11/09/2025
📌Larry Ellison จากผู้บุกเบิกฐานข้อมูล สู่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก
โลกของมหาเศรษฐีมักถูกครองโดยชื่อที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น Elon Musk, Jeff Bezos หรือ Bernard Arnault แต่ในเดือนกันยายน 2025 ชื่อใหม่ที่แทบไม่มีใครคาดคิดกลับโผล่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง นั่นคือ Larry Ellison ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Oracle Corporation
เพียงวันเดียว ความมั่งคั่งของ Ellison พุ่งขึ้นเกือบ 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับ 383,200 พันล้านดอลลาร์ ตามดัชนี Bloomberg Billionaires Index กลายเป็นการเพิ่มขึ้นของทรัพย์สินในวันเดียวที่มากที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ และที่สำคัญ มันเพียงพอจะโค่นบัลลังก์ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ที่ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกมานาน
🚩 ทำไมหุ้น Oracle ถึงพุ่ง?
การทะยานครั้งนี้เกิดจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Oracle ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก บวกกับการส่งสัญญาณอนาคตที่ชัดเจนว่า Oracle จะเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
RPO (Remaining Performance Obligation) พุ่งถึง 455,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 359% จากปีก่อน หมายถึงรายได้ที่จองล่วงหน้าไว้แล้วและยังไม่ถูกบันทึก
Oracle เซ็นสัญญากับลูกค้า AI ระดับโลกอย่าง OpenAI, xAI, Meta, Nvidia, AMD และอีกหลายราย
บริษัทคาดว่า รายได้จาก Oracle Cloud Infrastructure (OCI) จะโตจาก 18,000 ล้านดอลลาร์ปีนี้ ขึ้นไปถึง 144,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Oracle ไม่ใช่แค่บริษัทซอฟต์แวร์อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของยุค AI”
🚩 จากผู้ถูกปฏิเสธ สู่ผู้สร้าง Oracle
ย้อนกลับไปในทศวรรษ 1970 Ellison ได้แรงบันดาลใจจากงานวิจัยของ Edgar F. Codd แห่ง IBM เรื่องระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ เขามองเห็นว่านี่คือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกการจัดการข้อมูล แต่เมื่อเขานำไอเดียไปเสนอ IBM กลับถูกปฏิเสธ
แทนที่จะหยุด Ellison เลือกเดินหน้าด้วยตัวเอง ในปี 1977 เขากับเพื่อนอีกสองคนก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ในซิลิคอนวัลเลย์ด้วยเงินเพียง 1,200 ดอลลาร์ และใช้ชื่อว่า Oracle ผลงานแรกคือ Oracle Database ซึ่งกลายเป็นระบบฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ที่ใช้ SQL ได้จริง และลูกค้ารายแรกคือสำนักข่าวกรองสหรัฐฯ
จากจุดเล็กๆ นี้ Oracle ค่อยๆ เติบโต จนกลายเป็นผู้นำระดับโลกด้านฐานข้อมูล และต่อมาได้ขยายไปสู่ระบบ ERP, CRM, HCM และคลาวด์คอมพิวติ้ง
🚩 กลยุทธ์และการขยายอาณาจักร
ตลอดหลายทศวรรษ Oracle เติบโตจากทั้งนวัตกรรมและการเข้าซื้อกิจการมากกว่าร้อยแห่ง อาทิ PeopleSoft, NetSuite, Sun Microsystems (เจ้าของ Java และ MySQL) และการซื้อ Cerner บริษัทไอทีด้านการแพทย์มูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์
Oracle ยังสร้างความประหลาดใจด้วยการร่วมมือกับคู่แข่งโดยตรง เช่น Microsoft Azure, Google Cloud และ Amazon Web Services (AWS) เพื่อให้บริการฐานข้อมูลของตนเองทำงานบนแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้ กลยุทธ์นี้ทำให้ Oracle ขยายฐานลูกค้าได้กว้างและกลายเป็นโซลูชันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
🚩 เมื่อโลกเข้าสู่ช่วง AI
ปี 2025 ตลาด AI กำลังบูม ความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานพุ่งสูง และนี่คือจังหวะที่ Oracle โชว์ศักยภาพเต็มที่ ไม่เพียงตัวเลขผลประกอบการ แต่ยังมีโครงการระดับโลกอย่าง Stargate มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Oracle ร่วมมือกับ OpenAI และ SoftBank เพื่อตั้งรากฐานโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่
ผลตอบรับในตลาดสะท้อนทันที หุ้น Oracle พุ่งขึ้นกว่า 36% ในวันเดียว ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของ Ellison ซึ่งถือหุ้น Oracle มากกว่า 1.16 พันล้านหุ้น กระโดดขึ้นอย่างประวัติศาสตร์
🚩 ถอดบทเรียนจาก Larry Ellison
🔹 การถูกปฏิเสธไม่ใช่ทางตัน แต่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่
หาก IBM ไม่ปฏิเสธแนวคิดฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โลกอาจไม่มี Oracle ในวันนี้ Ellison แสดงให้เห็นว่าความล้มเหลวในครั้งแรกสามารถกลายเป็นแรงผลักดันที่เปิดเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า
🔹 กลยุทธ์ระยะยาวคือหัวใจของความยั่งยืน
การเลือกถือครองหุ้น Oracle มากว่าสองทศวรรษ และการสร้างธุรกิจที่ตั้งอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานที่โลกต้องการในที่สุด เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การมองการณ์ไกลย่อมสร้างผลลัพธ์ที่มั่นคงกว่าการไล่ตามความสำเร็จระยะสั้น
🔹 การปรับตัวคือกุญแจแห่งการอยู่รอด
Oracle เริ่มต้นจากการเป็นผู้บุกเบิกฐานข้อมูล แต่ไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น การขยายเข้าสู่ ERP, CRM, Cloud และล่าสุดสู่ AI Infrastructure ทำให้บริษัทสามารถรักษาความเกี่ยวข้องและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่
🔹 ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์คือการเสริมพลัง ไม่ใช่ความพ่ายแพ้
Oracle แสดงให้เห็นว่าการเลือกจับมือกับ Microsoft, Google และ Amazon ไม่ได้ลดทอนอำนาจการแข่งขัน แต่กลับขยายขอบเขตการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งในการยืนหยัดท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง