ตามข่าวไทยแลนด์

ตามข่าวไทยแลนด์ เปิดเพื่อเป็นสื่อ ข่าวสังคม

ที่โรงแรมรายาแกรนด์จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 9 สิงหาคม ว่าที่ร้อยตรี ดร. ถวัลย์  รุยาภรณ์เลขาธิการเนติบัณฑิตยสภาอดีตนายกส...
09/08/2025

ที่โรงแรมรายาแกรนด์จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 9 สิงหาคม ว่าที่ร้อยตรี ดร. ถวัลย์ รุยาภรณ์เลขาธิการเนติบัณฑิตยสภาอดีตนายกสภาทนายความ ไปเปิดอบรม เสริมทักษะทนายความเรื่อง เทคนิคและวิธีการเขียนคำให้การแก้ข้อกล่าวหา ในชั้นป.ป.ช และการ เขียนคำให้การจำเลย บัญชีชี้ช่อง คำร้องคำแถลงปิดคดี ในศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ มีนายพรเทพ เจริญพงษ์อนันต์ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับมีทนายความเข้าฟังกว่า 300 คน

ว่าที่รต.เร.ถวัลย์ รุยาพรเปิดเผยว่า ทนายความจำต้องมีความรู้ในเรื่องของกฎหมายใหม่ๆ เพื่อให้ทันโลกทันสถานการณ์ เนื่องจากปัจจุบัน กฎหมายมีความซับซ้อนและศาลไทยใช้ระบบไต่สวนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีป.ป.ช คดั ปปท.คดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการเลือกตั้ง ซึ่งพยานหลักฐานส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในชั้นพนักงานสอบสวนปปช. ทนายความจะต้องมีความรู้เข้านำพยานหลักฐานไปซักคานตั้งแต่ในสมัยชั้นสอบสวน เนื่องจากเมื่อคดีถึงศาลแล้วศาลจะไต่สวนอย่างเดียว หากทนายความจับไปซักค้านในเวลานั้นคงไม่ทันรูปคดีจะเสียหายแก่ตัวความได้ ปัจจุบันนี้คดียาเสพติดได้ลดน้อยลง เนื่องจากมีการใช้พระราชบัญญัติปราบปรามยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ แต่คดีทุจริต ประพฤติมิชอบในวงราชการกับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีคดีตรวจสอบทรัพย์สิน บัญชี ทรัพย์สินการยื่นบัญชีต่างๆ การยื่นบัญชีเท็จหรือไม่ยื่นคดีร่ำรวยผิดปกติ ก็เริ่มมากขึ้น มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมากขึ้น และอบต ของเมืองไทยมีถึง 7 พันกว่าแห่ง ดังนั้นทนายความจริงมีความจำเป็นต้องปรับตัว มีความรู้ความเข้าใจสำนวนของป.ป.ชอย่างถ่องแท้ ซึ่ง ตนขอรับอาสาทำหน้าที่เป็นนายกสภาทนายความ อีกสมัย ก็จะเปิดอบรมทนายความให้มากยิ่งขึ้น โดยได้หมายเลข 2 ส่วนทีมงานหมายเลข 3 ถึง 24 โดยจะมีการลงคะแนนในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคมนี้ที่สภาทนายความและที่ศาลจังหวัดทั่วประเทศ

ศาลจังหวัดธัญบุรี นําคณะวางพวงมาลา ถวายสักการะพระบิดาแห่งกฎหมายไทย เนื่องใน “วันรพี” ประจําปี 2568เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ...
08/08/2025

ศาลจังหวัดธัญบุรี นําคณะวางพวงมาลา ถวายสักการะพระบิดาแห่งกฎหมายไทย เนื่องใน “วันรพี” ประจําปี 2568

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดธัญบุรี นายสุจินต์ หลีสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้า ศาลจังหวัดธัญบุรี นายประชา ฉายแม้น หัวหน้าศาลเยาวชนปทุมธานี นายยศ ไผ่หยกงาม ผู้พิพากษา ศาลเยาวชนปทุมธานี นางจุติพร ทัพเจริญ ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนปทุมธานี นายทวีพงษ์ วิธีจงเจริญ ผู้พิพากษาสมทบ พร้อมคณะร่วมกัน วางพวงมาลาถวายสักการะพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องใน วันรพี" ประจำปี พ.ศ. 2568

"วันรพี" มีขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึง พระกรุณาธิคุณของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หรือพระบิดาแห่งกฎหมายไทย

ในการนี้ภายในงานยังได้มีการทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระ ส่งเสริมให้เกิดความเป็นสิริมงคลให้กับคณะทำงานของผู้พิพากษาในศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อทำงานให้เกิดการทำนุดำรงเพื่อความยุติธรรมต่อไป

ปักหมุดเริ่มแล้ว !! งาน Smart SME EXPO 2025 ปักหมุดเริ่มแล้ว !! งาน Smart SME EXPO 2025 วันที่ 7-10 ส.ค.นี้  ที่เมืองทอง...
07/08/2025

ปักหมุดเริ่มแล้ว !! งาน Smart SME EXPO 2025 ปักหมุดเริ่มแล้ว !! งาน Smart SME EXPO 2025 วันที่ 7-10 ส.ค.นี้ ที่เมืองทองธานี
พาเหรดแฟรนไชส์ดีลด่วน 250 แบรนด์ เสิร์ฟสินเชื่อ ทำเล ครบจบในงาน คาดเงินสะพัด 200 ลบ.

เริ่มวันนี้วันแรกสำหรับงานธุรกิจและแฟรนไชส์แห่งปี Smart SME EXPO 2025 ครั้งที่ 11 ด้วยการขนทัพธุรกิจและแฟรนไชส์ที่พร้อมใจจัดโปรโมชั่นแรงชวนคุณมาดีลด่วนในงานรวมกว่า 250 แบรนด์ เต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร หวังช่วยปลุกคนไทยฟื้นจากวิกฤตเศรษฐกิจด้วยตัวช่วยแบบครบเบ็ดเสร็จในงานทั้งสินเชื่อ และทำเลให้เลือกสรรทั่วประเทศ พร้อมบูธให้คำปรึกษาสำหรับเอสเอ็มอี กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เสวนาให้ความรู้โดยผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย และกิจกรรมอบรมอาชีพฟรีอัดแน่นตลอดงาน พลาดไม่ได้ วันที่ 7-10 สิงหาคมนี้ ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี คาดเม็ดเงินสะพัดในงาน 200 ล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า "ธุรกิจ SME โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงพาณิชย์เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SME ไทย ให้มีความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นในปัจจุบัน การจัดงาน Smart SME EXPO 2025 ในวันนี้จึงเป็นเวทีเชื่อมโยงโอกาส ทั้งด้านการตลาด การเงิน การพัฒนาความรู้ และการต่อยอดนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME ไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ"
ภายในงาน SMART SME EXPO 2025 นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้นำธุรกิจภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ร่วมออกบูธ จำนวน 46 บูธ ประกอบด้วยธุรกิจแฟรนไชส์ จำนวน 40 บูธ ใน 6 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม บริการ การศึกษา ค้าปลีก และความงาม/สปา ภายใต้ DBD Pavilion ขนาดพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีธุรกิจต้นแบบที่ผ่านการพัฒนาจากกิจกรรมนักธุรกิจมืออาชีพ (DBD-SPE) จำนวน 3 บูธ และกิจกรรมนักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ (DBD-ACM) จำนวน 3 บูธ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่ายการบริโภคภาคครัวเรือน สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่ผู้ว่างงานและผู้ต้องการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์
ด้านนางสาวณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดงาน Smart SME EXPO 2025 ให้รายละเอียดว่า "งาน Smart SME EXPO 2025 ในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรหลายภาคส่วน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, สถาบันอาหาร, สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ, บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด, ธนาคารออมสิน, EXIM BANK, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) นำเหล่าธุรกิจและแฟรนไชส์แบรนด์ดังพร้อมใจลดราคาช่วงกลางปี พ่วงด้วยแหล่งเงินทุน และสินเชื่อ เพื่อตอบโจทย์คนอยากมีธุรกิจในยุคนี้ให้สามารถเริ่มต้นได้ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น กับโมเดลธุรกิจที่น่าเชื่อถือและสร้างรายได้ได้จริง
ธุรกิจและแฟรนไชส์กว่า 250 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ โคตรปั่นสมูทตี้โยเกิร์ต, เพนกวินมิลค์ที, 39 RAMEN ,LG Laundry Lux, แฟรนไชส์น้ำด่างดริงค์โค, COCO WALK มะพร้าวน้ำหอมล้วนๆ, ชานมไข่มุก MOMO Shake, เสือน้อยหม่าล่าทั่ง , DR.TIGER LAUNDRY, Moncha ชานมไข่มุกเม็ดจิ๋ว, แฟรนไชส์ติดฟิล์ม Watch Protection Film, Ojisan Relaxing Station, แฟรนไชส์ร้านยางและช่วงล่าง พี.พี.ไทร์, เฮง ปัง ปั๊ว, อุปกรณ์เครื่องมือช่าง Fix & Build, ธุรกิจสะดวกซัก Speed Queen by VJ Group, ตู้ฆ่าเชื้อหมวกกันน็อกอัตโนมัติ Helmetclean SweetSun, Emberix Car Wash, ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส, อนิเมะชานมไข่มุก, ซีทีที โลจิสติกส์, ไก่ว้าว, เจปัง, Hey Coffee, ไทยสัปปายะ, PAPA SNACKS หนังไก่กรอบ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยนวัตกรรมและสินค้าชุมชนจากอีอีซี รวมกว่า 30 บูธ มาให้เลือกชิม ช้อปแบบจุใจในงานอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจลงทุนธุรกิจหรือแฟรนไชส์แต่ติดขัดเรื่องเงินทุน ภายในงานยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับเอสเอ็มอีจากธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), EXIM BANK, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และ Funding Societies ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังมีบูธให้คำปรึกษาทั้งในเรื่องการตลาด การลงทุน การพัฒนาสินค้า การสร้างแบรนด์ การขยายตลาดต่างประเทศ ฯลฯ อีกทั้งยังมีเสวนาให้ความรู้จากเหล่าวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกคับคั่ง กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และกิจกรรมอบรมอาชีพฟรีตลอดงาน
"อยากเชิญชวนผู้ที่กำลังมองหาอาชีพ คนว่างงาน วัยเกษียณ รวมทั้งผู้สนใจลงทุน มาเดินช้อปธุรกิจและแฟรนไชส์ที่เราดีลมาจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษทั้งงาน พร้อมกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย ที่เชื่อมั่นว่าจะช่วยจุดประกายไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจและอาชีพ รวมทั้งเติมองค์ความรู้เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจของคุณให้ก้าวทันโลกสามารถเติบโตและยืนหยัดได้ท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน งาน Smart SME EXPO มุ่งมั่นเป็นเวทีที่จะสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เข้มแข็งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งต่อไป โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 200 ล้านบาท" นางสาวณรินณ์ทิพกล่าวปิดท้าย
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Smart SME EXPO 2025 ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยงานจัดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7-10 สิงหาคมนี้ ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี บริการที่จอดรถมากมาย หรือใช้บริการรถไฟฟ้าสายสายชมพู สอบถามรายละเอียดโทร. 086-314-1482

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขยายการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา มอบเงินปลอบขวัญพร้อมกระเช้าสุขภาพแก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บ ...
07/08/2025

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขยายการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา มอบเงินปลอบขวัญพร้อมกระเช้าสุขภาพแก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าพบพลตรี ชยพณัฐ วิริรัตน์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองทัพไทย เพื่อเข้ามอบเงินปลอบขวัญให้แก่ทหารกล้าที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายละ 10,000 บาท รวมจำนวน 6 นาย พร้อมกระเช้าสุขภาพ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 69,000 บาท (หกหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
โดยเมื่อวันที่ 1-3 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และศาลากลางจังหวัด และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท
รวมงบประมาณการช่วยเหลือกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาแล้วทั้งสิ้น 1,569,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) โดยมูลนิธิฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือตามนโยบายการดำเนินงานของแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน
ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung
# # ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต # #
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

มูลนิธินาคราชและวัดป่ารวกใต้ร่วมกับวัดซูจิน วางศิลาฤกษ์ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทย5 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่สามโคก จ...
06/08/2025

มูลนิธินาคราชและวัดป่ารวกใต้ร่วมกับวัดซูจิน วางศิลาฤกษ์ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทย

5 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่สามโคก จ.ปทุมธานี มูลนิธินาคราช โดย ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ ได้จัดให้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทย ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างมูลนิธินาคราช วัดป่ารวกใต้และวัดซูจิน ในการเริ่มต้นส่งเสริมวัฒนธรรมร่วมกัน ครั้งนี้ได้จัดให้มีการวางศิลาฤกษ์ในพื้นที่ 2 ไร่เศษ ของมูลินิธินาคราชโดยมี ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระแดซอง จากวัดซูจิน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายพีรพล สุขเจริญธรรม ศิลปินการออกแบบและ เพ้นท์สี นางสาวกาลปพฤกษ์ สกุลจารุพงศ์ประธานบริษัท ครีมไลก์ จำกัด , นายกิตติพงษ์ สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบล.ไอร่า, อาจารย์ นิติกฤษย์ กิตติศรีวรนันท์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษพลังตัวเลข, กฤต์ณัฏฐ์ อนันทิพัฒน์ เลขาธิการสมาพันธ์ SME ไทย จ.เชียงราย, ไตรรัตน์ วิชิตอนันต์ รองประธานสมาพันธ์ SME ไทย จ.เชียงราย, ตัวแทนจากเซดาร์ แอนด์ ลอรี่, ตัวแทนจากสาธารณรัฐ คาซัคสถาน, ตัวแทนจาก NSJj Group, ฮัน เยี่ยน จาง ผู้จัดการระดับกลาง, ยวน จุน พาร์ค กรรมการบริหาร และสื่อมวลชนเข้าร่วม

ดร. เหมโชค สิงห์สมบุญ รองประธานมูลนิธินาคราช กล่าวว่า การเปิดศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทย ในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ทั้ง 2 ประเทศมีความใกล้ชิดกันมากขึ้นในแง่ของความเข้าใจวัฒนธรรมและเราได้มุ่งหวังที่จะประสบความสำเร็จอีกมากมายในปีต่อๆไป สำหรับการเปิดศูนย์วัฒนธรรมร่วมกันในครั้งนี้ขอขอบคุณวัดซูจิน ที่ได้พยายามอย่างยิ่งที่ให้มีความร่วมมือในครั้งนี้
โครงการนี้จะส่งเสริมเรื่องการศึกษาและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ
พร้อมกับการแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน ศิลปะ ความรู้ด้านการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ต่างๆด้านความงามของเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ก็มีความสนใจผลิตภันฑ์จากประเทศไทยเช่นพวกสมุนไพรเเละอาหาร

นางสาว กาลปพฤกษ์ สกุลจารุพงศ์ ประธานบริษัท ครีมไลก์ จำกัด กล่าวว่ากระแสเกาหลีเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสิ่งเหล่านี้สามารถพบได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่อาหาร ภาษา เครื่องแต่งกายละคร ภาพยนต์ เกมโชว์วาไรตี้ และเพลง สิ่งเหล่านี้ เป็นบทพิสูจน์ว่าความแตกต่างทางวัฒนธรรมไม่ได้เป็นอุปสรรคในการรับชม เพราะผู้ชมกลับให้ความสนใจเพราะง่ายต่อความเข้าใจ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นเอเซียเมื่อได้รับความนิยมผู้ชมจะเกิดการเรียนรู้และะซึมซับวัฒนธรรมจากประเทศเกาหลี และทางกลุ่มหวังว่าทางประชาชนประเทศเกาหลีใต้จะสามารถเรียนรู้จากวัฒนธรรมไทยได้เช่นกัน

