Soft Space

14/06/2025

06/06/2025

05/06/2025

ฉันได้รับการแสดงความรู้สึกมากกว่า 50 รายการบนโพสต์ของฉันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว! ขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุน! 🎉

03/06/2025

📌 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ไม่มีใคร “ตื่นมาแล้วสำเร็จ” ในวันเดียว
ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนผ่านคืนที่อยากยอมแพ้
และเช้าอีกนับร้อยที่ต้อง “ลุกขึ้นใหม่” ทั้งที่ยังเหนื่อยอยู่

🎯 ความสำเร็จไม่ใช่โชค
แต่มาจาก “ความตั้งใจซ้ำ ๆ” ในวันที่ไม่มีใครเห็น

อย่าถามว่า “เมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย”
แต่ถามว่า “วันนี้เราเดินไปอีกก้าวหรือยัง”

⸻

❝ ความสำเร็จ คือการไม่หยุดเดิน แม้จะเดินช้ากว่าใคร ❞
— Soft Space

#แรงบันดาลใจ #ความสำเร็จ #ไม่ยอมแพ้ #มุ่งสู่เป้าหมาย

Success is not a coincidence.
No one simply “wakes up successful” in a single day.
Everyone who has achieved success has faced nights when they wanted to give up, and countless mornings when they had to “rise again” even when still exhausted.

•* Success is not luck,
but the result of “consistent effort” on days when no one is watching.
Don’t ask, “When will I reach my goal?”
Instead, ask, “Did I take one more step today?”

Success is the act of never stopping — even if you walk slower than others.
– Soft Space

03/06/2025

📌 ถึงเวลา “ปรับตัว” หรือยัง?

บางครั้ง…ชีวิตไม่ได้พัง
แต่ “กำลังบอกเราเบา ๆ” ว่า ต้องเปลี่ยนแปลง

ลองเช็ก 7 สัญญาณนี้ดู
👇👇👇

1️⃣ รู้สึกหมดไฟ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรหนัก
2️⃣ ทำแบบเดิม แต่ผลลัพธ์แย่ลงเรื่อย ๆ
3️⃣ คนรอบตัวไปไกล แต่เรายังติดอยู่ที่เดิม
4️⃣ มักพูดว่า “ฉันเป็นแบบนี้แหละ”
5️⃣ ไม่อยากฟังคำวิจารณ์
6️⃣ อิจฉาคนอื่นมากกว่าภูมิใจในตัวเอง
7️⃣ รู้ว่าควรเปลี่ยน…แต่ยังบอกตัวเองว่า “ไว้ก่อน”

✨ ถ้าคุณ “เจอแม้แต่ 1 ข้อ”
นั่นอาจไม่ใช่ปัญหา
แต่มันคือ สัญญาณแห่งการเริ่มต้นใหม่

❝ เปลี่ยนวันนี้…ดีกว่าต้องเปลี่ยนเพราะจำเป็นในวันหน้า ❞

— Soft Space

#แรงบันดาลใจ #เตือนใจ #พัฒนาตัวเอง #ชีวิตต้องเดินหน้า #ปรับตัวคือทางรอด

03/06/2025

💪 เรื่องจริงของเจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling)

จากแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ยากจน…สู่ผู้แต่ง Harry Potter มูลค่าหลายพันล้าน

⸻

📚 จุดเริ่มต้นที่แทบไม่มีอะไรเลย
• ในช่วงปี 1990s โจแอนน์ โรว์ลิ่ง เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่กำลังตกงาน
• เธออาศัยอยู่ในแฟลตรัฐบาลในสกอตแลนด์ ต้องใช้เงินสงเคราะห์ชีพ และเผชิญภาวะซึมเศร้า
• ขณะนั่งรถไฟ เธอปิ๊งไอเดียเกี่ยวกับ “เด็กชายผู้มีแผลเป็นรูปสายฟ้า”
• เธอเริ่มเขียนนิยาย Harry Potter บนกระดาษทิชชู่และเศษกระดาษตามร้านกาแฟ

⸻

📄 โดนปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า
• เธอส่งต้นฉบับไปยังสำนักพิมพ์ต่าง ๆ
• ถูกปฏิเสธถึง 12 แห่ง
• หลายแห่งบอกว่า “เด็กผู้ชายจะไม่อ่านนิยายแนวนี้หรอก”

แต่เธอ ไม่ยอมแพ้

⸻

✨ ความสำเร็จที่ไม่มีใครคาดคิด
• สำนักพิมพ์ Bloomsbury เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง “ให้โอกาส” โดยพิมพ์เพียง 500 เล่ม
• หนังสือเล่มนั้นคือ Harry Potter and the Philosopher’s Stone
• ภายในเวลาไม่กี่ปี หนังสือกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก
• แปลเป็นกว่า 80 ภาษา ขายได้มากกว่า 500 ล้านเล่ม
• สร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และแฟรนไชส์ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

⸻

🔥 ข้อคิดจากเรื่องนี้:

❝ความล้มเหลวในวันนี้ อาจเป็นรากฐานของความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ ถ้าเราไม่ยอมแพ้❞

— Soft Space

เธอถูกปฏิเสธ 12 ครั้ง
เธอเขียนบนกระดาษทิชชู่ในร้านกาแฟ
แต่ไม่เคยหยุดเชื่อในตัวเอง
วันนี้…โลกจดจำเธอในนาม ‘J.K. Rowling’
ผู้สร้างจักรวาล Harry Potter ที่เปลี่ยนชีวิตคนนับล้าน

#ไม่ยอมแพ้ #แรงบันดาลใจ #จากศูนย์สู่พันล้าน #เรื่องจริง

02/06/2025

เขาเคยถูกไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง
แต่กลับมาสร้าง iPhone ที่เปลี่ยนโลกใบนี้ 🌍📱

อย่ากลัวที่จะล้ม
จงกลัวว่า…คุณไม่เคยได้ “ลอง”

#แรงบันดาลใจ #คนที่ไม่ยอมแพ้ #คิดต่างเปลี่ยนโลก

🌟 “สตีฟ จ็อบส์: คนที่ถูกไล่ออกจากบริษัทตัวเอง…แล้วกลับมาปฏิวัติโลก”

สตีฟ จ็อบส์ เริ่มต้น Apple จากโรงรถในบ้าน พัฒนาคอมพิวเตอร์กับเพื่อนสนิทชื่อ “สตีฟ วอซเนียก” ด้วยเป้าหมายเรียบง่าย:

“ทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงคนทั่วไป ไม่ใช่แค่ในแล็บของนักวิทยาศาสตร์”

แต่ความสำเร็จไม่มาแบบง่าย ๆ…

ในปี 1985 เขาถูกไล่ออกจาก Apple – บริษัทที่เขาร่วมก่อตั้งเอง!

เขาบอกว่า:

“มันเหมือนโดนต่อยจนล้ม… แต่เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นสิ่งดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผม”

⸻

⏳ ช่วงเวลาตกต่ำ กลับกลายเป็นช่วงเวลาทอง

หลังจากออกจาก Apple เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ NeXT และ ซื้อสตูดิโออนิเมชั่นเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ
นั่นคือ… Pixar

จากสตูดิโอเล็ก ๆ นี้ กลายเป็นผู้สร้างแอนิเมชันระดับโลก เช่น Toy Story, Finding Nemo, Up ฯลฯ
และในที่สุด Apple ก็ซื้อกิจการของ NeXT และ สตีฟ จ็อบส์กลับมาเป็น CEO ของ Apple อีกครั้ง

⸻

💡 ช่วงเวลาปฏิวัติโลก

เขาคือผู้ผลักดัน iMac, iPod, iPhone, iPad — อุปกรณ์ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก
และสร้างวัฒนธรรมใหม่ในวงการเทคโนโลยีและการออกแบบ

“นวัตกรรมแยกผู้นำออกจากผู้ตาม” – สตีฟ จ็อบส์

⸻

✅ บทเรียนจากชีวิตเขา
• ไม่ว่าจะสำเร็จแค่ไหน…คุณก็อาจ “ล้ม”
• แต่ถ้าคุณยัง “รักในสิ่งที่ทำ” ความล้มเหลวนั้นจะพาคุณไปสู่สิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่า
• จง “กล้าคิดต่าง” และเดินตามหัวใจของคุณ

— Soft Space

02/06/2025

📌 ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ

💡 “ผมไม่ได้ล้มเหลว 10,000 ครั้ง ผมแค่ค้นพบ 10,000 วิธีที่มันใช้ไม่ได้ผล”
– โธมัส เอดิสัน

เขาคือเด็กชายที่ถูกครูประถมตีตราว่า “ปัญญาอ่อน”
เขาคือคนที่เรียนช้า หูหนวก และไม่เคยมีใครคิดว่า “จะทำอะไรได้”
แต่เขาคือ คนที่เปลี่ยนโลกทั้งใบให้สว่าง ด้วย “ความพยายามที่ไม่ยอมแพ้”

🚫 ล้มเหลวมากกว่า 10,000 ครั้ง
✅ แต่ไม่เคยถอยแม้แต่ครั้งเดียว

เอดิสันคือคนที่ทำให้ “หลอดไฟฟ้า” เกิดขึ้นได้
คือผู้ก่อตั้งบริษัท General Electric
คือเจ้าของสิทธิบัตรกว่า 1,000 ชิ้น

🔥 ความอัจฉริยะของเขาไม่ใช่พรสวรรค์
แต่คือ “ใจที่ไม่ยอมแพ้”

—

📣 ถ้าคุณกำลังรู้สึกหมดแรง…
ขอให้จำไว้ว่า บางคนต้องล้มมากกว่า 10,000 ครั้ง
ก่อนจะ “จุดแสงสว่าง” ให้โลกทั้งใบ 🌍💡

“โธมัส เอดิสัน: ความล้มเหลวกว่า 10,000 ครั้งที่เปลี่ยนโลกให้สว่าง”

โธมัส เอดิสัน เกิดในปี 1847 ที่รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีปัญหาทางการได้ยินตั้งแต่เด็ก เรียนช้า พูดน้อย และถูกครูประถมบอกว่า “เด็กคนนี้สมองช้า ไม่ควรเรียนร่วมกับคนอื่น”

❝แม่ของเขา ไม่เชื่อเช่นนั้น❞

แม่ของเอดิสันตัดสินใจ ลาออกจากงาน และสอนเขาเองที่บ้าน เธอปลูกฝังให้เขา “รักการเรียนรู้” และ “กล้าลอง” โดยไม่กลัวล้มเหลว

⸻

เส้นทางแห่งความล้มเหลว…ที่ไม่เคยทำให้ถอย

เอดิสันเริ่มต้นจากการเป็นเด็กขายของในรถไฟ และใช้เวลาว่างอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ พออายุ 20 ปี เขาเริ่มมีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรก แล้วก็ตามมาด้วยอีกหลายร้อยชิ้นในชีวิต

แต่สิ่งที่คนจำได้มากที่สุดคือ “หลอดไฟฟ้า”

❝ก่อนที่เขาจะทำให้หลอดไฟติดได้นานและปลอดภัย เขาล้มเหลวมาแล้วกว่า 10,000 ครั้ง ❞

นักข่าวถามเขาว่า:

“คุณรู้สึกยังไงกับความล้มเหลว 10,000 ครั้งนั้น?”

เอดิสันตอบว่า:

“ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมแค่ค้นพบ 10,000 วิธีที่มันใช้ไม่ได้ผลเท่านั้นเอง”

⸻

ผลลัพธ์ของความเพียรไม่ยอมแพ้
• เขาจดสิทธิบัตรกว่า 1,000 ชิ้น
• สร้างบริษัท General Electric (GE) ที่ยังยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้
• เปลี่ยนโลกด้วยสิ่งประดิษฐ์ เช่น เครื่องเล่นเสียง, กล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว, ระบบไฟฟ้าแบบกระแสตรง

—

บทเรียนจากเอดิสัน

“อัจฉริยะคือความพากเพียร 1% และหยาดเหงื่อ 99%”
– โธมัส เอดิสัน

— Soft Space

#โธมัสเอดิสัน #แรงบันดาลใจ #ไม่ยอมแพ้ #ล้มแต่ไม่เลิก #คนธรรมดาที่เปลี่ยนโลก

01/06/2025

🎵 เพลงช่วยให้จิตใจสงบ ฟังได้ทั้งตอนนั่งสมาธิ/ก่อนนอน

🧘‍♂️ 1. เพลงบำบัดจิต – เสียงธรรมชาติ + ดนตรีบำบัด
• ชื่อเพลง: “Healing Piano Music for Relaxation”
• แนว: เสียงเปียโนช้า ๆ ผสมเสียงฝนหรือคลื่นทะเล
• เหมาะ: ก่อนนอน, ขณะนั่งสมาธิ, ช่วงอารมณ์แปรปรวน

⸻

🕉️ 2. เพลงสวด “โอม มณี ปัทเม หุม” (Om Mani Padme Hum)
• เป็นบทสวดทิเบตเพื่อความเมตตาและความสงบลึก
• จังหวะซ้ำ ๆ ช่วยให้จิตจดจ่อและเบา
• ฟังแบบเวอร์ชันเสียงผู้ชายหรือเสียงผู้หญิงช้า ๆ ก็ได้

⸻

🙏 3. เพลง “พุทโธ” หรือ “แผ่เมตตา” เวอร์ชันดนตรี
• มีหลายเวอร์ชันใน YouTube เช่น
“บทแผ่เมตตา – เสียงสวดพร้อมดนตรี”
• ช่วยให้จิตใจอ่อนโยน สงบ และรู้สึกมีเมตตาต่อตนเอง

⸻

🌙 4. เพลงแนวดนตรีธรรมชาติ (Nature Sounds)
• ตัวอย่าง: “เสียงน้ำตก เสียงนกร้อง” / “คลื่นทะเลกลางคืน”
• ใช้ในเวลาที่คุณรู้สึกเครียด เหมือนพาตัวเองไปอยู่ในป่า

⸻

💫 5. เพลง “432Hz” หรือ “528Hz” – ดนตรีบำบัดพลังงาน
• ดนตรีที่จูนคลื่นเสียงเฉพาะเพื่อให้สมองสงบ สมดุล
• ตัวอย่างชื่อเพลง:
• “432Hz Deep Healing Music”
• “528Hz Positive Energy Cleanse”

⸻

🔗 วิธีหา:

คุณสามารถค้นหาใน YouTube หรือ Spotify ด้วยคำเหล่านี้ได้เลย:
• “เพลงสมาธิ”, “เพลงบำบัดจิต”, “Om Mani Padme Hum”, “432Hz Healing”, “Relaxing Nature Sound”

— Soft Space

31/05/2025

สีมีผลกระทบต่อความรู้สึกและจิตใจของเรามากกว่าที่หลายคนคิด ผ่านกลไกทางจิตวิทยาและประสาทวิทยาหลายแบบ:

🎨ผลกระทบทางจิตวิทยา

**สีอบอุ่น (แดง ส้ม เหลือง)**
- กระตุ้นความรู้สึกมีพลัง ความกระตือรือร้น และความอบอุ่น
- ❤️สีแดงเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและสร้างความรู้สึกเร่งด่วน
- 🧡สีส้มสร้างความรู้สึกเป็นมิตรและมีชีวิตชีวา
- 💛สีเหลืองช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และความสุขใส

**สีเย็น (น้ำเงิน เขียว ม่วง)**
- ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และมีสมาธิ
- 💙สีน้ำเงินช่วยลดความเครียดและความดันโลหิต
- 💚สีเขียวสร้างความรู้สึกสมดุลและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
- 💜สีม่วงเชื่อมโยงกับความลึกลับและจิตวิญญาณ

# # กลไกทางชีววิทยา

สีส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนและสารเคมีในสมอง เช่น:
- การมองเห็นสีฟ้า🩵ช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนเครียด
- สีเขียว💚ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน ทำให้รู้สึกมีความสุข
- แสงสีต่างๆ ส่งผลต่อจังหวะชีวิต (circadian rhythm)

# # การใช้ประโยชน์

**ในการออกแบบพื้นที่**
- ห้องนอนใช้สีเย็นเพื่อการพักผ่อน
- ห้องทำงานใช้สีเขียวอ่อนเพื่อสมาธิ
- ห้องออกกำลังกายใช้สีแดงเพื่อเพิ่มพลัง

**ในการแต่งตัว**
- สีที่เลือกใส่สะท้อนและส่งผลต่ออารมณ์ตลอดวัน
- สีสดใสช่วยเพิ่มความมั่นใจ

การเข้าใจผลกระทบของสีต่อความรู้สึกช่วยให้เราใช้สีเป็นเครื่องมือในการจัดการอารมณ์และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

— Soft Space