หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชา

หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชา จุดประสงค์เพื่อ : เผยแพร่ข่าวสารการเมือง เศรษฐกิจ . ธุรกิจ สังคม . ศิลปวัฒนธรรม . ท่องเที่ยว . กีฬา สารคดี . บรรเทิง . โฆษณา และ เเจ้งความ

ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าในพื้นที่โคกกลอยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 21.00 –...
26/06/2025

ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าในพื้นที่โคกกลอย

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 21.00 – 24.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ภายใต้การอำนวยการของนายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฯ นำกำลังสมาชิก อส. ลงพื้นที่ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา

ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากการรับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลโคกกลอย ว่ามีชายต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงวางแผนใช้สายลับล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา ต่อมาในเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายจารุวัตร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ "กอล์ฟ" อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ขณะขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาส่งของกลางให้สายลับที่บ้านพัก

ในระหว่างปฏิบัติการ นายจารุวัตรพยายามหลบหนีโดยปีนขึ้นหลังคาบ้านข้างเคียง แต่เกิดพลาดตกลงมาจนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 99 เม็ด

ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ ได้แก่

มีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดในร่างกาย

เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทำบันทึกจับกุม ณ กองร้อยบังคับการและบริการจังหวัดพังงา และสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนได้ข้อมูลเครือข่ายเพิ่มเติมในพื้นที่อย่างเป็นที่พอใจ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย ดำเนินคดีตามกฎหมายในวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. จังหวัดพังงาจะเดินหน้าอย่างเข้มข้นในการปราบปรามยาเสพติดทุกพื้นที่ ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างจริงจังต่อไป.

ตร.ระยอง รวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 390,000 เม็ด คารถเก๋ง หลังรับเป็นนักบินขณะนำมาส่งให้เครือข่ายรายใหญ่ใน...
26/06/2025

ตร.ระยอง รวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 390,000 เม็ด คารถเก๋ง หลังรับเป็นนักบินขณะนำมาส่งให้เครือข่ายรายใหญ่ใน จ.ระยอง ก่อนกระจายขายในพื้นที่ภาคตะวันออก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มิ.ย.68 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยองแถลงข่าวจับกุมนายวิรัตน์ น้อมคีรี หรือแจ็ค ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมยึดของกลางยาบ้า 390,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ฎว 8357 กรุงเทพมหานคร ไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากสืบสวนทราบว่า นายวิรัตน์ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดโดยทำหน้าที่เป็น'นักบิน'(ผู้เก็บและผู้วางยาเสพติด) ให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่าจะมีการรับส่งยาเสพติดบริเวณ ต.ชากพง อ.แกลง จุดหน้าวัดสลึงถึงแยกคลองทุเรียน ในช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเวลา 01.15 น.ของวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรถยนต์ต้องสงสัยตามสายรายงาน จึงได้ติดตามไป เมื่อถึงจุดหมายนัดส่งยาเสพติด นายวิรัตน์ ได้จอดรถริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเข้าปิดล้อม และแสดงตัวตรวจค้น พบของกลางยาบ้า 390,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกรสอบปุ๋ย 2 กระสอบ อยู่เบาะหลังรถ จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ และนำตัวนายวิรัตน์ ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง พร้อมนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลหาเครือข่ายร่วมขบวนการ

ทั้งนี้จากการสอบปากคำนายวิรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าล็อตดังกล่าว เป็นของตนที่เก็บจากจุดนัดหมายที่เครือข่ายมาวางไว้ และกำลังจะนำไปส่งมอบให้นายสาชล หรือติ๋ง วงศ์จิราษฎร์ หลังได้รับคำสั่งจากนายสายชล เพื่อนำยาบ้าล็อตดังกล่าว ไปส่งให้ลูกค้ารายอื่นๆ

พล.ต.ต.ภูมินทร์ เปิดเผยว่า ยาบ้าล็อตดังกล่าว มีสัญลักษณ์ตัว Y ที่พบอยู่บนห่อบรรจุ โดยเครือข่ายนำเข้ามาจากทางภาคเหนือ ก่อนจะมาส่งให้เครือข่ายในจังหวัดระยอง ก่อนจำหน่ายให้ผู้ค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก ราคาปัจจุบันอยู่คอกละ 200 เม็ดๆ ละ 40 บาท โดยนายสายชล เป็นเครือข่ายรายใหญ่ในจังหวัดระยอง เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาแล้ว 3-4 ครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหานายวิรัตน์ 'จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งตัวดำเนินคดี พร้อมกับจะเร่งติดตามตัวนายสายชล เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่มาดำเนินต่อไปด้วย.