พระแดซอง จากวัดซูจิน กล่าวว่า ข้าราชการ ผู้ประกอบการและพี่น้องชาวพุทธทุกท่าน ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นพวกท่านได้เข้ามาร่วมงานสำคัญในวันนี้ การก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทยในครั้งนี้จะเป็นพื้นที่อันทรงคุณค่าสำหรับความเข้าใจ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และประเพณีทางพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าหวังว่าศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้จะเปิดกว้าง ไม่เพียงแต่สำหรับชาวพุทธทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการให้เป็นเวทีสำหรับการเรียนรู้ เคารพ และเข้าใจวัฒนธรรมของกันและกัน
การพัฒนาด้านเกษตรกรรมก็เป็นอีกเรื่องที่วัดซูจินได้ให้ความสนใจเนื่องจากมีสินค้าเกษตรของเกาหลีใต้จำนวนมากที่สามารถเพาะปลูกได้ในประเทศไทยถ้ามีการเผยแพร่ นวัตกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูก และจะเป็นการเพื่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย
ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้
หลวงพ่อเเดซองแห่งวัดซูจินกล่าวว่าที่ผ่านได้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของทางวัดเพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมาก ทางเจ้าอาวาสวัดซูจิน จึงได้มีความสนใจที่จะให้ความรู้แก่ชาวเกาหลีใต้ที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้รับทราบถึงสถานที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวและวัฒนธรรมต่างๆในแต่ละพื้นที่

หลังจากวางศิลาฤกษ์เป็นที่เรียบร้อย ทางศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี - ไทยได้จัดให้มีการแสดงวัฒนธรรมเกาหลีให้ผู้ที่มาร่วมได้ชมกัน อาทิ บินาริ ซึ่งเป็นบทสวดอวยพรในพิธีเฉลิมฉลอง, ชอนชู บารา เป็นการร่ายรำชำระล้างสิ่งชั่วร้าย, ยังซันโด แทพยองกา เป็นเพลงพื้นบ้านของเกาหลี, กานยอ โอเค เป็นการรำพัดแบบดั้งเดิม, บันยา ซิมกยอง เป็นบทสวดทางพุทธศาสนาดั้งเดิม, ก็อดเเทรยอง อองเฮยาทั้ง 2 ชุดนี้เป็นบทเพลงพื้นบ้านแต่ดั้งเดิม, เพลงพื้นบ้านบองโจ อาริ ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านบอกเล่าเกี่ยวกับความยากลำบากในช่วงปลายสมัยราชวงศ์โชซอน, เพลงพื้นบ้าน แบ็ตโนเร ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของชาวประมง, ซัลปุริ การรำเพื่อขจัดความโชคร้าย และปิดท้ายที่ซามุลโนริ ซอนบัน "ระบำแห่งท้องฟ้า" ซึ่งเป็นการร่ายรำที่สวย สง่างามที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลีใต้

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ...
04/08/2025

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท
ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มอบหมายให้ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายไปรเทพ ซอโสตถิกุล ผู้ช่วยกรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ มอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ที่นอน เสื่อ ถุงยังชีพ อาหารแห้ง ของเล่นเด็กเล็ก ขนม ฯลฯ ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท โดยมี นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายสมบูรณ์ สุธีระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย คณะมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมดำเนินการ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และ นายวสันต์ ชิงชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย คณะมูลนิธิสุรินทร์สามัคคีกุศลสถานสงเคราะห์ (จิบเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เป็นผู้ประสานงานและร่วมดำเนินการ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และ นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีษะเกษ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย คณะมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมดำเนินการ ณ ศาลากลางจังหวัด และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร โอภาสวงศ์ และ นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของ
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน
ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung
# # ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต # #
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

กรมเจรจา เตรียมเสิร์ฟกาแฟไทยในตลาดแดนมังกรด้วย FTA  กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” ...
04/08/2025

