Thaivoice.News ติดตามข่าวสารการเมือง ข่าวอาชญากรรม ได้ที่นี่
เพจข่าว
มีสาระและมีประโยชน์

ประมวลภาพครม.ชุดใหม่ วันนี้ (3 ก.ค. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09:07 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตร...
04/07/2025

ประมวลภาพครม.ชุดใหม่
วันนี้ (3 ก.ค. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09:07 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าตึกสันติไมตรี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และหันมาทักทายสื่อ ตามมาด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจ ATK และถ่ายรูปติดบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณในเวลา 11:00 น.

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร จะเข้าร่วมถวายสัตย์ฯ ปฏิญาณ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่จะนำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

ประชุมรัฐมนตรีชุดใหม่

ยังลุยต่อถึงศาลรัฐธรรมนูญแต่ยุติการดำรงตำแหน่งเป็นนายกแต่ยังมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม "อิ๊ง"สารงานต่อกรณีศาลรัฐธรร...
01/07/2025

ยังลุยต่อถึงศาลรัฐธรรมนูญแต่ยุติการดำรงตำแหน่งเป็นนายก

แต่ยังมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม "อิ๊ง"สารงานต่อ

กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น นายก
รัฐมนตรี หลังรับคำร้องประธานวุฒิสภา ยื่นร้องขอให้มีการพิจารณาวินิจฉัยคลิปเสียงสน
ทนากับฮุนเซน เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยให้ น.ส.แพทองธาร ยื่นคำร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา มีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดย น.ส.แพทองธาร ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็น "รมว.วัฒนธรรม"
ควบคู่อีกตำแหน่ง ซึ่งภายหลังเข้าถวายสัตย์ ปฏิญาณแล้ว น.ส.แพทองธาร ยังสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ "รมว.วัฒนธรรม" ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ น.ส.แพรทองธาร จะถูกสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น ศาล
รัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัยว่ามีความผิดหรือไม่
เป็นเพียงอยู่ระหว่างการวินิจฉัย หลังรับคำร้องเท่านั้น

นายก "อิ๋งค์" "ดิฉันน้อมรับคำพิจารณาของศาล ต่อจากนี้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีระยะเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำอย่างเ...
01/07/2025

นายก "อิ๋งค์" "ดิฉันน้อมรับคำพิจารณาของศาล ต่อจากนี้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีระยะเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำอย่างเต็มที่ในการจะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมาว่ามีความตั้งใจเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ตนตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ รักษาอธิปไตยของเรา รักษาชีวิตทหารทุกคน
ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจ ตั้งแต่เมื่อคืน คนส่งกำลังใจมาอย่างไม่ขาดสาย ขอโทษพี่น้องคนไทยทุกคนที่รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ หรือรู้สึกโกรธเคืองกับเรื่องนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่าดิฉันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ ช่วงที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังทำเพื่อประเทศชาติได้ต่อไปในฐานะคนไทยคนหนึ่ง" .
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จากกรณีคำร้องถอดถอนเรื่องคลิปเสียง

ศาลนัดสืบพยานฝ่ายโจทย์นัดแรก คดี ม.112 ’ทักษิณ‘ เจ้าตัวมาศาล เข้าประตูข้าง เลี่ยงเจอสื่อ ‘สมชาย - เสริมศักดิ์’ มาด้วย ด้...
01/07/2025

ศาลนัดสืบพยานฝ่ายโจทย์นัดแรก คดี ม.112 ’ทักษิณ‘ เจ้าตัวมาศาล เข้าประตูข้าง เลี่ยงเจอสื่อ ‘สมชาย - เสริมศักดิ์’ มาด้วย ด้าน ’วิญญัติ‘ เผย ’ทักษิณ‘ ตั้งใจมาฟังการสืบพยานทุกนัด ยัน เจ้าตัวต้องการปรากฏตัวศาลทุกนัด เพื่อพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ

วันนี้ (1 ก.ค. 68) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558

บรรยากาศแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อเวลา 08:30 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดสืบพยานโจทย์นัดแรกว่า ศาลได้นัดสืบพยานแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน คือ วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยฝั่งโจทก์มีพยานทั้งหมด 10 ปาก จำเลย 14 ปาก ซึ่งการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด แต่สามารถเสร็จก่อน 7 นัดได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล และนัดสุดท้ายในการสืบพยานคือวันที่ 23 กรกฎาคม

สำหรับ อัยการที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณนั้น ถือว่าวันนี้เป็นนัดแรก ใน 3 นัด ที่โจทก์นำพยานหลักฐานขึ้นสืบพยานในข้อหาความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยาน 3 ปากที่ได้นัดไว้จาก 10 ปากมาขึ้นเบิกความ และทนายฝ่ายจำเลยถามค้าน ส่วนกระบวนการพิจารณาก็มีเพียงเท่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นายทักษิณจะขึ้นมาเบิกความ

ส่วนนายทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาทุกรอบเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คดีนี้ เป็นคดีที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา ซึ่งนายทักษิณจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะในวันนี้เป็นนัดแรก ส่วนหลังจากนี้จะต้องดูว่าศาลจะออกข้อกำหนดในการพิจารณาคดีว่าอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และราบรื่นต่อการพิจารณาคดี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพิจารณาลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญา การจะขอสืบพยานลับหลัง จะต้องมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้สูงกว่า 10 ปี และอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าหากจำเป็น และจำเลยมีทนายอยู่แล้ว ก็ขอพิจารณาลับหลังได้ พร้อมยืนยันว่า เบื้องต้นนายทักษิณจะขอรับเข้าการพิจารณาคดีทุกรอบ หากไม่ติดภารกิจ

