พุงพลุ้ยคุยไปเรื่อย

พุงพลุ้ยคุยไปเรื่อย ทำเอาไว้อ่านตอนขี้

19/05/2025

รู้จักเส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์–คุนหมิง (SKRL): 5,500 กิโลเมตรแห่งการเชื่อมต่อเอเชีย! 🚄🌏

ถ้าพูดถึงโครงการคมนาคมระดับภูมิภาคที่น่าจับตามองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในนั้นต้องยกให้ “Singapore–Kunming Rail Link” หรือ SKRL ที่กำลังค่อย ๆ ปูทางเชื่อมหลายประเทศเข้าด้วยกันผ่าน “ระบบราง” อย่างแท้จริง

วันนี้เรามาทำความรู้จักเส้นทางนี้ให้ลึกขึ้นกันครับ 🙌

SKRL: โครงข่ายรถไฟข้ามประเทศจากจีนสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เส้นทางนี้ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีนเข้ากับกลุ่มอาเซียน ผ่าน 3 เส้นหลัก โดยครอบคลุมทั้งการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า:

🔵 เส้นทางตะวันตก:
คุนหมิง – มัณฑะเลย์ – กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์
ระยะทางรวมประมาณ 4,760 กิโลเมตร ผ่านประเทศจีน เมียนมา ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์

🔴 เส้นทางสายกลาง:
คุนหมิง – เวียงจันทน์ – หนองคาย – กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์
ระยะทางรวมประมาณ 4,500 กิโลเมตร ผ่านประเทศจีน สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์
(เป็นเส้นทางที่มีความคืบหน้ามากที่สุดในตอนนี้!)

🟢 เส้นทางตะวันออก:
คุนหมิง – ฮานอย – นครโฮจิมินห์ – พนมเปญ – กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์
ระยะทางรวมประมาณ 5,500 กิโลเมตร ผ่านประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์

💡นอกจากนี้ ยังมี 7 โครงการระบบรางสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางนี้ เพื่อยกระดับการเดินทางและขนส่งในภูมิภาคให้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

SKRL ไม่ใช่แค่เส้นทางรถไฟธรรมดา แต่คือก้าวของการเชื่อมโยงระหว่างประเทศที่อาจเปลี่ยนภาพการเดินทางของทั้งภูมิภาคในอนาคต 🌐
ใครอยากรู้ว่าความคืบหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป... ติดตามกันได้เลย! 🚆✨

📌 ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage

#ระบบขนส่งทางราง #รถไฟสายสิงคโปร์_คุนหมิง #รถไฟความเร็วสูงไทย_ลาว_จีน #เดินทางด้วยรถไฟ #ขนส่งสินค้าทางราง #กรมการขนส่งทางราง

แค่ขอโทษประชาชนแค่นี้ยังเหนื่อย ยังกล้าอาสาจะมาดูแลประชาชนอีกเหรอ
19/04/2025

แค่ขอโทษประชาชนแค่นี้ยังเหนื่อย ยังกล้าอาสาจะมาดูแลประชาชนอีกเหรอ

“นายกเบี้ยว” พา “นายพีช” ขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย แต่มีการโต้เถียงกับ “กันจอมพลัง” ก่อน จนมีคำพูดว่า “เห็นใจผมบ้าง ผมเหนื่อยแล้วนะ ลูกผมก็ เอ้าขอโทษเขาไป” ซึ่งหลังจากนั้น “นายพีช” ได้ยกมือไหว้คุกเข่าต่อหน้าสื่อ
แต่ “กันจอมพลัง” ได้ดึงครอบครัวออกไม่รับคำขอโทษ ระบุแบบนี้เรียกมัดมือชก ก่อนพยายามถามว่าทำไมวันเกิดเหตุไม่เรียกรถพยาบาล แต่ “นากยกเบี้ยว” ก็ได้ดึงลูกขึ้นรถกลับออกไปทันที
้ายแดง #ขับปาดหน้า #ขับรถปาดหน้า #ลูกชายนักการเมือง #สมิทธิพัฒน์หลีนวรัตน์ #กฤษฎาหลีนวรัตน์ #ลูกชายนักการเมืองดัง #ปทุมธานี #นายกเบี้ยว #ลูกชายนายกเบี้ยว #กันจอมพลัง #เรื่องข่าวเรื่องใหญ่

นี่คือเรื่องเล่าของแฟรงก์ ซินาตรา นักร้องระดับตำนานที่มีเพลงระดับ "อมตะ" และเป็นชายผู้เกิดมาเพื่อชัยชนะ รวมถึงมากบารมีใน...
04/04/2025

นี่คือเรื่องเล่าของแฟรงก์ ซินาตรา นักร้องระดับตำนานที่มีเพลงระดับ "อมตะ" และเป็นชายผู้เกิดมาเพื่อชัยชนะ รวมถึงมากบารมี

ในคืนหนึ่ง เบอร์ตัน ลีออน "เบิร์ต" เรย์โนลส์ จูเนียร์ นักแสดงชาวอเมริกัน ได้รับเชิญให้ไปเล่นโป๊กเกอร์กับแฟรงก์ ซินาตรา และเพื่อน ๆ ของเขาในห้องด้านหลังของร้านอาหาร

ในระหว่างการเล่นเกมส์พนัน อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงแก้วแตกดังสนั่น "เพร้งงงงง"

ผู้จัดการเริ่มตะโกนใส่เด็กเสิร์ฟที่ชื่อเฮกเตอร์ พร้อมดุด่าว่ากล่าวด้วยเสียงดัง
ทันใดนั้น ซินาตราเรียกผู้จัดการมาหา แล้วถามว่า

“แก้วแต่ละใบราคาเท่าไหร่ ?” นักร้องเสียงกังวาลถาม

“ใบละหนึ่งดอลลาร์ครับ” ผู้จัดการตอบ

ทันใดนั้นซินาตราควักเงินสดออกมา 1000 USD

“เอาแก้วมาให้ผมมูลค่าหนึ่งพันดอลลาร์”

เมื่อแก้วมาถึง ซินาตราพูดกับเฮกเตอร์ว่า

“เขวี้ยงแก้วเฮงซวยพวกนั้นลงบนพื้นให้หมดเลยนะไอ้หนู”

ขณะที่เฮกเตอร์ผู้สับสนเริ่มทำลายแก้ว ซินาตราบอกผู้จัดการว่า

“ถ้ากูมาที่นี่แล้วไม่เห็นเฮกเตอร์ทำงานอยู่ กูจะบอกเพื่อน ๆ ของกูทุกคนว่าอย่ามาเหยียบไอร้านเวรที่นี่อีกเลย”

ทันใดนั้นเอง เบิร์ตก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู

“คุณจะไปไหน เบิร์ต?” ซินาตราตะโกนถาม
“ผมได้เรื่องราวของแฟรงก์ ซินาตราของผมแล้ว” เบิร์ตตอบ

“นั่งลงเล่นไพ่ต่อ” ซิตาตราพูด ก่อนที่ทุกคนจะเอ็นจอยกับวงไพ่ของพวกเขาต่อ

นานทีจะมารีวิวครับ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าที่หายไปเนี่ย เพราะงานล้วน ๆ ครับ ไม่ได้ขี้เกียจแต่อย่างใด ผมทำงานในฐานะแรงงานอยู...
28/07/2024

นานทีจะมารีวิวครับ

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าที่หายไปเนี่ย เพราะงานล้วน ๆ ครับ ไม่ได้ขี้เกียจแต่อย่างใด ผมทำงานในฐานะแรงงานอยู่ในระบบขนส่งทางรางมาประมาณ 4 ปีแล้ว และเริ่มได้มีโอกาสไปตามสถานที่ต่าง ๆ วันนี้เลยจะมาขอรีวิวทริปล่าสุดที่พึ่งไปมาครับ

เป็นการเดินทางจากเวียงจันทน์ 🇱🇦 ไปยังนครคุนหมิง 🇨🇳 ด้วยรถไฟลาว - จีน

เริ่มต้นผมได้ไปเข้าร่วมพิธีเปิดรถช่วงกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) - เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) มาเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 67 ก็ถือว่าโอเคกับพัฒนาการของระบบรางที่เพิ่มขึ้น หลังจากแต่ก่อนเนี่ยต้องไปดร็อปที่ทานาแล้ง ซึ่งเป็นสถานีเก่า ๆ ไม่ได้สะดวกอะไร (สถานีคำสะหวาด อยู่คนละที่กับสถานีรถไฟลาว - จีนนะครับ ต้องต่อรถไปอีก)

รีวิวการนั่งรถไฟระหว่างประเทศด้วยขบวนรถไฟ D88 (น้องเขียว)

- นั่งยาวจากเวียงจันทน์ไปถึถึงบ่อเต็น ซึ่งเป็นชายแดนของ 🇱🇦

- ยกกระเป๋าสัมภาระลงครั้งที่ 1 เพื่อไปตรวจสำหรับขาออกประเทศ 1 รอบแล้วกลับมานั่งคุณพี่ D88 คันเดิม ที่นั่งเดิม

- เดินทางด้วยรถไฟอีก 12 นาที ถึงบ่อหาน ชายแดนของประเทศ 🇨🇳

- ตรวจคนเข้าเมืองอีกรอบ ยกกระเป๋าสัมภาระลงจากขบวนรถอีกครั้ง เพื่อไปสแกน ทำพิธีทางศุลกากร + ตรวจคนเข้าเมือง

-ก่อนกลับมานั่งคุณ D88 คันเดิม ที่นั่งเดิม เหมือนเดจาวู ก่อนนั่งอีกประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงจะเดินทางถึงคุนหมิง

- ราคานั่งยาวทั้งเส้นจากเวียงจันทน์มาคุนหมิง สิริรวมประมาณ 3,750 ฿

- นั่ง First Class Seat ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของรถไฟขบวนระหว่างประเทศ (รถไฟลาว-จีน ที่วิ่งภายในประเทศ มี Business Class นั่งโครตสบาย แต่มีจำนวนไม่เยอะ)

- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชม.

- อาหารบนรถไฟไม่ค่อยอร่อย อร่อยสุดคือชานม

- ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยส่วนตัวนั่งเครื่องดีกว่า เพราะโดยปกติรถไฟถ้านั่งยาวเกิน 3 ชม. สำหรับผมคือไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าอยากเปิดประสบการณ์สำรวจเส้นทางก็อีกเรื่องนึง

- ปี 71 ไทยจะเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกจากกรุงเทพ - โคราช โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30 ชม. ก็หวังว่าจะไม่เลื่อนอีก เพราะลองนั่งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าพลังแม่เหล็ก ในต่างประเทศมาแล้ว ก็อยากลองนั่งในประเทศบ้านเกิดของตัวเองบ้างครับ

แวะมาทักทายครับ หากมีเวลาจะกลับมาทำต่อแน่ ๆ ครับ

“ผีดูดเลือดแห่งซาคราเมนโต”ริชาร์ด เชส ถือกำเนิดในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1950 เขามีฉายาว่า “ผีดู...
09/06/2024

“ผีดูดเลือดแห่งซาคราเมนโต”

ริชาร์ด เชส ถือกำเนิดในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1950 เขามีฉายาว่า “ผีดูดเลือดแห่งซาคราเมนโต” เนื่องจากเขาไช่ฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย ในระยะเวลาแค่เดือนเดียว ซ้ำร้ายยังกินเนื้อของเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม

แน่นอนว่า คนแบบนี้น่าจะมีปัญหาทางจิต จากการสันนิษฐานทราบว่า สมัยเด็กนั้น ริชาร์ดมีปัญหาทางจิต บวกกับใช้ยาเสพติด และติดแอลกอฮอล์เรื้อรัง ส่งผลให้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

โดยเจ้าตัวมีความเชื่อว่าของเหลวหรือ เลือดในร่างกายของเขามีแต่พิษเขาเลยหาวิธีมากมาย ในการรักษา
แต่ส่วนใหญ่ล้วนหลุดโลกทั้งสิ้น เช่น การฉีดเลือดของกระต่ายเขาร่างกาย (แหวะ) ซ้ำคนบ้าแบบนี้เคยถูกส่งตัวเข้าไปรักษาโรงพยาบาล แต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมา อย่างรวดเร็ว (ห้ะ)

ริชาร์ดทำการฆาตกรรมครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 1977 ในตอนนั้น เขาอาศัยอยู่คนเดียว ด้อม ๆ มอง ๆ ประมาณว่าเห็นใครถูกใจ ก็จะฆ่า หวยเลยออกมาที่
แอมโบรส กรีฟฟิน วิศวกรวัย 51 ปี คุณพ่อลูกสอง ที่กำลังเดินอยู่ดี ๆ ไอคุณฆาตกรใช้เหี้ยมก็พุ่งปรี่เข้ามากระหน่ำลูกปืนใส่แบบไม่ยั้งจนถึงแก่ความตาย

ส่วนรายที่สอง เทเรซ่า วิลลิน สาวสวยที่พึ่งตั้งท้องได้ 3 เดือน ถูกฆ่าและข่มขืนอย่างน่าเวทนา ซ้ำร้ายศพยังถูกชำแหละเพื่อนำเนื้อ มากินและเอาเลือดมาดื่ม อย่างกระหายเลือด

แต่ครั้งที่โหดที่สุด คือการฆ่าครั้งสุดท้ายของเขาในวันที่ 27 มกราคม 1978 ริชาร์ดทำการ ฆ่ายกครัวครอบครัวของเอเวอร์ลีน มิรอธ พร้อมด้วยลูกน้อยวัย 6 เดือน และหลานชายอีกคนนึง เมื่อทุกคนในบ้านตายเรียบเขาย่ำยีศพเอเวอร์ลีน ท่ามกลางกองเลือด พร้อมกับร่วมรักกับศพ ก่อนจะกินและดื่มเลือดราวกับสัตว์ประหลาด

สุดท้าย ด้วยความโหดผิดมนุษย์แบบนี้ ตำรวจก็เร่งสืบคดีจนพบว่าฆาตกรจอมโหดรายนี้เป็นใคร และแน่นอนว่าริชาร์ดก็โดนรวบในทันที ก่อนถูกศาลสั่งประหารชีวิต

แต่กระนั้น จะตายก็ขอตายด้วยมือตัวเอง เพราะริชาร์ดชิงฆ่าตัวตายก่อนที่ตัวเองจะถูกรมณ์แก๊ส ด้วยการกินยาเกินขนาดในวันที่ 26 ธันวาคม 1980 หรือ 1 วันให้หลังจากวันคริสมาสต์

และแม้ว่าเจ้าผีดิบเดินดินจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว
แต่เรื่องราวพฤติกรรมที่ทั้งแปลก โหดเหี้ยมของฆาตกรคนนี้ ยังอยู่ในใจของคนอเมริกาจนถึงทุกวันนี้.

21/11/2023

เห็นเรื่องภูมิพลังวัฒนธรรม (Soft Power) แล้วคันมือต้องเปิดเพจมานั่งพิมพ์จริง ๆ

อธิบาย Soft Power ในมุมมองของเด็กรัฐศาสตร์แบบผม = อำนาจที่เข้าไปมีอิทธิพลเหนือประเทศอื่นในรูปแบบที่ไม่ใช้กำลัง ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลเรื่อง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ถ้าการเผยแพร่ด้านวัฒนธรรมที่ไทยสามารถเข้าไปมีอำนาจ และต่างประเทศชอบ พร้องเปิดรับและทำ

แล้วมองมาที่โจทย์ของประเทศไทยว่าอะไรคือ Soft Power ของเรา

อาหารก็อาจเข้าเค้า Street Food ก็อาจจะได้ เพราะเรามีจุดขายเรื่องนี้มานาน และปรับปรุงมาตลอด แต่ตัว Product ไม่ใช่ Soft Power ในตัวมันเอง Product คือทางผ่านไปสู่เป้าหมายที่อยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นเลิศด้านอะไรเพราะงั้นการจะบอกให้หมูกระทะ นางงาม มิ้นต์ช็อค ท่องเที่ยวเป็น Soft Power ทุกอย่างนี่ไร้สาระ

ถ้ายกตัวอย่างโดยเทียบให้เห็นชัดในเรื่องอาหาร ผลกลับมองว่า เกาหลีนี่โครตเก่งเรื่องยกระดับอาหารผ่าน Soft Power ผ่านทางทางซีรี่ย์ ไม่ว่าจะรามยอน โซจู ปิ้งย่าง ที่มันบูมเพราะซีรี่ย์มันสนุก มันก็เผยแพร่ผ่านทางซีรี่ย์

กลับกัน ผมมองไปที่จุดนึงของประเทศไทย ที่นึกออกแบบไม่น่าเชื่อ นั่นคือ "การนวด"

ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก ประเทศเรานี่นวดเก่งมาก

นำมาซึ่งอาชีพหมอนวด

มาไทยต้องนวด ส่งออกหมอนวด มาเลย์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี นี่ชอบนวดทั้งนั้น ไม่รวมฝรั่งอีก นี่ถ้าเปิดกว้างเรื่อง นวดกะปู๋ได้ รับรองรายได้เข้าประเทศเพียบ

เสียงกระซิบสั่งตายเวลาประมาณ 6 โมงครึ่งของวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน ปี 1974 โรนัลด์ โจเซฟ เดเฟโอ จูเนียร์ หนุ่มวัย 23 ปีวิ่...
09/10/2023

เสียงกระซิบสั่งตาย
เวลาประมาณ 6 โมงครึ่งของวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน ปี 1974 โรนัลด์ โจเซฟ เดเฟโอ จูเนียร์ หนุ่มวัย 23 ปีวิ่งตาตื่นเข้าไปในบาร์แห่งหนี่งในนิวยอร์ค แล้วร้องเสียงหลงว่า " พวกคุณต้องช่วยผม พ่อแม่ผมโดนยิง !"

จากนั้นไม่นานเดเฟโอและคนกลุ่มนึงรีบวิ่งที่ไปบ้านหลังหนึ่ง มันคือบ้านในแถบ "อมิตี้วิลต์" ที่นั่นพบศพของครอบครัวเดเฟโอนอนจมกองเลือดกันยกบ้านทั้ง 6 ศพ ไล่ตั้งแต่ พ่อและแม่ และพี่น้องทั้ง 4 คน (จอห์น อายุ 18, อลิสัน 13, มาร์ช 12 และ แมทธิว 9) โดยเหยื่อทั้งหมดถูกยิงด้วยปืน .35 และสันนิษฐานว่ากลายเป็นศพตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน
โดยศพของผู้เป็นพ่อและแม่โดนยิงคนละ 2 นัดเสียชีวิตในทันที ส่วนเด็กๆ โดนคนละนัด แต่กระนั้นจากหลักฐานที่พบ คาดว่าเดเฟโอผู้แม่ กับ อลิสสัน น่าจะตื่นอยู่ก่อนจะเสียชีวิต นอกนั้นเสียชีวิตในขณะนอนหลับ และศพทั้งหมดนอนก้มหน้าโดยมีสีเลือดนองเต็มพื้น เหตุการณ์ทั้งหมดคาดว่าเกิดขึ้น ณ เวลา 03.15

โดยครอบครัวเดเฟโอเข้ามาเป็นเจ้าของบ้านแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1965 โดยโรนัลด์ เดเฟโอ จูเนียร์ หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่า "บุช" เป็นบุตรชายคนโตของตระกูล และเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เขาถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยาน เพราะนี่อาจจะเป็นการสังหารหมู่เนื่องจากปมขัดแย้งก็เป็นได้ ต่อมาตำรวจได้รวบตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งชื่อว่า ฟาลินี่ แต่กระนั้นเมื่อพยายามสืบสวนสอบปากคำไปก็พบว่า ฟาลินี่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงลองสอบสวนโรนัลด์ดู และในที่สุดเขาก็สารภาพออกมาว่า "ในตอนที่ผมเริ่มฆ่า ผมหยุดไม่ได้" และเมื่อฆ่าทุกคนแล้วก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานตามปกติ
ตำรวจจึงจับกุมเขาในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่ 14 ตุลาคม 1975 หรือ 1 ปีนับแต่ก่อเหตุ ในวันนั้นเดเฟโอได้กล่าวด้วยความกลัวและตัวสั่นต่อหน้าศาลที่เคารพ เขาอ้างว่าเขาทำไปเพราะต้องการป้องกันตัว

"ผมได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าในบ้าน อยู่ๆ ก็มีมือสีดำยื่นปืนให้ผม ผมได้ยินเสียงคนทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น มันบอกให้ผมฆ่า ฆ่า และก็ฆ่า ในหัวมีแต่เสียงดังเต็มไปหมด ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมกลัวมาก และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรม"
ตำรวจเริ่มคิดว่าเดเฟโอน่าจะบ้า เลยลองสืบประวัติดู และส่งให้ไปพบจิตย์แพทย์ และก็พบความจริงที่ว่า เขาเป็นคนติดยาเสพย์ติดขนาดหนักประเภทเฮโรอีน รวมถึงยาบ้าและยากล่อมประสาท ชอบทำเรื่องเสียๆ หายๆ เขาต้องมีเรื่องขึ้นโรงพักมากกว่า 1 ครั้ง โดยข้อหาเป็นขโมย แม้ฐานะการเงินในครอบครัวมีกินพอใช้ก็ตาม

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ปีเดียวกันนั้นศาลตัดสินให้เจ้าตัวมีความผิดในฐานะฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รวมถึงความผิดอื่นๆอีก 5 กระทง รวมเวลาติดคุกแล้วประมาณ 150 ปี !

และเมื่อปีที่แล้วนี้เองเจ้าตัวพึ่งทำเรื่องขออุธรณ์ไปแต่ก็ถูกปฎิเสธกลับมา

และนี่คือเรื่องเล่าที่นำมาซึ่งตำนานหลอนของบ้าน อมิตี้วิวต์ ที่กลายเป็น 1 ในตำนานบ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งในอเมริกา
แต่ทว่าความสยองมันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะผ่านไปราว 1 ปีเศษ ครอบครัวลัทธ์ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น บ้านที่เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ โดยพวกเขาใช้เงินเพียง 80,000 เหรียญ แลกมาด้วยบ้านหลังใหญ่ ไม่มีการลงทุนใดจะคุ้มค่าเท่านี้อีกแล้ว และในวันขึ้นบ้านใหม่ก็ได้นิมนต์หลวงพ่อมาทำพิธีปัดเป่ารังควาน และในขณะมี่หลวงพ่อกำลังพรมน้ำมนต์ที่ชั้น 2 ข้างบันได ในห้องที่มาร์ช และ จอห์น เดเฟโอเสียชีวิตอยู่นั้น อยู่ดีๆก็มีเสียงดังขึ้นบอกหลวงพ่อว่า

"ออกไป"

ซึ่งทำให้หลวงพ่อต้องรีบพรมน้ำมนต์ แล้วเดินลงมาอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นหลวงพ่อไม่ได้เล่าถึงเรื่องดังกล่าวให้ครอบครัวลัทธ์ฟัง เพียงแต่บอกว่า "อย่าใช้ห้องชั้น 2 เป็นห้องนอนเด็ดขาด และอย่าให้ใครไปนอนในห้องนั้น" ซึ่งทั้งครอบครัวก็ตะลึงพอสมควร ก่อนเชื่อในคำพูดของหลวงพ่อ และทำให้ห้องนั้นเป็นห้องเย็บผ้า
เพียงแค่คืนแรกแค่คืนเดียวมันก็มากพอที่จะสร้างความกลัวให้แก่ครอบครัวลัทธ์ เมื่อพวกเขาได้กลิ่น "ประหลาด" คละคลุ้งอยู่เต็มบ้าน และนิสัยของทุกคนก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

เช่นจอร์จ ลัทธ์มีอาการหนาวสั่นตลอดคืนและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกะการนั่งผิงไฟที่เตาผิง และสังเกตุได้ว่าภรรยาของเขามีนิสัยประหลาดๆ ไม่ห่วงสวย หรือดูแลตัวเองเหมือนปกติ

ส่วนลูกสาวก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนอนของเธอ เธอบอกว่าเธอเล่นกับ "เพื่อนในจินตนาการ" เช่น โจอี้ เจ้าหมูตาแดง ที่สามารถขยายร่างได้ แถมโจดี้ยังบอกเธอว่า ไม่มีใครมองเห็นเธอ ยกเว้นคนที่เธอต้องการ
ความหลอนค่อยๆเกิดขึ้นทั่วบ้าน ไล่ตั้งแต่กลิ่นเหม็นเริ่มกระจายไปทั่วบ้าน เดินไปที่ไหนก็ได้กลิ่น และมาแรงขึ้นในช่วงปลายฤดูหนาว เมื่อจอร์จ ตื่นขึ้นมากลางดึกตอนเวลาตี 3:15 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ตำรวจวินิจฉัยว่าครอบครัวเดเฟโอถูกสังหาร

และเมื่อเขามองไปข้างๆ หวังจะไปกอดภรรยาเขาก็ต้องสะพรึงเมื่อคนที่นอนข้างๆไม่ใช่ภรรยา แต่เป็นยายแก่อายุราว 90 แทน ส่วนอีกคืนหนึ่ง ภรรยานอนอยู่ดีๆ ก็ลอยขึ้นเสียอย่างนั้น !!!!

เรื่องนี้ทำให้ครอบครัวลัทธ์ปั่นป่วนมาก พยายามโทรหาที่พึ่งทุกที่ จนในที่สุดจบที่โบสถ์ แต่ทว่า.... พอจะโทรไปที่โบสถ์สายโทรศัพท์ทั้งบ้านก็มีอันต้องดับไป ไม่สาม่รถใช้การได้ ราวกับมีพลังพิเศษมาจัดการเอาไว้
เมื่อพึ่งพระไม่ได้ก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง ว่าแล้วครอบครัวลัทธ์ก็เดินถือไม้กางเขนไปรอบบ้าน หวังจะปราบผี แต่ผีมันไม่ได้กลัวนี่สิ เพราะพอเดินไปเรื่อยๆ ก็มีเสียงกระซิบมาว่า

"จะหยุดได้หรือยัง"

ทำเอาทั้งครอบครัวขนลุกไปตามๆกัน แต่ที่เจอมาว่าหนักแล้ว คืนสุดท้ายก่อนย้ายออกเฮี้ยนหนักกว่า อยู่ดีๆของเล่นก็ส่งเสียงร้องออกมาเอง เฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็เคล้อนย้ายไปทั่ว
สุดท้ายครอบครัวลัทธ์อยู่ในบ้านหลังงามที่พวกเขาซื้อมาได้แค่เพียง 28 วันเท่านั้น และพวกเขากล่าวว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะหยิบสัมภาระไปบางส่วนและโกยแน่บไปอย่างไว ไปนอนบ้านแม่ของจอร์จแทน

20 วันหลังจากครอบครัวลัทธ์ย้ายออกไป พวกเขาได้นำเรื่องเหล่านี้ไปเล่าให้ที่โบสถ์ฟัง หลวงพ่อที่เคยมาพรมน้ำมนต์ให้รู้ดีว่ามัน "เฮี้ยน" เพียงใดจึงส่งเรื่องไปยังศาสนจักร บอกเล่านักข่าว บอกทุกคนว่าบ้านมันน่ากลัวอย่างไร เพื่อหวังจะให้หาคนมาจัดการ และก็โป๊ะเชะ เป็นสองผัวเมียนักล่าผี "เอ็ด และลอร์เลน" โดยคนที่ไปบอกคือตากล้องที่ช่วยสืบสวนสอบสวนคดีผีๆกับพวกวอร์เรน
เมื่อทั้งคู่มาถึงเขาอยากจะเชิญครอบครัวลัทธ์มาที่บ้าน แต่โดนปฎิเสธกลับมา เหตุเพราะว่าพวกเขากลัวบ้านหลังนี้จนขึ้นสมองแล้ว

เอ็ดสัมผัสได้ถึงบางอย่างในบ้าน ว่ามีพลังงานแปลกๆวนเวียนอยู่ ส่วนลอร์เลนก็รับรู้ถึงพลังแห่งปีศาจที่โอบล้อมบ้านหลังนี้เอาไว้ เธอเห็นในนิมิตว่าครอบครัวเดเฟโอนอนจมกองเลือดอยู่ในบ้านที่พื้นทั้งหมดเป็นสีขาว ก่อนที่ภาพจะหายวับไป !

และเมื่อทีมสำรวจที่เข้าไปด้วย บังเอิญจับภาพที่น่าขนลุกได้ เป็นภาพเด็กน้อยโผล่มาจากชั้น 2 กำลังยืนมองมาที่กล้อง ! ซ้ำยังสืบค้นพบว่าบ้านหลังนี้เคยเป็นของนักเวทย์มนต์ดำที่ชื่อว่า "จอห์น เคทชัม" และร่ายเวทย์มนต์คำสาปใส่บ้านไว้ตั้งแต่ปี 1924 พร้อมกับฝังร่างตัวเองเอาไว้ภายใต้ผืนดินของบ้านหลังดังกล่าว
ครอบครัวเดเฟโอไม่ใช่คนแรกที่สังเวยให้บ้านหลังนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีชาวอินเดียมาอยู่ที่บ้านและก็ต้องพบเจอกับความทุกข์ทรมานและป่วยตาย

ครอบครัววอร์เรนเชื่อว่าบ้านหลังนี้มีพลังงานด้านลบ และประวัติศาสตร์ที่ดำมืด และจากเหตุผลดังกล่าวเป็นเหมือนการเชิญชวนให้ปีศาจมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเดเฟโอ หรือ ครอบครัวลัทธ์ พวกเขาบอกให้ครอบครัวลัทธ์รีบย้ายออกไปซะ เพราะที่นี่น่ากลัวมาก ซึ่งสุดท้ายพวกเขาประกาศขายนับแต่ปี 1975 เป็นต้นมา และย้ายไปอยู่แคลิฟอเนียแทน

แต่เชื่อไหมว่าบ้านผีสิงหลังนี้กว่าจะขายออกไปได้นั้นต้องใช้เวลากว่า 35 ปี กว่าจะขายออกในราคา 950,000 เหรียญ และไม่เคยมีเรื่องพิศวงออกมาให้พบอีกเลย

ปล. ตอนนี้ Facebook มันปรับใหม่ การเห็นเพจจะน้อยลง เพราะฉะนั้นจึงอยากรบกวนเพื่อนๆ ช่วยกด See first ให้ผมด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องเล่าสนุกๆจากเพจเราครับ
ท่านสามารถย้อนอ่านตอนเก่าๆได้ที่ลิงค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/Fatmantalk/posts/2434897693222667
ถ้าชอบโพสนี้อย่าลืมกด Like โพสนี้ กดแชร์ให้คนอื่นได้อ่านกัน และอย่าลืมกดถูกใจเพจพุงพลุ้ยคุยไปเรื่อยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
#ห้ามคัดลอกบทความ #กรุณากดแชร์แทนการก๊อปวาง 🚫🚫🚫

23/04/2023

ถ้าเรามีเงิน เราก็ไม่กินแค่ไข่ต้มอย่างเดียวหรอก เรากินอย่างอื่นด้วย การที่มีเงินพอแค่ซื้อไข่ต้มกินอย่างเดียวมันคือความจน ไม่มีเงิน ไม่ใช่ความโรแมนติกครับ

15/04/2023

กกต. มีไว้ทำไม ?

เคยตั้งคำถามกันไหมครับ กับองค์กรนี้ ผมเริ่มรู้สึกว่า กกต. สมัยนี้ ทุเรศทุรังที่สุดแล้วละ

จะเลือกตั้งก็ดันไปดูงานต่างประเทศ

ไม่รู้ไปดูทำไม แค่ทำบัตรเลือกตั้งหลายสีนี่ก็สอบตกแล้วไม่รู้ว่าเป็น กกต. ได้อย่างไรให้เจตนาทำเพื่ออะไร

27/03/2023

คุย 2 นาทีโดนไป 1,500 ทำอย่างอื่นบางทียังได้ตั้ง 1 ชั่วโมง ถ้าถูกใจบางทีได้เบิ้ลอีก แถมไม่เสียความรู้สึกด้วย

27/03/2023

กรณีตั้มสรุปง่าย ๆ เลย "กระดูกคนละเบอร์"

พอเค้าเอาเงินเทาไปบริจาค ก็ด่าเขาว่ารับงาน รับเงินมา แต่พอหอกนั้นคืนสนอง กลายเป็นว่า "ค่าเสี่ยงภัย" เอ็นดูครับ 🤣🤣🤣🤣

26/03/2023

ทนายเพื่อประชาชนแถลงข่าว 1 ที ได้ 300,000 บาท

ไม่แปลกใจเลย ทำไมขยันแถลง ขยันหาแสงขนาดนี้ เดี๋ยวปล่อยนั่นนิด อีกแปปก็อีกหน่อย ยั่วน้ำลาย แล้วก็ปล่อยค้างคา รอแสงใหม่

ทนาย 1 คนมีแก๊งเพื่อนทนายเป็นลูกหาบตามอีก ผมว่าเคสนี้ไม่ต่างอะไรกับเคสลุงพลที่สื่อไปให้แสงมาก ปั้นตัวจนเป็นเซเลป แลเวใช้แสงนั้นหากินกับกระแสไปวัน ๆ

โฮ่.... สนุกแท้

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ พุงพลุ้ยคุยไปเรื่อยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์