กรมเจรจา เตรียมเสิร์ฟกาแฟไทยในตลาดแดนมังกรด้วย FTA
กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” เตรียมพร้อมผู้ประกอบการกาแฟรุกตลาดจีน ใช้ประโยชน์ FTA อาเซียน-จีน และ RCEP จับคู่ธุรกิจ เข้าร่วมงานแสดงสินค้ากาแฟ และสำรวจศักยภาพตลาดโมเดิร์นเทรด ณ เมืองกว่างโจวและเมือง เซินเจิ้น ในเดือนสิงหาคม นี้
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร โครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” จัดโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมมโนปกรณ์นิติธาดา กระทรวงพาณิชย์
โดยเปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนการส่งออกและขยายตลาดใหม่ โดยเร่งรัดการเจรจา FTA ใหม่ ๆ
และปรับปรุงให้ทันสมัยและสอดรับกับประเด็นสำคัญ เช่น สิ่งแวดล้อมและการค้าโลกยุคใหม่ และส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้ก้าวทันยุคดิจิทัล เข้าถึงเทคโนโลยีและตลาดออนไลน์ จึงได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศดำเนินโครงการ
เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการสินค้ากาแฟ ให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายการส่งออกไปตลาดการค้าเสรี 18 ประเทศ ที่ได้ลดหรือยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าศุลกากรให้กับสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว และดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับระเบียบการค้าโลกใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ซึ่งกาแฟเป็นสินค้าดาวรุ่งที่มีการบริโภคเติบโตเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องในตลาดโลกและภายในประเทศ ตลาดกาแฟยังมีช่องว่าง
ในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะตลาดจีนที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน และมีแนวโน้มความนิยมบริโภคกาแฟโดยคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ขยายตัวร้อยละ 8.55 ต่อปี ในปี 2567 ไทยส่งออกกาแฟคั่วไปจีนเป็นอันดับ 2 คิดเป็นมูลค่า
0.29 ล้านดอลลาห์สหรัฐ และส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปจีนเป็นอันดับ 7 คิดเป็นมูลค่า 3.79 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ของมูลค่า
การส่งออกทั้งหมด
โครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” มุ่งนำเมล็ดกาแฟที่มีอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งอะราบิก้าและโรบัสต้ามาสร้างมูลค่าเพิ่ม มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟที่หลากหลายทั้งเมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟคั่วบด แคปซูล กาแฟดริป กาแฟถุงชง กาแฟสปาร์คกิ้ง กาแฟสำเร็จรูป และลูกอมกาแฟ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และส่งออก
ด้วยการใช้ประโยชน์จาก FTA โดยมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 84 ราย และผ่านการคัดเลือกรอบแรก
จำนวน 20 ราย เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงลึก Boot Camp ติวเข้มเรื่อง FTA การค้าระหว่างประเทศ มาตรการและกฎระเบียบ
การส่งออกกาแฟของไทยและจีน การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ กลยุทธ์การทำตลาดด้วย AI การเขียนแผนธุรกิจและ
การบริหารความเสี่ยง เตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกกาแฟไปตลาดจีน อีกทั้งกรมได้เปิดเวทีการทำ Workshop ให้คน
ในวงการกาแฟได้สร้างคลัสเตอร์กลุ่มผู้ประกอบการ พร้อมจัดกิจกรรม Pitching คัดเลือกผู้ประกอบการ 10 รายสุดท้าย ที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรมเดินทางไปสำรวจศักยภาพตลาดและจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าจีนทั้งผู้นำเข้า โมเดิร์นเทรด ตัวแทนกระจายสินค้า โรงแรม
และร้านอาหาร พร้อมกับเข้าร่วมงานแสดงสินค้ากาแฟ CAFEEX 2025 (Café Expo China) ณ เมืองกว่างโจวและเมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนสิงหาคม 2568
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมั่นใจว่า โครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” จะช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการติดอาวุธ FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 14 ฉบับ ครอบคลุม 18 ประเทศภาคีและอีก 3 ฉบับ ที่ลงนามแล้ว ครอบคลุม
6 ประเทศภาคี ได้แก่ ศรีลังกา ภูฏาน ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ขยายการส่งออกกาแฟของไทย
ไปในตลาดจีนและตลาดโลก และที่สำคัญคือ วัตถุดิบเมล็ดกาแฟที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศสามารถเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลกได้
ที่เกิดจากความร่วมมือของผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็กเติบโตไปด้วยกัน นายฉันทวิชญ์ กล่าว

สิงหาคม 2568

กลุ่มเดอะมอลล์ จัดแคมเปญพิเศษ WE LOVE THAILAND รวมน้ำใจเคียงข้างคนไทยส่งพลังใจถึง ทหารหาญผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหา...
02/08/2025

กลุ่มเดอะมอลล์ จัดแคมเปญพิเศษ WE LOVE THAILAND
รวมน้ำใจเคียงข้างคนไทย
ส่งพลังใจถึง ทหารหาญ
ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ
พี่น้องไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
โดยงานนี้มีการร่วมไว้อาลัยแด่วีรชนทหาร ผู้เสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยของคนไทยทุกคน

โดยการเปิดแคมเปญนี้ คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเดอะมอลล์ เป็นผู้นำผู้บริหารระดับสูง พนักงาน ยืนไว้อาลัยแด่ทหารหาญ พลเรือน และร่วมร้องเพลงชาติไทย บริเวณควอเทียร์พาร์ค เอ็มควอเทียร์
ท่ามกลางประชาชน นักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจ

พร้อมนำทัพธุรกิจ&แฟรนไชส์ดีลแรงบุกเมืองทองธานี หนุนคนไทยมีอาชีพสู้วิกฤต!!Smart SME EXPO 2025 วันที่ 7-10 ส.ค.นี้  คาดเงิ...
01/08/2025

พร้อมนำทัพธุรกิจ&แฟรนไชส์ดีลแรงบุกเมืองทองธานี หนุนคนไทยมีอาชีพสู้วิกฤต!!
Smart SME EXPO 2025 วันที่ 7-10 ส.ค.นี้ คาดเงินสะพัด 200 ล้านบาท

พีเอ็มจีพร้อมจัดงานธุรกิจและแฟรนไชส์แห่งปี Smart SME EXPO 2025 เตรียมยกทัพธุรกิจและแฟรนไชส์แบรนด์ดังกว่า 250 บูธ จัดโปรโมชั่นพิเศษลดแรงช่วงกลางปี เสิร์ฟธุรกิจ พร้อมทุน ทำเล พร้อมโซลูชั่นส์ดี ๆจากหน่วยงานที่ช่วยเหลือเอสเอ็มอี สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินชั้นนำ กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ สัมมนาให้ความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิแถวหน้าของเมืองไทย และอบรมอาชีพฟรีตลอดทั้งวัน พลาดไม่ได้ วันที่ 7-10 สิงหาคมนี้ ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี คาดเม็ดเงินสะพัดในงาน 200 ล้านบาท

คุณณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดงาน Smart SME EXPO 2025 กล่าวว่า "การจัดงาน Smart SME EXPO 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ด้วยการผนึกกำลังพันธมิตรหลายภาคส่วน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, สถาบันอาหาร, สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ, บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด, ธนาคารออมสิน, EXIM BANK, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดกิจกรรมดี ๆครั้งนี้ขึ้น โดยพาเหรดธุรกิจและแฟรนไชส์แบรนด์ดังจัดโปรโมชั่นลดพิเศษช่วงกลางปี พร้อมแหล่งเงินทุน และทำเลทอง ให้คนไทยเริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อสร้างรายได้รับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน"

บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร จัดเต็มกับ 250 ธุรกิจและแฟรนไชส์แบรนด์ชั้นนำ อาทิ โคตรปั่นสมูทตี้โยเกิร์ต, เพนกวินมิลค์ที, 39 RAMEN ,LG Laundry Lux, แฟรนไชส์น้ำด่างดริงค์โค, COCO WALK มะพร้าวน้ำหอมล้วนๆ, ชานมไข่มุก MOMO Shake, เสือน้อยหม่าล่าทั่ง , DR.TIGER LAUNDRY, Moncha ชานมไข่มุกเม็ดจิ๋ว, แฟรนไชส์ติดฟิล์ม Watch Protection Film, Ojisan Relaxing Station, แฟรนไชส์ร้านยางและช่วงล่าง พี.พี.ไทร์, เฮง ปัง ปั๊ว, อุปกรณ์เครื่องมือช่าง Fix & Build, ธุรกิจสะดวกซัก Speed Queen by VJ Group, ตู้ฆ่าเชื้อหมวกกันน็อกอัตโนมัติ Helmetclean SweetSun, บริการนำเข้าสินค้าจากจีน วีแคนบาย, Emberix Car Wash, ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส, อนิเมะชานมไข่มุก, ซีทีที โลจิสติกส์, ไก่ว้าว, เจปัง, กุยช่ายไฮโซ, ไทยสัปปายะ, PAPA SNACKS หนังไก่กรอบ, NuaNose ยาดมสายเท่, ฯลฯ
อีกทั้งยังเสริมทัพจัดเต็มด้วยแฟรนไชส์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคัดสรรมาร่วมออกบูธในงานกว่า 40 แบรนด์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม บริการ การศึกษา ค้าปลีก และความงาม นอกจากนี้ อีอีซี ยังพร้อมใจนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จากแหล่งชุมชน และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ภายในภาคตะวันออก รวมกว่า 30 บูธ มาให้เลือกชิมและช้อปภายในงานด้วย ที่สำคัญงานนี้ยังมีโซนดาราพารวยมาสร้างสีสันในงาน ไม่ว่าจะเป็น Nanake เก๊กฮวย และ เนื้อสวรรค์ โดยน้าเน็ก , ก๋วยเตี๋ยวเรือลำพาย โดยคุณเฟิสท์-เอกพงศ์ จงเกษกรณ์ , คุกกี้ Alicious โดย คุณปอม-ปณิธิ เครือโสภณ, ซินหมี่ หมี่ปูล้น ๆโดย คุณเขต-ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส และวายร้ายชาไทย โดยคุณจุ๊บ-อิทธิกร สาธุธรรม

ครบจบในงานกับทำเลทองทั่วประเทศจากโลตัส แม็คโคร และปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ พร้อมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), EXIM BANK, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และ Funding Societies นอกจากนี้ยังมีบูธให้คำปรึกษาทั้งในเรื่องการตลาด การลงทุน การพัฒนาสินค้า การสร้างแบรนด์ การขยายตลาดต่างประเทศ ฯลฯ อีกทั้งยังมีเสวนาให้ความรู้จากเหล่าวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกคับคั่ง กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และกิจกรรมอบรมอาชีพฟรีตลอดงาน

“เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่างาน Smart SME EXPO 2025 ในครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสและจุดประกายไอเดียสำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพ ผู้สนใจลงทุน รวมทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้มีความหวังที่จะลุกขึ้นสู้ ก้าวสู่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ อันเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตต่อไป โดยคาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในงานราว 200 ล้านบาท" นางสาวณรินณ์ทิพ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่มองหาอาชีพ ผู้ว่างงาน วัยเกษียณ หรือผู้สนใจลงทุนธุรกิจพลาดไม่ได้ งาน Smart SME EXPO 2025 จัดระหว่างวันที่ 7-10 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี (เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมีบริการที่จอดรถมากมาย หรือรถไฟฟ้าสายสีชมพู)
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานรับกระเป๋าผ้าฟรี >> https://evcnx.co/2VndA
สอบถามโทร. 086-314-1482 เฟซบุ๊ค : SMARTSMEEXPO......................................................................
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดได้ที่ ประชาสัมพันธ์โครงการ คุณกัญญา จักพีละ (หญิง) โทร. 06-1442-6651

คปภ. เผยผลสำเร็จโครงการ OIC : Be Smart First Jobber ปีที่ 4ขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาค เสริมสร้างทักษะการเงินคนรุ่นใหม่อย่าง...
31/07/2025

