หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชา

หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชา จุดประสงค์เผื่อ : เผยแพร่ข่าวสารการเมือง เศรษฐกิจ . ธุรกิจ สังคม . ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว . กีฬา สารคดี บรรเทิง . โฆษณา และ เเจ้งความ

กาฬสินธุ์ตร.กาฬสินธุ์สกัด-ขยายผลจับ 3 เอเย่นต์ขนยานรก ยึดของกลาง1.6ล้านเม็ดตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัย...
30/11/2025

กาฬสินธุ์ตร.กาฬสินธุ์สกัด-ขยายผลจับ 3 เอเย่นต์ขนยานรก ยึดของกลาง1.6ล้านเม็ด
ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรสกัดจับนักค้ายาเสพติด พร้อมสนธิกำลังชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ ขยายผลตามรวบเอเย่นต์ลักลอบขนยานรก 3 ราย ยึดของกลางยาบ้า 1,686,000 เม็ด

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ภายใต้นโยบายและการอำนวยการโดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4 และพล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ที่ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งดำเนินการป้องกันปราบปรามจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ทั้งผู้ค้า และผู้เสพอย่างเข้มข้น

ล่าสุดที่หน้าสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตำรวจชุด ปส., ชุดสืบสวน จร.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายนพคุณ หรือนพ อายุ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ ~~ ถนนธนพล อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 2. นายพีระกร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ ~~ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และ 3.นายนัฐวุฒิ หรือปอน อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

พร้อมของกลางยาบ้า 1,686,000 เม็ด รถเก๋ง 2 คัน หลังตำรวจสภ.เมืองตั้งด่านสกัดจับ และสนธิกำลังกับชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ นำโดยพ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริผกก.สืบสวน.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ขยายผลจับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกวดขันวินัยจราจร ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสกัดกั้นยาเสพติด ที่บริเวณถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร (ตัดใหม่) ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2569 ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจ สีดำ ทะเบียน 8กท 5323 กรุงเทพฯ ขับมาจากทาง จ.มุกดาหาร พอถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ได้โบกให้หยุดรถ แต่คนขับรถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด พร้อมกับขับรถด้วยความเร็วผ่านตำรวจไป แล้วเลี้ยวเข้าไปทางบ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจจราจร จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

จนถึงระยะทางประมาณ 300 เมตร รถยนต์คันดังกล่าวเกิดมีปัญหา จากนั้นคนขับ ทราบชื่อคือ นายนพคุณ หรือนพ ดอนกระสินธุ์ ได้เปิดประตูรถลงวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามกระทั่งสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ และนำพามาตรวจที่รถยนต์เก๋ง ปรากฏว่า พบกระสอบปุ๋ย จำนวน 3 กระสอบ และครึ่งกระสอบ วางอยู่ภายในรถที่นั่งคนโดยสารด้านหลัง ตรวจสอบเบื้องต้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ข้างในประมาณ 700,00 เม็ด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผล โดยได้สอบถามนายนพคุณฯ ให้การว่า ตนรับจ้างขนยาบ้าจากผู้สั่งการ โดยให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณป่าละเมาะ อ.เขมราฐ จ.อุบล จึงออกเดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไปรับยาประมาณ 21.00 น. ไปถึงที่ อ.เขมราฐ ประมาณ 23.00 น. และได้ตีรถกลับที่ จ.กาฬสินธุ์ และมีเพื่อนที่ไปรับเอายาบ้าด้วยกันอีก 2 คน คือ นายพีระกร ภูธรรมะ และ นายนัฐวุฒิ หรือปอน กอบุตร ซึ่งกำลังขับรถยนต์เก๋ง ยี่โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กว3475 อุบลราชธานี ตามหลังตนเองมา

เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้นายนพคุณโทรศัพท์บอกทั้งสองคนว่ารถมีปัญหา จอดไว้ที่ป่าละเมาะ จากนั้นจึงสนธิกำลังกันทั้ง ตำรวจชุด ปส., สายสืบ, จร.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้รีบออกไปตรวจสอบดูบริเวณรอบก่อนจะถึง จุดตรวจ จุดสกัดจราจร จนพบนายพีระกรฯ และนายนัฐวุฒิฯ และรถยนต์เก๋งสีขาวคันดังกล่าว จึงล้อมบริเวณดังกล่าวเอาไว้ และเข้าควบคุมตัวคนทั้ง 2 เอาไว้ได้ และพามาตรวจค้นรถยนต์ พบกระสอบปุ๋ยจำนวน 5 กระสอบ ตรวจสอบเบื้องต้น ซุกซ่อนยาบ้าอยู่ข้างในประมาณ 1,000,000 เม็ด ก่อนคุมตัวทั้ง 3 คน มาสอบสวน และตรวจนับของกลางยาบ้าอย่างละเอียด ทั้งหมด 1,686,000 เม็ด และรถเก๋ง 2 คัน

ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง ซึ่งได้รับจ้างจากนักค้ายาเสพติด ไปขนยาบ้ามาส่งให้เครือข่ายในพื้นที่ โดยได้รับค่าจ้างคนละ 30,000 บาท กระทั่งมาถูกจับคาด่านของตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สลดไฟไหม้อาคารพาณิชย์ที่พักอาศัย คลอกแม่ลูกดับ 3 ศพเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้เกิดเหตุเพลิง...
30/11/2025

สลดไฟไหม้อาคารพาณิชย์ที่พักอาศัย คลอกแม่ลูกดับ 3 ศพ

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 90/172 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งภายในมีผู้พักอาศัยอยู่ทั้งหมดรวม 8 คน ทั้งนี้ภายหลังรับแจ้งเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครอ้อมน้อย พร้อมด้วย เทศบาลตำบลสวนหลวง อบต.ท่าไม้ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน ได้เร่งเข้าระงับเหตุ โดยเมื่อไปถึงพบเพลิงได้โหมลุกไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง เบื้องต้นทราบว่า ขณะที่เกิดเพลิงไหม้นั้นมีผู้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 คน สามารถหนีออกมาได้ 5 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน แบ่งเป็นอาการสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย 2 คน กับ โรงพยาบาลมหาชัย 2 อีก 1 คน ส่วนที่หนีออกมาได้อย่างปลอดภัยมี 2 คน อยู่ในการตกใจ ขณะที่ภายในที่พักยังมีผู้ที่ติดอยู่อีก 3 คน เป็นแม่ลูกกัน ทราบชื่อคือนางสาวธัญญา หาญกล้า อายุ 33 ปี เด็กชายธวัชชัย สระทองพิมพ์ อายุ 7 ขวบ กับ เด็กหญิงญาธิดา สระทองพิมพ์ อายุ 4 ขวบ ทราบในเวลาต่อมาว่า ทั้งหมดได้เสียชีวิตลงคากองเพลิงอยู่ที่บริเวณห้องนอนชั้นสองของอาคารดังกล่าว
ซึ่งจากเหตุสลดที่เกิดขึ้นนี้ทางด้าน นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน นายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รองผกก.ป.สภ.กระทุ่มแบน นายอนุตร ปางพุฒิพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร และผู้นำในพื้นที่ก็ได้เดินทางมาติดตามการควบคุมเพลิงและการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จนกระทั่งถึงการนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากอาคารที่ถูกไฟไหม้แห่งนี้ โดยทางด้านของรองผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และรีบดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเร่งด่วนที่สุด

จากการสอบถาม ญาติของผู้เสียชีวิตเบื้องต้นเล่าว่า ครอบครัวมาเช่าอาคารแห่งนี้ เพื่อประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวในช่วงตอนเย็นถึงกลางคืน ฉะนั้นตอนกลางวันทุกคนจะนอนพักอยู่ภายในตัวอาคารและปิดประตูบ้านลงสนิท ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้นทุกคนหลับกันหมด โดย 3 แม่ลูกที่เสียชีวิตนอนอยู่ในห้องนอนแล้วปิดล๊อคกุญแจไว้ ขณะนั้นมีเพื่อนข้างห้องทุบประตูเรียก พวกตนจึงตกใจตื่นพากันลงมาที่ชั้นล่างก็เห็นว่ามีไฟลุกไหม้แล้วจึงได้รีบฝ่ากองเพลิงหนีออกมา ส่วนแม่กับลูกไม่ได้ยินเสียงจึงหนีออกมาไม่ทัน และไม่สามารถกลับไปช่วยออกมาได้ จึงถูกไฟคลอกเสียชีวิต

ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องติดกัน เล่าว่า ตอนนั้นตนเองกำลังทำงานอยู่ ก็เห็นมีควันไฟลอยออกมาจากด้านล่างของประตูบานเลื่อนสังกะสีที่ปิดสนิท จึงได้พยายามใช้ค้อนปอนด์ทุบประตูอยู่หลายนาทีเพื่อเรียกให้คนข้างในตื่น จนกระทั่งคนข้างในเปิดประตูออกมาไฟก็ได้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจากที่บริเวณด้านข้างเครื่องทำน้ำร้อนน้ำอุ่น ที่ตั้งอยู่ตรงด้านล่างข้างห้องน้ำ จากนั้นไฟก็โหมลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงลุกลามไปที่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว แม้ทุกคนจะพยายามใช้ถังดับเพลิงแล้ว แต่ก็เอาไม่อยู่

เบื้องต้นทางด้านของ พ.ต.ท.สุชาติ สมบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต พร้อมกับเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนต่อไป ส่วนร่างของแม่ลูกที่เสียชีวิตทั้ง 3 ศพนั้น ถูกนำส่งไปชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช

ทัพเจ้าตากปะทะเดือด ดอยผาหมี แม่สาย ยึดยาบ้า 2.2 ล้านเม็ดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 พ.ย.2568 พลตรี สาธิต ไวยนนท์ ผู้บัญ...
30/11/2025

ทัพเจ้าตากปะทะเดือด ดอยผาหมี แม่สาย ยึดยาบ้า 2.2 ล้านเม็ด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 พ.ย.2568 พลตรี สาธิต ไวยนนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พันเอก สุพรรณ ร้อยพุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจพื้นที่เกิดเหตุในพื้นที่ บ้านผาหมี หมู่ 6 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากที่มาเวลา 19.00 น วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม. 2 บกควบคุมผาแด่น หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตากกองกำลังผาเมืองได้ปะทะกับกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด

โดยการปะทะกันในครั้งนี้ได้สืยทราบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด มีความพยายามที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามายังประเทศไทย ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้จัดกำลังเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง เวลา 19.00 วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายกระสอบดัดแปลง ประมาณ 10 - 12 คน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที เมื่อสิ้นสุดการปะทะ ฝ่ายเราปลอดภัย กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งสิ่งของไว้ และใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้จัดกำลังพลเพิ่มเติม 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 30 พ.ย.2568 หน่วยได้จัดกำลังควบคุมพื้นที่ตรวจสอบของกลาง ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 11 กระสอบๆ ละ200,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 2,200,000 เม็ด

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลตรี สาธิต ไวยนนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อย่างต่อเนื่องต่อไป.

กองกำลังนเรศวร ยิงเตือนทันที ตามกฏการใช้กำลัง สถานการณ์ความไม่สงบชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก  เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568. ท...
30/11/2025

กองกำลังนเรศวร ยิงเตือนทันที ตามกฏการใช้กำลัง สถานการณ์ความไม่สงบชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568. ที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต. ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ,ตำรวจตระเวณชายแดน ร้อย 346 ,ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ชายแดนไทย–เมียนมา บริเวณ ท่าข้าม บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้เกิดเหตุการปะทะ ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ บ้านนิละป่าน ฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้มีกระสุน ค.60 จำนวน 5 นัด ข้ามมาตกยังฝั่งไทย บริเวณไร่ข้าวโพด ชาวบ้านแม่โกนเกน ทำให้มีแรงงานชาวเมียนมาบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย

โดยในครั้งนี้ พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ทำการยิงเตือน ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มิลลิเมตร จำนวน 4 นัด ไปยังพื้นที่การปะทะ เพื่อเตือนให้ฝั่งตรงข้าม เพิ่มความระมัดระวัง การใช้วิถีกระสุนที่ส่งผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พร้อมทั้ง จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เตรียมการปฏิบัติตามกฎการใช้กำลัง หรือ Rules of Engagement หากมีการละเมิดการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ตลอดแนวชายแดน กองกำลังนเรศวรยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตรึงกำลังตามแนวชายแดน เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ

30/11/2025

พะเยา วินาทีชนสนั่น! กระบะฝ่าไฟแดงเสย จยย. กลางแยกหน้า ม.พ ร่างสาววัย 19 กระเด็นนอนกลางถนน

วันที่ 30 พ.ย. 2568 เวลาประมาณ 11.20 น. ร.ต.อ.วรายุทธ ทิพย์วรากรณ์ สภ.แม่กา ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์บริเวณถนนพหลโยธินขาขึ้น แยกไฟแดงหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา จนทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงเดินทางออกตรวจสอบพร้อมกู้ภัยมหาลัยพะเยา

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีเทา ทะเบียน 1กฬ-8622 มหาสารคาม ล้มคว่ำอยู่กลางถนน สภาพด้านข้างและด้านหน้าพังเสียหายอย่างหนัก พบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงวัยรุ่นนอนอยู่ใกล้ตัวรถ มีบาดแผลหลายแห่งและอาการเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.วรณี ปิดตาระพา อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 59 หมู่ 8 ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลพร้อมนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา ห่างกันพบรถรถกระบะ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ถล 1028 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนน สภาพด้านหน้ารถยุบตัวมีร่องรอยการชนอย่างชัดเจน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ขับขี่คือนายบุญสม บุญเชื้อ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ต.แม่ปืม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยาซึ่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์บริเวณดังกล่าวให้ข้อมูลว่า รถกระบะได้ขับมาจากเส้นทางอำเภองาวเพื่อจะมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองพะเยาและเมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกหน้ามหาลัยพะเยาได้ขับรถด้วยความเร็วและฝ่าไฟแดงจนเป็นเหตุทำให้ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ที่กำลังข้ามแยกอย่างแรงจึงทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กระเด็นตกกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมลงบันทึกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพิจารณาแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

30/11/2025

หนุ่มโฟร์แมนฉลองเงินออก นั่งดื่มริมจุดชมวิวแหลมฉบัง เมาพลาดตกสูง 7 เมตร เจ็บ

หนุ่มโฟร์แมน บริษัท รับเหมาดัง วัย 46 ปี ฉลองเงินเดือนออกเมาสุราลื่นตกเนินเขาจุดชมวิวทะเลแหลมฉบังลึก 7 เมตร กู้ภัยฯ โรยตัวช่วยอย่างทุลักทุเล โชคดีเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ร.ต.อ.อิสระพงษ์ ทวียศกิรติ ร้อยเวรสภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จึง.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีบุคคลพลัดตกจากจุดชมวิว ร้านอาหาร “สุดทางรัก” หมู่ 3 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ในที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บยังติดอยู่ด้านล่างความลึกประมาณ 7 เมตร เจ้าหน้าที่ จึงรีบจัดกำลังอาสาสมัครพร้อมรถพยาบาลเข้าตรวจสอบทันที

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายหาญวัฒนชัย สันทัด อายุ 46 ปี นอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องโรยตัวลงไปช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงสามารถลำเลียงผู้บาดเจ็บขึ้นมาด้านบนได้สำเร็จตรวจสอบพบว่า นายหาญวัฒนชัย มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ ปากแตก บาดเจ็บที่หัวเข่าและเท้าข้างขวา อีกทั้งยังอยู่ในอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่ จึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์รักษาเพิ่มเติม

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้บาดเจ็บพร้อมกลุ่มเพื่อนมานั่งดื่มสุรา ตั้งแต่ช่วงประมาณ 16.00 น. หลังเลิกงาน และกำลังจะแยกย้ายกลับบ้าน ขณะเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้เดินออกไปที่จุดชมวิว ก่อนลื่นไถลตกลงไปด้านล่าง โชคดีมีผู้เห็นเหตุการณ์จึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือและแจ้งกู้ภัยฯ ให้เข้ามาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

สลด3ศพ แม่กอดลูกดับคากองเพลิง มีผู้บาดเจ็บสาหัสถูกไฟไหม้ทั้งตัว2คนเมื่อเวลาประมาณ 13.00น. น. ของวันที่ 30 พ.ย.68 ได้เกิด...
30/11/2025

สลด3ศพ แม่กอดลูกดับคากองเพลิง มีผู้บาดเจ็บสาหัสถูกไฟไหม้ทั้งตัว2คน

เมื่อเวลาประมาณ 13.00น. น. ของวันที่ 30 พ.ย.68 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3ชั้น ติดถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

โดยเพลิงลุกไหม้จากชั้นล่างค่อยๆลุกลามขึ้นไปยังด้านบน ตัวอาคารอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายใน ไม่สามารถออกมาได้. มีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือมาจากด้านใน แต่ไม่มีใครสามารถที่จะเข้าไปช่วยได้พราะไฟได้ลุกลามเร็วมาก
ขณะที่ด้านนอกตัวอาคารริมถนนมีชาย1หญิง1นั่งอยู่บนถนนได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่มีแผลพุพองที่เกิดจากไฟใหม้ เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลและชาวบ้านได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบืเองต้นก่อนช่วยกันรีบนำส่งโรงพยาบาลรถดับเพลิงจำนวนหลายคันเมื่อมาถึงต่างเร่งฉีดน้ำเพื่อให้เพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ภายในพบศพผู้เสียชีวิต3รายนอนกอดกันอยู่ภายในบ้าน คาดว่าเป็นแม่ลูกกัน โดยเป็นแม่1คนและลูกชายกับลูกสาวเสียชีวิต ทั้ง3 ราย อย่างน่าสลดแก่ผู้ที่ได้เห็นส่วนสาเหตุและความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

กล้องหน้ารถ หนุ่มขี่ จยย ปาดหน้ารถกู้ภัย กำลังไปช่วยคนเจ็บ วอนให้ทางรถฉุกเฉิน กล้องหน้ารถกู้ภัยจับภาพ หนุ่มขี่รถจักรยานย...
30/11/2025

กล้องหน้ารถ หนุ่มขี่ จยย ปาดหน้ารถกู้ภัย กำลังไปช่วยคนเจ็บ วอนให้ทางรถฉุกเฉิน
กล้องหน้ารถกู้ภัยจับภาพ หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ปานหน้ารถกู้ภัยที่กำลังเดินทางไปช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุ จนเกือบจะชนท้าย ทั้งที่เปิดสัญญาณไฟและสัญญาณเสียงไปแล้ว วอนผู้ใช้ทางโปรดหลบให้ทางกับรถฉุกเฉิน

วันนี้ ( 30 พฤศจิกายน 2568 ) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องจาก นายสมบูรณ์ บ้านใหม่ อายุ 54 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา รหัส 703 ได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกคนขี่รถจักรยานยนต์ปานหน้า ขณะกำลังเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ภายในซอยเจริญทรัพย์ หน้าหมู่บ้านประดิษฐ์ไพศาล ทางไปแยกห้วยเฝ้า ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงนำคลิปจากกล้องหน้ารถเพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รถใช้ถนนโปรดให้ทางกับรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยขณะเดินทางไปรับส่งผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.10 น.ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสั่งการหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียงหมู่บ้านประดิษฐ์ไพศาล ซอยเจริญทรัพย์ ตำบลหนองขาม ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ โดยขับรถยนต์กระบะกู้ภัยเปิดสัญญาณไซเรนและสัญญาณเสียงออกไป ขณะขี่มาถึงแยกเจริญทรัพย์เลี้ยวเข้าซอยบ่อยาง ก็มีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ขี่นำหน้าอยู่เลี้ยวไปตามเส้นทางเดียวกัน หลังจากนั้นตนเองก็ได้ขี่แซงรถจักรยานยนต์ไป ก่อนเลี้ยวกลับเข้าเลนของตนเอง หลังจากนั้นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็ขี่แซงขึ้นมาทางขวาแล้วปาดหน้ารถกู้ภัยทันที ตนเองรู้สึกตกใจเล็กน้อย กลัวว่าจะเกิดเหตุรถชนกันขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้อาจได้รับบาดเจ็บ เสียเวลา และเสียทรัพย์สินได้

เยาวชนคาเรนนีค้านการเลือกตั้งกลุ่มเยาวชนคาเรนนี กลุ่ม Karenni Youth Union UKSY ออกรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้งในเมียนมา ในพ...
30/11/2025

เยาวชนคาเรนนีค้านการเลือกตั้ง

กลุ่มเยาวชนคาเรนนี กลุ่ม Karenni Youth Union UKSY ออกรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้งในเมียนมา ในพื้นที่แห่งหนึ่งของจังหวัดลอยก่อว์ เมืองหลวงรัฐคาเรนนี ขณะที่การสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียง ทวีความรุนแรงเมื่อใกล้ช่วงเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี Karenni Army / KA เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งสหภาพ UEC ประกาศในวันที่ 28พฤศจิกายนว่าจะให้เวลา 12 วันในการรณรงค์สําหรับการเลือกตั้งครึ่งหลังผู้สมัครในภูมิภาคและทั่วรัฐจะสามารถรณรงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมถึง 9 มกราคม 2026 เวลา 12 เที่ยงคืน หลังจากนั้น โฆษณาแคมเปญและโปสเตอร์จะต้องถูกลบออกยังบอกอีกว่าช่วงแคมเปญช่วงที่สามจะประกาศหลังเลือกตั้งครึ่งหลัง

ตามประกาศของ UEC ครึ่งหลังของการเลือกตั้งจะจัดขึ้นในวันที่ 11 มกราคม รวมถึงการต่อสู้อย่างต่อเนื่องของเมือง Demosso และเมือง Fruso ชายในท้องถิ่นกล่าวไว้เกี่ยวกับการเลือกตั้งเนื่องจากมีสงครามในพื้นที่เหล่านั้นและประชาชนกําลังหลบหนี

พม่าเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปภายในเดือนธันวาคม 2025 แต่คงมีคนจำนวนไม่มากนักบนโลกนี้จะยอมรับได้ว่าพม่าสามารถจัดการเลือกตั้งได้สมบูรณ์แบบ หรือมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ตามหลักการประชาธิปไตย โดยคาดกันว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นเพียงพิธีกรรมเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับผู้นำทางทหารของพม่าสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปโดยไม่ถูกนานาชาติตำหนิติติงมากนักเท่านั้นเอง

"ถ้าจะทำการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญคือประชาชนควรมีส่วนร่วมด้วย" "แต่เนื่องจากทางการเมียนมาเป็นผู้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งเอง ทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วมแต่อย่างใด
ขณะที่ กลุ่ม Karenni Youth Union UKSY นําโดยทีมบริหารหมู่บ้านใน Loikaw Township ทำการรณรงค์ คัดค้านการเลือกตั้งของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่กําลังจะมาถึงในวันที่ 28 ธันวาคม 2568 โดยในการรณรงค์มีสโลแกนว่า "อย่าให้ฆาตกรรมตามกฎหมายเพราะคะแนนเสียงของคุณ" "อย่าให้เลือกตั้งปลอม" "รีบจับหัวหน้าเสือมินอ่องเหลิง" "อย่าให้ทางออกเพื่ออยู่ใน อำนาจ"

แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของ กองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี ระบุต่อไปว่า การต่อสู้แบบโต้ตอบรุนแรงเกิดขึ้นทุกวันใน De Mosso โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทหารเมียนมาได้ดำเนินการปฏิบัติการทางทหารตามทางหลวงสายหลัก ที่ทอดยาวจากทางตอนเหนือของรัฐคะเรนนีไปยังภาคใต้ ผ่านเมืองลอยก่อว์ ดีมอโซ พรุโซ และบอลาแคะ นอกจากนี้ กองกำลังทหารเมียนมา ประมาณ 100 นายจากค่ายฐานบอว์ลาเค ได้เดินทางมาถึงค่ายคณะกรรมาธิการทหารใกล้แม่สลองตอง (ชื่อท้องถิ่น) หรือหมู่บ้านน่านเพ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกประมาณ 9 ไมล์ ในสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน เพื่อปฏิบัติการทางทหารกับฝ่ายต่อต้าน ( กองทัพคาเรนนี/KA )

ลูกจ้างนากุ้งทำงานได้เดือนเดียว ดำน้ำดูเครื่องดูดขี้กุ้งจมน้ำเสียชีวิต สุนัขนายจ้างเฝ้าศพไม่ห่าง,เพื่อนร่วมงาน เผย ผู้ตา...
30/11/2025

ลูกจ้างนากุ้งทำงานได้เดือนเดียว ดำน้ำดูเครื่องดูดขี้กุ้งจมน้ำเสียชีวิต สุนัขนายจ้างเฝ้าศพไม่ห่าง,เพื่อนร่วมงาน เผย ผู้ตายทำงานแต่เช้าในสภาพอากาศเย็นและน้ำเย็น เชื่อเป็นตะคริวแล้วจมน้ำ

เวลา 10.30 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ร.ต.อ.เทอดเกียรติ ธนโสวัตถิยกุล พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตราด กำนันตำบลห้วยแร้ง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลตราดและกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตจมน้ำภายในบ่อกุ้ง ม.1 ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด

ในที่เกิดเหตุพบร่างนายอนิวรรต (อะ-นิ-วัด) พรมเสน อายุ 41 ปี ชาวเชียงราย ลูกจ้างนากุ้งเสียชีวิต โดย นายกองมี วรสิงห์ 19 ปี ลูกจ้างชาวลาว ช่วยเหลือขึ้นมาจากกลางบ่อกุ้ง เบื้องต้นจากการชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สันนิฐานว่านายอนิวรรตจมน้ำเสียชีวิต ซี่งระหว่างที่รอทำการชันสูตรศพ สุนัข 2 ตัว ของนายจ้างนอนเฝ้านายอนิวรรต ไม่ห่าง

นายกองมี กล่าวว่า นายอนิวรรต เพิ่งมาทำงานที่นากุ้งได้เพียง 1 เดือน และวันนี้อนิวรรต ลงไปทำงานที่บ่อกุ้งตั้งแต่เวลา 8 โมง โดยไม่สวมเสื้อผ้า แค่กางเกงขายาว และมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยนายอนิวรรต นั่งแพได้ทำงานบริเวณกลางบ่อกุ้ง ตรงเครื่องดูดขี้กุ้ง สักพักเห็นนายอนิวรรต ดำน้ำลงไปในน้ำซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าดำลงไปทำอะไร ตนเองเห็นผิดสังเกตจึงเข้าช่วยเหลือ พบว่านายอนิวรรตจมน้ำความลึกประมาณ 2 เมตร เมื่อช่วยขึ้นมาได้แล้วพบว่านายอนิวรรตเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้นายจ้างทราบ ส่วนสาเหตุการจมน้ำนั้น ตนเองเชื่อว่า นายอนิวรรต เป็นตะคริวระหว่างลงดำน้ำ เพราะน้ำเย็นจัด จนทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

จากนั้นร.ต.อ.เทอดเกียรติ ธนโสวัตถิยกุล พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตราด ให้กู้ภัยนำร่างนายอนิวรรต ได้ยังโรงพยาบาลตราด เพื่อติดตามหาญาติมารับศพกลับบ้านเกิดต่อไป

ปกครองบางละมุง นำกำลังบุกจับหนุ่มแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่นั่งขายแอลกอฮอล์ ริมหาดงานพลุพัทยา 2025       เมื่อเวลา 22.16 น....
30/11/2025

ปกครองบางละมุง นำกำลังบุกจับหนุ่มแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่นั่งขายแอลกอฮอล์ ริมหาดงานพลุพัทยา 2025

เมื่อเวลา 22.16 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง สั่งการให้นายธฤต จันทร์จรูญ ปลัดอำเภอบางละมุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ไปจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ชายหาดพัทยา ในช่วงที่ทางเมืองพัทยาจัดเทศกาลพลุนานาชาติ 2025 ได้ของกลางจำนวนมาก พร้อมตัวผู้รับเป็นเจ้าของร้าน และชายฉกรรจ์ที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่

สืบเนื่องมาจากนายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าทึ่กระทำผิดลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ห้ามขายงานพลุพัทยา หลังรับแจ้งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเจัาของร้านกำลังนั่งขายเครื่องดื่มหลากหลายชนิดกันอย่างไม่เกรงกลัว จึงได้แสดงตัวขอจับกุมได้ของกลางเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายแบรนด์ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ในส่วนของตัวบุคคลที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่ง ที่ปรากฎในภาพนั่งขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่งานพลุนานาชาติพัทยา 2025 นั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปตรวจสอบ หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใด จะได้ประสานต้นสังกัดไปดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อไป

อาสาสมัครทหารพราน ผงะเจอศพหญิงปริศนาลอยอืดโผล่คลองใหญ่ ชายแดนจันทบุรี เป้สะพายตกฝั่งกัมพูชา ตำรวจเร่งคลี่คลายหวั่น เป็นเ...
30/11/2025

อาสาสมัครทหารพราน ผงะเจอศพหญิงปริศนาลอยอืดโผล่คลองใหญ่ ชายแดนจันทบุรี เป้สะพายตกฝั่งกัมพูชา ตำรวจเร่งคลี่คลายหวั่น เป็นเหยื่อขบวนการลักลอบ
เข้าเมือง

เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. วันที่ 30 พ.ย. 2568 ร.ต.อ.วัลลภ พูลผล สว.สส.(สอบสวน) สภ.โป่งน้ำร้อน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีการพบศพหญิงไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ลอยอยู่ในแม่น้ำคลองใหญ่ บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หมู่ที่ 6
ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งได้รายงานให้ทาง พ.ต.อ. เสถียร
เหลาเกิ้มหุ่ง ผกก.สภ.โป่งน้ำร้อนได้รับทราบ จากนั้นได้นำชุดสืบสวนและอาสากู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี เข้าร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง ในลักษณะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตภายในน้ำกลางคลอง ลักษณะผิวหนังเปื่อย สวมเสื้อยืดสีดำและกางเกงขายาวสีดำ ต่อมาได้ประสานอาสากู้ภัยฯช่วยนำศพขึ้นมาบนฝั่งเพื่อชันสูตรในเบื้องต้นจากการสอบถาม อส.ทพ.อรรควุฒิ ยอดวัตร เจ้าหน้าที่ทหารพราน ผู้พบศพ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ขณะเดินลาดตระเวน ได้พบ กระเป๋าเป้และอุปกรณ์เครื่องใช้ของผู้เสียชีวิต วางอยู่ริมตลิ่งฝั่งกัมพูชา ก่อนจะเดินลาดตระเวนต่อมาอีกประมาณ 200 เมตร จึงมาพบศพหญิงดังกล่าวลอยอยู่ในน้ำ ใกล้ริมตลิ่งฝั่งไทย จากนั้นจึงว่ายน้ำข้ามไปนำกระเป๋าเป้มาตรวจสอบซึ่งจากการพบศพและวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด โดยลักษณะที่ศพอยู่ฝั่งไทย แต่กระเป๋าเป้อยู่ฝั่งกัมพูชา ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานให้น้ำหนักไปที่การเสียชีวิตระหว่าง การลักลอบเข้าเมือง โดยผู้ตายอาจเป็นแรงงานต่างด้าวที่พยายามข้ามคลองใหญ่ ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติ แล้วเกิดพลัดตกน้ำจมหายไป ทั้งนี้สาเหตุที่แท้จริง อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนผลชันสูตรอัตลักษณ์นิติเวทยาศาสตร์ พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน ทำการชันสูตรพลิกศพไว้ตามคดีชันสูตรที่ ช. 32/2568 และได้ส่งศพไปยังโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

ที่อยู่

Chon Buri

เบอร์โทรศัพท์

+66824412636

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์