ฝ่ายรายการ สทท.ขอนแก่น

ฝ่ายรายการ สทท.ขอนแก่น ฝ่ายรายการ สทท.ขอนแก่น
Tel./Fax. 043-364595

ชายแดนไทย = ประตูสู่อาเซียน : SME พร้อมรับมือการแข่งขันในยุคที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังเปิดกว้างมากขึ้น ชายแดนไทยได้กลายเป็น ...
22/09/2025

ชายแดนไทย = ประตูสู่อาเซียน : SME พร้อมรับมือการแข่งขัน

ในยุคที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังเปิดกว้างมากขึ้น ชายแดนไทยได้กลายเป็น "ประตูทองคำ" ที่เชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาค แต่คำถามสำคัญคือ SME ไทยพร้อมหรือยังสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น? บทความนี้จะวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน ความท้าทาย และกลยุทธ์การเตรียมพร้อมของ SME การค้าชายแดนไทย

ชายแดนไทย : ตำแหน่งยุทธศาสตร์ระดับโลก
ศูนย์กลางการค้าอาเซียน
ไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอินโดจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทางทะเล ด้วยเส้นชายแดนที่ยาวกว่า 5,500 กิโลเมตร ติดกับ 4 ประเทศหลัก ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ทำให้ไทยเป็น "Hub" ธรรมชาติของการค้าภูมิภาค

จุดแข็งเชิงภูมิศาสตร์

การที่ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น ทำให้มีความเป็นอิสระทางการค้าและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจระหว่างประเทศมายาวนาน ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานที่ค่อนข้างพัฒนาและระบบการเงินที่เสถียร

วิเคราะห์ความพร้อม : SME ไทยยืนอยู่ตรงไหน ?
จุดแข็งที่มีอยู่
ความเข้าใจตลาดในภูมิภาค SME การค้าชายแดนไทยมีประสบการณ์และความเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี หลายธุรกิจดำเนินการมาหลายชั่วอายุคน และมีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

ความยืดหยุ่นในการปรับตัว เนื่องจากเป็นธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง SME สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

ต้นทุนการดำเนินงานที่แข่งขันได้ ค่าแรงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของไทยยังอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้กับประเทศอื่นในภูมิภาค

จุดอ่อนที่ต้องแก้ไข
ขาดการใช้เทคโนโลยี SME ส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีการดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการสต็อก การขาย และการสื่อสารยังมีน้อย

ความรู้ด้านกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศจำกัด กฎระเบียบการค้าในกรอบ ASEAN มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หลายธุรกิจขาดข้อมูลและความเข้าใจในเรื่องนี้

ขาดแคลนแหล่งเงินทุน การขยายธุรกิจต้องการเงินทุน แต่ SME หลายแห่งไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย หรือต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง

ทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร การขยายตลาดไปยังประเทศอื่นต้องการทักษะด้านภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเป้าหมาย ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ประกอบการไทยหลายราย

ภูมิทัศน์การแข่งขัน : ท้าทายจากทุกทิศทาง
การแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน
เวียดนาม : ผู้เล่นใหม่ที่น่าเกรงขาม เวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและกำลังขยายอิทธิพลในการค้าภูมิภาค ด้วยต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่าและนโยบายส่งเสริมการส่งออกที่เข้มแข็ง

สิงคโปร์ : ศูนย์กลางการเงินและโลจิสติกส์ แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่สิงคโปร์มีความได้เปรียบด้านระบบการเงิน เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย

จีน : ยักษ์ใหญ่ที่ขยายอิทธิพลลงใต้ โครงการ Belt and Road Initiative ของจีนกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การค้าในภูมิภาค รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อการไหลของสินค้า

การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค
การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ผู้บริโภคในอาเซียนหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น SME ที่ไม่ปรับตัวเข้าสู่ช่องทางนี้จะสูญเสียโอกาส

ความต้องการสินค้าคุณภาพสูงและยั่งยืน ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

กลยุทธ์เตรียมพร้อม : SME รับมือยังไง ?
การพัฒนาขีดความสามารถหลัก
การยกระดับด้านเทคโนโลยี

นำระบบ ERP มาใช้ในการจัดการธุรกิจ
พัฒนาเว็บไซต์และช่องทางการขายออนไลน์
ใช้ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
ลงทุนในระบบการชำระเงินดิจิทัล
การพัฒนาบุคลากร

ฝึกอบรมด้านภาษาต่างประเทศ
พัฒนาทักษะด้านการตลาดดิจิทัล
เพิ่มความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ
สร้างทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน
การสร้างความแตกต่างเชิงกลยุทธ์
การพัฒนาสินค้าและบริการที่มีเอกลักษณ์ SME ควรมุ่งเน้นการสร้างสินค้าที่มีจุดเด่นเฉพาะ ไม่ใช่การแข่งขันด้วยราคาเพียงอย่างเดียว

การสร้างแบรนด์และเรื่องราว การสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจรอบตัวสินค้าและบริการ ช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้า

การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ไม่พึ่งพาช่องทางเดียว แต่ควรมีช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์

การใช้ประโยชน์จากนโยบายรัฐ
โครงการส่งเสริม SME

ใช้สิทธิประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ ของ สสว.
เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ
ใช้บริการให้คำปรึกษาจากหน่วยงานภาครัฐ
การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี

ศึกษาสิทธิประโยชน์จาก AFTA, RCEP, CPTPP
ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีนำเข้า-ส่งออก
ใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายแรงงานที่เสรีขึ้น
โอกาสทองที่รออยู่
โครงการความเชื่อมโยงในอาเซียน
โครงการ Master Plan on ASEAN Connectivity 2025 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มโอกาสทางการค้า

โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การพัฒนา EEC เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับ SME

ตลาดใหม่ที่เติบโต
การเติบโตของชนชั้นกลางในอาเซียน จำนวนชนชั้นกลางในอาเซียนเพิ่มขึ้นจาก 190 ล้านคนในปี 2020 เป็น 350 ล้านคนในปี 2030 สร้างโอกาสการขายสินค้าและบริการใหม่

การเติบโตของอุตสาหกรรม Halal ตลาด Halal ในอาเซียนมีมูลค่ากว่า 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอแนะสำหรับ SME
เตรียมพร้อมระยะสั้น (0-1 ปี)
วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเอง
ศึกษาตลาดเป้าหมายอย่างละเอียด
ปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการ
เริ่มใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน
สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ
พัฒนาระยะกลาง (1-3 ปี)
พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์
ยกระดับทักษะพนักงาน
ขยายเครือข่ายไปยังประเทศเป้าหมาย
พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
วิสัยทัศน์ระยะยาว (3-5 ปี)
กลายเป็นผู้นำในตลาดเฉพาะกลุ่ม
ขยายไปยังตลาดนอกอาเซียน
พัฒนานวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์
สร้างเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาค
มีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรม

เทคโนโลยีดิจิทัล + การค้าชายแดน = สูตรใหม่ SME ยุค 4.0ในยุคที่เศรษฐกิจโลกหมุนไปด้วยความเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล ผู้ประกอบ...
22/09/2025

เทคโนโลยีดิจิทัล + การค้าชายแดน = สูตรใหม่ SME ยุค 4.0

ในยุคที่เศรษฐกิจโลกหมุนไปด้วยความเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของไทยจึงไม่อาจยืนอยู่กับที่ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะ SME ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเปรียบเสมือนประตูการค้าสำคัญที่เชื่อมโยงไทยเข้ากับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอาเซียน การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลกับศักยภาพของตลาดชายแดนจึงกลายเป็น “สูตรใหม่” ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุค 4.0

เทคโนโลยีดิจิทัล : กุญแจแห่งการเปลี่ยนแปลง
ปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อโปรโมตสินค้า การขายผ่านอีคอมเมิร์ซ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Big Data) ไปจนถึงการใช้ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะในการจัดการขนส่ง การมีเครื่องมือดิจิทัลช่วยให้ SME ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วและตรงจุดมากขึ้น

ชายแดน : ตลาดแห่งโอกาส
พื้นที่ชายแดนไทยมีความสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างยิ่ง ด้วยความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย ที่มีทั้งวัฒนธรรมใกล้เคียงกันและความต้องการสินค้าหลากหลาย การค้าชายแดนจึงไม่ใช่เพียงการส่งออกสินค้าเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจ การแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ และนวัตกรรมที่สอดรับกับวิถีชีวิตของผู้คนสองฝั่งชายแดน

เมื่อเทคโนโลยีบวกกับชายแดน : พลังเสริมที่ลงตัว
การนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับศักยภาพชายแดนจะสร้างพลังเสริมอย่างมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น SME ที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ขายสินค้าเกษตรท้องถิ่น สามารถขยายฐานลูกค้าจากหมู่บ้านชายแดนไปสู่ตลาดอาเซียน หรือการใช้ระบบดิจิทัลในการติดตามสต็อกสินค้า ทำให้การค้าชายแดนมีความโปร่งใส รวดเร็ว และน่าเชื่อถือมากขึ้น

ความท้าทายและการเตรียมพร้อม
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวสู่ SME ยุค 4.0 ไม่ใช่เรื่องง่าย SME ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังต้องลงทุนในความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร แต่หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากภาครัฐ ทั้งในด้านนโยบายการค้า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการ SME ไทยก็มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในเวทีการค้าชายแดนและภูมิภาคอาเซียน

วัฒนธรรมเชื่อมค้า: SME ชายแดนสร้างสรรค์ธุรกิจจากความหลากหลายพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็น “เส้นแบ่งเขตแดน” ระ...
22/09/2025

วัฒนธรรมเชื่อมค้า: SME ชายแดนสร้างสรรค์ธุรกิจจากความหลากหลาย

พื้นที่ชายแดนของประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็น “เส้นแบ่งเขตแดน” ระหว่างประเทศ แต่ยังเป็น “พื้นที่เชื่อมโยง” ที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้า ผู้คน ภาษา และวัฒนธรรม ความหลากหลายที่เกิดขึ้นบริเวณด่านการค้าชายแดนจึงกลายเป็นพลังสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เติบโตอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ มาผสมผสานกับกลยุทธ์การค้าสมัยใหม่

วัฒนธรรม : สะพานเชื่อมเศรษฐกิจ
ด่านชายแดนไทย–ลาว ไทย–กัมพูชา ไทย–เมียนมา และไทย–มาเลเซีย ต่างก็มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเฉพาะตัว เช่น อาหารพื้นถิ่น ดนตรี ภาษา ศิลปหัตถกรรม และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป การค้าชายแดนจึงไม่ได้เป็นเพียงการแลกเปลี่ยน “สินค้า” แต่ยังเป็นการแลกเปลี่ยน “เรื่องราว” และ “คุณค่า” ที่แฝงอยู่ในสินค้านั้น ๆ

ตัวอย่างเช่น ผ้าทอพื้นเมืองที่ใช้ลวดลายและเทคนิคเฉพาะถิ่น กลายเป็นสินค้าเชื่อมโยงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่สนใจความงามเชิงวัฒนธรรม หรืออาหารชายแดนที่ผสมผสานรสชาติของประเทศเพื่อนบ้าน ก็สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานเพื่อการส่งออก นี่คือการสร้างมูลค่าเพิ่มจาก “ทุนวัฒนธรรม” ที่มีอยู่แล้วในชุมชน

SME : ผู้เล่นหลักของการค้าเชิงสร้างสรรค์
SME ชายแดนเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความคล่องตัวสูง สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์การค้าและรสนิยมผู้บริโภคได้รวดเร็ว เมื่อผนวกกับจุดแข็งของพื้นที่ชายแดนที่มีการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรมอย่างเข้มข้น ก็ทำให้ SME มีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ

สินค้าเชิงวัฒนธรรม (Cultural Products) – งานหัตถกรรม เครื่องแต่งกาย ผ้าทอ เครื่องประดับ ที่สะท้อนอัตลักษณ์ชุมชน ถูกนำมาต่อยอดด้วยการออกแบบร่วมสมัย ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวและผู้ซื้อออนไลน์

ธุรกิจบริการข้ามพรมแดน (Cross-border Services) – ร้านอาหาร กาแฟ โฮมสเตย์ และทัวร์เชิงวัฒนธรรมที่ผสานประสบการณ์หลากชาติ เช่น การนำเสนออาหารไทยผสมเมียนมา หรือกิจกรรมท่องเที่ยวที่เล่าเรื่องราวร่วมของสองฝั่งชายแดน

การค้าดิจิทัล (Digital Trade) – SME รุ่นใหม่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้าและสื่อสารเรื่องราววัฒนธรรม เปิดตลาดกว้างไปยังผู้บริโภคต่างประเทศ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์

ความหลากหลาย : สูตรลับของความยั่งยืน
การผสมผสานทางวัฒนธรรมไม่ได้สร้างมูลค่าเฉพาะเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสร้างความเข้าใจ ความสัมพันธ์ และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประชาชนสองฝั่งชายแดน SME ที่หยิบเอา “ความแตกต่าง” มาสร้างเป็น “จุดขาย” จึงมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน

ยกตัวอย่างเช่น ชุมชนชายแดนที่พัฒนา “ตลาดสองภาษา” เพื่อรองรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้าน หรือการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการสองประเทศในการสร้างแบรนด์สินค้าร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ แต่ยังสร้างบรรยากาศการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในภูมิภาค

บทบาทของภาครัฐและสังคม
แม้ SME ชายแดนจะมีความสามารถในการสร้างสรรค์ แต่การสนับสนุนจากภาครัฐก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น

การพัฒนาทักษะดิจิทัล เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

การอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากรและการขนส่ง ลดต้นทุนในการค้าชายแดน

การสร้างพื้นที่ตลาดชายแดนที่สะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน

นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาและองค์กรท้องถิ่นยังสามารถมีบทบาทในการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดความรู้ เพื่อช่วย SME ปรับตัวให้เข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก โดยไม่ทิ้งรากเหง้าของวัฒนธรรม

งานแสดงและจำหน่ายสินค้า “เกษตรปลอดภัย ปี 2025” โครงการเสริมสร้างรายได้ด้วยเครือข่ายเกษตรปลอดภัย กิจกรรมย่อยที่ 3 ส่งเสริ...
22/09/2025

งานแสดงและจำหน่ายสินค้า “เกษตรปลอดภัย ปี 2025” โครงการเสริมสร้างรายได้ด้วยเครือข่ายเกษตรปลอดภัย กิจกรรมย่อยที่ 3 ส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย

ณ บริเวณริมเขื่อนสุดทางสถานีรถไฟแม่กลอง

จังหวัดสมุทรสงคราม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดตัวงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “เกษตรปลอดภัย ปี 2025”ตามโครงการเสริมสร้างรายได้ด้วยเครือข่ายเกษตรปลอดภัย กิจกรรมย่อยที่ 3 ส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย โดยมี นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชย และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงาน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://dchannelnews.com/v/3059

‘กาญจนบุรี’ จัดงาน ‘Yard OTOP Sale กาญจน์ชิลล์ดี กรีนมาร์เก็ต’ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี จัดงานโครงการส่งเสริ...
22/09/2025

‘กาญจนบุรี’ จัดงาน ‘Yard OTOP Sale กาญจน์ชิลล์ดี กรีนมาร์เก็ต’ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน

จังหวัดกาญจนบุรี จัดงานโครงการส่งเสริมการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและแรงงาน การค้าและการลงทุนทั้งในจังหวัดและระหว่างประเทศ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนา ศักยภาพด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน งานแสดงสินค้า “Yard OTOP Sale กาญจน์ชิลล์ดีกรีนมาร์เก็ต” จังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2568 เวทีสำคัญที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจฐานราก สร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการ และนำผลิตภัณฑ์ชุมชนก้าวสู่ตลาดสร้างสรรค์ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dailynews.co.th/news/5107422/

ธ.ก.ส.ปรับบทบาทสู่ “แกนกลางการเกษตร” มุ่งพัฒนาชนบทที่ยั่งยืนธ.ก.ส.พลิก ECOSYSTEM ให้เติบโต ปรับบทบาทสู่ “แกนกลางการเกษตร...
22/09/2025

ธ.ก.ส.ปรับบทบาทสู่ “แกนกลางการเกษตร” มุ่งพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน

ธ.ก.ส.พลิก ECOSYSTEM ให้เติบโต ปรับบทบาทสู่ “แกนกลางการเกษตร” ผ่าน 4 แนวทางหลัก มุ่งเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน rพร้อมเป็นองค์รวม เนื้อเดียวกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้จากเกษตรกร

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/637692

โครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัยนางสาวฐิติลักษณ์ คำพา  ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี/ประธานแม่บ้านมหาดไทย...
22/09/2025

โครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย

นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ เครือข่ายเกษตรปลอดภัยและเครือข่ายอาหารปลอดภัย เข้าร่วมโครงการ มีนางทศมนพร พุทธจันทรา พัฒนาการจังหวัดราชบุรี กล่าวรายงาน ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ตามแนวนโยบาย “สานพลังประชารัฐ” โดยมีเป้าหมาย คือ “สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพื่อประชาชนมีความสุข” ดำเนินการ 3 เรื่อง ประกอบด้วย การเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาที่ให้ความสำคัญ โดยดึงเอาพลังของ 5 ภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน มาร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนในรูปแบบประชารัฐภายใต้แนวคิด Social Enterprise (SE) และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บวกกับการพัฒนาให้ชุมชนมีความมั่นคงในกระแสของโลกในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า BCG Economy Model ซึ่งจะช่วยต่อยอดจุดแข็งของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยอาศัยกลไกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง และเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจาก “ทำมากแต่ได้น้อย” ไปสู่ “ทำน้อยแต่ได้มาก” ซึ่งคาดหวังว่ากลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อให้ธุรกิจของท่านเติบโตอย่างยั่งยืน การเพิ่มช่องทางการตลาดมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป สำหรับการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเครือข่ายเกษตรปลอดภัยและสินค้าอาหารปลอดภัย จัดขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2568 ณ โรงแรม ณ เวลา ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และเครือข่ายเกษตรปลอดภัย จำนวน 10 กลุ่ม และเครือข่ายอาหารปลอดภัย จำนวน 10 กลุ่ม รวมทั้งสิ้น 20

ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี

ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เส้นทางใหม่ของเศรษฐกิจฐานรากไทยในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน การค้าและบริการก็ถูกเป...
22/09/2025

ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เส้นทางใหม่ของเศรษฐกิจฐานรากไทย

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน การค้าและบริการก็ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เช่น E-Commerce, Social Media, และ Mobile Application ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ชุมชนและเกษตรกรไทยเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง

🔎 ทำไมดิจิทัลแพลตฟอร์มถึงสำคัญ?
เปิดตลาดใหม่
– เกษตรกรขายสินค้าได้ทั่วประเทศ ไม่จำกัดแค่ตลาดท้องถิ่น

ลดต้นทุนการตลาด
– ไม่ต้องมีหน้าร้านใหญ่ แต่ใช้ Facebook, TikTok, LINE OA เป็นช่องทางหลัก

เพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่น
– ใช้ระบบรีวิว การชำระเงินออนไลน์ และการติดตามการส่งสินค้า

เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่
– คนรุ่นใหม่ชื่นชอบสินค้าชุมชนและสินค้าสุขภาพที่หาซื้อได้ง่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์

ที่มา : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

การเงินชุมชน เสริมพลังเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงการผลิตหรือการตลาดเท่านั้น แต...
22/09/2025

การเงินชุมชน เสริมพลังเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง

การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงการผลิตหรือการตลาดเท่านั้น แต่ ระบบการเงินชุมชน ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับครัวเรือนและชุมชน

🔎 การเงินชุมชนคืออะไร?
การเงินชุมชน คือ ระบบการออม การกู้ยืม และการจัดการเงินทุนที่คนในชุมชนร่วมกันบริหาร เช่น

กองทุนหมู่บ้าน

สถาบันการเงินชุมชน

กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่ทำให้ชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง

📌 ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจฐานราก
สร้างวินัยการออม
– สมาชิกในชุมชนเรียนรู้การออมเงินและใช้จ่ายอย่างมีแผน

เข้าถึงเงินทุนง่ายขึ้น
– เกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายย่อยกู้เงินดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปลงทุนในอาชีพ

เงินหมุนเวียนในชุมชน
– รายได้ไม่ไหลออกนอกพื้นที่ แต่กลับมาสร้างประโยชน์ให้คนในชุมชน

สร้างความสามัคคี
– การบริหารกองทุนร่วมกันช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางสังคม

ที่มา : กรมการพัฒนาชุมชน

โคก หนอง นา โมเดล ทางออกเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืน“โคก หนอง นา โมเดล” เป็นแนวทางการจัดการที่ดินและน้ำตามศาสตร์พระราชา มุ่ง...
22/09/2025

โคก หนอง นา โมเดล ทางออกเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืน

“โคก หนอง นา โมเดล” เป็นแนวทางการจัดการที่ดินและน้ำตามศาสตร์พระราชา มุ่งสร้างความมั่นคงด้านอาหารและรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อยและชุมชนท้องถิ่น โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก

🔎 หลักการสำคัญของโคก หนอง นา
โคก – พื้นที่ยกสูง ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ผล และพืชผสมผสาน

หนอง – แหล่งน้ำขนาดเล็ก เก็บน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์

นา – พื้นที่ปลูกข้าวเพื่อการบริโภคและจำหน่าย

การจัดการพื้นที่ในลักษณะนี้ทำให้ชุมชนมีอาหารครบถ้วน ลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและน้ำท่วม และสร้างรายได้ต่อเนื่องจากการทำเกษตรผสมผสาน

📈 ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจฐานราก
ครัวเรือนมีอาหารเพียงพอตลอดปี

ลดต้นทุนการผลิตเพราะใช้ปุ๋ยอินทรีย์และทรัพยากรในพื้นที่

มีรายได้จากผลผลิตหลากหลาย ทั้งพืชผัก ผลไม้ ข้าว และการเลี้ยงปลา

เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านการรวมกลุ่มและวิสาหกิจชุมชน

ที่มา : กรมการพัฒนาชุมชน

สหกรณ์การเกษตร กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากไทยสหกรณ์การเกษตรถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการรวมพลังเกษตรกรไทยให้สามารถต่อรองก...
22/09/2025

สหกรณ์การเกษตร กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากไทย

สหกรณ์การเกษตรถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการรวมพลังเกษตรกรไทยให้สามารถต่อรองกับตลาดได้อย่างมีอำนาจมากขึ้น และช่วยให้เกิดการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม ไม่เพียงลดต้นทุนการผลิต แต่ยังสร้างรายได้และความมั่นคงให้เศรษฐกิจฐานราก

🔎 สหกรณ์การเกษตรคืออะไร?
สหกรณ์การเกษตร คือ การรวมตัวของเกษตรกรเพื่อทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมกัน เช่น การรวมกลุ่มซื้อปัจจัยการผลิตราคาถูก การรวบรวมผลผลิตเพื่อขายในราคาที่เหมาะสม หรือการออมและกู้ยืมเงินในระบบที่โปร่งใส

📌 ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจฐานราก
ลดต้นทุนการผลิต
– ซื้อปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ ในราคาถูกกว่าซื้อรายย่อย

เพิ่มรายได้จากการรวมผลผลิต
– เกษตรกรขายผ่านสหกรณ์ได้ราคาดีกว่าขายปลีก

สร้างระบบการเงินที่ยั่งยืน
– สหกรณ์มีบริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ

พัฒนาทักษะและองค์ความรู้
– สมาชิกได้รับการอบรมด้านการเกษตรและการจัดการ

ที่มา : กรมส่งเสริมสหกรณ์

เกษตรแปลงใหญ่ ยกระดับเกษตรกรไทย สู่เศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงปัญหาสำคัญของเกษตรกรรายย่อยคือ การผลิตแบบกระจัดกระจาย ทำให้ต้น...
22/09/2025

เกษตรแปลงใหญ่ ยกระดับเกษตรกรไทย สู่เศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง

ปัญหาสำคัญของเกษตรกรรายย่อยคือ การผลิตแบบกระจัดกระจาย ทำให้ต้นทุนสูง ขาดอำนาจต่อรอง และเข้าถึงตลาดได้ยาก “เกษตรแปลงใหญ่” จึงถูกนำมาใช้เป็นแนวทางแก้ไข โดยการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการร่วมกัน ตั้งแต่การผลิต การตลาด ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร

🔎 เกษตรแปลงใหญ่คืออะไร?
การรวมกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่เดียวกัน เพื่อผลิตพืชชนิดเดียวกันอย่างมีระบบ

ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านองค์ความรู้ เงินทุน เทคโนโลยี และการตลาด

สร้างเครือข่ายการผลิตที่มีประสิทธิภาพและแข่งขันได้

📌 ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจฐานราก
ลดต้นทุนการผลิต
– ซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ในราคาถูกจากการรวมกลุ่ม

เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
– ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรจากหน่วยงานรัฐ

เข้าถึงตลาดที่แน่นอน
– มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Contract Farming) กับภาคเอกชน

สร้างรายได้มั่นคง
– เกษตรกรมีรายได้สูงกว่าการผลิตแบบรายย่อย

ที่มา : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ที่อยู่

245/1 ถนนกลางเมือง
Khon Kaen
40000

เบอร์โทรศัพท์

+6643465775

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ฝ่ายรายการ สทท.ขอนแก่นผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ฝ่ายรายการ สทท.ขอนแก่น:

แชร์