แอ้แห่ระเบิด

แอ้แห่ระเบิด สร้างมาฮีลใจตัวเอง อยู่กับแมว
ขอระบายความในใจ
ตามประสาคนเศร้าหน่อยน้าาา❤️
(ทำข่าวที่เป็นกระแสได้นิดหน่อย555)

24/09/2025

🚨24 กันยายน 2568 เวลา 22.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรี แถลงภายหลังจากประชุม ครม.นัดพิเศษ โดยใช้ระยะเวลาการประชุมกว่า 3 ชม.
📍ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาล ที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา อยู่ระหว่างรอคำยืนยันจาก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา คาดว่า จะเป็นช่วงต้นสัปดาห์หน้า ที่จะได้ “แถลงนโยบายต่อรัฐสภา”
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล เรื่องการแก้ปัญหา 4 ด้าน คือ

-ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่อง การลดรายจ่าย ผลักดันโครงการคนละครึ่ง สนับสนุนให้ประชาชน ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น

-ปัญหาความมั่นคง ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จะใช้มาตรการ ทางการทหาร และทางการทูต ควบคู่กัน เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไทย

-ปัญหาภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ เร่งรัดทำระบบเตือนภัย ป้องกันภัย แก้กฎระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ จนท.รัฐ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้โดยสะดวก และเร็วที่สุด โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดระเบียบ ป้องกันการรั่วไหล และป้องกันการทุจริตคอรัปชันได้

-ปัญหาภัยสังคม จะปราบปรามอย่างจริงจัง เข้มงวด และเด็ดขาด กับขบวนการค้ายาเสพติด การพนัน การพนันออนไลน์ สแกรมเมอร์ เครือข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย เป็นภัยทางเศรษฐกิจ จนท.รัฐ ที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างร้ายแรง อาจถึงต้องออกจากราชการไว้ก่อน แล้วตามด้วยการดำเนินคดีทางอาญาทุกกรณี “เรื่องนี้รัฐบาลจะเอาจริง เพื่อที่จะแก้ปัญหาด้านภัยสังคมให้ผ่านพ้นไปให้ได้”
รัฐบาลนี้มีนโยบายที่ชัดเจน ที่จะ “ไม่สนับสนุนธุรกิจการพนัน” ไม่มีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แบบคาสิโนและไม่มีการพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาข้าว ราคามันสำปะหลัง และสินค้าเกษตรอีกหลายชนิด จัดทำระบบการใช้สาธารณสุขให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยเข้าถึง อย่างทั่วถึงและสะดวกที่สุด
ปฏิรูปกฎหมายต่างๆเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทย ในการที่จะรับมือกับเทคโนโลยีที่ผ่านเปลี่ยนไปตลอดเวลา จะนำประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก
ด้านนิติบัญญัติ รัฐบาลจะจัดให้มีการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีการลงคะแนนเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปข้างหน้า ซึ่งก็จะเกิดขึ้นในปีหน้า
ตนเองในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” จะยุบสภาฯ ภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่า จะยุบสภาฯ ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 เพื่อคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้พวกเขาได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ภายในเดือนมีนาคม หรืออย่างช้าต้นเดือนเมษายน 2569
“คณะรัฐมนตรีของผมทุกท่าน ทุกคน ต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา วันหยุดไม่มี สัปดาห์ละ 7 วัน โดยที่ไม่มีความละล้าละลังใดใด” นายอนุทิน กล่าว 😅
#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨วันนี้ (24 ก.ย. 68) พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการจัดการคดีเขากระโดงและฮั้ว สว.ว่า ไม่มี เพราะดำเนินการไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว

📍ส่วนจะกำชับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างไรนั้น พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวว่า ก็กำชับตามกรอบอยู่แล้ว เพราะเขาดำเนินการมาได้ระดับหนึ่งแล้ว

📍เมื่อถามว่าจะเปิดตัวอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนใหม่หรือไม่ พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวว่า ไม่มี ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นอดีตคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น พล.ต.ต.รุทธพล ไม่ได้ตอบคำถาม

📍ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าหนักใจหรือไม่เพราะสังคมจับตาเรื่องเขากระโดงกับคดีฮั้ว สว. พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะทุกสิ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องและนานพอสมควร เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย เราไม่แทรกแซงอยู่แล้ว

📍เมื่อถามย้ำว่าไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวหรือไม่ พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ” 🤔

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 24 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ด้านนิติบัญญัติ รัฐบาลจะจัดให้ทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ในวันที่มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นในปีหน้า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาผู้แทนราษฎรใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าเราจะยุบสภาภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 เพื่อคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน ให้ได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมหรืออย่างช้าต้นเดือนเมษายน 2569 ทั้งนี้สุดแล้วแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะได้กำหนดต่อไป.

