เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/100962669398516/

Suphakit flims

ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Suphakit flims, สตูดิโอภาพยนตร์/โทรทัศน์, Hua Hin.

12/06/2024

อนุสรณ์เนื่องในงานฌาปนกิจศพ คุณแม่คำ สูงเนิน 8 มิถุนายน 2567

04/06/2024

งานเฉลิพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567

17/04/2024

ย้อนหลังในเทศกาลสงกรานต์ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นะครับ

16/04/2024

การแสดงชุดรำวงชาวใต้ โดยนักเรียนชุมนุมนาฏศิลป์โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน

10/03/2024

#วันนี้วันพระขอเสนอกระทู้ธรรมตอน.....
อเปตจิตฺเตน น สมฺภเชยฺย
เมื่อเขาไม่มีเยื่อใย ป่วยการอยู่กินด้วย
บัตรนี้ จักได้อธิบายเนื้อความแห่งกระทู้ธรรมสุภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้นพอเป็รแนวทางแห่งการศึกษา และนำไปปฏิบัติสืบต่อไป
ดำเนินความว่า การที่เรามีความรักนั้นจะต้องเกิดการมีเยื่อใยระหว่างคนรักทั้งสองคนเกิดขึ้นที่ต้องดำเนินชีวิตผ่านหลักธรรมการครองเรือนหรือฆราวาสธรรม ที่ประกอบไปด้วย ๑) สัจจะ ความซื่อสัตย์ต่อกัน ๒) ทมะ การฝึกตน ๓) ขันติความอดทนอดกลั้น ๔) จาคะ การเสียสละ การแบ่งปัน มีน้าใจ ซึ่งเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกันในครอบครัวอย่างมีความสุขระหว่างคนรักทั้งสองคนและเป็นสามีภรรยาในอนาคต หากคนรักหรือสามีภรรยาขาดการมีสัจจะต่อกันเป็นอย่างแรกแล้วจะทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นตามมาในภายหลังตามปัญหาจากปัจจัยสี่ หรือ การดำเนินชีวิตภายในครอบครัว การที่จะมีเยื่อใยที่ดีต่อกันนั้นจะต้องมีการเสียสละบ้างในบางครั้ง หรือการที่่จะต้องรักษาสัจจะในการครองคู่ต่อกัน เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดการมีเยื่อใยความรักต่อกันแล้ว ก็ป่วยการที่จะอยู่ด้วยกันประดุจดั่งเส้นไดที่ประสารกันแล้วถูกตัดออกจากกัน ซึ่งเปรียบเสือนว่าการไม่มีเยื่อใยต่อกัน ในสังคมปัจจุบันนั้นจะเกิดปัญหาความรักในเรื่องของการครองเรือนเป็นส่วนมาก เช่น ระยะทางในการทำงาน ชู้สาว หรือ เวลาไม่ตรงกัน เป็นต้น หากเกิดปัญหาแบบนี้จะส่งผลให้การครองเรือนไม่มีความสุข การครองเรียนที่ดีนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการฝึกตน และการเสียสละ และแบ่งปันในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากขาดสิ่งนี้แล้วจะทำให้เกิดการต่อว่าหรือด่ากันภายในครอบครัวซึ่งเป็นวาจาที่ทำให้เกิดการแตกแยก สมดังในพุทธศาสนสุภาษิต ขุททกนิกาย ว่า
มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ.
คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน.
บุคคลผู้ที่ไม่สามารถอดทนต่อสู้กับกิเลสตัณหาที่เข้ามารบเร้าจิตใจได้ เป็นเหตุทำให้จิตใจเศร้าหมอง พาให้การทำ การพูด การคิด ดำเนินไปในทางที่ผิดด้วย แต่ในกระทู้นี้ท่านหมายเอาการพูดที่ผิด คือ การพูดที่ออกไปแล้วทำให้เกิดโทษทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นเท่านั้น บุคคลผู้เป็นเช่นนี้ก็จะเดือดร้อนเพราะคำพูดของตัวเอง มีถูกติเตียน ถูกดูหมิ่นให้เสียชื่อเสียง หรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่นดียวกัยบการครองเรือนและการครองคู่อยู่ร่วมกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความลับต่อกันนั้นจะต้องมีการทะเลาะวิวาทกันภายในครอบครัวเหมืนในสถานการปัจจุบันที่ปราฏต่อหน้าสื่อสังคมต่าง ๆ ซึ่งทำให้จิตใจของผู้ที่เป็นสามีหรือภรรยาเกิดความเศร้าหมองได้ เพราะฉนั้นแล้วตะต้องเกิดความเชื่อใจในคำพุดซึ่งกันและกัน จึงสามารถดำเนินชีวิตครอบครัวได้อย่างมีความสุข
สรุป การที่มีหรือไม่มีเยื่อใยต่อกันนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำพูดที่รักษาน้ำใจต่อกันระหว่างสามีภรรยา หรือ คู่รักที่จะ้องดำเนินชีวิตตามหลักธรรมฆราวาสธรรม ซึ่งประกอบไปด้วย ๑) สัจจะ ความซื่อสัตย์ต่อกัน ๒) ทมะ การฝึกตน ๓) ขันติความอดทนอดกลั้น ๔) จาคะ การเสียสละ การแบ่งปัน มีนำ้ใจ ต่อกัน หากขาดสิ่งที่ได้กล่าวไป ณ เบื้องต้นแล้ว จะทำให้เกิดความเดือดร้อนเกิดขึ้นและถึงจุดจบในที่สุด สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ได้ยกขึ้นเป็นนิเขปบท ณ เบื้องต้นว่า
อเปตจิตฺเตน น สมฺภเชยฺย
เมื่อเขาไม่มีเยื่อใย ป่วยการอยู่กินด้วย
มีนัยดังพรรณนามาด้วยประการฉะนี้

29/02/2024

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 ของราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ.1928-พ.ศ.1945 วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณมีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้าง 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวงสร้างอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางการปกครองของราชอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันบริเวณวัดเจดีย์หลวงกลางเมืองเชียงใหม่มีสิ่งสักการะหลากหลาย ได้แก่ เจดีย์หลวง อินทขีล ต้นยาง กุมภัณฑ์ พระฤาษี ซึ่งสะท้อนพัฒนาการคติจักรวาลได้ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่แวดล้อมของเมืองชีวิต วัดเจดีย์หลวงแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต พระประจำคู่บ้านคู่เมืองของไทย

ข้อมูลอ้างอิง https://www.uhotelsresorts.com/th/uchiangmai/attractions/wat-chedi-luang

02/01/2024

บันทึกเรื่องราวของหัวหินผ่านการแสดงแสงสีเสียงในงานหัวหินถิ่นมนต์ขลัง

01/01/2024

รื่นเริงเถลิงศกในปีพุทธศักราช 2567 กับการแสดงน่ารักของนักเรียนชุมนุมนาฏศิลป์โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน

31/12/2023

สวัสดีปีใหม่ 2567
Happy New Year 2024
新年快樂

13/12/2023

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3657484677910769&id=100009478195616
ฝากร้านของน้าด้วยนะครับร้านนวดแผนไทย อยู่เขตสะพานใหม่เข้าซอยเพิมสิน 20 แยก 11 กรุงเทพมหานคร

07/10/2023

ประตูชุมพล ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ พ.ศ. 2199 อันเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา

หนึ่งใน 4 ประตูเมืองโบราณของโคราชที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นของจริงในปัจจุบัน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ พ.ศ. 2199 อันเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยาและสร้างกำแพงประตูเมืองอย่างแข็งแรง โดยมีช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบผังเมือง เมืองนครราชสีมาในขณะนั้นมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1,000 x 1,700 เมตร เดิมมีประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตู ได้แก่ ประตูพลแสนด้านทิศเหนือ ประตูพลล้านด้านทิศตะวันออก ประตูไชยณรงค์ด้านทิศใต้ และประตูชุมพลด้านทิศตะวันตก ปัจจุบันเหลือเพียงประตูชุมพลเท่านั้นที่เป็นประตูเมืองเก่า ส่วนอีกสามประตูสร้างขึ้นใหม่ ลักษณะประตูชุมพลเป็นประตูเชิงเทินก่อด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐฉาบด้วยปูน ส่วนบนเป็นหอรบ สร้างด้วยไม้แก่นหลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้า กระจังและนาคสะดุ้ง กำแพงต่อจากประตูทั้งสองข้างก่อด้วยอิฐ ส่วนบนสุดทำเป็นรูปใบเสมา กล่าวกันว่าถ้าใครได้ลอดประตู 1 ครั้ง จะได้กลับมาโคราชอีก ลอดประตู 2 ครั้ง จะได้ทำงานหรือมาอยู่โคราช ลอดประตู 3 ครั้ง จะได้คู่ครองเป็นคนโคราช ที่ตั้ง : ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา
ที่มาข้อมูล https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5

07/10/2023

อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี หรือ "ย่าโม" วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชทุกคน และถือเป็นอนุสาวรีย์ที่ยกย่องความดีของวีรสตรีสามัญชนคนแรกของประเทศ อนุสาวรีย์นี้หล่อด้วยทองแดงรมดำสูง 185 เซนติเมตร หนัก 325 กิโลกรัม ประดิษฐานอยู่บนฐานไพที สี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองสูง 250 เซนติเมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทานในท่ายืนมือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ภายในบรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโมของชาวโคราช ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้เป็นผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น "ท้าวสุรนารี" และเพราะย่าโมกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวโคราช จึงเป็นที่มาของอีกชื่อที่เรียกขานนครราชสีมาว่า "เมืองย่าโม" นั่นเอง ทุกปีในวันที่ 23 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน จะมีการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาร่วมงานอันยิ่งใหญ่ได้ ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ระหว่างถนนราชดำเนินกับถนนชุมพล อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา
ที่มาข้อมูล https://www2.nakhonratchasima.go.th/travel/detail/8