Cyber spy สายลับไซเบอร์

Cyber spy สายลับไซเบอร์ รับแจ้งข่าวสาร ร้องเรียน อาชญากรรมทางด้านไซเบอร์

19/12/2024
🔴 ตำรวจไซเบอร์จับดีลเลอร์ซิมค่ายดัง ลอบขายซิมผีผ่านลาซาด้า คว้ากำไรงามสืบเนื่องจาก พฤติกรรมการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออ...
21/05/2023

🔴 ตำรวจไซเบอร์จับดีลเลอร์ซิมค่ายดัง ลอบขายซิมผีผ่านลาซาด้า คว้ากำไรงาม
สืบเนื่องจาก พฤติกรรมการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออนไลน์ ตรวจพบ ร้าน “APPSAVE” มีการลงขายซิมการ์ดโทรศัพท์แบบลงทะเบียนในนามบุคคลอื่นพร้อมใช้ ในราคา 38-40 บาท ลงบนเว็ปไซต์ Lazada จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.2 จึงได้สั่งซื้อ จำนวน 1 ซิม โดยถูกส่งมาในรูปของพัสดุ ถูกจัดส่งจาก APPSAVE ในหมู่บ้าน Villaggio 2 ศรีนครินทร์-บางนา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยภายในบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ถูกลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งาน
ต่อมาจึงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และนำทีมสืบสวนพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ในวันที่ 20 พ.ค.66 พบ นายดิเรก แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและนำตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบ ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ถูกลงทะเบียนแล้ว จำนวน 340 ซิม, โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 11 Pro สีทอง 1 เครื่อง, ซองสำหรับบรรจุซิมการ์ด 200 ซอง และพัสดุพร้อมส่งลูกค้า
🔴 เบื้องต้น นายดิเรก ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้ประกอบกิจการ ในรูปแบบบริษัท มีวัตถุประสงค์จำหน่ายอุปกรณ์มือถือ และยังเป็นดีลเลอร์จำหน่ายซิมการ์ดใหม่ ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือชื่อดังรายหนึ่ง และเมื่อได้รับซิมการ์ดมาแล้ว จะทำการลงทะเบียนซิม เพื่อนำออกจำหน่ายให้ ร้านค้าออนไลน์ ลาซาด้า และอีกส่วนหนึ่ง จะซื้อซิมมือสอง จากกลุ่มค้าขายซิมผี ซิมจดทะเบียนแล้ว จากกลุ่มใน Facebook กลุ่มไลน์ แล้วนำมาจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ ในลาซาด้า ด้วยโดยเห็นว่า การจำหน่ายซิมที่จดทะเบียนแล้ว ได้กำไรดีกว่า และลูกค้าชอบซื้อซิมที่จดทะเบียนแล้ว จึงได้ลักลอบจำหน่ายซิมจดทะเบียนดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม นายดิเรก อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า กระทำผิดฐาน "เป็นธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้"
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกรณ์ ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุ

ตำรวจไซเบอร์รวบยูทูบเบอร์สายดาร์ค “ก็แค่ลม NU” คลังแสงออนไลน์ ส่งขายทั่วประเทศเมื่อวันที่ (12 พ.ค.66) ที่กองบัญชาการตำรว...
13/05/2023

ตำรวจไซเบอร์รวบยูทูบเบอร์สายดาร์ค “ก็แค่ลม NU” คลังแสงออนไลน์ ส่งขายทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ (12 พ.ค.66) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม
สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้มีการตรวจสอบการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออนไลน์พบช่องยูทูบ “ก็แค่ลม NU” ปรากฏคลิปวิดีโอสาธิตการใช้อาวุธปืนยาวอัดลมซึ่งใช้กระสุนเหล็กและกระสุนตะกั่วหัวจีบเป็นลูกกระสุน โดยมีผู้ติดตามกว่า 1 แสน 8 หมื่นคน โดยแต่ละคลิปมีผู้รับชมร่วม 2 ล้านครั้ง จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้น บ้านในพื้นที่บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4 จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น โดยมี นายกฤษกร เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวอัดลมไทยประดิษฐ์, ปืนยาวลูกกรด ขนาด .22, อาวุธปืนยาวลูกซอง, ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จึงได้จับกุม นายกฤษกร อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านหลังดังกล่าวใน ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในความผิดฐาน “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 ยังกล่าวอีกว่าบ้านหลังดังกล่าวยังถูกดัดแปลงต่อเติมให้เป็นโรงงานสำหรับผลิตอาวุธปืนยาวอัดลมขนาดใหญ่ พันท้ายลำกล้องอาวุธปืนกระบอกลม กระบอกเก็บเสียงจำนวนมาก พร้อมเพียงแค่รอการนำมาประกอบเป็นอาวุธปืน อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ในการผลิต เครื่องอัดลูกตะกั่วฝาจีบ เครื่องกลึงเหล็ก เครื่องพ่นสีพาวเดอร์โพส ตู้อบสี และอุปกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนมากหลายรายการ
ด้านผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นเจ้าของช่องยูทูบ ช่อง “ก็แค่ลม NU” ผลิตอาวุธปืนยาวอัดลมโดยทำเป็นอาชีพหลักยาวนานกว่า 3 ปี โดยนำมาจำหน่ายราคากระบอกละ 5,500 ถึง 8,000 บาท ส่งขายให้กับลูกค้าหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตกเดือนละกว่า 40 กระบอก รวมเป็นรายได้กว่า 3 แสนบาทต่อเดือน
#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #ปืนเถื่อน #ยูทูบเบอร์ #อาวุธปืน

ตำรวจไซเบอร์กวาดล้างปืนเถื่อนฤดูเลือกตั้งทั่วประเทศรวบผู้ต้องหา 49 รายพร้อมของกลาง 79 กระบอกวันนี้ (12 พ.ค.66) เวลา 11.0...
12/05/2023

ตำรวจไซเบอร์กวาดล้างปืนเถื่อนฤดูเลือกตั้งทั่วประเทศ
รวบผู้ต้องหา 49 รายพร้อมของกลาง 79 กระบอก
วันนี้ (12 พ.ค.66) เวลา 11.00 น. / ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. แถลงข่าวกรณีกวาดล้างกลุ่ม ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ห้วงก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 โดยมี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2, และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมในการแถลงข่าว
สืบเนื่องจาก ชุดสืบสวน บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนขยายผล ภายหลังการจับกุมตัวผู้ต้องหารายสำคัญ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. 66 ที่ผ่านมา โดยมีพฤติการณ์จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในระบบออนไลน์ โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และซุ้มมือปืน
จากการขยายผลพบรายละเอียดของการสั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก จึงนำไปสู่การปิดล้อมตรวจค้นบุคคลและสถานที่เป้าหมาย 65 เป้าหมายทั่วประเทศ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 49 คน พร้อมอาวุธปืนกว่า 79 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนอีกกว่า 3 พันนัด

โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นการป้องรามการก่อเหตุในช่วงก่อนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ที่จะถึงนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ จะขยายผลเพื่อจับกุมผู้กะทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป

#ตำรวจไซเบอร์ #จับกุม #อาวุธปืน #เลือกตั้ง

ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างบริษัทไปรษณีย์ไทยหลอกโอนเงินกว่า 40 ล้านสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้...
10/05/2023

ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อ้างบริษัทไปรษณีย์ไทยหลอกโอนเงินกว่า 40 ล้าน

