หนังสือพิมพ์ตำรวจไทย๒๕๖๐

หนังสือพิมพ์ตำรวจไทย๒๕๖๐ ถูกต้อง​ บริสุทธิ์​ ยุติธรรม​

19/09/2025
หนองคาย -พร้อมรับนักท่องเที่ยวเทศกาลออกพรรษาชมความมหัศจรรย์บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2568 ในค่ำคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน...
19/09/2025

หนองคาย -พร้อมรับนักท่องเที่ยวเทศกาลออกพรรษาชมความมหัศจรรย์บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2568 ในค่ำคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ที่จะถึงนี้


วันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 18.30 น. ที่ บริเวณลานวัฒนธรรมหน้าวัดลำดวน (ลานพญานาคคู่) ริมฝั่งแม่น้ำโขง เทศบาลเมืองหนองคาย นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย,นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย ,นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ,พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองหนองคาย,นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานอุดรธานี ,นายอรรถพร ภักดีสุจริต นายกเทศมนตรีเมืองหนองคายและนายพิเชษฐ์ ตันเทิดทิตย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมรับนักท่องเที่ยวเทศกาลออกพรรษาชมความมหัศจรรย์บั้งไฟพญานาคโลกประจำปี 2568

นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า งานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก เป็นกิจกรรมประเพณีที่สำคัญของชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เท่านั้น และในพื้นที่แต่ละอำเภอมีกิจกรรมที่หลากหลายที่เป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง อาทิ พิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาค, ไหลเรือไฟบูชาพญานาค และ การลอยกระทงกาบกล้วย ซึ่งก็มีเพียงจังหวัดหนองคายเท่านั้นที่มีการลอยกระทง 2 ครั้ง ใน 1 ปี เพื่อสักการะบูชาแม่น้ำโขง และ องค์พญานาคราช ตามความเชื่อ ส่วนไฮไลท์คือการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยมีความเชื่อว่าเป็นการสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ โดยในปีนี้ทางจังหวัดหนองคายได้จัดกิจกรรมพิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาคราช และ กิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายทั้ง 6 อำเภอ ที่ติดแม่น้ำโขง ได้แก่ อำเภอเมืองหนองคาย, อำเภอโพนพิสัย, อำเภอศรีเชียงใหม่, อำเภอสังคม, อำเภอรัตนวาปี และ อำเภอท่าบ่อ ตั้งแต่วันที่ 4-8 ต.ค. 2568 นี้

นายประทีบ อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันที่ 4-8 ตุลาคม 2568 มี 6 อำเภอริมแม่น้ำโขงจะจัดงาน ซึ่งแต่ละอำเภอมีกิจกรรมที่หลากหลายเป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีของชาวจังหวัดหนองคาย อาทิ ขบวนแห่เครื่องสักการะองค์พญานาคและขบวนวัฒนธรรม การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การลอยกระทงกาบกล้วย ลอยกะโป๋ไฟและไหลเรือไฟ การแห่ปราสาทผึ้งทางน้ำแบบโบราณ พิธีรำบวงสรวงองค์พญานาคราช และพิธีเปิดงานพร้อมกัน 4 อำเภอ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00 น. และวันที่ 8 ตุลาคม 2568 จะมีพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ ที่บริเวณพุทธอุทยาน อำเภอโพนพิสัย และจุดชมบั้งไฟพญานาค ขอให้ผู้ที่จะเดินทางมาชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคและมาเที่ยวงานเทศกาลออกพรรษาที่หนองคาย ได้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก

ด้านนายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การท่องเที่ยวในเทศกาลออกพรรษา และ บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2568 จังหวัดหนองคาย นี้ ได้เน้นย้ำเรื่องวางแผนรับรองเตรียมความพร้อมระบบการช่วยเหลือ การรักษา กรณีเกิดอุบัติเหตุ การส่งตัวผู้ป่วย /ผู้บาดเจ็บ ในกรณีฉุกเฉินกับเทศกาลท่องเที่ยวในครั้งนี้ โดยได้จัดหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ ประจำจุดชมบั้งไฟ และกำชับ เน้นย้ำ บุคลากรทางการแพทย์ให้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ส่วน พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เผยว่า ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยและการจราจร จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเรียบร้อย ให้บริการประชาชน พร้อมการสนธิกำลังกับหน่วยงานข้างเคียง ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงภารกิจสำคัญในการจัดการจราจร ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายวางมาตรการจัดการการเดินรถ การระบายรถ การบังคับใช้กฎหมายจราจร การเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงการประชาสัมพันธ์และกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวในห้วงเทศกาลออกพรรษานี้

ในด้าน นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อชมปรากฏการณ์ดังกล่าวจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสัมผัสปรากฏการณ์แห่งศรัทธาและร่วมกิจกรรมในงานประเพณีออกพรรษาและ บั้งไฟพญานาคโลก ซึ่งทุกท่านจะได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมที่เป็นสิริมงคลกับชีวิต และสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามความเชื่อความศรัทธาในเรื่องของพญานาคได้อีกหลายๆ แห่งในจังหวัดหนองคาย

สำหรับนายพิเชษฐ์ ตันเทิดทิตย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับ นายอรรถพร ภักดีสุจริต นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้จัดงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ มีกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแสดงแสงสีเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค เทศกาลอาหาร การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงสินค้าและดนตรี การแสดงเรือไฟนาคาศรัทธาลุ่มน้ำโขง การแข่งขันเรือยาวขนาดใหญ่ (เรือท้องถิ่น) ไม่เกิน 55 ฝีพาย

การแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้มีเหล่าคนดังที่มีความเชื่อและศรัทธาต่อองค์พญานาค นำโดยอาจารย์ก้อนคำ ลำโขง, เอ พศิน เรืองวุฒิ,นางสาวกุลปรียา ค้อนทอง (กระเต็น) นางสาวไทยจังหวัดหนองคาย และ 1st Runner Up Miss Face of Humanity 2024, นางสาววรนิษฐา โรหิตจันทร์ Miss Universe Nongkhai ,เดวิด จันทร์ทะรัตน์ Mister National Univerxe Laos 2025 และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีชื่อเสียง มาร่วมกิจกรรมงานแถลงข่าวเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยว ทำบุญ สักการะองค์พญานาค เส้นทางนาคารูทในช่วงเทศกาลออกพรรษาจังหวัดหนองคาย ในปีนี้ เพื่อการขอพร และ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต และในวันที่ 4 ตุลาคม 2568 ทางจังหวัดหนองคาย จัดพิธีรำบวงสรวงองค์พญานาคราชและพิธีเปิดงานยิ่งใหญ่พร้อมกัน 4 อำเภอ เวลา 18.00 น. จะมีศิลปินดารา คุณพิ้งค์กี้ สาวิกาและคุณเดนิส เจลีลชา มาร่วมรำบวงสรวงในปีนี้ด้วย #ทีมข่าว นสพ.ตำรวจไทย #คงเดช วงศรีแก้ว หน.ทีมข่าว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กรมอุทยาน ผนึกกำลัง DSI กรมป่าไม้ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจยึดไม้แปรรูปผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท           วัน...
18/09/2025

กรมอุทยาน ผนึกกำลัง DSI กรมป่าไม้ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจยึดไม้แปรรูปผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

