
14/08/2025
เมืองราชบุรี “รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย - ควบคู่บังคับใช้กฎหมาย” เดินหน้าภารกิจทีมอำเภอเสี่ยงต้นแบบ ลดอุบัติเหตุทางถนน
ความท้าทายในการลดอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน คือลดการเกิดเหตุในพื้นที่ “อำเภอเสี่ยงสูง” ซึ่งทั่วทั้งประเทศไทยมีอยู่ 222 อำเภอ (จากทั้งหมด 878 อำเภอ) เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มากถึง 60% เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านี้
อ.เมือง จ.ราชบุรี นับเป็น 1 ในอำเภอเสี่ยงสูง ที่ได้ดำเนินมาตรการลดและป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ และได้รับคัดเลือกเป็นทีมอำเภอเสี่ยงต้นแบบ จากการเดินหน้าตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยที่เพิ่มมากขึ้น 31.4% จาก 7,490 ราย ในปี 2566 เพิ่มเป็น 10,931 ราย ในปี 2567: 10,931 ราย (เพิ่มขึ้น 31.4%) ทำให้เพิ่มอัตราสวมหมวกได้ถึง 60.6%
ขณะที่ ในภาพรวมสามารถลดผู้เสียชีวิตลง 4 ราย จาก 39 ราย ในปี 2566 เป็น 35 ราย ในปี 2567
‘พ.ต.อ.นฤดม มารศรี’ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี บอกว่า ก่อนเริ่มดำเนินมาตรการลดอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น พื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี นับว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนค่อนข้างสูง เฉลี่ยเดือนละ 20 ราย หรือประมาณ 250 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าการลดอุบัติเหตุนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ไม่ใช่เพียงหน้าที่ของตำรวจ แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงขนส่ง ฝ่ายปกครอง ฝ่ายสาธารณสุข และฝ่ายการศึกษา ที่ผ่านมาได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้น มาให้ข้อมูลและประสานการทำงานร่วมกัน ทั้งการแก้ไขจุดเสี่ยงและวางมาตรการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยง
สำหรับในกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญนั้น พ.ต.อ.นฤดม กล่าวว่า แม้จะมีคำพูดว่าในโรงเรียนเป็นหน้าที่ของคุณครู นอกโรงเรียนเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ก็ได้มีการโครงการร่วมกันคือ “ปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ” และ “สวมหมวกนิรภัย 100%” โดยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำหน้าโรงเรียน 2 สัปดาห์ เพื่อเก็บข้อมูลการสวมหมวกกันน็อก และการทำ พ.ร.บ. เป้าหมายคือการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และทำให้เกิดภาพจำในสังคม ทั้งการสวมหมวกกันน็อกและการทำ พ.ร.บ. 100%
ด้าน ‘พ.ต.ท.ณัฎฐ์ ชูแก้ว’ รอง ผกก.จร.สภ.ราชบุรี กล่าวเสริมว่า โครงการที่เข้าไปดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง ซึ่งปัจจุบันดำเนินการมาถึงเฟสที่ 3 รวม รร.ที่เข้าร่วม 6 แห่ง มุ่งเน้นนักเรียนผู้ปกครองในพื้นที่ อ.เมือง สวมหมวกกันน็อกเมื่อขับขี่ เพราะช่วยลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ ส่วนการทำ พ.ร.บ. 100% นั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะได้รับการเยียวยา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ตำรวจภูธรภาค 7 เริ่มต้นนำร่อง ก่อนมีการขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ
ขณะเดียวกัน สภ.เมืองราชบุรี ยังได้มีการดำเนินโครงการถนนปลอดภัยเมืองราชบุรี เริ่มต้นในปี 2566 กำหนด “คลีนนิ่งโซน” สั่งการให้ สภ.ในสังกัดดำเนินการ นำร่องถนนไกรเพชร ความยาว 700 เมตร มีแยกไฟแดง 4 จุด (จัดตำรวจประจำอย่างน้อยแยกละ 2 นาย) และมีโรงเรียน 4 แห่ง โดยการดำนเนินงานแบ่งออกเป็น
ระยะประชาสัมพันธ์ มีการพูดคุยกับนายกเทศมนตรี จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เน้นข้อความสื่อสารคนขับและซ้อนมอเตอร์ไซค์ ให้สวมหมวกกันน็อก 100% รวมถึงป้ายเตือนค่าปรับคนขับไม่เกิน 2,000 บาท คนขับปรับสูงกว่า 2 เท่า และป้ายห้ามฝ่าฝืนกฎจราจร ซึ่งในระยะนี้จะเริ่มว่ากล่าวตักเตือนผ่านระบบ PPM และแจกหมวกให้คนที่ไม่ใส่ จากนั้นจะเข้าสู่ระยะดำเนินการ (ควบคุมเข้มข้น) เน้นดำเนินการตามกฎหมาย
“ภายหลังดำเนินมาตรการเข้มข้น สามารถลดจำนวนอุบัติเหตุลงได้ จากก่อนดำเนินการ 25 ราย เหลือเพียง 2 ราย เช่นเดียวกับการสวมหมวกกันน็อก ก่อนดำเนินการไม่ใส่ถึง 258 ราย แต่ภายหลังพบเพียง 31 ราย”
นอกจากนี้ สภ.เมืองราชบุรี ยังได้อาศัยเวทีประชุม อบต. ประจำเดือน สื่อสารงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ร่วมวิเคราะห์และลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทุกเคสที่มีผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ยังได้อาศัยเวทีประชุม อบต. ประจำเดือน สื่อสารงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ร่วมวิเคราะห์และลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทุกเคสที่มีผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เน้นย้ำถึงความท้าทายว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 ปี ในการบรรลุเป้าหมายลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเหลือ 12 ต่อแสนประชาการ แต่ปัจจุบันเรายังห่างไกลเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยทีดีอาร์ไอได้ประมาณการตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การบาดเจ็บและตายจากอุบัติเหตุทางถนน คิดเป็น 5% ของจีดีพีเลยทีเดียว อีกเรื่องที่น่าห่วงคือกลุ่มที่สูญเสียเป็นวัยเจริญเติบโต ท่ามกลางประชากรสังคมไทยที่เกิดน้อยลง
“ในเรื่องการลดและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน หากพูดถึงบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจมองคล้ายว่าเป็นด่านสุดท้ายในการบังคับใช้กฎหมาย แต่ด้วยนิสัยของคนไทยที่ส่วนใหญ่ไม่เคารพกฎหมาย ดังนั้น การดำเนินงานต้องมุ่งเน้นทำอย่างครอบคลุม ทำให้ครบวงจรทุกปัจจัยเสี่ยง ทั้งคน รถ และถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ในการสื่อสารและรณรงค์ให้ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญในการขับขี่เคารพกฎจราจร” นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว
#อำเภอเสี่ยงสูง #อำเภอเมืองราชบุรี #ราชบุรี #อุบัติเหตุทางถนน #ขับขี่ปลอดภัย #ถนนปลอดภัย #สสส #สอจร