ชี้เบาะแสให้โหนกระแส

ชี้เบาะแสให้โหนกระแส เพื่อรวบรวมข่าวนำไปให้โหนกระแส

05/12/2023

ทีมฮอยต์ : พ่อที่เข็นลูกชายลงรายการวิ่งมาแล้วกว่าพันครั้ง
มาราธอน คือการแข่งขันวิ่งระยะยาวที่นักวิ่งต้องอาศัยทั้งพลังกาย พลังใจ และการเตรียมพร้อมอย่างดีที่สุด ลำพังการวิ่งมาราธอนคนเดียวก็ยากที่จะเอาชนะความเหนื่อยล้าและพาตัวเองไปถึงเส้นชัยที่ 42.195 กิโลเมตร แล้วถ้าต้องวิ่งไปด้วยและต้องเข็นคนอื่นไปด้วย ความยากจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน?
แต่นี่คือสิ่งที่ ดิค ฮอยต์ (Dick Hoyt) สุดยอดคุณพ่อทำมาตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี เพื่อสานความฝันของลูกชายให้เป็นจริงให้ได้
ปี 1962 ดิครับรู้ข่าวอันน่าเศร้าจากหมอว่า ริค ฮอยต์ (Rick Hoyt) ลูกชายที่เพิ่งเกิดของเขาจะเป็นอัมพาต เพราะมีภาวะขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ริคจะไม่สามารถบังคับอวัยวะที่อยู่ต่ำลงไปกว่าคอได้ และต้องใช้ชีวิตบนเตียงอย่างเดียวดายด้วยการนอนเป็นผัก หลายคนแนะนำให้ดิคส่งริคไปที่ศูนย์พักพิงเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อดีกว่า แต่ดิคและ จูดี้ ภรรยาของเขากลับปฏิเสธข้อเสนอนั้น “พวกเราร้องไห้กันนิดหน่อย แต่ก็ตัดสินใจแล้วว่า ไม่มีทาง เราจะไม่ทิ้งเขา เราจะพาเขากลับบ้าน”
เด็กชายริคได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ๆ แม้ริคจะไม่สามารถขยับร่างกายได้ แต่พ่อแม่ของเขาเชื่อว่าเด็กคนนี้จะเติบโตมามีสติปัญญาดี สังเกตจากแววตาใส ๆ ที่ดูจะสนอกสนใจบทสนทนาของทุกคนในบ้าน พวกเขาค่อย ๆ ใช้เวลาในการสอนริคให้รู้จักตัวอักษรและวิธีจดจำคำศัพท์ แน่นอนว่าต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทน แต่ในที่สุดริคก็ส่งสัญญาณว่าเขาสามารถจำคำศัพท์และวิธีอ่านเขียนได้
ตอนริคอายุ 12 ดิคและจูดี้มอบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งให้เขา มันเป็นคอมพิวเตอร์พิเศษที่ต่อแป้นพิมพ์จากหน้าจอมาไว้ที่ด้านหลังศีรษะ เพื่อให้ริคสามารถขยับคอและบังคับหัวให้กดลงไปบนแป้นพิมพ์ เพื่อส่งข้อความสื่อสารกับครอบครัวเขาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ริคพิสูจน์ให้หลายคนเห็นว่าเขาสามารถอ่านออกเขียนได้จริง ๆ แม้จะขยับร่างกายไม่ได้เหมือนคนอื่นก็ตาม ริคจึงมีโอกาสเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน ก่อนจะเรียนต่อจนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยบอสตัน และได้รับการว่าจ้างให้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยหลังจบการศึกษา
เย็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิปี 1977 จู่ ๆ ริคก็ใช้คอมพิวเตอร์ส่งข้อความบอกพ่อว่า เขาอยากเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนเพื่อช่วยเหลือนักกีฬาที่ประสบอุบัติเหตุและกลายเป็นอัมพาต ข้อความนี้คงไม่ดูเป็นเรื่องแปลกอะไรเลย ถ้าริคไม่ได้เป็นเด็กที่ใช้ชีวิตบนรถเข็นมาตลอด
“เขากลับมาบ้าน แล้วก็บอกผมว่า ‘พ่อครับ ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรสักอย่าง ผมอยากทำให้เขารู้ว่าชีวิตมันยังไปต่อได้แม้ว่าจะพิการ ผมอยากร่วมแข่งในรายการนี้’”
แม้จะเป็นงานวิ่งการกุศลที่มีระยะทางเพียง 5 ไมล์ แต่ปัญหาคือดิคไม่ใช่นักวิ่ง แม้จะเคยมีอาชีพเป็นทหารในกองทัพอากาศ แต่เขาเป็นเพียงคุณพ่อวัย 40 ที่ไม่ได้มีเวลาออกกำลังกายบ่อยนัก แต่เพราะนี่เป็นครั้งที่แรกที่เขาเห็นลูกชายอยากช่วยเหลือคนอื่น ความรักอันยิ่งใหญ่ที่ดิคมีต่อลูกทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธคำขอนั้นได้ ปี 1977 ดิคจบการลงแข่งวิ่งโดยเข็นลูกชายวัย 15 ปีไปตลอดระยะทาง 5 ไมล์ในการแข่งนั้น
“ทุกคนคิดว่าเราคงไปได้ไม่ไกล และต้องออกจากการแข่งขันก่อน แต่ไม่เลย เราสองคนจบระยะทางทั้งหมดนั่น และเข้าเส้นชัย” ดิคบอกว่าเขาภูมิใจมาก และคิดว่าคงเป็นความสำเร็จครั้งหนึ่งที่ลูกชายเขาจะจดจำเอาไว้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการแข่งครั้งนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งวิ่งอีกมากมายนับพันรายการ เพียงเพราะประโยคเดียวที่ริคบอกกับเขาหลังจบการแข่งขันว่า “พ่อครับ ตอนที่ผมแข่งวิ่ง ผมรู้สึกเหมือนไม่ใช่คนพิการ”
แม้ตลอดการแข่งขัน คนที่ออกแรงวิ่งจะเป็นฝ่ายพ่อ แต่ริคกลับรู้สึกเหมือนเป็นร่างกายของเขาเองที่กำลังขยับ “เขาเรียกตัวเองขณะวิ่งว่า Free bird เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เขารู้สึกว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เหมือนคนอื่น ๆ” ดิคจึงสัญญากับตัวเองว่าเขาจะต้องทำให้ลูกชายได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้อีกให้ได้ และนั่นก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ชีวิตของดิคและริคเปลี่ยนไปตลอดกาล
“หลังจบการแข่งครั้งแรก ผมแทบเดินไม่ได้ไป 2 อาทิตย์ ผมคิดว่าถ้าอยากจะลงแข่งต่อ คงต้องทำอะไรสักอย่างกับรถเข็นของลูก” ด้วยเหตุนี้ ดิคจึงสั่งทำรถเข็น 3 ล้อแบบพิเศษที่จะไม่ลื่นไถลออกนอกทิศทาง และเหมาะกับการบังคับจากการเข็นทางด้านหลัง พวกเขาเริ่มต้นจากการลงแข่งในสนามมาราธอนรายการต่าง ๆ ก่อนจะตัดสินใจขยับไปสมัครเข้าร่วมงานแข่งวิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด นั่นคือ บอสตัน มาราธอน (Boston Marathon) แม้ทีแรกผู้จัดงานจะคัดค้านการเข้าร่วมของพวกเขา แต่สุดท้ายดิคและริคก็ได้ลงแข่ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานพ่อลูก ‘ทีมฮอยต์’ ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของบอสตัน มาราธอน หลังจากนั้น
ตลอดระยะเวลา 37 ปี พ่อลูกทีมฮอยต์เข้าร่วมการแข่งขันมาแล้วกว่า 1,130 รายการ เป็นมาราธอนมากกว่า 70 ครั้ง ไตรกีฬากว่า 200 ครั้ง พวกเขายังเคยลงแข่งในสนาม Ironman Triathlons ที่ นอกจากต้องวิ่งเป็นระยะทางกว่า 26 ไมล์แล้ว ยังต้องปั่นจักรยาน แถมต้องว่ายน้ำต่อไปอีก 2.4 ไมล์ เพื่อพิชิตการแข่ง
แม้จะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยจักรยานสั่งทำพิเศษที่เสริมเบาะนั่งของริคไว้ด้านหน้า และห่วงยางที่ดิควางร่างของริคลงไปก่อนจะว่ายน้ำและลากลูกชายไปจนถึงฝั่ง ในที่สุดทีมฮอยต์ก็สามารถพิชิตการแข่งขันนั้นมาได้ ดิคให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งว่า ไม่ใช่แค่มีใจสู้แล้วจะสามารถทำได้ แต่ยังต้องอาศัยการฝึกซ้อม
ดิคตื่นมาซ้อมวิ่งโดยเข็นรถเข็นที่บรรจุถุงปูนซีเมนต์ทุก ๆ วัน และทำแบบเดียวกันกับจักรยาน และห่วงยางที่เขาต้องใช้แข่ง นี่จึงไม่ใช่ชัยชนะที่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นการเตรียมตัวอย่างดี สองพ่อลูกยังอึดถึงขั้นเคยลงแข่งในการวิ่งและปั่นจักรยานข้ามสหรัฐอเมริกาเป็นระยะทางกว่า 3,745 ไมล์ภายใน 45 วันมาแล้วด้วย
แม้จะผ่านการแข่งขันมาอย่างโชกโชน แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังเวลาผ่านไปเกือบ 40 ปี ร่างกายของดิคที่แข็งแรงก็ค่อย ๆ ร่วงโรยตามกาลเวลา ดิคในวัย 73 และริคในวัย 52 สองพ่อลูกที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย ตัดสินใจว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่จะจบตำนานของทีมฮอยต์ลงเสียที พวกเขาตกลงกันว่าจะให้การแข่งขันบอสตัน มาราธอน ปี 2013 สนามที่แจ้งเกิดชื่อของพวกเขา เป็นสนามสุดท้ายที่จะลงแข่ง
แต่เพราะการแข่งขันในปีนั้นเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างการวางระเบิดบริเวณหน้าเส้นชัยของการแข่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นักวิ่งมากมายต้องออกจากการแข่ง รวมถึงพ่อลูกทีมฮอยต์ที่เพิ่งจะวิ่งไปได้ราว 23 ไมล์ ดังนั้นเขาสองคนจึงกลับมาใหม่ในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน ปี 2014 แม้ทั้งคู่จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนบ้าง แต่ทีมฮอยต์ก็สามารถทำเวลาได้ 7:37:33 ชั่วโมง ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่น่าพอใจในการแข่งวิ่งมาราธอนครั้งสุดท้ายของพวกเขา
หลังจากนั้น แม้ดิคและริคจะไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังคงสนิทชิดเชื้อและไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อย ๆ สองพ่อลูกทีมฮอยต์ได้กลายมาเป็นตำนานและสัญลักษณ์ของความรัก ความพยายาม ความอดทน และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจากครอบครัวที่คงหาไม่ได้ง่าย ๆ
ดิค ฮอยต์ เสียชีวิตลงในวันที่ 17 มีนาคม 2021 แต่สิ่งที่ ‘ทีมพ่อลูก’ ทีมนี้ยืนหยัดที่จะทำนั้น คงจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคนอีกหลายคนเป็นเวลายาวนาน
ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามริคว่า ถ้าเขาสามารถมอบอะไรก็ตามกับพ่อของเขาได้ เขาจะอยากให้อะไร ริคตอบว่า “ถ้าเป็นไปได้ ขอให้พ่อของผมได้มีโอกาสนั่ง แล้วให้ผมมีโอกาสเข็นเขาสักครั้งก็คงดี”
เรื่อง: พาขวัญ ศักดิ์ขจรยศ
หมายเหตุ: เนื้อหานี้เผยแพร่เมื่อ 2020
#พ่อ #วันพ่อ #วิ่ง #วิ่งมาราธอน #5ธันวาคม #5ธันวา

10/08/2023

รับสูงสุดถึง 800 THB ด้วยการเข้าร่วมข้อเสนอพิเศษสุดสัปดาห์

เสร็จงาน....
06/06/2023

เสร็จงาน....

07/05/2023

เรียนท่านผู้บริหารองกรค์
เนื่องจากเราพบว่าพนักงานชุดขาวที่ยามเรียกกันว่า05หรือ08และยามชุดหมวกเบเร่ต์ ที่มักจะอ้างว่าพวกเขามีอำนาจสูงสุดในสนามบินในกะกลางคืน เราพบว่าพวกเขามีการปฎิบัติการที่มิได้ห่วงภาพลักษ์ของสนามบินถึงสามครั้งในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา (ครั้งแรกสั่งพระให้ส่งบัตรประจำตัวให้ตรวจ แต่พอพระจะบันทึกคลิปไว้เขากลับปฎิเสธการกระทำที่ทำไปแล้วทั้งหมด.ครั้งที่สองปลุกพระที่เพิ่งหลับด้วยความอ่อนเพลียขึ้นมาสอบสวนและถูกพระบันทึกคลิป.ครั้งที่สามสอบสวนพระที่นั่งรอรถสนามบินรอบเช้าอย่างละลาบละล้วง) มันจึงดูน่าสงสัยว่าเขาทำเพื่อลัทธิใดลัทธิหนึ่งหรือไม่ ( ลัทธิไม่ให้พระออกนอกเขตเพราะหวงพื้นที่บิณทบาตร แต่จริงๆแล้วมีพื้นที่อีกมากที่พระต่างเขตสามารถรับบาตรโดยไม่กระทบพระท้องถิ่นได้) เราจึงอยากแนะนำให้ท่านสร้างสปายแทรกใน
ทุกการปฎิบัติการของพวกเขาในเวลาที่เขามีปฎิสัมพันธ์ต่อผู้มาใช้บริการ
เพราะมันเสี่ยงต่อชื่อเสียงของประเทศชาติในอนาคตมากๆ และเราขอทำนายว่าต่อไปน่าจะมีการเก็บหลักฐานการกระทำของยามเหล่านี้โดยเทคโนโลยีที่คล้ายกับที่ตำรวจใช้ และเมื่อหลักฐานเหล่านี้ออกสู่สายตานานาชาติ ก็จะมีคำถามตามมาว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนของพระสงฆ์หรือไม่ เพราะควรจะจับพระสงฆ์เมื่อพบว่ากระทำผิดเท่านั้น มิใช่บังคับให้พระสงฆ์บอกทุกอย่างที่พวกเขาต้องการรู้ และเมื่อการกระทำนี้ถูกสังคมนานาชาติรับรู้มันก็จะ กระทบภาพลักษ์ของ กรม รัฐ ท่าอากาศ และประเทศอย่างมาก ทั้งหมดนี้เกิดจากที่ พวกเขาดูเหมือนด้อยมาตรฐานด้อยทัศนคติมากๆ
และจุดที่น่าสนใจในเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือ พวกเขามีการกระทำที่คุกคามที่ผิดกฎหมาย ( เขาจึงปฎิเสธการกระทำที่ทำแล้วเมื่อเห็นกล้องบันทึก และในครั้งที่กล้องบันทึกไว้ได้ ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาไกล่เกลี่ย)และดูละลาบละล้วงดูด้อยค่าเพ่งโทษผู้มาใช้บริการโดยไม่กลัวจะถูกเก็บหลักฐาน แต่เมื่อรู้ว่ากำลังถูกเก็บหลักฐานก็พูดกลบเกลือนปฎิเสธต่อหน้าสื่อบันทึกอย่างไม่ละอายทั้งที่สองฝ่ายก็รู้ดี ว่าที่ผ่านมาเมื่อครู่ได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
จึงอยากขอแนะนำว่า เจ้าหน้าที่05ก็ดี08ก็ดีควรคงไว้แต่เจ้าหน้าที่ผู้อวุโสที่มีอายุหลักเลขห้าขึ้นไปจะดีกว่า เพราะผู้นำของผู้ก่อเหตุอายุน้อยเกินไปที่จะมีวิจารณญาณพอที่จะควบคุมดูแลทั้งสนามบินในยามวิกาล

จึงเรียนมาให้ทราบเพื่อพิจารณา

เรื่องเพี้ยนๆในศาสนานี้คือพระอริยะที่เดินทางสร้างประโยชน์ท่านถูกสังคมข่มเหงทุกวันคุณล่ะวันนี้กระทำอย่างไรกับพระเดินทางบ้...
18/04/2023

เรื่องเพี้ยนๆในศาสนานี้คือ
พระอริยะที่เดินทางสร้างประโยชน์
ท่านถูกสังคมข่มเหงทุกวัน
คุณล่ะวันนี้กระทำอย่างไรกับพระเดินทางบ้าง

19/03/2023

มีสุดยอดพระอริยะที่สละชีวิตเพื่อกอบกู้ศาสนาอย่างแท้จริง มาเดินในกรุงเทพนานแล้วครับ แต่ขบวนการห่วงลาบในท้องที่ชงเรื่องป้ันเรื่องจนชาวบ้านละแวกที่ท่านโปรดสัตว์อยู่คิดว่าท่านเป็นพระเลวเป็นพระปลอม ทำไงได้จะหาชาวบ้านรู้จักธรรมที่มาจากจิตอริยะมีง่ายๆที่ไหนกัน
ป.ลผมไม่ได้อวยหลวงพ่อหรอกไม่งั้นใช้คำว่าอรหันต์แทนคำว่าอริยะไปแล้ว ถ้าถามว่าท่านเป็นใครอยู่วัดไหน ผมก็จะไม่บอก กลัวโดนตู่ว่าม้าครับ

07/03/2023

ซามาเนีย พลาซ่า ห้างจีนขนาดใหญ่ ที่จะมาตัดวงจร พ่อค้าคนกลางในไทย /โดย ลงทุนแมน
หลายปีมานี้ สินค้าจากจีนถูกนำเข้ามาขายในไทยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าชาวจีนที่เปิดหน้าร้านออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce แล้วส่งสินค้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากจีน

หรือผู้ประกอบการชาวไทยที่สั่งสินค้าจากจีน และนำมาขายต่อให้คนไทยด้วยกัน แล้วกินกำไรจากส่วนต่างราคา

แต่ภาพเหล่านี้อาจกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อในวันนี้ มีการมาของ “ซามาเนีย พลาซ่า” ศูนย์ค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนจำนวนมากมาขายให้กับคนไทยโดยตรงถึงที่

ซึ่งไม่ใช่แค่หน้าร้าน แต่ยังมีโกดังสินค้า ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่โรงแรมเปิดให้บริการอยู่ในโครงการ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว

แล้ว ซามาเนีย พลาซ่า มีรายละเอียดอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ซามาเนีย คือผู้พัฒนาโครงการศูนย์ค้าส่งขนาดใหญ่ ที่มีโครงการอยู่ในหลายประเทศทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สำหรับ ซามาเนีย พลาซ่า ประเทศไทย เป็นโครงการศูนย์การค้าครบวงจรขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

โดยโครงการนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมดมากกว่า 220 ไร่ หรือใหญ่กว่าเซ็นทรัลเวิลด์ ถึง 3 เท่า

ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ ซามาเนีย พลาซ่า ไม่ได้มีแค่ หน้าร้านให้ผู้ประกอบการมาเช่าขายของ แต่ยังมี
- คลังสินค้าไว้ให้บริการแก่ผู้เช่า
- ห้องไลฟ์สดไว้ให้ผู้ประกอบการใช้ไลฟ์สดขายของ
- ที่พักสำหรับพนักงานและอะพาร์ตเมนต์
- โรงแรมและอาคารสำนักงาน

สำหรับในส่วนของสินค้านั้น ซามาเนีย พลาซ่า ประเทศไทย จะมีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือช่าง เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์ไอที อะไหล่ยนต์ เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่เครื่องประดับ

โดยนอกจากขายผ่านหน้าร้านแล้ว ยังมีวางขายในช่องทางออนไลน์อีกด้วย

แต่จุดเด่นของซามาเนีย พลาซ่า ก็คือเรื่องของราคาสินค้าที่มีราคาถูก ตามแบบฉบับของศูนย์ค้าส่ง

อีกทั้งรูปแบบของโครงการที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการจีน สามารถเข้ามาขายสินค้าในไทยได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง

ทำให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้ถูกกว่าผู้ประกอบการชาวไทย ที่ต้องนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง

และอีกเหตุผลหนึ่งคือ สินค้าจากจีนที่นำเข้ามาขายในไทย ถ้าราคาไม่ถึง 1,500 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม

ดังนั้นจึงทำให้ราคาสินค้าในซามาเนีย พลาซ่า ถูกกว่าสินค้าของผู้ประกอบการชาวไทย ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้การมีโกดังสินค้าให้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้ามาเก็บไว้ในโกดังก่อนได้ จึงสามารถส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ทันที ไม่ต่างจากผู้ประกอบการชาวไทย

ยิ่งไปกว่านั้น ทางโครงการยังมีห้องไลฟ์สด ไว้ให้พ่อค้าแม่ค้ามาไลฟ์สดขายของกันได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นอาวุธเด็ดของการขายของออนไลน์ในเวลานี้

จะเห็นได้ว่า ซามาเนีย พลาซ่า เป็นโครงการศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ ที่จะส่งผลกระทบต่อคนไทยเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ผู้บริโภค แต่รวมไปถึง

- ผู้ประกอบการชาวไทยที่นำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย
- ผู้ผลิตสินค้าชาวไทย
- แพลตฟอร์ม E-Commerce

ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไป ว่าสุดท้ายแล้ว แต่ละฝ่ายจะปรับตัวกันอย่างไร และจะอยู่รอดกันได้หรือไม่

แต่ที่แน่ ๆ ตลาดนำเข้าสินค้าจีน ได้ยกระดับการแข่งขันขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเรียบร้อยแล้ว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.samanea.com/
-https://bangkok.samanea.com/
https://www.samanea.com/wp-content/uploads/2022/04/Samanea_Corporate_Brochure.pdf
-https://www.facebook.com/SamaneaTH/
-https://www.customs.go.th/cont_strc_download_with_docno_date.php?lang=th¤t_id=142329324146505f46464b47464b49

26/01/2023
24/01/2023

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ชี้เบาะแสให้โหนกระแสผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท