CEO Channels CEO Channels ข่าวสั้นทันโลกธุรกิจและการลงทุน ฯลฯ เว็บไซต์ข่าวธุรกิจโลกในมือคุณ

ครีเอเตอร์ใหม่จำนวนไม่น้อย มีโอกาสยอมแพ้ภายใน 3 เดือนแรก- เดือนที่ 1 เป็นช่วงเวลาที่ผู้เริ่มต้นมักตื่นเต้น ดีใจ และมีไฟแ...
16/07/2025

ครีเอเตอร์ใหม่จำนวนไม่น้อย มีโอกาสยอมแพ้ภายใน 3 เดือนแรก
- เดือนที่ 1 เป็นช่วงเวลาที่ผู้เริ่มต้นมักตื่นเต้น ดีใจ และมีไฟแรงมาก 🔥

- เดือนที่ 2 เริ่มลังเลใจ เบื่อหน่าย และท้อใจ 🫥

- เดือนที่ 3 อยากเลิก และเริ่มรู้สึกเสียเวลาชีวิต 😤

สาเหตุมักเกิดจากไม่เห็นผลลัพธ์เสียที ยอดวิวน้อย ยอดผู้ติดตามโตช้า จึงเกิดความท้อแท้ใจ และคิดว่าสมัยนี้เส้นทางนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว เป็นต้น

โพสต์นี้ CEO Channels มี "ACTION PLAN" หรือแผนการทำงานแบบมีกรอบเวลา และระบบอย่างชัดเจน ที่ใช้ทำงานคอนเทนต์มานาน และให้ผลที่น่าพอใจ

สำหรับ YouTube มักจะตั้งเป้าถึง 1,000 Subscribers และ 4,000 Watch-hour ในกรอบเวลา 3 - 4 เดือน

หากถามว่าตั้งเป้าเร็วกว่านี้ได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้!

แต่จากที่เคยทำช่องมา 1 - 2 เดือนให้ความรู้สึกตึงเครียดไปหน่อย ส่วนตัว 3 - 4 เดือนน่าจะกำลังสบาย ๆ ครับ และต่อไปนี้ คือ Action Plan สตาร์ทเดือนแรก แบ่งเป็น 4 สัปดาห์ให้ฟอลโล่วงานตัวเองได้ง่าย

🎯 สัปดาห์ที่ 1: วางแผนให้จบ

- เลือก Niche ที่การันตีมีฐานคนดูรองรับ :

หัวข้อนี้เคยเล่าไปแล้ว สามารถย้อนไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ 👉 https://www.facebook.com/ceochannels/posts/pfbid0LeYnEjQh1wwkUWnSK9TVeNFYmqsK1wkMXrtK4ix5Gbkv5VKoVJkcT5P2tyiXSqM3l

- กำหนดรูปแบบนำเสนอ :

ถ้าคุณไม่ได้มีความต้องการที่จะไปสาย Animation โดยเฉพาะ ก้าวแรกอาจยังไม่แนะนำการทำช่องแบบ AI animation 100% เพราะใช้เวลาผลิตพอสมควรครับ ยกเว้น หากแนว Animation คือความฝันของคุณก็ลุยเลยครับ

- วิธีคิดการเลือกรูปแบบนำเสนอ :

สำหรับมือใหม่เริ่มต้นก้าวแรก เราต้องการจำนวน และความเร็ว เพื่อเร่งสะสมดาต้าไปพัฒนาช่อง YouTube และเพื่อให้อัลกอริธึ่มของ YouTibe มีโอกาสเรียนรู้ช่องของคุณให้เร็วที่สุด

จึงขอแนะนำเลือกรูปแบบที่ผลิตได้เร็ว เช่น Podcast เสียงล้วน, Slideshow ภาพนิ่ง, หรือ Stock video footage เป็นต้น เพราะสามแนวนี้ใช้เวลาทำคลิปให้แล้วเสร็จได้ ภายใน 1 ถึง 4 ชั่วโมงเท่านั้น

- ใช้ ChatGPT คิดหัวข้อวีดีโอยาวทั้งเดือน x 3 เดือน :

ใช้ ChatGPT ช่วยคิดหัวข้อ อาจเริ่มต้น 50 - 100 หัวข้อ แล้วคัดเลือกอันที่สนใจจริง ๆ แบงเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 1 เดือน

เช่น ถ้าคุณโพสต์ จันทร์ พุทธ ศุกร์ ก็คัดมา 12 หัวข้อ 3 เดือน รวม 36 หัวข้อ เซฟลงตาราง Google sheet ใส่วันที่จะเผยแพร่เตรียมไว้เลยก็ดี

🎯 สัปดาห์ที่ 2 : ปล่อยของให้ไว

สมัย CEO Channels เริ่มทำคอนเทนต์ ตอนนั้นยังไม่มีเอไอ แค่ช่วงวางแผนวางรากฐานสื่อก็หลายวันอยู่ แต่วันนี้เรามีเทคโนโลยีเอไอ กระบวนเหล่านี้เร็วมากแล้ว

จึงขอแนะนำให้ใช้เวลาทำ ข้อแรก คือ การวางแผน ให้จบภายใน 1 สัปดาห์ เพราะเราต้องการเผยแพร่งานสู่ตลาด เพื่อทดสอบวัดผลให้เร็วที่สุด

คลิปแรก ๆ ของเราส่วนใหญ่เป็น Podcast เสียงล้วนไม่มีฉากประกอบใด ๆ ใช้เวลาผลิตรวมอัพโหลดเข้ายูทูบประมาณ 1 ชั่วโมง โดยช่วงแรกอัพโหลดวันละ 2 - 3 คลิป

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่การบอกว่าทุกคนจะต้องทำตาม เราอัพโหลดวันละหลายคลิปเพียง 7 - 10 วันแรก เท่านั้น เพราะมีเป้าหมาย คือ เพื่อเร่งสะสมดาต้าไปวิเคราะห์ปรับปรุงพัฒนาเนื้อหาของช่องครับ

🎯 สัปดาห์ที่ 3 : เรียนรู้-ปรับปรุง-ต่อยอด

ในช่วงแรก การจะได้มาซึ่งดาต้าสำหรับช่องเปิดใหม่ 0 Subscriber อาจจะหน่วง ๆ นิดนึง เช่น ปล่อยคลิปแรกไปแล้ว กว่าจะมียอดวิวแรกอาจใช้เวลา 24 ชั่วโมง

และกว่าวิวจะไหล กว่าดาต้าจะนิ่งก็อาจใช้เวลา 2 - 3 วัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรเผยแพร่เพียง 1 คลิป และนั่งเฝ้ารอยอดวิว แต่จงเผยแพร่คลิปถัด ๆ ไป และไปเรื่อย ๆ ตามตารางคอนเทนต์ของเราครับ

🎯 สัปดาห์ที่ 4 : ทำซ้ำขยายผลกระบวนการที่ทำแล้ว Work

เมื่อคุณทำตาม Action plan เหล่านี้ จนย่างเข้าสัปดาห์ที่ 4 คุณควรจะมีจำนวนวีดีโอ และมีรายงานข้อมูลสถิติหลังบ้านมากเพียงพอต่อการศึกษาว่า อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรควรต่อยอด อะไรควรปรับปรุง

ให้คุณปรับปรุง พัฒนา และต่อยอดอย่างสม่ำเสมอ ต่อไป ในเดือนที่ 2 และเดือนต่อ ๆ ไป ทำซ้ำตามระบบแบบนี้ แล้วจะพบว่าแผนที่ชัดเจน และการทำตามระบบจะช่วยให้เกิดการเติบโตของช่องอย่างเป็นรูปธรรมครับ! 🎉

#ทำช่องไม่โชว์หน้า

สาย AI ทำคอนเทนต์ วันนี้จะโดนแบนหรือไม่ มาฟังคำตอบสุดท้ายกันครับ!วันนี้ YouTube อัพเดทอย่างเป็นทางการ ลักษณะของช่องและวี...
15/07/2025

สาย AI ทำคอนเทนต์ วันนี้จะโดนแบนหรือไม่ มาฟังคำตอบสุดท้ายกันครับ!
วันนี้ YouTube อัพเดทอย่างเป็นทางการ ลักษณะของช่องและวีดีโอ ที่เสี่ยงถูกสั่งห้ามเข้าร่วมเปิดสร้างรายได้ และอาจเสี่ยงโดนตามแบนสร้างรายได้ย้อนหลัง

อัพเดทมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยก่อนหน้าเป็นที่ลือว่า อัพเดทใหม่จะพุ่งเป้าไปที่ช่องที่ใช้ AI ทำคอนเทนต์ สร้างความวิตกกังวลให้ครีเอเตอร์หลายคน

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร CEO Channels จะสรุปให้ฟัง

สำหรับข้อมูลที่อัพเดทมานี้ มาจากทั้งทีมงาน YouTube อย่างเป็นทางการ และ เจ้าหน้าที่สมาชิก YouTube Liason ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผมจะสรุปให้สั้นและเข้าใจง่าย และแนบลิงก์ที่มาต่าง ๆ ในคอมเมนต์

ความกังวลหลักในบริบทนี้ ก็คือการช่องที่ใช้ AI ทำคอนเทนต์ จะโดนแบนทั้งหมด ใช่หรือไม่?

คำตอบคือ #ไม่ใช่ครับ

เจ้าหน้าที่ YouTube ยืนยันด้วยตนเองว่า ไม่ได้ต่อต้านการใช้ AI ทำคอนเทนต์ ตราบใดที่ครีเอเตอร์ ใช้ “AI as a Tool” หรือ เป็นเครื่องมือ และ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตคอนเทนต์ ก็ไม่มีปัญหาเลย

AI ทำคอนเทนต์แบบไหน มีความเสี่ยงมากที่สุด?

ผู้เกี่ยวข้องจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ต่าง ๆ บอกคล้ายกัน ได้แก่…

1. AI คอนเทนต์ที่มีลักษณะเป็น Template

ถ้านึกภาพไม่ออก ก็นึกถึงคลิป AI หั่นผลไม้ครับ 100, 1,000 คลิป Template เดียว แต่เปลี่ยน Object ไปเรื่อย ๆ อันนี้เสี่ยงมากที่สุด

2. AI คอนเทนต์ที่มีลักษณะเป็น “Narrated stories with only superficial differences”

- มีลักษณะเป็น Template เหมือนกัน แต่มีการ Narrate คือมีเสียงบรรยายด้วย

- แต่เพราะมีความ Superficial differences คือมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย

จากคำอธิบาย CEO Channels นึกถึงคลิปจำพวก Template AI นักข่าว, AI พิธีกร, AI พระ หรือตัวละครเดิม ๆ ที่ออกมาพูดประโยค หรือมุกสั้น ๆ ไม่กี่วินาที ที่ในต่างประเทศให้ฉายาว่า “AI-copy-paste” คือการก็อปปี้ Prompt เจนวีดีโอซ้ำ ๆ เป็นร้อย ๆ คลิป และแค่เปลี่ยน Subject หรือบทพูดไปเรื่อย ๆ

ย้ำอีกครั้งว่า เสี่ยงโดนแบนสร้างรายได้กับ YouTube ไม่ใช่การแบนช่อง ช่องยังอยู่ คลิปทำได้ แต่อาจต้องไปหารายได้ทางอื่น เช่น ขายสินค้าของตัวเอง เป็นต้นครับ

มาถึง AI ทำคอนเทนต์แบบไหน ไม่โดนแบนสร้างรายได้

จากที่รวบรวมข้อมูลมา สรุปเป็นคีย์หลัก คือ…

ถ้าเราใส่ Human creativity และ Human effort ลงไปในคอนเทนต์ ก็ไม่โดนแบนสร้างรายได้

เช่น

คอนเทนต์ที่ใช้ AI สร้างรูปภาพกราฟฟิก และอนิเมชั่น แต่เนื้อเรื่องคุณคิดเอง และพากย์เอง

หรือต่อให้ เนื้อเรื่องใช้ AI ช่วยคิด และพากย์ให้ แต่คุณเข้าไปขัดเกลา ปรับแต่งเนื้อหาตัวไฟนอล และเรียบเรียงตัดต่อวีดีโอให้ตื่นตา น่าชม และดูสนุกด้วยมือคุณเอง แบบนี้เรียกว่ามี Human effort

สรุป

อัพเดทใหม่ของ YouTube เป็นการอัพเดทเพิ่มเติมเข้าไปในนโยบายหลัก นโยบายหลักคือ Mass-Produced Content และ Repetitive Content ซึ่งมีมานานแล้ว

การอัพเดทก็เพื่อตามยุคสมัยให้ทัน ไปตามเทคโนโลยีทำคอนเทนต์ที่เพิ่งมาใหม่ หรืออาจจะเรียกว่าเพิ่งเริ่มสร้างปัญหาใหม่ ก็คือเทคโนโลยี AI ปั่นคอนเทนต์ ที่เริ่มมีการนำมาสแปมแพลทฟอร์มเขา นั้่นเองครับ

หลักการสำคัญมีเท่านี้ และไม่เคยเปลี่ยนเป็นอื่น คือ

ตราบใดที่เราทำคอนเทนต์ที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และความตั้งใจ (Effort) ที่ส่งมอบคุณค่า และประสบการณ์ที่ดีให้แก่คนดู จะใช้เครื่องมืออะไรทำนั้น YouTube ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเราครับ

#ทำช่องไม่โชว์หน้า

แนวทางทำช่อง YouTube เปิดใหม่ 0 ผู้ติดตาม ให้ถึงเกณฑ์ยื่นขอเปิดสร้างรายได้ใน 3 - 4 เดือน อยากเปิดสร้างรายได้กับ YouTube ...
14/07/2025

แนวทางทำช่อง YouTube เปิดใหม่ 0 ผู้ติดตาม ให้ถึงเกณฑ์ยื่นขอเปิดสร้างรายได้ใน 3 - 4 เดือน
อยากเปิดสร้างรายได้กับ YouTube ช่องจะต้องมี 1,000 Subscribers และ 4,000 Watch-hour ภายใน 365

เงื่อนไขแบบนี้ ใครผ่านประสบการณ์ทำมาหลายช่อง ย่อมไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ แต่สำหรับใครที่ยังใหม่กับอาชีพ Content creator เป้าหมายนี้ก็ถือว่าโหดกิน

- บางคนใช้เวลา 6 เดือน

- บางคนใช้เวลา 9 เดือนบ้าง

- และอีกหลายคนใช้เวลาเป็นปี!

ในอดีต CEO Channels เคยปลีกตัวไปซุ่มทำช่องมาแล้ว 3 - 4 ช่อง ใช้เวลาเร็วสุด 45 วัน นานสุด 3 เดือน ส่วนนักเรียนของเพจใช้เวลา 25 - 30 วัน ถึงเป้าหมายก็เคยมี

โพสต์นี้จึงขอใช้โอกาสแบ่งปันประสบการณ์ ที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้ช่อง YouTube เปิดใหม่ของคุณ อาจไปถึงเป้าหมายยื่นเปิดสร้างรายได้ เร็วขึ้นครับ 💪

#เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้ช่องโตไว

- ลำดับแรก การเลือก Niche เคยเล่าไปแล้ว อ่านย้อนหลังที่ลิงก์ในคอมเมนต์ครับ

- ลำดับต่อมา ปริมาณการโพสต์วีดีโอ

ถึงตรงนี้ บางคนอาจมองว่าเป็นคนแนะนำที่แสนน่าเบื่อ

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ได้ผลลัพธ์ มักจะแนะนำคล้ายกัน เพราะเขาทำและได้ผลเช่นนั้นจริง ๆ เพียงแต่อาจจะยังไม่มีโอกาสอธิบายเชิง กลไก (Mechanic) ที่ขับเคลื่อนผลลัพธ์ดังกล่าว

CEO Channels ก็จะขอเล่าให้ฟัง ดังนี้ :

การโพสต์วีดีโอบ่อย ๆ ส่งผลในเชิงกลไกต่อระบบยูทูบ ได้แก่ -

:

เป็นหลัก Help-me-help-you หรือ คุณช่วยให้ยูทูบอัลกอริธึ่มช่วยคุณ ทุกการโพสต์วีดีโอเป็นการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ ช่วยให้ระบบมีข้อมูลเรียนรู้เกี่ยวกับช้องของคุณ เพื่อการนำส่งไปสู่ผู้ชมที่ระบบคาดว่าน่าจะสนใจมากที่สุด

แต่ในขณะเดียวกัน

คุณก็จะมีโอกาสเรียนรู้พฤติกรรมผู้ชมผ่านทางกราฟรายงานต่าง ๆ ทางหลังบ้าน YouTube Studio เช่น คลิปไหนปัง คลิปไหนแป้ก คลิปไหนคนคลิกเข้าไปดูแล้วปิดทิ้งเลย คลิปไหนคนดูยาวจนจบ เป็นต้น ฯลฯ

เหล่านี้หากคุณดูแล้วรีบนำไป “แก้ปัญหา-ปรับปรุง-ต่อยอด-ขยายผล” ตามดาต้าที่ยูทูบรายการ คลิปต่อไปมีโอกาสจะปังขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

:

แต่ละวีดีโอที่โพสต์เข้าไปในยูทูบ จะก่อให้เกิดสถิติแบบสั่งสมทบทวีแบบนี้ครับ...

- เปิดช่อง Day 1 โพสต์ 1 วีดีโอ

- สิ้นสุด Day 1 จะได้ยอดวิว และ Watch-hour จาก 1 วีดีโอ

- จากนั้นโพสต์วีดีโอทุกวันติดต่อกัน 10 วัน

- สิ้นสุด Day 10 จะได้ยอดวิว และ Watch-hour จากวีดีโอตั้งแต่ Day 1 จนถึง Day 10 รวมกัน

นี้เรียกว่า Accumulation

ซึ่งแน่นอนว่ายอดวิวของวีดีโอเก่า ๆ อาจมากน้อยไม่เท่ากัน แต่โดยหลักการ คือ มันก็ถูกนับมารวมกันเป็นยอดสะสมให้แก่ช่อง

:

ผลของการสั่งสมทบทวีจะทำให้เกิด Snowball effect จากหิมะลูกเล็ก ๆ กลิ้งไปเรื่อย ๆ กลายหิมะลูกใหญ่

โตจากหลักสิบ% เป็นหลักร้อย% สัปดาห์ต่อสัปดาห์ และอาจจะไปถึงหลัก 1,000% เดือนต่อเดือน

นี่คือ 3 เหตุปัจจัยว่าด้วยความเป็น กลไก Mechanic ของการโพสต์บ่อย และสม่ำเสมอในช่วงแรก

ช่วงเพิ่งเริ่มเปิดช่อง ยังมีเพียง 0 Sub, 10 Sub, 100 Sub แล้วอยากได้ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ก็จำเป็นต้องขยันและออกแรงเยอะพอสมควรครับ

เมื่อช่องของเราเติบโตอยู่ตัวดีแล้ว ก็ค่อยว่ากันใหม่ว่าจะปรับปริมาณการโพสต์ไปเป็นอย่างไรครับ! 😄

อยากเปิด Youtube ช่องใหม่สายวีดีโอไม่โชว์หน้า ทำคลิปอะไรดีจึงจะมีฐานคน (รอ) ดูเยอะ?ช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา Youtube น่าจะม...
13/07/2025

อยากเปิด Youtube ช่องใหม่สายวีดีโอไม่โชว์หน้า ทำคลิปอะไรดีจึงจะมีฐานคน (รอ) ดูเยอะ?
ช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา Youtube น่าจะมีการปรับปรุงอัลกอริธึ่มบางประการ ที่ช่วยให้นำส่งวีดีโอช่องเปิดใหม่ ที่มีผู้ติดตามน้อยแค่หลักสิบหลักร้อย หรือแม้แต่ 0 Subscriber ให้สามารถมียอดวิวเป็นหลักพันได้ หลังจะเพิ่งเปิดช่องหมาด ๆ

แต่อย่างไรก็ดี!

Content creator เองก็จำเป็นต้องมีส่วนช่วยให้อัลกอริธึ่มมีโอกาสช่วยผลักดันช่องใหม่ของคุณเช่นกัน ภาษาอังกฤษเรียก "Help-me-help-you" 🙂

หนึ่งในปัจจัยสำคัญก่อนเปิดช่อง คือ...

เราจะต้องเลือก Niche ที่มีฐานคนดูพร้อมเสิร์ฟตั้งแต่แรก โดยกรณีช่อง Faceless หรือ แนวคลิปวีดีโอไม่โชว์หน้า ไม่ออกกล้อง เท่าที่ CEO Channels สังเกตการณ์ผ่านจากทำงานด้านคอนเทนต์มายาวนาน

พบว่า Niche ค่อนข้างไว้ใจได้พอสมควร ว่าหากทำออกมาแล้วมีฐานคนดูพร้อมเสิร์ฟ อาทิ :

- สรุปหนังสือ
- ข้อคิดพัฒนาตัวเอง
- เรื่องเล่าบุคคลสำคัญ
- วิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจ
- เรื่องเล่าคดีอาชญากรรม
- เรื่องเล่าลี้ลับ สยองขวัญ
- สารพัดจัดอันดับท็อปสิบ
- วิเคราะห์ธุรกิจและคนสำเร็จ
- เกร็ดข้อมูลแปลก ๆ รอบโลก
- เรื่องเล่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
- นิทานชาวบ้าน/ ชีวิต/ ข้อคิดสอนใจ
- เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ บุคคลมีชื่อเสียง

ปล. ถ้าใครอยากทำแบบออกกล้องก็ได้เช่นกัน

ดังนั้น การเลือก Niche ที่คนสนใจมากเป็นพิเศษ จะเพิ่มโอกาสให้ช่องเปิดใหม่ มีโอกาสออกตัวได้เร็วกว่า

CEO Channels เชื่อว่าบางท่านอาจเคยได้ยินวลี “หาข้อมูลทำช่องวิชาการแทบตาย สุดท้ายแพ้ช่องเล่าเรื่องง่าย ๆ”

อาจฟังดูน่าเศร้า แต่เป็นความจริง มนุษย์ไม่ได้ต้องการเสพสาระความรู้หนัก ๆ ตลอดเวลา ถ้าไม่จำเป็น

ช่องสาระความรู้แน่น ๆ หรือ How-to แม้มีประโยชน์มาก แต่คนไม่ดูจนกว่าเขาจะมีความ Need มันจริง ๆ เสียก่อน ในขณะที่ช่องเล่าเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ คนมีใจพร้อมดูทุกเมื่อ โดยไม่ต้องอาศัยความจำเป็นใด ๆ คนเราแค่อยากฟังเรื่องเล่าที่ฟังเพลิน

หมายเหตุเพิ่มเติม

ข้อคิดพัฒนาตัวเอง : โดยเนื้อหาช่องแนวนี้ ไม่ได้ถึงกับเป็น How-to จ๋า ๆ แต่จะมีความ Motivational หรือ ปลุกใจ หรือสร้างแรงบันดาลใจประมาณหนึ่ง

และวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจ : ซึ่งแม้เนื้อหาจะหนักเมื่อเทียบกับหมวดอื่น ๆ ในลิสต์ แต่หมวดนี้ได้รับการตอบรับดีในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวนหรือมีวิกฤต เพราะมันสัมพันธ์ต่อเงินในกระเป๋าของพวกเขา

การเลือก Niche จึงเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญ

การทำคลิปใน Niche ที่มีฐานคนดูพร้อมเสิร์ฟ เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างโอกาสให้ ยูทูบอัลกอริธึ่ม นำวีดีโอของเราไปทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย โดยในช่วงแรกมักเป็น Suggested video ใต้วีดีโอที่มีหัวข้อคล้ายกัน

ซึ่งการจะเป็นเช่นนี้ได้ ก็กลับไปสัมพันธ์กับ Niche ที่มีฐานคนดูพร้อมเสิร์ฟอีกเช่นเคย เพราะแพลทฟอร์มก็จะมีวีดีโอแนวดังกล่าวให้ทดสอบมากตามไปด้วย เป็นต้นครับ 🎉

👏👏👏
04/05/2025

👏👏👏

ในขณะที่หลายๆสื่อ และเพจต่างๆ พูดคุยถึงบทสรุป Berkshire Hathaway Annual Meeting 2025

เพจเรายังคงงดโพสต์เรื่องการลงทุน.....แต่แอดก็พบประเด็นที่ฟังแล้วอยากเอามาลงในเพจให้พวกเราได้อ่านกัน

เริ่มจากมีคำถามโดยคุณ Marie จากเมือง Melrose รัฐ Massachusetts ถามว่า

"ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่สนใจการลงทุน อยากขอฟังข้อคิดจากคุณบัฟเฟตต์ว่า มีบทเรียนสำคัญอะไรบ้างที่คุณได้เรียนรู้ในช่วงต้นของอาชีพ? และคุณมีคำแนะนำอะไรสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาปรัชญาการลงทุนของตัวเองบ้าง?"

================

Buffett ตอบราวๆ 8 นาที โดยมีบทสนทนาหลักๆดังนี้

สิ่งสำคัญอย่างมากคือ “คนที่คุณคบหา” อย่าคาดหวังว่าคุณจะตัดสินใจถูกต้องทุกครั้ง แต่ชีวิตของคุณจะค่อย ๆ เดินไปในทิศทางเดียวกับคนที่คุณทำงานด้วย หรือคนที่คุณชื่นชม

คุณควรเลือกอยู่ใกล้ คนที่ทำให้คุณอยากเป็นคนที่ดีขึ้น อยากอยู่กับคนที่คุณรู้สึกว่า เขาดีกว่าคุณ เพราะคุณจะเดินไปในทิศทางเดียวกับคนเหล่านั้น

ผมเองก็เรียนรู้เรื่องนี้ช้าไปหน่อย แต่เมื่อคุณมีคนรอบข้างที่ดี เช่น ทอม เมอร์ฟี่, แซนดี้ ก็อดดิสแมน, วอลเตอร์ สก็อตต์ คุณจะมีชีวิตที่ดีกว่าการไปลอกเลียนแบบคนที่แค่รวย

ผมพยายามคบหากับคนฉลาด ๆ ที่ผมจะได้เรียนรู้จากพวกเขา และผมจะมองหาสิ่งที่ผมอยากทำ แม้ไม่ต้องการเงิน

สิ่งที่คุณควรมองหาในชีวิตคือ งานที่คุณจะทำ แม้ไม่ต้องการเงิน

คนที่ผมพูดถึงเหล่านี้ ทุกคนต่างทำมากกว่าหน้าที่ของตัวเอง และไม่เคยแสวงหาความดีความชอบเกินส่วนที่ควรได้รับ พวกเขาทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี

เมื่อคุณเจอคนแบบนี้ จงเห็นคุณค่าและรักษาไว้

ถ้ายังไม่เจอ ก็ทำในสิ่งที่ทำให้คุณยังมีชีวิตอยู่ต่อไป และอย่าหยุดมองหา

คุณจะพบคนที่ทำสิ่งดี ๆ ให้กับคุณ และคุณเองก็ควรหาทางตอบแทนพวกเขา

สิ่งเหล่านี้จะทวีคูณกันไปเรื่อย ๆ

แน่นอน ชีวิตก็มีด้านตรงข้ามด้วยเหมือนกัน

ผมโชคดีที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี แต่บางคนก็ต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่าง

อย่ารู้สึกผิดกับโชคดีของตัวเอง ถ้าคุณเกิดในอเมริกา คุณก็เหมือนชนะเกมชีวิตไปแล้วในระดับหนึ่ง

อย่าไปคบกับคนหรือองค์กรที่ชวนให้คุณทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ

หลายอาชีพก็เลือกคนที่แตกต่างกันไป

----------------

ในวงการลงทุน ผมพบว่าหลายคนออกจากวงการหลังจากได้เงินมากมาย

คุณควรมองหาสิ่งที่คุณจะทำต่อไป แม้ไม่ต้องการเงิน

คนที่ทำงานกับผมอย่าง Greg หรือ Ajit ก็ไม่ต้องการเงิน แต่พวกเขาทำงานเพราะรักในสิ่งที่ทำ และเก่งมาก

ผู้จัดการที่ดีที่สุดที่ผมรู้จักคือ Tom Murphy ผู้ซึ่งมีชีวิตเกือบ 98 ปี ผมไม่เคยเห็นใครที่ดึงศักยภาพของคนอื่นออกมาได้มากเท่าเขา

ถ้าคุณอยากเป็นคนที่ดีขึ้น คุณก็ไปทำงานกับ Tom Murphy

-----------------

มีคนประสบความสำเร็จมากมายที่ไม่ได้มีคุณสมบัติแบบนี้ แต่ผมคิดว่านี่คือวิธีที่มีความสุขที่สุดในการประสบความสำเร็จ

ประสบการณ์ที่ Berkshire ก็ชัดเจนมาก ผมได้ร่วมงานกับคนดี ๆ มายาวนาน

คุณจะได้เรียนรู้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ความสำเร็จในธุรกิจ แต่ยังได้เรียนรู้วิธีประสบความสำเร็จในชีวิต

นั่นคือคำแนะนำของผม และด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าคุณจะมีอายุยืนยาวขึ้นด้วย เพราะมันน่าทึ่งมากจริง ๆ คนที่ผมพูดถึง รวมถึงตัวผมเองด้วย
ผมชอบจะยกเหตุผลนี้และปัจจัยอื่น ๆ อีกเล็กน้อยเป็นเหตุผล (แล้วก็หยิบโค้กขึ้นมา)

และดูเหมือนว่าคนที่มีความสุขจะมีอายุยืนยาวกว่าด้วย เพราะจากที่ผมเห็น คนที่ผมพูดถึง รวมถึงตัวผมเอง ดูเหมือนจะมีชีวิตยืนยาว

ผมคิดว่า “คนที่มีความสุข จะมีอายุยืนยาวกว่าคนที่ทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชื่นชมในชีวิต”

=======================

Thank you Warren Buffett ^^

Warren Buffett วัย 94 ปี เตรียมวางมือจากตำแหน่ง Chairman & CEO ของ Berkshire Hathaway ภายในสิ้นปี 2025ซึ่งจะเป็นการสิ้นส...
04/05/2025

Warren Buffett วัย 94 ปี เตรียมวางมือจากตำแหน่ง Chairman & CEO ของ Berkshire Hathaway ภายในสิ้นปี 2025

ซึ่งจะเป็นการสิ้นสุดบทบาทผู้นำที่ยาวนานกว่า 60 ปีเต็ม และถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท

ข่าวดังกล่าวถูกประกาศระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2024 ที่โอมาฮา ซึ่งเต็มไปด้วยสัญญาณแห่งการอำลา

ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาการตอบคำถามของ Buffett การตัดวิดีโอเปิดงานออกจากพิธี รวมถึงการประมูลหนังสือประวัติ Berkshire พร้อมลายเซ็น Buffett เพื่อนำรายได้บริจาคให้กับองค์กรการกุศลท้องถิ่น

ก่อนหน้านี้ Buffett ได้เขียนในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า Greg Abel ผู้บริหารระดับสูง จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยเขาจะเข้ามารับหน้าที่ทั้งการบริหารงานประจำวันและการจัดสรรเงินลงทุนซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของ Berkshire

แม้ Buffett ยังไม่ระบุวันลงจากตำแหน่งอย่างแน่นอน แต่การประกาศว่าการเปลี่ยนผ่านจะเสร็จสิ้นภายในปี 2025 ทำให้นักลงทุนทั่วโลกได้เริ่มเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อวันนั้นมาถึง จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนซีอีโอของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นการอำลาของหนึ่งในตำนานนักลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก 👏

ลองนำไปประยุกต์ใช้กับ Why us สำหรับสินค้าและบริการของแต่ละคนดูครับ 📌
24/08/2024

ลองนำไปประยุกต์ใช้กับ Why us สำหรับสินค้าและบริการของแต่ละคนดูครับ 📌

เขียน why us ไม่ได้ เตรียม why วอด..

วันก่อนผมฟังน้องจิ๊บ เสาวนีย์ ผู้ทำธุรกิจสินเชื่อกระเป๋าแบรนด์เนมอันดับหนึ่งของไทย bagforcash ในนาม jipjip money เล่าว่าทำธุรกิจอะไรยังไง และมีหน้าหนึ่งที่ฟังแล้วมั่นใจเลยจิ๊บจะไปอีกไกลและเป็นเบอร์หนึ่งในวงการนี้แน่

หน้านั้นจิ๊บขึ้นว่า why us?

โดยมีรายละเอียดประมาณว่า ที่ jipjip money รับสินค้าแบรนด์เนมได้หลากหลาย

ดอกเบี้ยต่ำ xx ต่อเดือน

วงเงินให้สูง ### ต่อสัญญา

ประเมินผลไวภายใน 45 นาที

รับเงินใน 24 ชั่วโมง

เก็บตู้นิรภัยแบบ 1 ต่อ 1

ให้วงเงินเต็มไม่หักดอก

ต่อสัญญาได้ไม่จำกัด

ถูกกฎหมาย

มีรับส่งถึงบ้าน

รักษาความลับลูกค้าสูงสุด ฯลฯ

แต่ละข้อนี่ผมถามผู้ฟังที่สนใจคือโดนทุกข้อ เป็น painpoint ที่ลูกค้าที่มีกระเป๋าแบรนด์เนมแล้วอาจจะร้อนเงินเป็นช่วงๆอยากได้หมด แต่ละข้อมาจาก insight ความต้องการของลูกค้าและเป็นจุดอ่อนของคู่แข่งที่ทำแบบสมัครเล่นทั้งสิ้น

แต่ในการที่จะเขียนแบบนี้และสัญญาแบบนี้กับลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้นไม่ง่ายเลย นอกจากผ่านกระบวนการคิดและความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งแล้ว บางข้อต้องใช้เงินลงทุนสูง บางข้อต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่ต้องหาต้องฝึกมา บางข้อต้องรักษา service level agreement ให้ได้ บางข้อต้องหาต้นทุนการเงินที่ต่ำให้ได้ถึงจะนำเสนอข้อเสนอแบบนั้นได้ แต่รวมๆแล้วทำให้ลูกค้าที่สนใจในบริการแบบนี้ พออ่าน jipjip money แล้วแทบจะไม่ไปที่อื่น มาใช้ก็ใช้ซ้ำ บอกต่อ ทำให้ jipjip money เติบโตอย่างรวดเร็วมาก..

…..

ที่ผมจะชวนคิดนั้นไม่ใช่เรื่อง jipjip money แต่เป็นการลองพยายามเขียน Why us ของธุรกิจตัวเองดูแบบไม่เข้าข้างตัวเอง

ปกติเวลาเราเล่าเรื่องธุรกิจเรา ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนลูกค้า หรือเล่าให้นักลงทุนฟัง เรามักจะเล่าว่าธุรกิจนั้นทำอะไร ทำอย่างไรซะส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เล่าแบบเข้าข้างที่ลูกค้าหรือนักลงทุนอาจจะไม่ได้สนใจ เช่นเล่าให้ลูกค้าฟังว่าที่นี่มีพนักงานเป็นร้อยคน อาจจะด้วยความภาคภูมิใจว่าธุรกิจเราใหญ่แต่ลูกค้าไม่ได้สนใจเพราะไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย หรือที่นี่ก่อตั้งมาสามสิบปีแล้ว นักลงทุนฟังแล้วก็ยักไหล่เพราะเขาสนใจแต่ growth ตั้งมากี่ปีก็ไม่ใช่เรี่องซะหน่อย

แต่ทำไมต้องพยายามเขียน “why us” ที่ดีให้ได้ในยุคสมัยนี้

เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ average is over การแข่งขันสูงเหลือเกิน คู่แข่งมีเต็มไปหมด ถ้าเราไม่ยกมือว่าทำไมต้องฉัน แล้วดูเด่นกว่าคนอื่นให้ได้ ลูกค้าจะไม่มีทางเห็น อาจจะแค่มองแต่ไม่เห็น

แต่การเขียน why us ก็ไม่ง่าย จะมโนนึกแต่จุดแข็งตัวเองที่ตัวเองภาคภูมิใจโดยไม่เข้าใจลูกค้าก็ไม่มีประโยชน์ แถมลูกค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละ segment ก็อาจจะต้องเขียน why us ต่างกันด้วยซ้ำ การเขียน why us กับผู้บริโภค ก็ใช้กับนักลงทุนไม่ได้ why us กับธนาคารที่ต้องการความมั่นคงกับ investor ที่ต้องการการเติบโตก็ต่างกัน

การเข้าใจว่า “เขา”อยากฟังอะไร นั้นสำคัญกว่า “เรา”อยากพูดอะไรมาก

นอกจากนั้น การเขียน why us ก็จะทำให้เราได้ทบทวนว่าเรามีจุดแข็งจริงๆรึเปล่า มีอะไรที่โดดเด่นจริงหรือไม่ เพราะถ้าเริ่มลองเขียนแล้วไม่มั่นใจ หรือเขียนได้ข้อเดียวก็จะทำให้เราอาจจะเริ่มตระหนักได้ว่าที่ทำอยู่นั้นอาจจะไม่เพียงพอหรือล้าสมัยไปแล้ว และถ้าโดยเฉพาะคู่แข่งมี why us มากกว่าเราก็น่าจะยิ่งทำให้เราต้องทบทวนและพยายามสร้าง why us ขึ้นมาให้ได้เพิ่มเติม

แน่นอนว่า การสร้าง why us ให้ได้เพิ่มเติม ก็จะไม่ใช่สิ่งที่คิดได้ทำได้แค่ประชุมกันครึ่งวัน why us ที่ดีนั้นต้องได้มาแบบเลือดตาแทบกระเด็น บางเรื่องต้องรื้อระบบใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ บางเรื่องต้องใช้เวลาฝึกฝน บางเรื่องต้องลงทุนเพิ่ม หรือบางเรื่องก็ต้องไปเสาะแสวงหามา

ผมแนะนำว่าถ้าเขียน why us วันนี้ไม่ออก ก็อาจจะลองเขียน why us ในฝันว่าในมุมของลูกค้า ถ้าเรามี why us แบบนี้ซัก 5 ข้อ 10 ข้อ ก็จะโดดเด่นกว่าคู่แข่งแน่ๆ ต่อให้ในวันนี้ยังทำไม่ได้ แต่ก็จะได้มีเป้าหมายในการวางแผนและสร้างหรือทำมันขึ้นมาให้ได้จริงๆในอนาคต

การเขียน why us นี่ใช้กับคนที่เป็นพนักงานทำงานบริษัทที่ต้องต่อสู้กับเพื่อนร่วมงานที่เก่งๆ คลื่นลูกใหม่ที่กำลังมาแรงก็ได้นะครับ เพราะถ้าเราไม่สามารถบอกว่าทำไมต้องเป็นเรา ทำไมต้องใช้เราสำหรับงานที่มีเป็นลำดับต้นๆ โอกาสที่เวลาคลื่นลมแรงมาแล้วเราจะโดนพัดกระเด็นคนแรกก็มีสูง เขียนไว้วันนี้ หลายข้ออาจจะทำยังไม่ได้ แต่ก็จะรู้ได้ว่าเรายังขาดอะไรและต้องเติมหรือพัฒนาอะไรได้แน่

พอเขียนแล้วก็ควรจะให้คนอื่นดู ลองทดสอบ why us ของเราด้วยนะครับ ถ้าลองให้ลูกค้าดูแล้วเขาก็เฉยๆแสดงว่า why us นั้นยังไม่เด่นพอ ก็ต้องปรับต้องคิดกันให้คมต่อไป พอได้ why us ที่มั่นใจแล้วก็ต้องฝึกฝน พัฒนา ลงทุนกันจนทำให้โดดเด่นให้ได้ ถึงจะอยู่รอดได้ในยุคนี้โดยไม่วายวอดไปเสียก่อน

ลองเขียน why us ซักสามข้อห้าข้อกันดู เขียนได้แล้วโดนก็ดี แสดงว่าเราแข็งแรง เขียนยังไม่ออกก็ดี จะได้รู้ตัวและพยายามปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมนะครับ

ที่อยู่

Sukumvit Road
Bangkok
10110

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 19:00
อังคาร 10:00 - 19:00
พุธ 10:00 - 19:00
พฤหัสบดี 10:00 - 19:00
ศุกร์ 10:00 - 19:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ CEO Channelsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์