02/10/2025
BKKIFF 2025: เมื่อ ‘แบรนด์’ กับ ‘หนัง’ ไม่ใช่แค่การ Tie-in
ถอดรหัสกลยุทธ์ ‘Movie Marketing’
ที่พาหนังและแบรนด์ไปได้ไกลกว่าเดิม
ในยุคที่โลกการสื่อสารเต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย การสร้างแบรนด์ให้เข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคกลายเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง แต่ ‘ภาพยนตร์’ กลับกลายมาเป็นสื่อที่ทรงพลังและสามารถสร้างคุณค่าให้แบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ
เวทีเสวนา ‘FILM IS FUTURE’ by BrandThink ใน Session 3: When Movies Move Brand Impact เมื่อ ‘แบรนด์เจอหนัง’ คือการสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ’ ได้ชวนเปิดมุมมองและโอกาสใหม่ๆ ของการสื่อสาร โดยมีสองผู้เชี่ยวชาญมาร่วมไขคำตอบ นำโดย ไผ่-ภาคย์ วรรณศิริ (CCO, VML Thailand) จากมุมมอง Creative Agency และ น้ำหวาน-ชวนา กีรติยุตอมรกุล (Chief Strategy and Services Officer, BrandThink) จากมุมนักกลยุทธ์ผู้สร้างแบรนด์
[ ทำไม ‘หนัง’ จึงเป็นคอนเทนต์ที่ทรงพลังกับผู้บริโภคในยุคนี้]
คุณน้ำหวานมองว่า ‘ภาพยนตร์’ คือฟอร์แมตที่ดีในการทำการตลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คอนเทนต์ไทยมีความหลากหลาย และออกสู่สายตาโลกเยอะขึ้นมาก ซึ่งหัวใจของการสื่อสารคือการเข้าไปอยู่ใน ‘ความเชื่อและประสบการณ์’ ของผู้บริโภค ซึ่งภาพยนตร์คือภาพสะท้อนของชีวิต ผู้คน และประสบการณ์ ทำให้แบรนด์สามารถหาโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของความคิดและความเชื่อเหล่านั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ในขณะที่คุณไผ่เสริมว่า เมื่อแบรนด์เข้ามาอยู่ในภาพยนตร์ มันคือ ‘Cultural Verhical’ ที่สามารถดึงคนดูให้เข้ามามีส่วนร่วมได้ ต่างจากโฆษณาแบบดั้งเดิมที่มักจะผลักผู้ชม และถูกปฏิเสธจากผู้ชมเพราะมองว่ามันคือการขายของ ซึ่งธุรกิจที่มองแต่ยอดขายระยะสั้นจะไม่ยั่งยืน แต่การร่วมมือกับภาพยนตร์จะทำให้แบรนด์เข้าถึง ‘ความเชื่อ’ และ ‘คอมมูนิตี’ ของผู้คนได้จริง
[การตลาดยุคใหม่: ไม่ใช่แค่การ Tie-in แต่คือการแชร์ ‘คุณค่า’ ร่วมกัน]
ภาพจำของการตลาดในหนังที่หลายคนคุ้นเคยคือการ Tie-in หรือ Product Placement ที่บางครั้งรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด จนสร้างความรู้สึกลบให้ผู้ชมและทำให้คนทำหนัง แต่ทั้งสองท่านชี้ว่า จริงๆแล้ว การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์และหนังสามารถไปได้ไกลกว่านั้น นั่นคือการสร้าง ‘คุณค่าร่วม’ ระหว่าง 3 ส่วนสำคัญ คือ ตัวหนัง, ผู้ชม และแบรนด์ เมื่อแบรนด์เข้าไปอยู่ในหนังที่ผู้ชมรักและให้คุณค่า แบรนด์ก็จะได้รับคุณค่านั้นไปด้วย ซึ่งเป็นการสร้าง Brand Love และต่อยอดไปสู่การสร้าง Culture ไม่ใช่แค่เพื่อสร้างยอดขายในระยะสั้น
