทธิภาพเหนือชั้น และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ซึ่งได้รับการรับรองรางวัล Platinum Safety Rating จาก Euro NCAP หนึ่งในองค์กรทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ชั้นนำของโลก นอกจากนี้ Farizon ยังนำเสนอรุ่น SV Combi และ SV Taxi ที่ออกแบบให้รองรับทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง ระบบอัจฉริยะครบครัน และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
ในงาน 2025 International Automotive and Supply Chain Expo ทาง Farizon ยังได้เปิดตัว Farizon SV Combi รถอเนกประสงค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ รถบรรทุกอัจฉริยะ H9E และรถบัสเมทานอล-ไฮโดรเจน U12M พร้อมสร้างความคึกคักให้กับตลาดยานยนต์ ด้วยการส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้า Farizon SV จำนวน 1,000 คัน ให้แก่บริษัท Sino Development (International) เพื่อให้บริการในฮ่องกง โดยรถรุ่นนี้ออกแบบเพื่อความสะดวก ปลอดภัย และรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและเด็ก นอกจากนี้ Farizon ยังลงนามความร่วมมือกับโรงพยาบาล Pok Oi และพันธมิตรที่มีศักยภาพสูง เดินหน้าขยายตลาดสู่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านโซลูชันการขนส่งพลังงานสะอาดและอัจฉริยะในอนาคต

โทมิ ฟอร์เพ็ท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่เข้าใจคนเลี้ยงสัตว์ สูตรใหม่ ! "โอเชี่ยน บรีซ" ตัวจริงเรื่องขจัดกลิ่น พร้อมดักจ...
18/06/2025

โทมิ ฟอร์เพ็ท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่เข้าใจคนเลี้ยงสัตว์ สูตรใหม่ ! "โอเชี่ยน บรีซ" ตัวจริงเรื่องขจัดกลิ่น พร้อมดักจับขนสัตว์ สะอาด หอม อ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน
โทมิ (TOMI) ผู้นำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวภายในบ้านและห้องน้ำสไตล์ญี่ปุ่น โดย บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย ส่งผลิตภัณฑ์ สูตรใหม่ ! โทมิ ฟอร์เพ็ท กลิ่นโอเชี่ยน บรีซ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับสัตว์เลี้ยด้วยสูตรเฉพาะ แบรนด์แรกในตลาดที่นำเทคโนโลยี Anti-Malodor มาใช้ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่แค่กลบ แต่ขจัดกลิ่นตั้งแต่ต้นตอ พร้อมแนวกลิ่นสะอาดหอมละมุน เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง รวมทั้งยังใช้กระบวนการ Cold Process ลดการใช้ความร้อนและพลังงานในการผลิต
ภายใต้แนวคิดหลักของ โทมิ ฟอร์เพ็ท ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเหล่า Pet Parent ที่มักจะเลี้ยงสัตว์มากกว่าหนึ่งตัว และมองหาตัวช่วยที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงแสนรัก สามารถแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะคราบสกปรก ขนสัตว์ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
โทมิ ฟอร์เพ็ท (TOMI Floor Cleaner for Pet) กลิ่น “โอเชี่ยน บรีซ” จึงถูกคิดค้นขึ้นด้วยสูตรพิเศษที่ใช้สารทำความสะอาดจากธรรมชาติ ปลอดภัยแม้สัตว์เลี้ยงจะเดิน ย่ำ หรือนอนกลิ้งบนพื้นหลังถูเสร็จใหม่ ๆ และยังทำความสะอาดหมดจดโดยไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง ตอบโจทย์กลุ่มคนที่รักและดูแลสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก (pawrents) ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มอบทั้งความสะอาด มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสำหรับสมาชิกสี่ขาในครอบครัว
# ขจัดกลิ่นที่รุนแรงถึงต้นตอ ด้วยเทคโนโลยี Anti-Malodor
# จัดการกลิ่นปัสสาวะ อุจจาระ กลิ่นสาบ และกลิ่นอับในผ้าม็อปได้อย่างตรงจุด
# ขจัดคราบฝุ่น ขนสัตว์ รอยเปื้อน และคราบสกปรก ที่สะสมจากการเดิน วิ่ง กลิ้งของน้อง ๆ ได้หมดจด และมีประสิทธิภาพ
# ใช้สารทำความสะอาดที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ 100% อ่อนโยนต่อผิวสัมผัส
# ไม่มี SLS/SLES ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
# พื้นสะอาด แห้งไว ไม่เหนียว ไม่ลื่น ไม่ทิ้งคราบขาว เดินแล้วไม่ลื่น ขนน้องไม่จับฝุ่น
# แนวกลิ่นหอมสะอาด ละมุน เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง
“เอาอยู่” ทั้งเรื่องคราบและกลิ่นจากสัตว์เลี้ยง ต้อง โทมิ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นสำหรับสัตว์เลี้ยง กลิ่น โอเชี่ยน บรีซ ขนาด 550 มล. ราคา 65 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ Lotus’s, Tops, CJ More และร้านค้าทั่วไป รวมถึงช่องทางออนไลน์ Line Official Account: NEO Dealdd Shop

เซ็น กรุ๊ป เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เขย่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ย้ำภาพผู้นำ Japanese Dining ด้วยแนวคิด “EVERYDAY ZEN” เติมเต...
