A day in Life by ลุง Zoomer

16/07/2025

ประวัติอดีตเด็กนร. รร.นานาชาติในไทยแห่งหนึ่ง (ไม่กี่ปี) วันนี้คือคนที่สามารถเจรจาชนะ🇺🇲ได้!!!

16/07/2025

มิจมันฉลาดกว่าที่คิด เพราะหลังๆ มิจพวกนี้ มาจากกลุ่มหัวกะทิที่ตกงานมานาน😅

‘ต๊ะ นารากร’ พิธีชื่อดัง เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ หลังต้องการขายเสื้อผ้ามือสอง ถูกหลอกทำภารกิจ พบผู้เสียหายกว่า 20 คน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

วันที่ 16 กรกฎาคม 68 เวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี น.ส.นารากร ติยายน หรือ ‘ต๊ะ นารากร’ พิธีชื่อดัง ได้นำผู้เสียหลายราย ถูกหลอกทำภารกิจขายเสื้อผ้าโอนเงินผ่านทางออนไลน์กว่า 20 คน มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทาง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.

น.ส.นารากร เปิดเผยว่า ตัวเธอเองก็เป็นผู้เสีย หาย และยังมีผู้เสียหายรายอื่นในกลุ่มประมาณ 20 คน มูลค่าความเสียหายน่าจะเกิน 10 ล้านบาท

ในส่วนของเธอ น.ส.นารากร เล่าว่า เห็นกลุ่มขายเสื้อผ้ามือสองผ่าน Facebook ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี จึงอยากลองขาย จึงทักไปพูดคุยกันใน Messenger ก่อนที่แอดมินจะส่ง QR Code มาให้เข้าไปพูดคุยใน LINE Open Chat ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่เข้า เพราะแค่ต้องการจะขายของ สงสัยว่าทำไมจะต้องเข้ากลุ่ม ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แอดมินก็ทักมาทุกวันว่า “ลูกค้ากดเข้ากลุ่ม LINE Open Chat หรือยังคะ” จึงตัดสินใจเข้าไป ก็พบว่าในกลุ่มมีการซื้อขายกันจริง มีการสรุปยอดทุกวัน ซึ่งตอนแรกเธอยังไม่ตัดสินใจขาย ทำการสังเกตุถึง 3 สัปดาห์ก่อนจะตัดสินใจเมื่อ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เอารองเท้าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาประกาศขาย ปรากฏว่ามีคนทักมาซื้อรองเท้าจริง จากนั้นก็มีการพูดคุยกับลูกค้า จนตกลงกันได้ขายรองเท้า 2 คู่ ในราคา 2,900 บาท

เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าต้องจ่ายเงิน ลูกค้าบอกว่าจะต้องมีรหัสร้านค้า ต้องไปเอาที่แอดมิน และต้องสแกน QR Code เข้าไปคุยอีกห้องไลน์นึง โดยแอดมินบอกว่าให้โอนเงินเข้าไป 193 บาทเพื่อขอรหัสร้านค้า เมื่อโอนไปแล้วทางแอดมินจะโอนเงินคืนมา 255 บาท ซึ่งก็มองว่าได้กำไรในการโอนครั้งแรก หลังได้รับรหัสสินค้า ลูกค้าก็โอนเงินมาให้ แต่เรายังไม่สามารถที่จะถอนเงินได้ ด้วยความที่เราเป็นคนซื่อสัตย์ เราไม่ใช่คนโกง อยากจะส่งของให้ลูกค้า และต้องการที่อยู่ของลูกค้า พอถามลูกค้าว่าส่งที่อยู่ให้หน่อยได้ไหม ลูกค้าบอกว่าต้องไปขอกับแอดมินอีกคนนึง ซึ่งแอดมินคนนี้บอกว่าแต่ “จะส่งที่อยู่ให้คุณจะต้องทำภารกิจก่อน จะต้องทำแบบทดสอบก่อน” ซึ่งในภารกิจนี้ เราจะต้องทำการโอนเงินไปโดยเธอโอนเงินไปทั้งหมด 3 ครั้ง ทั้งหมด 21,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับเงินคืน จึงตัดสินใจรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าแจ้งความทันที

ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเจอในลักษณะแบบเดียวกัน ทุกคนต้องการขายของ ถ้าถามว่าโลภไหมยืนยันว่าไม่ได้โลภ ยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงินใคร อยากขายของของเรา และทุกคนที่ถูกหลอกไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าใครก็ถูกหลอกได้เหมือนกัน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของกลุ่มมิจฉาชีพแบบ A B C หรือที่จะให้เหยื่อหลอกกันเอง ซึ่งหลังจากที่ ผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็นสลิปโอนเงินต่างๆ ทางตำรวจไซเบอร์จากได้ตรวจสอบบัญชีม้า ที่ผู้เสียหายโอนไป พบว่ามีคดีต่างๆ ที่ถูกแจ้งความไว้ถึง 30 คดี มีทุกประเภทในการหลอกลวง หลอกให้ทำภารกิจ หลอกให้ขายสินค้า แม้กระทั่งข่มขู่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงทำให้เรารู้ว่าเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยส่วนใหญ่กลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ พวกนี้จะมีการตั้งออฟฟิศเอาไว้ใช้ในการหลอกลวง มีคนประมาณ 20 คน ทำหน้าที่หลอกแตกต่างกันไป

หรือแม้กระทั่งกลุ่ม LINE Open Chat ที่ทางผู้เสียหายได้เข้าไป จะเห็นว่ามีคนอยู่เป็นหลัก 100 คน ก็คิดว่าเป็นคนจริงทั้งหมด แต่ในความจริงแล้วบุคคลภายในโอเพ่นแชทนั้น เป็นเพียงแค่คนปลอมที่กลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวง รวมถึงกดดันผู้เสียหาย เช่น หากไม่ทำตาม คนทั้งกลุ่มก็จะเสียหายไปด้วย เป็นการหลอกและกดดันผู้เสียหายจนหลงเชื่อ ซึ่งเป็นจิตวิทยาที่คนร้ายใช้

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อเราเริ่มเชื่อคนร้าย เราก็จะไม่กลับไปหาความจริงในครั้งแรก เราจะเชื่อไปเรื่อยๆ เพราะเราสูญเงินไปแล้ว ถ้าหากเราไม่เชื่อเขา ทำเขาไม่พอใจ หรือทำให้เขาโกรธ เขาก็อาจจะไม่โอนเงินคืน คิดว่าจ่ายอีกนิดนึง อาจจะได้เงินคืน นั่นคือกลอุบายที่คนร้ายใช้ ซึ่งนอกจากนี้คนร้ายยังนำ AI เข้ามาประมวลผลในการหลอกลวงอีกด้วย

หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำการตรวจสอบพยานหลักฐาน รวมถึงเส้นทางการเงิน บัญชีธนาคารทั้งหมด หากคดีไหนที่เคยมีการแจ้งความไว้แล้วก็จะติดตามความคืบหน้าให้ทันที

ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชนว่า อาชญากรรมทางออนไลน์ยังคงอยู่ ยังมีผู้เสียหายวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย สูญเสียเงินไม่ต่ำกว่าวันละ 70 ล้านบาท ประชาชนจะต้องไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ถ้าหากรีบโอน โอนแล้วอาจจะไม่ได้คืน

16/07/2025

New Normal ของโลกเราวันนี้

"แต่ละวันนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น มีเด็ก ๆ ถูกสังหารเฉลี่ยเท่ากับจำนวนเด็กในห้องเรียนหนึ่งห้อง" หน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งยูเอ็น เปิดเผยกับบีบีซี
อ่านได้ที่: https://bbc.in/3TEG86Q

16/07/2025

ตลาดคอนโด น่าเข้าช้อนรึยัง? บทความนี้ลงลึกดี ลองอ่านดู⬇️ แต่ผมจะสรุปให้สั้นๆ ว่า มันยังลงได้อีกเยอะ เพราะตัวแปรที่จะทำให้ราคาคอนโดตกเยอะมากๆ เนื่องสินค้ามีมากกว่าความต้องการ สินค้าส่วนมากในตลาดมีตำหนิเยอะจากแผ่นดินไหว! แต่ถ้าจะไปซื้อคอนโดใหม่ ก็ราคาแพงไปอีก😅 แถมไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพ สุดท้ายปัญหาใหญ่ "ภูมิรัฐศาสตร์" ที่นับวันยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีคนบางกลุ่มพยายามหาข่าวสังคมประหลาดๆมาดึงความสนใจของประชาชน กว่าจะรู้ตัว....ลูกยาวเร็วเหนือเสียงมาแล้ว จำได้ไหม? สมัยญี่ปุ่นยึดไทย🤣 ไทยโดนไปมากกว่า 2,500 ดอก ฉ่ำๆ

นี่คือเวลาที่ดีที่สุด ของการ “ซื้อ” อสังหา จริงมั้ยน้อออ🤔🤔

คอนโดลดเป็นล้าน บ้านก็จัดโปรลดแรง บางโครงการราคาที่ไม่ได้เห็นก็ได้เห็นกันช่วงนี้ ลดกันแบบไม่ไว้หน้า ไม่เกรงใจกันเลย 55

แล้วจริงๆ ตอนนี้มันคือ โอกาสทองของผู้ซื้อ รึเราต้องรีบซื้อกันตอนนี้มั้ย เดี๋ยวตกรถรึป่าว

ผมไม่ใช่ อินฟลูอสังหา ไม่ใช่ โค้ชอสังหา ไม่ใช่เสือ สิงห์ สมิง อสังหา ไม่กล้าฟันธงให้ใครไปซื้อ รับผิดชอบไม่ไหวครับ 😅

ต่างคนต่างเงื่อนไข ต่างพื้นฐานการเงิน คงไม่มีคำตอบที่ฟันธงให้ใคร ไม่เชียร์ให้ไปซื้อ Dev ไหน

แต่ขอเสนอความเห็นส่วนบุคคล ในฐานะเป็นคนๆนึงที่มองตลาดตอนนี้แล้วกัน แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดกันครับ

อย่างนึงที่ค่อนข้างมั่นใจตอนนี้คือ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ “เสียงของคนซื้อ” เสียงดังขึ้น

และ ทำให้ Developer ฟังแล้วคิดก่อนเซย์โนหรือเซย์เยส (จากก่อนหน้านี้ที่อาจฟังแล้วจบๆ ไป หรือ ไม่ฟังเลย)

…

เราลองมาดูผลตลาดการซื้อๆ ขายๆ ของ Presale Q2/2568 ที่เพิ่งออกมา 2-3 สำนัก กันก่อน

สรุปรวมของ Top 10 Developer ในเมืองไทย (ที่กินตลาดไป 80-90% ของตลาด )

👉 ยอด Presale รวมทั้งบ้านและคอนโด -26% QoQ / -33% YoY

👉เฉพาะ คอนโด ดิ่งหนักเลย -56% QoQ / -59% YoY

👉ส่วน บ้าน ดูเหมือนประคองตัวได้ -1% QoQ / -11% YoY

ถ้าตามข้อมูลนี้ดู เหมือน คอนโดทรุด บ้านประคองตัว...แต่จริงอ๊ะป่าว มาคิดลึกๆ

เอาจริงๆตัวเลขที่ดูทรงๆ สำหรับตลาดบ้านแนวราบ

แต่เบื้องหลังจริงๆ คือ Dev หลายรายเร่งลดราคาบ้านแรงมากใน Q ที่ผ่านมา เพื่อระบายสต๊อกเดิมให้เร็วที่สุด

ไม่ใช่เพราะความต้องการตลาดแข็งแรงขึ้นจริง

โดยปกติแล้ว Demand ของการซื้อขายของคอนโดและบ้าน ในแต่ Q มันมีพอๆสำหรับ Q มันเองเรื่อยๆนั่นแหล่ะครับ

แต่การที่คนจะซื้อหรือไม่ซื้อมันคืออีกเรื่อง ทั้งจากภาพเศรษฐกิจ ทั้งจากหนี้ ทั้งจากการปฏิเสธสินเชื่อ ทั้งจากตลาดโดยรวมที่ซบ

Q ที่ผ่านมาคอนโดกระทบความเชื่อมั่นหนัก จากแผ่นดินไหวไปอีก ตลาดมันเลยสลับไปทำกระตุ้นขายแนวราบมาชดเชย

ระบาย Finished Goods ของบ้านที่มันเสร็จอยู่แล้วไปด้วย เพื่อให้สภาพคล่องของบริษัทมันไปไหว

บางโครงการบ้านลดราคาถึงหลักหลายล้าน เพื่อกระตุ้นยอดแบบ “ดัน” ให้ผ่านไตรมาส

ผลก็คือยอดขายบ้านของบางบริษัทดูไม่ลดลง แถมบางบริษัท เพิ่ม QoQ ของยอดขายบ้าน เป็นหลัก 100% (ส่วนนึงเพราะ Q ก่อนเค้าไม่ลดสู้เท่านี้ ไม่ทำตลาดขนาดนี้)

ยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้น แต่จริงๆ แล้ว มาจากการแลกกำไรกับเงินสดล้วนๆ

…

ช่วงนี้ทุก Dev ต้องการ เงินสด ต้องการสภาพคล่องครับ เพราะเมื่อตลาดมันซบมาจากปัจจัยต่อเนื่องไม่หยุด ไม่หย่อน ไม่ได้เลือกรายครับ แต่เป็นทั้งตลาด แถมจะเป็นทุกอุตสาหกรรมด้วย

รายได้ไหลเข้าช้า แต่หนี้ก็ต้องจ่ายไหลออกเป็นปกติ

รายได้จากยอดขาย ยอดโอน ใหม่ หาย แต่รายจ่ายที่ต้องจ่าย ทั้ง Capex ทั้ง Opex ไม่ว่าค่าต้นทุนการพัฒนาโครงการ ต้นทุนการบริหารงาน ค่าเงินเดือน ค่าดอกเบี้ย ค่านู่นค่านี่

แถมยังมี หุ้นกู้ ที่เคยออกไว้เมื่อ 2–3 ปีก่อน กำลังทยอยครบกำหนด (อสังหานี่ หลักหลายหมื่นล้านครับ ที่ต้องคืน 1-2 ปีนี้)

บริษัทจึงต้องรีบหา “เงินสด” ด้วยทุกวิธี ลดราคาหนัก ปล่อยโปรแรง ออกหุ้นกู้ดอกเบี้ย 6–7% หรือกู้เงินจากแหล่งพิเศษดอกเบี้ยระดับ 10%++

แถมต้องลดรายจ่ายทุกทางที่ไม่จำเป็น ทั้งงบโครงการ งบการตลาด งบบุคคลากร เน้นจ่ายอะไรที่ต้องจ่ายและสร้างเงินสดกลับมาได้ อะไรที่จ่ายแล้วจนลง ตัดได้ก็ตัด เลื่อนได้ก็เลื่อน

จริงๆ ไม่อยากบอกว่ามันใกล้ๆ วิกฤตสภาพคล่อง (Liquidity Crisis) มันดูน่ากลัว ร้ายแรง หดหู่ ไปหน่อย

แต่สรุปมันคือ Liquidity Management ของทุกเจ้าแหล่ะครับ ตลาดแบบนี้

ปล่อยให้เป็นเรื่องของ Dev ที่เค้าต้องจัดการครับ แต่ละ Crisis มันก็หนักเบาต่างกัน พื้นฐานแต่ละ Dev ในการเลือกวิธีบริหารจัดการก็ต่างกัน

….

กลับมาที่เรา คนซื้อ ดีกว่า

คำถามแรกก่อนเลย ถ้ามองตลาดคอนโดมั่ง คือ คอนโดมันจะลดราคาแรงเหมือนที่บ้านทำมาใน Q ที่ผ่านมามั้ย

ถ้าตามความคิดผมนะ มีแนวโน้มสูงพอควรเลยล่ะครับ เพราะ

1. ยอดขายคอนโดหายแรงสุดในรอบหลายปี ยอด Presale คอนโดใน Q2/2568 -56% QoQ / –59% YoYแปลว่า ขายไม่ออกจริง ไม่ใช่แค่ชะลอ

2. Dev ต้องการเงินสดอย่างเร่งด่วน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หนี้ต่างๆ หุ้นกู้ทยอยครบกำหนด คอนโดคือของเหลือที่มีต้นทุนจมสูง

บ้านใช้สูตรลดราคาเพื่อปล่อยของเร็วแล้วได้ผล มีแรงกดดันให้คอนโดใช้กลยุทธ์เดียวกันใน Q3

3. ต้นทุนถือครองสูงกว่าบ้าน แถม Stock ค้างเพียบ คอนโดที่สร้างเสร็จแล้วมีต้นทุนทางภาษี / ค่าส่วนกลาง /ค่าบริหาร

โครงการไม่มีคนซื้อ = ไม่มีรายได้ = มีแต่ค่าใช้จ่าย
ถ้าไม่เร่งขาย จะยิ่งเจ็บ

แต่เกมส์ของคอนโด ซับซ้อนกว่าครับ คงไม่ลดแบบรุนแรงแบบทันทีทันใด คอนโดมีภาพต้องรักษาไว้หน่อย 55

ราคาต้องไม่ตก เพราะเกี่ยวข้องกับมูลค่าห้องลูกค้าเก่า ถ้าลดรุนแรงโดนลูกค้าปัจจุบันฟ้องร้องเรียนได้ ภาพลักษณ์ของโครงการใหม่ในอนาคตอีก

จึงจะลดเชิงสร้างภาพไม่ให้ราคาลงโดยตรงๆทั้งโครงการ เช่น ลดเฉพาะยูนิต / โปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม / ต่อรองดีลลับ (แล้วแต่จะเรียก) /อยู่ฟรี นั่นฟรี นี่ฟรี /เงินทอน

แต่ยังไงก็ตามแต่บางเจ้าที่ยอดตกต่อเนื่องจริงๆ อาจใช้วิธีที่คนดูแล้วเหมือนรุนแรงก็ได้ครับ

เอายูนิตที่เป็นห้องที่มีจุดด้อย ตำหนิ ตำแหน่ง วิว ผังห้อง มาทำราคาใหม่ แบบต่ำชนิดไม่เอากำไรไปเลยก็เริ่มมีให้เห็นบ้าง (อย่างโครงการนั้นอ่ะ นั่นแหล่ะๆ ก็เห็นอยู่นะ เพราะยอดขายคอนโดทั้งพอร์ทเค้าไตรมาสที่ผ่านมาน่าตกใจอยู่ ตลาดเค้าลบเฉลี่ยประมาณ 60% พี่แกต่ำกว่านั้นไปอีกพอควร)

อย่างที่บอกครับ เกมส์ของคอนโดซับซ้อนกว่า ต้องการ Liquidity แต่เล่นแบบรุนแรงทันทีทันใดไป ผลตอบรับเชิงบวกเชิงลบ มีหลายทิศครับ

…

คำถามต่อไป มันเป็นช่วงที่น่าซื้อมั้ยยย

ถ้าเรามีเงินสด หรือ เครดิตในการกู้ดี และมีความพร้อม นี่คือ “จังหวะทอง” ในมุมนึงครับ

เพราะในตลาดที่ คนขายต้องขายให้ได้ … คนซื้อที่พร้อมจ่าย หรือมีสินเชื่อผ่านแล้วจะได้เปรียบมากที่สุดในรอบหลายๆปี

นี่คือจังหวะเดินดู – ต่อรอง – ได้ดีลที่หายาก ไม่ต้องรีบครับแต่ต้องพร้อม บางโครงการอาจใจอ่อน แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เราอาจได้ราคาพิเศษ ต่อรองของแถมได้มาก และเจอดีลที่ลด ต่ำกว่าต้นทุนสร้างจริง ในบางCase

แต่ๆคิดไว้เสมอว่า..โอกาส กับ กับดัก มันหน้าตาคล้ายๆ กันนะ 55

แม้ช่วงนี้เราจะได้อำนาจต่อรองกลับมา แต่เศรษฐกิจภาพใหญ่ยังเปราะบาง ค่าครองชีพก็กดดันทั้งครัวเรือนหรือบุคคลเป็นส่วนใหญ่

ก่อนซื้อจึงควรถามตัวเองให้รอบคอบว่า พร้อมรับภาระระยะยาวมั้ย / ซื้อเพื่ออยู่จริง หรือหวังปล่อยเช่าหรือหวังขายต่อ

และของที่ดูเหมือนถูกนั้นคือ ..ของดีที่ลด.. หรือ ..ของที่ Dev ยอมทิ้งเพื่อเอาเงินสด..

…

สรุปที่ผมบอกตัวผมเองให้แนะนำตัวผมเองอีกที คือ

ซื้อได้...แต่ต้อง “พร้อม” และ “รู้จริง”

เหมาะจะซื้อ ถ้ามีเงินสด หรือสินเชื่อผ่านชัวร์ / รับภาระไหว / ไม่ตกงาน / ตั้งใจซื้อเพื่อให้อยู่อาศัย ไม่ใช่เก็งกำไรเป็นหลัก / เลือกโครงการที่มั่นคง หรือห้องที่ดี มีอนาคต ไม่ใช่แค่เพราะลดราคา

และควร “ชะลอ” อยู่เฉยๆแหล่ะ ดีแล้ว

ถ้าการเงินยังไม่แน่น / ยังไม่รู้ชัดว่าซื้อไปทำอะไร /คิดจะปล่อยเช่า แต่ยังไม่เข้าใจตลาดเช่า / คิดจะลงทุน แต่นึกหน้าคนมาซื้อต่อไม่ออก

ตลาดปล่อยเช่ามาแรงแต่ก็ยังแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะยูนิตที่หน้าตาเหมือนกันในทำเลเดียวกัน ถ้าคิดจะลงทุน ต้องไม่ดูแค่ราคา แต่ต้องเข้าใจ Demand จริงในพื้นที่นั้นด้วย

อย่าลืมๆ ..ของลด.. ไม่เท่ากับ ..ของน่าซื้อ.. นะครับ ของน่าซื้อ มันคือ ของที่เรารู้และมั่นใจว่ามันดี และ ได้มาในราคาที่มันใช่ และไม่เบียดเบียนตัวเอง

ตลาดตอนนี้ คือ ตลาดที่ Dev ต้องการ Liquidity อย่างสูงครับ แต่ไม่ใช่ตลาดของคนซื้อที่ใจร้อน และ ตามกระแส

ไม่สนับสนุนให้ซื้ออะไรตามใครบอกทั้งนั้นครับ แต่ละคนใส่รองเท้ากันคนละคู่ ยืนกันคนละที่ หนี้คนละกระเป๋า

แต่ก็ไม่เถียงครับว่า ช่วงนี้ คือ จังหวะทอง ของคนที่พร้อม และ ดูแล้วดูอีกให้รู้จริง

เราต้องไม่ใช่แค่ซื้อของได้ถูก แต่ต้องซื้อแล้วอยู่ได้ดี และไปต่อได้ไกลครับ
. เสวนา สนทนา แลกเปลี่ยนมุมมองกันได้ครับ..

16/07/2025

อีกทางเลือกในการเอาตัวรอดในยุคนี้ "นอนในรถ" หรือ "เดินทางไกลวันละ 300-400 กม." ชีวิตเลือกได้ แต่ได้แค่นี้😅 มีคนเอเซียตะวันจำนวนมากที่ต้องตื่นตี 5 เพื่อรีบเดินทางไกลจากบ้านไปทำงานทุกวัน ไม่ว่าจะจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพราะค่าเช่าบ้านในเมืองใหญ่แพงเกินไป

โปรแกรมเมอร์จีน เผย นอนในรถ EV มา 4 ปี ช่วยประหยัดเงินมหาศาล

จาง ยุนไหล (Zhang Yunlai) โปรแกรมเมอร์วัย 41 ปี จากเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เซินเจิ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ยุนไหลจ่ายค่าเช่าห้องรายเดือนอยู่ที่ 2,500 หยวน หรือประมาณ 11,300 บาท เดินทางไปกลับที่พัก-ออฟฟิศ แต่หลังจากไปตั้งแคมป์เป็นครั้งแรก ชีวิตของยุนไหลก็เปลี่ยนไปทันที

4 ปีที่แล้ว ยุนไหลได้ซื้อรถ EV มาหนึ่งคัน แล้วก็พบว่าเบาะหลังของรถ EV สบายมาก พอที่จะเปลี่ยนเป็นที่นอนได้ เปิดรถ และใช้งานแอร์ได้ตลอดทั้งคืน

จาง ยุนไหล กล่าว “แล้วจะเช่าอะพาร์ตเมนต์ทำไม ?”

จากนั้นเป็นต้นมา ยุนไหลก็เปลี่ยนรถ EV เป็นที่นอนในช่วงระหว่างสัปดาห์ทำงาน ส่วนระหว่างวันทำงานนั้น ยุนไหลรับประทานอาหารที่บริษัท อาบน้ำในฟิตเนส และชาร์จรถที่สถานี ส่วนที่จอดรถสำหรับเป็นพื้นที่หลับนอนก็หาตามสวนสาธารณะที่เงียบสงบเอา ส่วนเสื้อผ้าก็นำกลับไปซักที่บ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พร้อมกับพบปะครอบครัว (ระยะทาง 300 กิโลเมตร)

หลังจากเปลี่ยนมาใช้ชีวิตบนรถ EV ยุนไหลก็พบว่า ค่าใช้จ่ายแต่ละวันจะอยู่ที่ 100 หยวน หรือประมาณ 450 บาท ซึ่งรวมตั้งแต่ ค่าอาหาร ค่าที่จอดรถรายวัน 6 หยวน หรือประมาณ 27 บาท และอื่น ๆ ทำให้ยุนไหลประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ทั้งสิ้น 100,000 หยวน หรือประมาณ 450,000 บาท ในระยะเวลา 4 ปี

ประเด็นที่ยุนไหลให้มากกว่าเรื่องการเงิน คือ ไลฟ์สไตล์ ยุนไหลบอกว่า จริง ๆ แล้วตนมีคนที่ให้ที่พักอยู่แบบฟรี ๆ แต่สิ่งที่ยุนไหลชอบมากกว่าคือสภาพแวดล้อมในสวนสาธารณะที่ดีกว่าอะพาร์ตเมนต์ทั่วไปมาก และมันทำให้ตัวเองรู้สึกมีอิสระมากกว่า

15/07/2025

งานเหล็ก งานไม้ งานไฟฟ้า งานสายช่างไม่เคยตกยุคครับ ยิ่งถ้าช่างคนไหนมีสกิลอื่นๆพร้อมบวกด้วย เช่น งานไม้ที่อ่านแปลน ออกแบบได้เอง ถ้าปรับตัวให้รับงานเล็กๆได้ รับรองมีงานทุกวัน

จะไม่กลับไปทำงาน บ.เทคอีก วิศวกรซอฟต์แวร์สาวถูกเลย์ออฟ เปลี่ยนอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็ก
ช่วงหลังๆ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี มีการเลย์ออฟคนมหาศาล และมีการใช้ AI ทำงานแทนคนอย่างหนัก คำถามที่หลายคนอาจสงสัยคือ คนที่โดนเลย์ออฟเค้าไปทำงานอะไรกัน? อะไรคือ งานที่คนซึ่ง "AI แย่งงาน" ไปทำ หรือพวกเค้าไปทำอาชีพอะไรต่อ?
Business Insider เล่าถึงเรื่องราวของสาววัย 37 ปีคนหนึ่งที่เคยเป็น "วิศวกรซอฟต์แวร์" ก่อนจะโดนเลย์ออฟไปในเดือนพฤษภาคม 2025 และปัจจุบัน ในเดือนกรกฎาคม เธอกลายมาเป็น "ช่างเชื่อมเหล็ก" ไปแล้ว และในหลายๆ มิติเรื่องราวนี้น่าสนใจมากเกี่ยวกับทิศทางของตลาดแรงงานปัจจุบัน
ก่อนถูกเลย์ออฟ เธอทำงานมาอย่างราบรื่นมาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นเวลาหลายปี จนมาช่วงโควิด อุตสาหกรรมเทคเริ่มทรงไม่ดีละ เริ่มมีเลย์ออฟในบริษัทใหญ่ๆ พวกพนักงานในบริษัทเล็กๆ ก็ร้อนๆ หนาวๆ
ผ่านมาไม่กี่ปี และสุดท้ายก็มาถึงคิวของเธอจริงๆ เธอทำงานเป็น "วิศวกรซอฟแวร์" เดือนสุดท้ายในพฤษภาคม 2025 ก่อนจะต้องออกจากงาน และตัดสินใจว่าว่า เธอพอแล้ว ไม่ทำอาชีพ "วิศวกรซอฟแวร์" อีกแล้ว จะไม่หางานใหม่สายเดิมแล้ว
เธอเลือกงานใช้แรงงานแบบงาน "เชื่อมเหล็ก" ซึ่งเป็นความสนใจของเธอมาตั้งแต่สมัยมัธยม เพราะเป็นสิ่งที่เธอเห็นทั้งปู่และพ่อของเธอทำมาตั้งแต่เด็ก พอโดนเลย์ออฟปุ๊บ เธอไปเรียนเชื่อมเหล็กเพิ่มเลย และเริ่มรับงาน
สิ่งที่เธอทำมีความคล้ายกับเทรนด์คน Gen Z อเมริกันจำนวนมากที่ไปทำงานพวก "ช่าง" มากขึ้น ทั้งช่างไฟฟ้า ช่างรถยนต์ อาจด้วยความสนใจส่วนตัว หรือเพราะมองว่างานพวกนี้ยังไงก็ไม่มีทางโดน AI แย่ง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก
ความน่าสนใจคือ ในขณะที่คนภายนอกมองว่า เธอ "โดน AI แย่งงาน" แต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้น เธอมองว่า จริงๆ งานของเธอ AI ทำแทนไม่ได้ แต่ตัว "ผู้บริหารบริษัท" ต่างหากที่เอา AI มาแทนที่ ทั้งที่จริงๆ มันทำงานที่เธอทำไม่ได้ ซึ่งถ้าอธิบายแบบนี้ ก็อาจพูดได้ว่า AI ไม่ได้ "แย่งงาน" แต่มัน "ทำให้งานหายไป" เลยก็ได้
เธอมองว่า ต่อจากนี้ไปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะมีแต่งานของฝั่ง "นักพัฒนา AI” เท่านั้น งานอื่นๆ จะหดหายหมด ไม่ใช่เพราะ AI ทำแทนได้ แต่เพราะพวกผู้บริหารมองโลกใหม่ของการทำงานว่ามันต้องเป็นแบบนั้น คือจะใช้ AI ทำงานทางปัญญาแทนมนุษย์ในองค์กรให้หมด
พูดอีกแบบ เธอคิดว่า ตราบใดที่พวกผู้บริหารยังคิดแบบนี้กันอยู่ งานของเธอก็ไม่มีอนาคตอีกแล้ว และเธอเลยเลือกที่จะไปทำงานอื่น
ในแง่หนึ่งก็อย่าไปห่วงเขาเลยครับ เขามีทางไปอยู่ ฟังดูเรื่องราวโดนเลย์ออฟก็น่าใจหาย แต่อีกด้าน อุุตสาหกรรมที่มาไวไปไวจำนวนมากพวกนี้ ตอนรุ่งๆ ค่าตอบแทนมันโหดมาก แบบจ่ายเยอะจนจินตนาการไม่ได้เลยว่าในงานเดียวกันบริษัทกลุ่มอื่นๆ จะจ่ายไหวได้ยังไง และคนที่เลือกอยู่ในอุตสาหกรรมแบบ "มาไวไปไว" พวกนี้แทนที่จะเป็นอุตสาหกรรมที่ "มั่นคง" ก็ควรมีแผนการทางการเงินในใจอยู่แล้ว
#เลย์ออฟ #เจนวาย #วิศวกร #บริษัทเทค

14/07/2025

กำลังมาครับ ใครอยากปั่นยอดวิว แนะนำ ทำตามง่ายๆ แค่หาปลาสดหรือผลไม้มาถ่ายประกอบฉาก😄

14/07/2025

ทำไมต้องกินนมวัว? ผมลองให้ลูกเลี่ยงกินนมมาปีกว่า ผลคือ แทบไม่ป่วยเลยครับ ในอาหาร/เครื่องดื่มมีส่วนผสมของนมวัวมากพอแล้วครับ หาแคลเซี่ยมจากอย่างเถอะ🙏

จะหวิด คุณแม่ท่านหนึ่งกล่าว
#ผู้บริโภค ว่าไง

14/07/2025

นิยายเรื่องนี้ คนแต่งเหมือนรู้อนาคตจริงๆ หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในนิยายที่แต่งขึ้น กำลังเกิดขึ้น และเกิดไปแล้วหลังจากนิยายจบ

ในรูปพูดถึง New Normal ของเศรษฐกิจยุคนี้ "โตต่ำ" ยาวๆ แล้วจะแก้ปัญหาโตต่ำยังไง? ดีที่สุดคือการ สร้างนวัตกรรมใหม่ หรือเพิ่มความต้องการ!

วันนี้เราจึงได้พบนวัตกรรมใหม่ (อาจจะไม่ล่าสุด แต่ถือว่าเปิดตัวใหม่) ควบคุมลมฟ้าอากาศ บางคนบอกว่าสั่งแผ่นดินไหวได้ด้วย?! และด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ ทำให้เกิดความเรือหายขึ้นท่วมโลก จนนำมาซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการซ่อม สร้าง และป้องกันภัยธรรมชาติ (ปลอม) ที่นวัตกรรมใหม่นี้สร้างขึ้น รถยนต์ จักรยานไฟฟ้าจมน้ำ เสียหายมากมาย = ยอดขายเพิ่มขึ้น?

ผมจะไม่แปลกใจถ้ามีเหตุอะไรรุนแรงเกิดขึ้นในปีนี้ในบางเมืองที่ต่างประเทศ ในหนังฝรั่งเขาเรียกว่า for the greater good😁 แต่คนที่โดน....น่าสงสาร

เครดิตภาพ นิยายเกาหลีใต้เรื่อง "Investor who see the future"

14/07/2025

ดีนะ ช่วงนี้ที่จีนร้อนโหดมากในหลายเมืองใหญ่ มาเที่ยวไทยกันเยอะๆครับ บ้านเราร้อนก็จริง แต่ไม่โหดแบบโซนเอเซียตะวันออกอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น

เรื่องเล่าเช้านี้

14/07/2025

ยอมกัดฟันจ่ายค่าเรียนแพง สุดท้ายเหมือนเรียนรร.เอกชนไทย เพราะ 49% ในนั้นเป็นเด็กไทย พูดภาษาไทย😆 เรียนนานาชาติยุคนี้ ต่างจากสมัยก่อนเยอะจริงๆครับ