CoachEnhancement

24/08/2025

นี่คือบุคคลากรทางการแพทย์ แถวหน้าแห่งวงการ Health Care ผู้ดูและและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะนักวิ่ง นักจักรยาน นักฟุตบอล หรือนักเทควันโด

ในงาน Hybird Coach Enhancement อาจารย์หลายท่านเคยพูดเรื่องหนึ่งไว้ตรงกันกว่า ด้วยองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญของแต่ละคน ไม่เพียงพอที่จะส่งนักกีฬาหนึ่งคนไปให้ถึงฝันได้ แต่การผสานองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย คือการทำงานแบบทีมเวิร์คหลังบ้าน ที่พานักกีฬาไปสู่ความสำเร็จ นอกเหนือจากการซ้อมที่ทุ่มเท

Hybrid Coach Enhancement จึงเป็นประตูบานสำคัญที่คนในสายงาน Health Care หรือแม้แต่นักกีฬา ไม่ควรพลาด ที่จะมาร่วมเปิดรับองค์ความรู้ใหม่ๆ จากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายศาสตร์ที่พร้อมจะถ่ายทอดและแบ่งปันประสบการณ์ที่สั่งสมมา จากหลายเวทีระดับโลก ที่คุณไม่อาจหาได้จากที่ไหนมาก่อน

แล้วพบกันในงาน

เจาะลึกแนวคิด HYBRID TRAINING
ผสานศาสตร์หลากศาสตร์สำคัญทั้งการแพทย์ การฟื้นฟู และเทรนนิ่งเพื่อยกระดับศักยภาพของนักกีฬาสู่ขั้นสูงสุด

13-14 กันยายน 2568|8.00 - 17.00 น.
ห้อง Chamber ชั้น B1 โรงแรม S31 (สุขุมวิท 31)

สนใจสอบถามรายละเอียด
Line Official :

23/08/2025

ใกล้เข้ามาทุกทีกับงานสัมมา Hybrid Coach Enhancement ครั้งที่ 2 งานสัมมนาที่รวบรวม คุณหมอผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา มากประสบการณ์ในการดูแลทั้งนักกีฬาทีมชาติ และเป็นหนึ่งในเบื้องหลังของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จระดับโลก

ที่พร้อมจะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาอัพเกรดความรู้ให้กับเหล่าผู้เข้าร่วม ทั้งจากเหล่าฟิตเนสโค้ช นักกีฬา นักกายภาพบำบัด ให้ได้ปลอล็อคสกิลของคุณ และสร้างเครือข่าย ในการดูแลนักกีฬาในสายงานของคุณให้กว้างไกลขึ้น

แล้วพบกันในงาน

เจาะลึกแนวคิด HYBRID TRAINING
ผสานศาสตร์หลากศาสตร์สำคัญทั้งการแพทย์ การฟื้นฟู และเทรนนิ่งเพื่อยกระดับศักยภาพของนักกีฬาสู่ขั้นสูงสุด

13-14 กันยายน 2568|8.00 - 17.00 น.
ห้อง Chamber ชั้น B1 โรงแรม S31 (สุขุมวิท 31)

สนใจสอบถามรายละเอียด
Line Official :

21/08/2025

ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมีกี่แบบ?

แล้วนักกีฬาของคุณฝึกถูกทางไหม?

ปัญหาที่คุณอาจกำลังเผชิญอยู่

"ทำไมลูกทีมถึงหมดแรงช่วงท้ายเกม?"

"ทำไมนักกีฬาดูเหมือนจะวิ่งช้าลง ทั้งที่ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก?"

"เคยสงสัยไหมว่าการฝึกพละกำลังที่เน้นแต่การยกน้ำหนักมากๆ (Heavy Lifting) อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับกีฬาบางประเภท?

ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับโค้ชหรือผู้ฝึกสอนหลายๆ คน เพราะบ่อยครั้งเราอาจเน้นไปที่การเพิ่มความแข็งแรงโดยรวม (Maximal Strength) จนมองข้ามความแข็งแรงในด้านอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ Strength Endurance และ Speed Strength ซึ่งเป็นหัวใจหลักของนักกีฬาเกือบทุกประเภท
มารู้จักกับ Strength Endurance และ Speed Strength

1. Strength Endurance (ความทนทานเชิงพละกำลัง)
คือความสามารถของกล้ามเนื้อในการทำงานซ้ำๆ หรือทำงานภายใต้ความต้านทานเป็นเวลานานโดยไม่หมดแรงง่ายๆ ลองนึกถึงนักกีฬาฟุตบอลที่ต้องวิ่งสปรินต์ไปมาตลอด 90 นาที หรือนักบาสเกตบอลที่ต้องกระโดดและเปลี่ยนทิศทางอย่างต่อเนื่อง ความทนทานเชิงพละกำลังนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้พวกเขายังคงประสิทธิภาพไว้ได้จนจบเกม

🎯 การฝึก Strength Endurance ไม่ใช่แค่การวิ่งยาวๆ หรือปั่นจักรยานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยกน้ำหนักเบา-ปานกลางจำนวนครั้งมากๆ (High Reps) หรือการทำ Circuit Training เพื่อให้กล้ามเนื้อเรียนรู้ที่จะใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและต้านทานความเมื่อยล้าได้ดียิ่งขึ้น

2. Speed Strength (ความแข็งแรงเชิงความเร็ว หรือ Power)
คือความสามารถในการสร้างแรงให้ได้สูงสุดในเวลาอันสั้นที่สุด เป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแรง (Strength) กับความเร็ว (Speed) อย่างลงตัว ลองนึกถึงจังหวะที่นักวอลเลย์บอลกระโดดตบอย่างรุนแรง หรือนักกรีฑาที่ต้องระเบิดพลังวิ่งออกจากจุดสตาร์ท Speed Strength เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกีฬาที่ต้องใช้การออกแรงที่รวดเร็วและรุนแรงในชั่วเสี้ยววินาที

🎯 การฝึก Speed Strength จะเน้นที่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เช่น การฝึก Plyometrics (กระโดด, กระโดดข้ามรั้ว), การฝึกยกน้ำหนักด้วยความเร็วสูง (ยกน้ำหนักเบา-ปานกลาง แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด) หรือการใช้ Med Ball (Medicine Ball) Training เพื่อให้ร่างกายสามารถส่งแรงออกไปได้อย่างรวดเร็ว

แล้วเราจะพัฒนาทั้งสองสิ่งนี้ได้อย่างไร?

คำตอบไม่ได้อยู่ที่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่อยู่ที่การเข้าใจหลักการฝึกที่ถูกต้องและผสมผสานอย่างลงตัว การพัฒนานักกีฬาที่สมบูรณ์แบบต้องมองเห็นภาพรวมและออกแบบโปรแกรมที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของกีฬาและตัวนักกีฬาแต่ละคน
ถ้าคุณอยากรู้ลึกว่า...

📌 จะวางแผนการฝึก Strength Endurance และ Speed Strength อย่างไรให้ได้ผลจริง?

📌 ควรจัดตารางการฝึกอย่างไรให้ไม่ทำให้ Over-training?

📌 เทคนิคการฝึกเฉพาะทางที่ช่วยยกระดับนักกีฬาให้ไปได้ไกลกว่าเดิมมีอะไรบ้าง?

มาร่วมค้นหาคำตอบและเจาะลึกไปพร้อมกันในงานสัมมนา Hybrid Coach Enhancement Season 2 ที่จะพาคุณไปเรียนรู้หลักการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และลงมือปฏิบัติจริงกับผู้เชี่ยวชาญ

พบกับทุกคำตอบที่คุณตามหาในงาน Hybrid Coach Enhancement Season 2

📅 วันที่: 13-14 กันยายน 2568

📍 สถานที่: โรงแรม S31 สุขุมวิท 31

โอกาสที่จะยกระดับตัวคุณเองให้เป็นโค้ชที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงมาถึงแล้ว! อย่าพลาดที่จะอัปเกรดความสามารถของคุณเพื่อสร้างนักกีฬาที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบกว่าเดิม.


#พัฒนากีฬา #ยกระดับความเป็นมืออาชีพ

19/08/2025

ปัญหาที่นักกีฬาส่วนใหญ่เจอ...

นักกีฬาทุกคนต่างก็ต้องการชัยชนะ 🏆 และทำผลงานได้ดีที่สุดในสนามแข่งขัน แต่บ่อยครั้งที่ความมุ่งมั่นนั้นต้องหยุดชะงักลงด้วยปัญหาที่น่าปวดใจ...

1. บาดเจ็บง่าย : ฝึกหนักมาทั้งปี แต่มาบาดเจ็บเอาตอนแข่งจริงซะอย่างนั้น 🤕

2. ฟอร์มตก : ช่วงต้นฤดูกาลฟอร์มดี๊ดี แต่พอใกล้จบล้าจนหมดแรง 📉

3. แพ้คู่แข่งทั้งที่ความสามารถใกล้เคียงกัน : ทั้งที่ฝึกซ้อมมาเท่าๆ กัน แต่ทำไมถึงเร็วกว่า แข็งแรงกว่า หรืออึดกว่า? 🏃💨

นี่คือปัญหาคลาสสิกที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมักไม่ได้มาจากความสามารถหรือเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการขาด Performance Training ที่เป็นระบบและเข้าใจแก่นแท้ของการพัฒนานักกีฬา

Performance Training ช่วยยกระดับนักกีฬาได้อย่างไร?

Performance Training หรือการฝึกเพื่อเพิ่มสมรรถภาพการแข่งขัน คือแกนหลักที่จะพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นได้อย่างตรงจุด

1. เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ถึงขีดสุด 🚀
การฝึกแบบนี้ไม่ได้เน้นแค่การวิ่งให้เร็วขึ้น หรือยกน้ำหนักให้หนักขึ้น แต่มุ่งเน้นไปที่การฝึกเพื่อพัฒนาความสามารถที่ใช้ในกีฬาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว, ความคล่องตัว, พลัง, ความทนทาน และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่จำเป็นสำหรับกีฬาของคุณโดยตรง

2. ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ 🛡️
การบาดเจ็บมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดความพร้อมและขาดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core) หรือข้อต่อที่ไม่มั่นคง Performance Training จะช่วยสร้างความแข็งแรงที่แท้จริงจากภายใน ทำให้ร่างกายของคุณทนทานต่อแรงกระแทก แรงบิด หรือการเคลื่อนไหวที่รุนแรงในสนามแข่งได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

3. ยืดอายุการเป็นนักกีฬาให้ยาวนานขึ้น ✨
การฝึกแบบมีระบบจะช่วยบริหารจัดการความเหนื่อยล้าของร่างกาย (Fatigue Management) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและคงความฟิตของร่างกายได้ตลอดทั้งฤดูกาลแข่งขัน ไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ

ความสำคัญของ Strength & Conditioning Program

หัวใจของ Performance Training คือการสร้าง Strength & Conditioning Program ที่ออกแบบมาเพื่อกีฬาแต่ละประเภทโดยเฉพาะ

🎯 ซึ่งจะช่วยพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาแบบองค์รวม

โปรแกรมนี้คือการวางแผนการฝึกอย่างเป็นระบบ เพื่อ...

✅️ เพิ่มความแข็งแรง (Strength) : ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีความทนทานและแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากแรงกระแทกและแรงบิดจากการเคลื่อนไหวในกีฬา

✅️ เพิ่มพละกำลัง (Power) : เมื่อนักกีฬามีทั้งความแข็งแรงและความเร็ว จะสามารถสร้างพละกำลังที่ใช้ในการกระโดด พุ่งตัว หรือระเบิดพลังงานได้อย่างรวดเร็ว

✅️ เพิ่มความทนทาน (Endurance) : ช่วยให้ร่างกายทนทานต่อความเหนื่อยล้า ทำให้นักกีฬาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน

โปรแกรมที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมจะทำให้การฝึกซ้อมของนักกีฬามีเป้าหมายชัดเจนและเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายแบบเดิมๆ ที่อาจนำไปสู่การบาดเจ็บ

ทางออกของปัญหาคืออะไร?

ทางออกของปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ Strength & Conditioning (S&C) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Performance Training ที่ช่วยให้นักกีฬาพัฒนากล้ามเนื้อให้เหมาะสมกับชนิดกีฬา, เสริมสร้างความแข็งแรง, และป้องกันการบาดเจ็บอย่างมีหลักการทางวิทยาศาสตร์
เพื่อให้การโค้ชนักกีฬาก้าวไปอีกขั้น สู่การเป็น Hybrid Coach ที่เข้าใจทั้งเทคนิคและวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างลึกซึ้ง

มาเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ของการโค้ชในแบบที่โลกกำลังก้าวไป...

พบกับเคล็ดลับและหลักการของการทำ Performance Training ที่จะช่วยยกระดับนักกีฬาของคุณไปสู่ความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน และนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที

เข้าร่วมงานสัมมนา
HYBRID COACH ENHANCEMENT Season 2
วันที่ 13 - 14 กันยายน 2568
ที่โรงแรม S31 (สุขุมวิท 31)

คลิกเพื่อดูรายละเอียดและลงทะเบียน

https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfF9TLyv1DBnXIQlH6_QHyF64shSrOeaL1uSHzozrlOPAmE8w/viewform?usp=header

อย่าปล่อยให้ความสามารถของนักกีฬาถูกจำกัดด้วยการฝึกซ้อมแบบเดิมๆ... มาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน! 💡

#พัฒนากีฬา #ยกระดับความเป็นมืออาชีพ

17/08/2025

ยกระดับความเป็นมืออาชีพ กับ สัมมนา

HYBRID COACH ENHANCEMENT Season 2...

ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 13-14 กันยายน 2568 ที่โรงแรม S31 (สุขุมวิท 31)

สอบถามลงทะเบียน

Line



#พัฒนากีฬา #ยกระดับความเป็นมืออาชีพ

16/08/2025

14/08/2025

นอนอย่างไรให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่ สู่สุขภาพที่ดีกว่าเดิม

คุณเคยไหมที่รู้สึกเพลีย ง่วงซึม หรือสมองไม่แล่น ทั้งที่เมื่อคืนก็นอนไปหลายชั่วโมงแล้ว?

ปัญหาเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากคุณภาพการนอนที่ไม่ดีพอ การนอนหลับไม่ได้เป็นเพียงแค่การพักผ่อน แต่เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและสมองได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในทุกๆ ด้าน
ปัญหาการนอนหลับที่พบบ่อย

1. นอนไม่หลับ (Insomnia) ปัญหาที่หลายคนเผชิญ ทั้งการนอนหลับยาก ตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือตื่นเช้าเกินไป ทำให้รู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอ

2. หลับๆ ตื่นๆ การนอนที่ไม่ต่อเนื่อง หลับไม่สนิท ทำให้ร่างกายไม่สามารถเข้าสู่การนอนหลับลึกเพื่อฟื้นฟูได้

3. คุณภาพการนอนต่ำ แม้จะนอนหลายชั่วโมง แต่หากเป็นช่วงหลับตื้นเป็นส่วนใหญ่ ร่างกายก็จะยังคงอ่อนเพลียและขาดพลังงาน

กระบวนการนอนหลับ 4 ระยะที่ควรรู้

การนอนหลับของเราแบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยแต่ละระยะมีความสำคัญต่างกัน และจะเกิดขึ้นสลับกันไปตลอดทั้งคืน

📌 ระยะหลับตื้น (NREM - Stage 1, 2) เป็นช่วงเริ่มต้นของการนอนหลับ ร่างกายจะเริ่มผ่อนคลายและลดกิจกรรมลง

📌 ระยะหลับลึก (NREM - Stage 3) เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพื่อซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

📌 ระยะหลับฝัน (REM - Rapid Eye Movement) สมองจะทำงานอย่างหนักเพื่อประมวลผลข้อมูล จัดระเบียบความทรงจำ และช่วยเรื่องการเรียนรู้

การนอนหลับที่มีคุณภาพคือการที่ร่างกายได้ผ่านกระบวนการเหล่านี้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะหลับลึก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟู

เคล็ดลับการนอนหลับให้มีคุณภาพ
การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

1. กำหนดเวลานอนให้สม่ำเสมอ พยายามเข้านอนและตื่นนอนในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน แม้ในวันหยุด เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับวงจรการนอนหลับ

2. สร้างบรรยากาศที่เหมาะสม ห้องนอนควรเงียบ มืด และเย็นสบาย รวมถึงจัดระเบียบให้เรียบร้อยเพื่อลดสิ่งรบกวน

3. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายหรือก่อนเข้านอน เพราะสารเหล่านี้จะรบกวนการนอนหลับของคุณ

4. งดการใช้หน้าจอ แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ง่วงนอน ควรหยุดใช้หน้าจออย่างน้อย 30-60 นาทีก่อนนอน

5. ผ่อนคลายก่อนนอน ลองทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือเบาๆ ฟังเพลงสบายๆ หรือฝึกหายใจเข้าลึกๆ

ประโยชน์ของการนอนหลับที่มีคุณภาพต่อสุขภาพ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและมีคุณภาพส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจในหลายๆ ด้าน

1. ฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกาย ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูพลังงานที่ใช้ไปในระหว่างวัน

2. เสริมสร้างสมองและความจำ การนอนหลับช่วยให้สมองประมวลผลข้อมูลและจัดระเบียบความทรงจำ ทำให้มีสมาธิและการตัดสินใจที่ดีขึ้น

3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก การอดนอนจะทำให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารเสียสมดุล ส่งผลให้รู้สึกหิวบ่อยและอยากอาหารที่มีน้ำตาลสูง

4. ลดความเสี่ยงของโรค การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า

5. อารมณ์ดีและจัดการความเครียดได้ดีขึ้น เมื่อร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ จะช่วยให้อารมณ์คงที่และสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีกว่าเดิม

การดูแลสุขภาพไม่ได้มีเพียงแค่การออกกำลังกายและเลือกอาหารที่ดี แต่การให้ความสำคัญกับการนอนหลับก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย ถ้าคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อย่าลืม..... ติดตาม Hybrid Coach Enhancement สำหรับเคล็ดลับดีๆ ต่อไปนะครับ แล้วคุณล่ะ... มีเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้หลับสบายกว่าเดิมไหม? คอมเมนต์มาแชร์กันได้เลย!



#คุณภาพการนอน #การนอนหลับ #ประโยชน์ของการนอน

13/08/2025

โภชนาการและการฟื้นตัวคือหัวใจสำคัญของนักฟุตบอลมืออาชีพ เพราะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับทุกการฝึกซ้อมและลงสนามแข่งขัน และช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

🎯 ระบบพลังงานกับการเล่นฟุตบอล

การเล่นฟุตบอลเป็นการใช้ระบบพลังงานหลายแบบผสมผสานกัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในสนาม

🎯 ระบบฟอสฟาเจน (ATP-PCr) ใช้สำหรับกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูงในระยะสั้น เช่น การวิ่งสปรินต์ การกระโดด หรือการยิงประตู

🎯 ระบบไกลโคไลซิส (Glycolysis) ใช้สำหรับกิจกรรมที่มีความเข้มข้นสูงแต่ยาวนานกว่า เช่น การวิ่งขึ้น-ลงสนามตลอดเกม

🎯 ระบบแอโรบิก (Aerobic) ใช้สำหรับกิจกรรมที่มีความเข้มข้นต่ำและต่อเนื่อง เช่น การวิ่งจ็อกกิ้ง

⚽️ ดังนั้น การวางแผนโภชนาการจึงต้องครอบคลุมการเติมพลังงานในทุกระบบ เพื่อให้ร่างกายมีเชื้อเพลิงเพียงพอตลอด 90 นาที

🎯 หลักการโภชนาการที่สำคัญ

การวางแผนโภชนาการที่ดีสำหรับนักฟุตบอลควรเน้นที่สารอาหารหลักอย่างสมดุล

📌 คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานหลักและสำคัญที่สุดสำหรับการเติมไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท และธัญพืช

📌 โปรตีน มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อที่สึกหรอ ควรได้รับจากแหล่งที่ดี เช่น เนื้อปลา อกไก่ ไข่ และนม

📌 ไขมัน ช่วยในการทำงานของฮอร์โมนและดูดซึมวิตามิน ควรเลือกไขมันดี เช่น อะโวคาโดและถั่วต่างๆ

🎯 การฟื้นตัวที่ครอบคลุม

นอกเหนือจากอาหาร การฟื้นตัวยังรวมถึงการดูแลด้านอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์เต็มที่

✅️ การนอนหลับ ควรนอนหลับให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด

✅️ การดื่มน้ำ รักษาสมดุลของน้ำในร่างกายอยู่เสมอ

✅️ การยืดเหยียด ช่วยลดอาการปวดเมื่อยและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ

พร้อมยกระดับศักยภาพนักฟุตบอลของคุณแล้วหรือยัง?

Hybrid Coach Enhancement มีโปรแกรมที่ครอบคลุมทั้งการวางแผนโภชนาการ การฝึกซ้อม และการฟื้นตัวที่ออกแบบมาเพื่อนักกีฬาโดยเฉพาะ ติดตามเคล็ดลับดีๆ และพัฒนาไปพร้อมกับเราได้ที่นี่....

เพราะสุขภาพดี คือ หน้าที่....

#โภชนาการนักกีฬา #ฟุตบอล #โค้ชฟุตบอล #พัฒนานักกีฬา

11/08/2025

การดูแลสุขภาพให้ดีคือหน้าที่

11/08/2025

Body Composition by Inbody สำคัญอย่างไร... ไปติดตามกันได้เลยครับ

#พัฒนาศักยภาพ

08/08/2025

มาอัพเกรดสกิลเทรนเนอร์ ของคุณไปด้วยกัน กับงาน Hybrid Coach Enhancement ครั้งที่ 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line :

08/08/2025

แนวทางการรักษา ภาวะ Arthrogenic Muscle Inhibition (AMI) (ตอนที่ 2) กล้ามเนื้อขี้เกียจ กล้ามเนื้อฝ่อลีบ รักษาอย่างไร ไปติดตามกันได้เลยครับ. Podcast กับ คุณหมอเดือน ต้องแก้ตรงไหนบ้างไปฟังกันเลยครับ.....