วันที่ 18 กันยายน 2568 10.30 น. ที่โกดังไม้หนองคายของบริษัท เฉินไท้ อินเตอร์เนชั่น จำกัด ต.วัดธาตุ อ.เมือง จ.หนองคาย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชหนองคาย พร้อมด้วยนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธติรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดไม้ประดู่แปรูปผิดกฎหมาย มูลค่าความเสียหาย 2,273,005 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่กรมอุธยานแห่งชาติฯ, พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ,กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพี้นที่ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบโกดังไม้หนองคายของ บริษัท เฉินไท้ อินเตอร์เนชั่น จำกัด ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ขยายผลจากการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าโกดังไม้หนองคาย เป็นสถานที่รับซื้อไม้ประดู่ผิดกฎหมายที่นำออกมาจากป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ จากการตรวจสอบพบไม้ประดู่แปรรูป ปุ่มไม้ประดู่ ประดู่ท่อน และไม้ตะเคียนแปรรูป รวมจำนวน 378 ท่อน/แผ่น/ปุ่ม ปริมาตร 32.547 ลบ.ม. ประมาณ 28,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2,273,005 บาท หรือประเมินมูลค่าความเสียหายตามราคาท้องตลาด (คิดเป็นกิโลกรัมละ 500 บาท) ประมาณ 14 ล้านบาท ส่วนโกดังดังกล่าวยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นโกดังไม้ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับกรมสอบสอบคดีพิเศษ (DSI) กรมป่าไม้ กรมศุลกากร ตำรวจ ตม.และฝ่ายปกครอง ได้ติดตามขยายผลจากการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ประตูในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งได้ติดตามจากพยาน หลักฐานต่าง ๆ จนพบว่าขบวนการนี้มีนายทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และให้เงินทุนสนับสนุนกับกลุ่มทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปทำไม้ประดู่ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหน่วยงานต่าง ๆ อำนวยความสะดวกในการดำเนินการของกลุ่มขบวนการ โดยเจ้าหน้าที่ได้แฝงตัวติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการพบว่ามีการนำไม้ออกมาจากพื้นที่ป่าโดยใช้รถยนต์กระบะลำเสียงไม้จากในพื้นที่ป่า มายังโกดังท้องที่ทางภาคเหนือ เพื่อรวบรวม และขนส่งไม้ประดู่จากโกดังในภาคเหนือมายังโกดังทางภาคอีสานโดยรถบรรทุก 10 ล้อ และจะมีพ่อค้าไม้เข้ามาเลือกซื้อไม้ในโกดังพื้นที่หนองคาย จากนั้นจะขนส่งต่อไปยังต่างประเทศ โดยรถบรรทุกสิบล้อไปยัง สปป.ลาว และบริษัทขนส่ง โดยใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ออกทางช่องทางท่าเรือแหลมฉบัง โดยจากการตรวจสอบเอกสารพบว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโกดังนี้ส่งไม้ออกทางเรือโดยแสดงรายการส่งออกสำแดงเป็นไม้ประดู่ โดยพบว่า ประเทศปลายทางเป็นจีน และประเทศเวียดนาม คาดว่าจะส่งไม้ประดู่แปรรูปต่อไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศปลายทาง โดยไม้ที่ส่งออกในช่วงปี พ.ศ.2566 - 2568 มีปริมาตรกว่า2,052.83 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายของรัฐ กว่า 143 ล้านบาท และจากราคาตลาดซึ่งมีการซื้อขายไม้ประตูในปัจจุบัน พบว่าอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 300 - 500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของเนื้อไม้ หากคิดเป็นค่าเสียหายตามราคา ท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ1,233 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจยึดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลไปยังผู้บุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป #ทีมข่าว นสพ.ตำรวจไทย #คงเดช วงศรีแก้ว หน.ทีมข่าว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

(ข่าวบึงกาฬวันนี้)   ตำรวจบึงกาฬทลายแก๊งค้ายา ยึดยาบ้า 8 แสนเม็ด ผู้ต้องหาพยายามหนีแต่ไม่รอดวันที่ (17 กันยายน 68) ที่หน...
18/09/2025

(ข่าวบึงกาฬวันนี้) ตำรวจบึงกาฬทลายแก๊งค้ายา ยึดยาบ้า 8 แสนเม็ด ผู้ต้องหาพยายามหนีแต่ไม่รอด

วันที่ (17 กันยายน 68) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรปากคาด ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังเข้าติดตามขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ หลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีพ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ แก้วสมนึก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.กฤศกร เชื้อสิงห์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคาด นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อส.จ.บึงกาฬ และฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว

โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย(พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ-นครพนม) ได้เข้ามาพบ ร.ต.อ.ชัยธวัช ชมภูราช รอง สว.สส.สภ.ปากคาด เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หมายเลข 6706561 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ที่ สภ.ปากคาด แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว(สายลับขอปิดนาม) ว่าช่วงตั้งแต่วันที่ 13-15 กันยายน 2568 จะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว เข้าสู่จังหวัดตอนในของประเทศไทย ในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่าง ต.นากั้ง อ.ปากคาด ไปจนถึง ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ ประมาณ 9-10 กระสอบ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด โดยจะใช้พื้นที่ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ หรือ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เป็นเส้นทางที่ใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงนำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.สภ.ปากคาด จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ชัยธวัช ชมภูราช รอง สว.สส.สภ.ปากคาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด บูรณาการสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย(พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ-นครพนม) เจ้าหน้าที่ทหาร มว.สกัดกั้นที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ร่วมกันประชุมวางแผนเพื่อติดตาม สังเกตการณ์ และวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังต่างๆ คาดว่ารถทั้ง 2 คัน จะวิ่งผ่าน จากนั้นเวลา 22.33 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบ รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Yaris สีดำ หมายเลขทะเบียน กย 1715 สกลนคร ขับขี่ผ่านกล้อง LCP ด่านตรวจ/จุดตรวจ 4_บก_ปากคาด ฝั่งขาเข้า เจ้าหน้าที่จึงน่าเชื่อและยืนยันได้ว่า รถเป้าหมายที่จะมาลักลอบลำเลียงยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจุดซุ่มสังเกตุการณ์ตามจุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังตามเส้นทางต่างๆ โดยใช้รถยนต์ในการวางตัวสังเกตการณ์ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 9 ชุด ใช้รถยนต์จำนวน 9 คัน

กระทั่งกลางดึกวันที่ 13 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้า 7 กระสอบ รวมประมาณ 2,590,000 เม็ด บริเวณบ้านไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ ต่อมาในวันที่ 14 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ขยายผลและติดตามรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน คือ NISSAN อัลเมร่า สีเทา ทะเบียน กจ 9247 ร้อยเอ็ด และ TOYOTA Yaris สีดำ ทะเบียน กย 1715 สกลนคร ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการลำเลียงและนำขบวนการปฏิบัติการนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายธนะเมศฐ์(สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี น.ส.วัชราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นายสาธิต(สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี และนายสุเมธี (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้าเพิ่มอีก 3 กระสอบ ที่ซุกซ่อนภายในรถยนต์อัลเมร่า รวมของกลางทั้งหมดเกือบ 3 ล้านเม็ด ผลตรวจปัสสาวะพบว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีสารเสพติดในร่างกาย ยกเว้นนายสุเมธี (สงวนนามสกุล) ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดรถยนต์และยาเสพติดพร้อมวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึด จากนั้นนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหล่าหลวง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการสกัดกั้นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญตามแนวชายแดนไทย-ลาว จังหวัดบึงกาฬ
ภาพ/ข่าว นายรชนิศ นามวงค์ หน.ทีมข่าวภาคอีสานตอนล่าง ,นายคงเดช วงศรีแก้ว หน.ศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

17/09/2025
17/09/2025

เช้าวันนี้ (17 ก.ย. 68) เกิดเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ขณะวางกำลังรักษาความปลอดภัยบนเส้นทาง บริเวณบ้านบือราแง หมู่ 3 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
#ข่าวใต้แลได้ที่เรา #ข่าวที่คุณวางใจ ูนย์ข่าวภาคใต้

ผู้ว่าฯหนองคาย นำหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กว่า 200,010 ตัว เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 เ...
17/09/2025

ผู้ว่าฯหนองคาย นำหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กว่า 200,010 ตัว เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 เพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ สร้างแหล่งอาหารโปรตีนที่มั่นคงให้กับประชาชนในพื้นที่

