โค้ชติค สร้างชีวิตด้วยจิตวิญญาณ

โค้ชติค สร้างชีวิตด้วยจิตวิญญาณ โค้ชติค Rosegold ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ภาคเหนือ : โค้ชติค อสังหาฯ : โค้ชติค NLP Coaching

22/06/2025

ผลงานวิจัยบอก วัยกลางคน 40+ ปี
กลับเป็นช่วง ที่มีศักยภาพมากที่สุด
ในการ เริ่มต้นใหม่
Art Markman ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและงานเขียนหลายเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ชี้ให้เห็นว่า "วัยกลางคน" ซึ่งคือช่วงอายุประมาณ 45-65 ปี กลับเป็นช่วงเวลาที่มีศักยภาพมากที่สุดในการเริ่มต้นใหม่ เพราะในช่วงอายุนี้ คนเราจะมีข้อได้เปรียบหลายประการที่ไม่เคยมีมาก่อน
สถิติแสดงว่าคนอายุ 40 ปีในสหรัฐฯ ยังมีอายุขัยเฉลี่ยอีกกว่า 40 ปี และคนเราไม่ได้เริ่ม "แก่" จริง ๆ จนกว่าจะถึงช่วงกลางอายุ 60 ปี นั่นหมายความว่าคุณยังมีเวลาอีกยาวนานพอที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยมีข้อได้เปรียบและเหตุผลสำคัญดังนี้
1. เส้นทางยังยาวไกล ต้องสร้างประสบการณ์ให้หลากหลาย
ในอายุ 50 คุณอาจยังมีชีวิตที่ดีอีก 30-40 ปีข้างหน้า
นั่นหมายความว่าแม้คุณจะมองเห็นขอบฟ้าแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปถึงจุดนั้น วิธีหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไปคือการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ ทุกวัน หากคุณได้ตั้งเป้าหมายเดิมมาแล้วหลายทศวรรษ และกำลังจะต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษกับสิ่งเดิม ๆ คุณจะไม่สามารถสร้าง "จุดหมายทางจิตใจ" ที่ทำให้ชีวิตรู้สึกยาวนานและเต็มเปี่ยม
แรงจูงใจในการผุดขึ้นจากเตียงในตอนเช้ามาจากความตื่นเต้นต่ออนาคตเป็นส่วนหนึ่ง ความตื่นเต้นนั้นมาจากความปรารถนาที่จะบรรลุสิ่งใหม่และสำคัญ การพิจารณาเป้าหมายใหม่ในวัยกลางคนให้โอกาสคุณในการหาแนวทางใหม่ในการค้นหาความหมายของชีวิต
2. ความรับผิดชอบเปลี่ยนไป เปิดโอกาสใหม่
หน้าที่การเป็นพ่อแม่ลดลง ความยืดหยุ่นทางการเงินเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ขับเคลื่อนเป้าหมายของคุณหลายอย่างคือความรับผิดชอบที่มี ในช่วงอายุ 30-40 ต้น คุณอาจมีความรับผิดชอบที่แตกต่างจากในปีหลัง ๆ หากคุณกำลังเลี้ยงดูครอบครัว คุณมีภาระด้านเวลาและการเงินต่อลูก ๆ ที่ใช้เวลามาก และอาจผูกมัดคุณกับงานที่ให้คุณเลี้ยงครอบครัวได้ คุณยังมีความรับผิดชอบในการเป็นพ่อแม่ประจำวันที่กินเวลามากก่อนและหลังทำงาน
เมื่อก้าวเข้าสู่วัยกลางคน ความรับผิดชอบอย่างการเลี้ยงดูลูกมักจะลดลง คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น และภาระทางการเงินน้อยลง ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการคิดว่าจะนำความพยายามไปใช้ที่ไหน และผลลัพธ์ใดที่คุณต้องการบรรลุมากที่สุด ความแตกต่างใหญ่ของเป้าหมายที่คุณอาจพิจารณาคือ ความรับผิดชอบมักจะมุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบ
ดังนั้น เมื่อคุณมีความรับผิดชอบมาก คุณอาจมุ่งเน้นเป้าหมายชีวิตและอาชีพไปที่การทำสิ่งที่ลดโอกาสที่อะไรจะผิดพลาด เมื่อความรับผิดชอบเหล่านั้นลดลง คุณจะเป็นอิสระมากขึ้นในการมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายชีวิตและอาชีพในอุดมคติ เพราะผลกระทบของความผิดพลาดอาจไม่รุนแรงเท่าเดิม
3. คุณค่าในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
จากการแสวงหาความสำเร็จ เปลี่ยนเป็นการใส่ใจสังคม
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตและงานคือ เป้าหมายในด้านเหล่านี้เข้ากันได้กับคุณค่าพื้นฐานของคุณหรือไม่ แม้ว่าคุณค่าจะค่อนข้างคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันหนึ่งไปอีกวันหนึ่ง แต่ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา มักจะเลือกเส้นทางอาชีพตามคุณค่าของตนเอง หากคุณให้ความสำคัญกับความมั่นคง คุณอาจเลือกอาชีพที่คนไม่ค่อยถูกไล่ออก แต่หากให้ความสำคัญกับความสำเร็จ คุณอาจเลือกเส้นทางอาชีพที่มีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งและได้รับการยอมรับ หรือหากคุณให้ความสำคัญกับการกุศล คุณอาจให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ช่วยเหลือชุมชน
สมมติว่าตอนหนุ่มสาว คุณให้ความสำคัญกับความสำเร็จ คุณอาจเลือกอาชีพที่โดดเด่นและรู้ว่าคนอื่นจะให้ความเคารพ คุณอาจแสวงหาโอกาสในการก้าวหน้าและรับบทบาทผู้นำที่จะทำให้คนเห็นความสำคัญของงานคุณ เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน คุณอาจเริ่มให้ความสำคัญกับการกุศลและต้องการทำดีต่อชุมชนมากขึ้น หากคุณมีความมั่นคงทางการเงินแล้ว คุณอาจปรับเป้าหมายใหม่ บางทีอาจเกษียณเร็วและไปทำงานให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อให้งานสอดคล้องกับคุณค่าปัจจุบันมากขึ้น
วัยกลางคนไม่ใช่จุดจบของความฝัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่มีข้อได้เปรียบมากมาย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น และเวลาที่ยังเหลืออีกยาวนาน การตั้งเป้าหมายใหม่ในช่วงนี้จึงไม่ใช่การเริ่มต้นสาย แต่เป็นการเริ่มต้นอย่างมีสติและพร้อมมากกว่าที่เคย
"วัยกลางคนไม่ใช่ช่วงปลายของความฝัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ด้วยปัญญาและประสบการณ์ที่สะสมมา"
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน
อ้างอิง
http://bit .ly/3ZIxB6m

04/04/2025

20 ข้อคิดที่ชอบจากหนังสือ Good Morning
I love You วิธีฝึกสติ และปรับสมอง

1. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ มันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว
คำถามที่สำคัญคือ คุณจะรับมือกับมันอย่างไร

2. เพราะฝึกฝน จึงเติบโต

3. ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ ที่ใด ที่แห่งนั้นคือจุดเริ่มต้น

4. เราสามารถฝึกฝนให้มีความสุขเพิ่มขึ้นได้
เพราะโครงสร้างทางสมองของเราสามารถ
ปรับเปลี่ยนได้

5. มนุษย์ปรับตัวและเติบโตได้ตลอดเวลา
ในทุกช่วงวัยของชีวิต

6. ไม่ต้อกลัวความสมบูรณ์แบบ
เพราะคุณจะไม่มีวันเข้าถึงได้

7. สติไม่ได้เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสิ่งที่เกิดขึ้น

8. แค่การกำหนดเจตนาอย่างแน่วแน่
จะช่วยปรับปรุงความรู้สึกนึกคิดไปจนถึง
การตัดสินใจแก้ปัญหา และการจดจำของเราได้

9. ทัศนะคติที่โอบอ้อมอารีและสนใจใคร่รู้
มีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพและสุขภาวะที่ดี

10. ความกรุณาต่อตนเองเปรียบเสมือนแสงสว่าง
นำทางที่จะช่วยนำพาให้เรา สามารถเผชิญกับ
ด้านมืดของตัวเอง

11. เมื่อเรามีความกรุณาต่อตนเอง
เราจะดูแลตัวเองมากขึ้น

12. คุณไม่สามารถหยุดพายุคลื่นลม
แต่คุณสามารถเรียนรู้วิธีโต้คลื่นได้

13. ความเจ็บปวดในชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ความทุกข์ทรมานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้

14. การยอมรับความจริงไม่ได้เป็นการยอมจำนน
แต่เป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้