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นบริษัทไปรษณีย์ไทย โทรศัพท์มาหลอกผู้เสียหายว่ามีพัสดุผิดกฎหมายซึ่งตรวจพบเป็นกัญชาได้ถูกส่งไปที่ประเทศจีน ซึ่งผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จากนั้นได้โอนสายไปยังบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าผู้เสียหายยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการการฟอกเงิน ต้องโอนเงินไปให้ตรวจสอบทุกบัญชี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปทุกบัญชีรวมจำนวน 40 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิด กระทั่งวันที่ 9 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้ร่วมจับกุมตัวนายอานนท์ อายุ 23 ปี ชาวอ่างทอง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยควบคุมตัวได้บริเวณ ถนนอ่างทอง-ป่าโมก ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง

เบื้องต้น นายอานนท์ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่นต่อไป นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า นายอานนท์ ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับอีกจำนวน 3 หมายในความผิดลักษณะเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1
สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง, พ.ต.ต.รังสรรค์ แสงรูจี และ พ.ต.ต.วัฒนชัย ธนกวินวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันดำเนินการจับกุม

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #แก๊งคอลเซ็นเตอร์

"เก่ง ลายพราง"รับทราบข้อกล่าวหาโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ผ่าน TikTokวันนี้ (9 พ.ค.2566) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒ...
09/05/2023

"เก่ง ลายพราง"รับทราบข้อกล่าวหา
โฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ผ่าน TikTok

วันนี้ (9 พ.ค.2566) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. แถลงข่าวกรณี แจ้งข้อกล่าวหานายจิรายุ หรือเก่ง ลายพราง โดยกล่าวหาว่า “ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” โดยมี พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมในการแถลงข่าว ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
จากการสืบสวนหาข่าวในสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง พบผู้ต้องหาได้ประกาศโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้เข้าเล่นการพนันออนไลน์ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ในลักษณะการประกาศจูงใจเพื่อให้มีผู้เข้าไปเล่น จัดโปรโมชันให้เครดิตต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.1 ได้ทำการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านพักของผู้ต้องหา และสถานที่เกี่ยวข้อง โดยทำการตรวจค้น จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ห้วยขวาง กทม., พื้นที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ พื้นที่แม่สาย จ.เชียงราย ผลการตรวจค้นสามารถตรวจยึดของกลางที่มีไว้เพื่อกระทำผิดหลายรายการ ได้แก่ หน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ (CPU), คอมพิวเตอร์ Mac, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก Macbook, โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีธนาคาร โดยในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทางคดียังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงต่างๆ ตามกฎหมาย
เบื้องต้นนายจิรายุ ได้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าได้รับค่าจ้างเดือนละ 250,000 บาท ให้ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ผ่านแอป TikTok และแนบลิงค์สำหรับเข้าเว็บพนันออนไลน์ในคอมเมนต์
ตำรวจไซเบอร์ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และการโฆษณาชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยผิดกฎหมาย เร่งรัดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง โดยผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #เก่งลายพราง #พนันออนไลน์

📌เช็คก่อนโอน....ลดโอกาสการโดนหลอก
06/05/2023

📌เช็คก่อนโอน....ลดโอกาสการโดนหลอก

‼เตือนภัย‼👻มุกเดิมๆ เพิ่มเติมคือเปลี่ยนชื่อหน่วยงานใหม่ หลอกว่าจะคืนเงินประกันให้ 👻👻❌อย่าโลภ❌⚡️การไฟฟ้าไม่มีนโยบายคืนเงิ...
11/04/2023

