Anansap Service

  • Home
  • Anansap Service

Anansap Service สินเชื่ออันดับ 1 ที่คนไทยไว้ใจที่สุด
ยินดีให้บริการ สินเชื่อฉุกเฉิน
-ติดแบล็คลิสต์ บูโร ก็กู้ได้
-เอกสารไม่ยุ่งยาก
082-198-9659 กันต์

03/07/2025

สินค้า SME ไทย 100 ล้าน ที่วางขายใน 7-Eleven

#ลงทุนแมน

03/02/2025

เปิด 10 บริษัท โกย ‘กำไร’ มากสุดในโลก ปี 2024
ทั้งปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในรายชื่อ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 0.1% จากปีก่อนหน้า โดยมียอดรายได้รวมทำลายสถิติที่ 41 ล้านล้าน ซึ่งรายได้ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี มากกว่า GDP ของประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและเยอรมนี
ส่วนบริษัทที่ทำกำไรมากที่สุดในโลกเป็นของ “ซาอุดีอารามโก” (Saudi Aramco) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาราเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน อยู่ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์
อ่าน: https://www.bangkokbiznews.com/world/1164455?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจInfo #กรุงเทพธุรกิจBusiness

13/11/2024

🔥หุ้นปิดเช้าลบ 6.61 จุด บาทอ่อนเร็วกดดันเงินไหลออก
ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,449.86 จุด ลดลง 6.61 จุด เงินบาทอ่อนค่าเร็วกดดันให้เงินไหลออกทั้งตราสารหนี้ และหุ้น แนวโน้มภาคบ่ายมีโอกาสลดช่วงลบจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ แนวรับ 1,445 แนวต้าน 1,457 จุด
อ่านต่อ https://hoonsmart.com/archives/329333
#หุ้นสมาร์ท

10/09/2024

ทำไม คนเดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ มีความรู้การเงินดี อันดับต้น ๆ ของโลก /โดย ลงทุนแมน
“เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์” รวมกันเรียกว่า กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย มักได้รับการยกย่องให้เป็น ประเทศที่คนมีความรู้ทางการเงินดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

โดย GOBankingRates ได้ให้ 3 ประเทศนี้ ครองอันดับ 1 ร่วมกัน ในการเป็นประเทศที่อัตราส่วนของประชากรมีความรู้ทางการเงิน มากที่สุดในโลก (71%)

และจากการสำรวจของ Standard & Poor's เผยว่า เดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ มีประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 7 ใน 10 สามารถตอบคำถามพื้นฐานทางการเงินได้ถูกต้อง

โดยตอบถูกเกินกว่า 75% ที่เกี่ยวกับเรื่อง อัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยทบต้น เงินเฟ้อ และการกระจายความเสี่ยง

ทำไม คนใน 3 ประเทศสแกนดิเนเวีย ถึงมีความรู้เรื่องการเงินดี ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
การมีความรู้ทางการเงินเพียงพอ นำไปสู่การจัดการและการตัดสินใจทางการเงินที่เหมาะสม ถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงิน ภาพรวมของสังคม และเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคลได้ดี ก็จะส่งเสริมต่อคุณภาพชีวิตที่ดี และส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ

กลับกัน การขาดความรู้ทางการเงิน อาจนำไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาด จนทำให้หนี้สินล้นพ้นตัว หรือหนักถึงขั้นล้มละลาย

ซึ่งก็กระทบต่อความเครียดและสภาพจิตใจ อันจะนำไปสู่ปัญหาครอบครัวและสังคมได้

แน่นอนว่า ความรู้ทางการเงิน อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนมีเท่าเทียมกัน ด้วยหลายเหตุปัจจัย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เราสามารถเรียนรู้ และยกระดับความรู้ให้เพิ่มขึ้นได้

ทีนี้ ลองมาดูกรณีตัวอย่างของ 3 ประเทศนี้ ที่ขึ้นชื่อว่า คนมีความรู้ทางการเงินดี เป็นอันดับ 1 ของโลกกัน

