CJ BOOK CJ BOOK
This is my official page . CJ BOOKS เพจที่มีมากกว่าหนังสือ

For collaborations, licensing, or questions, please contact me at: [[email protected]]

🎵 Listen on Spotify: [https://open.spotify.com/artist/0qmsEU1DdK59iUtIe7bKmR]

☕กาแฟส่งผลช่วงที่สมองกำลังนอนหลับอย่างไรหากพูดถึงเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัวตลอดเวลา คงหนีไม่พ้นกาแฟอย่างแ...
02/08/2025

☕กาแฟส่งผลช่วงที่สมองกำลังนอนหลับอย่างไร

หากพูดถึงเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัวตลอดเวลา คงหนีไม่พ้นกาแฟอย่างแน่นอน

กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่สร้างการตื่นตัวให้กับผู้คนทั่วโลก แม้ว่ากาแฟจะช่วยให้คนตื่นตัว แต่ในทางกลับกันเราเองก็ยังไม่รู้ว่า กาแฟส่งผลต่อระยะเวลาที่เรากำลังนอนหลับอยู่อย่างไรบ้าง

ในช่วงแรกนั้นคาเฟอีนมีผลต่อการทำงานของสมองทั้งในเรื่องของการส่งสัญญาณกับการกระตุ้นสมองอย่างมาก รวมไปถึงช่วงที่เรากำลังนอนหลับอยู่ โดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว

นักวิจัยกล่าวว่า “เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงความสมดุลการทำงานของสมองระหว่างการรับคำสั่งกับความสับสน มันเหมือนกับวงดนตรีออเคสตร้าที่มีทั้งช่วงบรรเลงเงียบไปจนถึงเงียบสนิท แล้วอยู่ดี ๆ ก็บรรเลงด้วยเสียงกระหึ่มไม่รู้ตัวและดังถึงขีดสุด สำคัญก็คือสมองจะมีความสุขก็ต่อเมื่อมีการทำงานอย่างเป็นระบบและยืดหยุ่น ในช่วงสภาวะนี้สมองจะมีการทำงานอย่างเหมาะสม มีการประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องของการเรียนรู้ การตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ”

นักวิจัยกล่าวอีกว่า “คาเฟอีนมีการกระตุ้นสมองและเป็นตัวเร่งการทำงานของสมอง ทำให้คนตื่นตัว ตื่นรู้และมีปฏิกิริยาสูง สมองแบบนี้จะดีมากก็ต่อเมื่อเราใช้สมาธิกับเรื่องต่าง ๆ ในช่วงระหว่างวัน แต่หากสมองที่อยู่ในสภาวะแบบนี้ทำงานในช่วงพักผ่อนเวลากลางคืนแล้ว จะทำให้สมองไม่สดชื่นและไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

โดยรวมก็สามารถสรุปได้ว่า ต่อให้เรานอนหลับในช่วงที่สมองได้รับกาแฟนั้น สมองยังคงทำงานแบบตื่นตัวอยู่ ไม่สามารถเข้าสู่การฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพที่เป็นผลมาจากคาเฟอีน

ที่มา: Sciencedaily.com

#กาแฟ #สมอง #นอนหลับ #คาเฟอีน #พักผ่อน

🧠งานวิจัยเผยสมองของเรามีการตอบสนองต่อการฟังเพลงอย่างไรนักวิจัยได้มีการเผยให้เห็นว่า สมองและร่างกายของเราไม่เพียงแค่ที่จะ...
30/07/2025

🧠งานวิจัยเผยสมองของเรามีการตอบสนองต่อการฟังเพลงอย่างไร

นักวิจัยได้มีการเผยให้เห็นว่า สมองและร่างกายของเราไม่เพียงแค่ที่จะเข้าใจสิ่งที่ดนตรีได้สื่อออกมา แต่ทั้งสมองกับร่างกายมีการตอบสนองสะท้อนต่อเสียงดนตรีอย่างไม่น่าเชื่อ

ตามหลักทฤษฎีการสั่นพ้องของระบบประสาทหรือ NRT นั้น ให้ความสำคัญกับกระบวนการรับรู้การทำงานของสมองผ่านจังหวะดนตรี ไม่ว่าจะเป็นทำนองกับการประสานเสียง ซึ่งเสียงดนตรีเป็นการกระตุ้นให้สัญชาตญาณทั้งสมองและร่างกายของเรามีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ

นักวิจัยกล่าวว่า “ทฤษฎีนี้เผยให้เห็นว่า ดนตรีมีอิทธิพลไม่เพียงแค่เราได้ยินเสียงเท่านั้น แต่เพราะดนตรีมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสมองและร่างกายของเราด้วย นี่ถือเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับการบำบัด, การศึกษาและเทคโนโลยี”

ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของคลื่นสมองกับการประสานเสียงที่สะท้อนไปยังสมองโดยตรง ทำให้ผู้คนมีอิสระต่อการนึกคิดถึงเบื้องหลังของเสียงดนตรี การที่เราได้ยินและผลิตดนตรีขึ้นมาถือเป็นพื้นฐานสำคัญของกลไกการทำงานของสมองที่ส่งผลต่อหู ไขสันหลังและการเคลื่อนไหวของแขนขา

นักวิจัยจึงได้นำทฤษฎีตรงนี้มาประยุกต์ใช้ในส่วนของเครื่องมือการบำบัดผู้ป่วยอย่างเช่นโรคหลอดเลือดสมอง, โรคพาร์กินสันและโรคซึมเศร้า อีกทั้งยังมีการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างสรรค์ดนตรีแบบเดียวกับที่มนุษย์ได้คิดค้นขึ้น อีกทั้งยังมีการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการสนับสนุนจังหวะดนตรีและการเล่นดนตรีให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของคนทั่วโลก

ที่มา: Sciencedaily.com

#ดนตรี #สมอง #ร่างกาย #ฟังเพลง #บทความ #วิจัย

🙂วิจัยเผย การร้องเพลงให้เด็กทารกฟัง ช่วยพัฒนาการทางด้านอารมณ์แม้ว่าเด็กทารกอาจเป็นวัยที่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกั...
26/07/2025

🙂วิจัยเผย การร้องเพลงให้เด็กทารกฟัง ช่วยพัฒนาการทางด้านอารมณ์

แม้ว่าเด็กทารกอาจเป็นวัยที่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาได้ดีนัก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเด็กทารกจะเข้าใจในเรื่องของสัญชาตญาณการออกเสียงของพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นอย่างดี

โดยสัญชาตญาณนั้น การร้องเพลงให้กับเด็กทารกถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เช่นเดียวกันงานวิจัยนี้ได้เปิดเผยแล้วว่า การร้องเพลงถือเป็นแนวทางที่ปลอดภัย ง่ายและสามารถช่วยยกระดับพัฒนาการทางด้านอารมณ์ให้กับเด็กทารกได้อย่างดีเยี่ยม

เช่นเดียวกันการทำแบบนี้ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดี และการร้องเพลงให้กับเด็กทารกถือเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกมักจะทำกันเป็นขนบธรรมเนียมการเลี้ยงดูลูกหลานไปแล้ว

นักวิจัยเผยว่า “การร้องเพลงเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ และคนในครอบครัวส่วนใหญ่ก็มักจะทำแบบนั้น เราจึงไม่ต้องให้ความสนใจกับสิ่งของที่มีราคาแพง การทำอะไรที่มีความซับซ้อนกับคนอื่น”

นักวิจัยพบว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่สามารถใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ในการร้องเพลง ยิ่งพวกเขาใช้เวลาร้องเพลงมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้พวกเขาทำจนกลายเป็นเรื่องที่เคยชินไป ไม่เพียงแค่นั้นการที่พ่อแม่ผู้ปกครองร้องเพลงบ่อยมากเท่าไรนั้น ก็ยิ่งทำให้ลูก ๆ ของพวกเขาอยู่นิ่งมากขึ้น
ตรงนี้นักวิจัยแนะนำว่า “เราคิดว่าพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะร้องเพลงตอนที่ลูก ๆ ของพวกเขามาจู้จี้ และจังหวะนี้แหละคือจังหวะที่ต้องร้องเพลงให้กับลูก ๆ”

เช่นกันผลลัพธ์ที่ออกมาพบว่า การร้องเพลงช่วยยกระดับพัฒนาการทางด้านอารมณ์ให้กับลูก ๆ เมื่อเทียบกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่เน้นควบคุมกวดขัน แม้ว่าการร้องเพลงจะไม่มีผลต่ออารมณ์ของพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่นักวิจัยมองว่ามันมีผลต่อสมาชิกในครอบครัวที่เป็นคนหนุ่มสาว โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนรู้ดีว่า อารมณ์ของเด็กทารกส่งผลกระทบต่อสมาชิกครอบครัวทุกคน

ที่มา: Sciencedaily.com

#เด็ก #เลี้ยงเด็ก #เด็กทารก #อารมณ์ #พัฒนาการ #วัยเด็ก #ครอบครัว #พ่อแม่ #ผู้ปกครอง

😞โรคซึมเศร้าอาจต้องดูระบบภูมิคุ้มกันของสมองปฏิเสธไม่ได้ว่า ยุคสมัยใหม่นั้นเริ่มมีผู้คนประสบภาวะโรคซึมเศร้ามากขึ้น ถือเป็...
23/07/2025

😞โรคซึมเศร้าอาจต้องดูระบบภูมิคุ้มกันของสมอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยุคสมัยใหม่นั้นเริ่มมีผู้คนประสบภาวะโรคซึมเศร้ามากขึ้น ถือเป็นปัญหาทางสุขภาพจิตใจที่ทั่วโลกกำลังเจอ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าภาวะซึมเศร้านี้ อาจต้องมาทำความเข้าใจที่มาของระบบภูมิคุ้มกันของสมอง แม้ว่าสมองเป็นเรื่องยากต่อการทำความเข้าใจและเป็นอวัยวะที่อาจเรียกได้ว่า มีความซับซ้อนมากที่สุดในโลกนั้น แต่ทางนักวิจัยเชื่อว่า หากค้นพบองค์ประกอบบางอย่างของสมองนั้น ก็จะช่วยให้เข้าใจภาวะซึมเศร้าได้

เซลล์ไมโครเกลียถือเป็นเซลล์ที่อยู่ในระบบประสาทส่วนกลาง โดยพวกมันมีหน้าที่ในการควบคุมการตอบสนองต่อภาวะสมองอักเสบ แม้ว่าภาวะสมองอักเสบจะเป็นการบันทึกรายละเอียดเอาไว้ แต่มันก็ยังไม่ค่อยเป็นที่ชัดเจนนักในส่วนของพัฒนาการของเซลล์แอสโตรไซต์

นักวิจัยพบว่า เซลล์แอสโตรไซต์ถือเป็นกุญแจสำคัญในส่วนของกระแสการเชื่อมต่อทางเคมีเข้าด้วยกันระหว่างเส้นประสาท ซึ่งบทบาทของเซลล์แอสโตรไซต์นั้น จะช่วยในเรื่องของการส่งเสริมการเติบโตของเซลล์ประสาทนิวไรต์และโครงสร้างกระแสการเชื่อมต่อทางเคมี
นักวิจัยพบว่า กลไกการทำงานที่เชื่อมโยงกันในส่วนของเซลล์ไมโครเกลียกับเซลล์แอสโตรไซต์ก่อให้เกิดภาวะสมองอักเสบขึ้นหากมีการทำงานที่ไม่ลงรอยกัน

นอกจากนั้นแล้วเซลล์แอสโตรไซต์ยังอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างเส้นประสาทผ่านการควบคุมสภาพแวดล้อม ที่น่าสังเกตก็คือ การเปลี่ยนแปลงของเซลล์แอสโตรไซต์นั้น หากมีการเชื่อมต่อกันในระดับที่แย่นั้น อาจเป็นบ่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าขึ้นมาได้

ที่มา: Sciencedaily.com

#โรคซึมเศร้า #ซึมเศร้า #สมอง #อักเสบ #สุขภาพจิต

📈เผย AI ไม่ได้ทำร้ายตลาดแรงงาน แต่อาจช่วยยกระดับคุณภาพการทำงานให้ดีขึ้นแม้ว่ากระแสการเข้ามาของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI น...
19/07/2025

📈เผย AI ไม่ได้ทำร้ายตลาดแรงงาน แต่อาจช่วยยกระดับคุณภาพการทำงานให้ดีขึ้น

แม้ว่ากระแสการเข้ามาของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น จะเริ่มเป็นที่น่าหวาดกลัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางด้านการสูญเสียตำแหน่งการงาน ปัญหาสุขภาพจิตหรือปัญหาทางด้านการศึกษาในส่วนของการใช้ระบบ AI ทำการบ้านแทนนั้น ความจริงแล้วระบบ AI หากนำไปใช้งานในทางที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

การเข้ามาของระบบปัญญาประดิษฐ์ถูกมองว่า ทำให้ผู้คนเริ่มตกงาน แต่จากข้อมูลงานวิจัยได้เผยว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์อาจช่วยในเรื่องของการยกระดับสุขภาพจิตของแรงงานได้

เรื่องนี้นักวิจัยกล่าวว่า “การที่คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลกับระบบปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น และมันเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องอยู่ร่วมกับระบบ AI ด้วยเหตุนี้ทางเราไม่ค่อยมาดูรายละเอียดในส่วนของการนำระบบ AI มายกระดับในเรื่องของสุขภาพจิตของแรงงานส่วนใหญ่ ซึ่งดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของพวกเขาจะดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอัตราการเลิกจ้างไม่ได้มากอะไรขนาดนั้น และความเสี่ยงที่พวกเขาตกงานเพราะระบบ AI ยังไม่ได้เยอะจนเด่นชัดนัก”

เรื่องนี้ทำให้นักวิจัยเริ่มทำการวิเคราะห์ระบบ AI โดยพุ่งเป้าไปที่ผลกระทบของแรงงานรุ่นใหม่ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการใช้ AI ในประเทศเยอรมนี

“เราอาจรีบด่วนตัดสินในเรื่องของผลกระทบของการประยุกต์ใช้ระบบ AI เข้ากับสาขาอาชีพต่าง ๆ เร็วเกินไป โดยผลกระทบของ AI นั้นหลัก ๆ มีผลต่อวงการเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง สามารถเข้าถึงหลากหลายอุตสาหกรรมและรูปแบบการทำงานเชิงลึกได้”

งานวิจัยได้สรุปว่า

1.ไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงผลกระทบของระบบ AI ต่อความพึงพอใจการทำงาน, ความพึงพอใจในชีวิตหรือสุขภาพจิต

2.มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจกับความพึงพอใจทางสุขภาพเล็กน้อย โดยเฉพาะแรงงานที่มีการศึกษาไม่สูง

3.มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงแรงกดดันการทำงานที่ลดน้อยลง ซึ่งหลัก ๆ แล้วมาจากการใช้ระบบ AI เข้ามาช่วย

4. เวลาการทำงานต่อสัปดาห์ลดน้อยลง โดยที่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางรายได้หรืออัตราการจ้างงาน

5.ผลกระทบต่อความรู้สึกที่ดีนั้นจำเป็นต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมอีกในอนาคต

ที่มา: Sciencedaily.com

#ระบบปัญญาประดิษฐ์ #เทคโนโลยี #แรงงาน #อาชีพ #ตลาดแรงงาน #สุขภาพจิต

🩻ระบบ AI ช่วยตรวจจับความผิดปกติของอาการที่แพทย์มองข้ามไปได้นักวิจัยของประเทศญี่ปุ่นได้มีการคิดค้นระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับ...
16/07/2025

🩻ระบบ AI ช่วยตรวจจับความผิดปกติของอาการที่แพทย์มองข้ามไปได้

นักวิจัยของประเทศญี่ปุ่นได้มีการคิดค้นระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับการตรวจจับโรคไขมันพอกตับจากการตรวจเอกซเรย์หน้าอก โดยโมเดลดังกล่าวนี้ได้มีการพิสูจน์แล้วว่ามีความถูกต้องแม่นยำและอาจมีการวินิจฉัยโรคได้รวดเร็ว

โรคไขมันพอกตับถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยไขมันพอกตับเกิดจากการที่ไขมันมีการสะสมบริเวณตับมากเกินไป และคาดว่าประชากร 1 ใน 4 ทั่วโลกกำลังประสบกับไขมันพอกตับ หากว่าไม่มีการตรวจและทำการรักษา ก็จะนำไปสู่ปัจจัยแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคตับแข็งกับมะเร็งตับ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการตรวจหาโรคและรีบทำการรักษาให้เร็ว