‼เตือนภัย‼
👻มุกเดิมๆ เพิ่มเติมคือเปลี่ยนชื่อหน่วยงานใหม่ หลอกว่าจะคืนเงินประกันให้ 👻👻
❌อย่าโลภ❌
⚡️การไฟฟ้าไม่มีนโยบายคืนเงินประกันหรือเงินต่างๆทางแอปพริเคชันหรือแพลตฟอร์มต่างๆ
👻 #มิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งว่า ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามมาตรการเร่งด่วน
👉เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์ที่แนบมากับข้อความดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา จากนั้นมิจฉาชีพจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ เริ่มจากสอบถามว่า ได้รับการแจ้งเตือนมาจากช่องทางใด แจ้งผู้เสียหายว่าจะได้รับเงินประกันคืนในอัตราตั้งแต่ 2,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์ที่ใช้ สอบถามว่าโทรศัพท์ที่ใช้งานใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ IOS พร้อมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ เมื่อตอบคำถามเสร็จสิ้น จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรฯ มายังผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แล้วทำการส่งลิงก์ทางไลน์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(ปลอม) อ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ล่าสุด สามารถตรวจสอบปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ได้ในแต่ละวัน โดยมีการขอสิทธิติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก (ไฟล์อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk) มีการหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกับรหัสเข้าถึง หรือทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย รวมไปถึงขอสิทธิในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น
👻โดยในขั้นตอนนี้ มิจฉาชีพจะแสร้งหวังดีสอนผู้เสียหายว่าทำอย่างไร โดยการโทรศัพท์มาแจ้งวิธีการด้วยตนเอง กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง ซึ่งมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย
👉👻การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว ยังคงเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่มิจฉาชีพจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และเปลี่ยนเนื้อหาไปตามวันเวลา และสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งว่าได้รับสิทธิ หรือได้รับเงินคืน ให้อัปเดตข้อมูล โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะหลอกลวงให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้าง ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ หน่วยงาน มิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้ความสมัครใจของเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม มีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
✅อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหลายหน่วยงานได้ประกาศยกเลิกการส่งข้อความสั้น (SMS) หรือส่งอีเมลไปยังประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันการเงิน หรือธนาคารต่างๆ
ทั้งนี้ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชน ไม่ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม ให้ระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ โดยหากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าว ให้แจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด และหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานนั้นๆ ให้ช่วยตรวจสอบทันที เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
​ 📢ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน ดังนี้
1.ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือที่ส่งมาทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษ ให้รางวัล หรือโปรโมชันต่างๆ
2.หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย และมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ขอชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง
3.ตรวจก่อนว่ามาจากหน่วยงานนั้นๆ จริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานนั้นโดยตรง รวมถึงตรวจสอบว่ามีการประกาศแจ้งเตือนการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหรือไม่
4.ระวัง LINE Official Account ปลอม โดยสังเกตบัญชีที่ผ่านการรับรองจะมีสัญลักษณ์โล่สีเขียว หรือโล่สีน้ำเงิน หากเป็นโล่สีเทาหรือไม่มีโล่เลย จะเป็นบัญชีทั่วไปยังไม่ได้ผ่านการรับรอง ต้องตรวจสอบยืนยันให้ดีเสียก่อน
5.ไม่ติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะเป็นโปรแกรมที่รู้จักก็ตาม เพราะอาจเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยหากต้องการใช้งานให้ทำการติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น
6.ไม่อนุญาตให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก หรือไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย ไฟล์นามสกุล .Apk
7.ไม่อนุญาตให้เข้าถึงอุปกรณ์ และควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถืออย่างเด็ดขาด
8.ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงินใดๆ ลงในลิงก์ หรือแอปพลิเคชันในลักษณะดังกล่าวโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรหัสผ่าน 6 หลัก ที่ซ้ำกับรหัสแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ
9.หากท่านติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมแล้ว ให้รีบทำการ Force Reset หรือการบังคับให้อุปกรณ์นั้นรีสตาร์ต (ส่วนใหญ่เป็นการกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มปรับเสียงค้างไว้) ในกรณีเกิดอาการค้างไม่ตอบสนอง หรือเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) หรือปิดเครื่องเพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออก หรือทำการปิด Wi-fi Router
10.อัปเดตระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

ปรึกษา หรือ แจ้งเบาะแส โทร 1441 หรือ 081-866-3000
แจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com

📢 ตำรวจไซเบอร์แจ้งให้ทราบ กฎหมายใหม่ออกแล้ว••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••🚨ติดตาม CCIB ให้ความรู้ รู้ทันค...
22/03/2023