อย่างแรกเลย ทั้ง 3 ประเทศนี้มี “ระบบการศึกษา ที่เอื้อต่อการสร้างความรู้ทางการเงิน”

โดยมีการสอนเกี่ยวกับการเงินและการบริหารเงินส่วนบุคคล ที่ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษา

อย่างในระดับชั้นประถมศึกษา ก็มีการสอนให้เด็กเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการรายรับ รายจ่าย การออม และการลงทุน ควบคู่ไปกับการสอนเรื่องคณิตศาสตร์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา

พอมาในระดับมัธยมศึกษา ก็มีสอนเกี่ยวกับการลงทุน ที่ลงรายละเอียดมากขึ้น รวมถึงเรื่องการประกันภัย การกู้เงิน และการวางแผนการเงิน

โดยมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง
เช่น การวางแผนการเงินส่วนบุคคล การทำรายรับรายจ่ายของครอบครัว และการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ..

ทั้งนี้ การสอนจะถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของเด็ก เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีและสื่อการสอนที่ทันสมัย เพื่อช่วยดึงดูดความสนใจ เกิดการเรียนรู้ที่สนุก และช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

ซึ่งจากการประเมินความรู้ทางการเงินของ PISA ในปี 2018 ในกลุ่มเด็กวัย 15 ปี โดยประเทศเหล่านี้มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ย เลยทีเดียว

มากกว่านั้น ยังมีการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับการจัดอบรมและให้ความรู้ด้านการเงินแก่วัยผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้ประชากรทุกวัย ได้มีโอกาสพัฒนาความรู้ทางการเงิน อีกด้วย

และสิ่งที่ตามมาก็คือเกิดเป็น “พฤติกรรมในการออมและการวางแผนการเงิน”

โดยเฉพาะการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ การบริโภคอย่างมีสติ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ที่ฝังรากลึกลงไปในความคิดของคนในประเทศ

และฝั่งของรัฐบาลเอง ยังมีการสนับสนุนระบบสวัสดิการสังคมที่ครอบคลุม เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและการศึกษา ทำให้ประชาชนมีเงินเหลือเก็บออมมากขึ้น

อีกทั้งมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้ที่ออมเงิน มีการส่งเสริมการออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงตลาดทุน และมีส่วนร่วมในการลงทุน

เพื่อช่วยจูงใจให้คนมีการออม และวางแผนการเงินมากขึ้น

โดยผลสำรวจจากธนาคารกลางยุโรปในปี 2019 เผยไว้ว่า คนในประเทศเดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ มีทัศนคติที่ดีต่อการออมหรือเก็บออมอย่างสูง

อย่างในประเทศเดนมาร์ก ประชากรถึง 84% มีการออมเงินเป็นประจำ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป 63%

ต่อมาเป็นเรื่องของ “นวัตกรรมทางการเงินที่ดี”

โดยประเทศเหล่านี้ มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ช่วยสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ที่ทันสมัยและเข้าใจง่าย

จากข้อมูลของ Deloitte เผยว่า ประเทศนอร์ดิก
(เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน) เป็นที่ตั้งของบริษัท Fintech ที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก

โดยมีผู้ให้บริการที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ใช้งานง่าย ทั้งการให้บริการทางการเงินแบบออนไลน์ แพลตฟอร์มการลงทุน แอปพลิเคชันจัดทำงบประมาณ รายรับรายจ่าย

บวกกับการส่งเสริมของรัฐบาล ที่ช่วยให้ประชาชน สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง โดยมีต้นทุนที่ไม่สูงจนเกินไป

ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงิน โดยมีกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากผู้ให้บริการอีกด้วย..

เป็นอีกแรงส่งสำคัญ ทำให้ประชาชนของประเทศสแกนดิเนเวีย มีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนการจัดการทางการเงินอย่างปลอดภัย ซึ่งช่วยให้เปิดใจ และเสริมสร้างความรู้ด้านทักษะทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น

ถึงตรงนี้ ก็พอสรุปได้ว่า ความรู้ทางการเงินที่สูงของคนในประเทศเดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

แต่เป็นวิสัยทัศน์ของประเทศ ที่วางรากฐานความรู้ทางการเงินให้คนในประเทศ ตั้งแต่ในระบบการศึกษา ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี และนำไปใช้ในชีวิตจริงได้

ตลอดจนการสนับสนุนของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ เกิดเป็นพฤติกรรมการออมและการวางแผนการเงินที่แข็งแกร่ง

รวมไปถึงนวัตกรรมทางการเงินที่ดี ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็ง ที่ช่วยเสริมทักษะทางการเงินของคนในประเทศให้ดียิ่งขึ้น

และผลลัพธ์ที่ได้คือ ทำให้คนเดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ มีความรู้เรื่องการเงินดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นั่นเอง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://medium.com/.hutabarat/what-we-can-learn-from-the-most-financially-literate-countries-60a2e13f1e40
-https://finance.yahoo.com/news/financial-literacy-around-world-top-120017481.html
-Standard & Poor's : Financial Literacy Around the World 2014

08/05/2024

ไทยนำเข้า สินค้าเกษตร อะไรบ้าง จากประเทศเพื่อนบ้าน
- แพลตฟอร์ม Blockdit Invest แอปโซเชียลแรก ที่ผู้ใช้สามารถให้ความเห็นต่อ หุ้นรายตัว ทั้งหุ้นไทย หุ้นอเมริกา ลองใช้ได้ที่ Blockdit.com/download เลือกแถบเมนู Invest

21/08/2023

4 ปีผ่านไป กลุ่มหุ้นใหญ่สุด 50 ตัวแรกในตลาดหุ้นไทย เปลี่ยนไปขนาดไหน ?
- แพลตฟอร์ม Blockdit Invest แอปโซเชียลแรก ที่ผู้ใช้สามารถให้ความเห็นต่อ หุ้นรายตัว ทั้งหุ้นไทย หุ้นอเมริกา ลองใช้ได้ที่ Blockdit.com/download เลือกแถบเมนู Invest

24/05/2023

ทำไม ราคาน้ำมันแต่ละปั๊ม ไม่เท่ากัน /โดย ลงทุนแมน
หลายคนคงเคยสังเกตว่า เวลาที่เราขับรถผ่านปั๊มน้ำมัน
ทั้ง ๆ ที่มีแบรนด์เดียวกัน แต่อยู่คนละพื้นที่ หรือแม้แต่ปั๊มคนละแบรนด์นั้น ทำไมถึงมีราคาน้ำมันไม่เท่ากัน

เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 น้ำมันดีเซล B7 มีราคา 31.94 บาทต่อลิตร

โดยโครงสร้างราคาน้ำมัน สามารถแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่

- ต้นทุนราคาน้ำมันจากหน้าโรงกลั่น 19.90 บาท
- ภาษีและเงินส่งกองทุนต่าง ๆ 9.83 บาท
- ค่าการตลาด 2.21 บาท

ซึ่งสาเหตุที่ราคาน้ำมันแต่ละปั๊มไม่เท่ากัน เกิดจากหลายปัจจัย เริ่มตั้งแต่

- ค่าใช้จ่าย ของแต่ละปั๊มน้ำมัน

โดยกำไรของธุรกิจปั๊มน้ำมัน จะมาจาก ค่าการตลาด เป็นหลัก

สำหรับค่าการตลาด ก็คือส่วนต่างระหว่างต้นทุนน้ำมันที่ซื้อจากโรงกลั่น ภาษี และเงินส่งเข้ากองทุนต่าง ๆ กับราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปที่ปั๊ม

และก็ต้องนำไปหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าขนส่ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน ค่าเช่าที่ เป็นต้น

ค่าการตลาดที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เผยแพร่นั้น เป็นค่าการตลาดที่คำนวณเพื่อใช้อ้างอิงในการติดตามดูแลกรอบค่าการตลาดเท่านั้น

โดยแต่ละปั๊มสามารถปรับเปลี่ยนราคาขายปลีก เพื่อสะท้อนต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในปั๊มของตนเองได้

แต่ปั๊มเอง ก็ไม่สามารถตั้งราคาได้ตามอำเภอใจ เพราะหากตั้งราคาขายสูงเกินไป ลูกค้าก็อาจหันไปใช้บริการปั๊มอื่นได้

- คุณสมบัติน้ำมันแตกต่างกัน

แม้ว่าส่วนใหญ่ น้ำมันดิบที่ประเทศไทยนำเข้า จะมาจากแหล่งตะวันออกกลาง น้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นออกมานั้น จึงมักมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน

แต่น้ำมันสำเร็จรูปของปั๊มแต่ละแบรนด์ ก็มีการปรับปรุงคุณภาพด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป เช่น การเติมสารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ ส่งผลให้ราคาขายปลีกของปั๊มแต่ละแบรนด์นั้น มีราคาแตกต่างกันได้

- พื้นที่ตั้งปั๊มน้ำมัน

หลายคนคงเคยเห็นว่า ปั๊มตามชนบทในพื้นที่ห่างไกล มักจะมีราคาขายปลีกสูงกว่าปั๊มที่ตั้งอยู่ในเมือง

เนื่องจาก ปั๊มตามชนบทในพื้นที่ห่างไกล มักจะมียอดขายและลูกค้าน้อยกว่าปั๊มในเมือง และมีต้นทุนการขนส่งสูงกว่า

ในขณะที่ ต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่าง ค่าพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

ส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มตามชนบทในพื้นที่ห่างไกล จึงมีราคาขายปลีกแพงกว่าปั๊มน้ำมันในเมือง ก็เป็นไปได้เหมือนกัน

อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะพอเข้าใจแล้วว่า ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม แม้จะเป็นแบรนด์เดียวกัน แต่อยู่คนละพื้นที่ หรือแม้แต่ปั๊มคนละแบรนด์นั้น ก็อาจมีราคาไม่เท่ากันก็ได้..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.eppo.go.th/https://www.eppo.go.th/index.php/th/eppo-intranet/item/11451-faq3index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price
-https://www.eppo.go.th/index.php/th/eppo-intranet/item/11451-faq3
-https://www.facebook.com/PTTNews/posts/598408
-https://www.energynewscenter.com/enc-literacy
-https://www.shell.co.th/th_th/motorists/shell-fuels/fuel-price/faq.html

14/02/2023

คนไม่ซื้อหุ้นเวียดนาม เพราะ ฝากเงินแบงก์ ก็ได้แล้ว 7% /โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราฝากเงินในเวียดนามเราจะได้ดอกเบี้ย 7% และด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขนาดนี้ ทำให้คนเวียดนามเลือกที่จะฝากเงิน แทนที่จะลงทุนในตลาดหุ้น

ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในรอบ 25 ปี แต่ถ้าคิดว่าตลาดหุ้นต้องเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจ บางทีมันอาจจะไม่ใช่กับประเทศเวียดนามที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง

ในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามกลับปรับตัวลดลงถึง 30% และมีการประเมินกันว่า ราคาหุ้นหารกำไรต่อหุ้นคาดการณ์ หรือ Forward P/E ของตลาดในปี 2023 จะอยู่ที่เพียง 9.7 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน

เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นเวียดนาม ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ประเทศเวียดนาม มีการเติบโตของ GDP สูงถึง 8% ซึ่งในปี 2022 มีการเติบโตสูงสุดในรอบ 25 ปี และ IMF ยังคาดการณ์อีกว่า ในปีหน้าจะเติบโตสูงถึง 6.2% ซึ่งสูงที่สุดในประเทศอาเซียน

แต่ผลตอบแทนในตลาดหุ้นเวียดนาม กลับลดลงถึงเกือบ 30% ในปีที่ผ่านมา

ซึ่งมีหลายเหตุผล ที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามถูกเทขายอย่างหนักในปีก่อน

เรื่องแรกคือ การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในประเทศอย่างรวดเร็วจนช็อกตลาด โดยขึ้นจาก 4% เป็น 6% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน

ทำให้เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในประเทศเวียดนามในปี 2022 สูงถึง 7.4%

ซึ่งในมุมของนักลงทุนแล้ว การนำเงินไปฝากธนาคาร หรือซื้อพันธบัตรรัฐบาล แล้วได้ดอกเบี้ย 6-7% ต่อปี ซึ่งมีความผันผวนที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้น

บวกกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยที่คาดว่าจะยาวนาน ก็ยิ่งดึงดูดให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นมากขึ้น

และเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย ก็ผลักให้หุ้นกู้ของบริษัทเอกชน มีดอกเบี้ยเฉลี่ยสูงถึง 16% ซึ่งก็มากพอที่จะจูงใจให้นักลงทุนไม่ซื้อหุ้นในตลาดเวียดนาม แต่หันมาซื้อหุ้นกู้แทน

อีกปัจจัยหนึ่ง ที่กัดกินการเติบโตของประเทศเวียดนามมาอย่างยาวนานก็คือ ปัญหาการทุจริตในตลาดทุนของเวียดนาม

แม้แต่ธนาคาร Saigon Commercial Bank (SCB) ที่เป็น 1 ใน 5 ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และเป็นเบอร์ 1 ในแง่มูลค่าสินทรัพย์ ก็มีข่าวว่าหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงการออก-ซื้อขายหุ้นกู้ ซึ่งข่าวนี้ทำให้นักลงทุนในตลาดกังวล และเริ่มเทขายหุ้นออกมา

ปัจจัยสุดท้ายที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นเวียดนามอย่างหนัก เกิดจาก การเพิ่มขึ้นอย่างมากของบัญชีนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาใหม่ในตลาด

โดยมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาในตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นถึง 70% ภายในระยะเวลา 12 เดือน

ซึ่งส่วนใหญ่เปิดบัญชีซื้อขายแบบ Margin หรือการกู้ยืม เพื่อมาลงทุน ทำให้ตลาดมีลักษณะของการเก็งกำไร มากกว่าการลงทุนตามมูลค่าพื้นฐานของกิจการ

ซึ่งการใช้ Margin จะส่งผลกระทบในแง่ลบ ในช่วงที่ตลาดหุ้นลดลงอย่างมาก

เพราะในช่วงที่ตลาดลงหนัก ถ้าราคาของหุ้นที่ถือลดลงมา ต่ำกว่าที่โบรกเกอร์ หรือคนให้กู้ยืมกำหนด หากนักลงทุนไม่เติมเงินเข้าไปในพอร์ต หุ้นที่ถืออยู่ก็จะโดนบังคับขายออกไป หรือเรียกว่า Forced Sell

และเมื่อตลาดเริ่มปรับตัวลง การโดน Forced Sell ของนักลงทุนรายย่อย ก็เหมือนเป็นตัวเร่งให้ตลาดตกลงแรงและเร็ว

ซึ่งผลสุดท้ายคือ ตลาดหุ้นเวียดนามลดลงมาถึง 30% ในปีที่แล้ว

ซึ่งถ้าเรามาดู Forward P/E ในปี 2023 ของตลาดหุ้นในอาเซียนอย่าง

- อินโดนีเซีย เท่ากับ 13.9 เท่า
- มาเลเซีย เท่ากับ 13.0 เท่า
- ฟิลิปปินส์ เท่ากับ 11.3 เท่า
- ไทย เท่ากับ 14.9 เท่า

ในขณะที่ ประเทศเวียดนามอยู่เพียงแค่ 9.7 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอาเซียน

สิ่งที่ตัวเลขนี้บอกเราก็คือ หุ้นในตลาดเวียดนาม มีมูลค่าที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

แต่ในขณะเดียวกัน ราคานี้ก็ได้สะท้อนถึง อัตราดอกเบี้ยที่สูงในประเทศ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ตลาดหุ้นมีเสน่ห์น้อยกว่า การลงทุนประเภทอื่นในประเทศเวียดนาม..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
https://www.pyn.fi/wp-content/uploads/Investor-letter-4_2022-v2.pdf
-https://fulcrum.sg/vietnams-high-gdp-growth-rate-masks-its-economic-difficulties/ #:~:text=Vietnam%20registered%20a%20solid%20economic,fastest%20pace%20in%2025%20years.
-https://www.theglobaleconomy.com/Vietnam/Stock_market_return/
-https://www.tiscowealth.com/article/investment-advisory/asia-growth-is-getting-back.html
-https://www.eastspring.co.th/insights/market-commentary/investment-strategy-after-vietnam-adjusts-the-base
-https://tradingeconomics.com/vietnam/interest-rate
-https://tradingeconomics.com/vietnam/inflation-cpi
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-07/forced-selling-makes-vietnam-stocks-world-s-worst-performer
-https://vietnamnews.vn/economy/1193147/why-the-stock-market-sell-off-when-vn-s-economy-is-strong.html

🔴สำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียน การค้าหรือทะเบียนพานิชย์ หจก. / บจก. โรงงาน SMEs เท่านั้น...เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจด้วยสินเช...
07/01/2023

🔴สำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียน การค้าหรือทะเบียนพานิชย์ หจก. / บจก. โรงงาน SMEs เท่านั้น...
เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจด้วยสินเชื่อธุรกิจแบบไม่ใช้หลักประกัน เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจมีสภาพคล่อง เพื่อธุรกิจ SME ทั่วประเทศ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
✅ วงเงินสินเชื่อสูงสุด 5ล้านบาท
✅ ไม่ใช้หลักประกัน 1 วันรู้ผล
✅ ดอกเบี้ยต่ำสุดถึง 1 %
✅ ไม่เช็คเครดิตบูโร ฟรีค่าธรรมเนียม !
🔴เงื่อนไขการพิจารณาเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
#ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง
#ไม่ต้องโอนก่อน
#อนุมัติง่ายไม่ต้องรอนาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 096-8646353 กันต์
Line : Anansap99
___________________________________________

17/10/2022

4 รัฐสำคัญ ที่ขับเคลื่อน เศรษฐกิจมาเลเซีย
- ลองใช้ Blockdit เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ แล้วอาจพบว่า สังคมนี้เหมาะกับคุณ Blockdit.com/download

16/09/2022

ทุก ๆ วันควร “สแกนตัวเอง”
ไม่ใช่มัวนั่งจับผิด “สแกนคนอื่น”
ทุก ๆ วันควรเป็น “รับมาเพื่อต่อยอด”
ไม่ใช่ “รับมาถือไว้ตลอด”
ทุก ๆ วันควรเป็น “ยึดติดให้น้อยที่สุด”
ไม่ใช่สะสมให้ “ ความยึดติดมากดดันจน ปวดหัวไปหมด”
ทุก ๆ วันควรเป็น “มองหาวิธีการ”
ไม่ใช่มอง เพียงผลลัพธ์
พอเข้าใจได้แบบนี้ รู้สึกได้ว่า ไม่ว่าตอนนี้จะอยู่จุดไหน
ความคิดจะช่วยเป็นแรงส่ง “ยกระดับ”
ให้ผ่านเรื่องต่าง ๆ แบบมั่นใจในตัวเองได้อย่างแน่นอน!

#ไปให้ถึง100ล้าน

12/09/2022

🔥THE GREAT RESET🔥: จับตาตลาดค่าเงิน เทคโนโลยี และเศรษฐกิจโลกเอาไว้ให้ดี !!! ตอนนี้คนไทยและคนส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังประมาทเรื่องค่าเงิน และเราอาจถูกทำให้ประมาทมากขึ้นชั่วคราวหลังจากนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น ถ้าเงินบาทแข็งค่ากลับขึ้นมาแล้วสถานการณ์ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก ๆ ต่อจากนี้ โดยเฉพาะเรื่องนักท่องเที่ยวกลับไทย เราต้องอย่าชะล่าใจเด็ดขาด !!
⚠️เรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ไม่ใช่คำทำนายตลาด แต่เป็นคำเตือนโดยในกรณีที่ทุกอย่างเป็นไปตามคาดการณ์ จึงเขียนบทความนี้มาเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่คนไทยและต่างชาติทั่วโลก ผู้ที่ได้อ่านบทความของ World Maker ทุกคน "อย่าชะล่าใจเรื่องค่าเงิน" ท่ามกลางวิกฤตที่บางคนเรียกว่า The Great Reset ที่กำลัง On Process อยู่นี้ โดยมีสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนอ่านคือ
1. ในกรณีที่เหตุการณ์โลกไม่ได้เป็นไปตามเนื้อหาต่อจากนี้ที่ผมจะเขียนต่อจากนี้ จะถือเป็นเรื่องดีกว่า เพราะแปลว่าโลกจะไม่เกิดวิกฤตใหญ่ที่รุนแรง (ดังนั้นถ้าทุกอย่างในอนาคตไม่ได้เป็นตามที่ผมเขียนในบทความนี้ ผมจะรู้สึกสบายใจมาก)
2. แต่ถ้าอนาคตในระยะสั้นเป็นไปตามที่ผมกำลังจะเขียนมาทั้งหมดนี้ ผู้ตื่นรู้ทุกคนจะต้องระวังให้มากที่สุด เพราะมันหมายถึงสัญญาณที่โลก 'อาจต้องเผชิญวิกฤตค่าเงินครั้งใหญ่'
3. ผมใช้คำว่า 'อาจ' คือหมายถึงไม่ได้มีโอกาส 100% ที่จะเกิดขึ้น และผมเองก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบที่ผมเขียนเลย เพราะถ้ามันเป็นไปตามนี้ มันจะเข้าทฤษฎีแห่งความจริง คือมีบางอย่างที่คุณมองไม่เห็นกำลังจะเกิดขึ้น และมันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อโลกของเรา โดยเฉพาะการเข้ามาของเทคโนโลยี Quantum
4. เรื่องกรอบเวลา ผมไม่รู้แน่ชัด ตัวเลขที่ผมเห็นลาง ๆ (แต่ไม่แน่ใจ) คือความเสี่ยงที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ น่าจะครอบคลุมกรอบเวลา 2-3 ปีนับจากนี้ไป (หรืออาจจะเร็ว ช้ากว่านั้นก็ได้) แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามเหตุการณ์เป็นไปตามนี้ คุณจะต้องระวังให้มากที่สุดเมื่อนั้น
5. ย้ำอีกครั้งว่าถ้าไม่เป็นไปตามเนื้อหาต่อไปนี้ มันจะดีมากสำหรับมุมมองของผม แต่ถ้าเป็นไปตามนี้ World Maker มองว่ามันคือความเสี่ยงครั้งใหญ่ ซึ่งผมไม่ได้บอกให้พวกคุณเชื่อที่ผมเขียน เพราะสิ่งที่ผมเขียนมานี้เป็นการมองโลกในอนาคตจากความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และไม่มีแหล่งข่าว References ใด ๆ ให้คุณเลย เป็นเพียงการมองโลกตามหลักทฤษฎีแห่งความจริงที่ผมพยายามพัฒนาต่อจากหลักการของจอร์จ โซรอส และทฤษฎีผลประโยชน์ของคุณพิชัย จาวลา
⚠️ในอนาคตอันใกล้นี้ แม้จะมีสงครามอยู่เนือง ๆ แต่ในกรณีที่ : เกิดเหตุการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งชั่วคราว ในขณะที่ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก ๆ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเรื่อย ๆ ประเทศต่าง ๆ อาจจะเริ่มเปิดเมือง การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เงินบาทแข็งค่ากลับมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มองตามหลักเศรษฐศาสตร์ทั่วไปแล้วต่างก็ตัดสินเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจไทย & เศรษฐกิจโลกและตลาดค่าเงิน 'กำลังกลับมามีเสถียรภาพอย่างมาก'
ยิ่งถ้าเกิดเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในระยะสั้น หรือในกรณีที่รุนแรงที่สุดคือ เงินดอลลาร์อาจร่วงฮวบพังทลายลงจนคนต่างก็เชื่อว่าดอลลาร์จะล่มสลาย ค่าเงินประเทศอื่นจะแข็งขึ้นเป็นประวัติการณ์ คนแห่ทิ้งดอลลาร์ ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นสู่เพดานใหม่อย่างรวดเร็ว (รวมถึงอสังหาฯ และสินทรัพย์อื่น ๆ ที่สามารถลงทุนและเก็งกำไรได้)
ตอนนั้นคนอาจจะแห่กันไปซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์เหล่านี้อีกครั้ง ขณะที่ตลาดก็ดีดขึ้นไปสูงลิ่ว เมื่อประกอบกับเหตุการณ์ข้างต้นที่กล่าวมา ตอนนั้นหลายคนจะกำลังคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างดูดีมาก เราไม่เคยดีขนาดนี้มาก่อน จะมีแต่คนตั้งคำถามว่ามันจะเกิดวิกฤตขึ้นได้อย่างไร บ้าไปแล้ว
📌ถ้าเหตุการณ์ในอนาคตดูดีขึ้นอย่างมาก ตามที่กล่าวมานี้ทั้งหมด แน่นอนว่าตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะไม่มีทางเชื่อเลยว่ามันจะเกิดวิกฤตได้ คิดว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2020 ถึงปีนี้ (2022) ต้องผ่านพ้นไปแล้วแน่ ๆ เพราะมันจะไม่มีเหตุผลอะไรเหลือให้คุณเชื่อเลยว่าจะเกิดวิกฤตขึ้น
สัญญาณทั้งมวลที่ World Maker กล่าวมานี้ "ถ้ามันเกิดขึ้นจริง" จะถือเป็นสัญญาณอันตรายสุดท้าย ที่ผู้ตื่นรู้จะต้องระวังให้มากที่สุด
⚠️ด้วยความปรารถนาดีจาก World Maker ... The Great Reset อาจจะไม่เกิดขึ้นเมื่อทุกคนกำลังกลัววิกฤต ... แต่ The Great Reset ของจริงอาจกำลังจะเกิดในตอนที่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อบทความนี้กันมากที่สุด เพราะว่า ณ ช่วงเวลานั้นมันจะไม่หลงเหลือซึ่งเหตุผลใด ๆ เลย ที่บ่งชี้ว่าวิกฤตกำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างจะดูดีไปหมด...แล้วเมื่อคุณรู้ตัวอีกครั้ง โลกของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างรวดเร็ว
📌โลกในยุคอนาคตจะง่ายขึ้นสำหรับคนที่เข้าใจและพัฒนาตัวเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งด้านปรัชญา การใช้ชีวิต การเงิน หรือแม้แต่อาชีพ หรือทักษะที่คุณใฝ่ฝัน แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่ผมต้องบอกคือ คนที่ไม่เข้าใจ ไม่เปิดรับ ไม่ใฝ่เรียนรู้ศึกษาและพัฒนาตัวเองเพิ่ม จะลำบากกว่าเดิมอย่างมากในโลกอนาคต ซึ่งสิ่งที่ World Maker รู้สึกและสัมผัสได้อย่างหนึ่งคือการเข้ามาของเทคโนโลยี Quantum นั้นอาจเกิดขึ้นเร็วและพัฒนาไปไวกว่าที่หลายคนคิดเอาไว้มาก
"ไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จงใช้สติและจิตใจมองให้เห็นความจริงว่า คุณไม่สามารถรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกหรือจักรวาลนี้ได้หมด โดยใช้ตาดู หูฟัง เพียงแค่นั้น เพราะประสาทสัมผัสเพียงแค่นั้น ยังไม่ใช่สิ่งที่พัฒนาไปขั้นสุดเพียงพอที่จะรับรู้บางสิ่งบางอย่างที่คุณยังไม่เห็นในโลกหรือจักรวาลนี้"
World Maker
8/9/2022
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #หุ้น #ข่าวหุ้น #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวรอบโลก #เศรษฐกิจโลก #จีน #ข่าวหุ้น #หุ้นจีน #สหรัฐ #การเมือง #การเมืองโลก

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Anansap Service posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Anansap Service:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share