
22/06/2025
ผลงานวิจัยบอก วัยกลางคน 40+ ปี
กลับเป็นช่วง ที่มีศักยภาพมากที่สุด
ในการ เริ่มต้นใหม่
Art Markman ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและงานเขียนหลายเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ชี้ให้เห็นว่า "วัยกลางคน" ซึ่งคือช่วงอายุประมาณ 45-65 ปี กลับเป็นช่วงเวลาที่มีศักยภาพมากที่สุดในการเริ่มต้นใหม่ เพราะในช่วงอายุนี้ คนเราจะมีข้อได้เปรียบหลายประการที่ไม่เคยมีมาก่อน
สถิติแสดงว่าคนอายุ 40 ปีในสหรัฐฯ ยังมีอายุขัยเฉลี่ยอีกกว่า 40 ปี และคนเราไม่ได้เริ่ม "แก่" จริง ๆ จนกว่าจะถึงช่วงกลางอายุ 60 ปี นั่นหมายความว่าคุณยังมีเวลาอีกยาวนานพอที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยมีข้อได้เปรียบและเหตุผลสำคัญดังนี้
1. เส้นทางยังยาวไกล ต้องสร้างประสบการณ์ให้หลากหลาย
ในอายุ 50 คุณอาจยังมีชีวิตที่ดีอีก 30-40 ปีข้างหน้า
นั่นหมายความว่าแม้คุณจะมองเห็นขอบฟ้าแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปถึงจุดนั้น วิธีหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไปคือการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ ทุกวัน หากคุณได้ตั้งเป้าหมายเดิมมาแล้วหลายทศวรรษ และกำลังจะต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษกับสิ่งเดิม ๆ คุณจะไม่สามารถสร้าง "จุดหมายทางจิตใจ" ที่ทำให้ชีวิตรู้สึกยาวนานและเต็มเปี่ยม
แรงจูงใจในการผุดขึ้นจากเตียงในตอนเช้ามาจากความตื่นเต้นต่ออนาคตเป็นส่วนหนึ่ง ความตื่นเต้นนั้นมาจากความปรารถนาที่จะบรรลุสิ่งใหม่และสำคัญ การพิจารณาเป้าหมายใหม่ในวัยกลางคนให้โอกาสคุณในการหาแนวทางใหม่ในการค้นหาความหมายของชีวิต
2. ความรับผิดชอบเปลี่ยนไป เปิดโอกาสใหม่
หน้าที่การเป็นพ่อแม่ลดลง ความยืดหยุ่นทางการเงินเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ขับเคลื่อนเป้าหมายของคุณหลายอย่างคือความรับผิดชอบที่มี ในช่วงอายุ 30-40 ต้น คุณอาจมีความรับผิดชอบที่แตกต่างจากในปีหลัง ๆ หากคุณกำลังเลี้ยงดูครอบครัว คุณมีภาระด้านเวลาและการเงินต่อลูก ๆ ที่ใช้เวลามาก และอาจผูกมัดคุณกับงานที่ให้คุณเลี้ยงครอบครัวได้ คุณยังมีความรับผิดชอบในการเป็นพ่อแม่ประจำวันที่กินเวลามากก่อนและหลังทำงาน
เมื่อก้าวเข้าสู่วัยกลางคน ความรับผิดชอบอย่างการเลี้ยงดูลูกมักจะลดลง คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น และภาระทางการเงินน้อยลง ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการคิดว่าจะนำความพยายามไปใช้ที่ไหน และผลลัพธ์ใดที่คุณต้องการบรรลุมากที่สุด ความแตกต่างใหญ่ของเป้าหมายที่คุณอาจพิจารณาคือ ความรับผิดชอบมักจะมุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบ
ดังนั้น เมื่อคุณมีความรับผิดชอบมาก คุณอาจมุ่งเน้นเป้าหมายชีวิตและอาชีพไปที่การทำสิ่งที่ลดโอกาสที่อะไรจะผิดพลาด เมื่อความรับผิดชอบเหล่านั้นลดลง คุณจะเป็นอิสระมากขึ้นในการมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายชีวิตและอาชีพในอุดมคติ เพราะผลกระทบของความผิดพลาดอาจไม่รุนแรงเท่าเดิม
3. คุณค่าในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
จากการแสวงหาความสำเร็จ เปลี่ยนเป็นการใส่ใจสังคม
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตและงานคือ เป้าหมายในด้านเหล่านี้เข้ากันได้กับคุณค่าพื้นฐานของคุณหรือไม่ แม้ว่าคุณค่าจะค่อนข้างคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันหนึ่งไปอีกวันหนึ่ง แต่ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา มักจะเลือกเส้นทางอาชีพตามคุณค่าของตนเอง หากคุณให้ความสำคัญกับความมั่นคง คุณอาจเลือกอาชีพที่คนไม่ค่อยถูกไล่ออก แต่หากให้ความสำคัญกับความสำเร็จ คุณอาจเลือกเส้นทางอาชีพที่มีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งและได้รับการยอมรับ หรือหากคุณให้ความสำคัญกับการกุศล คุณอาจให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ช่วยเหลือชุมชน
สมมติว่าตอนหนุ่มสาว คุณให้ความสำคัญกับความสำเร็จ คุณอาจเลือกอาชีพที่โดดเด่นและรู้ว่าคนอื่นจะให้ความเคารพ คุณอาจแสวงหาโอกาสในการก้าวหน้าและรับบทบาทผู้นำที่จะทำให้คนเห็นความสำคัญของงานคุณ เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน คุณอาจเริ่มให้ความสำคัญกับการกุศลและต้องการทำดีต่อชุมชนมากขึ้น หากคุณมีความมั่นคงทางการเงินแล้ว คุณอาจปรับเป้าหมายใหม่ บางทีอาจเกษียณเร็วและไปทำงานให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อให้งานสอดคล้องกับคุณค่าปัจจุบันมากขึ้น
วัยกลางคนไม่ใช่จุดจบของความฝัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่มีข้อได้เปรียบมากมาย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น และเวลาที่ยังเหลืออีกยาวนาน การตั้งเป้าหมายใหม่ในช่วงนี้จึงไม่ใช่การเริ่มต้นสาย แต่เป็นการเริ่มต้นอย่างมีสติและพร้อมมากกว่าที่เคย
"วัยกลางคนไม่ใช่ช่วงปลายของความฝัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ด้วยปัญญาและประสบการณ์ที่สะสมมา"
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
#ไปให้ถึง100ล้าน
อ้างอิง
http://bit .ly/3ZIxB6m