📢 ตำรวจไซเบอร์แจ้งให้ทราบ กฎหมายใหม่ออกแล้ว
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
🚨ติดตาม CCIB ให้ความรู้ รู้ทันความคิดมิจฉาชีพ ด้วยความห่วงใยจาก CCIB บช.สอท.
📱โทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000
แจ้งความออนไลน์ ได้ที่
💻https://www.thaipoliceonline.com/
📲 หรือ แอดไลน์ แชทบอทกับหมวดขวัญดาว ตลอด 24 ชั่วโมง ค่ะ

‼เตือนภัย‼ ฤดูกาลของนักท่องเที่ยว ยิ่งเป็นช่วงปิดเทอมของลูกๆ ผู้ปกครองมักพาบุตรหลานไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดกันมากขึ้น👻จึงท...
21/03/2023

‼เตือนภัย‼ ฤดูกาลของนักท่องเที่ยว ยิ่งเป็นช่วงปิดเทอมของลูกๆ ผู้ปกครองมักพาบุตรหลานไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดกันมากขึ้น
👻จึงทำให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหากิน หลอกลวงประชาชน โดยวิธีการ ตั้งเพจขึ้นมา ก๊อปปี้ภาพจากรีสอร์ทจริงมาตั้งเพจ รับจองที่พักราคาพิเศษ ทั้งยังมีที่พักที่กำลังสร้างใหม่ที่ทันสมัยโดยเอารูปที่พักจริงที่สวยๆระดับ5ดาว มาทำเพจใหม่ เพื่อล่อตาล่อใจเหยื่อ
ดังนั้น ก่อนโอน จองที่พักทุกครั้ง ให้ระวังนิดนึงนะคะ
ก่อนอื่นเลย
👉ดูความน่าเชื่อถือของเพจนั้น ว่ามีผู้ติดตาม สมเหตุสมผลหรือไม่
👉โทรเบอร์ของโรงแรม สอบถามรายละเอียด ให้ชัดเจนก่อน
👉เข้าแอ๊ป google street view เพื่อดูพิกัดของที่พักนั้น มีจริงหรือไม่
👉เลขบัญชีที่จะโอนจอง ดูตรงกับเจ้าของโรงแรมหรือที่พักมั้ย
หรือจะให้ละเอียด ก็ขอดูใบประกอบการที่พักด้วยเลย ว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่
เพื่อความปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อนะคะ
☠️มิจฉาชีพมันหาช่องทางหากินต่างๆ มาหลอกกันมากมายหลากหลายวิธี โปรดระวังการตกเป็นเหยื่อเสียเงินฟรีๆ ดังนั้นก่อนจะจ่ายเงินทำอะไร เช็คให้ดี ตั้งสติ ขี้สงสัย อย่าเชื่อใจคนอื่นง่ายๆ นะคะ
---------------------------------------------------------
ติดตาม PCT POLICE เพื่อรู้ทันความคิดของโจรออนไลน์
ปรึกษา หรือแจ้งเบาะแส โทร 1441 หรือ 081-866-3000
แจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com
---------------------------------------------------------

🚧 ระวัง! รับจ้างเปิดบัญชีม้า = บัญชีโจร📌มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับที่มา : กลุ่มงานป้...
18/03/2023

🚧 ระวัง! รับจ้างเปิดบัญชีม้า = บัญชีโจร

📌มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา : กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.ตอท.

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
🚨ติดตาม CCIB ให้ความรู้ รู้ทันความคิดมิจฉาชีพ ด้วยความห่วงใยจาก CCIB บช.สอท.
📱โทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000
แจ้งความออนไลน์ ได้ที่
💻https://www.thaipoliceonline.com/
📲 หรือ แอดไลน์ แชทบอทกับหมวดขวัญดาว ตลอด 24 ชั่วโมง ครับ

ที่อยู่

กรุงเทพ
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Cyber spy สายลับไซเบอร์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์