27/10/2025
เรื่องราวที่มาของ หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร ที่ได้มาจำพรรษา ณ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย พร้อมที่มาของชื่อ " วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย "
หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย –“หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร” พระเกจิ ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร เชี่ยวชาญการเจริญสมถะและวิปัสสนากัมมัฏฐาน สงบ สันโดษ มักน้อย พูดน้อย สำรวมระวังกาย วาจา ใจ และฉันอาหารมื้อเดียว อีกทั้งวัตถุมงคลได้รับความนิยม ทั้งที่จัดสร้างเองและอนุญาตให้ลูกศิษย์จัดสร้าง ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง, เหรียญรูปเหมือน, เครื่องราง, ลูกอม, ยาฉุน ฯลฯ
#ประวัติและที่การเดินทางมาจำพรรษา ณ เจ้าฟ้าศาลาลอย
หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร เป็นชาวชุมพรโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๓ ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ที่ ต.วิสัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ตั้งแต่วัยเด็ก มีความใฝ่ใจศึกษาหาความรู้ต่างๆ จนอายุ ๑๘ ปี บวชสามเณรที่วัดสวี ศึกษาด้านพระปริยัติธรรม และอักษรขอม กระทั่งอายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดวิสัยเหนือ มีหลวงพ่อชื่น วัดแหลมปอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “จันทสโร”
จำพรรษาที่วัดวิสัยเหนือระยะหนึ่ง จึงเดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดควน ต.วิสัยเหนือ เพื่อศึกษาทางด้านกัมมัฏฐานและวิทยาคม จากนั้นเริ่มออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อฝึกวิปัสสนาและแสวงหาพระอาจารย์ผู้แก่กล้าศึกษาวิทยาคม เพิ่มเติม
เมื่อมาถึงจังหวัดภูเก็ต ได้พบพระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือ ตอแซ พระเกจิชื่อดังในยุคนั้น จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมต่างๆ อยู่ ๒ พรรษา จากนั้นกราบลาพระอาจารย์ออกธุดงค์ต่อ
พ.ศ. ๒๔๖๒ ในพื้นที่ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร วันหนึ่ง มี ๒ แม่ลูกออกหาของป่าละแวกวัดร้าง มีนกแก้วบินนำหน้า ๒ แม่ลูก ไปจนถึงบริเวณที่หลวงปู่สงฆ์ปักกลด ๒ แม่ลูกเข้าไปกราบด้วยความเลื่อมใส จึงนิมนต์ท่านกลับไปจำพรรษาที่วัดร้างใกล้หมู่บ้าน ซึ่งมีแต่ซากสิ่งก่อสร้างเก่าทรุดโทรม แม้แต่อุโบสถก็เหลือเพียงเสาสี่ต้น มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกรุงรัง
หลังจากรับนิมนต์ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านมาหักร้างถางต้นไม้ ช่วยกันบูรณะเสนาสนะต่างๆ ขึ้นมาใหม่ พัฒนาจนเป็นวัดที่มั่นคงแข็งแรงและเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้
"วัดร้าง" แห่งนั้น ปัจจุบัน คือ #วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นั่นเอง
เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งเคยมีกวางตัวหนึ่งหลงเข้ามาในวัด ท่านก็ให้ผลไม้และอาหารกิน และผูกเศษจีวรสีเหลืองไว้ที่คอกวาง เจ้ากวางอยู่ที่วัดได้ปีหนึ่งก็กลับเข้าป่าไป บางทีก็กลับมาหาอีกที่วัด และอยู่สองสามวันก็กลับเข้าป่าไปอีก โดยในช่วงที่เจ้ากวางอาศัยอยู่ในป่านั้น สามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ทุกครั้ง
แม้กระทั่ง เต่าที่อยู่แถวป่าไผ่ใกล้วัดที่มีบ่อและสระน้ำ เป็นเต่าตัวโตๆ บางครั้งเดินมาหาหลวงปู่ที่กุฏิ อยู่ที่เชิงบันไดหลายสิบตัว พอวันพระที่สำคัญๆ พวกเต่าจะพากันมาอยู่ที่หน้าหอสวดมนต์จนพระทำวัตรเสร็จ เมื่อได้พบหลวงปู่แล้ว ก็จะกลับเข้าไปอยู่ในป่าไผ่ดังเดิม
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ร่ำลือกันว่ามีวาจาสิทธิ์ยิ่งนัก
สำหรับวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชุมพรมาตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ได้รกร้างมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จนเมื่อหลวงปู่สงฆ์ รับนิมนต์มาจำพรรษา จากวัดร้างจึงได้รับการบุกเบิกและพัฒนาจนเป็น “วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย” ที่เจริญรุ่งเรือง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวชุมพร
ที่มาของชื่อวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
หลวงปู่สงฆ์ กล่าวถึงที่มาของชื่อวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ว่า ในอดีตเป็นวัดที่มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเคยมาบวชเป็นเจ้าอาวาสอยู่ จึงขึ้นต้นชื่อวัดว่า ‘เจ้าฟ้า’ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าวัดเดิม ส่วนศาลาลอย ตั้งตามชื่อของหมู่บ้าน
นอกจากนี้ มักพูดเสมอว่า “เจ้าวัดที่นี่ไม่ใช่เรา แต่เป็นปู่เจ้าฟ้า” ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการบวชนาค จะต้องนำนาคไปฝากตัวกับปู่เจ้าฟ้าก่อน จนเป็นประเพณีสืบมาถึงปัจจุบัน
หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๒ ส.ค.๒๕๒๖ สิริอายุ ๙๔ ปี ๓ เดือน ๒ วัน.