17/10/2023
16 หุ้น 1 เดือนดิ่งเกิน 10% สวนทางกำไรจ่อโตแกร่ง-อัพไซด์เพียบ
กูรูแนะจับตาสงครามอิสราเอล - ฮามาสใกล้ชิด ชี้เป็นปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้นช่วงนี้ แนะกลยุทธ์เก็บหุ้นราคาลงลึก แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานแกร่ง พบมี 16 บจ.เข้าข่าย ราคาหุ้น 1 เดือนหลังลงลึกสุด 21.97% แต่กำไรปี 66 จ่อโตสูงสุดถึง 1,292.86% ตะลึง ! มีถึง 9 บริษัท ราคาหุ้นล่าสุด มีอัพไซด์มากกว่า 50%
*** กูรูชี้สงครามยังกดหุ้นช่วงนี้ แนะเก็บหุ้นลงลึก - งบแกร่ง
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ช่วงนี้ ยังขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงบนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ฮามาส เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่รุนแรง แต่ตลาดไทยมีปัจจัยลบอื่น ๆ เข้ามาสอดแทรก เราจึงแนะนำให้ถือ"เงินสด"ไว้ก่อน หรือควรพร้อมซื้อ/ขาย ตามสถานการณ์รายวัน จุดรับสำคัญของดัชนีฯ ยังเป็น 1,420 จุด เหมือนเดิม
ขณะที่ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้พอสมควร กลยุทธ์ในการเข้าสะสมหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากมองว่าหุ้นประเภทดังกล่าว จะเป็นเป้าหมายในการซื้อเมื่อหุ้นวกตัวกลับ
*** พบ 16 บจ.ราคาลงลึกช่วง 1 เดือนหลัง แต่งบยังแกร่ง
ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงสำรวจข้อมูลราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในช่วง 1 เดือนล่าสุด ผ่านโปรแกรม SETSMART พบว่ามี 276 บริษัท ที่ราคาหุ้นช่วงดังกล่าว ปรับตัวลงมากกว่า 10% ขณะเดียวกันในกลุ่มนี้ มี 16 บริษัท มีบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ จาก IAA Consensus คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 10% ประกอบด้วย
16 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 จำนวน 12 บริษัท โดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และอาหารและเครื่องดื่ม ติดโผสูงสุด จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และพาณิชย์ จำนวน 2 บริษัท เท่ากัน
*** มี 2 บจ.กำไรปี 66 จ่อโตเกิน 100% แต่หุ้นดิ่ง 11 - 16%
2 จาก 16 บริษัทในกลุ่มนี้ กำไรปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 100% จากปีก่อน โดย บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ถูกนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดถึง 657.14 - 1,292.86% จากปีก่อน หลังถูกประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 106 - 195 ล้านบาท สวนทางราคาหุ้น 1 เดือนหลังที่ปรับตัวลง 11.72%
ปัจจัยหนุนการเติบโตของ SHR ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่ปีนี้ เริ่มเห็นสัญญณฟื้นตัวมากขึ้น สะท้อนจากราคาเฉลี่ยห้องพัก (Rev Par) เดือน ก.ค. - ส.ค.66 เฉลี่ยอยู่ที่ 4 พันบาท/ห้อง เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ไตรมาส 4/66 ก็จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ อีกด้วย
รองลงมา คือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ที่ถูกคาดการร์กำไรปี 66 ไว้ที่ 2.8 - 3.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 222.67 - 340.97% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งเพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติเช่นกัน และแม้ผลการดำเนินงานปี 66 จะได้รับผลกระทบจากมาตรการลดค่าไฟฟ้าบ้างก็ตาม
แต่ก็คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 66 ทาง GPSC จะได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของต้นทุนเชื้อเพลิง, การเข้าสู่ไฮซีซั่นของการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนในประเทศลาว, การรับรู้กำลังการผลิตใหม่โครงการ Avaada และโรงไฟฟ้า Glow Phase 5 กลับมาเดินเครื่องตามปกติ อีกครั้ง ช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเด่นกว่าครึ่งปีแรก
*** อีก 2 บจ.กำไรปี 66 จ่อโตมากกว่า 50% แต่หุ้นดิ่ง 13 - 14%
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัท ที่ถูกนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 50% แต่ราคาหุ้นช่วง 1 เดือนหลัง ปรับตัวลง 13 - 14% คือ บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 592 - 673 ล้านบาท เติบโตขึ้น 60.43 - 82.38% หนุนโดยจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด สะท้อนจาก SISB เพิ่งปรับเป้าหมายจำนวนนักเรียนปี 66 ขึ้นเป็น 4.1 พันคน (เดิม 3.7 พันคน) นอกจากนี้ SISB ยังสามารถปรับขึ้นค่าเทอมได้อีก 5% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แล้ว
ขณะที่ บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 66 ไว้ที่ 302 - 384 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20.32 - 52.99% จากปีก่อน หนุนโดยยอดจัดเก็บเงินสด (Cash Collector) ที่ปรับตัวขึ้นจากปีก่อน ตามการขยายพอร์ตหนี้เสียภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ช่วงไตรมาส 4/66 ทาง CHAYO จะปิดการขายที่ดินย่านคู้บอนมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะบันทึกเป็นกำไรในช่วงดังกล่าวอีก 40 - 50 ล้านบาท
*** ตะลึง ! มีถึง 9 บจ. ราคาหุ้นมีอัพไซด์มากกว่า 50%
ทั้งนี้ มีถึง 9 บริษัท ที่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 35 - 106% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 17.84%, บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 70 - 94% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 21.97%
ด้าน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 38 - 82% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 21.31%, บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 61 - 74% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 20.28%, บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 29 - 74% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 13.43%
ส่วน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 43 - 69% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 16.00%, บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 49 - 63% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 15.50%, บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 53 - 61% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 11.72% และ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 47 - 58% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 11.28%