18/06/2025

เซ็น กรุ๊ป เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เขย่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ย้ำภาพผู้นำ Japanese Dining ด้วยแนวคิด “EVERYDAY ZEN” เติมเต็มประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นยุคใหม่ทุกมิติ
เซ็น กรุ๊ป เปิดแผนลุยครึ่งปีหลัง เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัว 2 แบรนด์น้องใหม่ “Cyu Roll & Sushi Bar” ซูชิสไตล์ใหม่ และ “Cyu Carnival Shabu & Yakiniku” ร้านชาบูและยากินิกุในรูปแบบ Individual Dining พร้อมปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ให้กับ “On the Table” ในรูปลักษณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบัน และเปิดตัว “Zen Flagship Store” ที่สะท้อนแนวคิดการรับประทานอาหารญี่ปุ่นยุคใหม่อย่างครบมิติ ตลอด 4 เดือนจากนี้ เซ็น กรุ๊ป มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Everyday Zen” ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ของลูกค้าในทุกวัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยเริ่มต้นทำงาน ซึ่งเป็นฐานผู้บริโภคสำคัญของตลาดในปัจจุบัน
นางสาวจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เซ็น กรุ๊ป มุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรักษามาตรฐานคุณภาพ ทั้งในด้านวัตถุดิบ การบริการ และบรรยากาศร้าน เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสัมผัสได้ถึงความใส่ใจและความคุ้มค่าในทุกมื้อ พร้อมกันนี้ เซ็น กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารในเครืออย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งพัฒนาแบรนด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับทั้งรสชาติ ประสบการณ์ และไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “Everyday Zen” ที่สะท้อนความสุขจากการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ผ่านมื้ออาหารคุณภาพที่เข้าถึงได้
เปิดแผนเขย่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นครึ่งปีหลัง
โดยครึ่งปีหลังนี้จะแนะนำแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์ “Cyu Roll & Sushi Bar” ร้านซูชิสไตล์ใหม่ใจกลางเมืองในเดือนมิถุนายนนี้ และเดือนกรกฎาคม จะเปิดตัวร้าน “Cyu Carnival Shabu & Yakiniku” ร้านชาบูและยากินิกุแบบ Individual Dining เข้ามาทำตลาดเสริมทัพ พร้อมปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ของร้าน On the Table ให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในเดือนสิงหาคม และ เดือนกันยายน จะนำเสนอร้านอาหาร Zen ในรูปแบบใหม่ “Zen Flagship Store” ที่จะกลับมาทวงคืนบัลลังก์อันดับ 1 แห่งการเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น premium mass ซึ่งแต่ละร้านถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนออาหารญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ และเติมเต็มทุกมิติของการรับประทานอาหารญี่ปุ่นในยุคใหม่ ทั้งรสชาติ ความเชี่ยวชาญ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อตอกย้ำคอนเซปต์ Everyday Zen และความเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น Japanese Dining ในประเทศไทยของเซ็น กรุ๊ป
“ด้านกลยุทธ์ เรามองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคในปัจจุบัน การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่น การขยายสู่รูปแบบแฟรนไชส์ หรือการต่อยอดแบรนด์ผ่านสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน เพื่อวางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก เซ็น กรุ๊ป เชื่อว่าความหลากหลายของกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น บวกกับคุณภาพที่สม่ำเสมอ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ เซ็น กรุ๊ป ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค และสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนแบบนี้”
ทั้งนี้ พร้อมปรับโฉมครั้งใหญ่ของร้าน On the Table และ Zen รูปแบบใหม่ครั้งนี้ เพราะเซ็น กรุ๊ป ยังเชื่อมั่นว่าอาหารญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท ยังเป็นหนึ่งในอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย รองจากอาหารไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทั้งคุณภาพ และประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหาร จุดแข็งสำคัญของเซ็น กรุ๊ป คือความเชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ประกอบกับระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่าอาหารทุกจานที่เสิร์ฟมีความสดใหม่ และรักษามาตรฐานคุณภาพในระดับสูงอยู่เสมอ
ดังนั้น การเปิดตัว “Zen Flagship Store” ไม่ใช่เพียงแค่การปรับโฉมแบรนด์ แต่คือก้าวสำคัญสู่การเป็นผู้นำในกลุ่ม Japanese Premium Mass อย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่นให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหาทั้งคุณภาพ รสชาติ และประสบการณ์ที่ครบถ้วนเช่นเดียวกับการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ “On the Table” ที่ยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งผสานความร่วมสมัย บรรยากาศ และเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นไว้อย่างลงตัว เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
เรามั่นใจว่า ด้วยคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน ความเชี่ยวชาญของทีมงาน และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จะส่งเสริมให้แบรนด์ของเราเติบโตอย่างมั่นคง และสามารถครองใจผู้บริโภคได้ในระยะยาวอย่างแน่นอน
“เซ็น กรุ๊ป” เร่งเจาะฐานคนรุ่นใหม่เต็มกำลัง!
นายศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของเซ็น กรุ๊ป คือการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะเราเล็งเห็นว่า คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่จำนวนและกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงานที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายในร้านอาหารญี่ปุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 300–600 บาทต่อครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงความเต็มใจในการจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่ดี ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” ที่ได้รับ ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติของอาหาร แต่ยังรวมถึงบรรยากาศ การตกแต่งร้าน และไลฟ์สไตล์ที่แบรนด์ถ่ายทอด ดังนั้น เซ็น กรุ๊ป จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาแบรนด์และร้านอาหารรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้ง ‘การกิน’ และ ‘การใช้ชีวิต’ ไปพร้อมกัน ผ่านเมนู การบริการ และภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
โชว์วิสัยทัศน์สุดจึ้ง!
สำหรับวิสัยทัศน์ และทิศทางการทำตลาดในครึ่งปีหลังของเซ็น กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารญี่ปุ่นและอาหารไทย ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา
“กลยุทธ์สำคัญของเซ็น กรุ๊ป คือการรักษาความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงกับลูกค้า (Connection & Relevancy) ผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง การออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และการนำเทคโนโลยีมาเสริมประสบการณ์ภายในร้าน เพื่อให้การรับประทานอาหารกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น เร็วๆ นี้ Zen เตรียมนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อยกระดับ
การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Engagement) ภายในร้าน เพิ่มความ Personalized และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีคุณค่า ภายใต้แคมเปญ ‘คิดถึงนะ’ ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Zen ในฐานะร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่เคียงข้างผู้บริโภคในทุกช่วงเวลา”
สำหรับแบรนด์ในกลุ่มอาหารญี่ปุ่น เรากำลังทยอยอัพเดตภาพลักษณ์ให้ตอบโจทย์ ทั้งกลุ่มลูกค้า mass และ premium mass อย่างชัดเจน เช่น การเปิดตัว “Zen Flagship Store” ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับแบรนด์ Zen ที่สะท้อนแนวคิด ‘Japanese Culinary Craftsmanship’ อย่างแท้จริง เป็นการยกระดับทั้งเรื่องวัตถุดิบ การบริการ และบรรยากาศร้าน โดยใช้เมนูที่ถ่ายทอดเทคนิคการปรุงอย่างละเมียดละไม พร้อมโชว์ครัวแบบ Sensei ให้ลูกค้าได้สัมผัสความพิถีพิถันจากเชฟมืออาชีพในทุกขั้นตอน ขณะที่แบรนด์น้องอย่าง On the Table ก็จะปรับโฉมครั้งใหญ่เช่นกัน ภายใต้แนวคิด "Global-inspired Japan story twisted" เพื่อรีเฟรชภาพลักษณ์ให้ทันสมัยและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยจะเปิดตัวร้านโฉมใหม่สาขาแรก ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมด้วยเมนูใหม่ๆ คอนเซปต์ใหม่ๆ และการตกแต่งร้านในบรรยากาศใหม่ๆ ทั้งหมด
ส่วน AKA ยังคงเดินหน้าสานต่อจุดแข็งในฐานะแบรนด์บุฟเฟต์ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีการเพิ่มความพิเศษในบางสาขา เช่น โปรโมชั่นสำหรับช่วงวันธรรมดา หรือช่วงเวลานอกพีคไทม์ เพื่อกระตุ้นการเข้าร้านในช่วงที่มีลูกค้าน้อย ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยดูแล ทั้งฐานลูกค้าและบริหารยอดขายได้อย่างสมดุล ซึ่งทั้งหมดนี้ คือการเดินหน้าอย่างมีกลยุทธ์ของเซ็น กรุ๊ป ในการรักษาความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมร้านอาหาร เพื่อผลักดันให้เซ็น กรุ๊ปบรรลุเป้าหมายการเติบโตในอนาคตเฉลี่ย 10% ต่อเนื่องในทุกๆ ปี
“เซ็น กรุ๊ป” จุดประกายการรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบ Japanese Casual Dining
นางสาวฐิตานันท์ ทวีผล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มแบรนด์พรีเมียม เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า แบรนด์ “Cyu Roll & Sushi Bar” เปิดตัวสาขาแรกอย่างเป็นทางการที่เซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ โดย เซ็น กรุ๊ป มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบ Japanese Casual Dining ที่ผสานความพรีเมียมเข้ากับความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว จุดเด่นของ “Cyu Roll & Sushi Bar” คือ Handroll – ศิลปะแห่งการเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Omakase สมัยใหม่ ซึ่งโดดเด่นทั้งในเรื่องความรวดเร็วและการเข้าถึงง่าย ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับคอร์สพรีเมียมในเวลาเพียง 40 นาที ในราคาเริ่มต้นเพียง 590+ บาท สำหรับ 4 คอร์ส โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น
แบรนด์ “Cyu Roll & Sushi Bar” ตั้งเป้าเป็นคำตอบของคนเมืองที่มองหาอาหารญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียม รวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่ายในทุกจังหวะของชีวิต ด้วยทำเลใจกลางเมืองอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม Cyu Roll & Sushi Bar จึงมุ่งเน้นการสร้าง Lifestyle Dining Experience ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น
- พนักงานออฟฟิศที่มองหามื้อกลางวันคุณภาพในเวลาจำกัด
- คุณแม่ยุคใหม่ที่แวะพักหลังส่งลูกหรือติดธุระในห้าง
- หรือผู้ที่อยากแวะมาทานคนเดียวแบบสบายๆหรือรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนในบรรยากาศเป็นกันเอง
สำหรับแผนการเติบโตในปี 2568 แบรนด์จะเน้นกลยุทธ์ Exclusivity Expansion หรือการขยายสาขาแบบเจาะจงและรอบคอบ เพื่อรักษาคุณภาพและประสบการณ์ของ Omakase Handroll ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีแผนขยายไม่เกิน 5 สาขาทั่วประเทศ เพื่อคงความพิเศษของแบรนด์ไว้ในระยะยาว
“แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการวางรากฐานที่มั่นคงในสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นสาขา Flagship แรกก่อน โดยเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ ควบคู่กับการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ และความเสถียรของระบบปฏิบัติการ (Operation) ให้ได้มาตรฐานสูงสุด ก่อนจะเดินหน้าสู่การขยายสาขาเพิ่มในระยะต่อไปอย่างมั่นใจ”
สำหรับร้าน “Cyu Carnival Shabu & Yakiniku” ที่วางแผนว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นร้านชาบูและยากินิกุที่จะมอบประสบการณ์การรับประทา อาหารในรูปแบบ Individual Dining (ทานอาหารคนเดียว) ให้กับลูกค้า โดยจะเปิดให้บริการ 2 สาขา ที่ Eight Thonglor และ EmQuartier ชั้น 7 ซึ่งการเปิดสาขาจะเน้นในทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเมืองเป็นหลัก เพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ชื่นชอบการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว คุณภาพสูง และสะท้อนความเป็นตัวเอง ซึ่งร้านจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สามารถนั่งรับประทานคนเดียวได้อย่างไม่เคอะเขิน ทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศร่วมสมัย ที่เอื้อต่อการรับประทานอาหารคนเดียวอย่างผ่อนคลายและสบายใจด้วย
ตอกย้ำความเชี่ยวชาญเรื่องอาหารกว่า 34 ปีของ “เซ็น กรุ๊ป”
ขณะที่นางสาวลินดา เจตะสานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า สำหรับเดือนสิงหาคม ที่จะปรับโฉมใหม่ของร้าน On the Table ในรูปแบบใหม่นั้นจะนำร่องปรับที่สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก่อน จากนั้นจะทยอยปรับในสาขาอื่นๆ ที่มีอยู่ประมาณ 36 สาขาทั่วประเทศไปเรื่อยๆ ซึ่งปลายปี 2568 น่าจะได้เห็นสาขา “On the Table” โฉมใหม่ประมาณ 2-3 สาขา การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ เพราะอยากให้ร้านมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตรงกับ Strategy ของแบรนด์มากที่สุด
ส่วนร้าน Zen ที่คาดว่าจะปรับโฉมใหม่เป็น “Zen Flagship Store” ในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสบการณ์การเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น premium mass ที่ยกระดับทั้งเรื่องราวของวัตถุดิบ บรรยากาศ และการบริการ ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีนั้น Zen ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์แรกๆ ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการในศูนย์การค้า ด้วยความที่เราเริ่มดำเนินธุรกิจมายาวนาน เรามีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่เสมอ ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา Zen เริ่มต้นด้วยโมเดล a la carte ที่เน้นวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม ทั้งที่นำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบท้องถิ่นที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ต่อมาในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ให้ความสำคัญกับ ‘ความคุ้มค่า’ มากขึ้น เซ็น กรุ๊ป จึงพัฒนาโมเดลใหม่ให้หลากหลายยิ่งขึ้น ปัจจุบัน Zen มีทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ
1. A la carte
2. Buffet
3. Hybrid (มีทั้ง A la carte และ Buffet ในร้านเดียว)
ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ปีนี้เราต้องการกลับมาตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Zen ในฐานะร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพ ด้วยการเปิดตัว “Zen Flagship Store” ที่ยกระดับทั้งวัตถุดิบ การบริการ และบรรยากาศ ด้วยแนวคิด "Japanese Culinary Craftsmanship" ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีของ Zen ผ่านเมนูที่ละเมียดละไม และพื้นที่โชว์ครัวแบบ Sensei โดยเชฟระดับมืออาชีพ ภายในสิ้นปี 2568 นี้ น่าจะได้เห็นโฉมใหม่ “Zen Flagship Store” อีก 2–3 สาขา และในระยะยาวมีแผนปรับโฉมใหม่ในสาขาหลักอื่นๆ ที่มีศักยภาพเป็นรูปแบบ “Zen Flagship Store” ด้วย
“เป้าหมายของการเริ่มทำ Flagship Store ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องยอดขาย แต่คือการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า Zen, การดึงดูดลูกค้าเก่าที่ห่างหายไปให้กลับมา และต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหา Japanese dining experience ที่ครบครันทั้งรสชาติและบรรยากาศ ซึ่งเราเชื่อว่าการยกระดับประสบการณ์ในร้านอาหาร จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Zen ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคในตลาดอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมแมสได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง” นางสาวลินดา กล่าวทิ้งท้าย

ช้อป ชม แชร์! ดีไซน์เพื่อโลก...ที่คุณสัมผัสได้จริง ในงาน "OPEN HOUSE x QUALY: DESIGN FOR A SUSTAINABLE WORLD" ตลอดเดือนม...
14/06/2025

ช้อป ชม แชร์! ดีไซน์เพื่อโลก...ที่คุณสัมผัสได้จริง ในงาน "OPEN HOUSE x QUALY: DESIGN FOR A SUSTAINABLE WORLD" ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ที่ OPEN HOUSE ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
บรรยากาศแห่งแรงบันดาลใจเต็มพื้นที่! เมื่อดีไซน์ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่คือคำตอบของอนาคต... ในเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง "วันสิ่งแวดล้อมโลก" (World Environment Day) นี้ OPEN HOUSE Co-living Space ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ QUALY แบรนด์ไทยหัวใจสีเขียว ผู้นำด้านการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันเนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นศูนย์รวมไอเดียรักษ์โลกอีกครั้ง ในงาน "OPEN HOUSE x QUALY: DESIGN FOR A STAINABLE WORLD" งานนี้ไม่เพียงชวนให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติ แต่ยังพาไปสัมผัสพลังของดีไซน์ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้ "ดีต่อโลก" ได้จริง ภายใต้แนวคิด ‘TODAY’S DESIGNS, TOMORROW’S SUSTAINABLE LEGACY’ ที่ตั้งใจจุดประกายแรงบันดาลใจและชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยงานจะจัดไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 นี้
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่งาน บรรยากาศการช้อปเพื่อโลกก็ดึงดูดสายตาเหล่านักช้อปหัวใจสีเขียวทันทีที่โซนไฮไลต์อย่าง DESIGN MARKET ผู้เข้าชมต่างเพลิดเพลินกับการเลือกชมและช้อปผลงานดีไซน์สายกรีนที่จับต้องได้จาก “Qualy & Friends” พบกับ pop-up market ที่ยกขบวนสินค้าไลฟ์สไตล์ ของใช้ในบ้าน และงานคราฟ์สุดสร้างสรรค์จาก 22 แบรนด์ นำโดย QUALY, TAXIDERMY, SAME THANG, SEA WEE และอีกมากมายที่ร่วมกันเปลี่ยนมุมมอง “ของใช้ประจำวัน” ให้กลายเป็น “ของใช้เพื่อโลก” ที่สะท้อนทั้งความสวยงามและคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมในหนึ่งเดียว
ถัดมาที่โซน EXHIBITION นิทรรศการบนพื้นที่เปิดโล่งแห่งนี้ ดึงดูดสายตาผู้เข้าชมอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลงานศิลปะและการออกแบบที่พลิก “วัสดุเหลือใช้” ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวทรงพลัง ทั้งในมุมของสิ่งแวดล้อม ชุมชน และจิตสำนึก สู่แรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น DESIGN FOR A SUSTAINABLE WORLD BY QUALY AND FRIENDS นิทรรศการนี้ชวนผู้ชมตั้งคำถามใหม่กับสิ่งของรอบตัว ด้วยผลงานดีไซน์ที่เปลี่ยนสิ่งของธรรมดาให้กลายเป็นงานศิลปะทรงพลัง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ว่าดีไซน์จะช่วยขับเคลื่อนโลกให้ยั่งยืนได้อย่างไร, ART TOY AUCTION: FUNDRAISING FOR OUR OCEAN การจัดแสดงและร่วมประมูลประติมากรรมวาฬ 30 ชิ้น
ที่สร้างสรรค์จากพลาสติกรีไซเคิล และเพ้นท์โดย 18 ศิลปินร่วมสมัยผู้มากฝีมือและหลากหลายสไตล์ ซึ่งหลายท่านมีแนวคิดในการสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อการอนุรักษ์และใส่ใจชุมชน สำหรับบรรยากาศวันประมูล เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยพลังแห่งการให้ สร้างความคึกคักให้กับพื้นที่ตลอดการดำเนินงาน รายได้ทั้งหมดจากการประมูลจะนำไปสนับสนุน 8 โครงการ ของเครือข่าย 30x30 Thailand Coalition เพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล
และยังมี PHRA SATI: ART FROM OVERLOOKED OBJECTS BY QUALY x THAMMASAT ชวนตื่นตาไปกับไอเดียสุดล้ำของ "พระสติ" จากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่นำพระเครื่องพลาสติกรีไซเคิล
มาต่อยอดเป็นเครื่องประดับที่สวมใส่ได้จริง แต่ละชิ้นล้วนสะท้อนความคิดสร้างสรรค์อันน่าทึ่ง ซึ่งเป็นการแสดงพลังของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่นำแนวคิด "สติ" มาผสานเข้ากับการออกแบบได้อย่างร่วมสมัย แฝงนัยยะของการใช้ทรัพยากรบนโลกอย่างเข้าใจและรู้คุณค่า ซึ่งผู้ชมต่างให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อด้วยอีกหนึ่งมุมที่อบอุ่นหัวใจ QUALY x SOIDOG CHARITY ช้อปคอลเลกชันสัตว์เลี้ยงน่ารักจาก QUALY โดยรายได้ จะนำไปช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวกับมูลนิธิ SoiDog ที่มีผู้คนแวะเวียนมาเลือกซื้อสินค้า พร้อมมอบความรักให้เพื่อนสี่ขาอย่างต่อเนื่อง สร้างความสุขเล็ก ๆ ให้กับทั้งคนและสัตว์
นอกจากนี้ CENTRAL THAM DEE PLANT TOGETHER ร่วมปลูกป่าเชิงสัญลักษณ์ ที่เปิดโอกาสให้ร่วมบริจาคต้นไม้ ณ จุดบริจาค “ปลูกด้วยกัน” (Plant Together) เพื่อฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศทั่วประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้เห็นความร่วมมือจากผู้คนหลากหลายที่มาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา ด้วยรอยยิ้มและความตั้งใจ
ขยับมาที่เวที OPEN TALK พื้นที่แห่งบทสนทนาเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่านี้ เต็มไปด้วยพลังของเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อวันที่ 8 และ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดทอล์กสุดพิเศษ! OPEN TALK: ART & DESIGN FOR A SUSTAINABLE WORLD” เจาะลึกเบื้องหลังโปรเจกต์ Auction4Ocean ร่วมกับตัวแทนจาก 8 โครงการอนุรักษ์ทะเล และศิลปินที่มาแชร์มุมมองในหัวข้อ "Creating Art for Conservation" พร้อมกิจกรรม Live Painting "Art Bomb" โดยศิลปินได้โชว์ฝีมือเพ้นท์สดบนผืนผ้าใบ เพื่อให้ศิลปินท่านอื่น ๆ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานต่อยอดกันแบบสด ๆ กลางงาน สร้างความตื่นตาตื่นใจและจุดประกายไอเดียให้กับผู้ร่วมฟัง และ OPEN TALK: CONCEPT BEHIND ART TOY FOR OUR OCEAN เฉลิมฉลองท้องทะเลผ่านศิลปะและการพูดคุย พบกับ 18 ศิลปิน
ที่มาร่วมแชร์แนวคิดเบื้องหลังผลงานประติมากรรมวาฬทั้ง 30 ชิ้น พร้อมสานต่อการสร้างสรรค์ผลงาน “Art Bomb” บนผืนผ้าใบ อีกทั้งชวนร่วมกิจกรรม SOS OCEAN Workshop แต้มสีสันวาฬบรูด้าและเต่าทะเลจาก QUALY ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมอย่างมาก
และตลอดเดือน มิ.ย. นี้ OPEN WORKSHOP เวิร์กช็อปสนุกสายกรีน กลายเป็นจุดรวมพลังคนรุ่นใหม่ที่อยากเรียนรู้และลงมือสร้างสรรค์สิ่งเล็ก ๆ เพื่อโลก ไม่ว่าจะเป็น ECO-KEYCHAIN WORKSHOP by MIRREN.CRAB ชวนสร้างสรรค์พวงกุญแจน่ารักจากวัสดุเหลือใช้ ราคา 199 บาท, LUCKY SCRUNCHIE WORKSHOP by HOROSCARF ออกแบบยางรัดผม Lucky Scrunchie ในสไตล์คุณ ด้วยผ้าคัทติ้งเหลือใช้ พร้อมเลือกสีมงคลและความหมายดี ๆ ติดตัวกลับบ้าน ราคา 190 บาท นอกจากนี้ ในวันที่ 7-8 และ 14-15 มิ.ย. 68 ยังมี GREEN BOARD GAMES WORKSHOP by KONGGREENGREEN ให้ได้ร่วมสนุกกับบอร์ดเกมแนวสิ่งแวดล้อมที่ทั้งให้ความรู้และความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น Waste War, Reef Rescue, Endangered, Ecosystem Coral Reef, Climate Fresk และ Power Jungle ราคาเริ่มต้น 99 บาท กิจกรรมเหล่านี้ได้สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
.