แต่สิ่งที่ต้องทำคือการตั้งเป้าหมายทางการตลาด (KPI) ร่วมกัน เช่น การสร้าง Awareness ผ่านยอดผู้ชมภาพยนตร์, การสร้างความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ ที่ต่อยอดไปสู่การสร้างยอดขายผ่านแคมเปญหรือโปรโมชันที่ทำควบคู่กับหนัง เป็นต้น
[แนวทางการทำงานร่วมกัน: เมื่อหนังและแบรนด์มองเป้าหมายเดียวกัน]
1 - มุมคนทำหนัง: ต้องเริ่มจากการมองว่าภาพยนตร์ของตนมีสินทรัพย์หรือองค์ประกอบอะไรที่สามารถนำมาต่อยอดเพื่อสร้างบทสนทนาให้กับแบรนด์ได้บ้าง
2 - มุมแบรนด์: สามารถใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องตัวตน, วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) หรือวิสัยทัศน์ (Vision) ได้อย่างลึกซึ้ง
3 - หาพาร์ตเนอร์ที่ใช่ (Co-Branding): การใช้เงินทุนของแบรนด์ในการโปรโมตจะช่วยให้หนังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง การหาพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยต่อยอดความสำเร็จ
4 - ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์: ร่วมมือกันสร้างคอนเทนต์ที่ Spin-off ออกไป เพื่อให้เกิด Conversation หรือการแชร์แฟนด้อมระหว่างแบรนด์และหนัง เพื่อขยายฐานแฟนคลับไปพร้อมๆ กัน
[ความ ‘ท้าทาย’ ของ ‘ศิลปะ’ กับ ‘มาร์เก็ตติ้ง’]
คุณไผ่เล่าจากประสบการณ์ในฐานะครีเอทีฟว่า ความท้าทายสำคัญคือ ‘งบประมาณ’ หนังหลายเรื่องมีศักยภาพ แต่ขาดงบโปรโมต และอีกกำแพงหนึ่งคือ
‘ทัศนคติ’ ของคนทำหนังที่มักมองหนังเป็นงานศิลปะ แต่ไม่ได้มองในมุมการตลาดตั้งแต่จุดเริ่มต้น ทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไป
ในขณะที่คุณน้ำหวานมองว่า ความท้าทายของฝั่งคนทำหนังคือ ‘การขายความเชื่อ’ เพราะเป็นการขายโปรเจกต์ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง จึงต้องหาแบรนด์ที่มีภาพและความเชื่อในทิศทางเดียวกันให้เจอ
[ทิศทางของ Movie Marketing ในอนาคต]
คุณไผ่มองเห็นทิศทางที่มาร์เก็ตติ้งจะเข้ามามีส่วนร่วมกับภาพยนตร์มากขึ้นแน่นอน ตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนบท และในยุคที่ AI เริ่มมีบทบาท การที่แบรนด์จับมือกับ Storytelling ที่มีความเป็นมนุษย์จะยิ่งทรงคุณค่ามากขึ้น
และในส่วนของคนทำหนัง การสร้าง ‘Experiential Marketing’ หรือการดึงประสบการณ์จากหนังออกมาสู่ชีวิตจริงจะเป็นสิ่งที่เห็นมากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่ดีในการที่แบรนด์จะเข้ามามีส่วนร่วม
ทั้งสองท่านกล่าวสรุปหัวใจของ Movie Marketing ว่ามันคือ ‘การเปิดใจ’ เพื่อหาจุดลงตัวร่วมกัน คนทำหนังอาจต้องลองมองหนังในฐานะผลิตภัณฑ์มากขึ้น (Product) เพื่อจะเห็นโอกาสใหม่ๆ ในขณะที่แบรนด์เองก็ต้องพร้อมที่จะรับฟัง สนับสนุนและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันทั้งแบรนด์และหนังให้ได้ประโยชน์ร่วมกันมากที่สุด
#เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร #ปอนด์กฤษดา #นุชี่อนุชา #ต้องเตธิติ #ศราวุธ #แก่พันธุ์ทาง