The Story

20/07/2025

เคลลี่ ฮู เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน นักพากย์เสียง และอดีตนางงามที่มีชื่อเสียงจากบทบาทที่หลากหลายและเสน่ห์อันสง่างามทั้งในจอภาพยนตร์และโทรทัศน์ เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1968 ที่โฮโนลูลู รัฐฮาวาย เธอสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้ามงกุฎ Miss Teen USA ในปี 1985 และต่อด้วยตำแหน่ง Miss Hawaii USA ในปี 1993

จากเวทีนางงาม เคลลี่ก้าวเข้าสู่วงการแสดงอย่างมั่นคง ด้วยบทบาทในซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Sunset Beach, Nash Bridges และ The Vampire Diaries ก่อนจะเป็นที่รู้จักไปทั่วจากบทบู๊สุดเท่ในภาพยนตร์อย่าง The Scorpion King, X2: X-Men United และ Cradle 2 the Grave ที่เธอโชว์ทั้งฝีมือการแสดงและทักษะศิลปะการต่อสู้ออกมาได้อย่างโดดเด่น

นอกจากบทบาทในหนังและซีรีส์แล้ว เคลลี่ยังให้เสียงพากย์ในแอนิเมชันและวิดีโอเกมหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Teenage Mutant Ninja Turtles, Phineas and Ferb และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย ที่ยืนยันได้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถรอบด้านจริงๆ

ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยสง่า ความสามารถที่โดดเด่น และบทบาทการเป็นผู้บุกเบิกในวงการบันเทิง เคลลี่ ฮู ยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับความเคารพและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งคนดูและนักแสดงรุ่นใหม่มาจนถึงทุกวันนี้

20/07/2025

เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์ ได้สร้างเส้นทางอาชีพในวงการบันเทิงอย่างน่าประทับใจมายาวนานกว่า 30 ปี โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายทั้งในบทบาทนักแสดงและผู้อำนวยการสร้าง เธอโด่งดังจากผลงานแนวครอบครัวอย่าง Party of Five ก่อนจะก้าวเข้าสู่บทบาทนำในซีรีส์ยอดนิยมหลายเรื่อง เช่น Ghost Whisperer และ 9-1-1 นอกจากนี้ เธอยังเผยความสามารถด้านดนตรีผ่านการออกอัลบั้มหลายชุด ซึ่งตอกย้ำความเป็นศิลปินที่เปี่ยมไปด้วยมิติ

ผลงานของเธอในวงการโทรทัศน์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และเธอยังคงมัดใจผู้ชมด้วยการแสดงที่มีเสน่ห์และเข้าถึงอารมณ์ ในฐานะแม่ที่ยังทำงานในวงการบันเทิง เธอคือแรงบันดาลใจให้กับหลายคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานควบคู่ไปกับการดูแลครอบครัว

💥❤️✨

19/07/2025

Anne Hathaway in 2003. ☺️🥰

19/07/2025

จู อิน (朱茵) หรือที่แฟนๆ รู้จักกันในชื่อ Athena Chu คือหนึ่งในนางเอกสุดโด่งดังของฮ่องกงยุค 90 ที่มีทั้งเสน่ห์ ความสดใส และฝีมือการแสดงที่น่าจดจำ เธอเกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 1971 ที่ฮ่องกง และจบการศึกษาด้านการแสดงจาก Hong Kong Academy for Performing Arts ในปี 1992

จูอินเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจากการเป็นพิธีกรรายการเด็กของช่อง TVB ก่อนจะได้รับโอกาสเข้าสู่วงการภาพยนตร์ในปี 1992 กับเรื่อง Fight Back to School II ซึ่งนอกจากจะโด่งดัง ยังทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน Hong Kong Film Awards

แต่บทที่ทำให้คนทั้งเอเชียหลงรักเธออย่างแท้จริง คือบท “จื่อเซียะเซียนจื่อ” หรือ “เทพสายใย”ที่เราฟังจากหากษ์ไทย (ใช่ป่าวจำไม่ค่อยได้ล่ะ) ในภาพยนตร์ A Chinese Odyssey Part 2: Cinderella ที่เธอประกบคู่กับโจวซิงฉือ ความเศร้าปนน่ารักของเธอในเรื่องนี้กลายเป็นภาพจำที่ยังคงตราตรึงจนถึงทุกวันนี้

ในปี 1994 เธอยังได้รับบท “อึ้งย้ง” ในละครทีวีเรื่อง มังกรหยก ของ TVB ซึ่งส่งให้เธอกลายเป็นนางเอกขวัญใจมหาชนอีกบทหนึ่ง

นอกจากงานแสดง จูอินยังมีผลงานด้านดนตรี โดยเธอเคยออกอัลบั้มเพลงในช่วงปลายยุค 90 และต้น 2000 เช่น 地震, Attitude ซึ่งแสดงให้เห็นอีกด้านของความสามารถที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

ในเรื่องชีวิตส่วนตัว เธอเคยมีข่าวคบหากับโจวซิงฉือในช่วงต้นเส้นทางอาชีพ แต่ความสัมพันธ์ก็จบลงหลังจากถ่ายทำ A Chinese Odyssey ต่อมาเธอแต่งงานกับ พอล หว่อง (Paul Wong) มือกีตาร์แห่งวง Beyond ในปี 2012 และมีลูกสาวหนึ่งคน

แม้ช่วงหลังเธอจะห่างหายจากจอไปพักใหญ่ แต่จูอินยังคงปรากฏตัวในรายการวาไรตี้และซีรีส์เป็นระยะ โดยล่าสุดในปี 2024 เธอกลับมาอีกครั้งกับซีรีส์ฮ่องกงเรื่อง The Parents League 2 ทางช่อง ViuTV และยังคงได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมถึงความงามและพลังการแสดงที่ไม่เคยเสื่อมคลาย

จูอินไม่ใช่แค่นางเอกสวยหวานในตำนาน แต่เธอคือตัวแทนของยุคทองของหนังและซีรีส์ฮ่องกง ที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ จนถึงทุกวันนี้

19/07/2025

โคบี สมัลเดอร์ส: จากดาวซิตคอมสู่จักรวาลซูเปอร์ฮีโร่

โคบี สมัลเดอร์ส นักแสดงและนางแบบชาวแคนาดา เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากบทบาททั้งในซีรีส์และภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 1982 ที่แวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย เธอเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบ ก่อนจะค้นพบว่าการแสดงคืองานที่เธอรักและถนัดจริงๆ

ชื่อของโคบีโด่งดังไปทั่วโลกจากบท “โรบิน เชอร์บาสกี้” ในซีรีส์ซิตคอมสุดฮิต How I Met Your Mother ที่เธอถ่ายทอดความฉลาด มั่นใจ และมีอารมณ์ขันได้อย่างโดดเด่น ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจคนดูตลอดทั้ง 9 ซีซัน คาแรกเตอร์นักข่าวหญิงที่ทั้งเก่ง แกร่ง และไม่ง้อใครของเธอกลายเป็นภาพจำที่หลายคนรัก

หลังจากนั้นเธอก็ขยับเข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์ Marvel ด้วยบท “มาเรีย ฮิลล์” เจ้าหน้าที่มือขวาของ Nick Fury ที่คอยปรากฏตัวในหนังอย่าง The Avengers, Captain America: The Winter Soldier และ Spider-Man: Far From Home แม้จะไม่ได้มีพลังพิเศษเหมือนตัวเอกคนอื่นๆ แต่เธอก็นำเสนอความแข็งแกร่ง ความเฉียบขาด และความไว้ใจได้ออกมาอย่างชัดเจน จนกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่แฟน Marvel จดจำ