15. การจัดการสิ่งแวดล้อมภายนอก
ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร
แต่การจัดการสิ่งที่อยู่ภายในต่างหาก
ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

16. การใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณอยู่ตลอดเวลา
เป็นประตูเบิกทางสู่สวรรค์

17. สติเป็นวิถีชีวิต เป็นวิถีแห่งการเป็นอยู่

18. การได้ยินเสียงของจิตวิญญาณไม่ได้จำกัด
อยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของกายไม่ใช่เฉพาะที่หู หรือที่ใจ

19. สติ ทำให้เราช้าลง

20. แม้ไม่สามารถกำจัดความเครียด
แต่เราสามารถฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่
เพื่อระบุและควบคุมอารมณ์ของเรา
ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาความชัดเจน
และมีความสุขมากขึ้นได้

หนังสือเล่มนี้ยังมีบทเรียนอีกมากมาย
หากสนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่
https://s.shopee.co.th/qVsZOKSL1
https://s.lazada.co.th/s.vpMtw?cc

25/03/2025

40 กฎเหล็กพิฆาตความธรรมดา
วิธีคิดที่จะติดสปีดให้ชีวิตคุณแบบ Realist
1. โลกไม่ได้จ่ายค่าความขยัน มันจ่ายค่าผลลัพธ์

โลกไม่สนว่าคุณพยายามแค่ไหน สนแค่ว่า... ได้อะไรจากคุณบ้าง
2. ใครๆก็อยากได้ "ผลลัพธ์" แต่คนที่ได้จริงคือคน "ทนกระบวนการ" ได้

อยากได้ Shortcut? ของจริงมีแต่ทางตรงที่ “โคตรไกล” และคนส่วนใหญ่เดินไม่สุด
3. เวลาทำงาน จงทำอย่างคนที่อยากเป็นเจ้าของ

มันจะเปลี่ยนวิธีคิดทุกอย่าง — จากรับคำสั่ง เป็นมองหาโอกาส
4. เข้าใจจุดอ่อนของตัวเอง ก่อนที่คนอื่นจะใช้มันต่อต้านคุณ

โลกจริงไม่เลือกโจมตีสิ่งที่คุณเก่ง — มันเล็งที่คุณพลาด แล้วฟันตรงนั้นซ้ำๆ
5. "ผู้ใหญ่" ไม่ใช่คนอายุเยอะ แต่คือคนที่ "รับผิดชอบผลลัพธ์" ได้

อยากโต? เริ่มจากการไม่โยนความผิดให้โลก
6. ถ้า Skill คุณแทนที่ง่าย คุณก็แทบไม่มีอำนาจต่อรอง

อัปเกรด Skill ที่คนอื่นไม่มีหรือมีไม่เยอะ นั่นแหละคือตัวคูณรายได้
7. ลงทุนในความรู้ ต้นทุนต่ำ แต่กำไรทบต้นตลอดชีวิต

ความรู้ดีๆ คือ Asset ที่ไม่ต้องเสียภาษี
8. คนที่สำเร็จจริงคือคนที่ "พัฒนา" ไม่หยุด ไม่ใช่คนที่เก่งสุดในตอนเริ่ม

ต้นเกมไม่สำคัญ สำคัญที่ End Game
9. คนเก่งไม่หวงวิชา แต่หวงเวลา

ถ้าอยากได้ของมีค่า จงมีคุณค่าแลกเปลี่ยน
10. ไม่บริหารเงิน = ทำงานฟรี

หาเงินเก่งแต่ใช้หมด = วนลูปเดิมซ้ำๆ
11. เงินคือ Freedom Point

ยิ่งมีเร็ว ยิ่งเลือกชีวิตได้เร็ว — เป้าคือทำงาน "เพราะอยาก" ไม่ใช่ "เพราะต้อง"
12. เวลาคือ Resource ที่หายแล้วไม่มีวันได้คืน

คิดให้ดีว่าจะเทมันให้กับอะไร คนไหน งานไหน
13. พลังงานคุณมีจำกัด อย่าเปลืองกับสิ่งไร้ค่า

ทุก "ดราม่า" ที่คุณสนใจ คือการหักพลังออกจากสิ่งสำคัญ
14. คิดเหมือนโปรแกรมเมอร์ เมื่อต้องทำอะไรซ้ำเกิน 3 ครั้ง

ให้ถามตัวเองว่า "จะทำให้เป็นอัตโนมัติได้อย่างไร?"
15. กฎ 5x5 - ปัญหานี้จะสำคัญในอีก 5 ปีไหม?

ถ้าไม่ อย่าให้มันกินพลังงานเกิน 5 นาที คนอ่อนแอเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ
16. คุณจะไม่รอด ถ้ากลัวคนเกลียด

ความสำเร็จ = ได้คนเกลียดฟรีแถมมาอยู่แล้ว
17. อย่าอธิบายตัวเองให้คนที่จงใจเข้าใจผิด

เสียพลังงาน + เสียเวลา
18. อย่าเป็นคนดีในสนามที่มีแต่คนล่าเหยื่อ

ต้องดีกับคนที่ควรได้ ไม่ใช่ดีกับทุกคน
19. คนบางคน ไม่อยากให้คุณสำเร็จ เพราะมันสะท้อนความล้มเหลวของเขาเอง

ความอิจฉาริษยาในสังคมอาจมีเยอะกว่าที่คิด
20. อยู่ใกล้คนที่ "กระตุ้นให้คุณเก่งขึ้น" ไม่ใช่คนที่ "ขี้บ่นแต่ไม่ทำอะไร"

สิ่งแวดล้อม = เครื่องเร่ง หรือไม่ก็เบรกชีวิต
21. ทุกคนเห็นแก่ตัว และนั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

เข้าใจแรงจูงใจของคนอื่น แล้วคุณจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ
22. อย่าเสียเวลาเถียงกับคนที่ "ไม่เคยแม้แต่เดินในสนามจริง"

คำพูดราคาถูก...ประสบการณ์ของจริงคือของแพงที่เปลี่ยนคุณได้
23. คำวิจารณ์ไม่ทำร้ายคุณ แต่วิธีตอบสนองต่างหากที่ทำได้

ฟังเฉพาะ Feedback ที่มีค่า นอกนั้นโยนทิ้ง
24. ถ้าคุณไม่คุมเกม คนอื่นจะใช้คุณเป็นหมาก

และเขาไม่เคยสงสารหมากที่พัง
25. มี Vision ชัด ชีวิตจะมีกรอบ ไม่วอกแวกง่าย

รู้ว่าอยากไปไหน แล้วคุณจะตัดสิ่งรบกวนได้เอง
26. แรงจูงใจอาจเป็นจุดเริ่มต้น ระบบคือความจริง

อย่าหวังว่าคุณจะรู้สึกอยากทำ สร้างระบบที่บังคับให้คุณทำแม้ในวันที่คุณอยากนอน
27. อย่าตัดสินตัวเองด้วย "ยอดไลก์" หรือ "ยอดวิว"

ของจริง วัดด้วยผลลัพธ์จริง ในชีวิตจริง
28. เวลาทำอะไร จงคิดเสมอว่า "ต้นทุนจม" คืออะไร

เลิกยึดติดของที่ลงทุนไปแล้ว ถ้ามันไม่คุ้ม ก็จบมันซะ
29. เลือกสนามที่ "ศักยภาพคุณ" เจอ "โอกาสใหญ่"

เก่งแต่ลงสนามผิดก็แพ้
30. อย่าเอาชีวิตไปผูกกับ "ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้"

ฝนตก รถติด ตลาดหุ้นตก... ช่างมัน สนแค่สิ่งที่คุณคุมได้
31. เวลาเจอปัญหา ให้คิดเป็นเกม ไม่ใช่คิดเหมือนโลกกำลังจะแตก

มองแบบ Puzzle แล้วคุณจะอยากแก้ มากกว่าอยากยอมแพ้
32. ไม่ต้องชนะทุกครั้ง แต่ต้องไม่พลาดซ้ำในเรื่องเดิม

คนฉลาดแพ้ได้ แต่จะไม่แพ้ด้วยความโง่ซ้ำ ๆ
33. "ไม่" คือคำที่ทรงพลังที่สุดในภาษาคนสำเร็จ

ผู้ชนะรู้ว่า "ไม่" คือเครื่องมือสร้างอนาคต ส่วนผู้แพ้กลัวการปฏิเสธ
34. เล่นเกมยาว แล้วคุณจะเจอผลลัพธ์ที่คนอื่นไม่มีวันได้เข้าใกล้

มองระยะสั้นเปลี่ยนอารมณ์ มองระยะยาวเปลี่ยนชีวิต
35. โพสต์โซเชียลเยอะ ไม่ได้แปลว่าสำเร็จเยอะ — บางคนโพสต์เพราะไม่มีอะไรสำเร็จเลย

คนสำเร็จจริงไม่ว่างอัปทุกชั่วโมง — เขาทำงาน
36. ชีวิตไม่แฟร์ โอเค แต่คุณยังเลือกได้ว่าจะเล่นเกมไหน

เปลี่ยนสนามแข่งได้ อย่ายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
37. บางครั้งคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้บอกปัจจัยที่แท้จริง

พวกเขาขายแค่ส่วนที่ดูดี ไม่ใช่ส่วนที่ทำให้พวกเขาชนะจริงๆ
38. อำนาจจริงคือการ "ไม่ต้องพูด" แล้วทุกคนขยับตาม

ความเงียบคืออาวุธของคนที่คุมเกม
39. สังคมสร้างความเชื่อที่ผิดว่าความพยายามนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ

เพื่อให้คนธรรมดายังคงพยายามต่อไปโดยไม่ตั้งคำถาม
40. คุณไม่ได้ชนะหรือแพ้เพราะโลกไม่แฟร์ แต่เพราะยอมรับ หรือไม่ยอมรับมัน

Realist เข้าใจโลก แล้ววางหมากชนะบนกระดานแห่งความจริง
อ่านจบแล้ว... ถ้ายังไม่ขยับตัวทำอะไรเลย แสดงว่าคุณ "มีภูมิคุ้มกันต่อแรงบันดาลใจสูงมาก" — ควรถูกส่งไปวิจัย
แต่ถ้าอ่านแล้วไฟลุก ขอบอกว่าโลกนี้รอคนแบบคุณอยู่...
ชีวิตไม่ต้องเพอร์เฟกต์ แค่ต้อง “เดินหน้าอย่างมีชั้นเชิง”
ผู้แพ้ = คิดเยอะ กลัวเยอะ ชิลเยอะ — และจะได้แค่ “อนาคตที่คนอื่นเหลือให้”
คนที่ชนะ = ไม่ใช่คนที่เก่งสุด แต่เป็นคนที่...
“มองขาด บุกเร็ว ฟาดหนัก (แล้วจบเกมแบบมีตังค์)”

16/02/2025

40 คำคมทรงพลังจาก David Ogilvy จอมเวทย์แห่งวงการโฆษณา
David Mackenzie Ogilvy เดวิด แม็คเคนซี โอกิลวี่ - ชายผู้ได้รับการขนานนามว่า "บิดาแห่งการโฆษณา" เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นเด็กล้างจานในโรงแรมหรูที่ปารีส ก่อนจะผันตัวมาเป็นพนักงานขายเตาทำอาหารแบบเคาะประตูบ้าน แต่ใครจะรู้ว่าคู่มือการขายเตา AGA ที่เขาเขียนขึ้นในวัย 20 ต้นๆ จะถูกนิตยสาร Fortune ยกย่องว่าเป็น "คู่มือการขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา"
จากเด็กล้างจานสู่ตำนานในวงการโฆษณา Ogilvy สร้างเอเจนซี่ของตัวเองด้วยเงินเพียง 6,000 ดอลลาร์ในกระเป๋า ก่อนจะพลิกโฉมวงการด้วยแนวคิดที่ว่า "ผู้บริโภคไม่ใช่คนโง่ เธอคือภรรยาของคุณ"
Ogilvy สร้างแคมเปญระดับตำนานมากมาย รวมถึงงานให้กับ Rolls-Royce ที่มีพาดหัวอันโด่งดัง "ที่ความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง เสียงที่ดังที่สุดในรถ Rolls-Royce คันใหม่นี้มาจากนาฬิกาไฟฟ้า" - เป็นพาดหัวที่ทำให้คนต้องอ่านซ้ำ และอ่านอีกครั้ง...และซื้อ
แม้จะเป็นจอมเวทย์แห่งวงการโฆษณา แต่เขาก็ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองอย่างขำๆ ว่าเคยใช้คำว่า "INEFFABLE" ในพาดหัวโฆษณา ก่อนจะค้นพบว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้ความหมายของมัน (คำนี้แปลว่า "เกินจะพรรณนา" ครับ...เผื่อคุณก็ไม่รู้เหมือนผม)
แต่ปรัชญาการทำงานของเขากลับเรียบง่ายและตรงไปตรงมา: "ความคิดที่ดีที่สุดมักมาในรูปแบบของมุขตลก" และ "ถ้าคุณไม่สามารถเป็นอัจฉริยะ อย่างน้อยก็จงเป็นที่จดจำ"
มาดูกันว่าทำไมแนวคิดของเขาถึงยังทรงพลังในโลกการตลาดยุคดิจิทัล ที่การแข่งขันดุเดือดยิ่งกว่ายุคที่เขาขายเตา AGA แบบเคาะประตูบ้านเสียอีก...กับ 40 คำคมทรงพลังต่อไปนี้
1. "What you say in advertising is more important than how you say it."

"สิ่งที่คุณพูดในโฆษณาสำคัญกว่าวิธีที่คุณพูด"
2. "A good advertisement is one which sells the product without drawing attention to itself."

"โฆษณาที่ดีคือโฆษณาที่ขายสินค้าได้โดยไม่ต้องดึงดูดความสนใจมาที่ตัวโฆษณา"
3. "Every ad is an investment in the long-term image of a brand."

"ทุกโฆษณาคือการลงทุนในภาพลักษณ์ระยะยาวของแบรนด์"
4. "The consumer isn't a moron; she is your wife. You insult her intelligence if you assume that a mere slogan and a few vapid adjectives will persuade her to buy anything."

"ผู้บริโภคไม่ใช่คนโง่ เธอคือภรรยาของคุณ คุณดูถูกสติปัญญาเธอ ถ้าคิดว่าแค่สโลแกนและคำคุณศัพท์ไร้สาระจะโน้มน้าวให้เธอซื้อ"
5. "If it doesn't sell, it isn't creative."

"ถ้าขายไม่ได้ ก็ไม่ใช่งานสร้างสรรค์"
6. "Great marketing only makes a bad product fail faster."

"การตลาดที่ยอดเยี่ยมเพียงทำให้สินค้าที่แย่ล้มเหลวเร็วขึ้น"
7. "Tell the truth, but make the truth fascinating."

"บอกความจริง แต่ทำให้ความจริงน่าหลงใหล"
8. "The headline is the most important element in most advertisements."

"พาดหัวคือองค์ประกอบสำคัญที่สุดในโฆษณาส่วนใหญ่"
9. "Don't count the people that you reach, reach the people who count."

"อย่านับจำนวนคนที่คุณเข้าถึง แต่จงเข้าถึงคนที่มีความสำคัญ"
10. "The more informative your advertising, the more persuasive it will be."

"ยิ่งโฆษณาให้ข้อมูลมาก ยิ่งมีพลังโน้มน้าวมาก"
11. "Never write an advertisement which you wouldn't want your family to read."

"อย่าเขียนโฆษณาที่คุณไม่อยากให้ครอบครัวคุณอ่าน"
12. "Unless your campaign has a big idea, it will pass like a ship in the night."

"ถ้าแคมเปญของคุณไม่มีไอเดียใหญ่ มันจะผ่านไปเหมือนเรือในคืนมืด"
13. "Consumers do not buy products. They buy product benefits."

"ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้า พวกเขาซื้อประโยชน์ที่จะได้รับ"
14. "You cannot bore people into buying your product."

"คุณไม่สามารถทำให้คนเบื่อจนซื้อสินค้าคุณได้"
15. "What really decides consumers to buy or not to buy is the content of your advertising, not its form."

"สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อคือเนื้อหาโฆษณา ไม่ใช่รูปแบบ"
16. "The best idea is the simplest."

"ไอเดียที่ดีที่สุดคือไอเดียที่เรียบง่ายที่สุด"
17. "Big ideas are usually simple ideas."

"ไอเดียใหญ่มักเป็นไอเดียที่เรียบง่าย"
18. "Positioning should be decided before the advertising is created."

"ตำแหน่งทางการตลาดต้องถูกกำหนดก่อนสร้างโฆษณา"
19. "When you advertise fire extinguishers, open with the fire."

"เมื่อคุณโฆษณาถังดับเพลิง จงเริ่มด้วยไฟ"
20. "If you want ACTION, don't write. Go and tell the guy what you want."

"ถ้าคุณต้องการการตอบสนอง อย่าเขียน ไปบอกเขาตรงๆว่าคุณต้องการอะไร"
21. "Advertising people who ignore research are as dangerous as generals who ignore decodes of enemy signals."

"นักโฆษณาที่ไม่สนใจการวิจัย อันตรายเท่ากับนายพลที่ไม่สนใจรหัสลับของศัตรู"
22. "You now have to decide what 'image' you want for your brand. Image means personality."

"คุณต้องตัดสินใจว่าต้องการ 'ภาพลักษณ์' แบบไหนให้แบรนด์ ภาพลักษณ์คือบุคลิกภาพ"
23. "If you tell lies about a product, you will be found out."

"ถ้าคุณโกหกเกี่ยวกับสินค้า คุณจะถูกจับได้"
24. "Never stop testing, and your advertising will never stop improving."

"อย่าหยุดทดสอบ และโฆษณาของคุณจะไม่หยุดพัฒนา"
25. "Write the way you talk. Naturally."

"เขียนแบบที่คุณพูด เป็นธรรมชาติ"
26. "Whenever you can, make the product itself the hero of your advertising."

"เมื่อใดก็ตามที่ทำได้ จงทำให้ตัวสินค้าเป็นพระเอกของโฆษณา"
27. "Within every brand is a product, but not every product is a brand."

"ในทุกแบรนด์มีสินค้า แต่ไม่ใช่ทุกสินค้าจะเป็นแบรนด์"
28. "The best ideas come as jokes."

"ไอเดียที่ดีที่สุดมาในรูปแบบของมุขตลก"
29. "People screen out a lot of commercials because they open with something dull."

"ผู้คนมักจะมองข้ามโฆษณาจำนวนมาก เพราะมันเริ่มต้นด้วยอะไรที่น่าเบื่อ"
30. "It has been found that the less an advertisement looks like an advertisement, the more readers stop, look, and read."

"พบว่ายิ่งโฆษณาดูไม่เหมือนโฆษณา ยิ่งมีคนหยุด มอง และอ่าน"
31. "Study the methods of your competitors and do the exact opposite."

"ศึกษาวิธีการของคู่แข่ง แล้วทำตรงกันข้าม"
32. "A brand is the sum of all its marketing."

"แบรนด์คือผลรวมของการตลาดทั้งหมด"
33. "Give people a taste of Old Crow, and tell them it's Old Crow. Then give them another taste of Old Crow, but tell them it's Jack Daniel's. Ask them which they prefer. They'll think the two drinks are quite different. They are tasting images."

"ให้คนลองชิม Old Crow และบอกว่าเป็น Old Crow จากนั้นให้ชิม Old Crow อีกครั้งแต่บอกว่าเป็น Jack Daniel's ถามว่าชอบอันไหนมากกว่า พวกเขาจะคิดว่าเครื่องดื่มสองอย่างแตกต่างกัน พวกเขากำลังชิมภาพลักษณ์"
34. "I do not regard advertising as entertainment or an art form, but as a medium of information."

"ผมไม่ได้มองว่าโฆษณาเป็นความบันเทิงหรือศิลปะ แต่เป็นสื่อของข้อมูล"
35. "Do not address your readers as though they were gathered together in a stadium. When people read your copy, they are alone."

"อย่าพูดกับผู้อ่านเหมือนพวกเขารวมตัวกันในสนามกีฬา เวลาคนอ่านงานของคุณ พวกเขาอยู่ตามลำพัง"
36. "Advertising is only evil when it advertises evil things."

"โฆษณาจะเป็นสิ่งชั่วร้าย ก็ต่อเมื่อมันโฆษณาสิ่งที่ชั่วร้าย"
37. "First, make yourself a reputation for being a creative genius. Second, surround yourself with partners who are better than you are. Third, leave them to go get on with it."

"หนึ่ง สร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะอัจฉริยะด้านความคิดสร้างสรรค์ สอง รายล้อมตัวเองด้วยพาร์ทเนอร์ที่เก่งกว่า สาม ปล่อยให้พวกเขาทำงานต่อไป"
38. "It follows that unless your headline sells your product, you have wasted 90 percent of your money..."

"ถ้าพาดหัวของคุณขายสินค้าไม่ได้ คุณสูญเสียเงิน 90 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว..."
39. "I have noticed that agencies which are full of fun and ferment seem to create the best advertising. If you are not happy in advertising, for goodness sake find a job in which you would be happy."

"ผมสังเกตว่าเอเจนซี่ที่เต็มไปด้วยความสนุกและความคึกคักมักสร้างงานโฆษณาที่ดีที่สุด ถ้าคุณไม่มีความสุขในงานโฆษณาเลย จงออกไปหางานที่คุณจะมีความสุข"
40. "Most good copywriters fall into two categories. Poets. And killers."

"นักเขียนคำโฆษณาที่ดีส่วนใหญ่มักจัดอยู่ในสองประเภท คือ กวี และ นักฆ่า"

11/02/2025

ลงทุนการอ่าน
แบบไม่ต้องแบกซักเล่ม
รวม 10 แอปอ่านหนังสือแบบออนไลน์
การอ่านหนังสือในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องแบกเล่มหนา ๆ ติดตัวอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีทำให้เราสามารถพกพาหนังสือนับร้อยเล่มไว้ในมือถือเครื่องเดียว รวม 10 แอปอ่านหนังสือออนไลน์
1.TK Read - แอปไทยที่มาพร้อมคลังหนังสือหลากหลายประเภท ทั้งนิยาย วรรณกรรม และหนังสือแปล มีฟีเจอร์ไฮไลต์ข้อความ จดบันทึก และสามารถแชร์ประโยคโดนใจไปยังโซเชียลมีเดียได้ทันที
2.Meb หรือ Meb E-library - รวบรวมหนังสือจากสำนักพิมพ์ชั้นนำของไทย มีระบบสมาชิกให้เลือกทั้งแบบรายเดือนและรายปี เหมาะสำหรับนักอ่านที่ต้องการเข้าถึงหนังสือใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
3.Libby - แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับห้องสมุดทั่วโลก ให้บริการยืมทั้งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และหนังสือเสียง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เพราะมีหนังสือภาษาอังกฤษให้เลือกเยอะ
4.Storytel - หนังสือเสียงที่มีทั้งเนื้อหาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีทั้งนิยาย หนังสือธุรกิจ และหนังสือพัฒนาตนเอง เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังหนังสือระหว่างทำกิจกรรมอื่น
5.PressReader - แหล่งรวมสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิทัลระดับโลก ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสาร สามารถดาวน์โหลดเก็บไว้อ่านแบบออฟไลน์ได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการติดตามข่าวสารจากทั่วโลก
6.Headway - บทสรุปหนังสือพัฒนาตนเองชั้นนำจากต่างประเทศ พร้อมแบบทดสอบความเข้าใจหลังการอ่าน ช่วยให้เข้าใจและจดจำเนื้อหาสำคัญได้ดียิ่งขึ้น
7.ห้องสมุดมารวย - ห้องสมุดดิจิทัลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมหนังสือด้านการเงิน การลงทุน และธุรกิจ ให้บริการฟรีผ่านแอปพลิเคชัน
8.Pocketbook - รองรับไฟล์หลากหลายฟอร์แมต มีระบบจัดการหมวดหมู่ที่ใช้งานง่าย และสามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ตามต้องการ
9. สรุปให้ - ไม่มีเวลาอ่านเล่มเต็ม ๆ แนะนำแอปนี้ เพราะมีสรุปหนังสือดัง ๆ ให้อ่านจบใน 15 นาที แบบเข้าใจง่าย
10.Hibrary - เหมือนมีห้องสมุดติดตัว สามารถยืมหนังสือได้ฟรีผ่านบัตรประชาชน มีทั้งตำราเรียน นิยาย นิตยสาร
การอ่านผ่านแอปพลิเคชันไม่เพียงช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บ แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการอ่าน เช่น การปรับขนาดตัวอักษร การเปิดโหมดกลางคืน และพจนานุกรมในตัว ทำให้การอ่านเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากขึ้น
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

ขอบคุณตัวเอง พี่ทริคซี่ ที่เป็นตัวเองในวันนี้ ขอบคุณเมล็ดพันธุ์ที่มันโผล่ขึ้นแตกหน่อกิ่งก้าน ตามธรรมชาติ because I am na...
11/02/2025

ขอบคุณตัวเอง พี่ทริคซี่ ที่เป็นตัวเองในวันนี้ ขอบคุณเมล็ดพันธุ์ที่มันโผล่ขึ้นแตกหน่อกิ่งก้าน ตามธรรมชาติ because I am natural 💝💜

ที่อยู่

Chiang Mai

เบอร์โทรศัพท์

+66949346160

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โค้ชติค สร้างชีวิตด้วยจิตวิญญาณผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง โค้ชติค สร้างชีวิตด้วยจิตวิญญาณ:

แชร์