วันที่ 16 กันยายน 2568 นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 ณ บริเวณหนองปลาแดก บ้านชุมช้าง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จำนวน 200,010 ตัว มี ปลายี่สกเทศ จำนวน 75,000 ตัว, ปลาตะเพียนขาว 75,000 ตัว,3 ปลาสวาย 50,000 ตัว และปลาบึก จำนวน 10 ตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งอาหารโปรตีนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประชาชนในพื้นที่
สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 ได้กำหนดให้ วันที่ 21 กันยายน ของทุกปี เป็นวันประมงแห่งชาติเพื่อรณรงค์ให้ประชาชน ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างเพียงพอและมีความยั่งยืน โดยจัดให้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำทั่วประเทศ และขอความร่วมมือจากประชาชน งดจับสัตว์น้ำทุกชนิด ในวันที่ 21 กันยายน ของทุกปี ในปี 2558 หน่วยงานกรมประมงจังหวัดหนองคายร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนวาปี และอำเภอรัตนวาปี จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ ณ หนองปลาแดก ดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ เพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ จะสร้างแหล่งอาหารโปรตีนที่มั่นคงให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนวาปี และพี่น้องชาวอำเภอรัตนวาปี ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมเป็นอย่างยิ่ง ขอให้พี่น้องประชาชน ทุกท่าน ร่วมใจกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของแหล่งน้ำแห่งนี้ และให้สะอาดปราศจากมลภาวะ มีจิตสำนึกและความรับผิดชอบที่ดีในด้านสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืนสืบไป #ทีมข่าว นสพ.ตำรวจไทย #โภควินทร์ #คงเดช วงศรีแก้ว หน.ทีมข่าว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กระทรวงดิจิทัลฯ โพสต์ กลางดึกวันที่ 13 ก.ย.68 ที่ผ่านมา🎯มาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ กำหนดระงับบัญชีต้องสงสัยชั่วคราวเ...
14/09/2025

กระทรวงดิจิทัลฯ โพสต์ กลางดึกวันที่ 13 ก.ย.68 ที่ผ่านมา

🎯มาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ กำหนดระงับบัญชีต้องสงสัยชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ โดยใช้แนวทางนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสามารถช่วยปิดกั้นเงินผิดกฎหมายได้

❗️กรณีนี้หากกระทบกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง สามารถสอบถามข้อมูลกระบวนการการขอยกเลิกการถอนอายัด ได้ที่
📱📞ศูนย์ AOC 1441 กด 2

#ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
#กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
#มาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์

จังหวัดหนองคายร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)และหน่วยงานภาคีเครือข่าย  ซ้อมแผนลำเลียงผู้ป่วยทางน้ำและทางอากา...
13/09/2025

จังหวัดหนองคายร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ซ้อมแผนลำเลียงผู้ป่วยทางน้ำและทางอากาศรับมือเทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาคโลก ตุลาคม 2568
วันที่ 12 ก.ย. 68 ณ พุทธอุทยานนานาชาติ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ดร.โฆษิต สุวินิจจิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษาคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.)ร่วมกับจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนลำเลียงผู้ป่วยทางน้ำและทางอากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งในภาวะปกติและภัยพิบัติ ระดับเขตสุขภาพที่ 8 โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย,นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย,หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ และ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้บรรยายเกี่ยวกับนโยบายและทิศทางระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทย จากนั้น อาสาฉุกเฉินชุมชนและอาสาสมัครสาธารณสุข ได้สาธิตปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR & AED
การฝึกซ้อมในครั้งนี้ เพื่อซ้อมการลำเลียงผู้บาดเจ็บทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีทีมเฮลิคอปเตอร์ หน่วยบิน 2038 (อุดรธานี) ทีม Sky Doctor (อุดรธานี/หนองคาย) ศูนย์รับเรื่องและจ่ายงาน 1669 องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย รวมทั้งทีมปฏิบัติการทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 เข้าร่วม โดยจำลองสถานการณ์ มีผู้คนเดินทางมาเที่ยวเทศกาลออกพรรษาและชมบั้งไฟพญานาคโลก เป็นจำนวนมาก มีผู้บาดเจ็บในงาน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินในช่วงเทศกาลออกพรรษาและชมบั้งไฟพญานาคโลก ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2568 นี้
ดร.โฆษิต สุวินิจจิต กล่าวว่า อำเภอโพนพิสัย มีการจัดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก การซ้อมแผนสถานการณ์จำลองการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินครั้งนี้ เป็นการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของพื้นที่ ในการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางน้ำ และทางอากาศ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับประชาชนหรือนักท่องเที่ยวในบริเวณที่ไม่สามารถใช้การลำเลียงทางบกได้ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยอากาศยาน Sky Doctor จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะสามารถเข้าถึงผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ และสามารถให้การช่วยเหลือและส่งต่อยังสถานพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ด้าน ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า การซ้อมแผนครั้งนี้ถือเป็นการซ้อมแผนเต็มรูปแบบระดับเขต (Full-scale Exercise) เป็นการทดสอบระบบการทำงานจริงของทุกหน่วยงานในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 ทั้ง 7 จังหวัดภาคอีสานตอนบน รวมถึงการบูรณาการการทำงานร่วมกันในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดย สพฉ. มุ่งไปที่การทดสอบระบบการสื่อสารและสั่งการร่วมกัน (Unified Command) และการประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้ตรงจุดที่สุด ลดความสูญเปล่าและเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ เพื่อให้ระบบการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 8 มีความเข้มแข็งและยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด #ทีมข่าว นสพ.ตำรวจไทย #โภควินทร์ #คงเดช วงศรีแก้ว หน.ทีมข่าว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