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨วันนี้ (24 ก.ย. 68) ภายหลังการเข้าเฝ้า ถวายสัตย์ปฏิญาณตน คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อประชุม ครม.นัดพิเศษ

📍พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีเขากระโดง ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องคดีเขากระโดง มีความกังวลอะไรหรือไม่ เพราะถูกจับตามองตั้งแต่รายชื่อรัฐมนตรียังไม่ออก พล.ต.ต.รุทธพล ไม่ได้ตอบคำถาม

📍ผู้สื่อข่าวจึงพยายามถามอีกว่า ได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ พล.ต.ต.รุทธพล ไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น

📍ด้านจ่าเอกยศสิงห์​ เหลี่ยมเลิศ​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ขู่เตรียมอภิปรายคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี​ โดยจ่าเอกยศสิงห์​ ยืนยันว่า​ ไม่กังวล​

📍ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตประพฤติมิชอบ​ จ่าเอกยศสิงห์​ กล่าวว่า​ ตนสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด #การเมืองไทย

🚨นายกฯ อนุทิน นำ ครม.ถ่ายภาพหมู่ชื่นมื่นหน้าตึกไทยคู่ฟ้า📍วันนี้ (24 ก.ย.68) เวลา 14.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตร...
24/09/2025

🚨นายกฯ อนุทิน นำ ครม.ถ่ายภาพหมู่ชื่นมื่นหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

📍วันนี้ (24 ก.ย.68) เวลา 14.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลครั้งแรกหลังมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดารัฐมนตรีต่างพากันมาที่ตึกสันติไมตรี เพื่อถ่ายรูปติดบัตรประจำตัว และถ่ายภาพรวมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศจับจองพื้นที่เพื่อรอนำเสนอข่าว

ในเวลา 15.30 น.นายอนุทิน นำ ครม.ถ่ายภาพรวม บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในเวลา 18.00 น.

📍ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเข้าเฝ้าฯ นายอนุทิน จะนำประชุม ครม.นัดพิเศษ โดยวาระสำคัญคือ การเสนอให้ ครม.รับทราบร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา และการแบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คนกำกับดูแลกระทรวง และหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย #การเมืองไทย

24/09/2025

🚨เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ สมาชิกพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมทำงานทางการเมืองกับพรรคกล้าธรรม ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมว่า เป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง หลังจากแยกทางกันไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องตามผู้ใหญ่ที่เคารพ แต่ในขณะนี้ผู้ใหญ่ท่านนั้นได้วางมือจากการเมืองแล้ว จึงกลับมาทำงานร่วมกับ ร.องธรรมนัสตามที่เคยให้สัญญาไว้

📍“ตอนที่แยกกันออกมาก็ยังเคารพกันอยู่ ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร และท่านผู้กองก็เคยบอกไว้ว่าถ้าผู้ใหญ่ของผมวางมือเมื่อไหร่ก็ให้กลับมาช่วยกันทำงานอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ก็เป็นเช่นนั้น” นายหิมาลัยกล่าว.

📍สำหรับภารกิจในพรรคกล้าธรรม นายหิมาลัยกล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คุ้นเคยอยู่แล้ว รวมถึงภาคอีสานบางส่วน โดยขณะนี้ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นจังหวัดใดบ้าง และยังมีภารกิจในภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.สงขลา ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปประสานงานกับกลุ่มการเมืองในพื้นที่

📍เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเจรจากับนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้เข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรม นายหิมาลัยกล่าวยอมรับว่า มีการพูดคุยกันจริง ในลักษณะการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง เพราะเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันมานาน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผลการพูดคุยจะนำไปสู่การเข้าร่วมพรรคกล้าธรรมหรือไม่.

📍“ท่านนายกชายเป็นรุ่นพี่ที่เคารพกัน ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันปกติ เรื่องจะมาร่วมงานหรือไม่นั้น ต้องให้ท่านเป็นผู้ตอบเอง” นายหิมาลัยกล่าว.🤔

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨วันที่ 24 ก.ย.68 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย ว่า ตนขอส่งเสียงในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เฝ้ามอง ขอเรียกร้องให้พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เปิดพื้นที่ในการพูดคุยต่อสาธารณะให้ประชาชนได้รับทราบไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่ได้ทำ MOA ร่วมกัน ในการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นมา ภายใต้เป้าหมายให้มีการทำประชามติ ไปสู่ประตูการแก้รัฐธรรมนูญ ได้มีข้อสรุปร่วมกัน ว่าจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะเสนอเป็น ‘ร่างเดียว’ แต่ให้มีการลงชื่อร่วมกันของ 2 พรรคการเมือง แม้ว่าในทางกฎหมาย ทุกพรรคการเมืองต่างก็เสนอร่างของตนได้ แต่เรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเกิดจาก ‘ดีล’ ที่พรรคสีส้มและพรรคสีน้ำเงิน ไปตกลงทำกันมา

📍ดังนั้น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงควรแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันทั้ง 2 พรรค เพื่อเป็นหลักประกันให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งพรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคแกนนำฝ่ายค้าน มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน มีเนื้อหาสาระอย่างเดียวกัน และมีที่มาจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แบบเดียวกัน เพื่อผลักดันให้เกิดผลในรัฐสภา เพราะหากต่างคนต่างร่าง หรือต่างคนต่างเสนออย่างที่เป็นอยู่ ก็จะมีปัญหาว่า เมื่อรัฐสภาผ่านวาระแรกไปแล้ว ในชั้นกรรมาธิการจะใช้ร่างฉบับใดเป็นร่างหลัก และถึงที่สุดหน้าตาของ สสร. ซึ่งจะเป็นเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะออกมาอย่างที่คนส่วนใหญ่เขากังวล ว่าอาจจะเกิดเป็น ‘สสร.สีน้ำเงิน’ ด้วยหรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้เริ่มต้นได้ที่พรรคประชาชน ในฐานะผู้เสนอเงื่อนไข และผู้กำหนด MOA ขอให้หัวหน้าพรรคประชาชน เดินไปพูดคุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตกลงกันให้เสร็จ แล้วประกาศกับประชาชนว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 2 พรรค เนื้อหาเป็นอย่างไร และประชาชนควรจะมีสิทธิ์ได้เห็นภาพแกนนำของทั้ง 2 พรรค เดินไปเปิดโต๊ะหารือกับ สว. เพื่อขอรับการสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ด้วย

เรื่องนี้ไม่ใช่การเสนอให้มีการก้าวก่ายขอบเขตอำนาจและการปฎิบัติหน้าที่ระหว่างสภาล่างกับสภาสูง แต่เนื่องจากรัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลดีลพิเศษ วิธีปฏิบัติจึงไม่ควรยึดในกรอบอย่างปกติทั่วไป ควรยึดเอาเป้าหมายและความเชื่อมั่นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

“พรรคประชาชนอย่าได้เกรงใจพรรคภูมิใจไทย ท่านต้องการแบบไหน หรือจะเดินแบบไหน คุยกันให้ชัด ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกมองว่า นี่เป็นการเสนอเงื่อนไขที่มีความเกรงใจคู่สัญญามากที่สุดเท่าที่เคยมี และความเกรงใจนี้ สร้างความกังวลและสร้างความสับสนในหมู่ประชาชน และอาจทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข แทนที่จะเป็นการเดินหน้าประชาธิปไตย กลับกลายเป็นลากพัฒนาทางการเมืองของสังคมไทยให้ถอยหลังไกลลงไปอีก หากเกิด สสร.ที่แอบอิงอยู่กับพลังของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง”

เมื่อถามว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนได้ยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และมีความแตกต่างเรื่องที่มาของ สสร. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่ายื่นไปแล้วก็ถอนได้ และยื่นเข้าไปใหม่ได้ ส่วนตัวตนอยากเห็นร่างที่ยื่นร่วมกันของ 2 พรรคการเมืองนี้ ตนอยากเห็นเนื้อหาชัดๆ ว่า ที่ตกลงกันเป็น MOA ของ 2 พรรคการเมืองนี้ มีเจตนารมณ์ร่วมกันอย่างไร หากเริ่มต้น 2 พรรคการเมืองที่ทำ MOA ดีลกันมายังเห็นไม่ตรงกัน แล้วจะมีหลักประกันที่ไหนให้ประชาชนเห็น เกิดความหวังว่าดีลนี้จะสำเร็จตามเป้าหมายได้ หากถอนวันนี้แล้วคุยกันภายในเย็นวันนี้ (24 ก.ย.) วันที่ 25 ก.ย. ยื่นเข้าไปใหม่ กระบวนการก็ไม่เสียหาย ไม่ล่าช้า ขึ้นอยู่กับท่านเลือกที่จะปฏิบัติหรือไม่

เมื่อถามว่า ทั้ง 2 พรรคจะพูดคุยตกลงกันได้หรือไม่ เพราะที่มา สสร.ต่างกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่ทั้ง 2 พรรคต้องมาคุยให้รู้เรื่อง เพราะตอนที่ท่านตกลงทำ MOA กัน ก็ไม่มีใครรู้เรื่องด้วย ท่านรู้เรื่องกันเอง 2 พรรค ดังนั้น เมื่อความปรากฏว่า แนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของท่านไม่ตรงกัน และมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย ไม่แปลกที่ท่านจะเปิดโต๊ะพูดคุยกันต่อหน้าประชาชน ตามแนวทางการเมืองบนโต๊ะ การเมืองเปิดเผย การเมืองตรงไปตรงมา ที่บางพรรคการเมืองพูดมาตลอด เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าตนพยายามมาเปิดประเด็นหาเหตุหาเรื่องกันทางการเมืองให้ยุ่งขึ้น แต่ตนเพียงแค่มาเสนอแนวทางที่จะคลี่คลายปัญหาในการเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประชาชนจับต้องได้เท่านั้น

เมื่อถามว่า หากทั้ง 2 พรรค ไม่ยอมถอนร่างเพื่อทำให้เป็นร่างเดียวจะเดินต่อได้อย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 พรรคต้องรับผิดชอบต่อข้อตกลงและท่านจะดำเนินการ อย่างไรก็ตามในชั้นกรรมาธิการ ในการประชุมของรัฐสภาให้บรรลุผลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ออกมาต่อประชาชน ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอด้วยความหวังดี อาจมีแนวทางอื่นที่ดีกว่าสิ่งที่ตนเสนอ แต่ตนเห็นว่า ถ้า 2 พรรคของดีล MOA ยังเห็นกันคนละทาง ร่างกันคนละเรื่อง แค่เริ่มต้นก็น่ากังวลแล้วว่า จะไปล้มกลางทาง

เมื่อถามว่า หากมองสถานการณ์ตอนนี้ จะเดินไปถึงขั้นตอนการทำประชามติได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าความน่าห่วง น่ากังวลจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ส่วนตัวคิดว่าเดินมาถึงขั้นนี้เอาให้ได้ ให้มีประชามติ แต่ก็ไม่ใช่สักแต่จะลงประชามติ เนื้อหาสาระของการแก้ไขต้องควรตอบโจทย์ของการพัฒนาการเมืองไปสู่ประชาธิปไตย