งานนี้ไม่ได้แค่ดีต่อใจเท่านั้น! ที่ OPEN HOUSE ยังได้มอบสิทธิพิเศษเพื่อคนรักษ์โลก มารับส่วนลดจากร้านอาหารและคาเฟ่ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย. 68 เพียงคุณนำแก้วมาเอง หรือนำขวดรีไซเคิลมา ก็รับส่วนลด หรือแลกรับโซดาฟรี! อาทิ BROCCOLI REVOLUTION ลด 10 บาท, MUTEKI BY MUGENDAI ลด 5 บาท, HONEYFUL CAFÉ ลด 15 บาท, THE HUNGRY DUCK แลกรับ โฮมเมดโซดา 1 แก้ว ฟรี! (เมื่อนำขวดรีไซเคิลมา), VE/LA ลด 5 บาท (นำแก้วมาเอง) หรือลด 10 บาท (ใช้ภาชนะของ VE/LA) เรียกได้ว่าเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันให้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ และเป็นทางเลือกที่ผู้ร่วมงานต่างให้ความสนใจ
อย่าพลาดโอกาส! ยังเหลือเวลาให้ทุกคนมาร่วมสัมผัสดีไซน์ที่ไม่ได้แค่ “ดูดี” แต่ “ดีต่อโลก” เพื่อก้าวสู่วันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า ไปพร้อมกันในงาน "OPEN HOUSE x QUALY: DESIGN FOR A STAINABLE WORLD" ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 68 ณ OPEN HOUSE ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ เพื่อโลกของเราไปด้วยกัน!
ติดตามรายละเอียดกิจกรรม และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
เว็บไซต์: www.centralembassy.com
Facebook: OPEN HOUSE at Central Embassy
Instagram: Openhouse.CE

MK โชว์ยอดพุ่ง ปล่อยโปรเพียง 4 วัน ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 49%MK GROUP ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตัดสินใจปล่อยหมากตัวแร...
14/06/2025

MK โชว์ยอดพุ่ง ปล่อยโปรเพียง 4 วัน ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 49%
MK GROUP ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตัดสินใจปล่อยหมากตัวแรก ด้วยแบรนด์ MK Restaurants กับโปรโมชั่นคุ้มคุ้ม 299 บาท อิ่มไม่อั้น 19 เมนู สะเทือนสงครามตลาดสุกี้ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสุกี้คุณภาพดีที่เข้าถึงง่ายด้วยสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเลือกใช้กลยุทธ์เชิงรุกทดสอบตลาดกับโปรโมชั่นนี้และเลือกทดลองที่สาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำคือ Big C และ Lotus เป็นหลัก
จากผลตอบรับของลูกค้าอย่างล้นหลาม ชูให้ยอดขายรวมพุ่งสูงขึ้นกว่า 49% เพียง 4 วัน โดยเฉพาะยอดขายเฉพาะสาขาที่มีโปรโมชั่นนี้สูงขึ้นกว่า 98% เชื่อคุณภาพ ความสะอาด มาตรฐานการให้บริการระดับ MK Restaurants ยังคงเป็นที่รักของผู้บริโภค แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งได้อย่างชัดเจน ส่งผลต่ออนาคตที่เตรียมจะขยายผลในรูปแบบบุฟเฟต์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม มั่นใจว่าทาง MK GROUP เป็นธุรกิจที่มีความพร้อมในทุกด้าน หากจะมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องในอนาคตเช่นกัน

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Phoenix Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Phoenix News:

แชร์