แม้ว่าปัจจุบันจะมีการตรวจจับไขมันพอกตับในระดับที่เป็นมาตรฐานสากล แต่นั่นก็นำไปสู่การใช้ต้นทุนที่สูงและต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง ในทางกลับกันการเอกซเรย์หน้าอกถือเป็นต้นทุนที่ต่ำกว่าและมักจะถูกนำไปใช้ในการวินิจฉัยโรคบ่อยครั้ง แม้ว่าการเอกซเรย์หน้าอกหลัก ๆ แล้วจะเป็นเรื่องของการตรวจปอดกับหัวใจเป็นหลัก แต่การเอกซเรย์หน้าอกช่วยในการตรวจตับและมีความเป็นไปได้ที่จะตรวจจับสัญญาณที่บ่งบอกว่า กำลังเป็นไขมันพอกตับ

ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นได้มีการคิดค้นระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์ในส่วนของการตรวจภาวะไขมันพอกต่ำจากภาพเอกซเรย์หน้าอก

จากการตรวจสอบรูปภาพเอกซเรย์หน้าอกกว่า 6,599 รูปนั้น พบว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ตรวจจับได้อย่างแม่นยำ เรื่องนี้นักวิจัยได้กล่าวว่า “การพัฒนากระบวนการวินิจฉัยตรงนี้เป็นเรื่องง่ายและมีต้นทุนที่ราคาถูกสำหรับการตรวจจับไขมันพอกตับ และเราหวังว่าจะมีการนำวิธีการดังกล่าวนี้ไปปรับใช้ในอนาคต”

ที่มา: Sciecnedaily.com

#ตับ #ไขมันพอกตับ #โรค #แพทย์ #ระบบปัญญาประดิษฐ์ #ปัญญาประดิษฐ์

📍เผยระบบ AI ช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยของชาวนาได้ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เริ่มเข้าสู่การให้ความช่วยเหลือภาคการเกษตรมากขึ้น ...
12/07/2025

📍เผยระบบ AI ช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยของชาวนาได้

ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เริ่มเข้าสู่การให้ความช่วยเหลือภาคการเกษตรมากขึ้น จากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวิเคราะห์พืชพันธุ์อย่างข้าวโพด พร้อมกับช่วยลดต้นทุนทางด้านการปลูกให้กับชาวนา

นักวิทยาศาสตร์ได้เอาระบบปัญญาประดิษฐ์มาวิเคราะห์การปลูกข้าวโพดในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าอุตสาหกรรมข้าวโพดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานั้น สร้างผลตอบแทนให้กับชาวนาอย่างมั่งคั่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการพัฒนาการเพาะปลูกและการใช้ปุ๋ย โดยเฉพาะการนำไนโตรเจนที่ถือเป็นกุญแจสำคัญต่อการปลูกข้าวโพด

ข้าวโพดกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ล้วนแล้วมาจากการใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนผสมอยู่ เนื่องจากไนโตรเจนถือเป็นธาตุสำคัญที่ทำการดูดซึมทั้งดินและพื้นใต้น้ำได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตข้าวโพดรายใหญ่ระดับโลก

แม้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะครองตลาดข้าวโพด แต่ประเทศสหรัฐอเมริกายังคงพัฒนาการเพาะปลูกข้าวโพดอย่างต่อเนื่อง โดยดูเรื่องความท้าทายในส่วนของข้าวโพดสายพันธุ์อื่น ๆ พร้อมกับพัฒนาไนโตรเจนให้เข้าสู่เครื่องกลแห่งการเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นรูปแบบการตรวจวิเคราะห์ของระบบปัญญาประดิษฐ์

ในช่วงแรกนักวิจัยจะทำการฝึกเครื่องกลแห่งการเรียนรู้ให้ทำการระบุการตอบสนองของยีนข้าวโพดต่อไนโตรเจน เช่นเดียวกันก็จะมีการดูปัจจัยต่าง ๆ ที่จะช่วยให้สามารถใช้ไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วจากนั้นนักวิจัยก็จะทำการรวบรวมผลการทดสอบของเครื่องกลแห่งการเรียนรู้และจากนั้นก็จัดลำดับประสิทธิภาพว่าระบบปัญญาประดิษฐ์มีการคาดการณ์ที่ถูกต้องแม่นยำมากน้อยแค่ไหน

จากการทดลองพบว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถที่จะทำการคาดการณ์การใช้ไนโตรเจนกับข้าวโพดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือกล่าวคือช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและผลลัพธ์ที่ออกมานี้ไม่เพียงแค่จะช่วยลดต้นทุนให้กับชาวนาเท่านั้น แต่ยังช่วยลดมลภาวะการใช้ไนโตรเจนต่อพื้นใต้น้ำกับก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย

ที่มา: Sciencedaily.com

#ชาวนา #ข้าวโพด #เอไอ #ระบบปัญญาประดิษฐ์ #ปัญญาประดิษฐ์
#เกษตรกรรม #ชาวนา

🧠ผู้เชี่ยวชาญเผย AI ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นงานวิจัยใหม่เผย การใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น จะช่วยยกร...
09/07/2025

🧠ผู้เชี่ยวชาญเผย AI ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น

งานวิจัยใหม่เผย การใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น จะช่วยยกระดับการผูกพันทางเทคโนโลยีให้กับนักเรียนมากขึ้น จากการที่ระบบปัญญาประดิษฐ์มีการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ไม่เพียงแค่จะช่วยยกระดับเกรดเฉลี่ยของนักเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น มีความแพร่หลายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบปัญญาประดิษฐ์มีการประมวลผลที่รวดเร็ว มีความแม่นยำและช่วยในการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ดี

ผู้เข้าร่วมงานวิจัยกว่า 400 คนนั้น กล่าวว่า พวกเขาได้ใช้ AI ในการช่วยเหลือทางด้านการเขียน นักวิจัยเผยว่า “การใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT นั้น จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถยกระดับการเรียนรู้ของพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาอาจมีการใช้ AI ในการช่วยเหลือทางด้านการเขียนแบบผิด ๆ ด้วยเช่นกัน แม้ว่าสถานการณ์ทางด้านการศึกษาจะให้หลายคนความกังวลเรื่องของการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยทำงานด้านวิชาการหรือการเรียนรู้ อย่างเช่นการใช้ AI ช่วยทำการบ้านแทนนักเรียนอยู่บ้างก็ตาม”

ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจึงเสนอให้ทางนักเรียนกับสถาบันทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและข้อดีของการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยทำความเข้าใจในเรื่องของนโยบายการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์อย่างเปิดเผย

นักวิจัยมองว่า ความท้าทายของนักเรียนส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องของความมีวินัยอย่างเข้มงวดกวดขันในเรื่องของการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ แล้วคำถามก็คือว่า แล้วนักเรียนใช้ AI เข้ามาช่วยพวกเขามากน้อยแค่ไหน?

จากการสำรวจพบว่า นักเรียน 1 ใน 3 ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ และแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์นั้น หลัก ๆ แล้วมาจากเรื่องของความเร็วและความสะดวกสบายในการทำหน้าที่แทนพวกเขา อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาพวกเขาไปได้เยอะมาก

อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมงานวิจัยได้เผยว่า พวกเขาใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเรียนรู้มากกว่าที่จะเพิ่มเกรดเฉลี่ย และพวกเขาเชื่อในเรื่องของหลักจรรยาบรรณและการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเพราะคนส่วนใหญ่มองว่า นักเรียนส่วนใหญ่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มเกรดเฉลี่ยมากกว่า

เช่นเดียวกันนักเรียนส่วนใหญ่มักใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษหรือฟังเสียงจากการอ่านและสำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางร่างกายก็อาจมีการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยเขียนแทนพวกเขาได้

ที่มา: Sciencedaily.com

#ปัญญาประดิษฐ์ #ระบบปัญญาประดิษฐ์ #การศึกษา #เทคโนโลยี #นักเรียน

📍เผยตอนนี้เริ่มมีการใช้ AI ในการทำความเข้าใจเป้าหมายของมนุษย์มากขึ้นระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่า ...
05/07/2025

📍เผยตอนนี้เริ่มมีการใช้ AI ในการทำความเข้าใจเป้าหมายของมนุษย์มากขึ้น

ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่า เริ่มมีความสามารถหลายอย่างที่เราเองก็ไม่คาดไม่ถึง เช่นเดียวกัน ตอนนี้ทางทีมงานวิจัยเริ่มมีการพัฒนาระบบที่ช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงความตั้งใจหรือเป้าหมายของมนุษย์ที่ได้ตั้งปณิธานเอาไว้

นักวิจัยเผยว่า “แม้ว่าเป้าหมายชีวิตถือเป็นพื้นฐานสำคัญของพฤติกรรมมนุษย์ แต่พวกเราก็รู้น้อยมากว่าทำไมมนุษย์ถึงมีเป้าหมายแบบนั้น และยังขาดโมเดลในการทำความเข้าใจถึงเป้าหมายของมนุษย์ในส่วนของการใช้ความคิดสร้างสรรค์กับการสร้างความมั่งคั่งขึ้นมา”

“งานวิจัยจึงได้ให้ความสำคัญในการวางโครงสร้างใหม่เพื่อที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้คนได้คิดและเป้าหมายต่าง ๆ ที่ช่วยให้ระบบสามารถยกระดับความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

แม้ว่ากระบวนการขั้นตอนนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและอยู่ในส่วนของการประมวลผลทั้งเป้าหมายและพฤติกรรมที่เชื่อมโยงกับเป้าหมาย โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยังคงจับเป้าหมายการสร้างความมั่งคั่งของมนุษย์อยู่ เพื่อที่จะแก้ปัญหาช่องโหว่ตรงนี้ นักวิจัยจึงได้ทำการวิจัยเรื่องที่ว่า มนุษย์มีการสร้างเป้าหมายชีวิตขึ้นมาอย่างไร หรือมีการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อที่จะบรรลุให้ได้ซึ่งเป้าหมายอย่างไร

นักวิจัยได้มีการฝึกฝนโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างเป้าหมายในเกมต่าง ๆ ทั้งกฎและกติกาต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาโดยมนุษย์ เพื่อที่จะทำการประเมินการสร้างเป้าหมายของ AI กับมนุษย์นั้น นักวิจัยได้มีการสอบถามผู้เข้าร่วมในการให้คะแนนเกมตามทัศนคติอย่างเช่น สนุก, สร้างสรรค์, ยาก ตัวอย่างเช่น

มนุษย์ได้สร้างเกมขึ้นมาโดยมีกติกาว่า มีการโยนลูกบอลโดนกำแพงและจากนั้นก็ให้ใครก็ตามแตะหรือจับลูกบอล โดยการให้คะแนนนั้น จะได้ 1 แต้มหากทุ่มบอลที่กำแพงและใครก็ตามที่สามารถคว้าลูกบอลหรือสัมผัสโดน

ส่วน AI ได้มีการสร้างเกมขึ้นมาว่า โยนลูกบอลแล้วโดยที่ลูกบอลต้องอยู่บนชั้นบนสุด และเกมจบลงเพียง 30 วินาที

โดยรวมแล้ว ทั้งมนุษย์กับ AI มีการสร้างเกมในลักษณะที่คล้ายกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นถือเป็นความสำเร็จที่มนุษย์กับ AI มีการพัฒนาเป้าหมายร่วมกันอย่างมีความสุขและสนุกไปพร้อมกัน

ที่มา: Sciencedaily.com

#เอไอ #ปัญญาประดิษฐ์ #ระบบปัญญาประดิษฐ์ #เทคโนโลยี #เป้าหมาย

😼AI ปลดล็อกศักยภาพใหม่:สามารถเข้าใจภาษาทางอารมณ์ของสัตว์ได้ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น เริ่มมีความก้าวหน้ามากขึ้นต่อเน...
02/07/2025

😼AI ปลดล็อกศักยภาพใหม่:สามารถเข้าใจภาษาทางอารมณ์ของสัตว์ได้

ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น เริ่มมีความก้าวหน้ามากขึ้นต่อเนื่อง คำถามก็คือ แล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ระบบปัญญาประดิษฐ์จะสามารถอ่านอารมณ์ความรู้สึกของสัตว์แต่ละชนิดได้?

คำตอบก็คือ ใช่ เนื่องจากงานวิจัยได้เผยถึงความสำเร็จในการวางโมเดลเครื่องจักรการเรียนรู้ในการจำแนกอารมณ์ขั้วบวกกับอารมณ์ขั้วลบได้ถึง 7 รูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวัว, สุกร, และหมูป่า โดยที่การวิเคราะห์นั้นให้ความแม่นยำมากถึง 89.49 % ด้วยกัน

นักวิจัยเผยว่า “ตรงส่วนนี้ชี้ให้เห็นแล้วว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถทำการตรวจจับอารมณ์สัตว์ชนิดต่าง ๆ โดยยึดตามเสียง ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยในเรื่องของการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์, การบริหารจัดการปศุสัตว์, และการอนุรักษ์สัตว์ชนิดต่าง ๆ ในการที่จะตรวจความเคลื่อนไหวของสัตว์และอารมณ์ของสัตว์แบบเรียลไทม์”

ระบบปัญญาประดิษฐ์จะมีการวิเคราะห์น้ำเสียงมากกว่า 1000 เสียงเพื่อตรวจสอบสภาวะทางอารมณ์แบบต่าง ๆ นักวิจัยได้มีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการตรวจความแม่นยำ เพื่อใช้ในการคาดการณ์ว่า อารมณ์ไหนเป็นขั้วบวก อารมณ์ไหนเป็นขั้วลบ รวมไปถึงการใช้พลังงาน, ความถี่เบื้องต้นและคลื่นเสียงรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตรวจดูอารมณ์ที่แสดงออกมาจากน้ำเสียง

งานวิจัยพบว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์มีการจำแนกอารมณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงการบริหารจัดการปศุสัตว์, การดูแลทางการแพทย์และการอนุรักษ์สัตว์ชนิดต่าง ๆ “การทำความเข้าใจอารมณ์ของสัตว์ที่แสดงออกมาช่วยให้ทางเราพัฒนาอารมณ์ของสัตว์ให้ดียิ่งขึ้นได้ หากเราตรวจจับระดับความเครียดหรือความอึดอัดของสัตว์ได้นั้น เราก็สามารถที่จะทำการบ่มเพาะอารมณ์ไปในทางบวกได้ นี่ถือเป็นการเปลี่ยนเกมที่สำคัญสำหรับสวัสดิภาพของสัตว์”

ที่มา: Sciencedaily.com

#ปัญญาประดิษฐ์ #ระบบเอไอ #เทคโนโลยี #สัตว์ #อารมณ์ #ระบบปัญญาประดิษฐ์

👥AI เข้าใจอารมณ์ได้ดีกว่าพวกเราหรือไม่?ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น จะสามารถทำความเข้าใจกับภาวะอารมณ์ได้ดีกว่ามนุษย์หรื...
28/06/2025

👥AI เข้าใจอารมณ์ได้ดีกว่าพวกเราหรือไม่?

ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้น จะสามารถทำความเข้าใจกับภาวะอารมณ์ได้ดีกว่ามนุษย์หรือไม่? เรื่องนี้ทางด้านทีมวิจัยได้มีการวิจัยทำการทดสอบความฉลาดทางอารมณ์หรือ EI กับ ChatGPT

Large Language Models หรือ LLMs นั้น เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้สำหรับการประมวลผล, การตีความและการทำความเข้าใจภาษาของมนุษย์ เช่นเดียวกับ ChatGPT ที่ได้มีการนำโมเดลนี้มาปรับใช้ ซึ่งโมเดลนี้สามารถตอบคำถามต่าง ๆ และตอบโจทย์ที่มีความซับซ้อนได้

อย่างไรก็ตามคำถามก็คือ แล้วระบบปัญญาประดิษฐ์มันมีความฉลาดทางอารมณ์แบบเดียวกับมนุษย์หรือไม่?

งานวิจัยได้มีการทำแบบทดสอบเกี่ยวกับความฉลาดทางอารมณ์กับระบบปัญญาประดิษฐ์ทั้ง ChatGPT-4, ChatGPT-o1, Gemini 1.5 Flash, Copilot 365, Claude 3.5 Haiku และ DeepSeek V3 ในส่วนของการประเมินเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของความเข้าใจ การควบคุมและการบริหารจัดการอารมณ์ อย่างเช่น (A) การโต้เถียงกับเพื่อนร่วมงาน, (B) การพูดคุยกับบุคคลระดับสูงเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ, (C) การเงียบด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองกับเพื่อนร่วมงาน, (D) การขโมยไอเดีย โดยที่ (B) ถือเป็นหัวข้อที่เหมาะที่สุด

จากการทดสอบพบว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์ตอบถูก 82 % เมื่อเทียบกับมนุษย์ที่ตอบได้ 56 % ซึ่งบ่งชี้ว่า ระบบ AI ไม่เพียงแค่จะเข้าใจอารมณ์เท่านั้น แต่ยังเข้าใจความหมายของความฉลาดทางอารมณ์ด้วย

ที่มา: Sciencedaily.com

#อารมณ์ #ปัญญาประดิษฐ์ #เอไอ #ระบบ

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

087-797-6861

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ CJ BOOKผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง CJ BOOK:

แชร์