ข่าวมุสลิมเชียงใหม่

ข่าวมุสลิมเชียงใหม่ ข่าว สื่อสาร เรื่องราว บอกเล่าจาก มุสลิมเชียงใหม่และเมืองล้านนา ประเทศไทย

จัดกิจกรรมได้แต่ช่วยกันดูความเหมาะสม
26/10/2025

จัดกิจกรรมได้แต่ช่วยกันดูความเหมาะสม

เสียงดูอาอ์กลางลานมัสยิด:งานแต่งงานของชาวมุสลิมเมืองล้านนา ณ มัสยิดสันป่าตอง       ยามสายของวันอาทิตย์ เดินทางออกจากบ้าน...
26/10/2025

เสียงดูอาอ์กลางลานมัสยิด:งานแต่งงานของชาวมุสลิมเมืองล้านนา ณ มัสยิดสันป่าตอง

ยามสายของวันอาทิตย์ เดินทางออกจากบ้านภรรยาที่นครแบนสู่มัสยิดสันป่าตอง กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยปะปนมากับลมเหนือที่พัดเบา ๆ
ผู้คนในชุมชนแต่งกายด้วยชุดสุภาพงดงาม สีสันเรียบแต่มีรสนิยม ต่างทยอยกันมาร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานของชาวมุสลิมท้องถิ่น ที่ครั้งนี้ถือว่าเป็น “งานใหญ่” ของปี

เจ้าสาวคือบุตรสาวของ ลุงเกษม อิสลาม หนึ่งในครอบครัวมุสลิมดั้งเดิมแห่งสันป่าตอง และยังเป็นน้องสาวของ อิหม่ามฮาบีบ อิสลาม อิหม่ามประจำมัสยิดในปัจจุบัน ความผูกพันของครอบครัวกับมัสยิดทำให้วันแห่งความสุขนี้เต็มไปด้วยแขกเหรื่อทั้งในและนอกชุมชน — ญาติมิตรจากละแวกใกล้เคียง และผู้ศรัทธาที่มาร่วมส่งพรจากหัวใจ

ภายในลานมัสยิดถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย โทนสีขาวสะอาดตาแต้มด้วยดอกไม้เล็กน้อย สื่อถึงความบริสุทธิ์ของความรักและการเริ่มต้นชีวิตคู่ในหนทางของอัลลอฮ์ บริเวณงานจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารพื้นบ้านล้านนาและเมนูฮาลาลแบบมุสลิมให้เลือกชิมอย่างจุใจ เสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาร่วมงานดังผสมกับเสียงช้อนกระทบจาน เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นจนยากจะลืม

หลังพิธี นิกะห์ เสร็จสิ้น เสียง “ดูอาอ์” ดังก้องไปทั่วลานมัสยิด บรรดาผู้ศรัทธายกมือขอพรจากอัลลอฮ์ให้คู่บ่าวสาวมีชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความศรัทธาที่มั่นคงในทางของพระองค์

งานแต่งงานในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองของสองหัวใจ หากยังเป็นภาพสะท้อนของความสามัคคีและความอบอุ่นของชุมชนมุสลิมในเมืองล้านนา ที่ยังคงรักษาธรรมเนียม ความเรียบง่าย และความงดงามของศาสนาไว้ได้อย่างลงตัว

> “ขออัลลอฮ์ทรงประทานบารอกะฮ์แก่คู่บ่าวสาว
และทรงรวมพวกเขาไว้ในความดีงามตลอดไป”

 #มัสยิดนูร อิสลาม แห่งท่าขี้เหล็ก : แสงแห่งศรัทธากลางชายแดน       เส้นทางจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สู่เมืองท่าขี้เ...
26/10/2025

#มัสยิดนูร อิสลาม แห่งท่าขี้เหล็ก : แสงแห่งศรัทธากลางชายแดน
เส้นทางจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สู่เมืองท่าขี้เหล็กของเมียนมา เป็นเพียงระยะทางไม่กี่ร้อยเมตรที่คั่นด้วยลำน้ำสาย แต่สำหรับนักเดินทางที่ก้าวข้ามไปแล้ว จะรู้ได้ทันทีว่า “อีกฝั่งหนึ่ง” คือโลกอีกใบที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมผสมผสานทั้งไทย พม่า จีน และอิสลาม

#มัสยิดที่พูดได้หลายภาษา
กลางย่านตลาดท่าขี้เหล็ก มัสยิดหลังหนึ่งตั้งเด่นด้วยป้ายชื่อภาษาพม่า อาหรับ และจีน — “𝗡𝗼𝗼𝗿 𝗜𝘀𝗹𝗮𝗺 𝗠𝗼𝘀𝗾𝘂𝗲” — มัสยิดนูร อิสลาม หรือ “แสงแห่งอิสลาม”
มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวจีนมุสลิมเชื้อสายพม่าหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปันเต (Panthay)” ซึ่งสืบเชื้อสายจากชาวยูนนานที่อพยพลงใต้หลังสงครามจีน–พม่าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
สถาปัตยกรรมของมัสยิดจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว — เสาและซุ้มประตูประดับลวดลายจีน ผสมกับรูปแบบหลังคาแบบพม่า เป็นร่องรอยของความหลากหลายที่หลอมรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

#ชุมชนจีนมุสลิมในท่าขี้เหล็ก
หลังสงครามยูนนาน (ค.ศ. 1855–1873) ชาวมุสลิมจีนจำนวนหนึ่งได้อพยพข้ามพรมแดนเข้าสู่รัฐฉานของพม่าและตั้งถิ่นฐานในเมืองท่าขี้เหล็ก เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ใกล้เส้นทางการค้าสำคัญจากเชียงตุงสู่เชียงราย
พวกเขาเป็นพ่อค้าเกลือ ชา และเครื่องเทศ ก่อนจะกลายเป็นกลุ่มชนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจในเมืองชายแดน มีทั้งโรงน้ำชา ร้านค้า และบ้านเรือนที่ตั้งรายรอบมัสยิดนูร อิสลาม

ในปัจจุบัน มัสยิดแห่งนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางศาสนาและชุมชน มีการจัดการเรียนการสอนอัลกุรอานสำหรับเด็ก ๆ ในพื้นที่ เสียงสวดและการท่องจำยังคงดังขึ้นทุกเช้าเย็น สะท้อนถึงการดำรงศรัทธาที่ไม่เคยจางหาย

“เด็ก ๆ ที่นี่ตั้งใจเรียนมาก” ครูสอนศาสนาคนหนึ่งบอกกับฉันขณะเก็บหนังสือเรียน
“บางคนพ่อแม่พูดภาษาจีน บางคนพูดพม่า แต่เมื่ออยู่ในมัสยิด...ทุกคนพูดภาษาเดียวกัน คือภาษาแห่งศรัทธา”

#อิสลามในเมียนมา : ศรัทธาในเงามืดของการแบ่งแยก
แม้ชาวมุสลิมในเมียนมาจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 จากการเดินทางค้าขายของพ่อค้าชาวอาหรับและเปอร์เซีย แต่สถานะของพวกเขากลับอยู่ในภาวะเปราะบางมาโดยตลอด
โดยเฉพาะหลังการเกิดขึ้นของขบวนการ “969” ที่นำโดยพระอู วีระธู (U Wirathu) พระพุทธะชาตินิยมที่ปลุกกระแสความหวาดกลัวและความเกลียดชังชาวมุสลิมในนามของการปกป้องศาสนาพุทธ

เอนกชัย เรืองรัตนากร (2558) วิเคราะห์ว่า อุดมการณ์ของขบวนการนี้แฝงด้วยการเหยียดเชื้อชาติและศาสนา โดยอ้างว่าชาวมุสลิมเป็นต้นเหตุของความเสื่อมทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจในประเทศพม่า แนวคิดนี้ฝังรากในจิตใจของผู้คนเพราะเชื่อมโยงกับสถาบันสงฆ์และความเป็นพุทธของชาติ

แม้คำสอนของพระอู วีระธูจะถูกประณามในระดับสากล แต่ในประเทศที่ศาสนาเป็นรากฐานของอัตลักษณ์ มันกลับได้รับแรงสนับสนุนไม่น้อย และได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้ในสังคมเมียนมาจนถึงทุกวันนี้