💢 เมื่อ 11 ก.ย.68 ดวลา 05.30 น. จนท.3 ฝ่าย ได้ทำการบังคับใช้กฏหมายปิดล้อมพื้นที่ เนินเขาป่าสวนยางพารา ในพื้นที่ บ้านใหม่...
12/09/2025

💢 เมื่อ 11 ก.ย.68 ดวลา 05.30 น. จนท.3 ฝ่าย ได้ทำการบังคับใช้กฏหมายปิดล้อมพื้นที่ เนินเขาป่าสวนยางพารา ในพื้นที่ บ้านใหม่ (บ้านย่อย บ.ห้วยเต่า) ม.7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา และได้มีการปะทะกับ กลุ่มไม่ทราบฝ่าย 3 รอบ ในห้วงเวลา 05.30 น. ,วลา 07.53 น. และ 11.30 น.ต่อมาเวลา 1300 - 16.30 น.จนท.ตร.พฐ 10 ได้เข้าไปเก็บวัตถุพยานบริเวณจุดปะทะ จำนวน 8 จุด ดังนี้...

➡️ จุด 1 พบเปลสนาม

➡️จุด 2 พบเปลสนาม ประเป๋าสะพายข้างสีเทา

➡️จุด 3 พบเศษผ้าติดคราบเลือด

➡️จุด 4 พบอุปกรณ์ยังชีพ ถูไฟไหม้เนื่องจากคาดว่า กระสุนถูกเครื่องสำรองไฟ (พาวเวอร์แบงค์)

➡️จุด 5 พบโทรศัพท์สมาร์ทโฟน จำนวน 2 เครื่อง, หูฟังเเบบสายเงินสด 1 พันบาท ,เสื้อผ้าชุดกีฬา, อุปกรณ์หุงต้ม, ยารักษาโรค, ผ้าใบสีเขียวกระเป๋า, สะพายข้างสีเทา และรองเท้าเเตะ

➡️จุด 6 พบรองเท้ายางทรงสูง, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 30 นัด, เเปรงสีฟันยาสีฟัน, ไฟฉายคาดศรีษะ, เสื้อผ้า, เสื้อผ้า, อุปกรณ์ชาร์จเเบตโทรศัพท์, ถุงขนม

➡️จุด 7 พบกระเป๋าสะพายหลังสีน้ำตาล, กล้องส่องวัดระยะ, อุปกรณ์หุงต้ม, ยารักษาโรค, เสื้อผ้า, ไฟฉายคาดหัว, แบตเตอรี่สำรอง(พาวเวอร์แบงค์)

➡️จุด 8 พบถังแก๊สปิกนิกและอุปกรณ์ดำรงชีพ

🚔 ปัจจุบัน จนท.3 ฝ่าย ยังคงปิดล้อมพื้นที่ และพบรอยเลือด และกระเป๋าเป้ บริเวณจุดปะทะ คาดกลุ่ม ผกร. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผลการปฏิบัติ จนท.ปลอดภัยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

➡️กลุ่มที่หลบซ่อนและปะทะกับ จนท.คาดว่าเป็น
กลุ่มของ นายฮุสนี ยีกะเส็ม ประมาณ 5-7 คน เพื่อทราบ

#บ้านห้วยเต่า #สะบ้าย้อย #สงขลา #ข่าวสารขายแดนใต้ #ไร้เงาสันติสุข

ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจบุกจับ ผอ.กองช่าง เทศบาลหลักหก  คาโต๊ะทำงาน   เรียกรับสินบนแลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างตึก 8 ชั้น     ป.ป...
12/09/2025

ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจบุกจับ ผอ.กองช่าง เทศบาลหลักหก คาโต๊ะทำงาน เรียกรับสินบนแลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างตึก 8 ชั้น



ป.ป.ช.วันนี้ (11 ก.ย.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้นางสาวชฎารัตน์ อรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 นางสาวอภินัทธ์ พัฒนากรสิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 วางแผนเข้าจับกุมนายวีระเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีพฤติการณ์เรียกร้องเงิน จากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร


สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องขออนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน และขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น ณ เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องการขออนุญาตดังกล่าวเสนอนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก ผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตได้เรียกร้องเงินเป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน จำนวนเงินไร่ละ 10,000 บาท และค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น เป็นเงิน 400,000 บาท ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงแจ้งเรื่องร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ


โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก อีกครั้ง เพื่อติดตามเรื่องขออนุญาตถมดิน ว่ามีปัญหาติดขัดอะไรหรือไม่ ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก แจ้งว่าการออกใบอนุญาตถมดินมีค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบของทางราชการ ราคาไร่ละ 10,000 บาท และการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท หากผู้เสียหายยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ก็สามารถยื่นเรื่องขออนุญาตได้ทันที และจะดำเนินการเสนอเรื่องการออกใบอนุญาตต่อนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก เพื่อให้ออกใบอนุญาตโดยเร็ว เพราะได้ประสานกันไว้เบื้องต้นแล้ว และเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้เสียหายได้เดินทางไปพบผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากที่ดินแปลงที่ขออนุญาตถมดินมีพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน ผู้อำนวยการกองช่างแจ้งว่าคิดค่าใช้จ่ายเพียง 4 ไร่ ไร่ละ 10,000 บาท เป็นเงิน 40,000 บาท ส่วนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท ลดลงได้ 50,000 บาท คงเหลือ 350,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 390,000 บาท และให้จ่ายเป็นเงินสดในวันที่มารับใบอนุญาตถมดิน และเรื่องการก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 350,000 บาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรกให้จ่ายในวันยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 150,000 บาท ส่วนอีก 200,000 บาท จ่ายในวันรับใบอนุญาตก่อสร้าง โดยนัดหมายผู้เสียหายให้ไปจ่ายเงินในวันที่ 11 กันยายน 2568



สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ประสานความร่วมมือกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อวางแผนเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด โดยผู้เสียหายได้มอบเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 190 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 190,000 บาทให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้ออกหมายค้นห้องทำงานของผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก และเมื่อถึงเวลานัดหมายผู้เสียหายจึงไปพบผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ณ ห้องทำงาน เพื่อนำเงินสดจำนวน 190,000 บาท ซึ่งมีการถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐานแล้ว ไปมอบให้ผู้อำนวยการกองช่าง เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ไว้โดยรอบสำนักงานเทศบาลตำบลหลักหก เมื่อผู้เสียหายมอบเงินจำนวน 190,000 บาท ให้ผู้อำนวยการกองช่าง เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 จึงนำหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้นห้องทำงานผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก พบเงินสดของกลางอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานฝั่งซ้ายของโต๊ะทำงานผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จากการตรวจสอบเงินสดของกลางพบว่ามีหมายเลขตรงกับสำเนาธนบัตรที่ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน จึงจับกุมผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก โดยแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อควบคุมตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น และส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจภายใน 30 วัน

08/09/2025

ที่อยู่

77/551หมู่บ้าน​เฟรนชิป​ ซอย4​ ถ. ประเสริฐ​มนูกิจ29 แยก2​ แขวง​/เขต​ ลาดพร้าว​ กรุงเทพฯ​10230
Bangkok
10230

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00
อังคาร 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00
พุธ 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00
เสาร์ 09:00 - 17:00
18:00 - 19:00

เบอร์โทรศัพท์

+66907830016

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หนังสือพิมพ์ตำรวจไทย๒๕๖๐ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง หนังสือพิมพ์ตำรวจไทย๒๕๖๐:

แชร์