Nation STORY Where your voice matters. Where your voice matters.

บริษัท เนชั่นทีวี จำกัด
1854 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

09/08/2025

ราคาทองคําพุ่งทะยาน สวนทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน!
รู้หรือไม่ว่าทําไมทองคํายังเป็น ‘ของมีค่า’ ในยุควิกฤตนี้?
จับตาราคาทองคําที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว – โอกาสหรือกับดักสําหรับนักลงทุน? Nation's Agenda มีคําตอบ!
ติดตาม Nation's Agenda รู้ทันโลก เปลี่ยนอนาคต วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง YouTube / Facebook ของ Nation STORY
#รู้ทันโลกเปลี่ยนอนาคต #ทองคํา #ลงทุนทองคํา #ทองคํากับเงินดิจิทัล #โลกการลงทุน #พงศกรขวัญเมือง

09/08/2025

ประชาชนกังวล เจรจาไทย-กัมพูชาจะได้ผลแค่ไหน เชื่อทหารไทยทำเต็มที่ ปกป้องอธิปไตยชาติ
#ไทยกัมพูชา #ทหารไทย #ศึกไทยกัมพูชา #เสียงประชาชน #คนไทย

09/08/2025

อีกไม่กี่สิบปี ประชากรไทยอาจเหลือแค่ “ครึ่งเดียว”
และสาเหตุหนึ่ง…เริ่มจากวันที่ผู้หญิงต้องเลือกระหว่าง “แม่” หรือ “อาชีพ”
ฟังเรื่องจริงที่เกี่ยวกับอนาคตของทั้งประเทศ กับ STORY Tomorrow
#วันแม่แห่งชาติ #ผู้หญิง #ความเป็นแม่ #คนไทย

RECAP: ชายแดนปะทุอีก! ทุ่นสังหารทำทหารไทยเจ็บ 3 – โชว์หลักฐานชัด กัมพูชาละเมิดออตตาวาแม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับม...
09/08/2025

RECAP: ชายแดนปะทุอีก! ทุ่นสังหารทำทหารไทยเจ็บ 3 – โชว์หลักฐานชัด กัมพูชาละเมิดออตตาวา
แม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาสงบอีกครั้งหลังได้ข้อตกลงหยุดยิงจากการประชุม GBC เมื่อสัปดาห์ที่่ผ่านมา แต่การเดินหน้าสู่สันติภาพจะทำได้จริงหรือไม่ เมื่อทุ่นสังหารยังทำลายชีวิตและความไว้วางใจของทั้งสองชาติ
🔵 [เหยื่อล่าสุด - บาดแผลที่ไม่ควรเกิดขึ้น]
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงเมื่อเช้านี้ (9 ส.ค.) ว่า กองทัพบกได้รับรายงานเหตุการณ์กำลังพลจากกองร้อยทหารราบที่ 111 กองกำลังสุรนารี เหยียบทุ่นสังหารระหว่างลาดตระเวนพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์–บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เหตุครั้งนี้ทำให้
- จ.ส.อ.ธานี พาหา ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด อาการสาหัส
- พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ บาดเจ็บที่แขนและหลัง
- พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ ได้รับแรงอัด เสียหายบริเวณแก้วหู
ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลภาคสนาม ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
🔵 [ไทยระบุหลักฐานชัด: กัมพูชาละเมิดอนุสัญญา]
พล.ต.วินธัย ชี้ว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการใช้อาวุธยังดำเนินอยู่ แม้อยู่ในช่วงมาตรการหยุดยิง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ พร้อมย้ำว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มการใช้อาวุธก่อน
พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า 4 ส.ค. 2568 หน่วยทหารช่างได้เก็บกู้ ทุ่นสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น ในพื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อดีตฐานที่มั่นกัมพูชา แบ่งเป็น 16 ทุ่นที่ยังไม่พร้อมใช้งาน และ 2 ทุ่นพร้อมระเบิดวางรอบบ่อน้ำ นอกจากนี้ยังพบกระสุนและจรวด RPG จำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ห้ามผลิต ใช้ และเก็บรักษาทุ่นสังหารบุคคล
🔵 [ข้อกล่าวหาทางการเงินและภาพลักษณ์]
เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” เปิดข้อมูลว่า กัมพูชาเคยได้รับเงินสนับสนุนจากหลายประเทศและองค์การสหประชาชาติ เพื่อกำจัดทุ่นระเบิดและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผ่านโครงการ CMAC และ UNDP แต่ยังถูกพบว่ามีการใช้ทุ่น PMN-2 กับไทย
แม้นายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการ CMAC จะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่คำให้การกลับขัดแย้งกับโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา และภาพถ่ายจากสื่อกัมพูชาวันที่ 31 ก.ค. 2568 ยิ่งเพิ่มน้ำหนักว่าอาจมีการใช้ทุ่นอยู่จริง
🔵 [ความเงียบที่มีนัย]
แม้การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) จะจบลงแล้ว ไทยยังคงเรียกร้องให้กัมพูชาเก็บกู้ทุ่นสังหาร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ การนิ่งเงียบนี้เป็นเพียงการประวิงเวลา หรือสัญญาณปฏิเสธโดยนัย?
ชวนคิดต่อ... ทุ่นสังหารอาจให้ความได้เปรียบในสนามรบระยะสั้น แต่สร้างบาดแผลยาวนานให้ชุมชนและภาพลักษณ์ประเทศ ในวันที่โลกจับตา ไทย–กัมพูชาจะเลือกเดินบนเส้นทางสันติภาพอย่างแท้จริง หรือปล่อยให้sะเบิดใต้ดินกลายเป็นsะเบิดเวลาแห่งความขัดแย้ง?

#ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา
#ความมั่นคง #ทหารไทย
#ข่าวด่วน #ไทยกัมพูชา
#การเมืองระหว่างประเทศ #ข่าวการเมือง

ARTICLE: วิกฤต WNBA "เซ็กซ์ทอย" ป่วนสนาม! เมื่อการ "เล่นตลก" กลายเป็นประเด็นร้อนเรื่องความปลอดภัยและการคุกคามทางเพศปัญหา...
09/08/2025

ARTICLE: วิกฤต WNBA "เซ็กซ์ทอย" ป่วนสนาม! เมื่อการ "เล่นตลก" กลายเป็นประเด็นร้อนเรื่องความปลอดภัยและการคุกคามทางเพศ
ปัญหาการขว้างปาสิ่งของเข้าสนามแข่งขันในศึกบาสเกตบอลหญิงของสหรัฐฯ หรือ WNBA กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างความวุ่นวายอย่างไม่คาดคิดให้กับลีก ซึ่งกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดยในช่วงสิบวันที่ผ่านมา มีรายงานการขว้างปา "เซ็กซ์ทอย" เข้าสู่สนามแข่งขันในหลายเมือง ทั้งในแอตแลนตา ชิคาโก ลอสแอนเจลิส และฟีนิกซ์ ซึ่งในบางกรณีเกือบจะพุ่งไปโดนตัวผู้เล่นในสนาม ทำให้เกิดคำถามสำคัญถึงความปลอดภัยของนักกีฬา และยังก่อให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างถึงเจตนาของผู้ก่อเหตุที่แท้จริง
🔵[เบื้องหลังแรงจูงใจ: "เล่นตลก" หรือ "ประท้วง"?]
การจับกุมผู้ก่อเหตุ 2 รายในแอตแลนตาและฟีนิกซ์ ได้ให้เบาะแสเกี่ยวกับแรงจูงใจที่แตกต่างกันแต่เชื่อมโยงถึงกระแสบนโซเชียลมีเดีย
• ผู้ก่อเหตุในแอตแลนตา: เดลเบิร์ต คาร์เวอร์ วัย 23 ปี ถูกจับกุมหลังก่อเหตุถึง 2 ครั้ง เขาให้การกับตำรวจว่า "นี่มันเป็นแค่เรื่องตลกที่ควรจะกลายเป็นไวรัล" โดยเขาต้องเผชิญกับข้อหาทางอาญาหลายกระทง รวมถึงการก่อความไม่สงบ, การกระทำอนาจาร และเปิดเผยร่างกายในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปีและอาจต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศ
• ผู้ก่อเหตุในฟีนิกซ์: เคเดน โลเปซ วัย 18 ปี ซึ่งขว้างสิ่งของไปโดนผู้ชมคนหนึ่ง ก็อ้างว่าทำไปเพราะเป็น "การเล่นตลกโง่ๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์บนโซเชียลมีเดีย" โดยเขาซื้อสิ่งของดังกล่าวเพื่อนำมาก่อเหตุในเกมนี้โดยเฉพาะ
ในขณะเดียวกัน มีกลุ่มผู้สร้าง "Green D***o Coin" ซึ่งเป็นมีมคอยน์ในโลกคริปโต ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในหลายเมือง โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าเป็นการประท้วงสภาพแวดล้อมที่ "เป็นพิษ" ในวงการคริปโต และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาดูถูกกีฬาของผู้หญิงหรือเป็นเรื่องของการเหยียดเพศแต่อย่างใด
🔵[ความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัยที่คาดไม่ถึง]
จากบทวิเคราะห์ของ ไท ริชมอนด์ ประธานฝ่ายบริการรักษาความปลอดภัยของ Allied Universal Security อธิบายว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่สนามไม่สามารถตรวจจับสิ่งของเหล่านี้ได้ มาจากอุปสรรคสำคัญหลายประการ
• ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี: อุปกรณ์ที่ถูกขว้างส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนประกอบของโลหะ ทำให้เครื่องตรวจจับโลหะตามปกติไม่สามารถสแกนพบได้
• จุดสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความรวดเร็ว: การตรวจค้นอย่างเข้มงวดมากขึ้น เช่น การตรวจค้นร่างกายหรือการห้ามนำกระเป๋าเข้าสนาม จะทำให้การอำนวยความสะดวกให้แฟนๆ เข้าสู่สนามเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้จัดงานมักหลีกเลี่ยง
ดังนั้น การดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะรับรู้ จึงเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างการยับยั้งพฤติกรรมนี้ ซึ่งทาง WNBA ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าผู้ที่ก่อเหตุจะถูกแบนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีและถูกดำเนินคดีทางอาญา
🔵[ผลกระทบที่เกิดขึ้น: ผู้เล่นกังวลและลีกถูกลดทอนความน่าเชื่อถือ]
แม้ในตอนแรกจะถูกมองเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ ทำให้ผู้เล่นต่างแสดงความไม่พอใจและเป็นกังวลอย่างยิ่ง
• อลิซาเบธ วิลเลียมส์ เซ็นเตอร์ของทีม Chicago Sky มองว่ามันเป็นเรื่อง "ไร้วุฒิภาวะและไม่ให้เกียรติ"
• โซฟี คันนิงแฮม ผู้เล่นที่เกือบถูกขว้างปาใส่ ก็ตั้งคำถามว่า "เมื่อไหร่เราจะได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังเสียที?"
• ด้านโค้ช ลินน์ โรเบิร์ตส์ ของ Los Angeles Sparks ย้ำว่า "มันเป็นเรื่องที่งี่เง่าและอันตราย ความปลอดภัยของผู้เล่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
• อิซาเบลล์ แฮร์ริสัน ผู้เล่นของ New York Liberty แสดงความไม่พอใจที่พฤติกรรมนี้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับแบรนด์ของลีก ซึ่งเธอต้องการให้ทุกคน "เป็นมืออาชีพ" มากกว่านี้
🔵[นี่คือการคุกคามทางเพศหรือไม่?]
การถกเถียงถึงแรงจูงใจเบื้องหลังได้นำไปสู่การตั้งคำถามว่า พฤติกรรมนี้คือการคุกคามทางเพศต่อผู้หญิงที่มาในรูปแบบที่แปลกใหม่หรือไม่ ซึ่งสื่อชั้นนำอย่าง Cosmopolitan และ Glamour ต่างให้บทสรุปว่านี่คือการแสดงออกถึงการเหยียดเพศอย่างชัดเจน
• Cosmopolitan ชี้ว่า การกระทำนี้มีเจตนาเพื่อส่งสารว่า "ผู้หญิงไม่ควรอยู่ในสนาม และความสามารถด้านกีฬาของพวกเธอไม่ได้มีคุณค่าเท่ากับความเป็นเพศหญิง"
• Glamour เสริมว่า "ข้อความเบื้องหลังการขว้างสิ่งของเหล่านี้ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือความตั้งใจที่จะลดทอนความเป็นมนุษย์และทำให้ผู้เล่นหญิงกลายเป็นเพียงวัตถุทางเพศเพียงเพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง"
แม้ผู้ก่อเหตุจะอ้างว่าเป็นเพียง "เรื่องตลก" แต่การกระทำดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกของผู้เล่น, ความน่าเชื่อถือของลีก, และภาพลักษณ์ของ WNBA ในสายตาของสาธารณชน จนถึงขั้นมีตลาดการพนันออนไลน์บนคริปโตบางแห่ง เปิดให้ผู้ใช้สามารถวางเดิมพันว่าจะมีเหตุการณ์ขว้างสิ่งของดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการขาดความตระหนักถึงผลกระทบที่แท้จริงจากพฤติกรรมนี้
แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้? พฤติกรรมแบบนี้คือเรื่องตลกหรือการคุกคาม?

***oGate #การคุกคามทางเพศ

UPDATE: หลวงพ่ออลงกต บ่นท้อใจญาติโยมทำบุญน้อยลง ยอมรับไม่อ่านเอกสารให้ดีก่อนเซ็น หากพบหมอบีผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีจากป...
09/08/2025

UPDATE: หลวงพ่ออลงกต บ่นท้อใจญาติโยมทำบุญน้อยลง ยอมรับไม่อ่านเอกสารให้ดีก่อนเซ็น หากพบหมอบีผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดี
จากปมร้อนหมอดูชื่อดัง "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ที่มีคนออกมาแฉเรื่องเปิดบัญชีรับเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ แต่กลับนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือมอบเงินให้วัดไม่ครบถ้วน โดยหมอบีได้เข้าพบตำรวจกองปราบเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) หลังออกจากโรงพยาบาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้เดินทางมากิจนิมนต์ที่ตลาดเช้าเคหะคลองจั่นย่านบางกะปิ โดย พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต ก็ได้กล่าวชี้แจงกับสื่อมวลชนที่ไปเฝ้าติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เอกสารที่หมอบีนำมาให้เซ็นมีอยู่ 2 ประเภท คือเอกสารการรับเงิน และเอกสารโครงการ ซึ่งปกติตอนเซ็นจะดูทุกฉบับ แต่ก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้อ่านอย่างละเอียด เพราะมีเรื่องความไว้ใจด้วย แต่เชื่อว่าไม่มีการสอดไส้ ส่วนเรื่องตัวเลขไม่ตรง หรือรายละเอียดต่างๆ ต้องรอหมอบีออกมาชี้แจง ภายใน 7 วัน จะได้รับคำตอบแน่นอน โดยจะให้หมอบีมาชี้แจงและแถลงที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งการแถลงทางวัดมั่นใจว่ามีเอกสารที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้แน่นอน
หลวงพ่ออลงกต กล่าวอีกว่า ส่วนการซื้อที่ดินบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ชื่อวัดในการซื้อ แต่ใช้ชื่อไวยาวัจกรถือไว้ก่อนนั้น เพราะในระหว่างที่พิจารณาจะใช้ที่ดินตรงนี้ทำอะไร หากโอนเป็นชื่อวัดเลย วัดก็ต้องตามไปดูแล และอาจดูแลไม่ไหว แต่ที่เป็นปัญหาตอนนี้ไวยาวัจกรคนเก่าได้เสียชีวิต จึงอยู่ระหว่างการหารือว่าจะดำเนินการโอนกลับมาให้วัดอย่างไร นอกจากนี้เรื่องที่ดินยังมีชื่อของนางสาววรสุดา ที่เป็นคนใกล้ชิดให้ดูแลมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้า แต่ให้ทำพินัยกรรมมอบให้วัดไว้ เพื่อป้องกันปัญหาหากเสียชีวิต
ส่วนเรื่องเลขาปู ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นหลานของเจ้าอาวาส และมีฐานะรวยผิดปกติ เจ้าอาวาส ยืนยันว่า ไม่ใช่ญาติของตน เขาทำงานมานาน 20 กว่าปี เรื่องฐานะไม่ทราบ ตอนที่มาทำงานใหม่ๆ ไม่ได้รวยขนาดนี้ แต่อาจเป็นเพราะญาติเขาทำธุรกิจด้วย
หลวงพ่ออลงกต ยอมรับว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นกังวลและท้อใจ เพราะจะกระทบผู้ป่วยที่เจ้าอาวาสดูแลอยู่ 2,000-3,000 คน เนื่องจากประชาชนก็เคลือบแคลงใจไม่กล้าบริจาค คนทำบุญน้อย ส่วนจะเสียความรู้สึกหรือไม่ หากพบหมอบีทำผิดตามที่ถูกร้องเรียน เจ้าอาวาสทำใจเป็น ทุกคนไม่มีใครถูกทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามหากตำรวจพบความผิดของหมอบี เจ้าอาวาสก็ยืนยันว่าจะดำเนินการเอาผิดเช่นเดียวกัน

#หลวงพ่ออลงกต #วัดพระบาทน้ำพุ
#ข่าวสังคม #ข่าววันนี้
#เงินบริจาค #บริจาค #หมอบี

RECAP: ธงโจรสลัดจากการ์ตูน "วันพีช" กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลอินโดนีเซีย! ทำไมธงจากอนิเมะถึงทำให้ทางการตื่นตระหนกขน...
09/08/2025

