SUM UP

SUM UP SUM UP | NEWS ON THE GO.
สื่อออนไลน์ของคนใฝ่อ่าน ความรู้ บันเทิง
ศิลปะ และข่าว เพื่อเข้าใจคน เข้าใจโลก
read: www.sumupth.com

กลับสู่ซากปรักหักพังของ Raccoon City และสัมผัสความกลัวครั้งใหม่ในเกมผีชีวะภาคที่ 9 'Resident Evil Requiem'สำหรับแฟน ๆ เก...
16/07/2025

กลับสู่ซากปรักหักพังของ Raccoon City
และสัมผัสความกลัวครั้งใหม่ในเกมผีชีวะภาคที่ 9 'Resident Evil Requiem'
สำหรับแฟน ๆ เกม Resident Evil เตรียมตัวกันให้ดี เพราะทางค่าย Capcom เปิดเผยว่าเกม Resident Evil ภาคหลักถัดไปกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งใช้ชื่อภาคว่า Resident Evil Requiem ซึ่งเปิดตัวเป็นคลิปสั้น ๆ ครั้งแรกที่งาน Summer Game Fest เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2025 ก่อนที่รายละเอียดต่าง ๆ จะทยอยปล่อยออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ โดยภาคใหม่กำกับโดย Koshi Nakanish จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา มีตัวละครใหม่ที่หลายคนไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน รวมถึงการพากลับไปยังเมือง Raccoon City เมืองในตำนานของเกมซีรีส์นี้ที่ถูกทำลายไปในเกมภาคก่อน ๆ อีกด้วย
🟣 รู้จัก Grace Ashcroft ตัวละครใหม่ ลูกสาวของตัวละครภาคเสริม
ความน่าสนใจของการเปิดตัว Resident Evil Requiem คือการเปิดเล่าเรื่องของตัวละครใหม่ที่ไม่เคยมีแฟนเกมคนไหนรู้จักเธอมาก่อน ด้วยฉากของ FBI สาวผมบลอนด์เทาได้รับมอบหมายให้ไปสืบสวนคดีฆาตกรรมในคดีที่เธอไม่ได้อยากไปทำเท่าไหร่ ซึ่งฉากเปิดตัวเหล่านี้ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกับซีรีส์ Resident Evil เดิมเลยแม้แต่น้อย จากปกติมักจะเป็นตัวละครที่เป็นตัวหลักมาจากภาคก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกเจ้าประจำอย่าง Leon S. Kenedy, Chris Redfield หรือแม้แต่ตัวละครหญิงในตำนานที่คนทั่วโลกจดจำอย่าง Jill Valentine ก็ตาม
ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ตัวละครหลักในภาคนี้ คือ Grace Ashcroft เจ้าหน้าที่ FBI ฝีมือดี เธอเป็นลูกสาวของ Alyssa Ashcroft นักข่าวสาวที่เคยเป็นหนึ่งในตัวละครที่รอดชีวิตมาจาก Raccoom City จากเกมภาคแยกของซีรีส์ที่หลาย ๆ คนเกือบลืมไปแล้วอย่าง Resident Evil : Outbreak ทว่าตามข้อมูลของ Capcom นั้น Alyssa Ashcroft ได้เสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงลูกสาวที่ยังจมอยู่กับความทรงจำอันเลวร้าย ส่งผลให้ตัวละครใหม่ของ Resident Evil เริ่มต้นสัมผัสประสบการณ์ความกลัวไปพร้อมผู้เล่นใหม่ได้มากกว่าตัวละครเดิม ๆ ที่ต่างก็เก่งในการปราบสิ่งมีชีวิตติดเชื้อต่าง ๆ จนขั้นเทพกันไปหมดแล้วนั่นเอง
🟣 มุมมองผู้เล่นที่สามารถสลับระหว่างบุคคลที่หนึ่งและที่สามได้
สิ่งที่แฟน ๆ ต่างเฝ้ารอข้อมูลอีกอย่างก็คือระบบการเล่นเกม ที่ซีรีส์ Resident Evil มักจะพัฒนาให้แปลกใหม่เข้าถึงแฟน ๆ อยู่ในทุกช่วงของการปล่อยภาคใหม่ ๆ ออกมา ครั้งนี้ก็เช่นกัน กับการปรับให้มุมมองผู้เล่นเกมสามารถสลับไปมาระหว่างมุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือเป็นสายตาของผู้เล่นเองผ่านหน้าจอได้เลย ซึ่งเคยปรับใช้มาก่อนกับ Resident Evil 7 และ Resident Evil Village แต่ก็ยังสามารถสลับกลับไปเป็นมุมมองบุคคลที่สาม ที่จะมองผ่านไหล่ของตัวละครไป โดยเป็นมุมมองดั้งเดิมมาตั้งแต่ Resident Evil 4 ต้นฉบับ มาจนกระทั่งถึงภาค Remake ต่าง ๆ ในปัจจุบัน
ซึ่งการสลับมุมมองไปมาของผู้เล่น ประสานเข้ากับความกลัวของตัวละครใหม่ที่ยังไม่มีทักษะการรับมือกับเชื้อมรณะต่าง ๆ ตามเนื้อเรื่องในเกม ผู้สร้างเกมเชื่อว่าจะทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากภาคไหนมาก่อนเลยอีกด้วย
เกม Resident Evil Requien มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2026 และจะปล่อยตัว Demo ให้ทดลองเล่นกันในเดือนสิงหาคม 2025 ในรูปแบบที่คล้ายกับ Demo ของเกม Resident Evil ภาค 7 และภาคหลัง ๆ มา ซึ่งนับตั้งแต่มีการประกาศ Resident Evil Requiem ก็ถูกเพิ่มในรายการ Wish List ของผู้เล่นเกมมากกว่า 1 ล้านรายการในทุกแพลตฟอร์มที่กำหนดจะวางจำหน่ายเลยทีเดียว
เรื่อง : พิพัฒน์ วัฒนพานิช
ภาพ : มณฑล ชลสุข

----------
อย่าลืมกด 'FOLLOW' 👆 เพื่อติดตาม SUM UP
จะได้ไม่พลาด 'ความรู้' และ 'ข่าวสาร' ที่สนุกและเป็นประโยชน์
อ่านทุกเรื่องบนเว็บไซต์ https://www.sumupth.com/
----



#ผีชีวะ


#เกมสยองขวัญ

#เกมผีซอมบี้


16/07/2025

รู้จัก 'IO' หรือ 'ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร'


#ข่าววันนี้



#ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร
#ข้อมูลข่าวสาร
#ข้อมูล
#ข่าวสาร
#เจ้าหน้าที่รัฐ
#โซเชียลมีเดีย

#โฆษณาชวนเชื่อ


"แพลตฟอร์มเพียบ AI มาแล้ว"เทรนด์คอนเทนต์-ครีเอเตอร์ใหม่จะเป็นอย่างไร'ขจร iCreator' และ 'สุวิตา Tellscore'จากเวที Creativ...
16/07/2025

"แพลตฟอร์มเพียบ AI มาแล้ว"
เทรนด์คอนเทนต์-ครีเอเตอร์ใหม่จะเป็นอย่างไร
'ขจร iCreator' และ 'สุวิตา Tellscore'
จากเวที Creative Talk Conference 2025 มีคำตอบ

----


▪️ เทรนด์ของครีเอเตอร์ตอนนี้อยู่ที่ Facebook และ TikTok กำลังไล่จำนวนครีเอตเตอร์ตามมาติด ๆ

▪️ เทรนด์ของคอนเทนต์ที่คนทำเยอะ 3 อันดับแรกคือ หมวดไลฟ์สไตล์ ความสวยความงาม และท่องเที่ยว ส่วนคอนเทนต์ที่มีโอกาสโตมากคือ ครอบครัวและผู้สูงอายุ การออกกำลังกาย และคอนเทนต์ตลก

▪️ แน่นอนว่าวิดีโอสั้นมาแรง แต่รองลงมาคือภาพเดี่ยว และอัลบั้มภาพ พอดแคสต์ที่มีแค่เสียงรั้งท้ายรูปแบบการนำเสนอที่ได้รับความนิยม
----

ในโลกที่ทุกอย่างหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว อัลกอริทึมก็สามวันดีสี่วันไข้ แพลตฟอร์มก็เต็มไปด้วยผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา บางคนโตเร็วจนกลายมาเป็นแนวหน้าได้ไม่ยากถ้าอยู่ถูกที่ถูกเวลา แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะเห็นว่าสุดท้ายจะต้องมีอะไรขยับปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ จนบางทีเราก็รับมือกันไม่ทัน
ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ยุคนี้จึงต้องปรับตัวเร็ว และรับรู้สถานการณ์เทรนด์โลก เทรนด์ในประเทศ หรือเทรนด์แต่ละแพลตฟอร์มให้ทันท่วงทีเพื่อให้ตัวเองยังทรงตัวอยู่บนลู่วิ่งแสนรวดเร็วนี้ให้ได้ งาน Creative Talk Conference จึงได้จัด Session ที่ชื่อ 'อินฟลูฯเฟ้อ ครีเอเตอร์เอาไงต่อ Creator Trends 2026' กับ Speakers 2 ท่าน ได้แก่ 'ขจร เจียรนัยพาณิชย์' Executive Editor ที่ RAiNMaker และผู้จัดงาน iCreator Conferance และ 'สุวิตา จรัญวงศ์' CEO & Co-founder of Tellscore Co., Ltd. Influencer Platform เพื่อสรุปเทรนด์ที่น่าสนใจในโลกของคอนเทนต์ออนไลน์ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาให้ทุกคนได้ Catch Up ตามให้ทัน
เริ่มต้นให้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ คุณขจรเล่าว่าทุกวันนี้ 'Creator' คือส่วนประกอบหลักสำหรับทุกอุตสาหกรรม เพราะทุกอย่างต้องการการสื่อสาร หรือตัวแทนในการสื่อสารเรื่องราวออกไปสู่ผู้คน อย่างข้อมูลจำนวนครีเอเตอร์ในบ้านเราที่บอกไว้ว่าตอนนี้บน Facebook มีสัดส่วนครีเอเตอร์มากที่สุดถึง 31% รองลงมาคือ TikTok ที่ 25%, Instagram อีก 25% และ Youtube 17% ตามลำดับ
เมื่อมองไปยังหมวดหมู่คอนเทนต์ยอดนิยม 10 อันดับแรก เราจะเห็นเลยว่าคอนเทนต์อันดับที่ 1 คือ คอนเทนต์ประเภท Lifestyle 19% รองลงมาอันดับที่ 2 Beauty & Fashion 17%, อันดับที่ 3 Travel 8%, อันดับที่ 4 Entertainment 8%, อันดับที่ 5 Gaming 7%, อันดับที่ 6 Food Drink & Cafe 7%, อันดับที่ 7 News & Reporter 4%, อันดับที่ 8 Parenting & Kids 3%, อันดับที่ 9 Art & Literature 2% และอันดับที่ 10 Pets 2% อีกทั้งข้อมูลยังบอกอีกว่าหมวดหมู่คอนเทนต์ที่มีโอกาสโตได้อีกคือ Family & Senior, Athlete และ Comedian
ต่อมาคือในส่วนรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์ สัดส่วนที่กินพื้นที่การเข้าถึงมากที่สุดเลยหนีไม่พ้นรูปแบบวิดีโอสั้น 82.7% รองลงมาคือภาพเดี่ยว 53.8%, ภาพอัลบั้ม 47.2%, บทความสั้น 35.7%, วิดีโอยาว 26.3%, บทความยาว 15%, ไลฟ์ 14.1% และพอดแคสต์ 6.8% โดยสำหรับแชมป์ในหมวดรูปแบบการนำเสนอนี้ วิดีโอสั้นเอาชนะรูปแบบการทำคอนเทนต์ทุกชนิดไปโดยสิ้นเชิง เพราะสามารถทำคลิปทีเดียวแล้วลงแพลตฟอร์มไหนก็ได้ ขณะที่รูปแบบคอนเทนต์อื่นอาจเหมาะเพียงบางแพลตฟอร์มเท่านั้นเอง
ทางฝั่ง Influencer Trends จากข้อมูลของคุณสุวิตา Tellscore ก็มีข้อมูลน่าสนใจเช่นกัน อย่างเช่น หมวด Niche Content ที่กำลังมาแรงในช่วงปีที่ผ่านมาและน่าจับตามองเลย มีด้วยกัน 5 หมวดหมู่ ได้แก่
1️⃣ หมวด 'Scam Alert' หรือสายเตือนภัยมิจฉาชีพ เพราะตอนนี้คนไทยกำลังเจอแต่การหลอกลวงบนโลกออนไลน์ และกำลังมองหาความจริงที่เชื่อถือได้มากขึ้น

2️⃣ หมวด 'Joy Feed' หรือวิดีโอคอนเทนต์ที่นำเสนอเรื่องราวเชิงบวกในชีวิต อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยง ความตลก หรือเนื้อหาเบาสมอง เพราะขณะนี้คนไทยมีความเครียดสูงจากภาวะต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามา

3️⃣ หมวด 'In Search for Equality' เนื้อหาวิดีโอที่เน้นนำเสนอเนื้อหาเพื่อสร้างความเท่าเทียมและเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้อย่างเท่ากัน เพื่อสะท้อนว่าตอนนี้สังคมเรากำลังเจอกับความเหลื่อมล้ำเป็นอย่างมาก

4️⃣ หมวด 'In Search for Income' เนื้อหาวิดีโอที่เน้นนำเสนอช่องทางการหารายได้ใหม่ ๆ ให้ผู้คน เป็นหมวดคอนเทนต์ที่สะท้อนว่าตอนนี้คนไทยกำลังเจอกับภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง แม้แต่มนุษย์เงินเดือนเองก็เจอภาวะเดือนชนเดือน ต้องการหารายได้ทางอื่นเพิ่มมากขึ้น

5️⃣ หมวด 'Entrepreneur Life' เนื้อหาวิดีโอเล่าชีวิตของคนทำธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่เข้าถึงง่าย เพราะคนยุคนี้ต้องการประสบความสำเร็จ และเนื้อหาเบื้องหลังคนทำธุรกิจเหล่านี้ก็ช่วยเติมไฟให้ผู้คนว่าหน้าตาของความสำเร็จมันเป็นเช่นไร
ขณะเดียวกันแนวโน้มของสิ่งที่แบรนด์ต้องการและครีเอเตอร์ต้องการก็มีประเด็นเฉพาะเแยกย่อยลงไปมากขึ้น ทั้งเรื่องของการลด Cost ในการทำงาน แต่ยังคงเน้นคุณภาพคล้ายเดิม หรือประเด็นของ Hyper Local & Hyper Niche อย่างเช่นการที่แบรนด์สินค้าอยากทดลองสินค้ากับกลุ่มเป้าหมายการทดลองที่เฉพาะเจาะจงกว่าเดิม เพื่อความแม่นยำในการทดลองตลาดมากขึ้น หรือการพยายามทำความเข้าใจกลุ่มคน GEN Z ให้มากขึ้น เพราะอนาคตกลุ่มคนเหล่านี้จะกลายเป็นเป้าหมายหลักทางการตลาดต่อไปในอนาคต ไปจนถึงเรื่องของ Quick Win หรือการพยายามเอาชนะสมรภูมิคอนเทนต์ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างการไลฟ์ขายของนั่นเอง
ระหว่างพูดคุยเรื่องแนวโน้มสำคัญ ก็มีประเด็นหนึ่งน่าสนใจเกิดขึ้นมาก็คือ AI จะมีผลต่อครีเอเตอร์อย่างไรบ้างในยุคนี้ คุณขจรก็สะท้อนเรื่องหนึ่งให้ได้ฟังกัน นั่นคือการที่ยุคหนึ่งเราจะเห็นว่าผู้คนมีความแอนตี้ AI เป็นอย่างมาก กลับกันในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้ ด้วยความก้าวหน้าของ AI ที่ดีขึ้น ทำให้คนเริ่มยอมรับในการเป็นผู้รับสาร และใช้ AI เป็นผู้ส่งสารมากขึ้น อย่างในรายการของคุณสิทธิชัย หยุ่น ก็มีนักข่าว AI มาเป็นผู้ดำเนินรายการร่วม หรือใน TikTok ก็มีคนเล่าเรื่อง AI ออกมามากขึ้น
ในแง่รูปธรรม ช่วงเดือนที่ผ่านมามีการเก็บสถิติว่า Channel Youtube จำนวน 30 ช่องที่มีคน Subscribe มากที่สุดในโลกมีช่องไหนบ้าง ซึ่งก็มี 2 ช่องด้วยกันที่เป็น AI Creator 100% ขยับมาทางคุณสุวิตาก็ให้ข้อมูลว่า ข้อที่น่ากังวลสำหรับครีเอเตอร์เองนั่นคือการที่ พรบ. AI ยังไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดการสร้างเนื้อหาที่บิดเบือน หรือปลอมแปลงออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยอาจจะส่งผลโดยตรงกับครีเอเตอร์ที่เป็นมนุษย์ เพราะบางครั้งครีเอเตอร์แบบสุจริตจะหาเงินจากตรงนี้ได้ยากขึ้น
แล้วถ้าถามว่าวิธีการได้เงินจากโลกออนไลน์ของครีเอเตอร์จะเป็นอย่างไรต่อไป ข้อมูลจากทางคุณขจรก็ชี้ชัดว่า ในปัจจุบันครีเอเตอร์สามารถมีรายได้หลายทางเหมือนกัน ทั้งรายได้จากแพลตฟอร์ม, คอนเทนต์สปอนเซอร์และแบรนด์, การทำคอนเทนต์ปักตะกร้าขายสินค้า, เป็นวิทยากร, การโดเนตและของขวัญ, การออกสินค้า, ลิขสิทธิ์, การจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ และการสมัครสมาชิก แต่ที่สำคัญก็คือเราต้องหากลุ่มแฟน ๆ ให้เจอ เพราะกลุ่มแฟน ๆ จะได้ซัปพอร์ตเราผ่านการหารายได้ในทุกช่องทางเหล่านี้ต่อไป
ทางฝั่งคุณสุวิตาก็มีการทำ Forecast Research เพื่อค้นหาว่าวิธีการใดที่ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์จะปรับตัวได้ในโลกการสื่อสารในอนาคตข้างหน้าออกมาเป็นภาพอนาคต 5 ภาพใหญ่ ได้แก่ การเปิดกว้างทางความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำให้สิ่งที่เราคิดก้าวไปสู่ระดับโลกได้, การที่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยจะก้าวไปในระดับโลกได้อย่างแน่นอน, การเติบโตของครีเอเตอร์บนเส้นทางที่ไม่มั่นคงนัก, โลกแห่งวิกฤตความน่าเชื่อถือวงการคอนเทนต์ทั่วโลก และสุดท้าย การอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ในยุคก่อนหน้า
ทั้งหมดนี้คืออนาคตในโลกคอนเทนต์ที่ไม่แน่นอน แต่ก็ยังเป็นโลกที่หลายคนใฝ่หา เพราะเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่รอการลงมือทำ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าเนื้อหาในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังหาที่ทางบนการเป็นครีเอเตอร์ไม่ว่าจะรูปแบบใด แม้แต่ตัวผู้เขียนเอง ซึ่งก็เป็นฟันเฟืองหนึ่งในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นี้ก็ตาม
เรื่อง : ศุภณัฐ เลิศรักษ์กุล
ภาพ : มณฑล ชลสุข

----------
อย่าลืมกด 'FOLLOW' 👆 เพื่อติดตาม SUM UP
จะได้ไม่พลาด 'ความรู้' และ 'ข่าวสาร' ที่สนุกและเป็นประโยชน์
อ่านทุกเรื่องบนเว็บไซต์ https://www.sumupth.com/
----



#เทรนด์คอนเทนต์
#อินฟลูเอนเซอร์

#คอนเทนต์ครีเอเตอร์





เขามาหาดิฉัน ก็เพราะความสวยเธอจะโทษฉัน หรือโทษความเปราะบางของชายเป็นใหญ่ล่ะเป็นประเด็นที่พูดถึงกันร้อนแรงเป็นอย่างมากในโ...
16/07/2025

เขามาหาดิฉัน ก็เพราะความสวย
เธอจะโทษฉัน หรือโทษความเปราะบางของชายเป็นใหญ่ล่ะ
เป็นประเด็นที่พูดถึงกันร้อนแรงเป็นอย่างมากในโซเชียลมีเดีย กับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ การออกมาแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในวงการคณะสงฆ์ไทย ของ "สีกากอล์ฟ" ที่เธอมีหลักฐานพร้อมคำให้การว่า เธอได้เผด็จศึกพระผู้ใหญ่ในวงการสงฆ์ไทยมานับ 10 รูปเป็นเวลาหลายปี ซึ่งหลักฐานนั้นมีพร้อมทั้งข้อความแชต ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงหลักฐานการโอนเงินให้ด้วยความสเน่หา โดยความอื้อฉาวนี้ทำให้สังคมไทยแทบลุกเป็นไฟด้วยการตั้งคำถามต่อศรัทธาในคณะสงฆ์ไทยที่เหมือนกำลังจะล่มสลายเพราะสีกาคนเดียว
และในขณะเดียวกันข้ามแดนไปยังอีกประเทศ ก็เกิดข่าวที่กลายเป็นกระแสพูดถึงกันเป็นอย่างมาก เมื่อตำรวจของเมืองหนานจิง ประเทศจีน เข้าจับกุม "นายหนานจิง หงเจี่ย" ซึ่งปรากฎว่าเขาคือแอ็กเคานต์ที่ใช้ชื่อในโลกออนไลน์ว่า Sister Hong (เจ๊หงส์) เพื่อเผยแพร่คลิป 18+ ซึ่งเนื้อหาคือตัวเขาเองปลอมตัวเป็นหญิงข้ามเพศ เพื่อหลอกผู้ชายในแอปหาคู่ ก่อนจะนำมาปล่อยขายเพื่อสร้างรายได้ โดยผู้ชายนับพันคนที่เป็นเหยื่อ มีหลายคนไม่ได้ยินยอมให้ถูกถ่าย ทว่าหลังจากถูกจับ อาชญากรรมนี้กลับกลายเป็น Meme ล้อเลียนกันอย่างสนุกสนาน เพราะหลายคนในคลิปนั้น ทั้งหล่อ หุ่นดี และหลายคน "มีแฟนและภรรยาเป็นผู้หญิง" เสียด้วย
ทั้งสาวแท้และสาวทรานส์กำลังเขย่าบรรทัดฐานสังคมบางอย่างของชายในเอเชียอยู่หรือไม่?
🟠 ระบอบชายเป็นใหญ่และสังคมปิด
ระบอบชายเป็นใหญ่ในประเทศไทยและจีนมีความเข้มข้นที่ต่างกัน ในประเทศไทยแม้จะไม่ได้มีกำหนดออกมาเป็นตัวบทกฎหมายให้อภิสิทธิ์เพศชายเข้มข้นเท่าจีน แต่ด้วยสภาพสังคมและสถาบันบางอย่างที่ตั้งตัวอิสระจากกฎหมายกลาง ทำให้บางสถาบันกำหนดขอบเขตให้อภิสิทธิ์เพศชายมากกว่า ระบอบชายเป็นใหญ่จึงยังทำงานอย่างเข้มข้นและมีผลต่อสังคมอย่างต่อเนื่องในรูปแบบค่านิยมแฝง จนส่งผลกระทบต่อเพศสภาพอื่น ๆ นับตั้งแต่การกดทับผู้หญิง ไปจนถึง LGBTQ+ ซึ่งเห็นได้ชัดจากการถูกกีดกันการเข้าถึงสิทธิ์ในเรื่องต่าง ๆ แต่ผลกระทบอีกทางหนึ่งก็คือ เพศชายเองจะถูกกดดันไม่ให้เกิดการแสดงตัวตนได้ หากเพศชายคนนั้นยังไม่เป็นใหญ่มากพอ ไม่มีอำนาจมากพอเช่นกัน
การให้คุณค่าของ "ลูกชาย" ที่ในประเทศจีนที่ถือว่าเป็นลูกที่สามารถสืบสกุลได้ และนโยบายจากรัฐบาลจีนเองในสมัยหนึ่งก็สนับสนุนให้มีลูกบ้านละหนึ่งคนเพื่อเพิ่มประชากร ดังนั้นความเป็นลูกชายและเป็นที่คาดหวังต่อครอบครัวจึงเป็นแรงกดดันใหญ่ ที่ครอบครัวและสังคมแวดล้อมคาดหวังต่อลูกผู้ชาย เช่นเดียวกันกับในฝั่งไทย ที่แม้จะไม่มีแรงกดดันทางกฎหมายเข้มเท่า แต่ความเป็นลูกชายในไทยยังคงถูกผูกกับค่านิยมความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำครอบครัว ความเป็นสุภาพบุรุษต่อผู้หญิง และค่านิยมทางศาสนาดั้งเดิมที่ว่า "ลูกชายบวชได้" จะได้ให้บุพการีอาศัยเกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ จึงเป็นปัจจัยอ้อม ๆ กลาย ๆ บีบให้การพิสูจน์ความเป็นชายที่ดี มีอำนาจทางสังคมและทางศีลธรรมนั้น เป็นหน้าที่ที่ถูกวางสูตรสำเร็จให้เดินตามเอาไว้อยู่แล้ว
🟠 พื้นที่เถลไถล สำหรับการแสดงตัวตนในฐานะมนุษย์
จุดร่วมที่คล้ายกันของความฉาวในข่าวสีกากอล์ฟ และคลิปแซ่บของเจ๊หงส์ คือการที่ผู้ชายที่เป็นเหยื่อ (หรืออ้างว่าตกเป็นเหยื่อ) ได้ถูกบีบจากการเข้าสู่ขนบค่านิยมบางอย่างของสังคม จนไม่มีโอกาสได้สำรวจตัวตนในการแสดงออกด้านเพศ ยอมเข้ากรอบของสังคมที่วางเส้นทางเอาไว้ในช่วงที่วุฒิภาวะยังไม่พร้อม ดังนั้นเมื่อมีสิ่งเร้าหรือข้อเสนอที่เย้ายวนเข้ามาให้ตัดสินใจ การแหกกฎนิด ๆ หัวขบถหน่อย ๆ จึงเกิดขึ้น ทว่ามุมแหกกฎเล็ก ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้กับวัยรุ่นทุกเพศหากกระทำในพื้นที่ปลอดภัย และเรียนรู้เพื่อให้เกิดวุฒิภาวะที่เติบโตขึ้นตามวัย แต่ทว่ากับเพศชายที่ต้องแบกรับความคาดหวังจากสังคมสูงมาก การเถลไถลหนึ่งครั้งอาจจะส่งผลเสียเกินจะรับผิดชอบไหวไปทั้งชีวิตที่เหลือเลย
กรณีเจ๊หงส์ ในสังคมจีนคือประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก กฎหมายคุมเข้มเรื่องเพศ รวมไปถึงการเข้าถึงสื่อ 18+ ส่งผลให้ไม่มีพื้นที่ปลอดภัยให้การนิยามตัวตน ชายหลายคนที่มาร่วมสร้างผลงานกับเจ๊หงส์จำนวนมากจึงเป็นผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้หญิง มีภรรยา มีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงรูปลักษณ์ บุคคลิกที่ใกล้เคียงความเป็นชายสมบูรณ์แบบ กล่าวคือ สุขภาพดี มีกล้าม สุภาพ หล่อ มีของติดไม้ติดมือไปฝากเจ๊หงส์ถึงห้อง และยินยอมที่จะมีเซ็กซ์ด้วยแบบเต็มใจ แม้เจ๊หงส์จะมีเพศสภาพไม่ตรงกับที่สังคมจีนกำหนด หรือมาตรฐานความงามไม่ตรงกับที่คาดหวัง แต่เจ๊หงส์ให้การภายหลังว่า ได้มอบพื้นที่อบอุ่นที่สังคมรอบ ๆ เด็กหนุ่มเหล่านั้นไม่เคยได้รับ สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เจ๊หงส์เข้าถึงหนุ่ม ๆ จีนงานดีเหล่านั้นได้เป็นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับสีกากอล์ฟ คำให้การของพระผู้ใหญ่หลายรูปในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่สีกากอล์ฟได้เดินหน้าแฉและปล่อยหลักฐานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้สังคมไทยเกิดวิกฤตศรัทธามากมาย ภายใต้ความผิดของสงฆ์ถึงขั้นปราชิกนั้น พระผู้ใหญ่ให้การว่า "อ่อนต่อโลกและกลลวงของสีกากอล์ฟ" ซึ่งก็มีจุดร่วมใกล้เคียงกับเจ๊หงส์ เมื่อสีกากอล์ฟได้มอบพื้นที่ปลอดภัยให้พระผู้ใหญ่ได้ออดอ้อน ปลีกตัวเถลไถลออกจากความเป็นสมมติสงฆ์ ที่ศาสนิกชนชาวพุทธคาดหวังให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมตามบรรทัดฐานสถาบันศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่กลับถูกลอกเปลือกให้เหลือเพียงมนุษย์ที่ยังหลงมัวเมาในกิเลสไม่ต่างจากฆราวาสทั่วไป
🟠 ค่านิยมชายเป็นใหญ่ไม่ถูกมองไม่เป็นปัญหา จนกว่ามันจะสร้างปัญหา
มีงานวิจัยเมื่อปี 2016 ที่ว่าด้วยเรื่องการนิยามตัวตนของ "ชายแท้" โดย Tony Silva ภาควิชาสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ในหัวข้อ "Bud-S*x : Constructing Normative Masculinity Among Rutal Straight Man That Have S*x With Men" โดยงานวิจัยนี้ได้ไปทำกลุ่มสำรวจในรัฐแบบ Cowboy โซน Midwest หรือเรียกได้ว่าเป็นรัฐแบบชายแท้แมน ๆ ขี่ม้า ทำฟาร์ม ซึ่งปรากฏว่าวิถีทางเพศกับเพื่อนผู้ชายด้วยกันแมน ๆ แบบภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain นั้นเกิดขึ้นจริงในรัฐแถบนี้ ส่วนใหญ่เป็นสังคมปิดและอนุรักษนิยมจัดจ้าน ชายแท้หลายคนได้ให้ข้อมูลว่า การช่วยตัวเองกับเพื่อน การใช้ปาก หรือการสอดใส่ผ่านทวารหนัก ไม่ได้ทำให้ชายแท้เหล่านั้นรู้สึกสูญเสียความเป็นชายแต่อย่างใด และพวกเขายังคงมีอารมณ์ดึงดูดกับเพศหญิง ยังคงสะสมนิตยสาร 18+ ผู้หญิงไว้ที่บ้าน รวมถึงไม่มีความคิดที่จะเลิกกับภรรยาอีกด้วย เพียงแค่กิจกรรมชั่วคราวเหล่านี้ไม่อาจนิยามตัวตนของเขาให้กลายเป็น Bisexual หรือกลุ่มคนรักสองเพศได้เลย
ซึ่งกับดักของการนิยามตัวตน (Paradox of Labelization) นี้ แม้จะไม่ได้กระทบความสัมพันธ์กับครอบครัวตัวเองเพราะยอมหลับตาข้างหนึ่ง หรือไม่ยอมรู้เห็น เลยดูเหมือนไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ทว่าในรัฐแถบ Midwest นี้เช่นกัน ที่มีเสียงต่อต้านการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ+ หนักมาก เพราะกลุ่มครอบครัวอนุรักษนิยมเหล่านั้นมองว่าการสร้างครอบครัวของกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน คือการมาสั่นคลอนคุณค่าครอบครัวคู่รักต่างเพศ ที่ตามขนบเดิมประกอบไปด้วยผู้ชาย ผู้หญิง และลูก ๆ ตามค่านิยมเดิม แต่ทว่ากลุ่มคนที่ต่อต้านขบวนการ LGBTQ+ เหล่านี้ กลับมีพฤติกรรมทางเพศแบบเดียวกันกับ LGBTQ+ เหมือนกัน แค่ไม่ยอมนิยามตัวตนตามจริงเท่านั้นเอง
งานวิจัยเมื่อปี 2016 กลับสามารถยกมาอธิบายปรากฏการณ์ของเจ๊หงส์ และสีกากอล์ฟ ในปี 2025 ได้เป็นอย่างดี กับสังคมจีนที่ไม่ยอมรับการมีตัวตนของ LGBTQ+ อย่างเข้มข้น หรือแม้แต่สถาบันศาสนาในไทย ที่อุ้มชูความศักดิ์สิทธิ์ของเถรวาทเอาไว้ จนกลายเป็นบรรทัดฐานทางศีลธรรมกลาย ๆ ต่อต้านการยอมรับผู้ให้บริการทางเพศ กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ กีดกันให้การเข้าถึงนิพพานผ่านการอุปสมบท ผูกขาดอยู่แต่กับเพศชายเท่านั้น แต่ทว่าจริง ๆ แล้วพฤติกรรมทางเพศที่เกิดขึ้นจริงกลับหลากหลาย และไม่ได้ต่างไปจากมนุษย์คนอื่น ๆ ที่เท่าเทียมกันแต่อย่างใดเลย
เรื่อง : พิพัฒน์ วัฒนพานิช
ภาพ : มณฑล ชลสุข

----------
อย่าลืมกด 'FOLLOW' 👆 เพื่อติดตาม SUM UP
จะได้ไม่พลาด 'ความรู้' และ 'ข่าวสาร' ที่สนุกและเป็นประโยชน์
อ่านทุกเรื่องบนเว็บไซต์ https://www.sumupth.com/
----
#สีกากอล์ฟ
#เจ๊หงส์

#สีกา
#พระสงฆ์
#ชายเป็นใหญ่
#ชายแท้
#การนิยามตัวตน
#คลิปวิดีโอ
#แอบถ่าย



สภาฯ รับร่างนิรโทษกรรม 3 ฉบับ ปัดตก 2 ฉบับ ก้าวไกล-ภาคประชาชน ---- ▪️ สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 3 ฉบับ ได้แก่...
16/07/2025

สภาฯ รับร่างนิรโทษกรรม 3 ฉบับ
ปัดตก 2 ฉบับ ก้าวไกล-ภาคประชาชน

----


▪️ สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคกล้าธรรม (ชื่อเดิม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน) และพรรคภูมิใจไทย

▪️ สภาฯ ปัดตกไม่รับหลักการร่าง 2 ฉบับ ได้แก่ ของพรรคประชาชน (ชื่อเดิม ก้าวไกล) และของเครือข่ายภาคประชาชน
ขั้นตอนต่อไปคือ คณะกรรมาธิการวิสามัญ 32 คน จะพิจารณา ก่อนเข้าสู่วาระ 2 โดยจะยึดร่างของ 'นายวิชัย สุดสวาท' หรือ 'ฉบับรวมไทยสร้างชาติ' เป็นร่างหลัก

▪️ เงื่อนไข/รายละเอียด รวมถึงช่วงเวลาที่ร่าง พ.ร.บ. แต่ละฉบับกำหนด มีความสำคัญมาก ๆ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อ เจ้าหน้าที่รัฐ, คนในแวดวงการเมือง และผู้ต้องขังทางการเมือง
----

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่หลายภาคส่วนกำลังจับตามองสำหรับ 'ร่างกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม' ซึ่งมีทั้งหมด 5 ร่างกฎหมาย วันนี้ (16 กรกฎาคม 2568) ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมโดยมีผลสรุปการลงมติ ดังต่อไปนี้
🔴 ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ
นายวิชัย สุดสวาท สส.ชุมพร สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข โดยมีรายละเอียด อาทิ มีเงื่อนไขไม่นิรโทษกรรมให้กับความผิดฐานทุจริต, ความผิดตามมาตรา 112, ความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือการกระทำผิดส่วนตัว เป็นต้น โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ 'สภาฯ มีมติเห็นชอบรับร่างหลักการ' ด้วยคะแนนเสียง 299 เสียง ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 172 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
🔴 ฉบับของพรรคกล้าธรรม (ชื่อเดิม : พรรคครูไทยเพื่อประชาชน)
นายปรีดา บุญเพลิง สส.แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคกล้าธรรม เสนอร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข โดยมีรายละเอียด อาทิ มีเงื่อนไขไม่นิรโทษกรรมให้ความผิดฐานทุจริต, ความผิดตามมาตรา 112 และความผิดฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง เป็นต้น โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ 'สภาฯ มีมติเห็นชอบรับร่างหลักการ' ด้วยคะแนนเสียง 311 เสียง ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 158 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
🔴 ฉบับของพรรคภูมิใจไทย
ร่างนี้เป็นร่างที่เสนอเข้ามาเร่งด่วนและน่าจะเป็นร่างที่มาท้ายสุด โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส. แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข โดยมีรายละเอียดอาทิ มีเงื่อนไขไม่นิรโทษให้กับความผิดฐานทุจริต, ความผิดตามมาตรา 112, ความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือการกระทำผิดส่วนตัว เป็นต้น โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ 'สภาฯ มีมติเห็นชอบรับร่างหลักการ' ด้วยคะแนนเสียง 311 เสียง ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 147 เสียง ไม่มีผู้ไม่ลงคะแนนเสียง
🔴 ฉบับของพรรคประชาชน (ชื่อเดิม : พรรคก้าวไกล)
นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง โดยมีรายละเอียด อาทิ มีเงื่อนไขไม่นิรโทษกรรมให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม, การกระทำผิดต่อชีวิต และความผิดตามมาตรา 113 (กฎหมายอาญามาตรา 113 เกี่ยวข้องกับการล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลง, ล้มล้างอำนาจ 3 ฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงแบ่งแยกอำนาจการปกครอง) โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ 'สภาฯ มีมติไม่เห็นชอบรับร่างหลักการ' ด้วยคะแนนเสียง 319 เสียง ต่อ 147 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
🔴 ฉบับของภาคเครือข่ายประชาชน
นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และประชาชน 36,723 คน ได้เสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมประชาชน โดยมีรายละเอียด อาทิ ไม่นิรโทษกรรมให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม, ความผิดตามมาตรา 113 และมีเงื่อนไขพิเศษ อาทิ ให้นิรโทษกรรมให้กับคดีที่ คสช. ประกาศหรือออกคำสั่ง, ความผิดตามมาตรา 112, ความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปี 2548 เป็นต้น จนถึงวันที่ร่าง พ.ร.บ. บังคับใช้ โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ 'สภาฯ มีมติไม่เห็นชอบรับร่างหลักการ' ด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 149 งดออกเสียง 20 เสียง และไม่มีผู้ไม่ลงคะแนนเสียง
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในวาระที่ 1 สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม 3 ฉบับ ได้แก่ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคกล้าธรรม (ชื่อเดิม : พรรคครูไทยเพื่อประชาชน) และพรรคภูมิใจไทย และปัดตก 2 ฉบับคือของ พรรคประชาชน (ชื่อเดิม : ก้าวไกล) และเครือข่ายภาคประชาชนส่วนขั้นตอนต่อไปได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 32 คน เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและพิจารณา ก่อนที่นำไปพิจารณากันในวาระที่ 2 ต่อไป โดยจาก 3 ร่างนี้จะยึดร่างของ 'นายวิชัย สุดสวาท' หรือ 'ฉบับรวมไทยสร้างชาติ' เป็นร่างหลัก
อย่างไรก็ดี อาจพูดได้ว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถือเป็นกฎหมายที่สำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะบ้านเรามีความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศกันมาหลายครั้ง มีการชุมนุมทางการเมืองกันหลายหน ไม่ว่าจะเป็น การชุมนุมของกปปส. การชุมนุมของคนเสื้อแดง รวมถึงการชุมนุมครั้งใหญ่ของกลุ่มคณะราษฎรในปี 2563 ตลอดจนการใช้กฎหมายมาตรา 112 ดังนั้น เงื่อนไขและรายละเอียด รวมถึงช่วงเวลาที่ร่าง พ.ร.บ. แต่ละฉบับกำหนดมาจึงมีความสำคัญมาก ๆ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อ เจ้าหน้าที่รัฐ, คนในแวดวงการเมือง และผู้ต้องขังทางการเมือง
เรื่อง : วรรณรี ศรีสริ
ภาพ : มณฑล ชลสุข

----------
อย่าลืมกด 'FOLLOW' 👆 เพื่อติดตาม SUM UP
จะได้ไม่พลาด 'ความรู้' และ 'ข่าวสาร' ที่สนุกและเป็นประโยชน์
อ่านทุกเรื่องบนเว็บไซต์ https://www.sumupth.com/
----
#พรบนิรโทษกรรม
#ร่างนิรโทษกรรม
#ร่างพรบนิรโทษกรรม
#ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
#กฎหมายนิรโทษกรรม
#สภาผู้แทนราษฎร
#การเมืองไทย
#การเมือง

16/07/2025

อำนาจของการ 'นินทา' เป็นได้มากกว่าที่คิด


#เรื่องน่ารู้
#นินทา
#นินทาลับหลัง
#หัวข้อสนทนา
#การสื่อสาร
#กลุ่มคน
#สมาชิกกลุ่ม
#สังคมออฟฟิศ
#พนักงานบริษัท
#พฤติกรรมมนุษย์
#มานุษยวิทยา

ปฏิวัติอิสลาม พลิกแผ่นดินอิหร่าน 'ราชาสายฝอ' แพ้ภัย 'เทปธรรมะ'เพื่อน ๆ เคยเห็นภาพไวรัลเก่า ๆ ที่หญิงสาวชาวอิหร่านในยุค 7...
16/07/2025

ปฏิวัติอิสลาม พลิกแผ่นดินอิหร่าน
'ราชาสายฝอ' แพ้ภัย 'เทปธรรมะ'
เพื่อน ๆ เคยเห็นภาพไวรัลเก่า ๆ ที่หญิงสาวชาวอิหร่านในยุค 70 แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด เดินสวย ๆ ในมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งใส่บิกินีริมหาดไหม? ภาพเหล่านั้นไม่ใช่เฟกนิวส์ แต่มันคือเรื่องจริงของอิหร่าน ก่อนที่ทุกอย่างจะ "พลิกคว่ำ" ลงไปในปี 1979
การปฏิวัติอิสลามอิหร่านไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนปฏิทินหรือเปลี่ยนผู้นำ แต่มันคือการ "ลบแล้วสร้างใหม่" ทั้งประเทศ จากระบอบกษัตริย์ที่พยายามจะเป็น "ฝรั่ง" เต็มขั้น สู่สาธารณรัฐอิสลามที่ปกครองโดยนักบวชแบบสุดขั้ว เรื่องราวสุดดราม่านี้ไม่ได้จบแค่ในอิหร่าน แต่มันส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกตะวันออกกลาง และลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้
ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมแผ่นดินที่ดูเหมือนจะโมเดิร์นจ๋าถึงยอมทิ้งทุกอย่างแล้วหันหลังกลับไปสู่ยุคแห่งศรัทธาแบบสุดโต่ง? เรามาย้อนรอยเรื่องนี้กัน
🟠 เชื้อไฟที่รอวันปะทุ "ราชาผู้ฝันอยากเป็นฝรั่ง" กับโปรเจกต์ "White Revolution" ที่คนไม่ Get
ราชวงศ์ปาห์ลาวี โดยเฉพาะ พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี คือราชาที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ "อิหร่านต้องโกอินเตอร์!" พระองค์พยายามลากประเทศเข้าสู่ความทันสมัยแบบก้าวกระโดดด้วยโปรเจกต์ "การปฏิวัติขาว" (White Revolution) ในปี 1963 ฟังดูดีใช่ไหม? ปฏิรูปที่ดิน ให้สิทธิผู้หญิง สร้างโรงงาน อัปเกรดการศึกษา
แต่เดี๋ยวก่อน การ "อัปเกรด" แบบไม่ถามใคร แถมยังทำแบบ "Top-down" หรือสั่งจากบนลงล่างมันดันไปเหยียบตาปลาคนกลุ่มใหญ่ของประเทศเข้าอย่างจัง! กลุ่มนักบวชเสียผลประโยชน์, พ่อค้าในตลาดพื้นเมือง (Bazaar) ที่เคยเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจก็กำลังจะตายเพราะนโยบายที่เอื้อนายทุน, ชาวบ้านที่ได้ที่ดินปฏิรูปไปก็ดันเป็นแปลงเล็ก ๆ ทำกินไม่พอ สุดท้ายก็ต้องระหกระเหินเข้าเมืองมาเป็นแรงงานราคาถูก
ความเจริญที่กระจุกตัวอยู่แค่ในเมืองใหญ่ กับวัฒนธรรมตะวันตกที่ไหลบ่าเข้ามาเหมือนสึนามิ ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ยังยึดมั่นในวิถีอิสลามรู้สึกเหมือนเป็น "คนแปลกหน้า" ในบ้านเกิดตัวเอง สรุปง่าย ๆ คือ ชาห์อยากจะจัดปาร์ตี้แบบฝรั่ง แต่แขกส่วนใหญ่ดันอยากนั่งล้อมวงกินข้าวแบบเดิม ๆ
🟠 SAVAK "หน่วยล่าฝันร้าย" ยิ่งปราบ ยิ่งโต
เมื่อความไม่พอใจเริ่มก่อตัว สิ่งที่รัฐบาลเผด็จการทำคืออะไร? "ปิดปาก" มันซะ! และเครื่องมือปิดปากชั้นดีของพระเจ้าชาห์ก็คือ "ซาวัก" (SAVAK) ตำรวจลับที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม ใครคิดต่าง จะถูกจับ ขัง ทรมาน… สร้างบรรยากาศแห่งความกลัวให้ปกคลุมไปทั่วประเทศ
แต่เรื่องตลกร้ายก็คือ การกระทำของซาวักที่ได้รับการสนับสนุนจาก CIA ของสหรัฐฯ แทนที่จะกำจัดศัตรูได้หมดสิ้น กลับกลายเป็น "กาวใจ" ชั้นดีที่ทำให้กลุ่มต่อต้านที่ปกติไม่ถูกกัน ทั้งนักศึกษาฝ่ายซ้าย, กลุ่มเสรีนิยม และกลุ่มนักบวชอนุรักษนิยม หันมารวมตัวกันสู้กับ "ศัตรูร่วม" คือระบอบของชาห์ ยิ่งปราบ… แนวร่วมยิ่งขยายตัว มันคือการราดน้ำมันเข้ากองไฟดี ๆ นี่เอง
🟠 อยาตุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้นำจิตวิญญาณ กับ "เทปคาสเซ็ต" ที่สั่นคลอนบัลลังก์
ท่ามกลางความสิ้นหวัง 'อยาตุลลอฮ์ โคมัยนี' นักบวชอาวุโสผู้ถูกเนรเทศออกจากประเทศตั้งแต่ปี 1964 ก็ได้กลายเป็นฮีโร่ในใจมวลชน เขาไม่ได้มีกองทัพ แต่เขามี "อาวุธ" ที่ทรงพลังกว่านั้น นั่นคือ "เทปคาสเซ็ต" คำเทศนาของเขาที่อัดแน่นไปด้วยการประณามความฟุ้งเฟ้อของชาห์, การคอร์รัปชัน, และการยอมเป็นเบี้ยล่างให้อเมริกา ถูกลักลอบส่งเข้ามาในอิหร่าน และแพร่กระจายไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง
โคมัยนีไม่ได้แค่ปลุกระดม แต่เขายังนำเสนอ "ทางเลือก" ที่ชัดเจน นั่นคือทฤษฎี "Velayat-e Faqih" หรือการปกครองโดยนักนิติศาสตร์อิสลาม พูดง่าย ๆ คือ "รัฐบาลฆราวาสมันห่วยแตก ถึงเวลาแล้วที่ผู้รู้ธรรมของพระเจ้าต้องขึ้นมาปกครองเอง" นี่คือพิมพ์เขียวของ "สาธารณรัฐอิสลาม" ที่เขาวางไว้รอแล้ว
🟠 เมื่อแผ่นดินเดือดและกษัตริย์ต้องหนี
จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงในเดือนมกราคม 1978 เมื่อสื่อรัฐบาลดันไปตีพิมพ์บทความโจมตีโคมัยนีเข้า ผลคือ นักศึกษาศาสนาในเมืองกอมลุกฮือประท้วง! และแน่นอน รัฐบาลส่งกองกำลังไป "จัดการ" จนมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยคน
การตายครั้งนั้นไม่ได้จบเรื่อง แต่มันคือการเริ่ม "วงจรอุบาทว์แห่งความตาย" ตามประเพณีชีอะห์ที่จะมีพิธีไว้อาลัยในวันที่ 40 ของการเสียชีวิต พิธีไว้อาลัยกลายเป็นการประท้วงครั้งใหม่ เกิดการปราบปราม มีคนตายอีก แล้วก็วนลูปไปแบบนี้ทั่วประเทศ พอถึงปลายปี 1978 การประท้วงและการนัดหยุดงานก็ทำให้ทั้งประเทศเป็นอัมพาต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมน้ำมันที่รายได้ดิ่งเหว สุดท้าย เมื่อคุมอะไรไม่ได้อีกต่อไป ในวันที่ 16 มกราคม 1979 พระเจ้าชาห์ก็ต้องยอม "เก็บกระเป๋า" ขึ้นเครื่องบินหนีออกจากแผ่นดินเกิด และไม่ได้กลับมาอีกเลย
เพียงสองสัปดาห์ต่อมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1979 โคมัยนีก็เดินทางกลับอิหร่านอย่างวีรบุรุษ ท่ามกลางฝูงชนกว่า 5 ล้านคนที่มารอต้อนรับในเตหะราน ฟางเส้นสุดท้ายของระบอบเก่าขาดสะบั้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เมื่อกองทัพที่เคยเป็นเสาค้ำบัลลังก์ ประกาศ "วางตัวเป็นกลาง" จบสิ้นระบอบกษัตริย์ 2,500 ปีของเปอร์เซียอย่างเป็นทางการ
🟠 ฮันนีมูนจบแล้วถึงเวลา "เคลียร์บ้าน" ฉบับโคมัยนี
การปฏิวัติสำเร็จแล้ว? เย้! แต่เดี๋ยวก่อน "เพื่อนร่วมรบ" ที่เคยสู้มาด้วยกันตอนนี้เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะวิสัยทัศน์ "อิหร่านใหม่" ของแต่ละกลุ่มมันหนังคนละม้วนชัด ๆ
🟠 รัฐบาลชั่วคราว vs สภาปฏิวัติ ศึกชิงอำนาจภายใน
โคมัยนีตั้งนายกฯ ชั่วคราวชื่อ 'เมห์ดี บาซาร์กัน' ซึ่งเป็นพวกสายกลาง-เสรีนิยม แต่ในทางปฏิบัติ บาซาร์กันเหมือนเป็น "นายกฯ หุ่นเชิด" เพราะอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ 'สภาปฏิวัติ' ที่โคมัยนีตั้งขึ้นมาเอง และเต็มไปด้วยลูกศิษย์สายแข็งของเขา
ความขัดแย้งปะทุขึ้นทันที รัฐบาลบาซาร์กันอยากให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ แต่ฝ่ายนักบวชต้องการ "ล้างบาง" แบบถอนรากถอนโคน สุดท้าย บาซาร์กันก็ต้องยอมแพ้ และลาออกในเดือนพฤศจิกายน 1979 หลังเกิดวิกฤตตัวประกันสถานทูตสหรัฐฯ ที่เขาคุมไม่ได้ เป็นการส่งสัญญาณว่า "สายกลาง" ได้ตายไปจากสมการอำนาจของอิหร่านแล้ว
🟠 รัฐธรรมนูญฉบับ "Bait-and-Switch"
ตอนแรก ประชาชนลงประชามติอย่างท่วมท้น 98% ให้เปลี่ยนจากระบอบกษัตริย์เป็น "สาธารณรัฐอิสลาม" แต่คำว่า "สาธารณรัฐ" ในหัวของคนส่วนใหญ่ กับในหัวของโคมัยนีมันคนละความหมายกันเลย
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่รัฐบาลชั่วคราวเสนอมา มีความเป็นประชาธิปไตยแบบตะวันตก แบ่งอำนาจชัดเจน แต่โคมัยนีไม่เล่นด้วย เขาสั่งให้ "สมัชชาผู้เชี่ยวชาญ" (ที่ลูกศิษย์เขาคุมอีกนั่นแหละ) จัดการร่างใหม่ทั้งหมด ผลที่ได้คือรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่สถาปนาตำแหน่ง "ผู้นำสูงสุด" (Supreme Leader) ซึ่งก็คือตัวโคมัยนีเองให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือทุกสถาบัน ทั้งประธานาธิบดี รัฐสภา และศาล
พูดง่าย ๆ คือ ประชาชนโหวตเลือกรถเก๋ง แต่ตอนรับรถกลับได้รถถังที่แปะป้ายว่าเป็นรถเก๋งมาแทน อิสรภาพ เสรีภาพ ที่เคยเป็นคำขวัญของการปฏิวัติ ถูกตีความใหม่ให้เหลือแค่ "สาธารณรัฐในนามพระเจ้า" ที่อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน แต่อยู่ที่นักบวชเพียงคนเดียว
🟠 ผลพวงที่ยังไม่จางหายเมื่อกลุ่มของโคมัยนีกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ การ "ชำระแค้น" ก็เริ่มต้นขึ้น
อดีตพันธมิตรที่เคยร่วมปฏิวัติ ทั้งฝ่ายซ้าย คอมมิวนิสต์ หรือแม้แต่อิสลามิสต์สายปฏิรูป ถูกกำจัดทิ้งอย่างโหดเหี้ยม มีการประหารชีวิตไปหลายพันคน ระบอบใหม่ที่เคยสัญญาว่าจะมอบอิสรภาพ กลับกลายเป็นเผด็จการไม่ต่างจากระบอบเก่า
สิทธิสตรีที่เคยเบ่งบานในยุคชาห์ถูกลิดรอนอย่างหนัก การบังคับสวมฮิญาบกลายเป็นกฎหมาย, ผู้หญิงถูกห้ามเป็นผู้พิพากษา และอายุขั้นต่ำของการแต่งงานลดเหลือเพียง 9 ขวบ! แม้ผู้หญิงอิหร่านจะยังคงต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเธอมาตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง
วิกฤตตัวประกันสถานทูตสหรัฐฯ (1979) และสงครามกับอิรัก (1980-1988) กลายเป็นเครื่องมือชั้นดีให้ระบอบใหม่ใช้ปลุกกระแสชาตินิยมและ "กำจัดหนอนบ่อนไส้" ภายในประเทศ การมีศัตรูร่วมอย่าง "อเมริกาจอมปีศาจ" และ "ซัดดัม ฮุสเซน" ช่วยให้ระบอบของโคมัยนีแข็งแกร่งและชอบธรรมในการใช้ความรุนแรงมากขึ้น
แม้จะมีการโอนกิจการสำคัญ ๆ มาเป็นของรัฐและลดความเหลื่อมล้ำลงได้บ้าง แต่เศรษฐกิจอิหร่านก็พังพินาศจากสงครามและการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ แถมยังต้องพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันที่ผันผวนเหมือนเดิม และที่หนักที่สุดคือการถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติเพราะโครงการนิวเคลียร์ที่กลายเป็น "ศักดิ์ศรีของชาติ" ที่ยอมหักไม่ยอมงอ
การปฏิวัติอิหร่านปี 1979 คือบทเรียนราคาแพงที่สอนเราว่า การโค่นล้มเผด็จการคนหนึ่ง อาจนำไปสู่การมาของเผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งได้เสมอ มันคือการต่อสู้ระหว่าง "ความทันสมัย" กับ "รากเหง้าทางวัฒนธรรม" ที่เมื่อถึงจุดแตกหักก็ไม่มีใครเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง
สุดท้ายแล้ว… คุณคิดว่าประชาชนอิหร่านได้ "อิสรภาพ" ที่แท้จริงจากการปฏิวัติครั้งนี้หรือไม่? หรือมันเป็นเพียงแค่การ "เปลี่ยนนาย" จากราชาในวังมาเป็นนักบวชในมัสยิด? และในโลกยุคใหม่ที่ข้อมูลข่าวสารวิ่งไวยิ่งกว่าจรวด โมเดลการปฏิวัติด้วย "ศรัทธา" แบบนี้ จะยังมีที่ยืนอยู่อีกไหม?
เรื่องนี้คงไม่มีคำตอบที่ถูกผิดตายตัว มีแต่บทเรียนให้เราได้ขบคิดกันต่อไป
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
ภาพ : มณฑล ชลสุข

----------
อย่าลืมกด 'FOLLOW' 👆 เพื่อติดตาม SUM UP
จะได้ไม่พลาด 'ความรู้' และ 'ข่าวสาร' ที่สนุกและเป็นประโยชน์
อ่านทุกเรื่องบนเว็บไซต์ https://www.sumupth.com/
----
#พระเจ้าชาห์
#ราชวงศ์ปาห์ลาวี

#การปฏิวัติขาว
#อยาตุลลอฮ์โคมัยนี
#โคมัยนี
#ผู้นำจิตวิญญาณ

#หน่วยซาวัก
#ปฏิวัติ1979
#ปฏิวัติอิสลาม
#สาธารณรัฐอิสลาม
#ปฏิวัติอิหร่าน
#อิหร่าน
#ตะวันออกกลาง
#ประวัติศาสตร์


Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when SUM UP posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to SUM UP:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share