กระบี่ป่วน ชุด EODตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยย่านใจกลางเมือง และแหล่งท่องเที่ยว หลายจุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. พล.ต...
26/06/2025

กระบี่ป่วน ชุด EODตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยย่านใจกลางเมือง และแหล่งท่องเที่ยว หลายจุด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.สส.ภ.8 นำกำลังชุดอีโอดีของ กก.สส.จ.กระบี่ พร้อมชุดอีโอดี บช.ภ.9 พร้อมทั้งสุนัขตำรวจของ ตชด.เข้าตรวจสอบจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ และในตัวเมืองกระบี่ จ.กระบี่ เช่นบริเวณลานประติมากรรมปูดำ แลนด์มาร์คสำคัญในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ที่บริเวณส่วนหย่อมหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ทางจนท.ตรวจค้นบริเวณหลังป้ายหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบวัตถุคล้ายระเบิด 1 ชุด จนท. ชุด อีโอดี ทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ

ที่บริเวณประติมากรรมไม้มะหาด ถนนอุตรกิจ จนท.พบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ประกอบด้วยผงสารเคมีที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด อยู่ในถุงพลาสติก พร้อมด้วยอุปกรณ์จุดชนวนแบบตั้งเวลา จนท.อีโอดี ทำการเก็บกู้ได้สำเร็จเช่นกัน

ต่อมา จนท.เข้าตรวจสอบอีก 1 จุดที่ บริเวณมัสยิดกลาง จ.กระบี่ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ทาวจนท.ได้พบรถ จยย.พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน สารภาพว่าขี่มาจาก จ.ปัตตานี เป็นรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 6 กบ 5500 กทม. ถูกจอดทิ้งไว้ด้านหลังมัสยิดทาง จนท.ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ เพื่อให้ชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบ ว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในรถหรือไม่ โดยรถคันดังกล่าว จนท.สอบถามพยานทราบว่ามีคนขี่เข้ามาจอดไว้ตั้งแต่คืนวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา

มุกดาหาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยอู่ทอง    เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พลโท บุญสิ...
26/06/2025

มุกดาหาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยอู่ทอง

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยอู่ทอง หน้าตัด 30 นิ้ว ปางสะดุ้งมาร ถวายเป็นพุทธบูชาและพุทธานุสติบำรุงเสนาสนะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาหาร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย นายวรญาณ บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายกานต์พนธ์ เตชะเดชอภิพัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ คหบดี พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารจำนวนมาก ให้การต้อนรับ พร้อมกับมอบกุหลาบ ของที่ระลึก ต้อนรับ ตามประเพณีอีสาน ก่อนจะขอถ่ายรูปและเซลฟี่เป็นที่ระลึกจนแน่นวัด โดยแม่ทัพภาค 2 ได้พูดจาทักทายชาวบ้านด้วยภาษาอีสานอย่างเป็นกันเอง

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดน ปัจจุบันยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไร ส่วนทหารเราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอให้พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนให้มั่นใจในขีดความสามารถ และความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยทั้ง 4 เหล่าทัพ เรามั่นใจว่ายังคงรักษาดินแดนของชาติ ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร กองทัพจะดูแลอธิปไตยอย่างดีที่สุดจากนั้นพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะเดินมาบริเวณด้านหน้าอุโบสถ เพื่อมอบสิ่งของและข้าวสารแก่ผู้ร่วมงาน

ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาบุกจับกุมนายทุนลักลอบดูดทรายเถื่อนในลำคลองที่อำเภอกะปง     วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ภายใต้การอำนวยก...
26/06/2025

ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาบุกจับกุมนายทุนลักลอบดูดทรายเถื่อนในลำคลองที่อำเภอกะปง

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายธรรมเนียม บำรุง นายอำเภอกะปง และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอกะปง เข้าจับกุมการลักลอบดูดทรายในพื้นที่ ม.2 ต.เหมาะ อ.กะปง จ.พังงา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีนายทุนนำลูกน้องเข้ามาลักลอบดูดทรายในพื้นที่

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและพบการใช้เครื่องจักรและรถแบ็กโฮดูดทรายจากลำคลองปลายวา โดยไม่มีใบอนุญาต ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถแสดงเอกสารอนุญาตประกอบกิจการได้ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลาง ได้แก่ รถแบ็กโฮ 1 คัน เครื่องดูดทรายขนาด 158 แรงม้า 1 เครื่อง หัวดูดทราย 2 หัว ท่อลำเลียงทรายยาวประมาณ 150 เมตร และทรายที่ดูดจากคลองประมาณ 250 คิว ผู้ต้องหาถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันจัดตั้งและประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, ร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามมาตรา ๓๓๕(๑๐) แห่งประมวลกฎหมายอาญา,ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายต่อทรัพยากรในดิน ตามมาตรา9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน,ร่วมกันขุดลอก แก้ไข หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำทางเรือเดิน แม่น้ำ ลำคลอง ทะเลสาบหรือทะเลภายในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๑๒๐ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาและหลักฐานให้พนักงานสอบสวน สภ.กะปง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมร้องทุกข์เพิ่มเติมให้ดำเนินคดีกับนายทุนเจ้าของกิจการดูดทรายดังกล่าว

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บูรณาการร่วม หลายหน่วยนำทรัพย์กว่า กว่า 60 ล้านบาท  จากที่ยึดแล้ว 150 ล้านบาท คดีอดีตพระแย้มและพวก...
26/06/2025

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บูรณาการร่วม หลายหน่วยนำทรัพย์กว่า กว่า 60 ล้านบาท
จากที่ยึดแล้ว 150 ล้านบาท คดีอดีตพระแย้มและพวกยักยอก เก็บตรวจสอบ คดีวัดไร่ขิง

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับป.ป.ช. , ป.ป.ท. , ป.ป.ง. , สตง. และ พศ. แถลงความคืบหน้านำทรัพย์กว่า 60 ล้านบาทส่งมอบให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงทำการเก็บสำหรับเป็นหลักฐานในคดี หลังจากมีการยึดทรัพย์ของผู้เกี่ยวข้องมาแล้วประมาณ 150 ล้านบาท โดยยังจะมีการติดตามหาทรัพย์ ที่ นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและพวกรวม 5 คนยักยอกออกไป แปลงเป็นทรัพย์สินที่ดินรถยนต์หรูและสิ่งปลูกสร้างอีกหลายรายการ โดยมีการถวายคืนกุญแจ พร้อมย้ำจะนำทรัพย์กลับมาให้ได้มากที่สุด

วันนี้ 26 มิ.ย.68 ที่วัดไร่ขิง พระอรามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.พ.ต.อ. จำนาญ จันทร์เทศ ผก.ก.ปปป.,5 บก.ปปป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายคณพล หงสาวรางกูร ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 3, นางเยาวนิต หล่อระดับเพชร ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าที่คดีติดตามทรัพย์สินที่ พระธรรมวิชราณวนุตร (แย้ม อินทร์กรุงเก่า) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และพวกรวม 5 คนได้มีการยักยอกจากวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ซึ่งมีความเสียหายไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท จนเป็นคดีดังในวงการสงฆ์ไทย

โดยในการแถลงข่าว ได้มีการนำของกลางจากการกระทำความผิด จากการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน ดำเนินการสืบสวนขยายผล จากกรณีเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 มีการจับกุมพระธรรมวิชราณวนุตร (แย้ม อินทร์กรุงเก่า) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมพวก ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดหาหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์อันเป็นของตนๆ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฯ" เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันสืบสวนรวบรวมข้อมูล และสืบทราบว่าผู้ต้องหาและเครือญาติได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์อันควรเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือสิ่งของหรือทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์สินที่ได้มา หรือได้ใช้ไปจากการกระทำความผิด ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์วัดไร่ขิง ซึ่งมีลักษณะการกระทำผิด และการปกปิดทรัพย์สิน โดยการซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกทั้งการใช้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือ ครองทรัพย์สิน และการกระจายทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายค้นจำนวน 4 หมาย (หมายค้นที่ 39/68, 40/68, 41/68 และ 42/68 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568) เข้าทำการตรวจค้นพร้อมกัน 4 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.สุโขทัย จ.มุกดาหาร จ.เชียงใหม่ และ จ.กำแพงเพชร โดยจากการตรวจค้นพบทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ โดยเฉพาะรถ 10 คัน ประกอบด้วย
1. รถยนต์ ยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER สีน้ำเงิน มูลค่าประมาณ 1,900,000 บาท
2. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD 2.5 HYBRID สีขาว มูลค่าประมาณ 4,700,000 บาท
3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น GRAND FILANO สีแดง มูลค่าประมาณ 70,000 บาท
4. รถยนต์ ยี่ห้อ HYUNDAI รุ่น GRAND STAREX สีขาว มูลค่าประมาณ 2,700,000
5. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD HYBRID Z สีขาว มูลค่าประมาณ 4,700,000 บาท
6. รถยนต์ ยี่ห้อ BENZ S Class สีน้ำตาล มูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท
7. รถยนต์ ยี่ห้อ BENZ สีแดง มูลค่าประมาณ 3,000,000 บาท
8. รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 520d M SPORT สีขาว มูลค่าประมาณ 3,500,000 บาท
9. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น COMMUTER สีเทา มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท
10. โฉนดที่ดินพร้อมบ้าน อ.หาดแสง จ.เชียงใหม่ มูลค่าประมาณ 2,300,000 บาท
11. โฉนดที่ดินพร้อมบ้านจำนวน 10 หลัง อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท
12. สัญญาขายที่ดิน อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าประมาณ 2,400,000 บา
13. โฉนดที่ดิน 2 แปลง พร้อมบ้าน 1 หลัง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
14. โฉนดที่ดินพร้อมบ้าน อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
15. พระเครื่องเลี่ยมทองคำ 100 องค์ อ.สุโขทัย มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
16. เครื่องประดับ มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท
17. ทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ มูลค่าประมาณ 56,670,000 บาท

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่าในการแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีดังกล่าว ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจยึดมาจากการจับกุมนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งโอนและส่งต่อให้ นายสางอรัญญาและนางพชรพร หรือเตยและนายฉัตรชัย สามี นำมาเก็บรักษาระหว่างรอคดีสิ้นสุด

โดย พบว่า มีรถ 4 คันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพราะกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากวัดไร่ขิงไปซื้อ ส่วนอีก 6 คัน ซึ่งเป็นรถโบราณนั้น พบเป็นการซื้ออย่างถูกต้อง แต่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบระหว่างรอให้คดีสิ้นสุด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทรัพย์สินจากกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหาทั้งหมด ประมาณ 150 ล้านบาท

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวว่า จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดได้โอนเงินผ่านบัญชีของตัวเองไปยังกลุ่มผู้ต้องหา และทางกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ซื้อที่ดินในจังหวัดต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 68 ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ 4 จุดประกอบด้วยที่ สุโขทัย กำแพงเพชร มุกดาหาร และขอนแก่น เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม และร้านกาแฟ รวมถึงมีการนำเงินไปซื้อรถตู้หรู 4 คัน ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่านำเงินของวัดซื้อรถดังกล่าวโอนเป็นชื่อของตัวเองและรถตู้หรู 4 คันที่นำมาด้วย เพื่อฝากวัดให้เก็บรักษาไว้ เนื่องจากคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และทรัพย์สินทั้งหมดที่นำมาฝากไว้ เป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่สามารถชี้แจงที่มาได้

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ทรัพย์สินที่ยึดรวมมาได้ทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 150 ล้านบาทและยังไม่ปรากฏนำมาแถลงข่าวในวันนี้ ก็ยังมีส่วนที่ต้องเร่งติดตามมาอีกเช่นกันโดยจะแบ่งเป็นในส่วนของเครือญาตในกลุ่มของนางพชรพร หรือเตย นายฉัตรชัยสามี และนางสาวอรัญญาวรรณ โดยจะมีการสอบถามและเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ชี้แจงอีก โดยขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ชัดเจน 5 คนเช่นเดิม ซึ่งทรัพย์สินหลายส่วนที่มีการ นำมาแถลงและเตรียมนำมาตรวจสอบอีกครั้งเราเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากวัดไร่ขิงเนื่องจากทุกคนไม่สามารถระบุและชี้แจงอาชีพที่ชัดเจนเป็นแหล่งที่มาของเงินได้

ซึ่งจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นคณะทำงานได้มีการนำชมทรัพย์สินที่ทำการยึดมาได้ทั้งหมดซึ่งนำมาจัดแสดงโชว์ไว้ที่ภายในวัดไร่ขิง โดยหลังจากนั้นได้มีการนำกุญแจรถถวาย ส่งมอบให้กับ พระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพื่อให้ทำการเก็บรักษาในส่วนที่เป็นคดีของกลางต่อไป

ด้านพระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เปิดเผยว่า การดูแลรักษาของกลางหลังจากนี้ จะจัดระบบการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของวัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนตู้บริจาคของเดิมที่มีอยู่ประมาณ 180 ตู้ ขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 150 ตู้ เนื่องจากได้มีเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของตู้ได้นำ กลับไปแล้ว และในการจัดระบบการจัดการทางด้านการเงินของวัดก็เป็นที่เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ส่วนจะมีการดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไรก็ได้มีการ ประสานกับหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดูแลกำกับจนปรากฏความชัดเจนขึ้นแล้ว ส่วนการเรียกศรัทธาของวัดนั้น เบื้องต้นเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อวัดไร่ขิง จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบกับความศรัทธาของประชาชน และสถานการณ์ของวัดไร่ขิงก็กลับมาสภาวะปกติแล้ว

นายไพโรจน์ นิยมเดช ผอ.กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ปปช. กล่าวว่าขณะที่นายแย้ม หรืออดีตพระแย้ม ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานของเจ้าหน้าที่รัฐ ป.ป.ช. ก็มีอำนาจในการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติโดยได้ทำการสืบสวนหาข้อมูล และส่งต่อ ปปป. นำเสนอต่อคณะกรรมการให้มีการพิจารณาคดีต่อไปด้วย

สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบนั้น ทาง ปปง.ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนผ่านธุรกรรมทางการเงิน จนพบการกระทำความผิด ทำให้ดำเนินการนำทรัพย์สินมาคืนให้กับวัดได้ ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินที่เหลือ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม เบื้องต้นเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินที่ต้องตรวจยึดเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งและยังต้องมีการติดตามเร่งรัดเอาทรัพย์ที่ถูกโยกย้ายออกไปกลับมาให้มากที่สุด

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวหลายหน่วยงานได้มีการแสดงข้อมูลว่านับจากนี้ในการบริหารจัดการวัดต่างๆจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีวัดหลังจากมีการให้ตรวจสอบและส่งยอดเงินในบัญชีให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพุทธศาสนาประจำจังหวัดเป็นระยะเวลาหกเดือนเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งปี และจะต้องมีการชี้แจงที่มาที่ไปของรายได้อย่างถูกต้องตรวจสอบได้ โดยนับจากนี้หากใครยังคงมีการทุจริตแม้จะเป็นพระระดับเจ้าอาวาสก็จะไม่ละเว้นในการดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งหมดอย่างเข้มงวดต่อไป

ขอชื่นชม! “บริรักษ์ ชมภูนุช” ปั๊มหัวใจกู้ชีวิตผู้บาดเจ็บสาหัส หลังอุบัติเหตุใกล้แม็คโคร แม่สายวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ต้...
26/06/2025

ขอชื่นชม! “บริรักษ์ ชมภูนุช” ปั๊มหัวใจกู้ชีวิตผู้บาดเจ็บสาหัส หลังอุบัติเหตุใกล้แม็คโคร แม่สาย

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ต้องขอชื่นชมในความเสียสละและจิตอาสาของ “บริรักษ์ ชมภูนุช” ชาวอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ที่เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ รถน้ำมันชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณใกล้แม็คโคร แม่สาย

ผู้บาดเจ็บหมดสติ ไม่มีชีพจร แต่บริรักษ์ได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือทันที โดยทำการ ปั๊มหัวใจ CPR จนผู้บาดเจ็บกลับมาหายใจและมีชีพจรอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยปิยะมิตรแม่สาย จะมาถึงและช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ “บริรักษ์ ชมภูนุช” ผ่านการฝึกอบรมการฟื้นคืนชีพเบื้องต้น และเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของ สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย จึงมีทักษะและสติที่ช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ของผู้เสียสละ ที่ควรค่าแก่การชื่นชมและยกย่อง!

