17/09/2025
#เปิดหลักฐาน ข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย เกี่ยวกับเงินบริจาควัดดังเมืองปทุม
เปิดหลักฐานการโอนเงินพระวัดดังในจังหวัดปทุมธานี โอนเงินให้กัญญาภัค ชไนเดอร์ ที่ประเทศเยอรมัน ที่ธนาคารกรุงไทย จำนวน 4 ครั้ง
1. ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินพี่สาวที่บริจาค แต่ภายหลังอ้างว่าเป็นเงินวัดนาป่าพง โอนโดยนายสมภพ
2. ครั้งที่ 2 จำนวน 2,700,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง ให้นางกัญญาภัค โอนโดยนายศรชา
3. ครั้งที่ 3 จำนวน 2,000,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง ให้นางกัญญาภัค โอนโดยนายศรชา
4. ครั้งที่ 4 จำนวน 1,500,000 บาท เป็นเงินบริจาคจากวัดนาป่าพง โอนโดยนายศรชา
รวมเป็นเงิน 12,200,000 บาท
ตาม พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505ฯ มาตรา 45 เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงาน ความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานใน ปอ.อาญา ทั้งหมด ใช้กับเจ้าอาวาสด้วย
เกี่ยวกับเงินบริจาค ถือเป็นเงินของวัด ต้องนำเข้าบัญชีวัด ผู้มีอำนาจเบิกจ่าย คือ เจ้าอาวาสและไวยาวัจกร ฯ ต้องทำบัญชีส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ทุกปี การเบิกจ่ายก็ต้องไวยาวัจกร เจ้าอาวาสและบุคคลที่เจ้าอาวาสเห็นสมควรในการเบิกจ่าย และต้องทำบัญชีรับจ่ายให้ถูกต้อง และการดูแลรักษาและจัดการเงินกุศลที่มีผู้บริจาคให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ตามกฎกระทรวง (ฉบับที่ 2) 2511 ฯ ข้อ 5,6 หรือปัจจุบัน ตามกฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564 ข้อ 7, 8
เพราะฉะนั้น การเบิกเงินจากวัดต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์ หรือกิจการของวัด วัดไม่มีสิทธิ์นำเงินวัดไปบริจาคให้บุคคลอื่น
การที่วัดนำเงินของวัดนาป่าพง ซึ่งเป็นเงินบริจาค จำนวน 12,2,00,000 บาท บริจาคให้นางกัญญาภัค #เป็นการผิดวัตถุประสงค์ ต่อมาโอนให้พระ 👉สมาคม หรือมูลนิธิต่างประเทศ (เพราะเป็นนิติบุคคลต่างประเทศแยกต่างหากจากวัด กฎหมายไทยไม่มีผลบังคับในไทย ไม่สามารถตรวจสอบได้) และยิ่งมีการโอนเงินให้พระ หรือ สมาคม หรือมูลนิธิ ที่พระนั้นมีอำนาจเบิกจ่ายด้วยตนเอง เข้าข่ายการฟอกเงิน
การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความความผิดเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์ ตาม ปอ. มาตรา 147,157 และความผิดฐานฟอกเงินฯ
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ดังกล่าว ที่กล่าวมาพิจารณากันเองนะครับ !
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
(ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม)