
01/09/2025
เพราะความไม่เผื่อใจ
กลายเป็นตีมึน สู่ความไม่น่าไว้ใจ
พรรคเพื่อไทย เดิมเกมตามหลังพรรคภูมิใจไทย แบบเหลือเชื่อ สาเหตุสำคัญเพราะเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า นายกฯ อิ๊ง จะรอดจากการตัดสินคดี
สิ่งที่พวกเขา ทำก่อนวันตัดสิน คือ การเลือกว่า จะประกาศชัยชนะที่ไหนดี
ที่ทำเนียบดีไหม ตอกย้ำ การกลับมาของนายกฯ ที่แสนยิ่งใหญ่
หรือจะเป็นที่พรรคเพื่อไทย เพื่อเอาใจมวลชน ให้คนเสื้อแดง มาร่วมในบรรยากาศแห่งความสุข
หลังจากนั้น มีแผนจะไปหาเสียงที่ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม พร้อมประกาศศักดาให้พรรคสีน้ำเงินได้เห็น
นี่คือแผนของพรรคเพื่อไทย
ที่มาจากความเชื่อมั่นหนึ่งเดียวว่า พวกเขาจะรอด
แต่พอผลมันไม่ได้ออกมาแบบที่หวัง
แผนการทั้งหมดมันพังพินาศสิ้นในบันดล
ชั่วโมงนั้น
เกมการเมืองไหล ไปที่การตั้งรัฐบาลใหม่
แต่พรรคเพื่อไทยยังง่วนอยู่กับการจัดโพเดียมให้น้องอุ๊งอิ๊ง แถลงยืนยันความบริสุทธิ์อยู่เลย
ขณะที่พรรคคู่แข่ง บึ่งไปคุยกับพรรคตัวแปร และพรรคชี้ขาดแล้ว
สำหรับพรรคภูมิใจไทย
พรรคส้มโยนอะไรมา พวกเขาพิจารณาหมด ขออย่าแตะสถาบัน ซึ่งพูดชัดเจนในแถลงการณ์ ที่ปล่อยออกมาก่อนค่ำเสียอีก
ส่วนจะยุบสภาเมื่อไร จะให้แก้ไขปัญหาอะไร ให้ทำอะไร ใครเป็นรัฐมนตรี
คุยกันได้ ไม่ขัดข้อง
เพราะภูมิใจไทย ก็พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งอยู่แล้ว
กลับมาที่พรรคเพื่อไทย
พอเจอเงื่อนไขของพรรคส้มเรื่องยุบสภาใน 4 เดือน ปรากฏว่า ออกลูกอึกอัก ขอต่อรองเป็น 6 เดือน ก่อนที่จะกลับมาเป็น 4 แล้วบอกว่า สามารถทำให้ยุบได้เร็วกว่านั้นอีก ยิ่งไปกันใหญ่เมื่อรองฯ ภูมิธรรม บอกว่าสามารถยุบสภาได้เลยใครว่าผิดกฎหมายก็ให้ไปฟ้องเอา
สะท้อนความลังเล
และความไม่พร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง
ต่อมา มีการเพิ่มเรื่องเขากระโดง กับ สว.เข้าไปอีก อันนี้ น่าตกใจ เพราะดันไปเอาเรื่องการทำลายล้างทางการเมือง มาผูกกับเรื่องของอนาคตบ้านเมือง
การเดินเกมช้า สอดไส้เงื่อนไขเพี้ยนๆ และเต็มไปด้วยความลังเลของพรรคเพื่อไทย ทำให้ฝ่ายส้มตั้งตัวได้
เพราะเปิดห้วงเวลานึกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 พรรค ที่มีทั้งคำว่าเพื่อนไม่คบบ้างล่ะ ตระบัดสัตย์บ้างล่ะ
ถึงวันนี้ IO เพื่อไทย ก็ยังเดี๋ยวชม เดี๋ยวด่าพรรคส้ม เหมือนยานแม่ไร้ทิศทาง ยานลูก เลยไม่รู้จะบินไปไหน เดี๋ยวชมเดี๋ยวด่าเหมือนคนบ้า 2 บุคลิก
ที่สำคัญ ขนาดยังไม่จับมือกัน
พรรคเพื่อไทย ยังออกอาการตีมึนขนาดนี้ ถ้าจับมือกันจริงๆ
จะมึนขนาดไหน