ทุกวันนี้โคบี สมัลเดอร์สยังคงมีผลงานให้เห็นเรื่อยๆ ด้วยฝีมือที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความสามารถที่หลากหลาย และบุคลิกหน้ากล้องที่ดูจริงใจ ทำให้เธอยังคงเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่น่าชื่นชมที่สุดของฮอลลีวูดยุคนี้

19/07/2025

อีวา กรีน: เสน่ห์ลึกลับแห่งโลกภาพยนตร์

อีวา กรีน นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงจากการแสดงอันเข้มข้น บุคลิกที่ลึกลับ และความลึกซึ้งทางศิลปะ เกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 1980 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอเป็นลูกสาวของนักแสดงหญิง Marlène Jobert และเริ่มต้นเส้นทางการแสดงจากเวทีละคร ก่อนจะแจ้งเกิดอย่างน่าจดจำในภาพยนตร์ The Dreamers (2003) ผลงานของผู้กำกับเบอร์นาโด แบร์โตลุชชี

อีวากลายเป็นที่รู้จักในระดับสากลจากบท “เวสเปอร์ ลินด์” ในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ Casino Royale (2006) ที่เธอถ่ายทอดความงามแบบคลาสสิกผสมอารมณ์อันซับซ้อนออกมาได้อย่างทรงพลัง และทำให้บทบาทผู้หญิงในหนังบอนด์มีมิติยิ่งกว่าที่เคย ต่อจากนั้นเธอก็มีผลงานหลากหลายแนว ทั้ง 300: Rise of an Empire, Penny Dreadful, Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children, และ Sin City: A Dame to Kill For

อีวาเป็นนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าในการเลือกบท เธอมักจะรับบทตัวละครที่มีทั้งความแข็งแกร่งและเปราะบางในคนเดียวกัน พร้อมกับภาพลักษณ์แบบโกธิกที่เป็นเอกลักษณ์ และพลังบางอย่างที่ดึงดูดสายตาได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัวบนจอ

ด้วยความสามารถทางการแสดงที่จริงจังและความทุ่มเทในทุกบทบาท อีวา กรีน ยังคงเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ทั้งน่าหลงใหลและได้รับความเคารพในวงการภาพยนตร์ระดับโลก

19/07/2025

อิอิ ทันจิ😆

"ใครทันไม่เด็กแล้วนะ"
คุ้นๆๆเเต่น่าจะไม่ทัน🤣

19/07/2025

พริก10เม็ด 😍
ซัลม่า ฮาเย็ค

19/07/2025

ตอนที่ได้รับบท “เจ้าหญิง Rhaenyra Targaryen” เธอยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่จากออสเตรเลียที่มีผลงานซีรีส์ในบ้านเกิดอยู่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นเอง

แต่พอเธอโผล่มาใน House of the Dragon แค่ไม่กี่ตอนแรก ก็โดนใจแฟนๆ แบบจังๆ เพราะแววตาของเธอคือ Targaryen มาก ไม่ต้องพ่นไฟแต่ก็รู้สึกได้ถึงความดื้อรั้น แรงบันดาลใจ และความกดดันที่ตัวละครต้องแบกไว้ตั้งแต่อายุน้อย แถม Milly ยังมีความคล้าย Emilia Clarke อยู่นิดๆ ด้วยนะ ทั้งเรื่องหน้าตาและท่าทางเวลาเหม่อๆ เงียบๆ แต่ในหัวไฟลุกพรึ่บ

อีกเรื่องที่น่ารู้คือ ตอนที่เธอรู้ว่าได้บทนี้ เธอกำลังล้างจานอยู่ที่ร้านอาหารในซิดนีย์ ใช่—เธอเป็นพนักงานร้านอาหารจริงๆ! แล้วอยู่ดีๆ ทีมงาน HBO ก็โทรมาบอกว่าเธอได้เป็น Rhaenyra แล้ว เธอยังบอกเองเลยว่ารู้สึกเหมือนฝัน เพราะอยู่ดีๆ ก็ต้องบินไปอังกฤษ ซ้อมขี่ม้า เรียนสำเนียงสูงแบบเวสเทอรอส และอยู่ในกองถ่ายใหญ่ระดับโลก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเช็ดโต๊ะเสิร์ฟอาหารอยู่เลย

Milly ยังเคยบอกด้วยว่าเธอกดดันมาก เพราะไม่เคยเจองานแบบนี้มาก่อน ต้องถ่ายฉากใหญ่ๆ ที่มีม้า มีดาบ มีมังกร (แม้จะเป็น CGI ก็เถอะ) แล้วก็ต้องรับบทเป็นตัวละครที่แฟนๆ คาดหวังไว้สูงมากๆ เธอเองเคยกลัวว่าแฟนจะไม่ชอบ แต่สุดท้ายก็ได้รับคำชมล้นหลาม ถึงขั้นที่คนดูบางส่วนยังบ่นเบาๆ ว่าคิดถึง Milly ตอนเปลี่ยนนักแสดงเป็นรุ่นโตเลยด้วยซ้ำ

ใครที่รู้จักเธอจากแค่ในซีรีส์ อาจไม่รู้ว่า Milly เป็นสายแฟชั่นจัดๆ ด้วยนะ นอกจอเธอมีลุคแบบเท่ๆ ฮิปสเตอร์หน่อยๆ และชอบแต่งตัวแปลกๆ (แต่เท่) จนหลายคนเริ่มตามไอจีเพราะสไตล์ไม่ซ้ำใคร

พูดง่ายๆ คือเธอเป็น “ซินเดอเรลล่าแห่งเวสเทอรอส” ที่ก้าวจากครัวร้านอาหารไปเป็นเจ้าหญิงบนหลังมังกร แล้วก็ฝากคาแรกเตอร์ไว้ได้ลึกมาก จนแฟนๆ อยากให้มีภาคย้อนอดีตของเธอเพิ่มอีกต่างหาก

19/07/2025

Grace Caroline Currey ใน Shazam! Fury of the Gods (2023) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีพัฒนาการขึ้นมากจากภาคแรก และเธอก็แบกบทบาทของ Mary Marvel ได้อย่างอบอุ่นและมีพลังในแบบที่หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกต

ในภาคนี้ Mary ไม่ใช่แค่พี่สาวที่คอยดูแลน้องๆ อีกต่อไป แต่เธอกลายเป็นหนึ่งในทีมฮีโร่ที่ต้องลุกขึ้นสู้กับเทพเจ้าระดับจักรวาล เธอมีพลังเหมือนเดิมจากภาคก่อน แต่ความมั่นใจและภาวะผู้นำของเธอชัดเจนขึ้นมาก และที่สำคัญคือ… ในขณะที่ฮีโร่คนอื่นมีนักแสดงอีกคนรับบทตอนแปลงร่าง Mary เป็นคนเดียวที่ยังคงใช้ Grace เล่นทั้งร่างปกติและร่างซูเปอร์ฮีโร่เลย ซึ่งช่วยให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละครมากขึ้น และเห็นพัฒนาการทางอารมณ์ชัดเจนขึ้น

Grace เองก็รับบทนี้แบบไม่มีแผ่ว คาแรกเตอร์ของ Mary มีความเป็นคนจริงจัง จริงใจ แต่ก็อ่อนโยนกับคนในครอบครัว เธอไม่ใช่คนที่หวือหวาหรือมีมุกตลกมากเท่าคนอื่นในทีม Shazam แต่เธอเป็นเหมือนหัวใจที่ช่วยประคองกลุ่มเอาไว้

ในเรื่องนี้เธอมีฉากต่อสู้เยอะขึ้น ได้โชว์พลังบ้างแม้จะไม่ได้เด่นที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้เธอน่าจดจำคือแววตา น้ำเสียง และความเป็นพี่สาวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น Grace ทำให้ Mary ดูเป็นมนุษย์ธรรมดาที่บังเอิญมีพลังพิเศษ มากกว่าจะเป็นแค่ตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ใส่ชุดเท่ๆ แล้วบินไปมา

ถึงแม้ตัวหนังโดยรวมจะไม่ได้เปรี้ยงเท่าที่หลายคนหวังไว้ และเสียงวิจารณ์จะค่อนข้างผสม แต่ Grace Caroline Currey ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ เธอมีเสน่ห์แบบสุขุม อ่อนหวาน แต่ก็แข็งแกร่งในแบบที่ไม่ต้องตะโกนให้ใครเห็น

สำหรับใครที่เคยดูภาคแรกแล้วรู้สึกเฉยๆ กับ Mary ลองกลับมาดูภาคนี้อีกครั้ง อาจจะได้เห็นมุมใหม่ๆ ของเธอ และรู้สึกว่าคนนี้แหละ คือ “ฮีโร่แบบเรียบง่าย” ที่น่ารักและน่าเอาใจช่วยแบบไม่ต้องพยายามเยอะเลย

19/07/2025

Kirsten Dunst ใน Marie Antoinette (2005) เป็นภาพที่ติดตาแบบชนิดที่ไม่ต้องจำบทพูดก็จำความรู้สึกได้ เธอไม่ได้แค่สวมบทราชินีผู้เยาว์วัย แต่เธอกลายเป็นภาพแทนของ “วัยรุ่นผู้โดนจับโยนเข้าไปในโลกที่ใหญ่เกินไป” ได้แบบเป๊ะเว่อร์

หนังเรื่องนี้กำกับโดย Sofia Coppola ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นเพลงอินดี้ แสงสีพาสเทล หรือการเล่าเรื่องแบบเนิบๆ แต่โคตรหม่นในอารมณ์ และ Kirsten ก็เข้าไปอยู่ในเฟรมเหล่านั้นได้อย่างลงตัวมาก เธอเป็น Marie Antoinette ที่ดูทั้งมีเสน่ห์ อ่อนไหว เอาแต่ใจนิดๆ แต่ลึกๆ ก็เหงาและโดดเดี่ยวแบบคนที่ไม่เคยได้เลือกชีวิตตัวเองเลยจริงๆ

คาแรกเตอร์ของ Marie ในเรื่องไม่ได้ถูกเล่าแบบราชินีผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับโฟกัสที่ชีวิตของหญิงสาววัยรุ่นที่ถูกส่งจากออสเตรียมาแต่งงานกับเจ้าชายฝรั่งเศสตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วต้องปรับตัวกับพิธีการ ความเย็นชาของคนรอบตัว และโลกที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ เธอจึงหันไปหาความสนุก ปาร์ตี้ เสื้อผ้า ขนม หมากฝรั่ง (?) และชีวิตหรูหราแบบ “ถ้าฉันไม่มีอิสระ ฉันก็จะสนุกให้สุดทาง” ซึ่ง Kirsten ถ่ายทอดตรงนี้ได้แบบทั้งน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

บางคนอาจบอกว่าเธอดูเบาไปหน่อยสำหรับบทราชินี แต่ถ้ามองจากมุมของ Sofia Coppola ที่ไม่ได้อยากเล่าการเมืองหรือละครประวัติศาสตร์ แต่เล่า “ชีวิตผู้หญิงที่ไม่เคยได้โตแบบธรรมดา” มันก็เข้ากันพอดี และ Kirsten Dunst ก็เป็นคนที่เหมาะมากกับบทแบบนี้ เพราะเธอมีทั้งความเปราะบางแบบวัยรุ่น และความรู้สึกกดดันแบบที่ไม่ต้องพูดอะไรก็สื่อได้จากสายตา

อีกอย่างคือเรื่องนี้โคตรสวย เสื้อผ้า ฉาก เครื่องประดับ ขนม ชุดกระโปรง เพลงจาก The Cure หรือ New Order ที่โผล่มาแบบไม่แคร์ยุคสมัย มันคือความเฟี้ยวที่อยู่ในโลกประวัติศาสตร์แบบที่แหวกแต่เท่ และ Kirsten ก็เป็นศูนย์กลางของทั้งหมดนั้น

ใครชอบหนังที่ไม่ได้เร้าอารมณ์แบบพุ่งใส่หน้าตลอดเวลา แต่ซึมลึก กินบรรยากาศ และเล่าชีวิตแบบผู้หญิงจริงๆ มากกว่าภาพลักษณ์ในประวัติศาสตร์ Marie Antoinette เวอร์ชันนี้ถือว่าทำได้ดีมาก และ Kirsten Dunst ก็ทิ้งลายเซ็นบางอย่างไว้ชัดเจนว่าเธอคือราชินีที่ทั้งสวย ทั้งเศร้า และยังเป็นวัยรุ่นอยู่ลึกๆ ไม่ว่าจะอยู่ในวังหรือในหัวใจคนดู

19/07/2025

Leelee Sobieski ใน In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale (2006) เป็นหนึ่งในบทบาทที่หลายคนอาจไม่ได้นึกถึงเวลาพูดถึงเธอ แต่จริงๆ แล้วก็มีเสน่ห์บางอย่างที่น่าจดจำไม่น้อยเลย

ในเรื่องนี้ Leelee รับบทเป็น Muriella ลูกสาวของพ่อมดชื่อ Merick ซึ่งเป็นตัวละครที่อยู่ตรงกลางระหว่างโลกของเวทมนตร์กับโลกของคนธรรมดา คาแรกเตอร์ของเธอมีความขัดแย้งเล็กๆ ระหว่างหน้าที่กับความเชื่อของตัวเอง และพอเรื่องดำเนินไป เธอก็มีพัฒนาการจากหญิงสาวธรรมดา กลายเป็นคนที่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้บทจะไม่ได้มีความลึกมากเท่าตัวเอก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกจุดที่ช่วยเสริมให้เรื่องมีความหลากหลายขึ้น

ตัวหนังเองก็จัดเต็มในแบบหนังแฟนตาซียุค 2000 ต้นๆ มีทั้งดาบ เวทมนตร์ ฉากสงคราม และบอสใหญ่ตัวร้าย รับบทโดย Ray Liotta ที่มาในลุคพ่อมดคลั่งพลัง ส่วน Jason Statham ก็ยังคงเป็นตัวพระเอกนักรบสายบู๊ที่ทั้งเท่และบึกบึน

แม้หนังจะโดนวิจารณ์พอสมควร ทั้งในเรื่องของบทที่ค่อนข้างเบาบางและการกำกับที่ไม่ค่อยกลมกล่อม แต่ถ้ามองแบบไม่จริงจังเกินไป มันก็มีความบันเทิงในแบบหนังแฟนตาซีแปลกๆ ที่นั่งดูเพลินๆ ได้อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าใครชอบดูอะไรที่ไม่ได้ตามสูตรเป๊ะ

สำหรับ Leelee เอง บทนี้อาจไม่ได้ทำให้เธอเปรี้ยงแบบตอนเล่น Joan of Arc หรือ Eyes Wide Shut แต่ก็เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่เธอได้ลองเล่นบทบาทในโลกแฟนตาซี ซึ่งต่างจากงานที่เธอเคยทำมา ส่วนหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงไปใช้ชีวิตส่วนตัวแบบเรียบง่าย และหันไปทำงานด้านศิลปะเต็มตัว

ก็ถือว่าเป็นหนังที่อาจไม่ใช่ที่สุดของเธอ แต่ถ้าใครกำลังหาอะไรแปลกใหม่จากยุคหนังแฟนตาซีเก่าๆ ดูเล่นๆ สักเรื่อง เรื่องนี้ก็อาจจะตอบโจทย์ได้อยู่บ้าง