Brand Buffet

Brand Buffet Business Marketing Creativity
อ่านเพลินๆ http://www.brandbuffet.in.th/
Call +66971494428 +66896666228
(5)

ส่งหมายงานแถลงข่าว / ติดต่อโฆษณา >> [email protected]
Tel : 097-149-4428

“สิ่งที่เราพยายามทำและทำได้ง่ายที่สุดของ ESG  คือเรื่อง ธรรมภิบาล เพราะสหพัฒน์ เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรีย...
14/07/2025

“สิ่งที่เราพยายามทำและทำได้ง่ายที่สุดของ ESG คือเรื่อง ธรรมภิบาล เพราะสหพัฒน์ เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบกันของคนที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจ ตามคำกล่าวของ ดร.เทียม โชควัฒนา และค่านิยมของเครือสหพัฒน์ที่ว่า สร้างคนดี สินค้าดี สังคมดี เป็นสิ่งที่ไปด้วยกัน”

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)

เตือนภัยด่วน! ระวัง SMS ปลอมแอบอ้าง blueplus+ และผลิตภัณฑ์ในเครือ OR หลอกลวงประชาชน! 🚨หากเจอข้อความแอบอ้างว่าเป็น🔹 bluep...
14/07/2025

เตือนภัยด่วน! ระวัง SMS ปลอมแอบอ้าง blueplus+ และผลิตภัณฑ์ในเครือ OR หลอกลวงประชาชน! 🚨

หากเจอข้อความแอบอ้างว่าเป็น
🔹 blueplus+ แจ้งเตือนพร้อมกับแนบลิงก์ให้คลิก
🔹 Café Amazon หรือผลิตภัณฑ์ในเครือ OR ชวนลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์

⚠️ ขอแจ้งให้ทราบตรงนี้เลยว่า
✅️ SMS ของแท้ จะต้องส่งจากผู้ส่งชื่อ blueplus
✅️ หากเป็นการแจ้งเตือนคะแนนหมดอายุผ่าน SMS จะไม่มีลิงก์ใดๆ แนบมาด้วย
✅️ แจ้งข่าวสารผ่านช่องทาง Official ของ blueplus+
เช่น อีเมล [email protected],
แอปพลิเคชัน blueplus+ และ เว็บไซต์ www.blueplus.com

มิจฉาชีพใช้วิธีหลอกลวงแบบแนบเนียน เพื่อหลอกให้คลิกลิงก์ กรอกข้อมูล หรือโอนเงิน
ถ้าหลงเชื่อแม้เพียงเล็กน้อย อาจเสี่ยงต่อการเสียทรัพย์หรือข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่รู้ตัว

📌 โปรดตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเชื่อหรือตอบสนองต่อข้อความใด ๆ ที่ได้รับ
📌 หากไม่แน่ใจ ให้ติดต่อสอบถามผ่านช่องทางทางการของ OR หรือ Café Amazon โดยตรง
📌 และที่สำคัญ—อย่ากดลิงก์ใด ๆ จาก SMS ที่ไม่รู้ที่มาเด็ดขาด!

📢 ช่วยกันแชร์ ช่วยกันเตือน เพื่อไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ!

#โออาร์

เซ็นทรัลพัฒนา เผยโฉม ‘Central Park’ เฟสแรกพร้อมเปิด 4 ก.ย. 68 นี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยโฉม ‘เซ็นทรัล พา...
14/07/2025

เซ็นทรัลพัฒนา เผยโฉม ‘Central Park’ เฟสแรกพร้อมเปิด 4 ก.ย. 68 นี้
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยโฉม ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานแห่งใหม่ โดยจะเป็นแลนด์มาร์กที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมยกระดับวงการค้าปลีกไทยสู่เวทีโลก บนที่ดิน 23 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 130,000 ตร.ม. รวมแบรนด์ชั้นนำระดับเวิลด์คลาส พร้อมอาคารสำนักงานที่มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตและการทำงานรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองในทุกมิติ
โดยจะเปิดตัวเฟสแรก 4 ก.ย. นี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ Here for all of you พบกับ Culinary Landmark แห่งใหม่ของเอเชีย รวมที่สุดของรสชาติจากทุกมุมโลก และเป็น First in Thailand สู่ศูนย์กลางวัฒนธรรมอาหารของกรุงเทพฯ พร้อมด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในไทยและระดับโลก
มาพร้อม Roof Park สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองขนาด 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย เทียบชั้นพาร์คระดับโลกอย่าง Central Park ในมหานครนิวยอร์ก และ Hyde Park ในมหานครลอนดอน ให้ได้เข้าถึงวิวพาโนรามิกหนึ่งเดียว บน Prime Location ใจกลางเมือง
โซน ‘เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเศส’ One-of-a-Kind and the Most Advanced Office Building จำนวน 43 ชั้น ด้วยการออกแบบที่มอบวิวสวนลุมแบบพาโนรามิก ทำให้คนทำงานได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบ Seamless ผสาน The Future Work/Life

สำหรับ 4 ไฮไลต์ เซ็นทรัล พาร์ค ที่สุดของความเป็นกรุงเทพฯ

-CURATED EXPERIENCE เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนเมือง ประสบการณ์ใหม่ที่สอดรับกับการใช้ชีวิตทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี กาแฟ ไม่ว่าจะเป็น Fit on the Roof เวิร์กช็อปฟิตเนสสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ชั้นนำ, Coffee & Conversations และฟังดนตรีพร้อมวิว Roof Park ยามเย็น

-FOOD AS ART & CULTURE เชื่อมโยงทุกมิติแห่งแรงบันดาลใจผ่านวัฒนธรรมอาหาร ผ่านแรงบันดาลใจจาก ศิลปะ วัฒนธรรม และประสาทสัมผัสทั้ง “รูป รส กลิ่น เสียง” รวมร้านอาหารจาก Michelin Guide รวม Street Food เจ้าดังแห่งกรุงเทพฯ มาไว้ในที่เดียว และร้านอาหารระดับโลกครั้งแรกในไทย และโซน Coffee-Tea-Sweets ที่รวมของหวานและเครื่องดื่มไว้ครบครัน
-NATURE CONNECTION เชื่อมโยงการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด Biophilic Design เพื่อสร้างโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ เติมพลังชีวิตให้คนเมืองกับ Wellness Trails เส้นทางเดิน-วิ่งในบรรยากาศธรรมชาติ, Outdoor Amphitheatre พื้นที่กลางแจ้งสำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมของคอมมูนิตี้ และ Pet-Friendly Parks โซนสีเขียวสำหรับคนรักสัตว์ บนพื้นที่ 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย (Thailand’s Largest Urban Roof Park)

-CITY-INTEGRATION เชื่อมชีวิตเมืองให้สมบูรณ์แบบ หนึ่งเดียวบนจุดตัดสีลมและพระราม 4 เชื่อมต่อ BTS และ MRT, พื้นที่ Co-working Space, กิจกรรม Community Engagement ที่เน้น Wellness Integration, พร้อมด้วยโซน Grab & Go รวมทุกความอร่อย Quick Bite พร้อมช็อปต่างๆ ตอบไลฟ์สไตล์เร่งรีบ และ Day-to-Night Lifestyle

#เซ็นทรัลพัฒนา #ซ็นทรัลพาร์ค #รีเทล #สีลม

อั้นไม่ไหวแล้ว “Uniqlo” เตรียมขึ้นราคาในสหรัฐฯ รับภาษีทรัมป์ทำต้นทุนพุ่งแบกต้นทุนไม่ไหว “ฟาสต์ รีเทลลิ่ง” บริษัทแม่ของยู...
14/07/2025

อั้นไม่ไหวแล้ว “Uniqlo” เตรียมขึ้นราคาในสหรัฐฯ รับภาษีทรัมป์ทำต้นทุนพุ่ง
แบกต้นทุนไม่ไหว “ฟาสต์ รีเทลลิ่ง” บริษัทแม่ของยูนิโคล่ (Uniqlo) แบรนด์เสื้อผ้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเตรียมขึ้นราคาสินค้าในสหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมระบุว่า เหตุผลหลักมาจากภาษีของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดเก็บกับประเทศต่าง ๆ ได้เริ่มส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทในสหรัฐฯ นั่นเอง
สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Uniqlo นั้น คุณทาเคชิ โอคาซากิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ระบุว่า จะเริ่มเห็นผลกระทบอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปีนี้ ซึ่งแนวทางแก้ไขคือ การขึ้นราคาสินค้าในส่วนที่ทำได้ และจะพยายามสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนร่วมด้วย
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ Uniqlo ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ และหลายประเทศต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าระดับสูง เช่น ศรีลังกาที่เจออัตราภาษี 30% หรือเวียดนามที่แม้จะได้ภาษีนำเข้าต่ำกว่า 20% แต่ถ้าเป็นการส่งออกสินค้าจากประเทศที่สามผ่านเวียดนามจะต้องเสียภาษีนำเข้า 40% เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือนสิงหาคม) ฟาสต์ รีเทลลิ่ง คาดการณ์ว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 545,000 ล้านเยน เนื่องจากได้ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ล่วงหน้าแล้ว (ปัจจุบัน Uniqlo มีสาขามากกว่า 2,500 แห่งทั่วโลก)
แต่สำหรับยอดขายและกำไรในไตรมาสที่สี่นั้น คาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะในตลาดจีนที่กำลังซื้อเริ่มชะลอตัว (มีร้าน Uniqlo มากกว่า 900 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่) โดยบริษัทได้หันไปลงทุนเพิ่มในอเมริกาเหนือและยุโรปเป็นการทดแทนแล้ว
ผลกระทบดังกล่าวยังทำให้หุ้นของ Fast Retailing เป็นหุ้นที่ขาดทุนมากเป็นอันดับสี่ในบรรดาหุ้นขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ด้วย โดยลดลงประมาณ 8% (อ้างอิงจาก LSEG)

