11/07/2024
" คาดราคาทองคำอย่างได้อย่างไร "📊
ทองคำนั้นไม่เหมือนหุ้น เพราะหุ้นยังมีราคาพื้นฐานแต่ทองคำนั้นไม่มี การคาดคะเนทิศทางแนวโน้มและราคาของทองคำจึงอาจเป็นเรื่องลำบาก แต่นั่นไม่หมายความว่าการเทรดทองคำเบื้องต้นให้มีกำไรนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเรายังมีเครื่องมืออีกหลายตัวที่จะมาช่วยจับโมเมนตัมของราคาทองคำ และช่วยหาโอกาสในการเก็บส่วนต่างของราคาให้กับเทรดเดอร์ ด้วยการคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานที่จะมากระทบ และ ปัจจัยทางเทคนิคที่ทำให้คาดราคาทองคำอย่างคร่าว ๆ ได้
1. วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: ดูว่ามีข่าวหรือปัจจัยอะไรที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นหรือลงได้บ้าง
แท้จริงแล้วหากดูให้ดี ทองคำจะมีลักษณะคล้ายกับสกุลเงินมากกว่า เพราะราคาของทองคำส่วนหนึ่งอ้างอิงอยู่กับค่าเงินดอลลาร์ แต่อีกส่วนหนึ่งทองคำกลับมีพฤติกรรมราคาคล้ายกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ซึ่งหากเทรดเดอร์มือใหม่พอจะมีพื้นฐานการเทรดสินค้าสองตัวนี้มาก่อน การเทรดทองคำเบื้องต้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่หากไม่มีพื้นฐานเหล่านี้แล้วละก็ เราลองมาดูปัจจัยทางพื้นฐานกันว่ามีอะไรบ้างที่จะขับเคลื่อนราคาของทองคำให้เปลี่ยนไป จนเกิดเป็นความผันผวนและสร้างโอกาสในการเข้าทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ได้บ้าง
อย่างหนึ่งที่ต้องทราบคือทองคำมีสถานะที่สำคัญคือการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นั่นหมายความว่าเมื่อไหร่ที่นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ และรู้สึกว่าความเสี่ยงในระบบเริ่มสูงขึ้น นักลงทุนจะลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ลง และหันมาถือครองทองคำเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นปัจจัยอย่างแรกที่จะทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวก็คือ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาดเงินตลาดทุนรวมถึงการเมืองระหว่างประเทศ เช่น การเกิดสงคราม หรือ วิกฤตเศรษฐกิจ ในสถานการณ์เหล่านี้จะผลักดันราคาทองคำให้พุ่งสูงขึ้นได้
อีกสถานะหนึ่งของทองคำคือเป็นตัวรักษามูลค่า ขณะที่เงินเสื่อมมูลค่าไปได้ แต่ทองคำไม่สามารถเสื่อมมูลค่าจนเหลือศูนย์ได้ และเมื่อใดที่ค่าเงินเริ่มเสื่อมมูลค่าลง หรือกำลังเกิดเงินเฟ้อ ราคาทองคำที่เป็นสินค้าที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินจะแพงขึ้นโดยเปรียบเทียบ ดังนั้น ปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาทองคำได้ดีอย่างหนึ่งก็คือ เงินเฟ้อ เมื่อไหร่ที่เงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นตามไปด้วย
และเนื่องจากทองคำมีการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินดอลลาร์จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงได้โดยเปรียบเทียบ นั่นคือหากดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง แต่เมื่อใดที่ดอลลาร์อ่อนค่า ทองคำก็จะมีราคาแพงขึ้นเป็นต้น
ดังนั้น หากอยู่ในสถานการณ์ที่ 1) ตลาดเงินตลาดทุนมีความเสี่ยงสูง 2) เกิดเงินเฟ้อ และ 3) ดอลลาร์อ่อนค่า อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือครบทุกอย่าง ก็มีโอกาสทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นได้ และมั่นใจได้เลยว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
2. วิเคราะห์ทางเทคนิค: คาดการณ์แนวโน้มจากกราฟราคา
กราฟราคาเป็นการวิเคราะห์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งแตกต่างจากการวิเคราะห์พื้นฐานเพราะไม่ได้เป็นการพิจารณาปัจจัยที่มากระทบราคา แต่เป็นการวิเคราะห์จากปริมาณแรงซื้อขายที่เกิดขึ้นในตลาดเลยตรง ๆ จึงเป็นอีกการวิเคราะห์รูปแบบหนึ่งที่นำมาใช้คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำได้ ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็มีหลากหลายรูปแบบหลายวิธีการ และในที่นี้เราจะลองนำสองวิธีใช้กราฟเทคนิคมาประยุกต์ใช้กับการเทรดทองเบื้องต้นดังนี้
**การใช้ Dow Theory
ทฤษฎีนี้เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะเป็นแนวโน้ม และราคาจะไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่จะมีการปรับฐานเพื่อทดสอบแนวรับแนวต้านอยู่เสมอ และวิธีที่เราจะดูว่าราคาทองคำยังอยู่ในขาขึ้นก็คือ ราคาทองคำจะมีการทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) และยกจุดต่ำสุด (Higher Low) โดยที่ไม่วกกลับลงมาทำจุดต่ำที่ต่ำกว่าเดิม (Lower Low), และหากราคาทองคำกลังอยู่ในขาลง ราคาจะมีการเคลื่อนไหวแบบทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) อยู่เสมอ และจะทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ (Lower High) โดยที่จะไม่มีการปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงที่สูงกว่าจุดก่อนหน้าเด็ดขาด แต่หากไม่เข้าเงื่อนไขทั้งสองข้อ ราคาทองคำก็จะเคลื่อนไหวแบบไม่มีแนวโน้มหรือ Sideway
**การใช้ Moving Average
วิธีนี้จะเตรียมเครื่องมือเล็กน้อย คือการเซ็ต indicator Moving Agerage (5, 10, 25, 75, 200) จำนวน 5 เส้นขึ้นมา โดยเชื่อว่าหากราคาทองคำเป็นขาขึ้น การเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยจะเป็นไปในแบบที่เส้นค่าเฉลี่ยน้อยลงไปหามาก (5, 10, 25, 75, 200) แต่ถ้าเส้นค่าเฉลี่ยราคาเรียงโดยเส้นค่าเฉลี่ยมากเรียงลงไปหาน้อย (200, 75, 25, 10, 5) นั่นแสดงว่าราคากำลังอยู่ในขาลง
การที่ราคาทองคำเคลื่อนไหวแบบมีแนวโน้มทำให้การเทรดแบบมีกลยุทธ์นั้นเป็นไปได้ นั่นคือหากราคาเป็นขาขึ้น ควรอิงกลยุทธ์ในการเปิดสถานะ Long เป็นหลักเพื่อคาดหวังกำไรจากราคาในขาขึ้น เพราะราคาจะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เสมอและทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า หรือหากราคาอยู่ในขาลงก็ควรอิงกลยุทธ์การเปิดสถานะ Short เป็นหลัก เพราะราคาจะทำจุดต่ำสุดใหม่อยู่เสมอ และทำให้มีโอกาสได้กำไรมากกว่า แต่หากราคาไม่ได้เข้าเงื่อนไขที่ทำให้เห็นภาพแนวโน้มชัดเจน เทรดเดอร์อาจเลือกไม่เปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยง หรือใช้ indicator ตัวอื่นเพื่อจับการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway แทน