
04/08/2025
#ย้อนรอย “สมรภูมิฝิ่น” เชียงใหม่ – เส้นทางคาราวานสู่ลำปางกลางเสียงปืน
#จากเมืองหางถึงลำปาง: ขบวนเป๊อะฝิ่น กับความลับใต้เงาเขา
ในอดีตอันไม่ไกลนัก — ย้อนกลับไปราว 60-70 ปีก่อน — พรมแดนด้านตะวันตกของล้านนาไม่ใช่แค่ดินแดนเงียบสงบ หากแต่เป็นพื้นที่ผ่านของ “ฝิ่น” สินค้าสีดำที่มีมูลค่ามหาศาล เดินทางจากเมืองหางในเขตพม่า (ปัจจุบันอยู่ในรัฐฉาน) ข้ามแนวเขาลึกผ่านอ่างขาง แม่ขิ ปางเปาะ ดอยสะเก็ด มุ่งสู่ลำปาง โดยมี “ลูกเป๊อะ” หรือ “ลูกหาบฝิ่น” เป็นแรงงานหลัก ส่วนการคุ้มกันขบวนอันล้ำค่านี้...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปืนกลและมือปืนจีนฮ่อ
ทองฤทธิ์ พรหมตรี บันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้ใน วารสารคนเมือง จากประสบการณ์จริงที่เขาเคยเป็นหนึ่งใน “ลูกเป๊อะ” รับจ้างขนฝิ่น
#แสงตะเกียงที่เมืองหาง
เมื่อคาราวานของทองฤทธิ์เดินทางถึงเมืองหางในยามพลบค่ำ สิ่งที่พวกเขาพบกลับไม่ใช่หมู่บ้านเล็กเงียบงัน แต่คือความมีชีวิตชีวาของชุมชนชายแดน — บ้านไม้ไผ่ มุงหญ้าคา สว่างไสวไปด้วยตะเกียงเจ้าพายุ ร้านรวงเรียงรายไม่ต่างจากย่านตลาดในเมืองเชียงใหม่
เขาเล่าถึงศาลาพักแรมกลางหมู่บ้าน ศาลาไม้ไผ่ยกพื้นสูง ไม่มีฝา ปูพื้นด้วยไม้ไผ่สาน ด้านหนึ่งเปิดโล่งสู่ถนน พวกเขากางผ้าพลาสติกนอนหลับท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ และแสงดาวที่เหนือศีรษะ
รุ่งเช้า — มื้อแรกคือแกงผักกาดในหม้อใบใหญ่ น้ำซุปใส่มันวัวจนมันเยิ้ม กินร้อนๆ ก่อนจะแข็งเป็นไข มื้อนี้ไม่มีชาม ไม่มีจาน มีแค่หม้อกลางวง ข้าวกินจากถ้วยส่วนตัว หรือบางคนก็ใช้ตะเกียบ บ้างใช้ช้อนแล้วแต่ถนัด
#เมืองหาง: จุดตัดชายแดน คน ปืน และฝิ่น
ปี พ.ศ. 2492 เมืองหางเต็มไปด้วยผู้คนหลากชาติพันธุ์ — ไทยใหญ่ (เงี้ยว) เป็นชาวเมืองดั้งเดิม คนไทยจากฝั่งนี้มาตั้งร้านค้า ขณะที่จีนฮ่อซึ่งส่วนมากเป็นอดีตทหารคณะชาติ (ก๊กมินตั๋ง) ครองบทบาทเป็นพ่อค้า เจ้ามือพนัน และยามรักษาการ
ร้านค้าจีนเปิดขายทุกอย่างตั้งแต่ซาลาเปา ขนมหวาน ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล กาแฟ จนถึงข้าวซอย สินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากไทย แต่ราคากลับสูงกว่า 2-3 เท่า
ที่นี่...ใครพกปืนก็ได้ แม้แต่เด็กๆ ก็มีปืนพก และยิงเล่นกันได้กลางถนน
ขโมย? ไม่มีใครกล้าขโมยของในเมืองนี้ เพราะ “ศาลเตี้ย” พร้อมทำหน้าที่เสมอ
#อาชีพหลักของเมืองหาง
พื้นที่ราบมีไม่มาก เกษตรจึงมีน้อย อาชีพหลักที่ทำรายได้งดงามคือ การค้าฝิ่น การพนัน และการเป็นลูกหาบเป๊อะ บ่อนในเมืองหางคล้ายตลาดสดขนาดย่อม — ล้อมด้วยแถวร้านค้าใต้หลังคาหญ้าคา ไม่มีฝา เปิดโล่งให้คนแห่กันเข้ามาเล่นตั้งแต่โป ไปยันถั่ว ทุกโต๊ะมีเจ้ามือ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮ่อหรือไทยใหญ่ และแน่นอน ผู้เล่นไม่น้อยก็มาจากฝั่งไทย
#ขบวนฝิ่นเคลื่อนพล: เป้าหมายลำปาง
เมื่อถึงวันนัดรับฝิ่น ลูกหาบทุกคนเดินทางไปยังลานใต้ถุนบ้านพ่อเลี้ยง (เจ้าฝิ่น) ปิ๊บบรรจุฝิ่นเรียงเป็นกอง แบ่งตามขนาด บางปี๊บใส่ได้ถึง 12 จ๊อย (หน่วยชั่งน้ำหนักฝิ่น)
#ฝิ่นถูกบรรจุอย่างแน่นหนา ปิดผนึกและประทับตราเรียบร้อย
แต่ละคนจะรับเป๊อะมาแบกไว้บนหลัง ห่อด้วยผ้าดำ ใช้ผ้าขาวม้าพาดบ่าเป็นสายสะพาย น้ำหนักเฉลี่ย 15 กิโลกรัม ก่อนออกเดินทางจะจัดขบวน ลูกหาบกว่า 300 คนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ทุกกลุ่มมีมือปืนจีนฮ่อพร้อมอาวุธครบมือคอยคุ้มกัน — ปืนกล ปืนคาร์ไบน์ เมาเซอร์ และลูกระเบิดมือ
ขบวนใหญ่เคลื่อนผ่านเส้นทางโบราณ ลัดเลาะจากดอยอ่างขางสู่ดอยสะเก็ด ผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงและหมู่บ้านป่าลึก ก่อนจะบุกเข้าเมืองลำปางในเวลาไม่ต่ำกว่า 20 วัน
#เสียงปืนในป่าสันกำแพง: ปะทะเดือด!
แน่นอนว่าขบวนฝิ่นไม่ได้รอดปลอดภัยทุกครั้ง — เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสรรพสามิต มักซุ่มจับกลางป่า โดยเฉพาะในเส้นทางสันกำแพง–แม่ทา ที่กลายเป็น สมรภูมิฝิ่น หลายครั้งหลายหน
หนึ่งในเหตุการณ์รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เมื่อกองคาราวานใหญ่กว่า 100 คน เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ 22 นาย
เสียงปืนแตกดังลั่นป่าชายแดน! การปะทะดุเดือดยาวนานครึ่งชั่วโมง จบลงด้วยการเสียชีวิตของมือปืนจีนฮ่อ 4 ราย ยึดฝิ่นของกลาง 2 ปี๊บ พร้อมอาวุธสงครามครบครัน
เจ้าหน้าที่เผยว่า มือปืนที่ถูกยิงตายแต่งกายคล้ายทหาร มีเอกสารและตราประจำตัวครบถ้วน
“ฝิ่น” ในเงามืดของประวัติศาสตร์ล้านนา
เรื่องราวของฝิ่นไม่เพียงเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรืออาชญากรรม หากแต่ยังเกี่ยวพันกับการเมืองชายแดน การเปลี่ยนผ่านอำนาจ และเศรษฐกิจนอกระบบที่เคลื่อนย้ายผ่านป่าเขาและชีวิตผู้คน
#นี่คือเงามืดของล้านนาในยุคหนึ่ง...
เงาที่เลือนหายไปพร้อมคาราวาน
แต่ยังทิ้งเสียงปืนไว้กลางป่า
✍ อ้างอิงงานเขียน: พ.ต.ท.อนุ เนินหาด
รอง ผกก.สส.สภ.อ.แม่ริม
📧 [email protected]
📚 อ้างอิง: ThaiNews70 – สมรภูมิฝิ่นล้านนา