#ยูนิโคล่ #ภาษีทรัมป์

หุ้น M เอ็มเค บวกแรง หลังข่าวเปิดตัว Bonus Suki บุฟเฟต์ราคา 219 บาท      #เอ็มเค  #สงครามหม้อเดือด
14/07/2025

หุ้น M เอ็มเค บวกแรง หลังข่าวเปิดตัว Bonus Suki บุฟเฟต์ราคา 219 บาท

#เอ็มเค #สงครามหม้อเดือด

ก้าวต่อไป "การเติบโตยั่งยืน" ต้องแก้ปัญหาวันนี้ ไม่เพิ่มปัญหาวันพรุ่งนี้ และสร้างต้นทุนที่ดีในวันต่อไปBRAND BUFFET เว็บไ...
14/07/2025

ก้าวต่อไป "การเติบโตยั่งยืน" ต้องแก้ปัญหาวันนี้ ไม่เพิ่มปัญหาวันพรุ่งนี้ และสร้างต้นทุนที่ดีในวันต่อไป
BRAND BUFFET เว็บไซต์ข่าวสารการตลาดและธุรกิจออนไลน์ชั้นนำ ร่วมกับ SD Thailand จัดงานเสวนา ESGNIVERSE 2025 : Real – World of Sustainability จักรวาลแห่งความยั่งยืน เพื่อให้นักธุรกิจ นักการตลาด และผู้บริหารองค์กร ได้อัพเดทเทรนด์และความเคลื่อนไหวเรื่อง “ความยั่งยืน” ตามหลักของ ESG
พร้อมเป็นแนวทางนำไปปรับใช้ได้กับองค์กรตนเอง ผ่านเคสจริงจากวิทยากรชื่อดังหลากหลายวงการธุรกิจ ปีนี้มาภายใต้ธีม From Reports to Real Impact ที่ว่าด้วยการทำเรื่อง ESG ให้มากกว่าแค่เอกสารรายงาน แต่เป็นกลยุทธ์ที่เกิดผลจริง
หนึ่งในวิทยากรงานเสวนา ESGNIVERSE 2025 คุณปิยะชาติ อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด (BRANDi & Companies) ได้มองภาพในระดับกว้าง จากประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมประชุมในเวทีระดับโลกหลายครั้ง ตอกย้ำว่าเรื่องของความยั่งยืน เป็นเรื่องระดับชาติที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันของทั้งโลก ผสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นก้าวต่อไปและสร้างการเติบโตให้ ESG
หลังจากโลกตื่นกระแสเรื่องความยั่งยืน แต่ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังถือเป็นเรื่องยากมากที่จะปลูกต้นที่ชื่อว่า "ความยั่งยืน" เพราะระบบเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมไม่เอื้อ
ดังนั้นทุกภาคส่วนทั้ง รัฐ เอกชน และประชาชน ต้องช่วยกันปรับและออกแบบระบบเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ต้นไม้ที่ชื่อว่า People และ Planet เติบโตพร้อมกับ Profit เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อน ESG
#เจาะแนวคิดSustainomy สร้างการเติบโตยั่งยืน
ดังนั้น What’s Next for the Sustainable Growth คือ เราต้องการแก้ปัญหาในระดับเดียวกับที่ก่อปัญหาขึ้นมา หากไม่สามารถใช้โครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบัน สร้างโลกที่ยั่งยืนได้ จะไม่มีทางทำอะไรได้ เพราะปัญหาที่เกี่ยวกับความยั่งยืน เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องนำระบบเศรษฐกิจมาแก้ทั้งสิน
.
คุณปิยะชาติ กล่าวว่าจากประสบการณ์พบปะประชุมในระดับ Global Platform ใน 20 ประเทศ กว่า 30 เวทีสัมมนา พบว่าที่จริงแล้วเรื่องความยั่งยืน อาจไม่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด
การสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน (Economy + Sustainability) ต้อง "รวมโลกเป็นหนึ่งเดียว" จับเศรษฐกิจที่เติบโตในภาคเอกชน มาผนวกกับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ต้องสร้างความยั่งยืน โดยมีภาครัฐเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก ต้องก้าวข้ามการเติบโตเศรษฐกิจแบบเก่า คือ แบบที่เศรษฐกิจดีขึ้นแต่คนและสิ่งแวดล้อมแย่ลง เพื่อความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวได้เมื่อได้รับผลกระทบ
จากเวทีประชุม Economist Impact เมื่อ 2 ปีก่อน มีแนวคิด Sustainomy โลกเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ จากการบริโภคโลกอนาคต เป็นการเติบโตแบบ Create the Future ต้องสร้างโลกอนาคตร่วมกันผ่านความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ดูแลทั้งประชาชนและผู้บริโภค เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
