เกษตรกรก้าวหน้า

เกษตรกรก้าวหน้า สื่อสร้างสรรค์สาระ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของเกษตรกร นิตยสารและแฟนเพจเกษตรกรก้าว
http://www.maeban.co.th

🟢คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามใน ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ราคารับซื้อข้าว...
01/09/2025

🟢คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามใน ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ประจำปี 2568/69 แล้ว เพื่อให้การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรมีความเหมาะสมและเป็นธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตและการตลาด

📜📌 โดยประกาศฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2569

📣 ตามประกาศดังกล่าว ได้กำหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สด ชนิดเมล็ดที่มีความชื้น 30% ของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ชัยภูมิ พิจิตร และอุทัยธานี ในราคากิโลกรัมละ 7.05 บาท สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ให้เป็นไปตามโครงสร้างราคารับซื้อรายจังหวัด

📌 ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห้ง ชนิดเมล็ดที่มีความชื้น 14.5% ณ หน้าโรงงานอาหารสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในราคากิโลกรัมละ 9.80 บาท สำหรับจังหวัดอื่น ให้เป็นไปตามระยะทาง และค่าขนส่งในแต่ละพื้นที่

〽️ โดยปรับเพิ่มหรือลดราคาตามตารางการหักลดน้ำหนักเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีความชื้น ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและได้ตกลงราคากันไว้ก่อนหน้าประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ คู่สัญญา สามารถซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ในราคาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

👤‼️ คุณจตุพร เน้นย้ำว่า ผู้รวบรวมและโรงงานอาหารสัตว์ทุกแห่งต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์อย่างเคร่งครัด โดยต้องแสดงราคารับซื้อและอัตราการหักลดความชื้น ณ จุดรับซื้ออย่างชัดเจน โดยกรมการค้าภายในได้แจ้งไปยังจังหวัดทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อกำกับดูแลการซื้อขายให้เป็นไปตามประกาศ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลพร้อมกับชุดตรวจสอบลงพื้นที่ ตรวจสอบการรับซื้ออย่างสม่ำเสมอ หากฝ่าฝืน เช่น การรับซื้อในราคาต่ำกว่าที่แสดงไว้ หรือหักลดน้ำหนักความชื้นไม่ตรงตามที่ประกาศกำหนด จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งมีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก

⚠️ ทั้งนี้ หากมีผู้รวบรวมรายใดปฏิเสธหรือประวิงการจำหน่ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 30 และหากโรงงานอาหารสัตว์รายใดรับซื้อในราคาที่ต่ำเกินสมควร หรือหยุดรับซื้อ จำกัดคิว หรือปิดโรงงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จนทำให้ราคาในตลาดปั่นป่วน ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 โดยทั้งสองกรณีมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 🚫

🌐 นอกจากนี้ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดมาตรการสอดคล้องกับการกำหนดการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO ในโควตาหรือข้าวสาลีสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ ในปี 2569 โดยระบุว่า ผู้ประกอบการที่ยื่นขออนุญาตนำเข้า จะต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศในปริมาณ 3 ส่วน ต่อการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือข้าวสาลี 1 ส่วน พร้อมทั้งต้องแสดงหลักฐานการรับซื้อจากเกษตรกรในประเทศ และราคารับซื้อต้องเป็นไปตามราคาดังกล่าวข้างต้น

“ประกาศฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นหลักประกันราคาผลผลิตของเกษตรกร ป้องกันการกดราคาจากกลไกตลาด และสร้างความชัดเจนแก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ กระทรวงพาณิชย์จะติดตามและกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกติกาและเกิดความเป็นธรรมต่อเกษตรกร” คุณจตุพรกล่าว

ที่มา / ขอบคุณ : กระทรวงพาณิชย์

➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️

#เกษตรกรก้าวหน้า #แวดวงเกษตร #ข่าวเกษตร #ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ #ข้าวโพด #อาหารสัตว์ #โรงงานอาหารสัตว์ #ชาวไร่ #ช่วยเหลือเกษตรกร #กระทรวงพาณิชย์

31/08/2025

🟢 ก้าวสู่ความเป็นชาวนาต้นแบบ (Model Smart Farmer) กับโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) โดยกรมการข้าว

🔸โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง🔸 หรือ 🔸Smart Farmer🔸 เป็นโครงการสำคัญที่กรมการข้าว ได้ดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

จากการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องของกรมการข้าว ทำให้มีชาวนาที่ผ่านการคัดกรอง และประเมินคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ Smart Farmer ด้านข้าวแล้วกว่า 69,866 ราย ผ่านการฝึกอบรม อาทิ กลุ่ม Developing Farmer ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้รับทักษะความรู้ และประสบการณ์จาก Model Smart Farmer ได้รับการพัฒนา และยกระดับสู่การเป็น Smart Farmer

🆙 วันนี้ “ชาวนาไทย จึงไม่ได้แค่ปลูกข้าว แต่กำลังปลูกอนาคตของชาติ” ภายใต้ โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง หรือ Smart Farmer ที่ดำเนินการโดยกรมการข้าว

#ชาวนาต้นแบบ #ชาวนาอาสา #กรมการข้าว #สำนักส่งเสริมการผลิตข้าว #ผู้ประกอบการเกษตร #โดรน #หน่วยบริการชาวนา #ข้าว

🟢  #แพะ อีกหนึ่งปศุสัตว์ที่ใช้พื้นที่น้อย และให้ผลผลิตเร็วเมื่อเทียบกับการทำปศุสัตว์ประเภทอื่น แถมยังหากินเก่ง ทนต่อสภาพ...
31/08/2025

🟢 #แพะ อีกหนึ่งปศุสัตว์ที่ใช้พื้นที่น้อย และให้ผลผลิตเร็วเมื่อเทียบกับการทำปศุสัตว์ประเภทอื่น

แถมยังหากินเก่ง ทนต่อสภาพอากาศได้ดี และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายอีกด้วย
➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️
#เกษตรกรก้าวหน้า #แพะ #แพะน่าเลี้ยง #เลี้ยงแพะ #แพะเนื้อ #แพะนม #ปศุสัตว์น่าเลี้ยง #เลี้ยงสัตว์ #สัตว์เศรษฐกิจ

🟢 บ้านสวนครูแหม่มตั้งอยู่ที่ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ทำเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 เน้นการเชื่...
30/08/2025

🟢 บ้านสวนครูแหม่มตั้งอยู่ที่ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ทำเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 เน้นการเชื่อมโยงแนวคิด “เกษตร แปรรูป ท่องเที่ยว” อย่างสมดุล โดยมี “ครูแหม่ม” ศิริรัตน์ พุมดวง เป็นผู้ก่อตั้ง

🏕 สวนเกษตรอินทรีย์แห่งนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมด 60 ไร่ ปลูกพืชผสมผสาน และมีพระเอกเป็น #ผักเหลียง ใช้พื้นที่ 13 ไร่ปลูกแซมในสวนยางพารา เก็บขายด้ำตั้งแต่ประมาณ 6–8 เดือนหลังปลูก ปลูกเพียงครั้งเดียวเก็บขายได้ทั้งปี ผลผลิตรวมประมาณ 3,600 กิโลกรัม/ปี แบ่งจำหน่ายแบบใบสดร้อยละ 50 ราคา 100 บาท/กิโลกรัม

🌿 ส่วนที่เหลือนำไปแปรรูปหลากหลาย และนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ได้แก่ ข้าวเกรียบใบเหลียง ผงโรยข้าวใบเหลียง (ใบเหลียงผง) ชาใบเหลียง สบู่ใบเหลียง ผงขัดหน้าใบเหลียงสมุนไพร และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากสมุนไพรพื้นบ้าน

พืชผลและผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่วางขาย ณ บ้านสวนครูแหม่ม และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต้นน้ำ และผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้ง Line และ Facebook รวมถึงเข้าร่วมงานแสดงสินค้า (ออกบูธ) ในระดับจังหวัด

🛖 บ้านสวนครูแหม่มยังมีกิจกรรมเชื่อมโยงชุมชนภายในจังหวัด ได้แก่ Workshop และแบ่งฐานเรียนรู้การเชื่อมโยงในลักษณะเกื้อกูลกับเครือข่ายในชุมชน โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าศึกษาดูงาน ประมาณ 2,500–3,000 คน/ปี

📱 ใครสนใจท่องเที่ยววิถีเกษตรอินทรีย์ผสมผสานสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือผลิตภัณฑ์จากใบเหลียง เชิญที่บ้านสวนครูแหม่ม โทร. 09-2569-4896 Facebook : บ้านสวนครูแหม่ม

📌ที่มา/ขอบคุณ : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎ์ธานี
➖➖➖➖➖➖➖
#เกษตรกรก้าวหน้า #สรรหามาฝาก #เกษตรอินทรีย์ #ผักเหลียง #บ้านสวน #ปลูกพืชแซมยาง #บ้านสวนครูแหม่ม #นครศรีธรรมราช

🆙🌽 เชื่อว่าสัปดาห์ก่อน  #ชาวไร่ข้าวโพด เกิดความหวังถ้วนหน้า ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ประกาศ และกระทรวงเกษตรฯ ขานรับลูกตาม เร...
30/08/2025

🆙🌽 เชื่อว่าสัปดาห์ก่อน #ชาวไร่ข้าวโพด เกิดความหวังถ้วนหน้า ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ประกาศ และกระทรวงเกษตรฯ ขานรับลูกตาม เรื่องการรับซื้อข้าวโพด ตามมติ นบขพ.ที่ราคาประกัน 9.80 บาท/กก. ซึ่งสื่อใหญ่ ๆ จับไปพาดหัวเรียกยอดกันเพลิดเพลิน

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ราคาประกาศดังกล่าวเป็นราคาเมล็ดแห้งที่มีความชื้นมาตรฐาน 14.5% ขณะที่ราคาพอหวังได้และเกษตรกรต้องการอย่างน้อย ๆ ตามมติ นบขพ. คือ 7.05 บาท/กก. ที่ความชื้นร้อยละ 30 ซึ่งก็ยังเป็นไปได้ยาก

🏭 โดยฟากโรงงานอาหารสัตว์ให้ข้อมูลว่า คุณภาพของข้าวโพดที่เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวเป็นข้าวโพดสด มีความชื้นสูงถึง 30–33% ไม่ตรงตามมาตรฐานของโรงงานอาหารสัตว์ จึงไม่สามารถรับซื้อโดยตรงได้ ต้องอาศัยพ่อค้าพืชไร่หรือผู้รวบรวมเป็นตัวกลางในการอบแห้ง ทั้งการตากแดดและการใช้เครื่องอบ ก่อนขายต่อให้โรงงานด้วยความชื้นตามมาตรฐาน

❗️กรณีนี้เห็นได้ชัด จากกรณีของเกษตรกรในเพชรบูรณ์ซึ่งที่เป็นพื้นที่ที่เริ่มปลูกข้าวโพดเร็วกว่าพื้นที่ปลูกอื่นๆ โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เมษายน–พฤษภาคม และเก็บเกี่ยวในสิงหาคม–กันยายน ที่ยังอยู่ในฤดูฝน

เกษตรกรต้องรีบเก็บเกี่ยวเพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตเสียหาย ต้นข้าวโพดล้ม ทำให้ผลผลิตมีความชื้นสูง อีกทั้งยังมีต้นทุนเพิ่มจากการจ้างแรงงานเก็บข้าวโพดที่ล้มใช้รถไม่ได้ เมื่อรวมกับการหักค่าอบแห้งและค่าขนส่ง ราคาที่เกษตรกรได้รับจึงต่ำกว่าที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้

เมื่อมารวมกับปีนี้มีกระแสข่าวลือว่าโรงงานอาหารสัตว์จะหันไปนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ และไม่รับซื้อผลผลิตในประเทศ ยิ่งสร้างความกังวลให้เกษตรกรเร่งแข่งกันขายผลผลิตออกไป ไร้อำนาจต่อรอง บวกกับการฉวยโอกาสของผู้ค้าบางราย ซ้ำเติมปัญหาราคาที่ตกอยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีก

❎🚢 แม้รัฐบาล โดยคุณจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า จะออกมายืนยันราคาข้าวโพดที่ตกต่ำในปีนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำเข้าจากสหรัฐฯ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจาและกำหนดมาตรการนำเข้า หากจะมีการนำเข้าก็เป็นปีหน้า และมีเป้าหมายเพียงเพื่อทดแทนผลผลิตที่ไม่เพียงพอในประเทศเท่านั้น

โดยปัจจุบัน การผลิตข้าวโพดในประเทศทำได้ประมาณ 4.59 ล้านตัน แต่ความต้องการใช้จริงสูงอยู่ที่ประมาณ 9.2 ล้านตัน ปัญหาสำคัญจึงมาจากลไกตลาดที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมากทำให้อุปทาน (supply) สูงกว่าอุปสงค์ (demand) จึงเป็นธรรมดาที่ราคาจะปรับตัวลดลง

〽️ และเมื่อดูลึกลงไปถึงรากเหง้าของปัญหาของการปลูกข้าวโพด ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พยากรณ์ผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 757 กิโลกรัม/ไร่ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน ที่ 851 กิโลกรัม/ไร่ และค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 954 กิโลกรัม/ไร่ อันเกิดจากข้อจำกัดด้านพื้นที่เพาะปลูกที่กว่า 86% ไม่เหมาะสม สะท้อนให้เป็นปัญหาเรื่องการต้นทุนที่อาจไม่คุ้มค่าพอ (ขณะที่ศักยภาพสูงสุดของพันธุ์ที่ได้จากแปลงทดลองอยู่ที่ 1,500 – 2,000 กิโลกรัม/ไร่)

มาตรการช่วยเหลือที่กำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำที่ 7.05 บาท/กก. สำหรับข้าวโพดความชื้น 30% จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นไม่ให้เกษตรกรถูกกดราคามากเกินไป แม้จะช่วยบรรเทาเฉพาะหน้า แต่ยังคงเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างตลาดและระบบการผลิตให้มีความยั่งยืน ทำให้เกษตรกรยังคงเผชิญปัญหาซ้ำซาก

🌽🌽🌽 เกษตรกรไทยตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ จึงควรมองไปไกลกว่าการรอ “ราคาประกัน” แต่หันมาร่วมกันสร้างความเข้มแข็งในการผลิตของเกษตรกร ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพื่อให้ได้ราคาขายสะท้อนคุณภาพ สร้างสมดุลกลไกการตลาด เป็นคำตอบสู่การทำเกษตรที่มั่นคงและเกษตรกรอยู่ได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืน

➖➖➖➖➖
#เกษตรกรก้าวหน้า #ข้าวโพด #ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ #อาหารสัตว์ #ประดันราคา

29/08/2025

ด่วน‼️ ก.การข้าว ยืนยันไร่ละ 1,000 นาปี/นาปรัง จ่ายตรงผ่านแอปฯ ทางรัฐเท่านั้น

🟢  #กล้วยน้ำว้าปากพนัง หรือที่รู้จักในชื่อ “กล้วยน้ำว้าลุ่มน้ำปากพนัง” เป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีความต้องการสูงในตลาด ...
29/08/2025

🟢 #กล้วยน้ำว้าปากพนัง หรือที่รู้จักในชื่อ “กล้วยน้ำว้าลุ่มน้ำปากพนัง” เป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีความต้องการสูงในตลาด เนื่องจากมีอัตลักษณ์โดดเด่นและมีลักษณะเฉพาะตัว

กล่าวคือ มีผิวผลสวย เปลือกบาง เนื้อแน่น ไส้เหลือง ไร้เมล็ด และ รสชาติหวาน นอกจากนิยมบริโภคสดแล้ว ยังสามารถแปรรูปได้หลากหลายอีกด้วย

🧑‍🏫 คุณภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช กรมวิชาการเกษตร ได้เดินหน้าส่งเสริมการผลิตกล้วยน้ำว้าปากพนัง

ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการสวนที่ถูกต้องและเหมาะสมแก่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

🍌 โดยปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกกล้วยน้ำว้าปากพนังจำนวน 486 ครัวเรือน พื้นที่รวมกว่า 1,295 ไร่ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกแบบสวนหลังบ้าน ปลูกกระจัดกระจายทั่วไปไม่มีการดูแลเหมือนพืชหลัก

หรือ ปลูกเป็นพืชแซมในแปลงมะพร้าวปลูกใหม่ และ สวนปาล์มน้ำมันปลูกใหม่ เพื่อสร้างรายได้เสริมก่อนการเก็บเกี่ยวพืชหลัก

ทำให้ปัจจุบันการผลิตกล้วยน้ำว้าปากพนัง ยังมีปริมาณผลผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากเกษตรกรยังขาดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการจัดการสวนที่ถูกต้องเหมาะสม ทำให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ

👩‍🏫 ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช จึงได้ดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตให้กับเกษตรกร โดยเน้นการใช้ปุ๋ยเคมีตามความต้องการของพืช

การตรวจวิเคราะห์ดิน และการใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดิน ลดต้นทุนปุ๋ย และเพิ่มผลผลิตได้ถึง 10-15%

🌱 นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพไมคอร์ไรซา ซึ่งเป็นกลุ่มราที่ช่วยให้พืชดูดซับธาตุอาหารสำคัญได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในดินที่มีปัญหาการตรึงฟอสเฟต พร้อมกับถ่ายทอดเทคนิคการตัดแต่งต้นและใบเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม

👨‍🔬 คุณอุดมพร เสือมาก ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้ให้คำแนะนำเกษตรกรใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต รองก้นหลุม อัตรา 10 กรัม/หลุม หรือ โรยรอบทรงพุ่ม อัตรา 50-100 กรัม/ต้น

โดยคลุกผสมกับปุ๋ยอินทรีย์โรยรอบทรงพุ่มแล้วกลบดิน ส่วนปุ๋ยชีวภาพอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ให้รองก้นหลุม อัตรา 10 กรัม/ต้น หรือ โรยรอบทรงพุ่ม อัตรา 20-50 กรัม/ต้น แล้วพรวนดินกลบ

ตัดแต่งหน่อหลังปลูกประมาณ 3-4 เดือน และอีกครั้งประมาณ 7-8 เดือนหลังปลูก ที่สำคัญควรมีการไว้หน่อทดแทน 1-2 หน่อ โดยหน่อที่ 1 และ 2 ควรมีอายุห่างกันประมาณ 4 เดือน โดยเลือกหน่อที่อยู่ในทิศทางที่ตรงกันข้าม อีกทั้ง ควรตัดแต่งใบให้เหลือประมาณ 7–12 ใบ ต่อกอ เพื่อช่วยป้องกันการโค่นล้มของต้นกล้วยในช่วงออกปลี

🟢 ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรมีโครงการที่จะจัดทำแปลงทดสอบเทคโนโลยีการผลิตแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมในพื้นที่นำร่อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้ ทดลอง และนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ในสวนของตนเองได้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้มีมาตรฐานและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาดในอนาคต

สำหรับเกษตรกรที่สนใจเทคโนโลยีการผลิตกล้วยน้ำว้าปากพนังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ 0-7580-9709
➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️
#เกษตรกรก้าวหน้า #แวดวงเกษตร #กล้วยน้ำว้า #กล้วยน้ำว้าปากพนัง #แชร์เทคนิค #ปลูกกล้วยน้ำว้า #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต

🟢 แจกฟรี !  คู่มือการเลี้ยง  #กุ้งขาว แบบพัฒนา📃 โดยภายในเอกสาร ประกอบไปด้วย ● คำแนะนำทั่วไป● สถานที่เลี้ยง● การจัดการฟาร...
29/08/2025

🟢 แจกฟรี ! คู่มือการเลี้ยง #กุ้งขาว แบบพัฒนา
📃 โดยภายในเอกสาร ประกอบไปด้วย

● คำแนะนำทั่วไป
● สถานที่เลี้ยง
● การจัดการฟาร์ม
● การให้อาหารและคุมสภาพแวดล้อม
● การจัดการสุขภาพและการแก้ปัญหาโรคกุ้ง
● สุขอนามัยฟาร์ม
● การเก็บเกี่ยวผลผลิตและการขนส่ง
● การจัดการบำบัดน้ำทิ้งและเลน
● เอกสารและการจดบันทึกข้อมูล

📌สามารถคลิกดาวน์โหลดได้ที่
http://file.fisheries.go.th/f/786a3b1b38/

ที่มา / ขอบคุณ : กรมประมง

➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️

#เกษตรกรก้าวหน้า #แจกเอกสาร #สรรหามาฝาก #คู่มือการเลี้ยงกุ้งขาว #เลี้ยงกุ้ง #กุ้งขาว #กรมประมง

🟢 มาตรฐานสินค้าเกษตร  #ข้าวยั่งยืน (มกษ. 4408-2565) คือ มาตรฐานที่กรมการข้าว โดยกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ ...
28/08/2025

🟢 มาตรฐานสินค้าเกษตร #ข้าวยั่งยืน (มกษ. 4408-2565) คือ มาตรฐานที่กรมการข้าว โดยกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ ได้พยายามส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว มีการผลิตข้าวที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของข้าวไทย

โดยครอบคลุมตั้งแต่การจัดการฟาร์ม การเตรียมการปลูก การจัดการน้ำ และ ดิน การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน การเก็บเกี่ยว และ การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนา

💻 นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบในการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ตลอดจนประโยชน์ในด้านสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงการปกป้องสิทธิแรงงานในฟาร์มตามกฎหมายแรงงาน การแปรสภาพข้าวเปลือก การป้องกันการปนเปื้อน และการปะปนของข้าวอื่นๆ อีกด้วย

👨‍🏫 คุณขจร โนวัฒน์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว มีนโยบายการเกษตรยั่งยืน เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตข้าว โดยได้กำหนดมาตรฐาน สินค้าเกษตร เรื่อง ข้าวยั่งยืน (มกษ. 4408-2565) ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาผลิตข้าวอย่างยั่งยืนแก่เกษตรกรตลอดห่วงโช่การผลิต

ซึ่งที่ผ่านมา กรมการข้าวได้มีการส่งเสริมเกษตรกร “กลุ่มข้าวยั่งยืนบ้านดอนหมู” ในพื้นที่บ้านดอนหมู อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการนำเทคนิคการทำนาแบบต่างๆ มาปรับใช้ เช่น การทำนาแบบอินทรีย์ หรือการทำนาแบบลดการใช้สารเคมี เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวที่ดีและยั่งยืน

รวมถึงการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ จากการใช้เทคโนโลยีและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มข้าวยั่งยืนบ้านดอนหมู ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเกษตรกรที่มีการทำนาเพื่อผลิตข้าวยั่งยืนได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรมที่สุด

👨‍🌾 คุณธนู ทัฬหกิจ ประธานกลุ่มข้าวยั่งยืนบ้านดอนหมู เปิดเผยว่า การผลิตข้าวตามมาตรฐานข้าวยั่งยืนนั้น นอกจากจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ ลดผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยเพิ่มผลผลิตจากการทำนาแบบดั้งเดิม ที่ได้ผลผลิตประมาณ 300 กก./ไร่ ปัจจุบันสามารถผลิตได้ประมาณ 400-500 กก./ไร่

ประกอบกับกระบวนการผลิตที่ลดการใช้สารเคมีให้ได้มากที่สุด ทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น

🌾 ทั้งนี้ กลุ่มข้าวยั่งยืนบ้านดอนหมู ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบในการผลิตข้าวตามมาตรฐานสินค้าเกษตรข้าวยั่งยืน โดยกรมการข้าวเตรียมผลักดันให้เป็นกลุ่มตัวอย่างที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่สนใจ

ตลอดจนผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานสินค้าข้าวยั่งยืนที่ทางกรมการข้าวได้พยายามส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไปในอนาคต
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
#เกษตรกรก้าวหน้า #แวดวงเกษตร #ข้าวยั่งยืน #กรมการข้าว #ทำนาลดโลกร้อน #ข้าวSRP #ข้าวรักษ์โลก #ปลูกข้าว #ทำนา

🟢 จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนา “China Yellow Cattle No.1” ชิปพันธุกรรมเพื่อการคัดเลือกสายพันธุ์  #วัวพื้นเมือง โดยไม่ต้อ...
28/08/2025

🟢 จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนา “China Yellow Cattle No.1” ชิปพันธุกรรมเพื่อการคัดเลือกสายพันธุ์ #วัวพื้นเมือง โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีนำเข้าอีกต่อไป ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านความมั่นคงทางอาหารและการวิจัยพันธุกรรมสัตว์ของประเทศจีน

โดยการพัฒนาชิปดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยในประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest A&F University) โดยใช้เวลาในการเก็บตัวอย่างพันธุกรรมกว่า 10 ปี

ครอบคลุมพื้นที่เพาะเลี้ยงวัวพื้นเมือง 30 กว่าแห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมสายพันธุ์ท้องถิ่น 58 ชนิด เช่น วัวหลู่ซี วัวหนานหยาง และ วัวฉินชวน เป็นต้น

🐂 ซึ่งเหตุผลในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการที่วัวพื้นเมืองจีนมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตช้า ซึ่งในขั้นตอนการเลี้ยงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านอาหารอยู่เป็นประจำ แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นเนื้อที่ได้กลับไม่มีคุณภาพเท่ากับวัวนำเข้า ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงสูงกว่าปกติ

ชิป China Yellow Cattle No.1 ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ สามารถวิเคราะห์พันธุกรรมของลูกวัวได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน เพื่อประเมินน้ำหนักเมื่อโตเต็มวัย และ คุณภาพเนื้อในอนาคต ช่วยให้เกษตรกรประหยัดค่าอาหารสัตว์และตัดสินใจเลือกเลี้ยงลูกวัวที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงได้ทันที

💸 โดยในอดีต การตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมในประเทศจีนจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 1,000 หยวน/ครั้ง (ประมาณ 5,000 บาท) แต่เทคโนโลยีใหม่นี้สามารถลดต้นทุนลงเหลือเพียง 300 หยวน/ครั้ง (ประมาณ 1,500 บาท) และใช้เทคนิค liquid phase chip ซึ่งรวมความแม่นยำของหลายทีมวิจัยเข้าไว้ด้วยกัน จนได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งนักวิทยาศาสตร์ และ เกษตรกร

ซึ่งเกษตรกรในหลายภูมิภาค เช่น มณฑลส่านซี ซานตง และยูนนาน ให้การตอบรับอย่างดีต่อชิปพันธุกรรมรุ่นใหม่นี้ โดยมองว่าเป็น “เครื่องมือรู้อนาคต” ที่ทำให้การเลี้ยงวัวไม่ใช่การเสี่ยงโชคอีกต่อไป

ผู้เลี้ยงวัวรายใหญ่ในซานตงยังให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ท้องถิ่นว่า “เหมือนเรารู้อนาคตของวัวตั้งแต่ยังเล็ก จะได้ไม่เสียเวลา และเงินไปกับวัวที่โตช้าอีกแล้ว”

👨‍🔬 แผนการพัฒนาระยะถัดไปของทีมวิจัย คือ การออกแบบชิปพันธุกรรมสำหรับตรวจสอบลักษณะเฉพาะด้านอื่นๆ ได้แก่ ชิปตรวจสอบลักษณะต้านทานโรค (Disease-resistance chip) ชิปพยากรณ์คุณสมบัติเนื้อแบบลายหินอ่อน (Marbling prediction chip)

เพื่อแข่งขันกับเนื้อวากิวญี่ปุ่น และหากสำเร็จ อุตสาหกรรมเนื้อวัวพรีเมียมของจีนจะสามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ โดยเฉพาะในภาคการโรงแรมและการส่งออก

ความสำเร็จของ “China Yellow Cattle No.1” ถือเป็นต้นแบบในการขยายแนวทางชิปพันธุกรรมประจำชาติของจีน โดยอนาคตสามารถต่อยอดไปยังสัตว์เศรษฐกิจอื่นๆ เช่น สุกร เป็ด หรือ แกะ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหาร และ การลดต้นทุนด้านเทคโนโลยีการเกษตรต่อไปในอนาคต
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
#เกษตรกรก้าวหน้า #เกษตรไฮเทค #วัวพื้นเมืองจีน #ชิปตรวจสอบพันธุกรรมวัว #เทคโนโลยีเกษตร #นวัตกรรม #งานวิจัย #ปศุสัตว์จีน #ข่าวต่างประเทศ

27/08/2025

🆕️👨‍🌾 มือใหม่หัดปลูก!

🍋 #มะนาว ในกระถางนี่แหละ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคนเมือง กับงบเพียง 500 บาท ดูคลิปนี้จบ ปลูกได้แน่นอน!!

📌สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม "ลุงเกษตร คุณศุภชัย แสงดี" สวนลุงเกษตร ท่าอิฐ จ.นนทบุรี
☎️โทร.092-864-7963

➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️➖️

#เกษตรกรก้าวหน้า #แชร์เทคนิค #เทคนิคเกษตร #ปลูกมะนาว #มะนาวสำหรับคนเมือง #มะนาว #มะนาวแพง #มือใหม่หัดปลูก #เกษตรคนเมือง #คลิปเกษตร #ความรู้เกษตร

🟢 การทำเกษตรทุกวันนี้ หลายแห่งไม่ได้พึ่งพิงเฉพาะรายจากการขายผลผลิตอย่างเดียว แต่ยังอัพเกรดต่อยอด มีการแปรรูปเพิ่มมูลค่า ...
27/08/2025

🟢 การทำเกษตรทุกวันนี้ หลายแห่งไม่ได้พึ่งพิงเฉพาะรายจากการขายผลผลิตอย่างเดียว แต่ยังอัพเกรดต่อยอด มีการแปรรูปเพิ่มมูลค่า บางแห่งยังนำทรัพยากรทางการเกษตร วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น มาผสมผสานสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เช่นเดียวกับที่ 📍วิสาหกิจชุมชนสวนไผ่มีสุข📍 อ.แกลง จ.ระยอง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรประสบปัญหาจากการทำสวนยางพารา และหันมาปลูกพืชทางเลือกอย่าง “ไผ่” ทดแทน เพราะเป็นไม้ที่ปลูกง่ายและโตเร็ว ปลูกได้ในทุกสภาพอากาศและดินทุกชนิด

♻️ #ไผ่ ยังดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี และปล่อยก๊าซออกซิเจนจากกระบวนการสังเคราะห์แสง สร้างอากาศบริสุทธิ์ จึงเหมาะมากกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้า ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้มาเที่ยว

ทางกลุ่มฯ จึงพัฒนาท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบ Wellness ขึ้นโดยผสานระหว่างการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เน้นการฟื้นฟูทั้งกายและใจผ่านกิจกรรมธรรมชาติบำบัด เรียนรู้กิจกรรมเกษตร ชิมอาหารปลอดสารพิษ และมีเมนูที่รังสรรค์จากจากทุกส่วนของไผ่

เช่น หน่อไม้นำมาบริโภคสดได้ ทำเป็นส้มตำหน่อไม้สด หน่อไม้ต้ม หน่อไม้ดอง หน่อไม้อบแห้ง ใบไผ่แปรรูปเป็นใบไผ่อบแห้ง น้ำใบไผ่ชงร้อน น้ำใบไผ่เย็น วุ้นไผ่กรอบ ต้นไผ่แปรรูปเป็นถ่านดูดกลิ่น เครื่องจักรสาน ชิปไผ่ สบู่ถ่านไผ่ ขุยไผ่นำมาเป็นวัสดุปลูกเห็ดเยื่อไผ่ ต่อเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ส่วนรากไผ่ทำเป็นปุ๋ยได้ ฯลฯ

🥂 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไผ่มีสุข ยังพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มจากน้ำใบไผ่ โดยการนำนวัตกรรมสเฟียริฟิเคชั่น (Spherification) ซึ่งเป็นเทคนิคหนึ่งของการทำอาหารแบบโมเลกุล่าแกสโตรโนมี (Molecular Gastronomy) จนเกิดเป็น “ใบไผ่คริสตัล” ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่ เกิดเป็น “นมนางยักษ์” และ “นมนางเงือก” เมนูเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสวนไผ่มีสุข

นอกจากนี้ยังมี 📍“สุขสำราญมิกซ์”📍 เครื่องดื่มเมนูใหม่ พัฒนาต่อยอดมาจากการนำน้ำชาใบไผ่มาหมักด้วยจุลินทรีย์และยีสต์ เพื่อให้ได้ชาหมักที่เรียกว่าคอมบูชา (Kombucha) อุดมไปด้วยโปรไบโอติก (Probiotics) ที่ดีต่อสุขภาพ

🏕“สวนไผ่มีสุข” เปิดบริการทุกวัน ติดต่อเยี่ยมชมได้ที่ Facebook:สวนไผ่มีสุข

#เกษตรกรก้าวหน้า #สรรหามาฝาก #สวนไผ่มีสุข #ไผ่ #ไม้ไผ่ #แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่อยู่

30/2 สุขุมวิท 36 แขวง คลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
Bangkok
10110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6622584762

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เกษตรกรก้าวหน้าผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เกษตรกรก้าวหน้า:

แชร์

Our Story

นิตยสารสร้างสรรค์สาระเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของเกษตรกร

ติดต่อฝ่ายโฆษณา 02-258-4762-5 ต่อ 17 หรือ 086-333-9625 (คุณน้อย)

สมัครสมาชิก บริการจัดส่งถึงบ้าน 12 ฉบับ/ปี ราคา 450 บาท www.maeban.co.th