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ประเด็นที่ติดใจคือเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า อาจจะมีการแปลผิด ยังคงติดใจในประเด็นนี้อยู่หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ภายใน 1-2 วัน จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปการสัมภาษณ์อย่างแน่นอน และจะทำให้เห็นว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่ และมีการเก็บพยานหลักฐานมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนในการพิสูจน์หลักฐาน ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์

เมื่อถามว่าศาลจะให้น้ำหนักในเรื่องใดในการพิจารณาคดี นายวิญญัติ เผยว่า ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่าน ไม่สามารถก้าวล่วงท่านได้ ดังนั้นการพิจารณาคดีอาญามีหลักสำคัญ หลักเดียว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่มีพยานหลักฐาน มีน้ำหนัก เพียงพอหรือไม่

ต่อมา เวลา 09:10 น. มีรายงานว่า นายทักษิณเดินทางมาถึงที่ศาล โดยเข้าประตูด้านข้างเพื่อขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ก่อนที่รถ Mercedes-Maybach สีดำ - เงิน ทะเบียน ธศ 267 กทม. ของนายทักษิณจะเข้ามาจอดบริเวณด้านข้างของศาล ที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวอยู่

นอกจากนี้ ยังมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาที่ศาลอาญา ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า บริเวณด้านหน้าทางขึ้นศาลอาญา มีประชาชนจำนวน 4-5 คน สวมเสื้อยืดลายธงชาติไทย และเขียนคำว่า “คนไทยไม่ขายชาติ” มายืนรอเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการสอบถามจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตอบว่า “ตั้งใจเดินทางมาที่ศาลอาญาหลังจากรู้กำหนดการว่านายทักษิณจะเดินทางมาฟังการสืบพยานในนัดแรก หวังว่านายทักษิณ จะเห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อ”

🔴ด่วน ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องถอดถอน 'นายกฯ' พ่วงสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมคลิปเสียงจ้อฮุนเซน  เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่อ...
01/07/2025

🔴ด่วน ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องถอดถอน 'นายกฯ' พ่วงสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมคลิปเสียงจ้อฮุนเซน

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องประจำสัปดาห์ ประกอบกับมีการมติ ในคดีที่ศาลอาญาส่งคำโต้แย้งของจำเลย เกี่ยวกับคดีอาญา ที่ศาลได้นัดลงมติในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาคำร้องที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นในนามสมาชิกวุฒิสภา กรณี สว. จำนวน 36 คน ขอให้วินิจฉัยว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เหตุจากคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเนื้อหา อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ เอกฉันท์ รับคำร้องไว้พิจารณา ให้นายกแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และมี มติ 7 ต่อ 2 มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค 2568 เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย.

“นายกฯ แพทองธาร” แถลงข่าวสรุปผลสอบสวนคดีตึกสตง.ถล่ม ชี้การออกแบบ-การก่อสร้าง ผิดกฎหมาย เตรียมสรุปรายงานใน 2 สัปดาห์ ส่ง ...
30/06/2025

“นายกฯ แพทองธาร” แถลงข่าวสรุปผลสอบสวนคดีตึกสตง.ถล่ม ชี้การออกแบบ-การก่อสร้าง ผิดกฎหมาย เตรียมสรุปรายงานใน 2 สัปดาห์ ส่ง ดีเอสไอ-สตช. ฟันคนผิด ยันเรื่องนี้ไม่เงียบ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จากแผ่นดินไหว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม /นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย / นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง / คณะวิศวกรรมศาสตร์ 4 สถาบัน ได้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เข้าร่วมประชุมด้วย

ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง ก่อนนายกรัฐมนตรี จะแถลงผลการประชุว่า ผลการสืบสวนสอบสวนเป็นเอกภาพ ทุกสถาบันมีข้อมูลที่สอดคล้องกัน ทั้งนี้ ได้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยการใช้เทคโนโลยีจำลองตึกและเปรียบเทียบกับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว เพื่อหาสาเหตุอาคาร สตง. ถล่ม

โดยจากการรายงานของทั้ง 4 สถาบันเห็นได้ชัดว่าบกพร่องในการออกแบบและวิธีในการก่อสร้าง โดยเฉพาะ เทคนิคในการก่อสร้างในโครงการนี้ ในจุดผนังช่องลิฟท์ และ ผนังบันได หรือทางเทคนิคเรียกว่าผนังรับแรงเฉือน

ส่วนวัสดุเหล็ก หรือคอนกรีต เป็นวัสดุปกติที่ได้มาตรฐานโดยทั่วไป แต่การนำมาใช้ในโครงการนี้ เกิดปัญหาในเรื่องของคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยการนำคอนกรีตมาใช้ในวิธีการสร้างของโครงการนี้มีปัญหา

นายกรัฐมนตรียอมรับว่าหลายภาคส่วนมีความกังวล วัสดุที่ใช้เช่นนี้ ส่งผลต่อตึกอื่นๆ อย่างไร ซึ่งจากที่ได้รับรายงานในตอนนี้ มีการก่อสร้างในหลายหลายจุด ที่ไม่ได้เป็นไปตามกฏหมาย ทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง และการวิจัยจำลองตึก ระบุว่า หากปฏิบัติตามกฏหมาย จะสร้างความแข็งแรงให้ตึกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากปฏิบัติตามกฏหมายตึกก็จะรับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่านี้ ซึ่งผลทั้งหมดเป็นไปตามการใช้หลักเทคโนโลยีล่าสุด โดยประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาก็ได้ใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน เพื่อที่จะทราบคุณภาพของตึกจะรับกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้หรือไม่ ซึ่งไทยก็ได้นำมาใช้

นายกรัฐมนตรีย้ำอีกว่า โครงการอื่น ๆ ได้มีการตรวจสอบในด้านวัสดุก่อสร้างอย่างเคร่งครัด ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ จึงอยากจะให้ประชาชนสบายใจเรื่องนี้มากขึ้น หลังจากนี้จะใช้ข้อมูลทั้งหมดที่ได้สรุปเป็นรูปเล่ม ภายใน 2 สัปดาห์ และส่งต่อให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการต่อไป

โดยนายกรัฐมนตรีย้ำอีกว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการออกแบบ และการก่อสร้าง ของโครงการนี้ที่มีปัญหา และไม่ได้เป็นไปตามกฏหมาย

ส่วนความเสียหายทั้งหมดจาก อาคารตึก สตง. ถล่มนั้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้ผิดจากการออกแบบ และการก่อสร้างโครงการ ส่วนใครผิดและจะต้องรับผิดชอบทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษจะไปดำเนินการต่อ และเป็นผู้ชี้ ส่วนในวันนี้ถือว่าทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ดังนั้นใครที่เกี่ยวข้องก็ว่าไปตามกฏหมาย

ขณะที่การสอบสวนตัวเหล็กไม่มีปัญหา แต่พบว่าคอนกรีตมีปัญหาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ พร้อมย้ำว่า ผู้เชี่ยวชาญได้แจ้งว่าเหล็กไม่ได้มีปัญหา แต่จะมีปัญหาในเรื่องของวัสดุอื่น ๆ ซึ่งการนำมาใช้ไม่ผิด แต่เมื่อนำมาสร้างในโครงการนี้ ถูกเฉือนให้บางลง ไม่เป็นไปตามกฎ จึงทำให้ มีมีความผิดเกิดขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่ากังวลใจเรื่องนี้ เพราะมีของไม่ได้คุณภาพ และจะเกิดขึ้นกับโครงการอื่น ๆ ซึ่งจากข้อสรุปแล้วไม่ใช่ เป็นเรื่องที่เกิดเฉพาะโครงการนี้เท่านั้น

หากเป็นเรื่องการออกแบบผิดพลาด ดังนั้น สตง.ซึ่งเป็นจัดซื้อจัดจ้างโครงการนี้จะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการต่อไป ว่าใครต้องรับผิดชอบ ในส่วนไหนบ้าง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งการสอบสวนได้ดำเนินการมา 90 วัน โดยการการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

ส่วนน้ำหนักการสอบสวน จะไปเอาผิดกับผู้ออกแบบ หรือผู้ดำเนินการก่อสร้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่เมื่อข้อมูลออกไปแล้วเชื่อว่ามีคนมองต่างมุม ส่วนไหนผิดหรือถูก ดังนั้นจึงอยากให้เข้ากระบวนการสืบสวนสอบสวนมากกว่า ซึ่งถือว่าเป็นกลางมากที่สุด แล้วชี้ว่าใครผิด เพราะตนเองไม่มีหน้าที่จะถือว่าใครผิด แต่เบื้องต้นทราบว่าเป็นการดำเนินการโดยผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และไม่เงียบไป หากการเมือง นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เงียบอย่างแน่นอน และจะมีการสรุปผลรายงานภายใน 2 สัปดาห์ เพราะคิดว่า 90 วันในการสืบสวน ประชาชนยังรอเรื่องนี้อยู่ว่าสาเหตุที่ตึกสอตองถล่มเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งวันนี้ถือว่าได้คำตอบแล้ว และเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ หลังจากนี้ก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย

นายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบต้อนรับเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา “เยือนแผ่นดินแม่” ย้ำทุกคนคือ Soft Power ที่สำคัญที่สุดของประเทศไท...
30/06/2025

นายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบต้อนรับเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา “เยือนแผ่นดินแม่” ย้ำทุกคนคือ Soft Power ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย หวังสร้างแรงบันดาลใจสู่การพัฒนาประเทศไทย ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์จากประสบการณ์ต่างแดนในประเทศไทย

วันนี้ (30 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พร้อมนายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานกรรมการฝ่ายสหรัฐอเมริกา นำคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2568 ครั้งที่ 14 และผู้ปกครอง เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ขอชื่นชมเยาวชนไทย ที่สามารถพูดสื่อสารภาษาที่ 2 และ3 ได้ดีขอให้เยาวชน คนไทยที่เดินทางมาแผ่นดินแม่ ที่ประเทศไทยของเรา เก็บภาพและความทรงจำที่ได้เดินทางมาทำเนียบและได้พบกับนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยไว้เป็นประวัติศาสตร์ โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ เป็นโครงการที่ดี ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นคนไทยซึ่งการที่ได้ไปเรียนต่างประเทศ ก็คือโอกาสที่ดี และการได้กลับมาเรียนรู้วัฒนธรรมไปด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะจริง ๆ แล้ว คนไทยคือซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย คนจะรู้จักคนไทยในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าความมีน้ำใจ เป็นคนชอบช่วยเหลือ เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต่างชาติรับรู้ ทุกคนสามารถนำซอฟต์พาวเวอร์ด้านพื้นฐานและนิสัยของคนไทยไปใช้ ซึ่งการเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นคนไทยหรืออยู่ในสังคม ของไทย ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งเองชื่อว่าต่างชาติหลงเสน่ห์คนไทยเพราะคนไทยมีคาแรคเตอร์ และมีบุคลิกที่อบอุ่นที่เป็นมิตรเสมอ เพราะนี่คือเสน่ห์ของคนไทย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่ออีกว่า โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวัน ในการเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน จะได้รู้ว่าชาวบ้านทำอาชีพอะไร และหาเลี้ยงชีพอย่างไร อย่างเช่นตนเอง ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงรายเพื่อดูเรื่องน้ำท่วม ทำให้เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก ๆ ของประเทศไทย ซึ่งการบริหารจัดการน้ำต้องเป็นไปอย่างเป็นระบบ ขณะนี้รัฐบาลได้พยายามทำอย่างเต็มที่ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ ขอให้เยาวชนคนไทยช่วยกันนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รู้จัก

“ พี่เองมีลูก และพอลูกเรียนอินเตอร์ก็บอกว่าเราจะได้วัฒนธรรมไทยหรือไม่ หรือจะสวัสดีไหว้สวย เหมือนคนไทยหรือเปล่า ซึ่งไม่ว่าเรียนที่ไหน ก็จะเห็นความเป็นคนไทยติดตัวไปด้วย พร้อมสนับสนุนโครงการนี้ให้เด็กไทยที่อยู่ต่างประเทศให้กลับมาเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นฐานของคนไทยจริง ๆ ขอให้เป็นทริปที่สนุกสนานได้ความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ได้ประสบการณ์ที่สามารถนำไปต่อยอดในชีวิตได้ ถึงวันหนึ่งแล้ว ก็ขอให้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ กลับอยู่ที่ประเทศไทยของเรา ช่วยกันพัฒนาประเทศ ทำให้ประเทศของเรามีแนวคิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มีไอเดียใหม่ ๆ กลับมายังประเทศของเรา บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับเสมอ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จตุพร' ปลุกม็อบเตรียมปักหลักยาว หากนายกฯ ไร้สำนึก - ประพฤติชั่ว ยกระดับชุมนุมทันที ลั่น ไม่เรียกร้องลาออก หรือถอนตัว แต่...
28/06/2025

จตุพร' ปลุกม็อบเตรียมปักหลักยาว หากนายกฯ ไร้สำนึก - ประพฤติชั่ว ยกระดับชุมนุมทันที ลั่น ไม่เรียกร้องลาออก หรือถอนตัว แต่จะเป็นการ ”ขับไล่สถานเดียว“ เหน็บ “กัมพูชาชาตินักรบ แต่ไทยส่งเนตรนารีไปสู้” ย้ำ แผ่นดินรัชกาลที่ 10 ต้องไม่เสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียว

วันนี้ (28 มิ.ย. 68) ที่เวทีชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ขึ้นกล่าวปิดการปราศรัย โดยยกบทกลอนว่า ”รวมพลังหลั่งไหล ดั่งสายธาร ปกป้องบ้านปกป้องเมืองของเราไว้ แผ่นดินไทยอธิปไตยคือหัวใจ ไม่ยอมให้มันผู้ใดรุกรานเรา“ พร้อมกล่าวว่า ขอบอกเป็นปริญญาแห่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า แผ่นดินรัชกาลที่ 10 จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อธิบายเรื่องการเสียดินแดนก็เจ็บใจทุกครั้ง ประวัติศาสตร์ในอดีตที่เราแพ้พม่าเพราะเราไม่จัดการคนขายชาติ เราจึงแพ้ ซึ่งวันนี้มีประสบการณ์แล้ว ดังนั้นต้องจัดการคนขายก่อน “ถ้ากรุงศรีอยุธยาจับคนขายชาติประหารก่อน กรุงศรีก็ไม่แตก ถ้าไม่จัดการคนขายชาติก็ไม่มีชาติเหลือ“

นายจตุพร กล่าวต่อว่า มีการพูดกันว่าเขมรเสี้ยมให้ไทยแตกกัน แต่ตนมองว่าคนไทยส่วนใหญ่ เขารักชาติบ้านเมือง และสามัคคีกัน เขาแตกแยกกับนายกรัฐมนตรี และพ่อนายกรัฐมนตรี และแตกแยกกับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นเราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่มันก็ไม่ลาออกไม่ยุบสภา เรียกร้องให้พรรคร่วมฯ ถอนตัว มันก็ไปแบ่งตำแหน่งกัน บัดนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่า ”โจรพายเรือให้โจร“ เมื่อนายกฯ วางแผนอย่างแยบยล รู้อนาคตตัวเองว่ามีชะตากรรมโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงปรับ ครม. ให้ตัวเอง นั่งควบรัฐมนตรีวัฒนธรรม เนื่องจากมีความสามารถที่จะแต่งตัวให้เหมาะสมกับกระทรวง และในประวัติศาสตร์ มีนายกฯ คนเดียวที่นั่งควบกระทรวงวัฒนธรรม คือจอมพล ป.พิบูลสงคราม เพราะเขามองว่าหากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนเองก็จะได้นั่งใน ครม.ต่อไป

นายจตุพร กล่าวอีกว่า นายกฯ ก็ไม่ฟังเสียงของประชาชน กรณีคลิปเสียง ตนก็บอกแล้วว่ามันบาดหัวใจ เพราะเสียงที่ฟังคือนายกฯ ตัดหัวแม่ทัพภาคที่ 2 ไปบรรณาการให้กับสมเด็จ ฮุน เซน เป็นเรื่องที่คนไทยไม่อาจรับได้ เป็นใครมาบอกว่าแม่ทัพอยู่ตรงข้าม เขมรมันยังรู้ทันเลยว่า นายกฯ คนนี้คบไม่ได้ เวลานี้ก็พยายามปั่นกันว่า ที่ฮุนเซนไลฟ์ และโพสต์ เป็นการร่วมมือกับการชุมนุมในวันนี้ แต่ตนเจอสมเด็จฮุน เซน ก่อนอุ๊งอิ๊งค์ แต่ยืนยันว่า ตนเองไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไร ผิดกับนายทักษิณ ชินวัตร เงียบปากตั้งแต่บัดนั้นไม่หือไม่อืออะไรเลย และถ้าเขมรบอกว่า มีเรื่องการหมิ่นสถาบันฯ ตนก็ขอยืนยันว่า คนสำคัญบางคนในประเทศที่เอ่ยชื่อก็รู้จัก และมีสถานะที่ไม่อาจเปิดชื่อได้ ฟังคลิปดังกล่าวแล้ว เนื้อหาใจความนั้น ตนขอแนะนำว่า ”เก็บเสื้อผ้าหนีไปเถอะ เพราะหากคลิปนี้มีอยู่ อย่าว่าแต่แผ่นดิน น้ำ อากาศ คุณก็ไม่มีสิทธิ์อยู่แน่นอน“ เพราะเนื้อหาเป็นสิ่งที่คนไทยฟังแล้วไม่อาจจะรับได้

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ศาลฎีกาจะมีการพิจารณาเรื่องการรับโทษชั้น 14 และหากเปิดให้สื่อเข้าไปรับฟัง ประชาชนก็จะรู้ความจริงว่าขบวนการที่กราบบังคมทูลฯ อันเป็นเท็จ ถวายฎีกาเป็นเท็จ ไม่ตรงตามพระราชโองการ เป็นคนที่เอาไว้ไม่ได้จริงๆ

อีกทั้ง หากนางสาวแพทองธาร ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายภูมิธรรมก็จะทำหน้าที่รักษาการ (ซึ่งเป็นจังหวะที่ประชาชนโห่ร้อง) จนนายจตุพรถามว่า “รังเกียจบิ๊กอ้วนขนาดนั้นเลยหรือ” พร้อมกล่าวต่อว่า เขาเคยเข้าป่า ไม่เข้าใจว่าจะไปจับมือกับกองทัพปลดแอกหรือจะไปหาหน่อไม้กันแน่ แต่เอาคนแบบนี้มานั่ง รมว.กลาโหม ปรับครม.ใหม่ ก็นั่งกระทรวงมหาดไทย และเป็นรองนายกฯ อย่างไรก็ตามตนก็สบายใจ เพราะรักษาการอยู่ไม่กี่วัน เพราะนายภูมิธรรมจะต้องพ้นไปจากกรณี สว. และหาก ป.ป.ช. ดำเนินการเรื่องการใช้งบประมาณตาม มาตรา 144 ซึ่ง ครม.ก็จะไปทั้งคณะ เป็นการไปทั้งกระดาน

นายจตุพร ระบุอีกว่า บ้านเมืองเราโชคดีที่สุด หากตระกูลชินวัตรไม่ทะเลาะกับตระกูลฮุน เราก็ยังโง่ แต่บัดนี้เราหูตาสว่างแล้ว และมีการพยายามปั่นว่า ทะเลาะกันเพราะเรื่องบ่อนกาสิโน ตนยืนยันว่า 30-40 ปีที่ผ่านมา นายทักษิณต้องพึ่งสมเด็จฮุน เซน แต่เมื่อมีความคิดจะทำเรื่องบ่อนกาสิโน จากเดิมที่รับปากว่าจะไม่ทำ ในที่สุดก็หักหลังกันระหว่างทาง จึงเป็นที่มาของคลิปหลุด เพราะความจริงบ่อนกาสิโนที่จะสร้างในประเทศไทยนั้น 50:50 กับทางกัมพูชา เหมือนแหล่งพลังงานที่เกาะกูด

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา การกลับมาของนายทักษิณ สิ่งหนึ่งที่เราได้อย่างแน่นอนคือ คนไทยได้เห็นตัวตนของนายทักษิณ ได้เห็นนายทักษิณทำลายตัวเอง ทำตัวเองเปลือยล่อนจ้อนให้รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ลงเครื่องบินแข็งแรงที่สุด ตำรวจไม่ควบคุมตัวไปศาลฎีกา ขอศาลอ่านคำพิพากษา ราชทัณฑ์ก็ไม่ให้ขึ้นรถนักโทษ ส่งเข้าไปถึงเรือนจำหรือไม่บัดนี้ก็ไม่มีภาพปรากฏ กลางคืนป่วย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันขึ้น แต่คนติดคุกก็เป็นแบบนี้กันทุกคน แต่ไม่เข้าห้องฉุกเฉินไปชั้น 14 ค่าใช้จ่ายมีเพียงค่าห้อง ค่าอาหาร และค่ากายภาพบำบัด แต่ค่ารักษาราคาประมาณทิฟฟี่ นี่คือคำว่าอภิสิทธิ์ชน

ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ตอนที่ถวายฎีกาต่อพระเจ้าแผ่นดิน บอกว่าเคารพกระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าทำจริง ๆ คือคดีทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีคนออกไปสู้เพื่อนายทักษิณ เพราะคิดว่านายทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรม แต่วันนี้สารภาพแล้วว่ากระทำผิดจริง และบอกว่าสำนึกแล้ว แต่หลังจากได้รับการพักโทษ “คำพูดแรกบอกว่าเขายัดข้อหาให้ผมเยอะ และมาพูดอีกว่ารอ 6 เดือนกว่าจะนั่งเครื่องบินถึงบ้าน ต่อมาก็บอกว่าโกงพ่อมึงสิ อย่างนี้ได้หรือ“

นายจตุพร เผยต่อว่า เมื่อนักการเมืองตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ไม่ว่าสีใดก็ไม่เคยเห็นหัวประชาชน เพราะถ้าคิดถึงประชาชนคงไม่ตระบัดสัตย์ แต่ความต้องการของพวกนี้คือให้ประชาชนทะเลาะกัน แล้วมันก็ไปจับมือกัน และเมื่อข้ามขั้วกันแล้วก็ทยอยฆ่ากันเอง พรรคพลังประชารัฐโดนคนแรก พรรคภูมิใจไทยถอนตัวไปก่อน แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังหาทางรวมไม่ได้จนถึงวันนี้ มีความสุขกับสมบัติแบ่งกันชม ไทยจะเสียดินแดนก็ไม่เกี่ยว ได้ตำแหน่งไว้ก่อน ดังนั้นเราไม่ขอไว้ใจใคร ขอให้ไว้ใจพวกเราเอง หากอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น เราต้องเป็นผู้กำหนด

ส่วนที่มีคนบอกว่า วันนี้คนมาแค่ 3,000 คน ตนก็บอกว่าพอแล้ว พอพวกที่เราจะจัดการมีแค่ 500 คน มันบอกว่าจุดไม่ติด ตนก็บอกว่าไม่ต้องจุดก็ติดให้พรึบ เป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงรัฐบาล และบอกประชาชนว่าเตรียมรองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าให้พร้อม และมาปักหลักค้างคืนยาวนาน จนกว่ารัฐบาลขายชาติจะออกไป ถ้าเราไม่ขัดขืนเราต้องเสียดินแดนอย่างแน่นอน และขอประกาศว่า ในสมรภูมิหน้า เราก็จะประกาศชัย เหมือนชัยสมรภูมิ

“กัมพูชานักรบ ของเราส่งเนตรนารีไปสู้ แล้วไม่รู้สึกรู้สา วันแรกบอกนึกไม่ถึงว่าถูกบันทึกการสนทนา วันต่อมาพูดใหม่ ขออภัย แต่วันต่อมาบอกว่าประเทศไม่เสียหาย” พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “เสียโว้ย เสียเกียรติภูมิประเทศไทย“

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วยังสำนึก และพร้อมจะทำชั่วต่อไป เราก็จะประกาศยกระดับ ไม่เรียกร้องให้ลาออกหรือให้ถอนตัว แต่จะขับไล่สถานเดียว “ ไล่ทั้งเรือ ทั้งโจร ทั้งพาย ไล่ให้หมด” และหากปล่อยให้มีเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ และปล่อยให้มีการพนันออนไลน์ถูกต้องตามกฎหมาย กาสิโนเข้าวันไหน เต็มหน้าสภาฯ

อย่างไรก็ตาม บัดนี้เลยเวลาการปฏิรูปมาแล้ว ต้องปฏิวัติชำระล้างแผ่นดินให้สะอาด แต่ไม่ใช่การรัฐประหาร แต่ปฏิรูปก็ขัดไม่ออกต้องล้างขนาดใหญ่ ต้องชำระล้างให้สะอาด และวันนี้ประชาชนควรรวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ถ้าแตกแยกก็เสียชาติ จับมือไล่แพทองธารออกไปก่อน ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า ในแผ่นดินรัชกาลที่ 10 ต้องไม่เสียดินแดน แม้แต่ตารางนิ้วเดียว

รอง ผบช.น. ย้ำการชุมนุมในวันนี้ยังอยู่ในความเรียบร้อย เบื้องต้นมีผู้ชุมนุมเข้ามามายังพื้นที่แล้วกว่า 1,000 คน ขณะเดียวกั...
28/06/2025

รอง ผบช.น. ย้ำการชุมนุมในวันนี้ยังอยู่ในความเรียบร้อย เบื้องต้นมีผู้ชุมนุมเข้ามามายังพื้นที่แล้วกว่า 1,000 คน ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมความพร้อมในหลายๆด้าน เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่การชุมนุม พร้อมขอประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ..////

กองบัญชาการตำรวจนครบาลรายงานผลความคืบหน้ามาตรการดูแลผู้ชุมนุม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุม โดยมีพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยนายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

โดยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า จากสถานการณ์การชุมนุม “ รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” ในวันนี้ในพื้นที่ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเบื้องต้นในขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ฯแล้ว กว่า 1,000 คน โดยในพื้นที่ของการชุมนุมโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้มีการวางจุดคัดกรองโดยรอบทั้งหมด 5 จุด ซึ่งเบื้องต้นได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองบริเวณซอยพหลโยธิน 2 ( อาคารแสงโสม) ว่าได้ตรวจยึดอาวุธเป็นมีดสปาต้าจำนวน 1 เล่มและมีดคัตเตอร์จำนวน 3 เล่ม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าบุคคลที่พบมีดสปาร์ต้าเป็นไรเดอร์ แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจจะนำเข้ามายังพื้นที่การชุมนุม จึงได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีระบบกล้องวงจร CCTV ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานครและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชุมชนในพื้นที่ที่เข้ามาร่วมในวันนี้มากกว่า 200 จุด // มีรถพยาบาลจำนวนทั้งหมด 4 คัน รถกู้ภัย 3 คัน พร้อมกับได้มีประสานโรงพยาบาลสามแห่งกรณีเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่รอบการชุมนุมชุมน ได้แก่โรงพยาบาลตำรวจ / โรงพยาบาลพระมงกุฏ / และโรงพยาบาลราชวิถี

ขณะเดียวกันมีชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD และทีมสุนัขตำรวจ K-9 ที่จะคอยสำรวจตรวจตราลาดตระเวนพื้นที่การชุมนุมทั้งพื้นที่ราบและบนสกายวอล์ค ในการตรวจสอบหาสิ่งแปลกปลอมและวัตถุต้องสงสัย รวมไปถึงทีมอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน เพื่อที่จะคอยสังเกตการณ์จากพื้นที่มุมสูง

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังบอกอีกว่า ในครั้งนี้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยจำนวนทั้งหมด 4 กองร้อย หรือประมาณ 2,555 คน ขณะเดียวกันได้รับการเสริมจากเทศกิจของกรุงเทพมหานครอีกจำนวนกว่า 140 คน ที่จะเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ // ทั้งนี้ยังย้ำอีกว่าในการชุมนุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ขอให้หลีกเลี่ยงการนำอาวุธเข้ามาเพราะเจ้าหน้าที่ต้องยกระดับการเฝ้าระวังเพื่อความปลอดภัยของประชาชน อีกครั้งในขณะนี้ประเทศไทยยังมีข้อพิพาทกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะมีการเฝ้าระมัดระวังในการคัดกรองไม่ให้บุคคลสัญชาติดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งในแต่ละด่านตรวจ จะมี เจ้าหน้าที่ สตม. ประจำจุดคอยช่วยคัดกรองด้วย เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์โดยมือที่สาม

ส่วนการเตรียมรถจีโน่ ยอมรับว่ามีการเตรียมจริงแต่ว่าเป็นการเตรียมตามขั้นตอนการชุมนุมปกติ ไม่ได้มีการนำมาในพื้นที่การชุมนุม

ทั้งนี้ในการชุมนุม เบื้องต้นยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมหากการชุมนุมในครั้งนี้มีการยืดเยื้อ แม้จะมีการขออนุญาตการชุมนุมถึงแค่เวลา 21:00 น. โดยทั้ง ผู้บัญชาการการตำรวจแห่งชาติและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นห่วง ไม่อยากให้การชุมนุมกระทบต่อประชาชนที่สัญจรและใช้ชีวิตตามปกติเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางการเดินทาง แต่หากหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่อยากให้ผ่านเข้ามาในจุดนี้ เพราะอาจจะไม่ได้รับความสะดวกมากนัก..////

เริ่มแล้ว ม็อบรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไล่นายกฯ ลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำบุญอุทิศให้วีรชนเสียสละเพื่อชาติ เอาฤก...
28/06/2025

เริ่มแล้ว ม็อบรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไล่นายกฯ ลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำบุญอุทิศให้วีรชนเสียสละเพื่อชาติ เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนเปิดเวทีปราศรัยเที่ยงนี้

วันนี้ (28 มิ.ย. 68) กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ชุมนุมใหญ่ขับไล่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมวลชนเริ่มมาปักหลัก ตั้งแต่ช่วงเช้า และบางส่วนเดินเท้ามาจากสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาล

สำหรับพื้นที่ชุมนุม จะใช้บริเวณโดยรอบของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการตั้งจุดอำนวยความสะดวก จุดประสานงาน​ จุดแจกอาหารและเครื่องดื่ม เวทีปราศรัย​ เครื่องขยายเสียง และจอโปรเจคเตอร์

สำหรับกิจกรรมในวันนี้จะเริ่มขึ้นในเวลา 10.30 น. เป็นพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชน ทหารตำรวจและพลเรือนผู้เสียสละชีวิตเพื่อชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 84 ปีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะเริ่มเปิดเวทีปราศรัยในเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป

สำหรับผู้ที่จะขึ้นเวทีปราศรัย อาทิ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นางสาวรจนา โตสิตระกูล, นายพิชิต ไชยมงคล, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายวีระ สมความคิด และนายประพันธ์ คูณมี

ไฮไลท์จะอยู่ในช่วงเวลา 17.30 น.จะมีการอ่านแถลงการณ์รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย จากนั้นจะมีการปราศรัย โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์, นายสมชาย แสวงการนายนิติธร ล้ำเหลือ และนายจตุพร พรหมพันธ์ เป็นผู้ปราศรัยปิดท้ายในเวลา 21.00 น.

“พิขัย” รมว.คลัง ยืนยันแนวทางเจรจาภาษีสหรัฐ  วางแผนอย่างดี   มั่นใจจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ   แจงทีมที่ปรึกษาโปร่งใส  พร้...
27/06/2025

“พิขัย” รมว.คลัง ยืนยันแนวทางเจรจาภาษีสหรัฐ วางแผนอย่างดี มั่นใจจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แจงทีมที่ปรึกษาโปร่งใส พร้อมขอบคุณทุกข้อเสนอแนะ

กทม. วันนี้ ( 27 มิ.ย.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความถึงการทำงานเจรจากับสหรัฐอเมริกา ว่าการทำหน้าที่เจรจาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์การเจรจาภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายสหรัฐฯมีการมอบหมายหัวหน้าเจรจาหลายหน่วย เช่น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ

รัฐบาลไทย จึงต้องพร้อมรับมือกับทุกแนวทางที่สหรัฐฯ จะดำเนินการ
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องมี 2 หน่วยงานหลัก คือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และกรมเจรจาการค้าฯ ทำงานประสานกันแบบคู่ขนาน เพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ และสามารถเจรจาได้อย่างครอบคลุมในทุกระดับ โดยตนในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาระดับนโยบายทำหน้าที่กำกับให้โทนการเจรจาสอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์

นายพิชัย กล่าวว่า อัตราค่าจ้างที่ปรึกษาและบริบทพิเศษของสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยปกติ อัตราการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือ Lobbyist ในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ $20,000 – $300,000 ต่อเดือน สำหรับการให้บริการทั่วไป แต่ในกรณีปัจจุบัน ทำให้บริษัทที่ปรึกษาซึ่งมีความสามารถเฉพาะทางสูง และมีความสัมพันธ์เชิงนโยบายกับผู้มีอำนาจในรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเรียกราคาที่สูงขึ้นกว่าปกติได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นงานที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน แข่งกับประเทศอื่น และเกี่ยวพันกับมูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยนับแสนล้านบาทต่อปี

นายพิชัย กล่าวว่าแต่ตนก็ขอยืนยันความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะอเมริกามีกฏหมายการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมาย FARA (Foreign Agents Registration Act) ว่าทุกสัญญาว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศจะต้องมีการ เปิดเผยรายละเอียดบนเว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอย่างชัดเจน

“ถ้าเราไม่มีตัวช่วยที่ดี ไม่มีทีมที่เข้าใจสหรัฐฯ ไม่มีเครื่องมือที่แข็งแรง
ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียตลาด ส่งออกสะดุด เกษตรกร-ผู้ประกอบการเจ็บหนัก
การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศในโลกยุคปัจจุบัน ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจเชิงเทคนิค ความละเอียดรอบคอบ และความกล้าที่จะตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม” นายพิชัย กล่าว

บีโอไอเคาะมาตรการหนุน Local Contentประเดิมกลุ่มอุตสาหกรรม EV และเครื่องใช้ไฟฟ้า บอร์ดบีโอไอ หนุนผู้ประกอบการไทย เห็นชอบม...
27/06/2025

บีโอไอเคาะมาตรการหนุน Local Content
ประเดิมกลุ่มอุตสาหกรรม EV และเครื่องใช้ไฟฟ้า

บอร์ดบีโอไอ หนุนผู้ประกอบการไทย เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) จับมือ ส.อ.ท. สนับสนุนสินค้า Made in Thailand กำหนดสัดส่วนร้อยละ 40 สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและ BEV
ร้อยละ 45 สำหรับ PHEV และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ร้อยละ 15 ได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Supply Chain โลก พร้อมเดินหน้าตั้ง “ทีมตรวจสอบพิเศษ” เร่งตรวจกลุ่มอุตสาหกรรมเสี่ยง พร้อมอนุมัติส่งเสริมลงทุน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบ “มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content)” เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าซื้อวัตถุดิบในประเทศมากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและผลักดันผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Supply Chain ระดับโลก โดยมาตรการนี้ ถือเป็นหนึ่งในชุดมาตรการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเพื่อรองรับโลกยุคใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ควบคู่กับการปกป้องอุตสาหกรรมที่มีความเปราะบาง รักษาระดับการแข่งขันให้เหมาะสม พร้อมลดความเสี่ยงจากมาตรการการค้าของสหรัฐฯ โดยในการประชุมบอร์ดบีโอไอครั้งก่อน ได้ออกมาตรการต่างๆ แล้ว ดังนี้
1. มาตรการส่งเสริมให้ SMEs ไทย ปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
2. การงดส่งเสริมกิจการที่มีภาวะสินค้าล้นตลาด (Oversupply) เช่น เหล็กทรงยาว เหล็กแผ่นรีดร้อน ท่อเหล็ก และกิจการที่มีความเสี่ยงต่อมาตรการการค้าของสหรัฐฯ เช่น การผลิตแผงโซลาร์

3. การเพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณากระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่จะขอรับการส่งเสริม เพื่อป้องกันการสวมสิทธิและให้มีมูลค่าเพิ่มจากการผลิตในประเทศไทยมากขึ้น
4. การกำหนดสัดส่วนการจ้างงานบุคลากรไทยมากกว่าร้อยละ 70 ในกิจการผลิต และกำหนดเงื่อนไขเงินเดือนขั้นต่ำ 50,000-150,000 บาท สำหรับบุคลากรต่างชาติ เพื่อคัดกรองเฉพาะต่างชาติ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Thaivoice.Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์