หลักการ Sustainomy ต้องมีความร่วมมือ 3 ระดับ
1. Macro Transition คือ การใช้เงินช่วยประเทศกำลังพัฒนาต้องเข้าถึงง่ายและถูกนำมาใช้ในการพัฒนาจริง
2. Market Adoption ธุรกิจที่ดีหาทุนง่าย ต้นทุนต่ำ มีกำไร ธุรกิจปัจจุบันเป็นตลาดของการจับคู่ (Matching) คือ การลงทุนทำสิ่งที่ชอบและหาคนพร้อมจ่ายเงินเพื่อสิ่งนั้นให้เจอ วันนี้ธุรกิจที่ดีต้องหาทุนได้ ทำต้นทุนให้ต่ำ และทำกำไรได้ ต้องทำให้สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นพรีเมียม เพื่อหาคนพร้อมจ่ายเงิน
3. Micro Transformation องค์กรพร้อมสำหรับทุกโอกาส ในอดีตการตั้งบริษัทหรือธุรกิจ คือสิ่งที่เราจะทำ แต่วันนี้สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่ใช่ธุรกิจที่เราทำ แต่เป็นการสร้างศักยภาพในองค์กรให้พร้อมทำธุรกิจอะไรก็ได้ มากกว่าเดิมที่ทำอยู่ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกองค์กรต้องปรับตัว เพื่อโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ และหารายได้
ธุรกิจไทยหลายธุรกิจ พยายามหาธุรกิจใหม่เพิ่มจากเดิมที่ทำอยู่ เพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจเดียว แต่ก็หาไม่เจอหรือลงทุนแล้วไม่สำเร็จ เพราะ "ไม่ง่าย"
แต่หากต้องการสร้างการเติบโตยั่งยืนวันนี้ไม่ต้องคุยแล้วว่ายากหรือง่าย แต่ต้องคุยว่าจะทำอย่างไรจึงสำเร็จ ไม่เช่นนั้น Mindset จะไปอยู่ที่เงื่อนไข ไม่ใช่เป้าหมาย โดยต้องใช้ความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ "เป้าหมาย" เชื่อว่าไม่ว่าเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีในการที่ประเทศไทยจะเติบโตไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
"เมื่อเราพูดถึง What’s Next การเติบโตที่ยังยืน เรากำลังพูดถึงความพยายามในการแก้ปัญหาของวันนี้ โดยไม่เพิ่มปัญหาในวันพรุ่งนี้ และสร้างต้นทุนที่ดีสำหรับวันต่อไป นั่นแปลว่าเราต้องเหนื่อยมากขึ้น"
วันนี้โจทย์ยากกลายเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีบทบาทในเวทีโลก

อึ้ง “วัยทำงาน” 65% เครียดสูง ป่วยจิต! CMMU มอง Sustainable Well-being เครื่องมือขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน รากฐานสร้...
13/07/2025

อึ้ง “วัยทำงาน” 65% เครียดสูง ป่วยจิต! CMMU มอง Sustainable Well-being เครื่องมือขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน รากฐานสร้างองค์กรยั่งยืน
“Sustainable” กับ “Well-being” มองเผินๆ ไม่น่าจะมาเชื่อมโยงกันได้ แต่ในวันที่โลกเต็มไปด้วยความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การจะพาองค์กรเติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากองค์กรต้องพร้อมปรับตัวรับมือในทุกสถานการณ์ การที่คนในองค์กรมี “สุขภาวะดีที่ยั่งยืน” (Sustainable Well-being) ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย เพราะไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ในงานเสวนา ESGNIVERSE 2025 : Real – World of Sustainability จักรวาลแห่งความยั่งยืน จัดโดย Brand Buffet ร่วมกับ SD Thailand ในหัวข้อ Sustainable Well-being & High Performance for Workplace (or corporate) Sustainability โดย "รศ.ดร.สุภรักษ์ สุริยันเกียรติแก้ว" ผู้ช่วยคณบดีหน่วยธุรกิจและสังคมสัมพันธ์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้ฉายแนวคิด Sustainable Well-Being ให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดเจนว่าคืออะไร และสำคัญอย่างไร

อึ้ง! “วัยทำงาน” 65% เครียดสูง ป่วยจิต

ทั้ง Sustainable และ Well-being เป็นคำที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเทรนด์มาแรงทั้งในระดับโลกและในไทย ทำให้ถูกพูดถึงมาหลายปี แต่เมื่อมองเฉพาะ Well-being รศ.ดร.สุภรักษ์ บอกว่า ส่วนใหญ่คิดว่าหมายถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แค่คนมีความสุข มีสุขภาพดีเท่านั้น ทว่ายังหมายรวมไปถึงการมี “Performance” ที่ดีด้วย เพราะหากเราสบายดี เวลาทำงาน ประสิทธิภาพก็สูง ในทางกลับกัน ถ้าพนักงานไม่สบาย ประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลง เมื่อนำมารวมกับ Sustainable จึงหมายถึงการมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนนั่นเอง
แล้ว Sustainable Well-being สำคัญอย่างไร? รศ.ดร.สุภรักษ์ บอกว่า ทุกวันนี้คนไทยมีปัญหาสุขภาวะสูง โดยเฉพาะวัยทำงาน จากข้อมูลวิจัยพบว่า 71% ของประชากรไทยทั้งหมด 66 ล้านคน เป็นวัยทำงาน หรือประมาณ 40 ล้านคน และประมาณ 20% เป็นคนสูงวัย และจะเพิ่มมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งยังพบว่า มากกว่า 50% ของคนวัยทำงาน หรือประมาณ 20 ล้านคน เจ็บป่วยเป็นโรคที่ไม่ติดต่อ (NCDs) ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน ความดัน หัวใจ และโรคอ้วน
แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ มากกว่า 65% มีปัญหาสุขภาพจิตใจ (Mental Well-Being) จากความเครียดต่างๆ ขณะเดียวกันยังมีอาการหดหู่ไม่อยากไปทำงาน หรือภาวะ Burnout, Brown-Out และ Disengagement ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรด้วย
สุขภาวะพนักงานคือ รากฐานองค์กรที่ยั่งยืน

จากการวิจัยพบว่า การเจ็บป่วย ส่งผลให้มีวันทำงานของพนักงานสูญเสียไปถึง 73 วันใน 1 ปี ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าประเทศออสเตรเลีย ที่มีวันทำงานสูญเสียเพียง 49 วัน อีกทั้งต้นทุนการผลิตยังสูงขึ้น อย่างเช่นภาวะโรคอ้วน ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 บาท แถมประสิทธิภาพการทำงานยังลดลงถึง 22% ทีเดียว ในขณะที่ปัญหาสุขภาพใจ ส่งผลให้พนักงานทำงานได้ลดลงเพียง 50% เท่านั้น
นี่จึงเป็นเรื่องที่องค์กรต้องกลับมาตระหนักมากขึ้น เพราะคนคือ หัวใจในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ดังนั้น การจะพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน จึงต้องมี “Sustainable Well-Being” ด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรง ผ่านการเกื้อกูลกันในที่ทำงาน หรือมีระบบนิเวศการทำงานแบบ Supportive Workplace Environment
“Sustainable Well-Being ไม่ใช่ Fashionable Trend ที่มาแล้วไป แต่เป็น Mega Trend ในแง่ Societal Impact และเกี่ยวข้องกับ UNSDG Goal ข้อ 3 เรื่องของ Good Health and Well-Being”
รศ.ดร.สุภรักษ์ บอกว่า เบื้องต้นได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนัก 8 เพื่อทำการวิจัยเรื่อง Sustainable Well-Being เชิงลึก ครอบคลุม 7+1 มิติ พร้อมกับพัฒนาเครื่องมือเพื่อศึกษาอินไซต์และวัดระดับสุขภาวะของพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ไปจนถึงผู้จัดการ และพนักงาน และองค์กรทุกขนาด โดยเก็บข้อมูลกว่า 1,000 ตัวอย่าง ควบคู่กับการอ่านงานวรรณกรรมกว่า 600 เล่ม
ทำให้พบว่า การขับเคลื่อนองค์กรให้ยั่งยืนในเชิงของ Sustainable Well-Being ต้องประกอบด้วย 4 มิติ คือ 1.Physical Well-being สุขภาพกายดี 2.Mental Well-being สุขภาพใจดี 3.Social-Environmental Well-being สภาวะสังคมสิ่งแวดล้อมดี และ 4.Intellectual Well-being สุขภาวะทางปัญญาดี โดย มิติสังคมสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจมากที่สุด เพราะมองว่าเป็นหัวใจให้องค์กรเกิด Well-being ในมิติทางกาย ใจ และปัญญาตามมา
นอกจากนี้ ยังพบ 3 องค์กรที่ได้รับคะแนนมากสุดคือ บริษัท เงินมาธุรกิจ จำกัด, บริษัท แสงไทยเมตัลดรัม จำกัด และบริษัท ซีอาร์ซี ไทยวัสดุ จำกัด ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งสะท้อนได้จากการลดอัตราการขาดลามาสาย พนักงานเองก็ Happy ในการทำงาน อีกทั้งองค์กรยังสามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
จากความสำเร็จในเฟสแรก จึงต่อยอดสู่เฟส 2 ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น SWi Web Application เพื่อเป็นเครื่องมือให้ทุกองค์กรสามารถนำไปวัดสุขภาวะพนักงานทุกมิติ ทั้ง Well-being, Sustainability และ Engagement ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา
ถึงตอนนี้หลายองค์กรคงอยากรู้กันแล้วว่า สุขภาวะพนักงานในองค์กรของตัวเองเป็นอย่างไร เพื่อที่จะสร้างสุขภาวะให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น และทำให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

อุ๊ย!! ผลสำรวจพบ WFH  พนักงานแอบงีบระหว่างวัน 48% "นักการตลาด - นักการเงิน" อยู่ในอันดับต้นๆบางที “ความจริง” ก็ทำให้หลาย...
13/07/2025

อุ๊ย!! ผลสำรวจพบ WFH พนักงานแอบงีบระหว่างวัน 48% "นักการตลาด - นักการเงิน" อยู่ในอันดับต้นๆ
บางที “ความจริง” ก็ทำให้หลายคนเขินกันเลยทีเดียว เพราะมีการสำรวจพบว่า พนักงานที่ได้สิทธิ์ Work From Home หรือได้สิทธิ์การทำงานแบบไฮบริดจากออฟฟิศนั้นมีการเล่นเกม “ซ่อนตาดำ” ในระหว่างวันมากถึง 48%
นอกจากนั้น การสำรวจยังพบด้วยว่า ช่วงเวลาที่พนักงานนอนหลับพักผ่อนก็คือช่วงหลังมื้ออาหารกลางวัน ซึ่งการอยู่บ้านทำให้พวกเขาสบายใจที่จะขอพักงีบมากกว่าตอนอยู่ที่ออฟฟิศ ที่อาจไม่มีห้องเป็นสัดเป็นส่วนให้นอนหลับได้อย่างสบายใจ
ทั้งนี้ ผลสำรวจยังพบด้วยว่า 53% ของคนที่ยอมรับว่าตัวเองเล่นเกมซ่อนตาดำนั้น คือพนักงานระดับผู้จัดการ ขณะที่พนักงานระดับปฏิบัติการก็มีการนอนหลับเช่นกัน โดยอยู่ที่ 48%
ส่วนพนักงานคนไทยที่ได้สิทธิ์ Work From Home ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะผลการสำรวจนี้จัดทำขึ้นโดย Amerisleep บริษัทผู้ผลิตที่นอนของสหรัฐอเมริกา (มีผู้ตอบแบบสอบถาม 1,002 คน) โดยผลสำรวจของ Amerisleep พบว่า เฉลี่ยแล้วพนักงานจะนอนกลางวันประมาณ 1.3 ชั่วโมง โดยพนักงาน Gen Z เกือบ 60% ยอมรับว่าพวกเขางีบหลับขณะทำงาน ส่วนมิลเลนเนียลอยู่ที่ 51% และ Gen X อยู่ที่ 39%
ผลการสำรวจของ Amerisleep ยังพบด้วยว่า นักการตลาดและนักการเงินอยู่ในอันดับต้นๆ ของการงีบระหว่างเวลางาน (59%) รองลงมาคือพนักงานในอุตสาหกรรมบริการ/อาหาร (54%) การศึกษา (53%) และค้าปลีก/อีคอมเมิร์ซ (51%)
ผู้บริหารมองอย่างไร ถ้ารู้ว่าพนักงานแอบงีบ

ในส่วนของผู้บริหาร ทาง Amerisleep ก็มีการสำรวจความคิดเห็นเช่นกัน และพบว่า 36% ไม่ติดขัดอะไรกับการนอนหลับพักงีบของพนักงาน และผู้จัดการส่วนใหญ่ (73%) สนับสนุนแนวคิดให้พนักงานงีบหลับระหว่างเวลาทำงานได้ ตราบใดที่พวกเขายังทำงานตรงตามกำหนดเวลา หรือรับมือกับปริมาณงานได้ พร้อมระบุว่า ความยืดหยุ่นนี้อาจเคยดูสุดโต่ง แต่มันกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานแบบ Work From Home ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้นายจ้างไม่พอใจจากการงีบหลับของพนักงานก็มีอยู่ นั่นคือ การพบว่า พนักงานบางส่วน (58%) เลือกที่จะปิดบังว่าพวกเขาแอบไปงีบ ด้วยการใส่ตารางประชุมปลอมไว้ในปฏิทิน เพื่อให้ดูเหมือนว่าตนเองมีงานที่ห้ามรบกวนอยู่
แต่ในอีกด้าน การได้พักผ่อนเป็นเวลาสั้น ๆ ก็ทำให้พนักงานกลับมามีสมาธิ มีแรงจูงใจในการทำงานมากกว่าคนที่ไม่เคยได้นอนหลับในระหว่างวันเลย อีกทั้งยังพบว่า มีพนักงานถึง 55% รู้สึกดีกับหัวหน้า-บริษัทที่อนุญาตให้งีบหลับตอนกลางวันมากขึ้นอีกด้วย

12/07/2025

สงครามยังไม่จบ..
MK ส่ง Fighting Brand ใหม่
BONUS SUKI (โบนัส สุกี้)
บุฟเฟ่ต์ราคา 219 บาท
สาขาแรก โรบินสัน สระบุรี
เปิด 16 ก.ค.นี้

SUNSU หมึกกรุบ จัดใหญ่ให้แฟนๆ “หมึกกรุบ หมัดเด็ด Tastival” โชว์พลังและยกระดับแบรนด์ให้เป็นมากกว่า Snack มัดรวมบรรยากาศสุ...
12/07/2025

SUNSU หมึกกรุบ จัดใหญ่ให้แฟนๆ “หมึกกรุบ หมัดเด็ด Tastival” โชว์พลังและยกระดับแบรนด์ให้เป็นมากกว่า Snack

มัดรวมบรรยากาศสุดมันส์ ในงาน ‘หมึกกรุบ หมัดเด็ด Tastival’ – เปิดตัวสินค้าใหม่ในเครือ SUNSU ยิ่งใหญ่ใจกลางสยาม อัดแน่นความสนุกครบรส รอยยิ้มจัดเต็ม! พร้อม กิจกรรม-รางวัล-มินิคอนเสิร์ต ต้าห์อู๋ Tilly Birds สุดทัชใจ

แม้งาน ‘หมึกกรุบ หมัดเด็ด Tastival’ จะจบลงไปแล้วสดๆ ร้อนๆ แต่ความสนุกสุดประทับใจยังคงตราตรึง เพราะคนให้การตอบรับมาร่วมงานอย่างล้นหลาม แล้ว Journey ความสนุกของงานสุดแค่ไหน Brand Buffet จะเล่าแบบลงรายละเอียดให้ทุกคนได้เห็นภาพไปตามๆ กัน

เริ่มตั้งแต่ภาพรวมบรรยากาศงานที่เต็มไปสวยสีสันจัดจ้าน กับงานอีเวนท์ใจกลางสยามของหมึกกรุบ ที่ยังคงคอนเซปต์ TASTIVAL คือ Festival ที่ให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ก่อนใครครั้งแรกในงาน โดยในงานมีการแจกเมนูอาหารสุดครีเอทที่ใช้หมึกกรุบมาเป็นท็อปปิ้งแมชกับเมนูต่างๆ ตามรสชาติที่ออกใหม่ล่าสุด 3 รสชาติ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสุดมันส์แบบเต็มแมกซ์!! ได้แก่

● กลิ่นปูผัดผงกะหรี่ – หอม มัน นัว กล่มกล่อม จากเครื่องแกงกะหรี่แบบไทยๆ ตอบโจทย์สายไม่ทานเผ็ดสุดๆ
● รสก๋วยเตี๋ยวเรือ – อร่อยแบบเข้มขนเหมือนได้ยกซดน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือแบบหมดชาม พร้อมความเผ็ดแบบชิลๆ
● รสน้ำจิ้มงา – กลิ่นความหอมเข้มของงา อบอวลจนเหมือนได้กินน้ำจิ้มงาในร้านชาบูหม่าล่า

โดยเคล็ดลับการออกรสชาติใหม่ทั้ง 3 รส ทำออกมาเพื่อตอบรับเสียงเรียกร้องจากลูกค้า ที่ได้อินไซต์มาอย่างน่าสนใจว่า อยากทานหมึกกรุบที่เผ็ดน้อยลง ครั้งนี้ หมึกกรุบ SUNSU เลยออกรสชาติที่เผ็ดน้อยลงและนำเสนอรสชาติที่ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังได้มีการเปิดตัวหนัง TVC ของหมึกกรุบรสชาติใหม่ครั้งแรกในงาน https://www.facebook.com/share/v/199b32zUMc/

โดยคอนเซปต์ของ TVC ขยี้ให้ผู้ชมจดจำรสชาติทั้ง 3 รสชาติได้ โดยไม่ต้องรู้ว่ามีที่มาที่ไปยังไง แค่รู้ไว้ว่าหมึกกรุบ SUNSU 3 รสใหม่มาแล้ววววก็พอ! เรียกได้ว่าเป็น TVC ที่เข้าถึงง่าย มีความกวนนิดๆ โดนใจคนรุ่นใหม่หน่อยๆ แน่นอน

ภายในงานยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมที่เล่นฟรีทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมแลกของรางวัล ที่ตั้งแต่วัยจิ๋วไปจนถึงวัยโจ๋ ต่างเข้ามาต่อแถวเล่นเกมเพื่อลุ้นของรางวัลกันอย่างคับคั่ง ที่พีคสุดคือ มีการแจกของรางวัลมูลค่ารวมกว่าหลักแสนบาท ทั้งทองคำ 1 บาท ตั๋วเครื่องบินไป-กลับเซี่ยงไฮ้ Play Station 5 หูฟัง Marshall จักรยานไฟฟ้า เป็นต้น

นอกจากความสนุกสุดมันส์แล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับ Mini Concert และโชว์สุดพิเศษ จากศิลปินดัง ทั้งต้าห์อู๋ และ TillyBirds อีกด้วย

ไฮไลต์ทั้งหมดนี้ เลยทำให้จุด Check-in และพื้นที่ภายในงานคับคั่งไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ SUNSU และเต็มไปด้วยความสนุก รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ

ปิดท้ายด้วยแผนการตลาด เคล็ดลับที่ไม่ลับของ SUNSU จาก ซารต์ – ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช และ กานต์ – อรรถกร รัตนารมย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซันซุโซลูชั่น จำกัด ว่า “ปีนี้เราตั้งใจจะพัฒนาแบรนด์ ‘หมึกกรุบ’ ในทุกๆ มุม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Value, Positioning, Tagline รวมถึง IP Character ซึ่งเป็นตัวแทนในการสร้างการจดจำของแบรนด์ เพื่อยกระดับแบรนด์หมึกกรุบ ให้เป็นมากกว่า Snack ที่กินเล่น ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ในทุกๆ เจเนอเรชั่น, ทุกๆ ความหลงใหล และในทุกๆ Micro Moment”

เรียกได้ว่า งาน ‘หมึกกรุบ หมัดเด็ด Tastival’ คืองานที่รวมทุกความมันส์ ทุกความประทับใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์หมึกกรุบ ต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ถึงตัวตนและความรู้สึกของแบรนด์ ซึ่งถ้างานนี้จัดขึ้นอีกในปีหน้า ขอบอกเลยว่า ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด!

"ทุกคนสามารถเปลี่ยนโลกได้ในแบบของตัวเอง ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรี หรือซีอีโอ – แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในจุดที่ตัวเองย...
12/07/2025

"ทุกคนสามารถเปลี่ยนโลกได้ในแบบของตัวเอง ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรี หรือซีอีโอ – แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในจุดที่ตัวเองยืนอยู่ เพราะธุรกิจและแบรนด์ที่อยากพูดเรื่องโลก ไม่จำเป็นต้องเป็น NGO ... แค่เล่าให้จริง เล่าให้ถึง และทำให้เห็นว่าคุณแคร์ มากพอ"

คุณสิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
นักนักทำสารคดี / นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม

#เถื่อนTravel Wannasingh Prasertkul (วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล)

บาร์บีคิวพลาซ่า ผงาดเวทีโลก! ชวนคนไทยร่วมฉลอง "คามะจังหน้าบึ้ง" คว้ารางวัล Gold จาก Cannes Lions ตอกย้ำพลังการตลาดพลังบว...
11/07/2025

บาร์บีคิวพลาซ่า ผงาดเวทีโลก! ชวนคนไทยร่วมฉลอง "คามะจังหน้าบึ้ง" คว้ารางวัล Gold จาก Cannes Lions ตอกย้ำพลังการตลาดพลังบวก สะท้อนพลังของแบรนด์ที่ “ฟังอย่างเข้าใจ และพูดด้วยหัวใจ”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.brandbuffet.in.th/2025/07/bar-b-q-plaza-win-gold-cannes-lions-2025/

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Brand Buffet posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Brand Buffet:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share