#แสงแห่งศรัทธาที่ยังไม่ดับ
มัสยิดนูร อิสลามจึงมิได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างทางศาสนา หากแต่เป็น “สัญลักษณ์ของการยืนหยัด” ท่ามกลางกระแสแห่งความหวาดกลัวและความเปลี่ยนแปลง
แม้เราไม่อาจสืบทราบปีที่สร้างอย่างแน่ชัด และภาษาที่แตกต่างอาจเป็นกำแพงกั้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ แต่แสงแห่งศรัทธาจากโดมเล็ก ๆ ที่สะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายก็เพียงพอจะบอกเล่าทุกอย่าง

เมื่อเสียงอาซานแว่วขึ้นจากลำโพงเก่า ๆ ท่ามกลางเสียงรถสามล้อและตลาดที่ยังไม่เงียบ ฉันได้เห็นภาพของศรัทธาที่ไม่เคยจางหายจากหัวใจผู้คน แม้ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และอำนาจ
มัสยิดนูร อิสลาม... ยังคงส่องแสงอยู่ตรงนั้น — แสงแห่งอิสลามที่ไม่เคยดับลงในเมืองชายแดนที่ชื่อว่า ท่าขี้เหล็ก

ชุมพล ศรีสมบัติ นำเสนอ
26/10/2568

ด่วน!  #พระพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 21.21 น. วันที่ 24 ตค.2568 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพร...
26/10/2025

ด่วน! #พระพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 21.21 น. วันที่ 24 ตค.2568 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93

ในหลวงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสวรรคตเป็นต้นไป

ข่าวประชาสัมพันธ์อบรมเชิงปฏิบัติการ “ดอกไม้ในแจกันอิสลาม ปีที่ 6” เสริมพลังศรัทธาและบทบาทสตรีมุสลิม     เมื่อวันที่ 25-2...
25/10/2025

ข่าวประชาสัมพันธ์
อบรมเชิงปฏิบัติการ “ดอกไม้ในแจกันอิสลาม ปีที่ 6” เสริมพลังศรัทธาและบทบาทสตรีมุสลิม

เมื่อวันที่ 25-26 ตุลาคม 2568 ได้มีการจัดโครงการ อบรมเชิงปฏิบัติการ “ดอกไม้ในแจกันอิสลาม ปีที่ 6” ขึ้น ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารดารุตตักวา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศรัทธา ความเข้าใจในบทบาทของสตรีมุสลิม และแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักอิสลามอย่างงดงามและสมดุล

ภายในงานประกอบด้วยการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่

อ.อาลี เสือสมิง บรรยายในหัวข้อ “เพลิงเงียบที่กัดกินหัวใจศรัทธา” และ “คืนหัวใจสู่ความสงบ” ชี้ให้เห็นถึงภัยเงียบทางจิตใจ เช่น ความอิจฉา ความโกรธ และความประมาท ที่อาจบั่นทอนศรัทธา พร้อมแนะแนวทางฟื้นฟูหัวใจให้กลับมาสงบด้วยการระลึกถึงอัลลอฮ์

รศ.นพ.อนุชาติ มาธนะสารวุฒิ บรรยายในหัวข้อ “ยืดเหยียดกาย คลายใจด้วยละหมาด” อธิบายถึงประโยชน์ทางกายและใจของการละหมาด ทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย การผ่อนคลายความเครียด และการสร้างสมดุลชีวิต

อ.มุหำหมัด บินต่วน บรรยายในหัวข้อ “ท่าทางแห่งการนอบน้อมในละหมาด ตามอัลกุรอานและหะดีษ” ชี้ให้เห็นถึงความงดงามของการแสดงความนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ ทั้งในกิริยาและจิตใจ

บรรยากาศการอบรมเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความศรัทธา ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นสตรีมุสลิมจากหลายพื้นที่ที่ตั้งใจมาพัฒนาตนเองทั้งในด้านจิตวิญญาณและการดำเนินชีวิตในสังคมร่วมสมัย
อิสลามให้เกียรติสตรีในฐานะ “ดอกไม้ในแจกันแห่งศรัทธา” ที่ต้องได้รับการดูแลด้วยความรู้ ความเข้าใจ และความเมตตา สตรีมีบทบาทสำคัญในการอบรมลูกหลาน การสร้างครอบครัวที่มีศีลธรรม และการเป็นแบบอย่างแห่งความนอบน้อมต่อพระผู้เป็นเจ้า การรักษาหัวใจให้สงบ ยึดมั่นในศรัทธา และปฏิบัติตามบทบัญญัติ คือหนทางแห่งเกียรติ ศักดิ์ศรี และความงดงามที่แท้จริงของหญิงในอิสลาม

 #จากหน้ากากสู่นามจริง: วิวัฒนาการของฮีโร่ในโลกยุคใหม่นำเสนอโดย ชุมพล ศรีสมบัติ       ในยุคที่โลกยังเป็นจอขาวดำ เด็กหลาย...
24/10/2025

#จากหน้ากากสู่นามจริง: วิวัฒนาการของฮีโร่ในโลกยุคใหม่

นำเสนอโดย ชุมพล ศรีสมบัติ

ในยุคที่โลกยังเป็นจอขาวดำ เด็กหลายคนเติบโตมากับภาพของอุลตร้าแมน มนุษย์ค้างคาว หรือยอดมนุษย์จากญี่ปุ่นที่ปรากฏตัวขึ้นในยามที่เมืองกำลังเผชิญภัย ฮีโร่เหล่านี้มักมีสองชีวิต — ชีวิตของคนธรรมดา และชีวิตของผู้ผดุงความยุติธรรม

พวกเขาสวมหน้ากากเพื่อซ่อนตัวตน ไม่ใช่เพราะกลัวการถูกเปิดเผย แต่เพราะต้องการให้ “ภารกิจเพื่อผู้อื่น” สำคัญกว่าชื่อเสียงของตนเอง

#ในความเงียบของพวกเขา มีความหมายลึกซึ้งว่า

> “ความดีไม่จำเป็นต้องมีคนเห็น ความเสียสละไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียง”

ฮีโร่ในยุคก่อนจึงเป็นสัญลักษณ์ของความถ่อมตนและการทำหน้าที่โดยไม่แสวงผลตอบแทน เขาอาจไม่มีใครรู้ชื่อจริง แต่ผู้คนต่างรู้ดีว่าเมื่อใดที่เมืองตกอยู่ในอันตราย ฮีโร่ผู้นั้นจะกลับมาเสมอ

#ยุคแห่งการเปิดเผย: ฮีโร่ในแสงแฟลช

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ได้เปลี่ยนวิธีที่เรามอง “ฮีโร่”
ภาพของชายผู้สวมหน้ากากถูกแทนที่ด้วยคนจริง—ชื่อจริง—และชีวิตจริง

ไอรอนแมนประกาศต่อหน้ากล้องว่า “I am Iron Man”
นักกิจกรรมทางสังคมออกมาเคลื่อนไหวโดยใช้ชื่อและใบหน้าของตนเอง
ผู้คนธรรมดาในสื่อออนไลน์ลุกขึ้นช่วยเหลือผู้เดือดร้อนโดยไม่ต้องมีพลังพิเศษ

ฮีโร่ยุคใหม่ไม่หลบอยู่หลังหน้ากากอีกต่อไป แต่ยืนอยู่ต่อหน้าสาธารณชนอย่างกล้าหาญ พวกเขาใช้ “ตัวตน” เป็นเครื่องมือสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม และใช้ “ชื่อเสียง” เป็นพลังให้เสียงของผู้อ่อนแอได้ถูกได้ยิน

#การเปลี่ยนผ่านของค่านิยม
หากมองในเชิงสังคมศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของฮีโร่สะท้อนค่านิยมที่เปลี่ยนไปของผู้คนในแต่ละยุค
ยุคก่อน ความดีถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ควร “เก็บไว้ในใจ”
ยุคนี้ ความดีคือสิ่งที่ควร “แบ่งปันและประกาศให้โลกรู้”

โลกยุคใหม่ให้คุณค่ากับ “ความโปร่งใส” มากกว่า “ความลึกลับ”
สังคมต้องการฮีโร่ที่รับผิดชอบต่อคำพูดและการกระทำ
และในบางมุม การเปิดเผยตัวตนอาจเป็นการประกาศว่า —

> “ฉันพร้อมจะรับผลของสิ่งที่ฉันเชื่อ”

#ฮีโร่ในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฮีโร่จะซ่อนตัวหรือเปิดเผยตัวตน “แก่นแท้ของความเป็นฮีโร่” ยังคงเหมือนเดิม — คือหัวใจที่กล้าทำเพื่อผู้อื่น

ในโลกที่เต็มไปด้วยวิกฤต เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ฮีโร่อาจไม่ได้มีพลังเหนือมนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นคนธรรมดาที่ลงมือทำในพื้นที่เล็ก ๆ ของตน
บางคนช่วยเก็บขยะในชุมชน
บางคนอาสาส่งอาหารให้ผู้ยากไร้
บางคนเป็นเพียงผู้ฟังที่ดีของใครสักคนในวันที่เขาอ่อนแอ

ฮีโร่เช่นนี้ไม่มีหน้ากาก แต่มีหัวใจที่กล้าเผชิญโลกจริง

#ฮีโร่ไม่เคยหายไป
จากหน้ากากในยุคฟิล์มขาวดำ สู่ใบหน้าจริงในยุคดิจิทัล ฮีโร่ไม่เคยหายไปจากโลกใบนี้
เพียงแต่เขาเปลี่ยนรูป เปลี่ยนวิธีปรากฏ และเปลี่ยนสื่อในการสื่อสาร

บางที… ฮีโร่ในยุคนี้อาจอยู่ไม่ไกลเลย
เขาอาจเป็นเพื่อนบ้านของเรา คนข้างถนน หรือแม้แต่ “ตัวเราเอง”
หากวันหนึ่งเราตัดสินใจทำสิ่งเล็ก ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวให้ดีขึ้น

เพราะสุดท้าย —
ฮีโร่ที่แท้จริงไม่ใช่คนที่มีพลังพิเศษ
แต่คือคนที่ “กล้าทำความดี แม้ไม่มีใครรู้จักชื่อ”

 #จิตอาสา: หัวใจแห่งการให้ในมุมมองของอิสลาม      ในโลกยุคปัจจุบัน เราได้เห็นผู้คนจากหลากหลายสาขาอาชีพออกมาทำความดีด้วยใจ...
24/10/2025

#จิตอาสา: หัวใจแห่งการให้ในมุมมองของอิสลาม

ในโลกยุคปัจจุบัน เราได้เห็นผู้คนจากหลากหลายสาขาอาชีพออกมาทำความดีด้วยใจอาสา — ไม่ว่าจะเป็นการช่วยผู้ประสบภัย ดูแลผู้สูงอายุ ปลูกต้นไม้ หรือแม้แต่เก็บขยะในชุมชนเล็ก ๆ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า “ความดี” ยังมีอยู่ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน

แต่สำหรับมุสลิมแล้ว “การเป็นจิตอาสา” ไม่เพียงเป็นการทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์เท่านั้น — หากยังเป็นการปฏิบัติศาสนกิจอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะทุกการให้และการช่วยเหลือที่ตั้งเจตนาเพื่ออัลลอฮ์ ถือเป็น อิบาดะฮ์ (การอุทิศต่อพระองค์)

#จิตอาสาคือสะพานแห่งศรัทธา

อัลลอฮ์ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า

> “และจงช่วยเหลือกันในความดีและความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และอย่าช่วยเหลือกันในบาปและการละเมิด”
— (อัลมาอิดะฮ์ 5:2)

โองการนี้ชี้ให้เห็นว่า การร่วมมือกันในสิ่งดีงามคือรากฐานของสังคมอิสลาม และคือหนทางแห่งการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคม

นบีมุฮัมมัด ﷺ ยังได้กล่าวไว้ว่า

> “ผู้ใดช่วยเหลือพี่น้องของเขาในยามเดือดร้อน อัลลอฮ์จะช่วยเหลือเขาในวันกิยามะฮ์”
— (รายงานโดยมุสลิม)

ดังนั้น “จิตอาสา” จึงไม่ใช่เพียงการให้ทางวัตถุ แต่เป็นการมอบหัวใจ ความเมตตา และเวลาของเรา เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยหวังเพียงรางวัลจากอัลลอฮ์เท่านั้น

#การให้ในอิสลาม: มากกว่าทรัพย์สิน

การบริจาคในอิสลามไม่ได้จำกัดแค่เงินทอง แต่รวมถึงการให้ด้วยแรงกาย คำพูด หรือแม้แต่รอยยิ้ม

> ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า
“การยิ้มให้พี่น้องของท่าน คือสะสะดะเกาะฮ์หนึ่งอย่าง”
— (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์)

เพราะทุกการให้ด้วยใจสะอาดและตั้งเจตนาเพื่ออัลลอฮ์ ย่อมได้รับผลบุญไม่ต่างจากการทำอิบาดะฮ์อื่น ๆ

#จิตอาสาในยุคใหม่กับบทบาทของมุสลิม

ในยุคที่ผู้คนต่างเร่งรีบและแข่งขันกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน “จิตอาสา” กลายเป็นพลังที่ปลุกหัวใจของสังคมให้กลับมามีชีวิต
เราจะเห็นมุสลิมจำนวนมากอุทิศเวลาเพื่อสังคม — ตั้งแต่การจัดโครงการแจกอาหารในเดือนรอมฎอน อาสาทำความสะอาดมัสยิด ไปจนถึงกิจกรรมดูแลเด็กกำพร้าและผู้สูงอายุ

สิ่งเหล่านี้คือภาพสะท้อนของ อิศาน (إحسان) — การทำสิ่งดีงามอย่างเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ เพื่อสร้างสังคมที่งดงามทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

#ผู้ศรัทธาที่ดีที่สุด คือผู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

นบีมุฮัมมัด ﷺ กล่าวว่า

> “ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่าน คือผู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากที่สุด”
— (หะดีษบันทึกโดยอัฏฏอบรอนี)

ประโยคนี้เป็นหัวใจของ “จิตอาสาในอิสลาม” อย่างแท้จริง
เพราะผู้ศรัทธาที่แท้ คือผู้ที่มองเห็นคุณค่าของการช่วยเหลือ แม้ในเรื่องเล็กน้อยที่สุด

“จิตอาสา” คือการคืนชีวิตให้กับคำว่า เมตตา
สำหรับมุสลิม มันคือการคืนหัวใจให้กับศรัทธา

เมื่อเราทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่ออัลลอฮ์และเพื่อผู้อื่น
นั่นไม่เพียงทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น —
แต่ยังทำให้เรากลายเป็นผู้ศรัทธาที่อัลลอฮ์ทรงรักมากที่สุด

เพราะหัวใจแห่งการให้ คือหัวใจแห่งอิสลาม
#จิตอาสา #อิสลามกับการให้ #มุสลิมเชียงใหม่

 #กอจ.เชียงใหม่ พี่ใหญ่ภาคเหนือ มอบเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำป่าแม่สะเรียง – “ไม่ทิ้งมนุษย์ชาติผู้ใดไว้ข้างหลัง”      วันที่...
23/10/2025

#กอจ.เชียงใหม่ พี่ใหญ่ภาคเหนือ มอบเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำป่าแม่สะเรียง – “ไม่ทิ้งมนุษย์ชาติผู้ใดไว้ข้างหลัง”

วันที่ 23 ตุลาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กอจ.เชียงใหม่)นำโดยนายธนู จุลพันธ์ และคณะ แสดงน้ำใจในยามทุกข์ มอบเงินจำนวน 69,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โดยมอบผ่าน สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อกระจายความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน ทุกศาสนิกชน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้

โครงการ “พี่ช่วยน้อง” ของ กอจ.เชียงใหม่ สะท้อนจิตวิญญาณแห่ง ความเป็นพี่น้องมุสลิม (มุสลิม อะคุ้ล มุสลิม) ที่ไม่เพียงยืนหยัดช่วยเหลือกันเองเท่านั้น แต่ยังยื่นมือแบ่งปันต่อทุกเพื่อนมนุษย์โดยไม่แบ่งแยกศาสนา

> “เพราะเราคือ... มนุษย์ชาติ... เหมือนกัน”
— ข้อความสั้น ๆ แต่ทรงพลัง ที่สื่อถึงหัวใจของการให้และความเป็นหนึ่งเดียวกันในสังคมไทย

กอจ.เชียงใหม่ ยังคงยืนหยัดในบทบาท “พี่ใหญ่แห่งภาคเหนือ” ที่พร้อมขับเคลื่อนงานศาสนาและสังคมเคียงข้างพี่น้องทุกพื้นที่ ด้วยหัวใจแห่งความเมตตาและศรัทธา

“นัสรีน ฮาลาลฟู๊ด” — อาหารมุสลิมอร่อย อาหารตามสั่ง อีกร้านในพิษณุโลก      หากใครมีโอกาสผ่านไปแถวมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวั...
23/10/2025

“นัสรีน ฮาลาลฟู๊ด” — อาหารมุสลิมอร่อย อาหารตามสั่ง อีกร้านในพิษณุโลก

หากใครมีโอกาสผ่านไปแถวมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก หรือหาอาหารฮาลาลกิน อยากชวนแวะร้านเล็กๆในศูนย์อาหาร ร้าน “นัสรีน ฮาลาลฟู๊ด” (Nasreen Halal Food)

ร้านนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักศึกษาและคนทำงานในละแวกนั้น ด้วยอาหารฮาลาลสะอาด รสชาติกลมกล่อม และราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋า

บรรยากาศร้านเรียบง่าย เป็นกันเอง โต๊ะนั่งสะอาดสะอ้าน เจ้าของร้านยิ้มแย้มทักทายลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษามุสลิมหรือเพื่อนต่างศาสนา ทำให้ร้านนี้อบอุ่นเหมือนบ้านหลังเล็กๆ ที่ทุกคนแวะมาพักใจและเติมพลังในมื้อเที่ยง

> “นัสรีน ฮาลาลฟู๊ด” — อาหารอร่อย ราคาน่ารัก และสะอาดตามหลักฮาลาล
พิกัด: โรงอาหารติดเซเว่นตรงข้ามหอพักในมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก
ราคาเริ่มต้นประมาณ 50–60 บาท
เวลาทำการ 07.00 เช้าควรไปก่อน 5 โมงเย็น

หากมีโอกาสผ่านไปพิษณุโลก ลองแวะไปชิม แล้วคุณจะรู้ว่า “อาหารฮาลาลที่ดี” ไม่ได้อยู่แค่ในเมืองใหญ่ — แต่อยู่ทุกที่ที่มีหัวใจแห่งความจริงใจในการปรุงอาหาร

#มุสลิมเชียงใหม่ออนไลน์
#อาหารฮาลาลพิษณุโลก #นัสรีนฮาลาลฟู๊ด ินไหนดี

ที่อยู่

ถนนหน้าวัดเกต ซอย 1
Chiang Mai
50000

เบอร์โทรศัพท์

+66954518101

เว็บไซต์

https://www.tiktok.com/@muslimchiangmainews?_t=8nzVnI7LiT9&_r=1

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ข่าวมุสลิมเชียงใหม่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ข่าวมุสลิมเชียงใหม่:

แชร์

ข่าวสาร วิถี ประเพณี เรื่องราวของมุสลิมในแดนล้านนาและภาคเหนือ

ที่นี่คือขยะกองใหญ่ เชิญท่านทั้งหลายขุดคุ้ยค้นหา แยกเอาแต่สิ่งดีๆ หยิบฉวยติดมือออกไปใช้ประโยชน์ ต่อยอด เทียบเคียง ประยุกต์ใช้ ขอขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ที่หยิบยื่นประสบการณ์ แนวคิดและมุมมองเหล่านี้ ไว้ให้เป็นวิทยาทาน และด้วยความทรงจำที่ดีต่อกัน (บ้านจอมยุทธ์)