รวมแก๊ง“ขุนเดช”ลอบขนไม้พะยูง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จากชายแดนใต้ส่งฝั่งโขง จ.หนองคาย  ตำรวจทางหลวงชุมพรรวบรวมแก๊ง“ขุนเดช”ล...
26/06/2025

รวมแก๊ง“ขุนเดช”ลอบขนไม้พะยูง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จากชายแดนใต้ส่งฝั่งโขง จ.หนองคาย

ตำรวจทางหลวงชุมพรรวบรวมแก๊ง“ขุนเดช”ลอบขนไม้พะยูง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จากชายแดนใต้ส่งฝั่งโขง จ.หนองคาย นายชัยยพล คนขับรถคันดังกล่าวรับงาน ผ่านทางแอบพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งใช้ชื่อ”ขุนเดช” ได้รับค่าจ้างครั้งล่ะ 15,000 บาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 68 พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.พร้อมด้วย ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ สมบุญ รอง สว.(ป.) กก.5 บก.ปทส.,ร.ต.อ.จำนง เต็งประยูร รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชพ. พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ จนท.ฝ่ายการข่าว กอ.รมน.ชุมพร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันจับกุมตัว นายสมัย เครือสีดา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ตำบลหนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พร้อมด้วยของกลางเป็น ไม้พะยูง ความยาวประมาณ 2 เมตร รวมทั้งสิ้น 73 ท่อน และรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม.ในฐานความ ผิด “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 68เวลาประมาณ 05.30 น. ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.)ส.ทล.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.ต.ชัยเทพ สาลี รอง สว.(ป.)ส.ทล.ชุมพร และ ด.ต.ธนพล เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่งานป้องกัน ส.ทล.ชุมพร ได้นำรถวิทยุ หมายเลข 2406 ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.470 ขาเข้า กทม. เขตพื้นที่ ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้พบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม. ได้ขับรถแซงขึ้นมาในช่องทางเดินรถทางขวา ด้วยความเร็ว และมีเหตุสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการเปิดสัญญาณไฟเพื่อเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด

เจ้าหน้าที่สอบถามทราบชื่อ นายสมัย เครือสีดา เป็นผู้ขับขี่มาเพียงคนเดียว โดยอ้างว่า บรรทุกทุเรียนมาจาก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากไม่มีกลิ่นของทุเรียนเล็ดรอดออกมาแต่อย่างใด ประกอบกับนายสมัย แสดงอาการพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงขอทำการตรวจสอบภายในรถ พบท่อนไม้ซึ่งยังไม่ได้แปรรูป จำนวนมากบรรทุกมาเต็มคันรถ ทราบภายหลังเป็นไม้พยูง และไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อทางเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวพร้อมของกลางมายังสถานีตำรวจทางหลวงชุมพร เพื่อสอบสวนหารายละเอียดของที่มา

จากการสอบถามนายสมัย ในเบื้องต้นให้การว่า ไม้ที่ตนบรรทุกมานั้น เป็นไม้พะยูง โดยตนได้บรรทุกมาจาก พื้นที่ จังหวัดสงขลา โดยมีชายชาวมาเลเซีย จำนวน 4 คน พร้อมรถบรรทุกติดแผ่นป้ายทะเบียนมาเลเซีย จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ได้นำไม้พะยูงมาให้ตน ซึ่งนัดรับกัน บริเวณริมป่าทึบข้างทางและไม่ทราบจุดที่แน่นอน ในพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และนำไปส่ง บริเวณ ริมแม่น้ำโขง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

นายสมัย ให้การต่อว่า โดยตนได้รับการว่าจ้างจาก จากนายชัยยพล ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยได้ติดต่อและรับงานดังกล่าว ผ่านทางแอบพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งใช้ชื่อ”ขุนเดช” ได้รับค่าจ้างครั้งล่ะ 15,000 บาท โดยค่าจ้างดังกล่าว ได้รับโอนผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 09082###X ชื่อบัญชี นายชัยยพล ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยนายสมัย ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกไม้พะยูง จากนายชัยยพล มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จนกระทำถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.กล่าวว่า จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าไม้พะยูงขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 73 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก.(ไม้หวงห้ามธรรมดา) ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530 ลำดับที่ 53 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ก่อนนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สิ้นฤทธิ์! “แจ๊ค นักบินยานรก” ขนยาบ้า 3.9 แสนเม็ด ซุกเก๋งเตรียมส่งทั่วภาคตะวันออก ตร.ระยองปิดล้อมรวบกลางดึก มัดโยง “ติ่ง...
26/06/2025

สิ้นฤทธิ์! “แจ๊ค นักบินยานรก” ขนยาบ้า 3.9 แสนเม็ด ซุกเก๋งเตรียมส่งทั่วภาคตะวันออก ตร.ระยองปิดล้อมรวบกลางดึก มัดโยง “ติ่ง ระยอง” ขาใหญ่เครือข่ายยานรกภาคตะวันออก

ระทึกกลางดึก! ตำรวจภูธรจังหวัดระยองเปิดแผนปิดล้อมกระชั้น รวบ “แจ๊ค หนองบัว” มือขนยานรกเครือข่าย “ติ่ง ระยอง” ได้คารถเก๋ง ขณะเตรียมนำยาบ้า 3.9 แสนเม็ดส่งลูกค้าทั่วภาคตะวันออก ผู้ต้องหาสารภาพทำตามคำสั่ง “นายติ่ง” ตัวการใหญ่ในพื้นที่ ตำรวจเร่งขยายผลล่าตัวบงการ พร้อมล้างบางทั้งขบวนการ

เมื่อเวลา 01.35 น. วันที่ 26 มิ.ย. 2568 พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหะสุด ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศักดิ์ศรีวัฒนา รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดระยอง (สืบจังหวัด) การร่วมกันแกะรอยขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ กระทั่งสามารถจับกุม นายวิรัตน์ หรือนายแจ๊ค อายุ 38 ปี ชาวระยอง ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 390,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีขาว จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

จากการสืบสวนพบว่า นายแจ๊คมีพฤติกรรมลักลอบขนยาเสพติดในลักษณะ “นักบิน” โดยขับรถเก็บของจากจุดที่เครือข่ายวางไว้ แล้วนำไปส่งตามคำสั่งของหัวหน้าเครือข่ายที่รู้จักกันในนาม “นายติ่ง” ซึ่งต่อมาทราบชื่อจริงว่า นายสายชล มีลูกค้าทั่วจังหวัดระยอง คืนเกิดเหตุ ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการเคลื่อนไหวรับ-ส่งยาในเขตต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง จึงวางกำลังล่อเป้าใช้รถยนต์พลเรือน 8 คัน ลาดตระเวนดักจับ

กระทั่งพบรถตรงตามที่แจ้ง ขับมาถึงบริเวณ ริมถนนสุขุมวิท จุดกลับรถปากซอยศาลาแสงทอง ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญานให้นายแจ๊คจอดรถ พอนายแจ็คจอดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจถืออาวุธครบมือบุกเข้าชาร์จจับกุมทันที จากการตรวจค้นภายในรถพบกระสอบปุ๋ย 2 ใบวางอยู่เบาะหลัง เมื่อเปิดออกดูเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะพบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบรวม 390,000 เม็ด ผู้ต้องหารับสารภาพว่ารับมาจากบริเวณแยกสมอโพรง และกำลังจะนำไปส่งต่อตามคำสั่งของนายสายชล หรือติ่ง

สอบสวนเบื้องต้น นายแจ๊ค สารภาพว่า ตนมีหน้าที่ขับรถไปรับยาเสพติดที่เครือข่ายวางไว้ตามจุดต่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า “นักบิน” โดยรับคำสั่งจากหัวหน้าเครือข่ายชื่อ “นายติ่ง” หรือ นายสายชล ที่คุมเครือข่ายค้ายาทั่วระยองและเป็นเอเย่นรายใหญ่ภาคตะวันออก โดยจุดรับยาครั้งนี้คือบริเวณแยกสมอโพรง และกำลังจะนำไปส่งต่อตามคำสั่ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหนัก มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และขับขี่ยานพาหนะในขณะมีสารเสพติดในร่างกาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ ดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลไล่ล่าหัวหน้าขบวนการ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.ต.ภูมินทร์ เผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมย้ำว่าตำรวจระยองจะเดินหน้ากวาดล้างต่อเนื่องทุกเครือข่าย และขอบคุณประชาชนที่กล้าให้เบาะแส จนนำไปสู่การทลายแก๊งยานรกล็อตใหญ่ครั้งนี้“ยาบ้ากว่า 3.9 แสนเม็ด หมายถึงชีวิตเยาวชนหลายหมื่นคน ตำรวจระยองจะไม่ปล่อยให้พวกมันลอยนวล” – พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างเด็ดขาด.

สกลนคร ลูกหลานขอที่ดินคืนหลังพ่อบริจาคให้หลวงนานกว่า 60 ปี ให้ 9 ไร่เกิน 1 ไร่เศษวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2568 ขนายขจรศักด...
26/06/2025

สกลนคร ลูกหลานขอที่ดินคืนหลังพ่อบริจาคให้หลวงนานกว่า 60 ปี ให้ 9 ไร่เกิน 1 ไร่เศษ

วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2568 ขนายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายความ นำ น.ส.ธันยานันท์ แสนสัมโรง อายุ 50 ปี 1474/4 ถนนสุขสวัสดิ์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผวจ.สกลนคร ขอคืนที่ดินส่วนที่เหลือจาการบริจาคให้เทศบาลนครสกลนครเพื่ิอทำถนนโดยอ้างถึง บันทึกการประชุมคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐส่วนจังหวัสกลนคร ครั้งที่ 1 / 2538 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2538 ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนครเดิม ที่ดินที่ขอคืน มีหลักฐานเป็น ส.ค.1 เลขที่ 942 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่กว่า เป็นที่ดินของนายสมบูรณ์ แสนสัมโรง ซึ่งได้ยกให้แก่นายมนูญ แสนสัมโรงบิดาของนายมนูญ แสนสัมโรง ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งคู่โดยนายมนูญ แสนสัมโรง เป็นบิดาของนางสาวธันยานันท์ แสนสัมโรง และนายมนูญ แสนสัมโรงก็ได้ยกที่ดินพิพาทให้แก่น.ส.ธันยานันท์ แสนสัมโรง ผู้ร้องขอคืนที่ดินที่ดินพิพาทดังกล่าวมีเอกสารการยกที่ดินให้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2503 นายสมบูรณ์ แสนสัมโรงได้ยกที่ดินให้เทศบาลนครสกลนครเพื่อ ขยายถนนมีความยาว 5 เส้น 13 วา ตลอดแนวเขดที่ดินทางด้านทิศได้ กว้าง 7 เมตร โค้งไปดามรูปของที่ดินที่ขายให้แก่นางนาค วิทยาขาว ที่ดินพิพาทนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เหลือจากที่ดิน 9 เมตร ที่นายสมบูรณ์ แสนสัมโรง ยกให้แล้วปรากฏตามสำเนาบันทึกยกที่ดินให้เทศบาลเอกสารท้ายคำร้องเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2515 นายกเทศมนดรีเมืองสกลนครได้แจ้งให้นายสมบูรณ์ แสนสัมโรง ว่าที่ดินพิพาทดังกล่าว ทางเทศบาลสกลนครยังขอสงวนไว้ใช้ประโยชน์เพื่อถนนก่อน ปรากฏตามสำเนาบันทึกแจ้งให้เจ้าของที่ดินทราบเอกสารท้ายคำร้อง

ปัจจุบัน น.ส.ธันยานันท์ แสนสัมโรง เป็นผู้ครอบครองที่ดินสืบทอดต่อมาจากบิดาคือนายมนูญ แตนต้มไรร โดยไข้ประโระในที่หินโดยการปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัยและเปิดเป็นร้านขายอาหารให้แก่บุคลทั่วไป โดยแสดงการครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินเพื่อตนเองเรื่อยมา ไม่ได้ใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะแต่อย่างใดและไม่มีบุคคลใด มารบ กวนการครอบครอง เมื่อพิจารณาจากมติที่ประชุมของ กปร.จังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 1/2538 จึงเห็นควรคืนที่ดินพิพาทให้แก่นายมนูญ แสนสัมโรง บิดาของตน และประธานในที่ประชุม ก็ได้สรุปว่าเป็นอันว่าทางเจ้าของไม่ติดใจตอนนี้ จะคืนให้โดยวิธีใดเท่านั้น ทางเราเมื่อได้ข้อเท็จจริงอย่างนี้ก็ไม่ติดใจเช่นกัน เพราะประโยชน์ในที่ดินเราได้ใช้ไปแล้ว ส่วนที่เหลือให้คืนเจ้าของไปส่วนจะขอคืนโดยวิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับการยกให้ กปร.ส่วนจังหวัดจะไม่ยุ่งเกี่ยว เป็นอันว่าเห็นชอบด้วย ส่วนจะคืนโดยวิธีใด ขอให้คืนให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ได้มีการประชุมดังกล่าวมา ปัจจุบัน บิดาตนและตนยังไม่ได้รับคำตอบจากเทศบาลนครสกลนครว่าจะคืนที่ดินให้แก่ข้าฯปรากฏตามสำเนาบันทึกการประชุมของคณะกรรมการ กปร.ส่วนจังหวัด
ครั้งที่ 3 /2536 และบันทึกการประชุมคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐส่วนจังหวัดสกลนคร (กปร.สกลนคร) ครั้งที่ 1 /2538

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2567 ทางเทศบาลนครสกลนครได้ออกมารังวัดที่ดินพิพาทและแจ้งแก่ตนว่าจะรังวัดทำแผนที่เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ของทางเทศบาลฯ ซึ่งตนได้คิดค้านการรังวัดดังกล่าวแล้ว ปรากฏดามสำเนาคัดค้านการรังวัดเอกสารแนบมาด้วยที่ผ่านมาตนและบิดาตนได้พยายามที่จะดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่เจ้าพนักงานที่ดินก็ไม่ดำเนินการให้ และตนได้เคยยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพื่อให้เพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกจาก(ส.ค.1) เลขที่ 952 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำพิพากษารับรองว่า ที่ดินพิพาทดังกล่าวให้ตนเป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์ และเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ตนได้ไปยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดิน ซึ่ง เจ้าพนักงานได้แนะนำให้ตนได้มายื่นคำร้องเรียนต่อ ผวจ.สกลนคร เพื่อให้ได้มีการสอบสวนและมีคำสั่งให้เทศบาลนครสกลนครคืนที่ดินพิพาทให้แก่ตน เมื่อตนได้รับการคืนที่ดินจากทางเทศบาลแล้ว สำนักงานที่ดินจังหวัดลกลนดร
จึงจะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้ตามที่ขอ ปรากฏตามสำเนาคำพิพากษาศาลจังหวัดสกลนครและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงขอให้ได้โปรดดำเนินการมีคำสั่งให้ทางเทศบาลนครสกสนครได้คืนที่ดินให้แก่ตนและไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวในที่ดินของตนและให้สำนักงานที่ดินจังหวัดสกลนครรับคำขอออกโฉนดที่ดินของตนต่อไป

เจ้าหน้าที่ EOD ยิงทำลาย วัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ถูกฝ้งทรายอยู่บนหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต  ลึกกว่า 50 ซม.เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว...
26/06/2025

เจ้าหน้าที่ EOD ยิงทำลาย วัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ถูกฝ้งทรายอยู่บนหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ลึกกว่า 50 ซม.