“ควรให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ด้วยว่า นี่ไม่ใช่เกมเติมอำนาจให้ขั้วการเมืองหนึ่งการเมืองใด ให้มีพลังใหญ่ขึ้นไปอีก ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคเป็นรัฐบาลคุมอำนาจบริหาร สามารถที่จะสนิทแนบชิดกับ สว. ซ้ายหันขวาหันได้ สว. ตั้งองค์กรอิสระ และยังมี สสร.ที่ต้องมาจากรัฐสภา ซึ่งประชาชนก็มองด้วยสายตาที่มีคำถาม อย่าให้เป็นแบบนั้น ถ้ามันเป็นแบบนั้นต้องแก้เสียวันนี้ โดยพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ต้องคุยกันใหม่และเสนอร่างแบบเดียวกัน”

เมื่อถามว่า หาก 2 พรรคคุยกันได้ มองว่าที่มาของ สสร. จะไปในทิศทางของพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาชน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แนวทางของพรรคภูมิใจไทย คือให้รัฐสภาเลือกโดยตรงจากแต่ละจังหวัด และเลือกผู้เชี่ยวชาญมาอีก 22 คน ถ้าเป็นรัฐสภาที่ไม่มีข้อครหาเรื่อง สว.สีน้ำเงินก็แบบหนึ่ง แต่เวลานี้ สว.จำนวนเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ฮั้วสว. ซึ่งสังคมกำลังมองว่ามีความใกล้ชิดอย่างยิ่งกับพรรคแกนนำรัฐบาล แบบนี้จะนำสู่การร่างรัฐธรรมนูญตั้งต้นประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้น ตนเห็นว่าแนวทางของพรรคประชาชน หรือของพรรคเพื่อไทยก็ตาม ที่อย่างน้อยมีสารตั้งต้นให้ประชาชนได้เลือกคนมาทำหน้าที่ น่าจะเป็นแนวทางที่พรรคภูมิใจไทยควรจะรับไว้พิจารณา และควรที่จะร่วมกันเสนอร่างแก้ไขเสนอรัฐธรรมนูญแบบใดแบบหนึ่ง หรืออาจจะมีแบบหนึ่งโดยไม่ใช่ให้รัฐสภา มีอำนาจในการเลือก สสร. โดยตรง เหมือนที่พรรคภูมิใจไทยเสนออยู่ ตนไม่ได้กล่าวหาให้พรรคภูมิใจไทย หรือวุฒิสภาเสียหาย แต่ตนมาแสดงความกังวลว่า หากปล่อยไปแบบนี้บ้านเมืองจะเสียหาย

เมื่อถามว่า พรรคประชาชนจะสามารถคุมเกมต่อรองกับพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ตนคิดว่าคุมไม่ได้ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ตั้งแต่วินาทีที่เซ็น MOA ด้วยซ้ำ ตนคิดว่าภาพสะท้อนที่คิดว่าพรรคประชาชนคุมเกมนี้ไม่ได้ มันเกิดตั้งแต่ก่อนเซ็น MOA คือเกิดมาตั้งแต่การเร่งรัดในการแถลงตอบรับการโหวตให้กับพรรคภูมิใจไทยโดยพรรคประชาชน ซึ่งเดิมมีการนัดแถลงไว้ช่วง 09.30 น. แล้วมีการขยับมาเป็นเวลา 09.00 น. แต่แถลงจริงเวลา 08.46 น. โดยประมาณ ซึ่งตนคิดว่านี่เป็นสัญญาณว่า พรรคประชาชนไม่ใช่ผู้คุมเกมตัวจริงในดีลนี้ ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อคุยกันแล้วเกมจะออกไปในทิศทางใดนั้น ก็ขอให้ประชาชนรับทราบด้วย รับฟัง และได้ติดตามสังเกตการณ์ด้วยว่าพวกท่านคุยกันอย่างไร เพราะเมื่อมีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณ หรือมีการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายการเมือง หลายคนเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสด ดังนั้น หากพรรคประชาชนคุยกับพรรคภูมิใจไทยเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถ่ายทอดสดหรือเฟซบุ๊กไลฟ์ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ และประชาชนได้ประโยชน์ด้วย

เมื่อถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าทำตาม MOA ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่า ขณะนี้คือการทำ MOA หรือไม่ ต้องให้พรรคประชาชนเป็นผู้อธิบาย แต่สำหรับตนคิดว่าเรื่องนี้กำลังนำพาให้แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เกิดกลายเป็นปัญหาใหม่ และกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากเราได้ สสร.ตามสูตรที่คนกังวลว่า จะอยู่ในอิทธิพลของบางพรรคการเมือง

เมื่อถามย้ำถึงข้อกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะล้มกลางทาง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เห็นไม่ตรงกันตั้งแต่วันยื่นแล้ว และพรรคที่เห็นไม่ตรงกันคือพรรคที่ไปทำดีล MOA ด้วยกัน ลองประเมินดูว่าสภาพจะเป็นแบบไหน และลองคิดต่อว่าหากเห็นไม่ตรงกันจริงและตกลงกันไม่ได้ แล้วมีการเสนอร่างกันคนละฉบับ หากต้องเลือก สว.จะเลือกร่างของพรรคไหน
#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨ผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณ แนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่ามีเหตุการณ์เคลื่อนไหวของวัยรุ่นฝั่งกัมพูชาในพื้นที่ใกล้ชุมชนปรีย์จัน ต.โอร์บีเจียน อ.โอร์จรอว จ.บันเตียเมียนเจีย ซึ่งอยู่ติดกับถนนหมายเลข 58 รายงานระบุว่า กลุ่มวัยรุ่นกัมพูชาจำนวนหนึ่งเข้ามาก่อความวุ่นวายในพื้นที่ชายแดน ก่อนรับเงินคนละ 5,000 เรียล หรือราว 39 บาท จากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนหญิงของกัมพูชา
📍ในช่วงเวลาเดียวกัน เริ่มมีประชาชนชาวกัมพูชาและพระสงฆ์จากหมู่บ้านใกล้เคียงทยอยเดินทางเข้าสู่ชุมชนปรีย์จัน หลังทราบข่าวว่า สมเด็จกิตติสังคหบัณฑิต ท่านผู้หญิงแมน สัมอน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชน และพระสงฆ์ที่เข้าร่วมกิจกรรม
📍ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านบางส่วนได้นำหม้อขนาดเล็ก–ใหญ่ติดตัวมาจากบ้าน เพื่อใช้ตักอาหาร และแกงที่โรงทานของ นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจีย ก่อนจะนำอาหารที่ได้รับกลับไปฝากครอบครัวที่บ้าน
📍ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยที่ติดตามสถานการณ์ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามหรือมีการบุกรุกเข้าพื้นที่ชายแดนไทย
สำนักข่าววันนิวส์

24/09/2025

🚨โกหนอ”เผย “เสี่ยต่อ”ทิ้ง ปชป.แน่ หลังส่ง “มาร์ค”รีเทิร์น”หัวหน้าพรรค 18 ต.ค. เตรียมคุย “อภิสิทธิ์ “25 ก.ย.นี้ เชื่อ”เฉลิมชัย”ซบ“ภูมิใจไทย”มากกว่า”กล้าธรรม”เหตุ “เดชอิศม์”ไปแล้ว ลั่น พร้อมอยู่กับ”ประชาธิปัตย์”แต่ต้องไม่มี “สาทิตย์”ไม่งั้นไป “ภท.

📍เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 นายสมชาย
โล่สถาพรพิพิธ หรือ โกหนอ บ้านใหญ่จังหวัดตรัง ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงอนาคตทางการเมืองยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัยหน้าก็ไม่อยู่ประชาธิปัตย์แล้ว ว่า เมื่อวาน (23 ก.ย.) นายเฉลิมชัย มารับประทานอาหารกับตนที่ จ.ตรังแล้ว และนั่งคุยกัน 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็ถามสารทุกข์สุกดิบ และมีการเมืองด้วย โดยตนถามนายเฉลิมชัย 3 ประเด็น 1.ยังอยู่ประชาธิปัตย์หรือไม่ 2.ยังทำการเมืองต่อหรือไม่ และ 3.ถ้าทำการเมืองต่อ แล้วไปที่ไหน ซึ่งคำตอบที่ได้ ในประเด็นแรก นายเฉลิมชัยบอกว่า เขาคงไม่กลับไปประชาธิปัตย์แล้ว แต่จะช่วยดำเนินการให้มีการเลือก หัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 18 ตุลาคานี้ ให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็คงจะออกจากพรรค และเมื่อตนถามว่า นายเฉลิมชัยสนับสนุนใคร ก็ตอบไม่ชัดเจน แต่ฟังแนวโน้มน่าจะไปทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่ 25 กันยายน เขาจะนัดเจอกัน

📍นายสมชายกล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 ที่ถามว่า จะทำการเมืองต่อหรือไม่ นายเฉลิมชัยบอกว่า ขอไปพบ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ให้ครบทุกคนก่อน แล้วจะถามความคิดแต่ละคน เพราะนายเฉลิมชัยเป็นห่วง ส.ส.ของพรรคว่าจะเดินไปทางไหน หรือจะแตกฉานซ่านเซ็น จะไปรวบรวมทั้งหมดดูว่าจะไปอย่างไร และประเด็นที่ 3 ซึ่งตนได้ถามว่า ถ้าการเมืองต่อจะไปจะไปพรรคไหนหรือ ทำการเมืองเอง นายเฉลิมชัยก็บอกตรงๆ ว่า น่าจะมี 3 พรรค คือพรรคกล้าธรรมกับภูมิใจไทย ซึ่งตนไม่ทราบว่า ทำไมถึงเป็น 2 พรรคนี้ เพราะเป็นความคิดที่นายเฉลิมชัยพูดออกมา โดยนายเฉลิมชัยบอกว่า ถ้าเขาการเมือง น่าจะไป 2 พรรคนี้ เพราะกระแสเขามีในภาคใต้ เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้

📍เมื่อถามว่า คิดว่านายเฉลิมชัยให้น้ำหนักพรรคไหนมากกว่ากันระหว่างพรรคกล้าธรรมกับพรรคภูมิใจไทย นายสมชายกล่าวว่า นายเฉลิมชัยบอกว่ายังไม่ฟันธง แต่ขอเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ เพื่อไปเจอกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งตนรู้ว่านายเฉลิมชัยเป็นห่วงทุกคนว่า ทุกคนจะไปอย่างไร แต่ถ้าทุกคนมีทางเลือกของตัวเองแล้ว นายเฉลิมชัยก็จะต้องวางมือ

📍“ส่วนผมมี 2 ทางเลือก ตราบใดที่เสี่ยงต่อยังอยู่ประชาธิปัตย์ ผมไม่ไปไหน แต่วันนี้เสี่ยต่อชัดเจนแล้วว่า ไม่อยู่ประชาธิปัตย์แล้ว แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ผมจะต้องไปกับเสี่ยต่ออย่างเดียว ผมอาจจะอยู่ประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ 2 ทางเลือกที่เสี่ยต่อบอกว่า กล้าธรรมกับภูมิใจไทย แต่ผมมองว่าผมมี 2 ทางเลือกคือประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย ซึ่งเขต 1 เขต 2 จังหวัดตรังก็อยู่กับพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอภิสิทธิ์มาเป็นหัวหน้าพรรคผมค่อนข้างพอใจ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่า ถ้ามีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ต้องไม่มีสมชาย ผมชัดเจน เพราะเวลาเราขัดแย้งกัน ไม่มีใครไกล่เกลี่ยเลย ปล่อยให้เราสู้กันเองวันนี้เป็นโจทย์ที่ยากสักหน่อย แต่ถ้าคุณอภิสิทธิ์มาผมก็สนับสนุนเพราะเห็นว่า เป็นบุคคลที่มีความสามารถและเหมาะสม และหากมีสาทิตย์ สมชายจะไปอยู่ภูมิใจไทยหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง” นายสมชายกล่าว.

📍เมื่อถามว่า หากไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเท่ากับว่า จ.ตรังเป็นของภูมิใจไทยยกทีมใช่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะในจังหวัดตรังเราก็เหนียวแน่น อาจจะคนละพรรคแต่ละเราก็พวกเดียวกันทั้ง 4 คน

ต่อข้อถามว่า ทำไมนายเฉลิมชัยจึงอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ นายสมชายกล่าวว่า นายเฉลิมชัยน่าจะคับแค้นใจ ไปนอนอยู่ที่จังหวัดประจวบฯ 10 วัน แล้วตัดสินใจลาออกโดยไม่บอกใครเลย เพราะถ้ามีคนรู้ก็จะออกไม่ได้ลาออก แต่ตอนนี้เห็นหน้าตาสดใส แสดงว่าสบายใจ และเป็นห่วงน้องๆ ส.ส.หลายคนที่ดูแลอยู่ว่าจะอยู่อย่างไร ขอเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วจะชัดเจน

📍ต่อข้อถามว่า อะไรที่ทำให้นายเฉลิมชัยแค้นใจมากๆ หรือแค้นใจนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการเลขาธิการพรรค นายสมชายกล่าวว่า น่าจะมีส่วนด้วย เพราะบางทีหากเดินไปก็ลำบาก บางคนบอกว่า “หน่อแก่กว่าลำ” ก็ลำบาก

📍เมื่อถามอีกว่ามีข่าวว่า นายเดชอิศม์จะยกทีมไปอยู่ ไปอยู่กับพรรคกล้าธรรมหากเป็นเช่นนี้นายเฉลิมชัยก็ไม่ไปพรรคกล้าธรรมใช่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ก็ไม่แน่อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้

📍เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัยยังคุมเสียง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อยู่กี่คน นายสมชายกล่าวว่า ทั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค นายเฉลิมชัยยังคุมได้ เพราะทั้งประธานสาขาพรรค และตัวแทนจังหวัด ยังเป็นคนของนายเฉลิมชัยอยู่ ตนคิดว่าน่าจะ 80% ที่อยู่กับนายเฉลิมชัย โดยมี ส.ส.อยู่ในมือประมาณ 18 คน เมื่อหัก ส.ส.งูเห่า และผู้ใหญ่ของพรรคแล้ว ดังนั้นต้องดูว่านายเฉลิมชัยจะมอบเสียงนี้ให้ใคร แต่ดูเหมือนชัดเจนแล้วมอบให้นายอภิสิทธิ์ ทำให้โอกาสของนายอภิสิทธิ์จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคมีสูง

เมื่อถามว่า ถ้านายอภิสิทธิ์รีเทิร์นเป็นหัวหน้าพรรคแล้วใครจะเป็นเลขาธิการพรรค นายสมชายกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ อาจจะเป็นนางนวลพรรณ ล่ำซำ (มาดามแป้ง) หรือใคร ก็มีตัวเลือกหลายตัว แต่ดูเหมือนนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้าพรรค เขายังอยู่ประชาธิปัตย์ และเขาก็เชียร์นายอภิสิทธิ์เหมือนกัน

📍ต่อข้อถามว่า นายชัยชนะอยู่กลุ่มเดียวกับนายเดชอิศม์ใช่หรือไม่ หรือต่างคนต่างเดิน นายสมชายกล่าวว่า คงไม่ตามกันไป เพราะนายชัยชนะก็มีแนวคิดเป็นของตัวเอง และยืนยันว่ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่จะมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นเลขาธิการพรรค แล้วจะอยู่ที่เดิม แต่ถ้าไม่ได้เลขาธิการพรรค ก็ไม่แน่เหมือนกัน อย่างนี้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะการเมืองช่วงนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ต้องดูกันวันต่อวัน แต่ของตนชัดเจนไม่มีอย่างอื่น.🤔

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨วันนี้ (24 ก.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาถนนสามเสน ทรุดตัว โดยก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ว่า ตนเองได้สั่งงานไปแล้ว ขอให้รอถามทางผู้ว่าฯ รฟม.

