Nbt Phuket Thailand

Nbt Phuket Thailand นำเสนอข่าวสารนโยบายภาครัฐ สู่ประชาชน

04/07/2025
04/07/2025

แผ่นดินไหวขนาด 4.6 ตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย 2025-07-04 13:18:56 ตามเวลาประเทศไทย

วันนี้ (4 ก.ค.68) เวลา 12.33 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ใกล้หมู่เกาะสุมาตรา  #ไม่กระทบไทยกองเฝ้าระวังแผ่...
04/07/2025

วันนี้ (4 ก.ค.68) เวลา 12.33 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ใกล้หมู่เกาะสุมาตรา #ไม่กระทบไทย

กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวรายงานเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.2 ลึก 10 กม.จุดศูนย์กลางอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 394 กิโลเมตร

#ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
#ไม่ตื่นตระหนก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม:
🔗 https://earthquake.tmd.go.th/EQ14936

#แผ่นดินไหว #กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว #ภูเก็ต

📌วันที่ (3 ก.ค.68) เวลา 09.30 น. พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มอบหมายพ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง รอง ...
04/07/2025

📌วันที่ (3 ก.ค.68) เวลา 09.30 น.
พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มอบหมายพ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.นครศรี ฯ ตรวจเยี่ยม ประเมินผลการปฏิบัติตามโครงการตำบลยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2568 ในพื้นที่
สภ.กะปาง หมู่บ้านที่เข้าร่วม คือ บ้านกะโสมเหนือ ม.6 และบ้านท่าเลน ม.10 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

โดยมี พ.ต.อ.โชติ เพชรหนองชุม ผกก.สภ.กะปาง, พ.ต.ท.กฤษฎา สิทธิยานันท์ รอง ผกก.ป.สภ.กะปาง, พ.ต.ท.ประทีป ชูมณี รอง ผกก. สส.สภ.กะปาง, พ.ต.ท.ศรีวิรัตน์ พลรัฐนาสิทธิ์ สว.สส.สภ.กะปาง, พ.ต.ท.สมประสงค์ รักษาแก้ว สวป.ฯ/ หน.ชป.ตำบลยั่งยืน สภ.กะปาง, พร้อมด้วย ตำรวจชุดปฏิบัติการ สภ.กะปาง, ปลัดอาวุโสอำเภอทุ่งสง, สาธารณสุข อ.ทุ่งสง, ผู้ใหญ่บ้าน, ผอ.รพ.สต.กะปาง, ผอ.รร.บ้านวังเต่า และ อสม. เข้าร่วมประชุม ประเมินผลโดยพร้อมเพรียงกันที่ศาลาประชาคมบ้านท่าเลน ม.10 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

04/07/2025
สธ. Kick off โครงการ “คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต” ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 📌บทสรุป...
04/07/2025

สธ. Kick off โครงการ “คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต” ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
📌บทสรุป
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดกิจกรรม Kick off โครงการคนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2570 โดยมีเป้าหมายให้คนไทย 7.2 ล้านคน ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงและวินิจฉัยโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยชะลอความเสื่อมของไตและลดโอกาสการเกิดภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไตและเข้าถึงการตรวจคัดกรองอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งส่งเสริมให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ทำหน้าที่นำความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและการป้องกันตนเองจากโรคไตเผยแพร่ต่อประชาชน ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ประมาณ 1,120,000 คน โดยความเสี่ยงเกิดโรคไตวายเรื้อรังส่วนใหญ่เกิดจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นิ่วในไต เก๊าท์ และผู้ป่วยที่มีประวัติซื้อยาชุดหรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS กินเป็นประจำ โครงการนี้จะช่วยป้องกันและชะลอการเกิดภาวะไตเสื่อม ลดความเสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้ถึง 3 ล้านล้านบาท

📌รายละเอียด
(3 ก.ค. 68) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดกิจกรรม Kick off โครงการคนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2570 จัดขึ้นที่โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยมี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้น้อมนำพระราโชวาทในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี คณะกรรมการบริหารมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ความตอนหนึ่งว่า “การรณรงค์เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องอาหารและโภชนาการ ตลอดจนวิธีปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากโรคไต เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคไตลงได้” มาดำเนินการ เพื่อค้นหาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยชะลอความเสื่อมของไตและลดโอกาสการเกิดภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไตและเข้าถึงการตรวจคัดกรองอย่างทั่วถึง
📌ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ประมาณ 1,120,000 คน การตรวจคัดกรองเพื่อให้รู้ค่าความเสี่ยงโรคไตตั้งแต่ระยะแรก จะทำให้สามารถควบคุมและชะลอการดำเนินของโรค ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมถึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถวางแผนการรักษาและดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดโรคไตวายเรื้อรัง ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นิ่วในไต เก๊าท์ และผู้ป่วยที่มีประวัติซื้อยาชุดหรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS กินเป็นประจำ ในทุกเขตสุขภาพ ซึ่งมีประมาณ 7.2 ล้านคนทั่วประเทศ ช่วยลดผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไตรายใหม่ ที่มีเฉลี่ยปีละ 17,000 ราย ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดทดแทนไตคนละ 220,000 - 280,000 บาทต่อปี และลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในระยะยาวได้ถึง 3 ล้านล้านบาท โดยนำร่องที่เขตสุขภาพที่ 4 จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่แรก นอกจากนี้ ยังขอให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทำหน้าที่นำความรู้จากโครงการ ไปแนะนำประชาชน เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไต การคัดกรองความเสี่ยง การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค การดูแลตนเอง
📌นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 กล่าวว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายกว่า 61,000 คน ที่ผ่านมาในเขตสุขภาพที่ 4 มีเป้าหมายคัดกรองโรคไตด้วยการเจาะหาอัตราการกรองของเสียของไตในผู้ป่วยเบาหวาน และความดัน 552,711 คน สำเร็จแล้ว 280,228 ราย
📌ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดตัวและประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนโครงการคนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีเป้าหมายให้คนไทย 7.2 ล้านคน ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงและวินิจฉัยโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอย่างทั่วถึงด้วย 4 มาตรการหลัก ได้แก่ 1) ส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพ 2) พัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนและจัดการปัจจัยสภาพแวดล้อม 3) เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการคัดกรองโรคไตเรื้อรังในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมถึงพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. และ 4) เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการข้อมูลและนวัตกรรมชะลอการเกิดโรคไต
📌“ขอเชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และผู้สูงอายุ ตรวจคัดกรองโรคไต ที่โรงพยาบาลหรือสถานบริการใกล้บ้าน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ดังคำขวัญวันไตโลกปีนี้ที่ว่า “หมั่นดูแลไต ใส่ใจ
คัดกรอง ป้องกันโรคไต” ซึ่งจะช่วยป้องกันและชะลอการเกิดภาวะไตเสื่อม ลดความเสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในระยะยาวได้”
.2ล้านคนรู้ค่าความเสี่ยงโรคไต #โครงการป้องกันโรคไตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ #กระทรวงสาธารณสุข #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

“รัฐบาล-กระทรวงดีอี” เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล คาดปี 68 มีมูลค่า 4.69 ล้านล้านบาท ดัน Digital GDP โต 6.2% 📌บทสรุป(2 ...
04/07/2025

“รัฐบาล-กระทรวงดีอี” เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล คาดปี 68 มีมูลค่า 4.69 ล้านล้านบาท ดัน Digital GDP โต 6.2%
📌บทสรุป
(2 ก.ค. 68) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้คาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 ภายใต้สมมติฐานสำคัญ ปัจจัยสนับสนุน และข้อจำกัด/ ความเสี่ยง คาดเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวมจะมีมูลค่า 4.69 ล้านล้านบาท มีการขยายตัวร้อยละ 6.2 จากปี 2567 และคิดเป็นการขยายตัว 3.4 เท่าของ GDP โดยรวม หลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 1.8 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโตในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยพบทุกหมวดขยายตัวสูงกว่า GDP ของประเทศซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าดิจิทัลมีมูลค่าประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 35 สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลและกระทรวงดีอี ทำงานหนักในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวด้วยอุตสาหกรรมดิจิทัลในทุกรูปแบบ

📌รายละเอียด
(2 ก.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คาดว่า Digital GDP ขยายตัว ร้อยละ 6.2 คิดเป็น 3.4 เท่าของ GDP โดยรวม (Gross Domestic Product) ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประมาณการว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ถึงแม้ว่าเศรฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศก่อนหน้านี้
นายประเสริฐ ระบุว่า “ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกในปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF (International Monetary Fund) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเหลือร้อยละ 2.8 (ลดลง 0.5 จุด) และ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเหลือร้อยละ 1.8 (ลดลง 1.0 จุด) ซึ่งพบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัว โดยเศรษฐกิจดิจิทัล (Broad Digital GDP หรือมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลแบบกว้าง ณ ราคาที่แท้จริง หรือ CVM: Chain Volume Measures) คาดว่าจะขยายตัว 6.2 สูงกว่าการขยายตัวของ GDP โดยรวม ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.8 (สศช. ประมาณการ) โดยเฉพาะด้านการส่งออกที่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าดิจิทัล มีมูลค่าประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 35 สูงกว่าการส่งออกรวมของประเทศที่ขยายตัวร้อยละ 8.0 ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล และกระทรวงดีอี ทำงานหนักในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวด้วยอุตสาหกรรมดิจิทัลในทุกรูปแบบ”
ด้านนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้สรุปคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 ที่จัดทำขึ้นภายใต้สมมติฐานเพื่อการคาดการณ์ ปัจจัยสนับสนุน และข้อจำกัด/ความเสี่ยง โดยมีผลการคาดการณ์ที่สำคัญ ดังนี้
📌สมมติฐานสำคัญ
• เศรษฐกิจโลก ขยายตัวร้อยละ 2.8 (IMF)
• เศรษฐกิจไทย ขยายตัวร้อยละ 1.8 (สศช.)
📌ปัจจัยสนับสนุน
• การส่งออกสินค้าดิจิทัลที่ขยายตัวสูงเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก📌นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา
• นโยบาย Cloud First Policy และการเร่งรัดสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
• การลงทุนในอุตสาหกรรม Data Center ชิ้นส่วนแผงวงจรพิมพ์ (PCB: 📌Printed Circuit Board) และเซมิคอนดักเตอร์
• พฤติกรรมของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้การชำระเงิน และซื้อบริการผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น
📌ข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยง
• นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่ไม่แน่นอน
• การผันผวนทางการเมือง และการค้าโลก
• ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามในภูมิภาคต่าง ๆ ที่รุนแรงขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง
• การแข่งขันในการดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัลในภูมิภาค
• การเข้ามาแข่งขันของสินค้าดิจิทัลนำเข้าจากต่างประเทศ
เศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวม (Broad Digital GDP (CVM) มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลแบบกว้าง) ในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่า 4.69 ล้านล้านบาท มีการขยายตัวร้อยละ 6.2 จากปี 2567 และคิดเป็นการขยายตัว 3.4 เท่า ของการขยายตัวของ GDP โดยรวมที่ขยายตัวร้อยละ 1.8 (สศช. ประมาณการ) แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโตในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัว สำหรับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในหมวดต่าง ๆ พบว่า ทุกหมวดขยายตัวสูงกว่า GDP ของประเทศ โดยอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ขยายตัวในอัตราที่สูงที่สุด (ร้อยละ 9.9) และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) ขยายตัวต่ำที่สุด (ร้อยละ 4.5) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
👉1. อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ (Hardware) ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.5 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.6 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การส่งออก และการผลิตสินค้าดิจิทัลของประเทศ
👉2. อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล (Digital Services) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย (1) การให้คำปรึกษาและบริการออกแบบ (2) บริการทางออนไลน์ และ (3) การซ่อมและบำรุงรักษา โดยมีลักษณะการดำเนินงานหลักเป็นการให้บริการ และมีการจัดเก็บค่าบริการในลักษณะของการเช่าใช้ หรือปริมาณการใช้งาน ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.7 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.7 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการบริโภคของประเทศ
👉3. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย (1) การสื่อสารและอุปกรณ์เครือข่าย และ (2) การบริการด้านการสื่อสารและแพร่ภาพกระจายเสียง ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 8.1 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 9.5 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการบริโภคของประเทศ
👉4. อุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.6 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.3 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศ
👉5. อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.5 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.2 ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
👉6. อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital content) แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) สื่อวิดีโอออนไลน์ (2) สื่อแอนิเมชัน (3) สื่อการเรียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (4) เกมส์ (5) สื่อเสียงแบบดิจิทัล (6) สื่อภาพและศิลปะ (7) สื่อข้อความและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และ (8) Immersive content (เช่น AR / VR) เป็นต้น ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 9.9 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 12.7 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการบริโภคของประเทศ
👉7. อุตสาหกรรมดิจิทัลอื่น ๆ (Others) ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.8 (CVM) ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.7 (CVM) ตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ
#รัฐบาลกระทรวงดีอีเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลคาดปี68มีมูลค่า4.69ล้านล้านบาทดันDigitalGDPโต6.2% #เศรษฐกิจดิจิทัล #กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

🔬✨ SCI PKRU คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอเชิญชวนน้องๆ และผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมงาน🔬 สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ส่วนภูมิภ...
04/07/2025

🔬✨ SCI PKRU คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอเชิญชวนน้องๆ และผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมงาน
🔬 สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 38 ประจำปี 2568 “Science in Action for Sustainable Community”
📅 ระหว่างวันที่ 18 – 20 สิงหาคม 2568
📍 ณ ศูนย์ประชุมอันดามันพรรณราย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
เตรียมพบกับกิจกรรมหลากหลายที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโลกทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างครบครัน อาทิ
🔹 การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์
🔹 การประกวดโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
🔹 การประดิษฐ์และแข่งขันเครื่องร่อน และเครื่องบินพลังยาง ประเภทบินไกล
🔹 การแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
🔹 การแข่งขันต่อวงจร IoT (เกมอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม)
🔹 การประกวดภาพวาดระบายสีทางวิทยาศาสตร์
🔹 การประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show)
🔹 การแข่งขันการพูดและโต้วาที (รอบชิงชนะเลิศ)
🔎ใบสมัครการประกวด-แข่งขัน : https://docs.google.com/.../1FAIpQLSckZSSlWC1nzS.../viewform
🧠 กิจกรรมบรรยายวิชาการพิเศษ ห้ามพลาด!
เรื่อง “จากน้ำมันสู่นวัตกรรมพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน”
🌟 นิทรรศการน่าสนใจภายในงาน
นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นิทรรศการจากหน่วยงานภายใน/สาขาวิชาเอกต่าง ๆ
นิทรรศการจากหน่วยงานภายนอก
📣 ร่วมเรียนรู้ จุดประกายความคิด และเปิดประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกัน!
🌱 แล้วพบกันในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2568! นะคะ/ครับ 🌟

04/07/2025
อบต.ตลิ่งชัน เปิดการแข่งขันตลิ่งชันเกมส์ รวมพลังต้านยาเสพติดที่สนามกีฬาโรงเรียนวัดปลักปลา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังห...
04/07/2025

อบต.ตลิ่งชัน เปิดการแข่งขันตลิ่งชันเกมส์ รวมพลังต้านยาเสพติด

ที่สนามกีฬาโรงเรียนวัดปลักปลา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา-กรีฑา นักเรียนและประชาชนต้านยาเสพติด ประจำปี 2568 หรือ “ตลิ่งชันเกมส์” ครั้งที่ 1 อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนายพรภิรม เงินสยาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ผู้นำท้องที่ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ตลอดจนเจ้าหน้าที่และพนักงานของ อบต.ตลิ่งชัน เข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียงภายใต้แนวคิด "เล่นกีฬา พัฒนากายใจ ห่างไกลยาเสพติด" เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนและประชาชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากสิ่งเสพติด สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม เสริมสร้างสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังเป็นเวทีในการส่งเสริมความสามารถด้านกีฬาให้กับเยาวชนในท้องถิ่น พร้อมปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ตามหลักของน้ำใจนักกีฬา

สำหรับพิธีเปิดเป็นไปอย่างคึกคักและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความสามัคคี มีขบวนพาเหรดจากโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ตำบลตลิ่งชัน การแสดงเชียร์ลีดเดอร์ การแสดงพื้นบ้านจากเยาวชนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นของผู้ปกครองและชาวบ้านที่มาร่วมส่งกำลังใจให้กับบุตรหลานนายพรภิรม เงินสยาม นายก อบต.ตลิ่งชัน กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่ อบต.มุ่งหวังจะสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชน ส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วม ได้ออกกำลังกาย และใช้กีฬาสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับครอบครัว หมู่บ้าน และตำบล ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ยืนยันว่าจะเดินหน้าสนับสนุนการจัดกิจกรรมกีฬาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชน สร้างสุขภาพที่ดี และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้ชาวตำบลตลิ่งชัน เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัยจากยาเสพติดในทุกมิติ

ภาพ/ข่าว – NBT ภูเก็ต

ติดตามการเดินทางลงพื้นที่ของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทร...
04/07/2025

ติดตามการเดินทางลงพื้นที่ของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเชื่อมโยงผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต
📌วันศุกร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘
เวลา ๐๘.๓๐ บ้านศาลาสามหลัง หมู่ที่ ๗
ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เวลา ๑๐.๓๐ น.พบปะกลุ่มปลูกไม้ผล ณ เทศบาลตำบลพรหมโลก หมู่ที่ 1 ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
LIVE STREAM ทางเพจในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์

ทรงพระเจริญ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ 🙏เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมาร...
04/07/2025

ทรงพระเจริญ

๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ 🙏
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

#ทรงพระเจริญ

ที่อยู่

สถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง11 ถนนคอซิมบี้ ตำบลรัษฎา
Changwat Phuket
83000

เบอร์โทรศัพท์

+6676211555

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Nbt Phuket Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประวัติ

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต ๕ สุราษฎร์ธานี กรมประชาสัมพันธ์ เห็นว่า จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีชุมชนหนาแน่น มีความเจริญด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการพัฒนาในหลายๆด้านในภาคใต้ตอนบน แต่ข้อมูลข่าวสารทางวิทยุและโทรทัศน์ ประชาชนไม่สามารถรับฟังและรับชมจากที่ใดได้ จึงได้มาจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และวิทยุโทรทัศน์ ขึ้น โดยวิทยุโทรทัศน์เริ่มทดลองออกอากาศครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยใช้เครื่องส่งซึ่งเจ้าหน้าที่เทคนิคของกรมประชาสัมพันธ์ได้จัดสร้างขึ้นด้วยเงินรายได้ของ ศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต ๕ สุราษฎร์ธานี ในระบบ ๕๒๕ เส้น ขาว-ดำ กำลังส่ง ๑๐๐ วัตต์ ออกอากาศด้วยความถี่ทางช่อง ๑๑ ใช้อาคารห้องส่งและเครื่องส่งชั่วคราวร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต บนเขารัง

พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้ทำการปรับปรุงเครื่องส่งเป็นระบบ ๖๒๕ เส้น ขาว -ดำ กำลังส่งเท่าเดิมคือ ๑๐๐ วัตต์ โดยเปลี่ยนช่องความถี่เป็นช่อง ๙ ในปีนี้เองที่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ นับเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในที่ทำการของศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต

ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ทางกรมประชาสัมพันธ์ได้อนุมัติให้นำเครื่องส่งและอุปกรณ์ต่างๆเช่นชุดโคมไฟส่องประจำห้องแสดงจากศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต ๒ ลำปาง ซึ่งเป็นเครื่องส่งระบบสี ๖๒๕ เส้น กำลังส่ง ๑,๐๐๐ วัตต์ หรือ ๑ กิโลวัตต์ มาติดตั้งที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต ทางสถานีฯ จึงเปลี่ยนจากช่อง ๙ ไปออกอากาศด้วยความถี่ช่อง ๖ ตามความถี่ของเครื่องส่ง

พ.ศ. ๒๕๒๓ ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง ๗ ได้ขยายสถานีเครือข่ายออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต ด้วย ทางสถานีฯ ได้รับการขอร้องขอให้เปลี่ยนความถี่จากช่อง ๖ มาเป็นช่อง ๙ ตามเดิม เพื่อไม่ให้คลื่นสัญญาณกวนกับทางสถานีฯช่อง ๗ ทางสถานีฯ จึงต้องดัดแปลงเครื่องส่งให้กลับมาที่ช่อง ๙ อีกครั้งหนึ่ง (และต่อมาทางสถานีฯ ก็ได้ถูกร้องขอให้เปลี่ยนไปออกอากาศทางช่อง ๕ เพื่อให้ทาง อสมท. ออกอากาศทางช่อง ๙)