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบวัตถุต้องสงสัย ถูกทิ้งไว้บนหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนถึงสวนสาธาณณะโลมา 200 เมตร เจ้าหน้าที่ EOD เร่งเคลียร์

วันนี้ (26 มิ.ย.68) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ถูกวางทิ้งไว้บริเวณชายหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนถึงสวนสาธารณะโลมาประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สส.ภูธรภาค 8 เข้าตรวจสอบพื้นที่และวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการระบุว่าวัถตุดังกล่าวเป็นอะไร มีการกันพื้นที่ห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชน เดินผ่านบริเวณดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มีเสียงดังคล้ายๆ เสียงปืนเกิดขึ้น แต่ไม่มีควันไฟแต่อย่างใด

การพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภูเก็ต เข้าตรวจสอบค้นหาวัตถุต้องสงสัยตามที่คนร้ายได้เปิดปากสารภาพว่าได้นำไปวางไว้ที่หาดป่าตอง 2 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.)

สู้รบหนักเจ็บระนาว จากการสู้รบระหว่างทหารคาเรนนี ที่นำกำลังกว่า 300 นายพร้อมอาวุธหนักบุกเข้าโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหาร...
26/06/2025

สู้รบหนักเจ็บระนาว จากการสู้รบระหว่างทหารคาเรนนี ที่นำกำลังกว่า 300 นายพร้อมอาวุธหนักบุกเข้าโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาที่เมืองผาซอง โดยได้มีการสู้รบอย่างดุเดือด ท่ามกลางการโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศเมียนมาส่งผลให้ มีทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 27 คนถูกส่งมารักษาตัวในไทยเพื่อมนุษยธรรม

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี KA ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ทหารเมียนมาสังกัดกองพันทหารราบที่ 134 ,135 ,1 และ กองพันที่ 14 ได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังผสมทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี บริเวณเมืองผาซอง จ.ลอยก่อว์ ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยด้าน อำเภอขุนยวม ประมาณ 60 กม.โดยทั้ง 2 ฝ่ายยังคงมีการสู้รบอย่างหนักหน่วง โดยการสู้รบดังกล่าวได้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 เวลา 05.30 น.กองกำลังผสมคาเรนนีจำนวนกว่า 300 นายได้บุกเข้าโจมตีเพื่อยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในเมืองผาซอง และสามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้เพียง 1 ฐาน คือฐานที่มั่น ทหารเมียนมากองพันทหารราบที่ 135 ส่วนที่เหลือยังไม่สามารถยึดได้และอยู่ระหว่างการสู้รบอย่างดุเดือด

จากการสู้รบทำให้กองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี ประกอบด้วย KA , KNDF และ KNPLF ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวานที่ผ่านมาได้มีการส่งทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปรักษาตัวในโรงพยาบาล อ.ขุนยวม , โรงพยาบาลแม่สะเรียง , โรงพยาบาลศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน และ โรงพยาบาลนครพิงค์ ที่ จ.เชียงใหม่

สำหรับในวันนี้ได้มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่างการลำเลียงส่งไปรักษาตัวในประเทศไทย ส่วนทหารที่บาดเจ็บเล็กน้อยมีจำนวนประมาณ 50 นายโดยได้มีการปฐมพยาบาลในค่ายพยาบาลสนามใกล้เมืองผาซอง

สำหรับการสู้รบเมื่อวานที่ผ่านมา กองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินขับไล่มาทิ้งระเบิด ใส่ทหารกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี จำนวน 13 เที่ยวบิน ใช้ระเบิดจำนวน 26 ลูก โดยเป็นระเบิดไม่นำวิถีขนาด 500 ปอนด์ แต่ไม่สามารถทำอันตรายต่อทหารกองกำลังผสมแต่อย่างใด เนื่องจากได้มีการเกาะฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในระยะห่างเพียง 100 เมตรทำให้นักบินไม่กล้าทิ้งระเบิดใกล้ฐานที่มั่นของพวกเดียวกัน สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บส่วนหนึ่งมาจากถูกยิงด้วยอาวุธปืน และสะเก็ดระเบิดของทหารเมียนมา และถูกกับระเบิดที่ทหารเมียนมาวางไว้หลายชั้นทำให้การรุกคืบเข้ายึดฐานทหารเมียนมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ทางด้านโรงพยาบาลขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับการประสานมาว่า จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกันในเมืองผาซอง รัฐคาเรนนี จะเดินทางมารับการรักษาเป็นจำนวนมาก จึงได้ระดมทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโดยมนุษยธรรม แต่เนื่องด้วยโรงพยาบาลขุนยวม เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ในจำนวนมาก จึงได้มีการประสานงานไปยังโรงพยาบาลแม่สะเรียง และโรงพยาบาลศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน รวมทั้งประสานไปยังโรงพยาบาลแม่ลาน้อยในการสนับสนุนรถฉุกเฉินในการกระจายผู้ป่วยไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ในแม่ฮ่องสอน และคนป่วยที่อาการหนักบางส่วนได้มีการส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่

โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้ ( 25 มิ.ย.2568 ) มีจำนวนทั้งสิ้น 27 รายและเสียชีวิต 1 รายเนื่องจากอาการหนักมาก

ที่อยู่

Chon Buri

เบอร์โทรศัพท์

+66824412636

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์