RECAP: ธงโจรสลัดจากการ์ตูน "วันพีช" กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลอินโดนีเซีย! ทำไมธงจากอนิเมะถึงทำให้ทางการตื่นตระหนกขนาดนี้?
🏴‍☠️เมื่อการ์ตูนกับการเมืองมาเจอกัน จะเกิดอะไรขึ้น? คำตอบอยู่ที่อินโดนีเซีย ที่ธงโจรสลัดจากอนิเมะดัง "วันพีช" (One Piece) กำลังกลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ จนทำให้ทางการต้องออกมาปราบปรามอย่างจริงจัง
🔵[เริ่มจากรถบรรทุก แพร่ไปทั่วประเทศ]
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ธงหัวกระโหลกสวมหมวกฟางและกระดูกไขว้ "จอลลีโรเจอร์" จากอนิเมะญี่ปุ่น "วันพีช" เริ่มปรากฏที่ท้ายรถบรรทุกก่อน แต่ตอนนี้แพร่หลายไปยังรถยนต์และบ้านเรือนทั่วอินโดนีเซีย กลายเป็นไวรัลทั้งในโลกออนไลน์และชีวิตจริง
สิ่งที่เริ่มต้นจากคนขับรถบรรทุกกลุ่มเล็ก ๆ กลายเป็นกระแสใหญ่ที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาเตือนว่า นี่คือ "การยั่วยุ" เพราะหลายคนมองว่าการติดธงคือการประท้วงนโยบายของประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต
แล้วทำไมธงจากการ์ตูนถึงสร้างความกังวลให้รัฐบาลขนาดนี้?
🔵[เสียงจากนักศึกษา: "ธงชาติศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะชักในประเทศทุจริต"]
คาริก อันฮาร์ นักศึกษาวัย 24 ปี จากมหาวิทยาลัยในจังหวัดริเอา บนเกาะสุมาตรา ให้เหตุผลที่น่าสนใจ: "ส่วนตัวผมชักธงวันพีซเพราะธงแดงขาวศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะชักในประเทศทุจริตนี้ ผมเชื่อว่าอินโดนีเซียยังมีเสรีภาพในการพูด แต่จำกัดมาก การแสดงความคิดเห็นเป็นอันตรายมากขึ้น"
คำพูดนี้สะท้อนความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ที่รักประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับทิศทางการปกครองที่พวกเขามองว่าริดรอนเสรีภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
🔵[รัฐบาลตอบโต้: ขู่ปรับหนัก จำคุกสูงสุด 5 ปี]
เจ้าหน้าที่รัฐบาลมองเห็นการใช้ธงโจรสลัดเป็นความพยายามสร้างความแตกแยกในชาติ บูดี กูนาวัน รัฐมนตรีความมั่นคง กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการยั่วยุด้วยสัญลักษณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของประเทศนี้"
ภายใต้กฎหมายอินโดนีเซีย ห้ามการชักธงที่มีสัญลักษณ์สูงกว่าธงชาติ ผู้ใดมีเจตนาดูถูกดูหมิ่น หรือทำให้ธงชาติเสื่อมเสียมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับเกือบ 31,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท)
การที่รัฐบาลใช้มาตรการหนักขนาดนี้กับธงจากการ์ตูน ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า รัฐบาลกลัวอะไรกันแน่?
🔵[จุดเริ่มต้น: เมื่อประธานาธิบดีเรียกร้องให้ชักธงชาติ]
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต เรียกร้องให้ประชาชนติดธงชาติก่อนวันประกาศอิสรภาพในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 80 ปีเอกราชอินโดนีเซีย
แต่แทนที่จะเป็นธงชาติ ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากกลับเลือกติดธงโจรสลัดแทน เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่พวกเขามองว่ารวบอำนาจเข้าศูนย์กลาง จนขาดอิสรภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
🔵[ทำไมเป็น "วันพีช"? เมื่อการ์ตูนสะท้อนความปรารถนา]
"วันพีช" ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1997 เป็นหนึ่งในแฟรนไชน์มังงะที่โด่งดังที่สุดในโลก มีอนิเมะจำนวนตอนกว่า 1,100 เอพิโซดแล้ว มันเป็นเรื่องราวของมิตรภาพและการผจญภัย แต่ก็มีเนื้อหาถึงการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยและอิสรภาพจากรัฐบาลหรือตัวร้ายที่กดขี่ข่มเหงด้วย
เมื่อ BBC สอบถามชาวอินโดนีเซียที่ติดธงโจรสลัด พวกเขาให้ความหมายที่คล้ายกัน: พวกเขารักประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่ริดรอนเสรีภาพประชาชนมากขึ้นเรื่อย ๆ
🔵[สะท้อนสถานการณ์การเมือง: เมื่อนายพลสายแข็งขึ้นสู่อำนาจ]
นับแต่อดีตนายพลสายแข็งอย่างปราโบโว สุเบียนโต ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปลายปีที่แล้ว ประชาชนประท้วงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดงบประมาณ การแก้กฎหมายที่ให้ทหารดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลได้
รองประธานสภาอินโดนีเซียวิจารณ์ว่า การติดธงชาติวันพีชเป็นความพยายามแบ่งแยกประเทศ สมาชิกสภาบางคนมองว่าเป็นพฤติการณ์กบฏเลยทีเดียว
การที่รัฐบาลอินโดนีเซียส่งเสียงต้านธงโจรสลัดวันพีชเช่นนี้ สำหรับประชาชนแล้ว ก็มองว่า แม้แต่ธงจากการ์ตูนรัฐบาลยังวิตก และพยายามปิดกั้น มันก็สะท้อนถึงเสรีภาพการแสดงออกในอินโดนีเซียเวลานี้ด้วย
เหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องคิดว่า ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การแสดงออกทางการเมืองก็เปลี่ยนรูปแบบไปด้วย จากป้ายประท้วงกลายเป็นธงจากการ์ตูน จากการชุมนุมกลายเป็นการแชร์ในโซเชียล
แล้วคุณคิดว่า การใช้สัญลักษณ์จากป๊อปคัลเจอร์เป็นเครื่องมือในการแสดงออกทางการเมืองแบบนี้ จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการเคลื่อนไหวทางสังคมในอนาคตหรือไม่? และรัฐบาลต่าง ๆ ควรรับมือกับรูปแบบการประท้วงใหม่นี้อย่างไร?

#ธงวันพีซ #ธงโจรสลัด
#วันพีซ
#โจรสลัด #อนิเมะ
#อินโดนีเซีย #การเมือง
#ข่าวต่างประเทศ

ยิ่งโลกไม่แน่นอน… ความเสี่ยงและความกลัวกําลังคืบคลานท่ามกลางความสับสนนี้ ‘ทองคํา’ กลับเปล่งประกายเหนือกาลเวลาไม่ว่าจะเศร...
08/08/2025

ยิ่งโลกไม่แน่นอน… ความเสี่ยงและความกลัว
กําลังคืบคลาน
ท่ามกลางความสับสนนี้ ‘ทองคํา’ กลับเปล่งประกายเหนือกาลเวลา
ไม่ว่าจะเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ทองคําคือเครื่องมือที่คนทั่วโลกวางใจ
เหมือน ‘ประกันภัย’ ทางการเงินที่จับต้องได้
และเป็นหลักประกันความมั่นคง
Nation's Agenda มีคําตอบ!
ติดตาม Nation's Agenda รู้ทันโลก เปลี่ยนอนาคต
วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ทาง YouTube / Facebook ของ Nation STORY

#รู้ทันโลกเปลี่ยนอนาคต #ทองคำ #ลงทุนทองคำ #ทองคำ #เงินดิจิทัล #โลกการลงทุน #พงศกรขวัญเมือง

INFO : เทียบการศึกษา 2 โฆษกหญิง “บุ๋ม ปนัดดา“ Vs ”มาลี“ ส่องแฟ้มการศึกษา 2 โฆษกต่างแดนมวยถูกคู่ระหว่าง ”ปนัดดา วงศ์ผู้ดี...
08/08/2025

INFO : เทียบการศึกษา 2 โฆษกหญิง “บุ๋ม ปนัดดา“ Vs ”มาลี“
ส่องแฟ้มการศึกษา 2 โฆษกต่างแดนมวยถูกคู่ระหว่าง ”ปนัดดา วงศ์ผู้ดี“ ผู้ที่พึ่งได้รับการอวยยศเป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ท้าชน “พลโทหญิงมาลี โสเจียตา” โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา งานนี้คงต้องวัดกันด้วยวิชาการและวาทะศิลป์ ใครกันแน่ที่มีน้ำหนักในการสื่อสารให้ชาวโลกเชื่อ หลังไทย-กัมพูชาบรรลุ 13 ตกลงหยุดยิงในการประชุม GBC
#บุ๋มปนัดดา #มาลีโสเจียตา #การศึกษา #โฆษกกัมพูชา #โฆษกไทย #ไทยกัมพูชา

UPDATE: มติเอกฉันท์ ม.ราม เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ "ฮุน เซน" เหตุพฤติกรรมขัดเจตนารมณ์เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2568...
08/08/2025

UPDATE: มติเอกฉันท์ ม.ราม เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ "ฮุน เซน" เหตุพฤติกรรมขัดเจตนารมณ์
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2568 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ออกแถลงการณ์ เรื่อง เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สมเด็จ ฮุนเซน มีเนื้อหาระบุว่า วันนี้ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 9/2568 โดยมีวาระสำคัญที่ขอชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบทั่วกัน คือ วาระที่ 5.1 เรื่อง ข้อเสนอเพิกถอนปริญญา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จ ฮุนเซน
โดยที่ประชุมได้อภิปรายและพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว มีมติให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ของสมเด็จ ฮุนเซน ด้วยเหตุผลดังนี้
ตามที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 6/2544 วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม 2544 วาระที่ 5.1 ได้มีมติอนุมัติปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ให้แด่ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในขณะนั้น โดยส่วนหนึ่งของคำประกาศเกียรติคุณได้ระบุว่า “สมเด็จ ฮุนเซนได้เสริมสร้างและส่งเสริมความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และความร่วมมืออย่างดี ความสัมพันธ์โดยเฉพาะระหว่างกัมพูชากับไทย เป็นไปอย่างมีมิตรภาพและภราดรภาพ ฯลฯ”
บัดนี้ ปรากฏว่า สมเด็จ ฮุนเซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา สมาชิกรัฐสภากัมพูชา เสนาธิการทหารกองทัพกัมพูชา และพลเอกอาวุโสด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพกัมพูชา ได้แสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว โดยมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐไทยอย่างชัดแจ้ง มีการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้กำลังอาวุธอย่างรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อประชาชนชาวไทย เป็นเหตุให้ทหารและพลเรือนไทยต้องบาดเจ็บล้มตาย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้
รวมตลอดทั้ง ฮุน เซน ส่งเสริมให้มีการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยไทย ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันตามแนวพรมแดนของทั้งสองประเทศดังที่ทราบโดยทั่วกัน พฤติกรรมที่กล่าวมานี้สวนทางกับคำประกาศเกียรติคุณที่สมเด็จ ฮุนเซน เคยได้รับการยกย่องเชิดชูจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ดังนั้น หากปล่อยให้สมเด็จ ฮุนเซน ถือครองสิทธิในปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ดังกล่าวต่อไปย่อมทำให้สังคมไทยเกิดความเข้าใจผิดในเจตนารมณ์ของการมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ที่ได้เคยดำเนินการมาแล้ว
เมื่อพฤติกรรมของผู้ได้รับมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เปลี่ยนแปลงไป คำประกาศเกียรติคุณดังกล่าวย่อมสมควรจักต้องถูกลบล้างไปด้วย ซึ่งการลบล้างคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว ดำเนินการได้ด้วยหนทางเดียวเท่านั้น คือ การเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่ได้เคยมอบให้แด่สมเด็จ ฮุนเซน
กอปรกับข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการให้ปริญญากิตติมศักดิ์ พ.ศ. 2560 ข้อ 5 ระบุว่า “ผู้ที่สมควรได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้น ๆ มีชื่อเสียงเกียรติคุณดีเด่น มีคุณธรรมและต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้
ข้อ 5.2 เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือการงานที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศชาติ หรือแก่สังคมนานาชาติ หรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับปริญญาที่จะได้รับ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของการมอบปริญญากิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ผู้ได้รับมอบจักต้องธำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์และคุณค่าของปริญญากิตติมศักดิ์นั้น ๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ของสมเด็จ ฮุนเซน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงมติเป็นต้นไป
#มรามคําแหง #มหาวิทยาลัยรามคําแหง #ใบปริญญา #ฮุนเซน #รัฐศาสตร์

ARTICLE: กฎหมายเท่าเทียม หรือ เท่าเทียมแค่ในกระดาษ? เคส "เป๊ก" สะท้อนสังคมไทยเมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นเหตุการณ์ที่สั่น...
08/08/2025

ARTICLE: กฎหมายเท่าเทียม หรือ เท่าเทียมแค่ในกระดาษ? เคส "เป๊ก" สะท้อนสังคมไทย
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนใจเหล่าบรรดา "นุช" เมื่อ "เป๊ก ผลิตโชค" นักร้องชื่อดังถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ แต่คงต้องพูดตรงๆ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมของเป๊กเองที่ดูเหมือนจะควบคุมสติไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดเกาะรถ โวยวาย วิ่งลงกลางถนน หรือแม้กระทั่งขึ้นนั่งบนฝากระโปรงแท็กซี่ ตามภาพและวงจรปิดที่เผยแพร่ออกมา
และเมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) เจ้าตัวก็ได้ออกมาอัดคลิปขอโทษสังคม ยอมรับความผิด และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับสารภาพว่าวันนั้นดื่มเยอะเกินไปจนครองสติไว้ไม่อยู่
"ผมขออนุญาต ขอโทษซึ่งบทเรียนเหล่านั้นนะครับ ที่ผมทำ ผมได้รับกรรมเรียบร้อยแล้วนะครับ ผมก็ไม่อยากจะเป็นคนที่ไม่ดีแบบนั้นครับ ผมขออนุญาตแก้ตัวใหม่ ขอให้สังคมช่วยยกโทษให้ผมด้วยได้ไหมครับ"
[แต่เรื่องจริงหรือมีอะไรซ่อนอยู่?]
แม้เป๊กจะออกมายอมรับผิดอย่างจริงใจแล้ว แต่พฤติกรรมที่ปรากฏในคลิปนั้นทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เขาแค่เมาเหล้าจริงๆ หรือมีอะไรมากกว่านั้น?
และที่สำคัญคือ เมื่อตำรวจ สน.หัวหมาก ขอให้เป๊กตรวจเลือดหาสารเสพติด เขากลับใช้สิทธิผู้ป่วยในการ "ปฏิเสธการตรวจเลือด" และไม่ขอเปิดเผยข้อมูลการรักษา ทำให้ตำรวจต้องบันทึกลงในสำนวนคดีว่าเจ้าตัวปฏิเสธการตรวจ ซึ่งย่อมเป็นเรื่องน่าสงสัย
[ปฏิเสธได้ แต่ใครปฏิเสธได้?]
การตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด หรือแม้กระทั่งการตรวจวัดแอลกอฮอล์ จริงอยู่ที่กฎหมายให้สิทธิผู้ถูกขอตรวจในการปฏิเสธได้ แต่สังคมไทยที่เราเห็นมาตลอดคือ มีแต่ "คนรวย-มีอิทธิพล" เท่านั้นที่สามารถใช้สิทธินี้ได้จริงๆ
ถ้าย้อนไปดูคดีใหญ่ๆ ที่ผ่านมา เราจะเห็นภาพเดียวกันคือ ผู้ต้องหาบางคนสามารถเลี่ยงการตรวจสารเสพติดได้โดยอ้าง "สิทธิตามกฎหมาย"
หรือบางทีก็ใช้ "แท็กติก" ยื้อการตรวจแอลกอฮอล์ให้ผลเจือจางลง นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วบนประเทศนี้
มีคอมเมนต์หนึ่งจากคลิปของ Springnews เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่พูดถึงเรื่องการตรวจปัสสาวะของตำรวจ ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของคนธรรมดาสามัญได้ดี
"ถ้าเป็นคนรวยก็ปฏิเสธได้ครับ เจ้าหน้าที่เขาก็จะบอกว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ให้ตรวจ ว่าสามารถปฏิเสธได้ แต่ถ้าเป็นคนจนชาวบ้านธรรมดา คุณจะโดนข้อหา ขัดคําสั่งเจ้าพนักงาน ถ้ายิ่งไม่มีมือถือถ่ายไว้เป็นหลักฐาน อันนี้ยิ่งหนัก ไม่รู้จะโดนข้อหาอะไรมั่ง กฎหมายก็ส่วนกฎหมายครับ ทุกวันนี้คนรวยคนจน มันไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้วครับ"
[คำถามใหญ่ที่เราต้องตอบ]
เรื่องราวของเป๊กทำให้เราต้องหยุดคิดว่า การที่เราบอกว่าประเทศไทยมี "นิติรัฐ-นิติธรรม" และทุกคนเท่าเทียมกันตามกฎหมาย มันเป็นจริงแค่ไหน?
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สังคมไทยจะต้องปรับปรุงระบบให้กฎหมายทำงานได้อย่างเท่าเทียมกันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม?
คุณคิดว่าเราจะทำให้สังคมไทยเป็น "นิติรัฐ" ที่แท้จริงได้อย่างไร? มาแชร์ความคิดเห็นกันครับ
#เป๊กผลิตโชค #สังคมไทย #กฎหมายไทย

07/08/2025

นอกจากจะตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าแล้ว ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ยังตั้งกำแพงวีซ่ากับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยการออกมาตรการ "วางเงินมัดจำ" สูงสุดเฉียดครึ่งล้าน โดยอ้างว่าเพื่อจัดการปัญหา "โอเวอร์สเตย์"
#วีซ่านักท่องเที่ยว #สหรัฐอเมริกา #โดนัลด์ทรัมป์ #นักท่องเที่ยว #เที่ยวเมกา #วางมัดจำ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Nation STORYผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Nation STORY:

แชร์

Nationtv Live

ชมสดทุกรายการของ NationTV22 และดูย้อนหลังได้ที่ Youtube : NationTV22