📍ส่วนหลังจากนี้จะเตรียมตัวเพื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ เลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปสะสางงาน โดยในวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ซึ่งจะมีการนำเรื่องถนนทรุดตัวเข้าที่ประชุมเป็นเรื่องด่วนอีกด้วย โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังดีหน่อย ที่สถานการณ์ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งเราต้องไปไล่เบี้ยดูว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง

ส่วนความกังวลในพื้นที่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับให้ตรวจตราทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยต้องเร่งหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าถนนทรุดตัวเกิดจากอะไร

📍ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันไปพูดคุยกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ให้ถาม นายพิพัฒน์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยนายพิพัฒน์ ตอบว่า ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะมีความรู้เชิงวิศวกรรม

📍ส่วนในสัปดาห์นี้จะกลับสู่สภาวะปกติได้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ต้องมีการเร่งคืนสภาพ และแก้ไขความเสียหายให้เร็วที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เชื่อมต่อกัน ตนก็เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่เร็ว เพราะกว่าจะซ่อมแซมโครงสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อกลับไปใหม่ได้ ก็อาจจะใช้เวลา อย่างต่ำก็ 1 ปี

📍ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรีได้หยุดยืนสังเกตตัวอาคารของ สน.สามเสน ร่วมกับนายพิพัฒน์ ซึ่งมีความเป็นห่วงเนื่องจากเป็นอาคารเตี้ย และมีฐานรองรับไม่ลึก ดังนั้นจะต้องส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอาคารรวมถึงแฟลตตำรวจ ซึ่งอยู่ด้านหลังอาคาร สน.ด้วย🤔

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨วันนี้ (24 ก.ย. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงโควตาของ สส.ในกลุ่ม 16 ระบุว่าไม่ได้อยู่ในการพูดคุยกันตั้งแต่แรก ระยะเวลาการทำงานในกรอบ 4 เดือน สิ่งสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ สส. คือทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกนัด ตนเองไม่ใช่ สส. แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ มาให้ดีที่สุด ระยะเวลา 4 เดือนถือว่าเร่งรัดมาก ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยงานและปลัดกระทรวงแล้วว่าอะไรที่สามารถทำได้ทันที

สิ่งสำคัญคือต้องคุยกับปลัดกระทรวง และอธิบดีทุกคนว่า ข้าราชการที่ท่านมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้าย ท่านเอาคนที่มีคุณภาพมาทำงาน สิ่งแรกส่วนไหนที่ไม่ดี ท่านปัดกวาดบ้านของตัวเองให้ดี ส่วนไหนที่มีปัญหา ส่วนนั้นก็ต้องย้ายออกไป ปัดกวาดบ้านตัวเองให้เร็วที่สุด นำคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานให้เร็วที่สุด

ส่วนแผนเร่งด่วน เช่น ฝุ่น PM 2.5 เรื่องป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งต้องรักษาไว้และเพิ่มจำนวน อยากให้ทุกคนตั้งใจทำงานในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบให้ดีที่สุด รัฐมนตรีแค่มากำกับนโยบายที่ผ่านมาติดขัด สำหรับอนาคตทางการเมือง ตนเองคนเดียวไม่ได้มีสังกัดพรรคการเมือง แต่เพื่อนคนอื่นที่สังกัดพรรคนั้น เราต้องมีมารยาทนิดหนึ่ง หากพูดไปเพื่อน ๆ อาจไม่สบายใจ แต่ระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้าที่ตกลงไว้ ยังมีเวลาทันที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วัน เรามาร่วมรัฐบาลและเป็นกำลังให้นายกรัฐมนตรี เราตั้งใจและเลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมจะนำพาประเทศสู่เป้าหมาย มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นธรรมเท่าเทียมกัน

ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เริ่มชัดเจนแล้วว่าจะย้ายเข้าพรรคใดนั้น
นายสุชาติยอมรับว่า เราคุยกันทุกวัน แต่ สส. เราทุกคนเขาเสียสละทำงานเพื่อประชาชน การจะไปสังกัดพรรคใด เราต้องดูว่าไปอยู่พรรคไหนแล้วจะไปทับซ้อนกับพื้นที่ของพรรคนั้นหรือไม่ ต้องอยู่ที่เราเจรจากัน ความจริงกับพรรคภูมิใจไทยนั้น พื้นที่ของ สส. ไม่ทับซ้อนกันอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีการทำความเข้าใจกับแกนนำของจังหวัดว่ามาอยู่ด้วยแล้วติดขัดอะไรหรือไม่ ถ้าติดขัดเราก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ให้เขา

ส่วนจะไปสังกัดพรรคใหม่เลยจะดีกว่าหรือไม่นั้น ต้องพูดคุยกันก่อน เพราะต้องยอมรับว่า สส. ในกลุ่มตนเอง หากไปอยู่พรรคภูมิใจไทยก็จะมีความง่ายในการหาเสียง เพราะเป็นหนึ่งเดียวกันหมด แต่บางพื้นที่ก็มีความยากในการจัดสรรคนเพื่อเจรจาเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่จำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนรู้ เพราะการมาร่วมรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าผลงานที่ออกมาในเวลา 4 เดือนสามารถจับต้องได้แน่นอน

นายสุชาติ ยอมรับว่านายกรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองมาตลอด ท่านก็รู้ความต้องการของประชาชน รู้ระบบการบริหารประเทศ การบริหารพรรคการเมือง และระบบกฎหมาย ท่านครบเครื่องอยู่แล้ว เชื่อว่าในเวลา 4 เดือนท่านทำงานได้ และพวกเราที่ทำงานร่วมกับท่านก็จะมีผลงานเอง และพี่น้องประชาชนจะเลือกตัวบุคคลเป็นหลักก่อน และต่อมาคือดูว่าพรรคการเมืองเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้

ในกลุ่มถ้าจะย้ายไปสังกัดพรรคใด ก็น่าจะย้ายไปด้วยกันทั้งหมด เพราะเราอยู่ในฐานะพี่น้อง และจำนวน สส. ในกลุ่มก็มีเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มองว่าเป้าหมายต้องมีจำนวนมากน้อย เพราะเราคัดคนที่มีคุณภาพ อยู่กันแบบพี่น้อง แน่นอนว่าเราเดินมาขนาดนี้แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะมีการเพิ่มจำนวนตามที่สื่อมวลชนคิด กลัวเรื่องคำพูดมาก กลัวว่า ถ้าพูดไปแล้ว ถึงเวลามันไม่เป็นอย่างที่พูดไว้ มันจะเสียคำพูด

ส่วนกลัวจะผิดข้อตกลงเรื่องรัฐบาลเสียงข้างมากหรือไม่นั้น นายสุชาติ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะดำเนินการตามคำพูดข้อตกลง นักการเมืองหากไม่รักษาคำพูดแล้วจะเดินไปเจอชาวบ้านได้อย่างไร เรื่องนี้สำคัญที่สุด ฝากสื่อมวลชนให้กำลังใจพวกตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเยอะ ๆ เพราะช่วงเวลา 4 เดือนนี้ถือว่าท้าทายมาก

“เชื่อมั่นว่าประชาชนตั้งความหวัง เพราะนโยบายแรก ๆ ที่เปิดเผยออกมา เช่น นโยบายคนละครึ่ง เป็นสิ่งที่เราบอกว่านโยบายรัฐบาลใดในอดีตดี ท่านอนุทินไม่ได้ยึดติดว่าจะเป็นของใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ เราหยิบมาทำ” นายสุชาติกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์แล้ว จะเดินทางเข้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในวันศุกร์ (26 ก.ย. 68) หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจึงจะทำงานได้เต็มตัว ระหว่างนี้เราสามารถพูดคุยกันได้เฉย ๆ แต่ยังไม่สามารถสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรลงไปได้🤔

#การเมืองไทย

24/09/2025

🚨นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ให้สัมภาษณ์ถึง ประเด็นวันที่ 25 กันยายนนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วไปร่วมหารือกรณีปัญหาบ้านหนองและบ้านหนองหญ้าแก้ว ตอบรับหรือไม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า “เขาส่งหนังสือมา ต้องถามสื่อมวลชนว่าผมควรไปหรือไม่ ยืนยันและขอประกาศว่าไม่ไป เพราะตนประกาศแล้วว่านับแต่นี้ไป ถ้าไม่อพยพออกจากพื้นที่หรือไม่ส่งแผนอพยพมาให้เรา เราก็จะไม่คุยในระดับจังหวัดแล้ว ให้ไปคุยที่ระดับ GBC พร้อมยืนยันว่าตนเองเด็ดขาดมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เป็นนายอำเภอแล้ว และไม่น้อยใจใดๆ แม้จะมีกระแสดรามามากมาย”
📍ในพื้นที่ จ.สระแก้ว เราไม่มีกาสิโนที่สร้างรุกล้ำในอธิปไตยของไทย แต่แผนในอนาคตฝั่งเขา เราไม่รู้ว่าเขาจะขายที่ให้ใคร อย่างไร ให้ไปถามผู้ว่าราชการบันเตียเมียนเจย เพราะก่อนหน้านี้เขาพยายามที่จะโทรศัพท์ต่อสายมาถึงตน แต่ตนเองก็พูดภาษากัมพูชาไม่ได้ และเขาก็พูดภาษาไทยไม่ได้ ตนก็ไม่คุยอยู่แล้ว เพราะกลัวถูกอัดเทปไปบิดเบือน เขาก็พยายามติดต่อมาเสมอ เป็นหนังสือมาเชิญอีก ตนก็ไม่ไป
📍เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน โพสต์เฟซบุ๊กว่าปิดด่านร้อยปี กัมพูชาก็ไม่ล่มสลายนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ตอบว่า “อย่ายกระดับผมไปเจอ ฮุน เซน ผมแค่ผู้ว่าฯ จังหวัด เรื่องนี้คงต้องไปถามท่านนายกรัฐมนตรี ระดับนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้นายกรัฐมนตรีคุยกัน” ส่วนที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ก็เห็นด้วยนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ย้ำว่า “เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา”
📍ส่วนประเด็นขีดเส้นตายผลักดันกัมพูชาออกจากพื้นที่วันที่ 10 ตุลาคมนี้นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขอย้ำว่า ”พอหลังจากวันที่ 10 ตุลาคม มันต้องไปคุยในกรอบการประชุมเวทีต่างๆ อีกครั้ง ถ้าเรายกเรื่องระดับจังหวัดไประดับชาติแล้ว ก็เป็นเรื่องของนโยบาย ที่จะต้องเอาเรื่องที่เราขีดเส้นตายไปแล้วไปดำเนินการต่อ ไม่ใช่วันที่ 10 เราต้องขับรถไถไปลุย เราไม่อยากเสียเปรียบในเวทีโลก ถ้าเราใช้วิธีการแบบนี้ เท่ากับเราแพ้ถึงศาลโลกแน่นอน มันมีกระบวนการและกลไกต่างๆ เราประท้วงไปตามระดับขั้นตอน ระหว่างนี้เราก็ระวังพื้นที่อย่างดี เราพร้อมหมดทุกสถานการณ์ พร้อมใช้กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายแรก คือ เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย”
#ชายแดนไทยกัมพูชา

ที่อยู่

อิสรภาพ
Bangkok
10700

เบอร์โทรศัพท์

0800058274

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ แอ้แห่ระเบิดผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์