คปภ. เผยผลสำเร็จโครงการ OIC : Be Smart First Jobber ปีที่ 4
ขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาค เสริมสร้างทักษะการเงินคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เปิดเผยถึงผลสำเร็จของโครงการ "การเตรียมความพร้อมสู่วัยทำงานด้วยการประกันภัย OIC : Be Smart First Jobber ปีที่ 4" ที่ขยายเครือข่ายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ โดยจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โครงการ OIC : Be Smart First Jobber ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ และพฤติกรรมอันเหมาะสมด้านการบริหารจัดการทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงด้วยการประกันภัยให้แก่เยาวชน
เลขาธิการ คปภ. เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการว่าการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยในกลุ่มนิสิตนักศึกษา จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจการบริหารความเสี่ยงและการวางแผนการเงินได้ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นมีรายได้ เปรียบเสมือนการกลัดกระดุมเม็ดแรกได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญให้ประชากรของประเทศมีสุขภาวะการเงินที่ดีในอนาคต พร้อมทั้งเน้นย้ำผลสำเร็จในปีที่ 4 นี้ นายชูฉัตรกล่าวว่าคปภ.ได้ยกระดับโครงการให้มีความพิเศษกว่าทุกปี เพื่อขยายเครือข่ายความรู้ด้านการประกันภัยให้เข้าถึงนิสิตนักศึกษาในส่วนภูมิภาคให้เกิดความเท่าเทียม โดยเป็นครั้งแรกที่ขยายไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และภาคใต้ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ทั้งนี้การเลือกพื้นที่จัดงานมีเหตุผลเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำและเก่าแก่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนักศึกษากว่า 40,000 คน ส่วนจังหวัดสงขลาถือเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของภาคใต้ และมีนักศึกษารวมกันมากกว่า 50,000 คน นอกจากนี้ทั้งสองจังหวัดยังถือเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การประกันภัยของ รวมทั้งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตของภูมิภาค
นายชูฉัตรได้กล่าวถึงกิจกรรมภายในโครงการว่าได้ออกแบบกิจกรรมให้สนุก เข้าใจง่าย และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วย Be Experienced การเสวนาเส้นทางสายอาชีพประกันภัย, Be Prepared การบรรยายเรื่องประกันภัยในทุกจังหวะชีวิต, Be Edutained และ Be Local การพบปะผู้นำทางความคิด, Be Competitive กิจกรรมทดสอบความรู้พร้อมของรางวัลมูลค่ามากกว่า 10,000 บาท และ Be Recruited กิจกรรม Mini Job Fair ที่มีบริษัทและสมาคมกว่า 30 แห่งร่วมงาน รวมถึงผลตอบรับ เลขาธิการ คปภ. เผยว่า “ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้จัดกิจกรรมในสถานศึกษาทั่วประเทศกว่า 10 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมทั้งในสถานที่จริงและผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 32,000 คน ได้รับคำชื่นชมจากคณาจารย์ นักศึกษา และภาคธุรกิจประกันภัยเป็นอย่างดี” สำหรับความสำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยต่อเศรษฐกิจไทย นายชูฉัตร ระบุว่า “ปัจจุบันอุตสาหกรรมประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเกือบ 1 ล้านล้านบาท มีสินทรัพย์ลงทุนรวมกว่า 4.6 ล้านล้านบาท มีบุคลากรในสายงานมากกว่า 50,000 คน รวมถึงตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัยมากกว่า 500,000 ใบอนุญาต การเติบโตของอุตสาหกรรมยังคงมีความต้องการบุคลากรคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นายชูฉัตรยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “โครงการ OIC : Be Smart First Jobber เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดัน First Jobber ให้กลายเป็น Future Leader ที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต เราจะมุ่งมั่นยกระดับการจัดงานให้มีความทันสมัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป เพื่อวางรากฐานชีวิทางการเงินที่มั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ของประเทศไทย”

อียิปต์ฉลองวันชาติในกรุงเทพ : บทพิสูจน์ของมิตรภาพที่ยืนยงและการขยายความร่วมมือทวิภาคีกับไทยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ท...
27/07/2025

อียิปต์ฉลองวันชาติในกรุงเทพ : บทพิสูจน์ของมิตรภาพที่ยืนยงและการขยายความร่วมมือทวิภาคีกับไทย

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย ได้จัดงานวันชาติ ในโอกาสฉลองครบรอบ 73 ปี อันเป็นเหตุการณ์สำคัญช่วงการปฏิวัติในปี ค.ศ.1952 ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานของสาธารณรัฐอียิปต์สมัยใหม่ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี อธิปไตย และการปฏิรูปเศรษฐกิจของชาติ

งานนี้มีแขกผู้ทรงเกียรติระดับสูงของไทยเข้าร่วมมากมาย อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา , พันเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, ดร.นลินี ทวีสิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้แทนการค้าไทย , นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบรรดาทูตานุทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักธุรกิจชั้นนำ ผู้แทนองค์กรต่างๆ และสมาชิกชุมชนชาวอียิปต์ในประเทศไทย

ฯพณฯ เอกอัครราชทูตฮาลา ยูเซฟ ได้กล่าวแถลงเปิดงาน อันมีเนื้อหาสะท้อนถึงการเดินทางอันพัฒนาในระดับชาติของอียิปต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1952 เน้นย้ำถึงคุณค่าที่คงความสมัยใหม่ในอัตลักษณ์อียิปต์ นั่นคือ ความคืบหน้า การปฏิรูป และความร่วมมือระหว่างประเทศ “เราไม่เพียงแต่เฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้เท่านั้น แต่ยังร่วมฉลองคุณค่าอันยาวนานของอียิปต์ด้วย นั่นก็คือ ความเป็นเอกภาพของชาติ การพัฒนาเชิงสังคมและความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในบทบาทสำคัญของอียิปต์ในระเบียบโลก”

และได้เน้นย้ำถึงความลึกซึ้งของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอียิปต์-ไทย ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 และยังกล่าวถึงความสำเร็จลุล่วงในการหารือทางการเมืองรอบที่ 7 ณ กรุงไคโร เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอีกด้วย

ท่านทูตได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการการค้าร่วม และกล่าวถึงการลงทุนของไทยในอียิปต์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ก้าวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจไทยต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ของอียิปต์”

ในเชิงการศึกษาและการแลกเปลี่ยนในภาคประชาชนกับประชาชน ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี ปัจจุบันเรามีนักศึกษาไทยกว่า 3,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮาร์อันเก่าแก่

ในเชิงเศรษฐกิจ ท่านทูตได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการปฏิรูปของอียิปต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค มีการส่งออกเพิ่มขึ้น 20% และมีตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ตัวเลขล่าสุดของ UNCTAD ระบุว่าอียิปต์เป็นประเทศผู้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รายใหญ่อันดับ 9 ของโลกในปี 2024 โดยเน้นย้ำถึงความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น ไฮโดรเจนสีเขียว การผลิต และโครงสร้างรากฐานทางดิจิตัล

ท่านทูตได้รับทราบถึงสถานการณ์อันน่าเศร้าในฉนวนกาซา และยืนยันถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของอียิปต์ในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติการหยุดยิง ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และผลักดันความยุติธรรมเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค “แม้ในยามที่เกิดความวุ่นวาย อียิปต์ยังคงวางแผนอย่างมั่นคงรอบคอบต่อไป เพื่อการลงทุน และเดินหน้าต่อด้วยความมุ่งมั่น”

ท่านทูตยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของไทยในโอกาสครบรอบ 150 ปี โดยยกย่องสุนทรพจน์ล่าสุดของ ฯพณฯ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าท่านได้สะท้อนถึงนโยบายต่างประเทศที่มีพลวัตและทรงพลังของไทยอย่างแท้จริง

ในช่วงท้ายคำปราศรัย ท่านทูตยังแสดงความขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและอียิปต์ทุกท่านที่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิมหาภาคีให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่กำลังจะมาถึง

“อียิปต์จงเจริญ มิตรภาพอียิปต์-ไทยจงเจริญ” ท่านเอกอัครราชทูตกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมืออันกึกก้อง
..

Egypt Celebrates National Day in Bangkok: A Testament to Enduring Friendship and Expanding Bilateral Cooperation with Thailand

The Embassy of the Arab Republic of Egypt in Bangkok commemorated the 73rd anniversary of Egypt’s National Day with a grand reception held on 23 July 2025. The event marked the pivotal 1952 Revolution, which laid the foundations of Egypt’s modern republic and continues to symbolize national unity, sovereignty, and economic reform.

The celebration was attended by a distinguished gathering of high-level dignitaries from the Kingdom of Thailand, including H.E. Mr. Wan Muhamad Noor Matha, Speaker of the House of Representatives and President of the National Assembly; H.E. Col. Tawee Sodsong, Minister of Justice; Dr. Nalinee Taveesin, Advisor to the Prime Minister and Thailand Trade Representative; the Sheikhul Islam of Thailand, Mr. Arun Boonchom; H.E. Mr. Chadchart Sittipunt, Bangkok Governor; and Ambassador Russ Jalichandra, Vice Foreign Minister, as well as Dr. Lalivan Karnchanachari - Vice Foreign Minister among others. Also present were Ambassadors and Head of diplomatic missions in Thailand, senior officials, business leaders, cultural institutions, and members of the Egyptian community in Thailand.

In her keynote address, H.E. Ambassador Hala Youssef reflected on Egypt’s national journey since 1952 and emphasized the enduring values that underpin its modern identity—progress, reform, and international cooperation. “We do not only celebrate this historical moment, but also its enduring values: national unity, social development, and a steadfast belief in Egypt’s vital role in the global order,” she stated.

The Ambassador highlighted the depth of Egypt–Thailand relations, which dates 1954. Among the key developments in bilateral ties over the past year, she noted the successful 7th round of political consultations held in Cairo last April.

She also announced the establishment of a Joint Trade Committee and cited a number of recent Thai investments in Egypt. “These steps reflect the increasing confidence of Thai businesses in Egypt’s economic prospects and strategic geographic position,” Ambassador Youssef said.
Education and people-to-people exchange remain central to the bilateral relationship, with over 3,000 Thai students currently studying in Egypt, particularly at the historic Al-Azhar University.

On the economic front, Ambassador Youssef outlined the progress of Egypt’s reform program, supported by the IMF since 2016, which has contributed to macroeconomic stability, a 20% increase in exports, and growing foreign reserves. She cited recent UNCTAD figures placing Egypt as the 9th-largest global recipient of FDI in 2024, and the leading destination in Africa, highlighting growing investor interest in sectors such as green hydrogen, manufacturing, and digital infrastructure.

In her remarks, the Ambassador acknowledged the tragic situation in Gaza and reaffirmed Egypt’s ongoing efforts to mediate for a ceasefire, facilitate humanitarian aid, and push for a just and lasting peace in the region. “Even in times of turbulence, Egypt continues to plan confidently, to invest, and to move forward with determination,” she said.

Ambassador Youssef also took the opportunity to extend heartfelt congratulations to Thailand’s Ministry of Foreign Affairs on the occasion of its 150th anniversary, praising the recent speech of H.E. Foreign Minister Maris Sangiampongsa as a reflection of Thailand’s dynamic and impactful foreign policy.

Concluding her address, the Ambassador expressed deep appreciation to all Thai and Egyptian stakeholders contributing to the advancement of the bilateral relationship. She also conveyed well wishes to His Majesty King Maha Vajiralongkorn on the occasion of his upcoming birthday.

“Long live Egypt. Long live Egyptian–Thai friendship,” she declared to resounding applause.

ที่อยู่

Chai Nat

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ตามข่าวไทยแลนด์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท